>>790-793 อะไรคือนางฟ้าเพียงหนึ่งเดียวในงานแล้วจะเป็นที่ต้องตาของปีศาจ ถถถถถถถถถถถถ ความมโนไม่เปลี่ยนแปลงจริมๆ
ยูกิโนะคูงงงง ชอบเล่นเกมแบบนี้ด้วยเหรออออ ไหนเขียนจดหมายไปอ้อนเรย์กะว่ากลัวไง ถถถถถถถถถ
ดีต่อใจมากค่ะ คิดถึงฟิคเวียนนี้สุดๆ รักคนมาต่อนะคะ
>>798 ไปดูมา หน้าตาไฮโซมาก เรย์กะคงใช้แบรนด์นี้ล่ะมั้ง กูก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแบรนด์เท่าไหร่ //หันมอง revlon ในมือ แพงสุดที่กูซื้อคือ MAC นี่ล่ะ ชาแนล ysl อะไรนี่ไม่หวังเลย
>>790-793 กรี๊ดดดดดด ดีงามมมม นี่เนียนเรียกคุณเรย์กะแล้วซินะ มาการงกุหลาบ อยากทานก็ทานเลยค่าา //แค่กๆ
ยูกิโนะคุงน่ารักก มีมาเนียนบีบๆมืออีก ที่ให้เรย์กะเล่นเกมนี่จงใจรึเปล่านะ...
แต่งเป็นนางฟ้า... กูนึกถึงป้านางฟ้าในเรื่องซินเดอเรลล่าของดิสนีย์เป็นอย่างแรกเลยว่ะ ขอโทษค่ะ 5555555
>>802 มาลิฟิเซนต์นี่โคตรเหมาะ 5555
ตอนแรกจะบอกว่าถ้ามีประกวดในงานน่าจะชนะเลย แต่คิดอีกทีคาบุรากิน่าจะแต่งจัดเต็มราวกับถ่ายฮอลลีวูดมากกว่าใครเพื่อน 55555
จะว่าไปในฟิค ตอนกอดปลอบกันนี่ ลิปสติกสีชมพูของเรย์กะน่าจะเลอะเสื้อเอ็นโจมั้ยนะ ให้ยูกิโนะทักว่าท่านพี่กินเลอะเทอะ แต่
เอ ดูอีกทีไม่ได้เลอะซอสนี่นา ฟหดเดหหฟฟ
อยากเห็นปฏิกิริยาของทั้งคู่จัง ใครก็ได้แต่งต่อทีย์ //_\\
แต่กูว่านางคงชอบแนวนางฟ้าน่ารักๆสวยๆมากกว่าล่ะมั้ง
กูว่านางแต่งนางฟ้าไปงาน แล้วก็พบว่ามีสาวๆที่คิดคล้ายๆกันอยู่เพียบ นางฟ้าเดินให้ว่อนงาน กลายเป็นเขินเลย ประมาณว่าเจอคนใส่เสื้อเหมือนกันตอนออกจากบ้านน่ะ
>>806 ถ้าพูดถึงเกอแลง กูนึกถึงตัวนี้ว่ะ สีชมพูหวานด้วย
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=120866
Fic 196.4
บทสนทนากลุ่มนักเรียนหญิงซุยรันนิรนาม
"นี่มันเรื่องใหญ่นะคะ"
"เอ๋ อะไรกันคะ จู่ๆ ก็พูดออกมาแบบนั้น"
"ก็เรื่องของวันนี้น่ะค่ะ ท่านเรย์กะให้กำจัดข่าวลือ"
"แหม ก็เป็นครั้งแรกของท่านเรย์กะที่ให้ช็อคโกแลตกับคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวนี่คะ ต้องเขินอยู่แล้ว"
"แต่ว่า ไม่สังเกตกันบ้างหรือคะ วันนี้น่ะ"
"สังเกตอะไรหรือคะ"
"ก็ท่านคาราบุกิ"
"ท่านคาราบุกิ? ทำไมหรือคะ"
"...หลังจากท่านเรย์กะให้ช็อคโกแลตกับท่านเอ็นโจ แล้วสีหน้าท่านคาราบุกิก็ดูไม่ค่อยสดใส"
"!!"
"!!"
"!!"
"นี่มัน..."
"คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือคะ เรื่องบังเอิญจะเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลยหรือคะ กับคนที่จิตใจเข้มแข็งเช่นท่าคาราบุกิผู้นั้น กลับกลายมาเป็นแบบนี้หลังจากท่านเรย์กะเอาช็อคโกแลให้ท่านเอ็นใจ"
"จะว่าไปแล้ว...ท่านคาราบุกิก็ดูเศร้าจริงๆ สินะคะวันนี้ แต่เพราะความงดงามบดบังอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของท่าน ทำให้พวกเรามองข้ามไป"
"แล้วท่านเรย์กะยังบอกให้กำจัดข่าวลือนั่นอีก ไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้วหรือคะ"
"เอ๋"
"ก็อาจจะไม่อยากให้ท่านคาราบุกิที่กำลังใจสลายต้องเสียใจมากไปกว่านี้"
"ถ้าจะว่าไปแล้วมันก็"
"ท่านเรย์กะจริงจังถึงขั้นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สังเกตเห็นท่านคาราบุกิหรอกค่ะ"
"อะ ท่านเอ็นโจเองก็คอยปฏิเสธข่าวลือด้วย หรือว่าเป็นห่วงความรู้สึกของท่านคาราบุกิ"
"หรือว่า...ในที่สุดมิตรภาพที่มีมาช้านานกำลังจะเข้าสู่จุดแตกหักกันแล้วคะ!?"
