ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : อลวนรักยัยนักหักธงตัวร้ายกับนายเนื้อคู่ปริศนาตัวดี
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : อลวนรักยัยนักหักธงตัวร้ายกับนายเนื้อคู่ปริศนาตัวดี
>>834 กูว่าฮีรู้นะว่าวาคาบะโดนแกล้ง ตอนเสนอตัวรับตำแหน่งยังพูดเลยว่ามีคนไม่ชอบวาคาบะอยู่มาก แต่ยังจับไม่ได้คาหน้งคาเขาและไม่รู้ว่าโดนยังไง พอมาเจอเองก็เดือดตามนั้นนั่นล่ะ หรือไม่ก็โง่มาก ทื่อมาก ไม่ละเอียดอ่อนกับเรื่องพวกนี้มาก คิดว่าความรู้สึกของเราสองคนรักกันก็แฮปปี้ฟอร์เอเวอร์ทูเกตเตอร์แล้ว คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่สน ไม่แคร์ แต่จะนิยามว่าคาบุเป็นสตอล์กเกอร์เพราะแค่ไปดักรอกลับบ้านหรือไปโรงเรียนพร้อมกันกูว่าไม่ใช่ว่ะ สตอล์กเกอร์ตัวจริงนั้น....//ผายมือไปยังคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ติดตามเป้าหมายไม่ให้รู้ตัว สอดส่องทุกเรื่องไม่ให้พลาด รู้จนแทบไปสิงร่างเขาได้ก็คงทำ
>>846 สตอล์กเกอร์นี่น่าจะหมายถึงตั้งแต่ยูริเอะแล้วด้วยอะ เรย์กะเองยังมีหลอนกับระดับความจิตของเด็กน้อยในตอนนั้น 555 ที่รู้ว่าวาคาบะโดนแกล้งนี่ก็ตอนเรย์กะเดินไปบอกเองโต้งๆอีกตะหาก มีความแบบอะไรของมึงเนี่ยนิดนึง ถ้าเรย์กะไม่บอกคือไม่รู้ นี่ชอบเค้าประสาอะไรฟระ แถมขนาดรู้แล้วก็ไม่พยายามทำอะไร แบบต่อให้ไม่รู้ว่าใครทำ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะสืบยาก หรือทำยังไง โดนแกล้งอะไรบ้าง สนใจหน่อยก็รู้ได้ละ มีความรู้สึกเซ็งกับนางมาก ทำหน้าเหม็นเบื่อ /เบะปากใส่ ไม่ได้เรื่องเลย
น่าจะรู้แค่ว่ามีคนไม่ชอบวาคาบะ แต่เรื่องแกล้งกันไม่รู้
คิดว่าสังคมคาบุไม่น่าจะเคยสัมผัสเรื่องการกลั่นแกล้งกันไรพวกนี้หรอก ขนาดแค่เรย์กะองค์ลงใส่ซึรุฮานะยังทำหน้าตารังเกียจจะตาย ตัวเองตอนยูริเอะก็ไม่เห็นมีอะไร(ก็แหงซิ!) เลยไม่คาดคิดว่าวาคาบะจะถึงขั้นโดนแกล้งขนาดนี้
(ทึ่มทื่อแบบพระเอกละครไทยชะมัด)
>>847 ก็นั่นแล้ ที่กูบอกว่าจะนิยามฮีว่าเป็นสตอล์กเกอร์ เห็นทีจะไม่ใช่ว่ะ อย่างคาบุมันก็เป็นได้แค่เด็กน้อยที่คอยไปตื๊อๆให้เขารำคาญแบบแมงวันแมงหวี่เท่านั้นล่ะ แต่ความเป็นสตอล์กเกอร์ยังห่างไกลหลายขุม
คาบุมันเอาตัวเองเป็นที่ตั้งเกินไป ตอนยูริเอะก็ไม่ได้พยายามเข้าใจเขาหรอก ต้องให้ถูกโกรธก่อนถึงจะใช้เรย์กะไปสืบ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าโกรธทำไม คือฮีไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดด้วยซ้ำ พอมาวาคาบะก็ซ้ำรอยเดิมเข้าไปอีก ไม่ได้คิดว่าต้นเหตุมาจากตัวเองด้วยซ้ำ
กรณีเรย์กะต้องไปปะฉะดะกับซึรุฮานะก็เหมือนกัน แค่กูไม่สนว่าอีนี่จะมาวอแวอะไรรอบๆ กูก็อยู่ของกูแบบนี้ ลอยตัวเหนือปัญหาจย้าาา ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุแม้แต่นิดเดียว ต้องให้เรย์กะไปตบเกรียนถึงที่ถึงจะมีสำนึกขึ้นมานิดนึง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าผิดอะไรมากมายอยู่ดี
อ่านแล้วรู้สึกผู้ชายเรื่องนี้นอกจากท่านพี่แล้วพึ่งพาไรไม่ได้ ไปเถอะสาวๆลงเรือยูริกัน...
>>849 ถึงได้เคยมีคนบอกว่าที่คาบุเข้าใจว่าตัวเองชอบเค้า ที่จริงอาจจะไม่ใช่รึเปล่า แบบถ้าชอบมันจะต้องใส่ใจ แคร์ความรู้สึก คือต้องสนอยู่แล้วว่าเค้าจะคิดยังไง อันนี้โอมั้ย แบบนี้จะไม่โอรึเปล่า สนใจชีวิตความเป็นอยู่เค้าว่ายังสบายดีปกติทุกประการ ถ้าชอบมีแต่จะกังวลๆคิดอะไรล่วงหน้าไปเยอะด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่มักกังวลอะไรทางลบ มันคือกลไกสมองและเรื่องระบบประสาทเลย อะไรที่เรารู้สึกสำคัญมากๆจะชอบจินตนาการความเป็นไปได้ทางลบ เพราะมันคือการป้องกันตัว แบบป้องกันทุกความเป็นไปได้ที่อาจเกิด ขนาดความทรงจำยังจำเรื่องไม่ดีแม่นกว่าเลย เพราะจำเป็นกับการเอาชีวิตรอดมากกว่า แบบเบสิคสมองเลยอะ ไอแบบไม่คิดเลย ไม่กังวล คิดว่าทุกอย่างโอเคแน่นวล ไม่ได้สนใจความรู้สึกอีกฝ่ายเท่าไหร่ จะตอนยูริเอะจะวาคาบะก็ไม่ต่าง มาแนวชั้นจะทำยังงั้นยังงี้ ชั้นอยากไปส่ง คือเอาตัวเองเป็นหลักแล้วพยายามไปควบคุมอีกฝ่ายให้ไปตามความต้องการของตัวเอง ดูยังไงก็แบบ เอ๊ะ ใช่หรา ชอบของมันนี่ความหมายเป็นยังไงฟระ อีกฝ่ายต้องได้ดั่งใจเรอะ
จะว่าเป็นคนไม่ใส่ใจอะไรคนอื่นเลยก็ไม่ใช่นะ ทีตอนจะเป็นประธาน pivoine ยังคิดเผื่อไปได้ว่าเรย์กะจะไม่พอใจรึเปล่า เผื่อเรย์กะจะเล็งเอาไว้อยู่ แล้วทำไมสถานการณ์อื่นโดยเฉพาะกับคนที่ชอบถึงไม่มีคิดเผื่ออะไรเลยวะ ดูแบบค่อนข้างไปทางครอบงำ ลากๆๆจับยัดใส่รถ คือไม่ใช่ตุ๊กตานะเว่ย แล้วตอนยูริเอะกับวาคาบะก็แนวลากไปยัดใส่รถทั้งคู่ คืออัลไลลลล แล้วแบบไม่ฟังเสียงไม่ฟังความเห็นอีกฝ่าย
กับตอนยูริเอะไม่ใช่ไม่มีปัญหานะ คือไม่ได้โดนแกล้งก็จริงแต่ก็มีเรื่องคนมารบกวน ก็ไล่ตะเพิดกระจุยกระจายหมด ยังดูแบบมีรีแอคชั่นอะไรนิดนึง นี่คือเงียบกริบเป็นเป่าสาก นิ่งสนิทททท กูอ่านแล้วจับสังเกตเรื่องคาบุวาคาบะมากเพราะกูตงิดใจตั้งแต่ในมังงะคิมิดอลที่เคยพูดถึงละด้วย ที่สุดท้ายเหมือนความรู้สึกต่อวาคาบะคือยังเทียบยูริเอะไม่ได้ ยิ่งพอไม่มีตัวร้ายมากระตุ้นยิ่งนิ่งเข้าไปอีก จนแบบในมังงะที่ชอบเพราะคอยปกป้องจนชินด้วยรึเปล่าฟระ เพราะคนชอบกันจริงๆจะไปพูดอะไรแบบตอนร่ำลายูริเอะได้ไงอะ แถมพูดต่อหน้าอีก คือผงะมากสำหรับกู จนมีคนบอกว่าเอ๊ะ คาบุมันเข้าใจจริงๆใช่มั้ยว่าชอบคืออะไร เท่านั้นแหละจ้าาาา รู้สึกกระตุกเฮ้ยทันที
>>850 ท่านพี่ อิส เดอะ เบสต์~~~~ ตลอดกาลลล
มีใครรู้สึกเหมือนกูมั้ยว่าพอยุยโกะออกทีไรมันก็มีเรื่องทำให้ความสัมพันธ์ตัวละครเปลี่ยนไปทุกที.. แบบจะว่าไงดี เรื่องเข้มข้นขึ้นปะ?
