มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาจากทางเดิน สวนกับกลุ่มของฉันพอดี ฉันได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับเธอคนนั้นมาเยอะพอสมควร แต่ยังไม่มีโอกาสได้พบซักที
ผู้หญิงคนนั้นชื่อคิโชวอิน เรย์กะ
ผมม้วนลอนที่เป็นเอกลักษณ์ ใบหน้าเหมือนตุ๊กตา กริยามารยาทนุ่มนวลอ่อนหวานสมเป็นคุณหนู เป็นเหมือนบอสฝั่งผู้หญิง แบบเดียวกับท่านคาบุรากิที่เป็นบอสฝั่งผู้ชาย
ฉันจ้องยัยคนนั้น เนี่ยนะ บอสฝั่งผู้หญิง ไม่เห็นจะมีรัศมีน่าเกรงขามตรงไหน
เหมือนจะรู้ว่าถูกฉันจ้อง เพราะคิโชวอิน เรย์กะก็หันมา มองอยู่แค่แว้บเดียวแล้วก็เดินต่อไปไม่สนใจ
เฮอะ ไม่สบอารมณ์เลย
ท่าทางแบบนั้น สูงส่งมาจากไหนมิทราบยะ
กลุ่มของฉันก็พูดถึงเรื่องนี้พอดี ดูเหมือนว่าคิโชวอิน เรย์กะ รู้จักกับท่านคาบุรากิมาตั้งแต่สมัยประถมแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นอีกคนที่กระแซะเข้าใกล้ท่านคาบุรากิเหมือนกัน แถมยังภาษีดีกว่าตรงที่เป็น Pivoine ด้วยกัน ย่อมได้ใกล้ชิดมากกว่าอยู่แล้ว
พอได้รู้แบบนี้ก็ยิ่งไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่
.
.
.
วันเวลาผ่านไป ทางฉันไม่มีอะไรคืบหน้ากับจักรพรรดิ แต่ก็ได้ข่าวว่าคิโชวอิน เรย์กะก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเหมือนกัน จะนับว่าเสมอกันได้สินะ
งานกีฬาสีที่มาถึง ฉันตั้งใจว่าจะแสดงฝีมือให้ท่านคาบุรากิเห็นความมุ่งมั่นพยายามของฉันสักหน่อย แต่กลับต้องมาสะดุดเพราะยัยผู้หญิงไม่ได้เรื่องคนหนึ่งในห้อง รู้สึกจะชื่อโมชิดะล่ะมั้ง
ทั้งที่ทุกคนพยายามซ้อมกันแทบตาย ยัยนั่นก็ทำพังภายในไม่กี่วินาที ต้องตกรอบไปแบบอภัยให้ไม่ได้เลยล่ะ แถมพอวิ่งสามขาก็พาคู่วิ่งที่เป็นเพื่อนของฉันล้มไปด้วยอีก พอคิดขึ้นมาทีไรก็หงุดหงิดทุกที
ตอนนี้ทั้งห้องไม่มีใครคุยกับยัยนั่นเลย สมน้ำหน้า
แต่ไม่นานนัก ฉันก็ได้เห็นคิโชวอิน เรย์กะเอ่ยทักทายยัยโมชิดะนั่นแบบสนิทสนม
คิโชวอิน เรย์กะคนนั้นเนี่ยนะ
ผู้หญิงที่อยู่ในจุดสูงสุดของโรงเรียน เกิดนึกอยากชะโงกหน้ามองปากเหวรึยังไง ถึงได้ลดตัวลงมาพูดคุยกับยัยโมชิดะที่อยู่ในสถานะต่ำสุด ช่างดูเหลือเชื่อ
ได้ข่าวมาว่ายัยโมชิดะช่วยทำแผลให้คิโชวอินในห้องพยาบาลก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้พูดคุยสินะ
ก็รู้จักเข้าหา ประจบประแจงคนมีอำนาจเป็นเหมือนกันนี่นา
หรืออีกนัยหนึ่ง คิโชวอิน เรย์กะอยากจะหาเรื่องกัน รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้ฉันเกลียดขี้หน้ายัยโมชิดะอยู่ ก็เลยให้ความช่วยเหลือศัตรูเป็นการกวนประสาท แถมยังได้คะแนนชื่นชมจากคนรอบข้างให้ดูเป็นคนดีอีกต่างหาก น่าหมั่นไส้ชะมัด
ยัยนี่ นึกจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับฉันแบบเต็มตัวอย่างนั้นเหรอ
ตอนที่นึกอยู่นั้น ฉันก็เดินสวนกับคิโชวอิน เรย์กะและกลุ่มผู้ติดตามเข้าให้พอดี
ฉันจ้องมอง และคิโชวอินคนนั้นก็มองตอบ เราเดินผ่านกันไปเงียบๆ ไม่ได้หยุดพูดคุยอะไรกัน
ถึงจะน่าเจ็บใจ แต่กลุ่มของยัยนั่นคือกลุ่มที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของม.หนึ่งในเวลานี้ ฉันยังเอาชนะไม่ได้ ทุกคนในกลุ่มก็รู้เรื่องนี้ ก็ได้แต่บ่นออกมา ฉันเลยปรามทุกคนให้ใจเย็นลง เอาเวลาไปสร้างเสริมกำลังพลจะดีกว่า หากฝ่ายนั้นต้องการมีเรื่องก็พร้อมรบเสมอ
คิโชวอิน เรย์กะ พออยู่เดี่ยวๆแล้วก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ ที่น่ากลัวน่ะลูกสมุนมารายล้อมต่างหาก
ถึงจะมั่นใจในตัวเองแค่ไหน แต่แว้บหนึ่ง ฉันก็เกิดนึกขึ้นมา จะเอาชนะได้จริงๆน่ะเหรอ
เหนือสิ่งอื่นใด ฉันไม่เคยลืมแววตาที่เธอจ้องมองมาเลยสักนิด
ใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตา ดูเฉยชาไร้อารมณ์แบบท่านคาบุรากิ มองลงมาจากที่สูง ราวกับจะบอกฉันว่าเธอน่ะไร้ความหมาย ไม่อยู่ในสายตา
ไม่มีค่าใดๆพอให้ใส่ใจหรือหันไปเหลือบแลเลยแม้แต่นิดเดียว
----------------------------------------------------------
จุดยากที่สุดในเรื่องนี้คือต้องเขียนชมคาบุรากินี่ล่ะ
ต้องไปดมกาวจากมุมมองคนอื่นที่ไม่ใช่ท่านเรย์กะถึงจะได้ซึมซับความหล่ออีตานี่มาแล้วเขียน