"นะ นี่มันเรื่องใหญ่จริงๆ ด้วยค่ะ"
ขอบคุณโม่งแปล ตอนล่าสุดดูตื่นเต้นตามฉิบหาย ถ้าเอ็นโจไม่ห้าม เกิดคาบุกับท่านโยโกะปะทะกันตรงๆใครจะชนะวะ แต่ที่แน่ๆมาดามคาบุต้องไม่พอใจวาคาบะแหงๆเลย ดันทำสองตระกูลผิดใจกัน//มโน
Fic 196.6
บทสนทนาของกลุ่มนักเรียนหญิงซุยรันนิรนาม 2
"ได้ยินเรื่องจากท่านที่อยู่ในสโมสร pivoine หรือยังคะ"
"เรื่องอะไรหรือคะ"
"เรื่องใหญ่เลยนะคะ ก็เหตุการณ์ในวันก่อนน่ะค่ะ"
"หรือว่า...จะเกิดอะไรขึ้นกับท่านเหล่านั้นงั้นหรือคะ!?"
"ได้ยินว่าตอนที่ท่านเรย์กะเหลือบมองท่านคาราบุกิ ท่านๆ ที่อยู่ด้วยกันรู้สึกถึงความขุ่นเคืองในแววตาของท่านเรย์กะเลยล่ะค่ะ ขนาดที่น้องชายของท่านเอ็นโจยังทักขึ้นมาเลย"
"จริงหรือคะ! แต่ก็สมเป็นท่านเรย์กะนะคะที่กล้าส่งสายตาแบบนั้นให้กับท่านคาราบุกิได้"
"แล้วท่านคาราบุกิไม่มีปฏิกิริยาอะไรหรือคะ"
"ก็อ่านหนังสือเงียบๆ น่ะค่ะ แต่บรรยากาศในห้องตอนนั้นที่ได้ยินมาจากท่านที่อยู่ที่สโมสรบอกว่าจู่ๆ ก็หนาวเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนือในชั่วพริบตาเลยค่ะ"
"งั้นหรือคะ...แต่ว่าท่านทั้งสองมีเรื่องทะเลาะอะไรกันหรือคะ"
"ก็ไม่มีใครพูดอะไรหรอกนะคะ แต่ทุกคนก็ทราบกันดีเรื่องที่ท่านเรย์กะมอบช็อคโกแลตให้ท่านเอ็นโจดีอยู่แล้วสินะคะ"
"เรื่องนั้น...แต่คนที่น่าจะโกรธไม่ใช่ว่าเป็นท่านคาราบุกิหรอกหรือคะ"
"เพราะมันควรจะเป็นแบบนั้นแหละค่ะ แต่ปฏิกิริยาที่ออกมาสลับกัน"
"น่าแปลกจริงๆ ด้วยนะคะ"
"ไม่หรอกคะ ความจริงแล้วเรื่องนี้ก็ปรึกษากับท่านคนนั้นที่อยู่ในสโมสรแล้ว มีความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง...แต่ดิฉันเองก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ยังไงก็ตาม พอคิดตามแล้วก็รู้สึกว่าเป็นไปได้มาก ไม่สิ เป็นแบบนั้นแน่ๆ เลยล่ะค่ะ"
"เรื่องอะไรงั้นหรือคะ"
"...คิดว่ามีคนกล้าลองใจท่านคาราบุกิหรือเปล่าคะ"
"เอ๋!? ไม่จริงน่ะ"
"ต่อให้เป็นท่านยูริเอะก็เถอะ ดิฉันเองก็คิดว่าคงไม่ทำอะไรแบบนั้นกับท่านคาราบุกิเป็นแน่ ไม่สิ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้นสินะคะ"
"หรือว่าที่ท่านเรย์กะให้ช็อคโกแลตท่านเอ็นใจ...ท่านเรย์กะที่จริงแล้วต้องการแบบนั้นหรือคะ"
"เพราะว่าพวกเราใกล้จบการศึกษาแล้วยังไงคะ"
"ถึงจะไม่ใกล้ขนาดนั้นก็เถอะ...แต่ถ้าเทียบความสัมพันธ์ของพวกท่านทั้งสามที่มีมานับสิบปีแล้ว เวลาก็เหลือไม่มากจริงๆ ด้วยนะคะ"
"เพราะว่าท่าทีของท่านคาราบุกิไม่ชัดเจนน่ะสิคะ แล้วช่วงนี้ยังมีเรื่องของเด็กนอกคอกนั่นด้วย"
"แต่ท่านเรย์กะเองก็ใจกล้าไม่น้อยเลยนะคะ นั่นน่ะ...ท่านคาราบุกิเชียวนะคะ"
"เพราะว่าเป็นท่านเรย์กะต่างหากล่ะค่ะถึงกล้าทำแบบนั้น ดิฉันนึกไม่ออกแล้วนะคะว่าจะมีใครที่มีความกล้าและคุณสมบัติที่จะทำแบบนี้อีก"
"สมกับที่เป็นท่านเรย์กะเลยนะคะ ผิดกับคนอื่นจริงๆ"
"ก็เป็นคนที่พวกเราชื่นชมนี่คะ"
"แต่น่าเสียดายนะคะที่ท่านคาราบุกิยังไม่มีท่าทีอะไร"
"ไม่หรอกค่ะ อย่างน้อยท่านคาราบุกิก็แสดงอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนออกมาบ้างแล้ว"
"นั่นสินะคะ จะว่าไปที่แท้ท่านเอ็นโจก็ช่วยท่านเรย์กะลองใจท่านคาราบุกินี่เอง แบบนี้ตัวจริงก็...ท่านคาราบุกิสินะคะ"
"ก็คงอย่างงั้นแหละค่ะ"
>>810 กูมโนต่อให้นะ
"ช้าก่อนค่ะ เราอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าจะเป็นเช่นนั้นเลยนะคะ"
"เอ๋ แต่การที่ท่านคาบุรากิเซื่องซึมไปเพราะได้ยินว่าท่านเรย์กะมอบช็อกโกแลตให้ท่านเอ็นโจนี่ก็พอจะบอกอะไรได้แล้วนะคะ"
"ดิฉันคิดว่าความจริงมันซับซ้อนยิ่งกว่าที่ตาเห็นล่ะค่ะ นี่อาจจะเป็นแผนของท่านเอ็นโจก็ได้"
"เอ๋!!"