>>848 ตอนซึรุฮานะจากที่อ่านนี่เดาว่ารังเกียจเพราะเอาอำนาจทางบ้านมาข่มขู่ว่ะ เพราะคนอื่นในโรงเรียนมีปัญหาอะไรกันคือไม่เห็นคาบุจะมายุ่งอะไรเลยนะ แบบถ้าเรย์กะไปข่มด้วยตัวของตัวเองก็อาจจะไม่อะไร แต่พอเอาที่บ้านมาขู่ และพูดแบบจะเดือดร้อนไปถึงที่บ้านซึรุฮานะด้วย อันนี้เริ่มดูใช้อิทธิพลทางไม่ดีละ ถึงที่จริงเวลาเค้าเกรงใจคนใน pivoine กัน ควมถึงตัวคาบุเองด้วย ส่วนนึงจะกก.ทางบ้านด้วยก็เหอะ แต่ก็ไม่ได้มีเอามาใช้กันโต้งๆอะ เด็กทะเลาะกันแต่จะให้เดือดร้อนไปถึงพ่อแม่ครอบครัว คาบุที่มาแนวทื่อๆตรงๆคงไม่ชอบอันนี้มากกว่า คงไม่รู้ด้วยว่าอย่างเรย์กะก็ขู่ไปงั้นแหละะะะ
>>851 อ่านแล้วเพ่งเล็งประเด็นเดียวกับกูเลยอะ ตรงฉากบอกลายูริเอะ ความสัมพันธ์สามคนนี้ในมังงะมีความโชโจมากกก คือชอบมีอะไรคลุมเครือให้นางเอกบ้านๆรู้สึกไม่มั่นคงกับพระเอกไฮโซ และคนทีาพระเอกเคยชอบ ประเด็นปวดตับอมตะมากกก อ่านแล้วก็สงสัยเหมือนกันว่าสุดท้ายก็คือชอบยูริเอะใช่มั้ย แค่ว่าเค้าไม่เอา แต่ถ้ายูริเอะเลือกจะกลับมานี่โผไปหาทันทีเลยรึเปล่าเนี่ย พูดมาซะขนาดนั้น
>>855 เสริมว่าในนิยายตอนนี้เรื่องยูริเอะดูจะจบแบบจบสนิทไปมากกว่าในมังงะด้วยอะ ที่ในมังงะเป็นฉากเฮิร์ทระเบิดอารมณ์ แล้ววาคาบะไปปลอบ จากนั้นก็เริ่มสนใจวาคาบะ แต่สุดท้ายก็ยังมีไอฉากบอกลานั่น... รู้สึกเหมือนมันไม่ใช่การจบปัญหายูริเอะสลัดรักที่จบจริงๆ มันยืดเยื้อ
แต่ในนิยายคือดูจบจริงๆ และจบที่เรย์กะอกหักโชว์ แถมยังทำใจยอมรับแล้วร่วมอวยพร โชว์ความแข็งแกร่งมากต่อให้เป็นเรื่องที่คาบุเข้าใจไปเอง 555 มันดูแบบคนอื่นเค้าก็ผ่านมันไปได้ คนอื่นก็เจอเรื่องแบบนี้ แล้วมันดูจบปัญหามากกว่า แถมประโยคในตอนบอกลายูริเอะก็พูดไปละในตอนเต้นรำ แถมความรู้สึกอัดแน่น พิเศษจนแค่เธอขอก็จะไปทันที มันไม่มีประโยคนั้นละ แบบดูจบจริงๆ
กูชอบคนสไตล์เอ็นโจนะ คือ รู้แต่ไม่สนใจจะยุ่ง อารมณ์แบบถ้าไม่ใช่เรื่องคนที่ตัวเองแคร์ถ้าช่วยผิวๆก็ได้ แต่ให้โดดลงไปกลางวงแบบฮีโร่นี่ไม่เอา เรย์กะกับเอ็นโจก็พอกันในจุดนี้ล่ะ ช่วยเงียบๆบางครั้งอ่ะ อย่าไกล่เกลี่ยนี่กูก็ถือเป็นการช่วยอย่างนึงนะ ถ้าไม่ไกล่เกลี่ยนี่โรงเรียนแตกแน่มึง 555 จริงเอ็นโจน่าจะไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเท่าไหร่ แค่เสือกเรื่องคนอื่นเฉยๆ น่าจะมีแคาคาบุกับเรย์กะมั้งที่น่าจะยุ่งสุด ไม่งั้นยุยโกะคงไม่พยายามมาแสดงจุดยืนหรอก
>>851 ชอบก็คือชอบ แต่ก็เป็นไปในลักษณะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งอยู่ดีน่ะ ก็มาแนวพระเอกโชโจบ้านรวย มีอำนาจ
เคยชินกับการออกคำสั่งและพยายามควบคุมนางเอกหัวอ่อนให้คล้อยตามนั่นล่ะกูว่า ไม่ได้มองว่าเขาเท่าเทียมกับตัวเองหรือมีหัวจิตหัวใจอะไร
เรื่องยูริเอะ นางเป็นคนดังน่ะ คนมาจีบคือเรื่องใหญ่พอสมควร ฮีรู้ข่าวก็บึ่งไปอาละวาดทันที แต่วาคาบะทุกคนปิดข่าว วาคาบะก็ไม่เล่าอะไร ฮีไม่รู้อะไรเลย ทั้งทึ่มและโง่สุดๆ
ส่วนเรย์กะ...กูมองว่ามันมีหลายปัจจัยว่ะ เรย์กะอยู่ในฐานะเท่าเทียมกับฮี ไม่ใช่พวกที่จะบังคับคอนโทรลได้ คิดว่าเรย์กะอาจจะอยากได้ตำแหน่งแล้วไปแย่งมา ถ้ามีปัญหาตามมาอีกมันจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่ ก็ถามซะให้แน่ใจว่าถ้าจะเอาตำแหน่งไปจะมีปัญหามั้ย เหมือนที่ถามทุกคนในสโมสรนั่นล่ะว่าเป็นผมนี่ติดขัดอะไรงั้นเหรอ มาแนว กุจะเอา ใครข้องใจหรือมีปัญหาก็เชิญออกมาเคลียร์ได้
>>857 จริงๆเรื่องวาคาบะกับเรื่องคาบุทะเลาะกับโยโกะซังก็เรื่องเดียวๆกันอยู่นะ คือแบบมันเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องไปที่คาบุอะ ถ้าเคยรู้มาก่อนหน้านี้อาจจะไปวี๊ดทะลุปรอท จริตแตกแบบในเรื่องจนมาคุกับโยโกะซัง คือเหมือนมันมีทางป้องกันหรือแก้ได้แต่บอกไป ไม่ได้ต้องออกหน้าอะไรเองเลยอะ แค่เล่าเงี้ย คู่นี้ชอบทำปัญหาคาราคาซังพอกันจริงๆ
แต่เอาจริงเรื่องนิสัยนี่มีปัญหากันหมดจริงว่ะ คาบุในมังงะกูให้เลยเน้นๆตัวโตๆ ว่าลังเล กับดูความรู้สึกมันไม่หนักแน่นมั่นคง คาบุปจบ.กับเอ็นโจปจบ.ก็นิสัยมีปัญหาเห็นชัดๆกันอยู่
นี่เหมือนอ่านมาหลายๆคนเริ่มโดนกล่อมด้วยประเด็นผู้ชายในเรื่องนิสัยแย่ โฮวววววว จะมีใครเหมาะกับเรย์กะม่างงงง ;A;
ถ้าสมมติว่า เรย์กะเป็นประธาน Pivoine แล้วเจอเหตุการณ์ในตอนแปลล่าสุดนี่ เรย์กะจะทำยังไงวะ...
