ทาคามิจิ คันตะ
วันนี้โคโรเน่ก็มาที่บ้านอีกแล้ว
ในบรรดาเพื่อนทั้งหมดของพี่ โคโรเน่มาที่บ้านบ่อยที่สุด วันนี้โคโรเน่เอาวุ้นโยกังที่ดูท่าทางราคาแพงมาฝาก แม้ว่าแม่จะบอกว่า “วันหลังไม่ต้องลำบากเอามาอีกนะจ๊ะ เกรงใจจังเลย โคโระจัง” โคโรเน่ก็จะบอกว่า “เผอิญที่บ้านมีคนเอามาฝากเยอะค่ะ อีกอย่างมารบกวนทุกครั้งเลย ของฝากเล็กน้อยแค่นี้ยังไงก็ขอให้รับไว้นะคะ” แล้วทั้งสองคนก็จะหัวเราะตามมารยาทกัน
ถึงโคโรเน่จะมาบ่อยแล้วก็กวาดกับข้าวจนหมดเกลี้ยง แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าน่ารำคาญซักนิด เพราะท่าทางของโคโรเน่ตอนกินดูอร่อยไปซะทุกอย่าง คนทำก็เลยพลอยปลื้มไปด้วย แต่เราไม่ได้ปลื้มอะไรไปเหมือนคนอื่น ๆ ในครอบครัวหรอกนะ ก็เพราะว่าเป็นโคโรเน่ไงล่ะ ถ้าเป็นคุณคาบุรากิคนนั้นก็ว่าไปอย่าง
วันนี้โคโรเน่มาค่อนข้างเร็ว แต่พี่ยังไม่กลับมาเพราะที่ร้านพนักงานที่ทำกะต่อจากพี่ป่วย พี่เลยต้องควบสองกะ ดังนั้นแม่เลยใช้ให้เราไปจ่ายตลาดแทน
โคโรเน่อาสาไปด้วย แต่เพราะว่าโรงเรียนของพี่มีกฎว่าห้ามปั่นจักรยาน โคโรเน่บอกว่าถ้ามีใครมาเห็นตอนปั่นจักรยานแม้จะใส่ชุดไปรเวทก็คงดูไม่ดี เราเลยต้องเดินไปตลาด โคโรเน่เดินช้าต้วมเตี้ยมทำเอาสิบห้านาทีแล้วก็ยังไม่ถึงครึ่งทาง
“ส่งมือมาสิ”
“เอ๋?”
พอโคโรเน่ทำหน้าเอ๋อ เราก็คว้ามือโคโรเน่ไปจับแล้วลากเพื่อเพิ่มสปีด แรก ๆ โคโรเน่เกือบล้มทำใส่เราเพราะขาพันกัน พวกคุณหนูนี่บางทีก็ยุ่งยากแฮะ รอบตัวเรามีแต่ผู้หญิงห้าว ๆ เหมือนพี่ จะหาคนปวกเปียกเป็นพุดดิ้งน้ำเต้าหู้เหมือนโคโรเน่น่ะไม่มีซักคน
พอเดินไปถึงย่านการค้า เราก็หันไปดูโคโรเน่กลัวว่าจะเป็นลมหรืออะไรเหมือนในละครไปซะก่อน แต่โคโรเน่อมยิ้มกรุ้มกริ่มท่าทางน่าขยะแขยง เราเลยรีบปล่อยมือ แต่พอปล่อยมือแล้วเดินไปร้านผัก โคโรเน่กลับหายไปซะงั้น ที่แท้เดินตามไม่ทันเรา เพราะงั้นเวลาจะเดินไปไหนเลยต้องลำบากเราจูงมือพาไปด้วย เป็นภาระยิ่งกว่านัตสึมิซะอีก
ตอนอยู่ที่แผงขายผักโคโรเน่พยายามจะแนะนำเราให้ซื้อผักทำไปเมนูประหลาด ๆ ที่ไม่ได้ว่าคิดได้ยังไง เราเลยดุไปว่าถึงจะเป็นอาหารที่ไม่ได้เคร่งครัดเหมือนขนม แต่ก็ไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงสูตรมากขนาดนั้น อีกอย่างแกงกะหรี่ที่เอาเกรฟฟรุตไปเป็นรสแฝงนี่มันประหลาดเกินไปแล้ว เกรฟฟรุตมันเปรี้ยวนะโคโรเน่ เธออยากกินแกงกะหรี่เปรี้ยว ๆ รึยังไง