"ยังไงกันรึคะ"
"ลองคิดดูนะคะ ปีก่อนๆหน้านี้ ท่านเอ็นโจก็ไม่เคยไปดักรอท่านเรย์กะเพื่อช็อกโกแลตแม้แต่ครั้งเดียว แต่ปีนี้มันแปลกออกไป ทุกท่านคงทราบสินะคะว่าท่านคาบุรากิกำลังติดใจผู้หญิงสามัญชนคนนั้น"
"อ๋อ คุณทาคามิจิสินะคะ"
"ใช่ค่ะ ก่อนหน้านั้นก็มีท่านยูริเอะอยู่เคียงข้างท่านคาบุรากิมาตลอด ทุกคนก็ทราบกันดีว่าพวกเราไม่สามารถเอาชนะท่านยูริเอะได้ นี่ก็อาจจะรวมไปถึงท่านเอ็นโจด้วยเช่นกัน"
"เอ๋!!!!"
"ดิฉันคิดว่าดอกไม้ต้องห้ามคงเบ่งบานอยู่ภายในใจของท่านเอ็นโจอย่างเงียบๆ คงพยายามหักห้ามใจอย่างถึงที่สุดที่จะไม่รักเพื่อนสนิทของตนเพราะรู้ว่าต้องผิดหวัง"
"เอ๋!!!!!!!"
"อะไรกันคะ!!!"
"แต่พอคุณทาคามิจิที่ไม่มีอะไรเทียบท่านยูริเอะได้ ก้าวเข้ามาในชีวิตท่านคาบุรากิ เพราะอย่างนี้ ท่านเอ็นโจคงจะเกิดความคิดที่ว่าจะยอมยกท่านคาบุรากิให้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด"
"เอ๋!!!!!!!!!!!"
"หากแต่ท่านคาบุรากิก็ยังคงมองข้ามท่านเอ็นโจที่คอยอยู่เคียงข้างเสมอมา ท่านเอ็นโจจึงไปดึงท่านเรย์กะเข้ามาพัวพัน หวังเพื่อจะทำให้ท่านคาบุรากิหึงหวงตนเองกระมังคะ"
"ก็มีเค้าลางของความเป็นไปได้นะคะ"
"โธ่ ท่านเอ็นโจช่างน่าสงสารเหลือเกิน"
"บางที ท่านคาบุรากิในตอนนี้อาจฉุกคิดถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองที่มีต่อท่านเอ็นโจได้แล้วกระมังคะ พอได้ยินว่าท่านเรย์กะและท่านเอ็นโจเริ่มมีจิตใจสัมพันธ์ต่อกันก็เซื่องซึมไปเลย"
"โถ น่าสงสารเสียจริงค่ะ ทั้งคู่เลย ดิฉันจะร้องไห้"
"เหตุใดจึงอาภัพเยี่ยงนี้ล่ะคะ ทั้งคู่ก็มีจิตใจที่ตรงกันแท้ๆ ไม่หันหน้าเข้ามาคุยกันเล่าคะ"
"ทั้งคู่อาจเข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้รักชอบตนเองตอบกลับมา จึงไม่เผยความในใจเพราะกลัวการสูญเสียกระมังคะ"
"ก็เป็นรักต้องห้ามนี่นา"
"รักต้องห้ามนี่มันช่างน่าเศร้าเหลือเกินค่ะ"
"นั่นสินะคะ ทำได้แค่มอง แต่ไม่อาจเผยความในใจ"
"ช่างสูงส่งและงดงามเหลือเกินค่ะ"
"เรามาเอาใจช่วยให้ท่านทั้งสองได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันเถิดค่ะ"
"นั่นสินะคะ คนนอกอย่างเราก็ได้แต่สวดภาวนาให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีก็เท่านั้นเอง"
วาคาบะโดขิๆกับคาราบุริแล้ว!
เรือวาคะคาบุแล่นฉิวววววว...
อ่าว ท่านเรยกะอยู่ด้วยรึ
ขอบคุณโม่งแปลจ้า
ว้าวววว แปลไทยล่าสุดโครตโชโจ ท่านเรย์กะพอกลายเป็นตัวประกอบเนี่ย โมเมนต์โชโจมาตรึม วาคาบะมีหน้าแดงด้วยเว้ยยยยยย ฮิ้ววววววว ดีใจด้วยนะคาบุรากิ
เอ็นโจสุดยอดคนกลาง อารมณ์ร้อนๆทั้งสองฝ่ายก็ไกล่เกลี่ยให้ดีได้ ยอดเยี่ยมมากนาย เดี๋ยวแต่งฟิควายๆให้นายกับมาซายะเป็นการตอบแทนเลย //โกหกจ้า ถถถถถ
ขอบคุณของขวัญวันแรงงานค่ะโม่งแปล~ ขยันขันแข็งจังเลย
เป็นตอนที่โคตรลุ้นเลยว่าจะลงยังไง นึกภาพความเกรี้ยวกราดของคาบุรากิออกเลย ดีจริงที่เอ็นโจช่วยเคลียร์ให้
วาคาบะโดขิๆ!? นึกว่าจะเป็นพวกเอ๋อๆตายด้านซะแล้ว ลืมไปว่าเป็นนางเอกมังงะ 5555 แต่แบบนี้จะยิ่งเป็นชนวนให้การแกล้งแรงขึ้นก็ได้นา คาบุรากิ...
คำผิด สัญชาติญาณ > สัญชาตญาณ
ตอนใหม่่่ ขอบคุณโม่งแปลน้า
คาบุรากิเดือดแล้ว เดือดปุดๆ ท่านโยโกะก็เป็นหม้อเดือดปุดๆอีกหม้อ เอ็นโจเป็นอะไรดี55555 เป็นผ้าเย็นค่อยๆลูบทั้งสองหม้อ
ที่น่าทึ่งคือ พอท่านเรย์กะเป็นตัวประกอบเท่านั้นแหละ นี่มันสถานการณ์โชโจวมังงะชัดๆ!!