>>858 คนมารบกวนนี่กูหมายถึงพวกผู้หญิงนะ ที่คอยไล่ไปหมดเป็นระยะ ตวาดใส่ก็เคย คือต้องรู้อยู่แล้วมั้ยอะว่าตัวเองป๊อบขนาดนี้ ขยับไปทางไหนผู้หญิงต้องมีมายุ่ง กับยูริเอะยังเจอแก๊งชะนีมาป้วนเปี้ยนเลยแล้ววาคาบะจะไม่โดนได้ไง
ส่วนถ้าเรย์กะฐานะเท่ากัน แล้วยูริเอะนี่ไม่เท่ากันหรอมึง รู้จักกันแต่เด็กคือทางบ้านคงใกล้ชิดกันอีกตะหาก แบบมันก็ไม่ใช่ประเด็นเรื่องสถานะล้วนๆอะ อาจจะปนบุคลิกหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ก็แบบไม่ค่อยให้เกียรติยูริเอะเลยอยู่ดี อย่างน้อยฟังกันบ้างนี่แบบลากยัดเข้ารถไม่ต่างจากเคสวาคาบะ ส่วนถามว่ามีใครขัดข้องมั้ยตอนเลือกนี่ต้องถามอยู่แล้วอะ เพราะจริงๆมันต้องโหวตเลือกกัน อย่างเรย์กะคือเป็นแคนดิเดทที่โยโกะซังจะเสนอชื่อ แบบเป็นคนที่เลือกมาแนะนำให้เฉยๆ มันต้องโหวตด้วยสมาชิกอยู่ดี แต่คาบุนี่มาแบบมึงไม่โหวตเลยจ้าาาา ก็เลยถามไปแบบนั้น บังคับกรายๆอยู่ดี
เพิ่งกลับเข้ามาอีกรอบหลัง ถึงได้รู้ว่าโม่งแปลกลับมาแปลต่อแล้ว ดีใจจริงๆว่ะ มีไรอยากบอกโม่งแปลสักหน่อยด้วย เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้โพสต์ไรเลย ไม่ค่อยว่างน่ะ
ถึงโม่งแปล
กูดีใจนะที่มึงกลับมาแปลให้อ่านต่อ ภาษามึงดีอ่านสนุกจริงๆ มีเสน่ห์มาก กูทำงานแปลหาเลี้ยงชีพ แต่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น อ่านแล้วยังคิดเลยว่าภาษาตัวเองจะดี อ่านแล้วได้อารมณ์เท่าของมึงหรือเปล่า ถ้าต้องมาแปลเรื่องแนวเดียวกัน เข้าใจว่ะเรื่องที่ไม่สบายใจกับการแปลแบบไม่มี lc อยากบอกว่าทำตามที่สบายใจเถอะนะ (แต่แปลให้กูอ่านต่อจนจบได้จะเป็นพระคุณมาก ฮ่าๆๆ) ขอบคุณมากๆเลยที่สละเวลาและความเหนื่อยยากมาแปลให้อ่าน
>>863 ก็เรย์กะฐานะเท่ากัน ในความหมายของกูคือ คนที่มีอะไรเท่าเทียม เทียบเคียงกันได้ เหมือนเอ็นโจน่ะ เป็นคนที่มันให้การยอมรับ นอกนั้นไม่อยู่ในสายตาเลยมั้ง
แต่กับคนที่คาบุมันชอบ มันจะตีค่าเขาเป็นรองตัวเองตลอด ตั้งแต่ยูริเอะแล้ว ออกแนว ฉันคิดว่าดีก็คือดี เธอทำตามฉันซะห้ามมีปากมีเสียง แล้วเรื่องสาวมากรี๊ดๆมัน มันก็รู้ แต่ก็แล้วไงใครแคร์ กูไม่สน อยากกรี๊ดก็กรี๊ดไป ไม่มีความสำคัญไม่มีค่าให้ใส่ใจ ครบสูตรพระเอกโชโจมังงะเลยนะ หล่อ รวย ป็อบสุดในโรงเรียน ซื่อบื้อ ไม่เห็นหัวใคร คลั่งรักนางเอก เอ็นโจก็ครบสูตรเพื่อนพระเอกเหมือนกัน
ถ้าเรย์กะคบกับสองคนนี้ไม่คนใดก็คนหนึ่งนี่ต้องอึดอัดแน่ๆ คบกับคาบุก็คงรำคาญความเอาแต่ใจ คบกับเอ็นโจก็โดนรู้ทันตลอด แต่ก็ไม่แน่อาจจะสวีทหวานก็ได้55555555
>>867 ถึงได้บอกสงสัยว่านี่มันชอบจริงๆรึป่าวไง ถ้าพูดอีกอย่างคือคาบุมันเข้าใจคำว่าชอบว่ารักจริงๆรึป่าวว่าต้องเป็นความรู้สึกแบบไหน เพราะไอแนวจับเค้ามาอยู่ข้างๆแต่สมองไม่ต้องมา ปากเสียงไม่ต้องมี คือมันแทบจะพอๆกับไปหาตุ๊กตาแปะหน้าไปก็พอ ไม่ได้สนอะไรที่เป็นตัวตนอีกฝ่ายเลยอะ แค่ไม่ฟังนี่ก็จะรู้จักกันดีขึ้นได้ยังไง คือในโชโจมังงะมันได้ไง แต่ความเป็นจริงคือแบบไม่มีทางงงงง และในนิยายก็เหมือนเล่นประเด็นหลายเรื่องที่ชี้ไปที่จุดอ่อนความเป็นมังงะ ที่ชีวิตจริงมีหลายๆอย่างไม่ตรง และมันดูเรียลขึ้น คือเหมือนตอนนี้ที่เรย์กะอยู่ก็โลกเรียลๆที่ไม่โชโจอะ กูเลยเพ่งเล็งประเด็นคาบุวาคาบะอยู่ดี ว่าแบบถ้าไม่เปลี่ยนท่าทีและทัศนคติต่อกันซักวัน ยังไงก็ไม่รู้สึกว่านี่คือชอบ หรือไม่ก็คงต้องมีคนอื่นที่โผล่มาเป็นตัวเปรียบเทียบเรื่องความใส่ใจหน่อยถึงจะรู้ตัวว่ามันใช่ความชอบหรือไม่ใช่กันแน่ ยังไม่นับรวมประเด็นว่าถ้าสองคนนี้ต้องคู่กันเพราะเป็นปมสืบเนื่องมาจากมังงะว่าลงเอยเข้าคู่ แต่มังงะก็มีประเด็นยูริเอะตามที่บอก ที่ดูชอบวาคาบะไม่เท่ายูริเอะ คือก็เหมือนถ้าเซตติ้งคงที่จบแบบเดิม ผลลัพธ์คือความรู้สึกต่อวาคาบะน้อยกว่ายูริเอะ แต่ตอนนี้ก็อะไรสารพัดมันเปลี่ยนหมดแล้วอะ เหมือนถ้าเป็นบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค นี่มันคงมีเรื่องรอให้เอฟเฟคโคตรเยอะ มันไม่น่าเป็นแบบเดิมละ และที่จริงแบบเดิมก็ดูไม่ใช่บทสรุปแฮปปี้ด้วยในสายตากู แบบดูหน่วงไงไม่รู้
ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายคนขึ้นคานอาจจะคาบุก็ได้นะ 5555 ถ้าแบบไม่รู้จักความชอบความรัก และไม่เข้าใจอะไรใครเท่าไหร่แบบนี้ คานรอมึงอยู่เลยถ้าเป็นเรื่องชีวิตจริงหน่อย ถ้าแต่งก็แต่งทางธุรกิจมากกว่า แต่ทั้งนี้ในเรื่องคือมีจุดเปลี่ยนจากมังงะเยอะจนกูไม่คิดว่าคาบุกับวาคาบะจะเป็นคู่จบแบบเดิมอะ
>>863 กูว่าคาบุน่าจะชอบจริงอยู่นะ โครงเรื่องเดิมคือวาคาบะปลอบใจรึเปล่านะกูไม่แน่ใจ แต่ในนิยายเจอกันตอนรถชนซึ่งเรย์กะแปลกใจแสดงว่าไม่น่าอยู่ในมังงะ บางทีคาบุคงสนใจในตัววาคาบะจริงแล้วค่อยๆชอบมั้ง ส่วนเรื่องนิสัยเผด็จการนี่ จากการเลี้ยงดูมากกว่า ไอ้พวกมาตรฐานสูงนี่จากการใช้ชีวิตอ่ะ เนื้อเรื่องน่าจะค่อยๆปูให้ปรับจูนกัน จริงๆจะให้คาบุลดมาตรฐานตัวเองฝ่ายเดียวคงไม่ได้ น่าจะต้องปรับกันหมด ถ้าเอาความคิดวาคาบะมากับชนชั้นสูงคงโดนดูถูกเหมือนกัน
>>870 ในเรื่องมันก็ไม่ได้บอกนะว่าคาบุมันรักวาคาบะน้อยกว่ายูริเอะ ไอ้เรื่องที่วาคาบะคิดว่าเขายังรักยูริเอะอยู่ กูมองว่าเป็นปมให้แก้ความเข้าใจผิดตามการ์ตูนโชโจนั่นล่ะ ถ้าแก้ปมนี้ได้ ความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นมากขึ้น ตามสูตรโชโจ
แต่ความรักคาบุในมังงะเนี่ย เอาตามมาตรฐานโชโจก็...ยูริเอะคือความผูกพัน เป็นสายใยที่ตัดไม่ขาด ส่วนวาคาบะคือความรัก พอมาเป็นนิยายก็ไม่รู้จะเปลี่ยนไปทางไหน บอกยาก ถ้าคาบุมันยังไม่เลิกนิสัยเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง มันได้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านคานทองสาขาสองแน่ๆ
ผู้ชายที่นิสัยดีๆและยังว่างมีอยู่นะเฮ้ย อาริมะไง แต่บท.... บทน้อยไปไหน... //พายเรืออย่างเงียบงัน
เออ อีกอย่างนะ กูว่าอย่าเพิ่งไปตีความเลยว่ามันจะไม่รักไม่ชอบวาคาบะ คือ วาคาบะเข้าไปอยู่ในสายตามันได้ ก็ต้องมีอะไรดึงดูดให้มันสนใจนั่นล่ะ วาคาบะนางก็น่ารักนะ คนอ่านอย่างเราๆยังชอบเลย แล้วคาบุที่ได้ใกล้ชิดกว่า เห็นมากกว่าคนอ่านจะไม่ชอบเหรอ
รักมันก็มีหลายรูปแบบว่ะ ไม่ได้มีมาตรฐานเดียวซักหน่อย ไอ้เรื่องรักเขาชอบเขาก็ใส่ใจเทคแคร์ กูก็เห็นคาบุมันทำอยู่นะ อย่างอยากดูมายากลก็ไปฝึกมาให้ดู ไม่ชอบเขาจะลงทุนขนาดนั้นเหรอ มันอาจจะโง่ ไม่รู้ว่าเขาถูกแกล้ง เพราะไม่มีใครไปบอกฮี แต่พอฮีรู้ก็พยายามแก้ไขปัญหาในแบบของฮีที่ดูเหมือนคิดน้อยไปหน่อยน่ะ คงเป็นที่นิสัยที่ต้องค่อยๆปรับจูนกันไป
>>873 มันมีตอนบอกลายูริเอะอะ ที่มีอะไรแบบถ้ามีอะไรขอแค่บอกมา ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนฉันจะไปอยู่ข้างๆทันที อะไรแบบนั้น จำประโยคเป๊ะๆไม่ได้แต่จำได้ว่าเนื้อหาในประโยคอ่านแล้วกูค้าง แถมมีต่อที่เป็นบรรยายความคิดวาคาบะในมังงะด้วยว่ากังวลๆ แล้วก็มีคิดว่าสุดท้ายแล้วเค้าก็ยังชอบคุณยูริเอะอยู่สินะ คือกูรับไม่ได้อย่างแรงงงง แบบถ้าสองคนนี้จะลงเอยกันในฟีลหน่วงขนาดนี้ วาคาบะไปหาคนอื่นเหอะ กูเกลียดพวกโลเล หรือไอแบบตัวอยู่ตรงนี้ แต่ยังมีแบ่งใจไปตรงอื่น ตบกระเด็น คือไม่อยากให้คู่นี้ลงเอยกันเพราะในมังงะสำหรับกูไม่ได้มองว่าจบแฮปปี้เลยอะ คือถ้าไม่รู้สึกอะไรกับยูริเอะ ในมังงะที่คาบุมาดนิ่งๆเย็นชา คงไม่ต้องพูดอะไรเลี่ยนๆแบบนั้นออกไปมั้ง จะร่ำลาก็ไม่จำเป็นต้องเลเวลนี้อะ คือตอนนี้จากนิยายกูอยากให้คาบุเนี่ยแหละสืบทอดทายาทอสูร เป็นหัวหน้าหมู่บ้านแทนเรย์กะ แล้ววาคาบะคือจบกับคนอื่นเหอะะะ ดูอนาคตไม่โอเค ยังคิดว่าจริงๆบทสรุปที่ควรเป็นของวาคาบะทั้งทางฐานะสังคม บุคลิก ความสนิท เหมือนน่าจะเป็นตัวสำรองมากกว่าอีกนะ คือรวยแต่ไม่ไฮโซเก่าแก่ ผู้ดีมากขนาดเป็น pivoine ยังดูจูนกันง่ายกว่าเลย ส่วนเรย์กะเป็นบัค... คงต้องหาเส้นทางชีวิตเอง สู้นะตัวประกอบ!!!!