>>820 เออ กูก็ลุ้น รู้สึกเป็นตอนที่แรงพอสมควรในเรื่อง ทั้งคาบุปะทะท่านโยโกะ ทำเอากูลุ้นตามเลย เอ็นโจมาไกล่เกลี่ยให้นี่โครตโล่งใจตามทุกคน
แต่กูก็อยากเห็นเอ็นโจโกรธบ้างนะ อยากรู้จะเป็นยังไง จะกดดันแค่ไหน จากในมังงะก็บอกว่าเวลาเอ็นโจโกรธน่ะน่ากลัวกว่าจักรพรรดิด้วย สถานการณ์ไหนน้อ ที่เอ็นโจจะโกรธน่ะ อยากเห็นชิบหาย
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับของขวัญวันแรงงานจ้า รักมึง ดูแลสุขภาพด้วยนะ
>>822 เอ็นโจโกรธ น่าจะยิ้มนิ่งๆเหมือนเดิมเพิ่มเติมด้วยรังสีอำมหิตหนาแน่นที่เย็นเยียบ สังหารคู่กรณีด้วยคำพูดอย่างเลือดเย็น...
เออ จุดนี้น่าจะต่างจากท่านพี่มั้ยนะ ท่านพี่โกรธก็ลงไม้ลงมือลับๆ ด่าให้ไปเกิดเป็นสาหร่ายงี้...(หรือเพราัอีกฝ่ายคืออิมาริ? ถถถ) แต่นึกภาพเอ็นโจสภาพหลุดแบบนั้นไม่ค่อยออกเลยแฮะ 5555
จู่ๆความรู้สึกดำมืดกับคาบุรากิก็โผล่ขึ้นมา เฮ้ๆๆ นายทำแบบนั้นวาคาบะจังก็ยิ่งแย่นะเฟ้ย นี่นายกำลังพยายามสร้างศัตรูให้วาคาบะจังอยู่นะ!! เจ้าบ้าเอ้ยย
>>823 กูว่าเพราะอีกฝ่ายเป็นอิมาริว่ะ ท่านพี่ถึงกล้าลงไม้ลงมือ(แล้วอิมาริแม่งเสือกยอมให้ซ้อมด้วยนะ) แต่ถ้าเป็นคนนอกคงมาแนวๆเดียวกับที่มึงว่านั่นล่ะมั้ง ทั้งท่านพี่ ทั้งเอ็นโจคงแผ่รังสีอำมหิตดำมืด เชือดเฉือนอีกฝ่ายด้วยวาจาชนิดมึงควรไปฆ่าตัวตายซะดีกว่าจะอยู่บนโลกนี้นะ
แปลไทยล่าสุดนี้ ซีเรียสโครตๆ กูอยากจะตั๊นหน้าบากะรากิแล้วบอกว่าต้นเหตุมันก็มาจากนายล่ะเฟ้ยยย!!
เอ้อ เสนอชื่อกระทู้หน้ากันได้แล้วนา อย่าลืมว่าต้องเป็นนามมงคลนะ
อ่านตอนนี้แล้วแบบเหย ใครเคยจะมีฟิคท่านโยโกะ คาบุรากิวะ เคมีก็โอเคอยู่นะ แต่งได้55555 รู้สึกเครียดตอนอ่านไปด้วยเลย มี tension สูงโคตรๆ แต่พอเอ็นโจโผล่มานี่แบบ "มาซายะเป็น---...เห็นแก่หน้าผมเถอะ..." แล้วท่านโยโกะก็อ่อนตามอย่างง่ายดาย เอสคอร์ทออกนอกห้องอีกต่างหาก (ไม่อยากใช้คำว่าพาเลย มันดูเฉยๆ escort นี่ให้ความรู้สึกแบบ ยิ้มอ่อนโยน ถ้าไม่โค้งผายมือให้เดินนำก็ยกแขนให้ควงแล้วเดินไปส่งที่ห้อง โค้งพร้อมกับจุมพิตที่มือลา my lady อะไรทำนองนั้น แบบบรรยากาศกลายเป็นสีชมพูแล้วมีกลีบกุหลาบโปรยปรายเป็นฉากหลัง ก่อนเอ็นโจจะยิ้มขื่นๆแล้วหมุนตัวกลับชั้นม.5ไปโดยมีท่านโยโกะหน้าแดงนิดๆมองตามไป ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดแค่มโนไปเอง เอ็นโจคงไม่ได้ทำสองอันสุดท้ายแน่นอน...รึเปล่า แต่ฟีลที่เรารู้สึกคือแบบนี้555555 อันที่จริงมันก็น่าจะแค่นำออกไปอย่างสุภาพเฉยๆแหล่ะ)
ท่านเรย์กะคะ!! ได้ยินสัญญาณเตือนตรวจจับว่าที่่หัวหน้าหมู่บ้านคาสโนว่าต่อจากท่านอิมาริมั้ยคะ
ส่วนคาบุรากิกับวาคาบะจัง...สมแล้วกับแท็กเลิฟ ดูโชโจมากๆ ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปนี่แทบจะเอามือทาบอก กรี๊ดไปกับโมเม้นนี้ของพระเอกกับนางเอก แต่พอท่านเรย์กะเคยบรรยายว่าคาบุรากิไม่สนใจคนอื่นจนทำนางเอกเดือดร้อนขนาดนี้ แล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกก็เลย ฮึ่มมม (จริงๆคาบุไม่รู้ก็ไม่ผิดอะนะ เรื่องปกติของพระเอก นางเอกต้องโดนไปซักพักก่อนแล้วถึงจะโผล่มาได้ )
ส่วนเอ็นโจนี่คือแปลว่าก็น่าจะรู้เรื่องวาคาบะถูกแกล้งอยู่แล้วงี้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรป่ะ เหมือนตอนเรื่องผู้หญิงที่มาอยู่ที่ห้องเยอะๆ แถมไม่มีการเล่าให้มาซายะฟังด้วย สรุปว่าหมอนี่เป็นคนช่วยให้สองคนนี้รักกันได้ตามคิมิดอลจริงป่ะเนี่ย ดูประมาณว่า ไม่ใช่เรื่องตัวเองก็เลยไม่อยากยุ่งเท่าไหร่ (ซึ่งจะว่านิสัยแย่มั้ย ก็แย่แหล่ะมั้ง แต่ถ้าเป็นเรา เราก็อาจจะเลือกไม่ช่วยเหมือนกัน นอกจากจะช่วยไม่ได้แล้ววาคาบะยังอาจจะโดนหมั่นไส้เพิ่มจากแฟนคลับเอ็นโจ//ว่าไปนั่น ตอนแรกเขียนจะเจาะเรือว่าจอมมารนิสัยไม่ดีขนาดนี้จะให้กับ่านเรย์กะได้ยังไง แต่ไปๆมาๆก็...อดเข้าข้างไม่ด้ายย)
คนรอบข้างท่านหัวหน้าหมู่บ้านต่างก็อินเลิฟกันทั้งนั้น คาบุรากิก็ทำคะแนนได้ซักที วาคาบะจัง(?)เริ่มโดกิโดกิแล้ว แต่ท่านเอ็นโจกับท่านเรย์กะต่างก็ยังโดดเดี่ยวเหมือนเดิม รีบๆทำคะแนนซักทีสิค้าาาา
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบานพิชิตใจเธอ! [ศึกรักที่ 13]
อ่านตอนใหม่แล้ว นี่ตกลงคาบุเพิ่งรู้จริงๆสินะ ไหนว่าเป็นสตอกเกอร์ไง ทีตอนยูริเอะยังใช้ให้เรย์กะเป็นสปายให้ ทำไมทีวาคาบะไม่เห็นสนใจอะไรเลย หรือว่ายังไม่รู้ใจตัวเอง(ไม่น่าใช่นะ) จะบอกแอบๆทำให้ผู้ชายไม่เห็น แต่ถ้าเราชอบใครซักคนเราจะคอยมองตามเขาป่ะ แล้วมันจะไม่รู้เลยหรอว่าโดนแกล้งอยู่น่ะ มันต้องผิดสังเกตบ้างแหละ
แล้วตอนนี้ก็แค่โวยวาย หาตัวการไม่ได้ บอกว่าจะปกป้อง แต่คือยิ่งทำแบบนี้ไม่รู้ตัวหรอว่าไม่ทำให้ดีขึ้นแถมยังแย่ลงอีกนะ กูสงสารวาคาบะจริงๆ เอาจริงๆ คาบุไม่รู้ตัวหรอว่าวาคาบะโดนแกล้งเพราะอะไร เป็นคนฉลาดแท้ๆ ปกติก็ต้องหาสาเหตุของปัญหา แล้วก็แก้ที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุแบบนี้
ส่วนเรย์กะนั้นนน ...เป็นตัวประกอบที่ส่งเสียงแค่ประโยคเดียว สู้ๆนะคุณตัวประกอบ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิของท่านเรย์กะที่ถึงชาตินี้จะไม่มาแต่ชาติหน้าก็ไม่แน่!!! ฤดูกาลที่13
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเรยกะตัวประกอบโชโจ!!! ฤดูกาลที่13
>>834 นอกจากแค่โวยวายหาตัวคนทำแถมไม่สืบต่อ ตอนก่อนที่อยู่ในซาลอนก็ยังนั่งชิลๆจิบชาอ่านหนังสือ เรย์กะยังว่าเลยว่าไหนบอกเป็นประธานเพื่อช่วยจัดการปัญหาให้วาคาบะไง นี่สรุปแกทำอะไรไปบ้างงงงง ทำไมนิสัยแบบนี้แว๊ แล้วดูไม่พยายามตามสืบเสาะอะไรจริงจังเลย ปกติออกจะสตอล์กเกอร์ตัวจริง แถมตอนในมังงะก็ยังตามสืบเรื่องทุจริตบริษัทใหญ่อย่างคิโชวอินได้ เรื่องผู้หญิงตีกันแค่นี้ขี้ประติ๋วมากเหอะ แล้วโผล่ไปเดินด้วยนี่ตั้งใจจะช่วยหรือแค่รู้สึกแบบ อ๊ะ มีโอกาสและข้ออ้างให้เจอกันบ่อยๆละ ดีจุงงงงง รู้สึกถึงความไม่จริงใจและทุ่มเทในการช่วยเลย ต้นเหตุก็มาจากมึงแท้ๆเลยอีคาบุ
เอ็นโจก็มาแนวเหมือนรู้แต่ไม่ช่วยและไม่เอาไปบอกใครเลยอีกละ ต้องแบบปัญหาเป็นเรื่องใหญ่ลุกลามและเกิดต่อหน้าถึงจะออกหน้าช่วยไกล่เกลี่ย แต่ช่วยไกล่เกลี่ยมันก็แค่ทำให้เรื่องซาๆจบๆไปเป็นครั้งคราว ไม่ได้ช่วยแก้อะไรเลยอยู่ดีมั้ยยยย ผู้ชายเรื่องนี้นี่ดีงามกันจริงๆ
ตัวประกอบเรย์กะ สู้ๆนะะะะ ไปตามหาพระเอกตัวจริงของเธอมาให้ด้ายยย~ แต่ก่อนหน้าคือต้องตามหาแท็ก love ที่หายไปคืนมาก่อน
โหวต >>836 ดูทิ่มแทงดี 5555
อยู่กูก็คิดได้!