>>877 บทพูดฉากนั้นคือ "ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น โทรหาชั้นทันทีเลยนะ ชั้นจะไปช่วยเธอในทันทีไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม"
แต่ฉากลายูริเอะในมังงะมันก็ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนี่ กูว่าน่าจะกลางเรื่องด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นฉากพีคความเข้าใจผิดของนางเอกให้ผิดใจกัน เพื่อปรับจูนความคิดกันทั้งสองฝ่าย สร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นมากว่า
>>877 กูมองว่าเป็นปมที่หยอดทิ้งไว้ว่ะ เกิดคนเขียนมุกตันก็หยิบตรงนี้มาเล่นต่อได้ ยืดเรื่องได้ และไอ้ปมที่หยอดๆมาแล้วคนเขียนไม่หยิบมาใช้ก็มีอยู่เยอะแยะไป ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องนี้นะ
กูว่าในมังงะคิมิดอลหลังจากบอกลายูริเอะ นางก็ไม่ได้เข้ามามีบทบาทอะไรอีกนะ ตามมังงะโชโจทั่วไป คือไปแล้วไปลับ โผล่มาตอนท้ายๆกำลังจะแต่งงานอะไรแบบนี้
กูยังสนับสนุนคาบุกับวาคาบะนะ คนนึงล้น คนนึงเกิน ลูกออกมาคงพิลึก 555
>>883 มันไม่มีบอกมั้งว่าอยู่ตรงไหน แต่ดูจากเป็นตอนยูริเอะจะปล่อยตัวเองเป็นอิสระจากทางบ้าน คือจะไปทำงานเมืองนอก อย่างน้อยก็ยาวไปยันจบมหาลัยแล้วอะ อาจจะทำงานก่อนแล้วรึเปล่าด้วยก็ไม่รู้ แต่ขั้นต่ำคือจบมหาลัยชัวร์ๆ ไม่น่าจะเรียกกลางเรื่องเท่าไหร่นะ รู้สึกค่อนไปทางท้ายๆเลยยังไงไม่รู้
>>888 อันนี้ไม่ใช่ฉากจบป่าว ฉากจบคงไม่ซูมตัวร้าย แล้วเหมือนอีเว้นท์นางร้ายอาละวาดยันโดนจัดการนี่จบตั้งแต่ในช่วงม.ปลายแล้วนะ เพราะตอนคาบุไปหาหลักฐานก็เป็นเด็กม.ปลาย กระบวนการศาลสั่งห้องล้มละลายคงไม่นานขนาดนั้น คิดว่าในมังงะเรย์กะหมดบทตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ
>>885 อันนี้ก็ไม่ได้มีตรงไหนเล่าถึงว่ะว่าจะมีบทอีกมั้ย แต่เอาแค่ที่มีบรรยายคือกูไม่โอเคกับคู่วาคาบะคาบุอะ แล้วยิ่งมีเรื่องมาดามยอมรับและต้องปรับตัว ชีวิตจริงรู้สึกมันยากมากเหอะ คนอื่นในสังคมและเรื่องปลีกย่อย มีความหน่วงมากแบบมันดูไกลกันเกิน รู้สึกเหนื่อยเลยหันไปเชียร์ตัวสำรองวาคาบะแทน
แล้วกูจะเปิดแอปมังงะเพื่อหาคิมิดอลมาเปิดพิสูจน์ทำไมวะเนี่ยยยย /ทึ้งหัว
ฉากจบในคิมิดอลนี่เป็นไง กูจำได้แค่คิโชวอินล้มละลาย
>>889 เพิ่มว่ามันมีตอนคาบุกับเรย์กะคุยกันถึงขนมวันไวท์เดย์ที่เรย์กะได้มาจากรุ่นพี่โทโมเอะกับคาซึมิอะ ที่เอารสพีชไล่มารให้คาบุไป คือขนาดไมฮามะยืนอยู่ด้วยยังตามไม่ทัน แล้วแบบเหมือนไม่รู้จักว่าขนมชื่อนี้คืออะไร คือขนาดไมฮามะก็รวยพอเข้ายูริมิยะได้ยังมีแกปทางสังคม ถ้าวาคาบะจะขนาดไหน
>>890 มีพูดถึงเรื่องคาบุกับวาคาบะเข้ามหาลัยด้วยนะ หลังผ่านมรสุมช่วงม.ปลาย เหมือนเป็นช่วงเล่าอะไรเนิบๆและที่บ้านคาบุเริ่มยอมรับ เลยไม่รู้ว่าอารมณ์ side story ส่งท้ายเปล่า แต่คือไม่ได้จบม.ปลายอะ แล้วยูริเอะไม่ใช่วางแผนนะ เป็นแบบไปส่งที่สนามบินแล้วพูด คือนางต้องจะไปละ ต้องเรียนจบแล้วอะ
แต่สุดท้าย กูว่าในการ์ตูนมันก็คงจริงจัง ตัวละครสมจริงอะไรขนาดนั้นหรอกนะ กูว่ามันก็โชโจมังงะใสๆป๊อปปี้เลิฟแบบเด็กๆมอต้นมอปลายอ่านอะ อะไรก็หยิบจับเข้ามาได้ แบบโอรัง มีเครียดพอเป็นพิธี 55555
(นิยายนี้ก็ด้วย บางทีคนเขียนอาจจะไม่จริงจังเท่าที่วิเคราะห์กันอยู่ก็ได้ ประเด็นต้นเรื่องก็ตั้ง 5ปีที่แล้ว อาจจะลืมๆไปแล้วก็ได้ว่าเคยเขียนว่าไรบ้าง 5555555)
>>893 เรื่องคาบุวาคาบะเข้ามหาลัย กูว่าคงเป็นบทแถมท้ายว่ะ ตามสเต็ปความรักในรั้วโรงเรียน แบบ...เลิฟๆแล้ว อุปสรรคหายไปแล้ว หวานชื่นสวีทกันแล้ว แต่ปมทุกอย่างมันก็ขมวดเข้าหากันในตอนจะจบม.ปลายนี่ล่ะ แล้วนิยายก็คงเดินปมไปตามนั้นเหมือนกัน
แต่ยูริเอะเรียนจบแล้วจะไปเมืองนอก กูว่านางวางแผนอนาคตตัวเองมานานแล้วนะ แค่ไม่มีบอกให้เห็นเป็นกิจลักษณะเฉยๆ ไม่งั้นทางบ้านนางไม่คัดค้าน แต่คาบุพาไปส่งสนามบินเนี่ย กูไม่แน่ใจว่ายูริเอะไปเองหรือคาบุไปช่วยไว้นะ ขี้เกียจไปเปิดดู
>>896 จำได้ว่าคาบุพาวาคาบะไปส่งที่สนามบินด้วย และรู้สึกว่าคาบุเองก็ช่วยพูดกับทางบ้านเหมือนกัน แต่ประเด็นก็คือไปส่งพร้อมวาคาบะและพูดต่อหน้าวาคาบะเนี่ยแหละ แบบเอ๊อะทันที
>>895 เรื่องนี้กูว่าคนเขียนมีซ่อนประเด็นเยอะนะ แค่เล่าเรื่องด้วยตัวเดินเรื่องที่เอื่อยยย เฉื่อยยยย ชิลลลล แต่แบบมีประเด็นและรายละเอียดเยอะมากกกก ดูเขียนแบบตั้งใจใส่รายละเอียดสุดๆ ค่อยๆโยงกัน จริงๆแลดูเป็นพวกชอบทำอะไรซับซ้อนอยู่เหมือนกัน 555 เพราะนิยายจะใส่รายละเอียดเยอะโคตรๆแล้วถักทอให้มันเชื่อมกัน เหมือนนอกจาก POV ของตัวเดินเรื่อง ก็มีเหตุการณ์มากมายเกิดอยู่รอบตัวเหมือนชีวิตจริง คือเขียนโคตรยากเลย ไม่เหมือนเรื่องปกติที่ก็โฟกัสแค่ตัวเดินเรื่อง เพราะคนเขียนจินตนาการสร้างอีกจักรวาลขึ้นมาละเอียดยิบไม่ไหว ไทม์ไลน์ต้องเป๊ะอีกตะหาก คือใส่มาขนาดนี้คงไม่ใช่ปล่อยผ่านๆอะ แค่ว่าจะมีจับจุดไหนมาโชว์ในมุมมองหลักในตอนไหนบ้างแค่นั้น แต่จากเรื่องที่เดินผ่านๆมาหลายจุดมันก็ดูเกี่ยวเนื่องกันไปหมดนะต่อให้เป็นจุดยิบย่อยของตอนนี้ ในอีกหลายๆตอนถัดไปอาจจาดึงประเด็นออกมา คือเป็นเรื่องที่เขียนมาอลังการมาก /คารวะมันสมองฮิโยโกะซัง 3 จอก
>>897 เอามายกตัวอย่างว่าเรื่องขนมยังมีประเด็นเลยไง คิดว่าเรื่องอื่นไม่มีหรอ แล้วขนมนั่นคือโทโมเอะ คาซึมิ เรย์กะ คาบุ ก็รู้จักกันหมด มันดูมีความเป็นช่องว่างเหมือนกันระหว่างซุยรันกับเด็กที่อื่น แบบสังคมมันต่างอะ ทีนี้ถ้ามันไม่เป็นประเด็น ไม่พยายามสื่อ ฮิโยโกะซังจำเป็นต้องใส่ฉากที่ไมฮามะร้องเอ๋ พูดถึงอะไรกัน เข้ามามั้ย คือไม่จำเป็นต้องมีบทพูดนี้เลย ข้ามไปเลยก็ได้ให้นางไร้บทไปช่วงนึง หรือพูดอย่างอื่น ถ้าใส่มาก็คือต้องการสื่อสารน่ะแหละ
เม้น 900 แล้ว ยังไม่ได้เปิดโหวตกันเลยนี่หว่า!!!!