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ภารกิจรักฉบับไม่ลับ ผม(คานซัง)จะพิชิตใจเรย์กะจังให้ได้เลย ภารกิจครั้งที่13
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : อลวนรักยัยนักหักธงตัวร้ายกับนายเนื้อคู่ปริศนาตัวดี
>>834 กูว่าฮีรู้นะว่าวาคาบะโดนแกล้ง ตอนเสนอตัวรับตำแหน่งยังพูดเลยว่ามีคนไม่ชอบวาคาบะอยู่มาก แต่ยังจับไม่ได้คาหน้งคาเขาและไม่รู้ว่าโดนยังไง พอมาเจอเองก็เดือดตามนั้นนั่นล่ะ หรือไม่ก็โง่มาก ทื่อมาก ไม่ละเอียดอ่อนกับเรื่องพวกนี้มาก คิดว่าความรู้สึกของเราสองคนรักกันก็แฮปปี้ฟอร์เอเวอร์ทูเกตเตอร์แล้ว คนอื่นไม่เกี่ยว ไม่สน ไม่แคร์ แต่จะนิยามว่าคาบุเป็นสตอล์กเกอร์เพราะแค่ไปดักรอกลับบ้านหรือไปโรงเรียนพร้อมกันกูว่าไม่ใช่ว่ะ สตอล์กเกอร์ตัวจริงนั้น....//ผายมือไปยังคนที่คุณก็รู้ว่าใคร ติดตามเป้าหมายไม่ให้รู้ตัว สอดส่องทุกเรื่องไม่ให้พลาด รู้จนแทบไปสิงร่างเขาได้ก็คงทำ
>>846 สตอล์กเกอร์นี่น่าจะหมายถึงตั้งแต่ยูริเอะแล้วด้วยอะ เรย์กะเองยังมีหลอนกับระดับความจิตของเด็กน้อยในตอนนั้น 555 ที่รู้ว่าวาคาบะโดนแกล้งนี่ก็ตอนเรย์กะเดินไปบอกเองโต้งๆอีกตะหาก มีความแบบอะไรของมึงเนี่ยนิดนึง ถ้าเรย์กะไม่บอกคือไม่รู้ นี่ชอบเค้าประสาอะไรฟระ แถมขนาดรู้แล้วก็ไม่พยายามทำอะไร แบบต่อให้ไม่รู้ว่าใครทำ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะสืบยาก หรือทำยังไง โดนแกล้งอะไรบ้าง สนใจหน่อยก็รู้ได้ละ มีความรู้สึกเซ็งกับนางมาก ทำหน้าเหม็นเบื่อ /เบะปากใส่ ไม่ได้เรื่องเลย
น่าจะรู้แค่ว่ามีคนไม่ชอบวาคาบะ แต่เรื่องแกล้งกันไม่รู้
คิดว่าสังคมคาบุไม่น่าจะเคยสัมผัสเรื่องการกลั่นแกล้งกันไรพวกนี้หรอก ขนาดแค่เรย์กะองค์ลงใส่ซึรุฮานะยังทำหน้าตารังเกียจจะตาย ตัวเองตอนยูริเอะก็ไม่เห็นมีอะไร(ก็แหงซิ!) เลยไม่คาดคิดว่าวาคาบะจะถึงขั้นโดนแกล้งขนาดนี้
(ทึ่มทื่อแบบพระเอกละครไทยชะมัด)
>>847 ก็นั่นแล้ ที่กูบอกว่าจะนิยามฮีว่าเป็นสตอล์กเกอร์ เห็นทีจะไม่ใช่ว่ะ อย่างคาบุมันก็เป็นได้แค่เด็กน้อยที่คอยไปตื๊อๆให้เขารำคาญแบบแมงวันแมงหวี่เท่านั้นล่ะ แต่ความเป็นสตอล์กเกอร์ยังห่างไกลหลายขุม
คาบุมันเอาตัวเองเป็นที่ตั้งเกินไป ตอนยูริเอะก็ไม่ได้พยายามเข้าใจเขาหรอก ต้องให้ถูกโกรธก่อนถึงจะใช้เรย์กะไปสืบ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าโกรธทำไม คือฮีไม่ได้คิดว่าตัวเองผิดด้วยซ้ำ พอมาวาคาบะก็ซ้ำรอยเดิมเข้าไปอีก ไม่ได้คิดว่าต้นเหตุมาจากตัวเองด้วยซ้ำ
กรณีเรย์กะต้องไปปะฉะดะกับซึรุฮานะก็เหมือนกัน แค่กูไม่สนว่าอีนี่จะมาวอแวอะไรรอบๆ กูก็อยู่ของกูแบบนี้ ลอยตัวเหนือปัญหาจย้าาา ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุแม้แต่นิดเดียว ต้องให้เรย์กะไปตบเกรียนถึงที่ถึงจะมีสำนึกขึ้นมานิดนึง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าผิดอะไรมากมายอยู่ดี
อ่านแล้วรู้สึกผู้ชายเรื่องนี้นอกจากท่านพี่แล้วพึ่งพาไรไม่ได้ ไปเถอะสาวๆลงเรือยูริกัน...