>>829 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้ดินเนอร์(กัญชา)ด้วยฝีมือเสน่ห์ปลายจวักของท่านเรย์กะ ที่ทำอะไรก็อร่อยทุกอย่าง ชามที่13
>>832 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบานพิชิตใจเธอ! [ศึกรักที่ 13]
>>835 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิของท่านเรย์กะที่ถึงชาตินี้จะไม่มาแต่ชาติหน้าก็ไม่แน่!!! ฤดูกาลที่13
>>836 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเรยกะตัวประกอบโชโจ!!! ฤดูกาลที่13
ปิดโหวต 980
>>899 กูว่าไมฮามะนางเอ๋ เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปให้ของกันตอนไหนน่ะ เกิดอะไรขึ้นลับหลังที่นางไม่รู้ ส่วนเรื่องขนมเนี่ย กูว่าคนในซุยรันก็ไม่ได้รู้จักกันทั้งหมดหรอกนะ อย่างตอนขนมญี่ปุ่นที่เรย์กะพูดตอนช่วยวาคาบะ กูว่าก็มีคนไม่รู้นั่นล่ะ ไม่งั้นก็มีคนพูดก่อนหน้าเรย์กะไปนานแล้ว
>>900 มันเป็นประโยคแบบไม่รู้จักขนมอะ กูก็จำเป๊ะไม่ได้และเปิดหาคงยากกกกส์ด้วย มีความต้องไปงม แต่เป็นแบบที่อ่านแล้วรู้เลยว่ายัยนี่ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร คือแบบเป็นขนมหรืออะไรยังไม่รู้เลยประมาณนั้น แล้วไมฮามะมีบทแบบนี้อยู่อีกที่นึงที่กูจำไม่ได้ละตรงไหนและเรื่องอะไร แต่แบบปล่อยไก่กับเรื่องความไฮโซเนี่ยแหละ(แอบสงสาร 555)
คือเหมือนจะเขียนเล่าว่าไมฮามะค่อนข้างดูไม่ไฮโซจริง ยังมีอะไรที่พยายามทำอยู่เยอะแต่ก็มีพลาดเยอะ กูว่าเป็นวิธีบอกเล่าบุคลิกลักษณะตัวละครของฮิโยโกะซังอะ ใครอยู่โพสิชั่นไหน ถนัดอะไร คือจะเล่าผ่านเหตุการณ์ที่เกิดทั่วๆไป ประโยคสนทนาไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องมีอะไรแบบที่นิยายหรือเมะบางทีชอบทำ ไอแบบมาถึงเพราะชั้นเก่งด้านนี้ๆๆๆ อันนี้คือความถนัดเฉพาะของชั้น ชั้นหน้าตาดี ฉลาด อะไรเทือกนั้นซึ่งพูดออกมาเองหรืออยู่ในมุมมองความคิดตัวเองนี่โคตรจะจูนิเบียวชิบหายเลยจ้ะ 555 แบบนี้คือสมจริงกว่าอะ อย่างแบบอ่านไปนี่ก็รู้เลยว่าเรย์กะถนัดดนตรี ศิลปะหน่อย แล้วเป๊ะประวัติศาสตร์มากถึงขนาดยกประโยคมาพูดเป็นวลีๆได้เลย พวกอะไรที่ดูเป็นวรรณกรรมก็พอกัน อย่างตอนเล่นมุกเต้นรำใส่ซาราระเงี้ย มาเป็นบทพูดเลยจ้าาาา คือโหดมากนะ และไม่เคยมีอะไรที่ออกวิทย์ออกคณิตโผล่มาในหัว คือรู้ได้ว่าถนัดทางสายศิลป์ ออกวิทย์ออ่อนคณิตตั้งแต่ยังไม่ต้องรอให้มีฉากติวเตอร์ที่บ้านมาทักว่าอ่อนคณิตอะ
ท่านพี่ก็จะมีมาดแบบเก่งจิตวิทยา ไหวพริบดีมากจนจับจุดอะไรได้เร็วแม้แต่วาดรูปหรืองานฝีมือ แสดงละครเก่งมากด้วยเพราะบ่นน้องในหัวตรึมแต่ต่อหน้านี่อ่อนโยนมุ้งมิ้ง ก็ไม่ต้องมีประโยคบรรยายว่าเป็นคนยังไงออกมาเลยอะ รู้ได้จากเรื่องราวที่เดิน ไมฮามะนี่ก็โดนทำร้ายแบบไม่ต้องมีประโยคบอกเล่าเป๊ะๆตรึมเลย ก็จะดูออกมากิ๊กก๊อกหน่อย ดูเป็นตัวร้ายกี๊ๆตั้งแต่ก่อนเรย์กะเรียกปลาซิวปลาสร้อยแล้วอะ แบบโพสิชั่นคือไม่ใช่ไฮโซตัวจริง
กูไปดูมาให้แล้วนะ ถ้าไม่ผิดน่าจะตอน 109
>>903 ไอตรงขนมญี่ปุ่นแล้วคนอื่นไม่รู้เนี่ยแหละ พอเรย์กะรู้ขึ้นมาเลยดูโห คุณหนูตัวจริงไปเลยไง อย่างน้อยหลายมุมดูจะไม่คุณหนูเท่าไหร่ แต่มันมีหลายจุดอยู่ที่แสดงชัดว่าเรย์กะนี่ไฮโซนะ แบบละเอียดอ่อนและต้องรู้จักอะไรพวกนี้ดีถึงรู้ว่าไม่ใช่สึบากิ มันก็เป็นเรื่องแบบบ่มเพาะจากความคุ้นเคยและความรู้ส่วนตัวงี้ เป็นฉากที่ใส่มาให้เห็นจุดยืนเรย์กะเลยอะ เพราะเจ้าตัวมองตัวเองสามัญชนสุดๆตลอดอยู่ละ แต่ที่จริงคือถึงจะรั่ว แต่ก็รั่วแบบคุณหนู มีอะไรที่คูณหนูเข้าเส้นเลือดอยู่ในตัวเยอะเหมือนกัน
ขนมไวท์เดย์อันนั้นคนอื่นในซุยรันไม่รู้จักก็คงมี เพราะซุยรันไม่ใช่เด็กระดับเดียวกันหมดอยู่แล้วอะ แต่แบบในชั้นที่ใกล้กันหน่อยคือรู้จักไอขนมนี้กัน มันเหมือนบทบรรยายความไฮโซแอบแฝงมากกว่า เรย์กะนี่ทั้งแสดงตัวเป็นสามัญชนผ่านของกิน แล้วเวลามีบทแสดงตัวเป็นไฮโซก็ผ่านของกิน คือสมกับแท็กฟู้ดละ
แต่ๆๆๆ กูว่ามันคงจะ "หา? XXXX" ซึ่งให้อารมณ์แบบ หา ยัยนี่ให้ขนมทั่นคาบุวันไวท์เดย์หรอกเรอะ?! มากกว่านะ
>>908 อันนี้แหละ แต๊งกู้ววว มึงเมพมาก 555
>>909 เออนึกออกแล้ววววว อีกอันคือตอนพูดชื่อร้านช็อคโกแลต หรืออะไรซักอย่างเกี่ยวกับช็อคโกแลต นางก็แบบ หา พูดถึงอะไร มันคืออะไรแบบอันนี้แหละ คือไม่รู้จักอะ ที่ไปซื้อมานั่นคงไปหาข้อมูลมาแล้ว คือตอนให้มีโมเม้นฟีลอวด มันยิ่งดูแบบ หล่อนยังไม่ช่ายยยย พยายามต่อไป~
พอมาซ้ำด้วยขนมนี่อีกรอบคือประเด็นแนวเดิม เดจาวูเดิม มันก็ย้ำอยู่ดีว่าไม่รู้จักอะ ยังต้องทำการบ้านอีกเยอะ
>>910 มันมีบทพูดแบบ
@@@@@@@@
"พูดถึงไวท์เดย์ Guimauve นั่นอร่อยดีนี่ เป็นของลิมิตใช่ไหม"
"หา ? Guimauve ?"
เฮอะ ดันพูดอะไรไม่เข้าเรื่องออกมาได้
คุณไมฮามะทำหน้าประหลาดถามว่า "ท่านมาซายะ Guimauve นี่มันอะไรกันคะ" นี่หล่อน อย่าจุ้นให้มากนักจะได้ไหมยะ
"ฉันได้ Guimauve รสพีชาจากคิโชวอินตอนไวท์เดย์"
"จากคุณเรย์กะ !?"
@@@@@@@
กูว่าชัดแล้วนะว่าไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วสุดท้ายคือความสนใจมาจับที่เป็นของจากเรย์กะไปละ แต่ถามว่ารู้รึยังว่าขนมอะไรหน้าตายังไงเป็นแนวไหน คิดว่าแบลงค์อยู่ดีในตอนนั้น
กูว่าไฮโซตัวจริงคือท่านฮิโยโกะนี่แหละ ขนม ของกิน แบรนด์เครื่องใช้ รสนิยมทางศิลปะอะไรก็ดูรู้ลึกรู้จริงไปทุกสิ่งอัน ตัวจริงอาจไว้ผมหลอดและพกพัดฝรั่งสีไวน์แดงก็เป็นได้
อ้อ ตอนก่อนๆ ที่มีคนตั้งฉายท่านเรย์กะว่า dolly girl เลยไปเสิร์ชภาพดูด้วยคีย์เวิร์ด ドーリーガール นี่มันสไตล์คุณหนูเลยนี่นา มีคนไว้ผมหลอดๆ ของจริงด้วย ถ้าท่านเรย์กะแต่งแบบนี้ไปยืนแทะปลาหมึกอยู่ที่ร้านแผงลอย กูว่าก็สะดุดตาอยู่ว่ะ
Guimauve น่าจะเป็นภาษาฝรั่งเศสนะ เอาเป็นว่าเรียกมันว่ามาร์ชเมลโล่ก็พอละกัน เสียหมด ฟฟฟฟ
>>918 ตอนแทะปลาหมึกทำน้ำจิ้มเลอะชุดแล้วจะร้องไห้นี่ก็พีคนะ คือแบบถ้ายังมีเนื้อในเป็นสามัญชนคนบ้านๆแบบที่นางคิดว่าตัวเองเป็น ก็เช็ดๆ หรือเดินหาห้องน้ำล้างไปได้ละ เอาอะไรบังๆไว้ก่อนก็พอ แต่มาแบบทำอะไรไม่ถูก สติแตก จะร้องไห้ คือนางได้ย่างเท้าเข้าไปเป็นคุณหนูเกินครึ่งตัวแล้ววว มีแต่ทัศนคติต่อคนอื่นกับความชอบด้านอาหารที่ยังเหลืออยู่
ลองเสิชตามแล้วโอ้ คุณหนูมากจริง แถมมีผมม้วนเป็นหลอดจริงงง แต่ไม่หลอดแรงขนาดเทียบกับมารี อังตัวเนตต์ได้นะ อันนี้รู้สึกดูเป็นยุคโมเดิร์นหน่อย ของแท้นี่ต้องโรโคโค่ 5555
>>919 ลาก่อนน้องกีอะไรซักอย่างที่กูก็ไม่สามารถอ่านจริงๆ ถ้ามีพูดถึงอีกเรียกมาร์ชเมลโลไวท์เดย์น่าจะพอเข้าใจ 5555
เอาจริงๆพวกชื่อขนมกับชื่อแบรนด์ทั้งหลายแหล่ในเรื่องนี่เป็นปัญหากับกูมากเพราะกูเป็นคนชอบออกเสียงในใจ ยกตัวอย่างเช่นpivoineเนี่ย เวลากูอ่านกูก็จะรู้แบบเอ้อ..คำนี้คืออันนี้ แต่กูไม่ออกเสียง(เพราะอ่านไม่ออก555) แล้วเวลากูจะเล่าท่านเรย์กะให้เพื่อนฟังมันจะได้มาหวีดกันกูก็ไม่รู้จะเรียกยังไง พอเปิดคำให้เพื่อนอ่านนางก็บอกว่าอ่านว่า พีโวน ป่ะวะ กูเลยอ่านว่าพีโวนมาตลอดแล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้หาคำอ่านที่ถูกจริงๆเลย...... แต่เวลาเข้าโม่งก็เลยเรียกตามว่ากลุ่มโบตั๋นเอาอ่ะ5555555 กูต้องไปหาคำอ่านที่ถูกซะละ
>>922 เหมือนกันนนน แต่อย่าง pivoine นี่พยายามหาคำอ่านมาหลายทีละ แต่ไม่เจอซักที กูอ่านเองว่า พีวองเน่ พยายามอ่านให้ใกล้เคียง peony เพราะเดาว่าน่าจะเสียงคล้ายกันบ้าง(มั้ง) จนทุกวันนี้ยังหาคำอ่านไม่ได้ 5555 ล่าสุดไปเจอแฮนด์ครีมล็อกซิทานกลิ่นโบตั๋น ที่หลอดเขียน pivoine คือบ้าขนาดไปถามพนักงานว่านี่กลิ่นอะไร นางตอบพีโอนี คือแบบ ไม่ช่ายยยย เอาแบบฝรั่งเศสสิ ก็ยังยืนยันว่าอ่านพีโอนีอยู่ดี นั่นมันภาษาอังกฤษมั้ยอะ ก็ยังไม่รู้คำอ่านต่อไป~
>>922 มึงพูดจนกูสงสัยขึ้นมาเลยว่ะ มันมีเวบชื่อ forvo ไว้ให้ฟังเสียง pronunciation จากเจ้าของภาษาได้ กูลองไปกดฟังดู pivoine มันออกเสียงคล้ายๆ ปิแวร์ป่ะ ใครหูดีๆ ลองไปช่วยกันฟัง
https://th.forvo.com/word/pivoine/
ถามว่าเรื่องเรียนขยันแบบนี้มั้ย ก็ไม่... แต่ความรู้จิปาถะกูเพิ่มขึ้นมากจริงๆ จากการอ่านเรื่องนี้ โดยเฉพาะของกิน...