>>849 ถึงได้เคยมีคนบอกว่าที่คาบุเข้าใจว่าตัวเองชอบเค้า ที่จริงอาจจะไม่ใช่รึเปล่า แบบถ้าชอบมันจะต้องใส่ใจ แคร์ความรู้สึก คือต้องสนอยู่แล้วว่าเค้าจะคิดยังไง อันนี้โอมั้ย แบบนี้จะไม่โอรึเปล่า สนใจชีวิตความเป็นอยู่เค้าว่ายังสบายดีปกติทุกประการ ถ้าชอบมีแต่จะกังวลๆคิดอะไรล่วงหน้าไปเยอะด้วยซ้ำ และส่วนใหญ่มักกังวลอะไรทางลบ มันคือกลไกสมองและเรื่องระบบประสาทเลย อะไรที่เรารู้สึกสำคัญมากๆจะชอบจินตนาการความเป็นไปได้ทางลบ เพราะมันคือการป้องกันตัว แบบป้องกันทุกความเป็นไปได้ที่อาจเกิด ขนาดความทรงจำยังจำเรื่องไม่ดีแม่นกว่าเลย เพราะจำเป็นกับการเอาชีวิตรอดมากกว่า แบบเบสิคสมองเลยอะ ไอแบบไม่คิดเลย ไม่กังวล คิดว่าทุกอย่างโอเคแน่นวล ไม่ได้สนใจความรู้สึกอีกฝ่ายเท่าไหร่ จะตอนยูริเอะจะวาคาบะก็ไม่ต่าง มาแนวชั้นจะทำยังงั้นยังงี้ ชั้นอยากไปส่ง คือเอาตัวเองเป็นหลักแล้วพยายามไปควบคุมอีกฝ่ายให้ไปตามความต้องการของตัวเอง ดูยังไงก็แบบ เอ๊ะ ใช่หรา ชอบของมันนี่ความหมายเป็นยังไงฟระ อีกฝ่ายต้องได้ดั่งใจเรอะ
จะว่าเป็นคนไม่ใส่ใจอะไรคนอื่นเลยก็ไม่ใช่นะ ทีตอนจะเป็นประธาน pivoine ยังคิดเผื่อไปได้ว่าเรย์กะจะไม่พอใจรึเปล่า เผื่อเรย์กะจะเล็งเอาไว้อยู่ แล้วทำไมสถานการณ์อื่นโดยเฉพาะกับคนที่ชอบถึงไม่มีคิดเผื่ออะไรเลยวะ ดูแบบค่อนข้างไปทางครอบงำ ลากๆๆจับยัดใส่รถ คือไม่ใช่ตุ๊กตานะเว่ย แล้วตอนยูริเอะกับวาคาบะก็แนวลากไปยัดใส่รถทั้งคู่ คืออัลไลลลล แล้วแบบไม่ฟังเสียงไม่ฟังความเห็นอีกฝ่าย
กับตอนยูริเอะไม่ใช่ไม่มีปัญหานะ คือไม่ได้โดนแกล้งก็จริงแต่ก็มีเรื่องคนมารบกวน ก็ไล่ตะเพิดกระจุยกระจายหมด ยังดูแบบมีรีแอคชั่นอะไรนิดนึง นี่คือเงียบกริบเป็นเป่าสาก นิ่งสนิทททท กูอ่านแล้วจับสังเกตเรื่องคาบุวาคาบะมากเพราะกูตงิดใจตั้งแต่ในมังงะคิมิดอลที่เคยพูดถึงละด้วย ที่สุดท้ายเหมือนความรู้สึกต่อวาคาบะคือยังเทียบยูริเอะไม่ได้ ยิ่งพอไม่มีตัวร้ายมากระตุ้นยิ่งนิ่งเข้าไปอีก จนแบบในมังงะที่ชอบเพราะคอยปกป้องจนชินด้วยรึเปล่าฟระ เพราะคนชอบกันจริงๆจะไปพูดอะไรแบบตอนร่ำลายูริเอะได้ไงอะ แถมพูดต่อหน้าอีก คือผงะมากสำหรับกู จนมีคนบอกว่าเอ๊ะ คาบุมันเข้าใจจริงๆใช่มั้ยว่าชอบคืออะไร เท่านั้นแหละจ้าาาา รู้สึกกระตุกเฮ้ยทันที
>>850 ท่านพี่ อิส เดอะ เบสต์~~~~ ตลอดกาลลล
มีใครรู้สึกเหมือนกูมั้ยว่าพอยุยโกะออกทีไรมันก็มีเรื่องทำให้ความสัมพันธ์ตัวละครเปลี่ยนไปทุกที.. แบบจะว่าไงดี เรื่องเข้มข้นขึ้นปะ?
>>848 ตอนซึรุฮานะจากที่อ่านนี่เดาว่ารังเกียจเพราะเอาอำนาจทางบ้านมาข่มขู่ว่ะ เพราะคนอื่นในโรงเรียนมีปัญหาอะไรกันคือไม่เห็นคาบุจะมายุ่งอะไรเลยนะ แบบถ้าเรย์กะไปข่มด้วยตัวของตัวเองก็อาจจะไม่อะไร แต่พอเอาที่บ้านมาขู่ และพูดแบบจะเดือดร้อนไปถึงที่บ้านซึรุฮานะด้วย อันนี้เริ่มดูใช้อิทธิพลทางไม่ดีละ ถึงที่จริงเวลาเค้าเกรงใจคนใน pivoine กัน ควมถึงตัวคาบุเองด้วย ส่วนนึงจะกก.ทางบ้านด้วยก็เหอะ แต่ก็ไม่ได้มีเอามาใช้กันโต้งๆอะ เด็กทะเลาะกันแต่จะให้เดือดร้อนไปถึงพ่อแม่ครอบครัว คาบุที่มาแนวทื่อๆตรงๆคงไม่ชอบอันนี้มากกว่า คงไม่รู้ด้วยว่าอย่างเรย์กะก็ขู่ไปงั้นแหละะะะ
>>851 อ่านแล้วเพ่งเล็งประเด็นเดียวกับกูเลยอะ ตรงฉากบอกลายูริเอะ ความสัมพันธ์สามคนนี้ในมังงะมีความโชโจมากกก คือชอบมีอะไรคลุมเครือให้นางเอกบ้านๆรู้สึกไม่มั่นคงกับพระเอกไฮโซ และคนทีาพระเอกเคยชอบ ประเด็นปวดตับอมตะมากกก อ่านแล้วก็สงสัยเหมือนกันว่าสุดท้ายก็คือชอบยูริเอะใช่มั้ย แค่ว่าเค้าไม่เอา แต่ถ้ายูริเอะเลือกจะกลับมานี่โผไปหาทันทีเลยรึเปล่าเนี่ย พูดมาซะขนาดนั้น