ปิ-ฟัว-เนอ(ะ) เสียงne ตัวสุดท้ายออกเสียงเบาๆหน่อย ไม่แน่ใจเหมือนกันนะฝรั่งเศสกูกาก เรียนไปแบบไม่ตั้งใจเรียน55555555555555
นำมาสู่ความข้องใจ ว่าญี่ปุ่นออกเสียงแนวนี้ได้หรอเนี่ยยยย ตัว v กับ r คือคนไทยยังออกเสียงไม่ค่อยได้เลยอะ ญี่ปุ่นหนักกว่าอีกนะปกติ แล้ว pivoine นี่เสียงแอดวานซ์มาก
ตัวสะกด P ฝรั่งเศสออก "เป"
ตัวสะกด v ตัวกัดปากเสียงออกไรฟัน "เว" แบบมี ฟ ประสมนิดนึง แบบ "เวฟ์ะ" (ไม่รู้จะเขียนยังไงวุ้ย)
สระ -oine มันออกเสียง "-วน(เนอะ - ออกเสียงกึ่งนึง)"
Pivoine ก็ออก ปิ-วฟ์วน(เนอะ)
Pivoine ที่ท่านฮิโยโกะเขียนก็ออกเสียงยากกเอาการอ่ะ เขียนมา ピヴォワーヌ ถ้าถอดเสียงแบบเทียบคำต่อคำน่าจะได้ประมาณ Pi-Vuo-Va-N(u) ออกเสียงยากชิกหาย
คาตาคานะของ Pivoine > ピヴォワーヌ
Guimauve > ギモーヴ
ใช้กูเกิลฟังแล้วอย่างกะคนละคำกัน 5555555
พีโว้~~วาหนุ กูค้างตั้งแต่โว้ 5555555
ว่าไป กูก็นับถือโม่งแปลนะ ที่สามารถหาคำถอดเสียงคาตาคานะออกมาให้มันถูกต้องได้เนี่ย ....
กูคิดถึงโม่งฟิคกาลครั้งหนึ่งในฝันจัง
>>947 เราไม่มีความรู้เรื่องภาษาญี่ปุ่นเลยงงๆกับเรื่องนี้ แต่ฟังดูสุดยอดไปเลย 5555 แต่ที่โม่งแปลรู้เรื่องรอบด้านสรรหาข้อมูลได้ขนาดนั้นนี่ก็เทพมากๆ อนุโลมบ้าง มุกจากในไบเบิ้ลบ้าง ไหนจะสารพัดชื่ออาหาร ต่อให้เป็นภาษาไทย ถ้าไม่มีคนอธิบายก็อึ้ง รักโม่งแปลจริงๆ รู้สึกโชคดีที่มีโม่งแปลมาแปลเรื่องนี้ให้ //กราบรัวๆ
กูขำที่พวกมึงพยายามเลียนเสียง พีโว้~~ วา~~~ หนุ มากกกกก 555 อ่านแล้วกูลั่น แต่พอมางี้รู้สึกโม่งแปลเจ๋งไปเลยแฮะ /พุ่งตัวเข้าไปกอดขา มึงอยู่กับพวกกูไปนานๆนะ อย่างเพิ่งทิ้งพวกเราาาา ดูแนวโน้มแล้วอ่านเองนี่อาจตายได้ ดำน้ำกูคงตายอยู่ในกอสาหร่าย พีโว้~~~~
>>952 อุณาโลมป่าวมึง... 5555555
มู้จะเตผ้มแล้ว รีบสรุปรีบสร้างใหม่ดีกว่ามั้ง
กูกำลังคิดว่ากำลังออกเสียงหรือกลายเป็นปลาเสือวะ พ่นน้ำลายจนเลอะ 555+
ลองเอาให้กูเกิลอ่านแล้วเหมือนคนละคำจริงๆว่ะ55555
พิ่-โว้~-[อ้า]-หนุ
กิ-โม๊~~-หว(ฟ) ุ
โอย กูไม่สามารถจริงๆนั่นแหละ555555 ยิ่งพบเจอคำท่านเรย์กะยิ่งนับถือโม่งแปลมากขึ้น เป็นกูนี่สาหร่ายพันคอตายเป็นร้อยเป็นพันศพ
คลาสเรียนภาษากันเหรอวะคืนนี้ ถถถถถถถถถถถถถถ
Pivoine กูออกเสียงในใจกูเองเป็น ปิ - โวย - เน ตลอดเลยว่ะ ฟังคล้ายๆปินอยยังไม่รู้ดิ
ตอนนี้นอกจากหล่อระทมแล้วกูคงหลอนคำว่า พีโว้~ เพิ่มไปอีกคำ 55555 ถ้าไปได้ยินที่อื่นข้างนอกนี้รู้เลยว่าอ่านเรื่องนี้
เออแล้วงี้เวลาคนญี่ปุ่นคุยกันก็แบบ สมาชิกพีโว้อาหนุ เอิ่มมมม ไม่เท่อย่างแรง!!!! ชื่อน่าเกลียดอะไรเยี่ยงนี้กันนนน
คำว่า Pivoine ไร้ความศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป พวกมึงทำอะไรกันเนี่ย 5555555555555555555555
ถ้าอ่านตามที่กูอ่านๆมาแบบไม่พึ่งอะไรเลยกูจะอ่านว่า พิ-โวย-เน่
แต่ตอนนี้กูอ่านแบบนั้นไม่ไหวแล้วว่ะ พวกมึงดูตั้งใจเกิ๊น 55555555+
ถึงกะเปิดตำราการทับศัพท์ฝรั่งเศส http://www.royin.go.th/wp-content/uploads/2015/03/2346_2556.pdf
แต่ยังไง Pivoine ก็พ่ายแพ้กะการพยายามทับศัพท์ให้ได้คำหน้าตาดูดีๆว่ะ 55555555
Pivoine [ /pi.vwan ] ปิ-ววน
Guimauve [ /gi.mov/ ] กีโมฟว์ (ถ้าในตำราข้างต้นจะเป็น กุยโมฟว์ แต่ยึดตาม phonetic น่าจะถุกต้องกว่า)
นี่อ่านพิวอยมาตลอด😂😂😂
กระทู้หน้า https://fanboi.ch/webnovel/3856/
แต่ญี่ปุ่นออกเสียง V เป็น B นี่นา Pivoine ถ้าอ่านเป็น พี - โบ - ว้า - หนุ รู้สึกพังไปกันใหญ่......
ลองค้น youtube อยากจะหาเสียงคนจริงๆพูดคำนี้ ไม่ใช่เสียงAIแบบสิริของกูเกิล แต่ไม่มีเลยว่ะ 55555
กูไล่ๆอ่านตั้งแต่ประเด็นคาบุ จู่ๆเปลี่ยนเป็นประเด็นไมฮามะ ขนม แล้วก็การออกเสียง ได้ไงวะ 55555555
ตอนแรกกูอ่าน pivoine เป็นไพวองเน่ อ่าว กำนี่กูอ่านผิดมาตลอดเรอะ(เศร้าใจ) แต่ดีที่ได้อ่านถูกล่ะ จริงๆในเรื่องนี่มีชื่อขนม อาหารฝรั่งเยอะมากกกกกก หลายคำมากที่กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอ่านดีเลยได้แต่ข้ามๆไป
นี่ยังไม่หมดมู้อีกเหรอ ถถถ
มาๆๆ เดี๋ยวกุช่วยปั่นเอง
ไหน โม่งคนไหนจะปิดท้ายมู้นี้อย่างสวยงาม???
ยังไม่ปิดกระทู้กันอีกเหรอวะ ถถถถถถถถถถ
มา กูช่วย
อีกสองเมนท์
พี~ โว ~ว้า~~ หนุ~~ ~
ซือโก้ยยยยยยยยย~~ ทาโนชิหวาาาาาาาา~~
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.