>>855 เสริมว่าในนิยายตอนนี้เรื่องยูริเอะดูจะจบแบบจบสนิทไปมากกว่าในมังงะด้วยอะ ที่ในมังงะเป็นฉากเฮิร์ทระเบิดอารมณ์ แล้ววาคาบะไปปลอบ จากนั้นก็เริ่มสนใจวาคาบะ แต่สุดท้ายก็ยังมีไอฉากบอกลานั่น... รู้สึกเหมือนมันไม่ใช่การจบปัญหายูริเอะสลัดรักที่จบจริงๆ มันยืดเยื้อ
แต่ในนิยายคือดูจบจริงๆ และจบที่เรย์กะอกหักโชว์ แถมยังทำใจยอมรับแล้วร่วมอวยพร โชว์ความแข็งแกร่งมากต่อให้เป็นเรื่องที่คาบุเข้าใจไปเอง 555 มันดูแบบคนอื่นเค้าก็ผ่านมันไปได้ คนอื่นก็เจอเรื่องแบบนี้ แล้วมันดูจบปัญหามากกว่า แถมประโยคในตอนบอกลายูริเอะก็พูดไปละในตอนเต้นรำ แถมความรู้สึกอัดแน่น พิเศษจนแค่เธอขอก็จะไปทันที มันไม่มีประโยคนั้นละ แบบดูจบจริงๆ
กูชอบคนสไตล์เอ็นโจนะ คือ รู้แต่ไม่สนใจจะยุ่ง อารมณ์แบบถ้าไม่ใช่เรื่องคนที่ตัวเองแคร์ถ้าช่วยผิวๆก็ได้ แต่ให้โดดลงไปกลางวงแบบฮีโร่นี่ไม่เอา เรย์กะกับเอ็นโจก็พอกันในจุดนี้ล่ะ ช่วยเงียบๆบางครั้งอ่ะ อย่าไกล่เกลี่ยนี่กูก็ถือเป็นการช่วยอย่างนึงนะ ถ้าไม่ไกล่เกลี่ยนี่โรงเรียนแตกแน่มึง 555 จริงเอ็นโจน่าจะไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นเท่าไหร่ แค่เสือกเรื่องคนอื่นเฉยๆ น่าจะมีแคาคาบุกับเรย์กะมั้งที่น่าจะยุ่งสุด ไม่งั้นยุยโกะคงไม่พยายามมาแสดงจุดยืนหรอก
>>851 ชอบก็คือชอบ แต่ก็เป็นไปในลักษณะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งอยู่ดีน่ะ ก็มาแนวพระเอกโชโจบ้านรวย มีอำนาจ
เคยชินกับการออกคำสั่งและพยายามควบคุมนางเอกหัวอ่อนให้คล้อยตามนั่นล่ะกูว่า ไม่ได้มองว่าเขาเท่าเทียมกับตัวเองหรือมีหัวจิตหัวใจอะไร
เรื่องยูริเอะ นางเป็นคนดังน่ะ คนมาจีบคือเรื่องใหญ่พอสมควร ฮีรู้ข่าวก็บึ่งไปอาละวาดทันที แต่วาคาบะทุกคนปิดข่าว วาคาบะก็ไม่เล่าอะไร ฮีไม่รู้อะไรเลย ทั้งทึ่มและโง่สุดๆ
ส่วนเรย์กะ...กูมองว่ามันมีหลายปัจจัยว่ะ เรย์กะอยู่ในฐานะเท่าเทียมกับฮี ไม่ใช่พวกที่จะบังคับคอนโทรลได้ คิดว่าเรย์กะอาจจะอยากได้ตำแหน่งแล้วไปแย่งมา ถ้ามีปัญหาตามมาอีกมันจะยุ่งยากเข้าไปใหญ่ ก็ถามซะให้แน่ใจว่าถ้าจะเอาตำแหน่งไปจะมีปัญหามั้ย เหมือนที่ถามทุกคนในสโมสรนั่นล่ะว่าเป็นผมนี่ติดขัดอะไรงั้นเหรอ มาแนว กุจะเอา ใครข้องใจหรือมีปัญหาก็เชิญออกมาเคลียร์ได้
>>857 จริงๆเรื่องวาคาบะกับเรื่องคาบุทะเลาะกับโยโกะซังก็เรื่องเดียวๆกันอยู่นะ คือแบบมันเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องไปที่คาบุอะ ถ้าเคยรู้มาก่อนหน้านี้อาจจะไปวี๊ดทะลุปรอท จริตแตกแบบในเรื่องจนมาคุกับโยโกะซัง คือเหมือนมันมีทางป้องกันหรือแก้ได้แต่บอกไป ไม่ได้ต้องออกหน้าอะไรเองเลยอะ แค่เล่าเงี้ย คู่นี้ชอบทำปัญหาคาราคาซังพอกันจริงๆ
แต่เอาจริงเรื่องนิสัยนี่มีปัญหากันหมดจริงว่ะ คาบุในมังงะกูให้เลยเน้นๆตัวโตๆ ว่าลังเล กับดูความรู้สึกมันไม่หนักแน่นมั่นคง คาบุปจบ.กับเอ็นโจปจบ.ก็นิสัยมีปัญหาเห็นชัดๆกันอยู่
นี่เหมือนอ่านมาหลายๆคนเริ่มโดนกล่อมด้วยประเด็นผู้ชายในเรื่องนิสัยแย่ โฮวววววว จะมีใครเหมาะกับเรย์กะม่างงงง ;A;
ถ้าสมมติว่า เรย์กะเป็นประธาน Pivoine แล้วเจอเหตุการณ์ในตอนแปลล่าสุดนี่ เรย์กะจะทำยังไงวะ...
>>858 คนมารบกวนนี่กูหมายถึงพวกผู้หญิงนะ ที่คอยไล่ไปหมดเป็นระยะ ตวาดใส่ก็เคย คือต้องรู้อยู่แล้วมั้ยอะว่าตัวเองป๊อบขนาดนี้ ขยับไปทางไหนผู้หญิงต้องมีมายุ่ง กับยูริเอะยังเจอแก๊งชะนีมาป้วนเปี้ยนเลยแล้ววาคาบะจะไม่โดนได้ไง
ส่วนถ้าเรย์กะฐานะเท่ากัน แล้วยูริเอะนี่ไม่เท่ากันหรอมึง รู้จักกันแต่เด็กคือทางบ้านคงใกล้ชิดกันอีกตะหาก แบบมันก็ไม่ใช่ประเด็นเรื่องสถานะล้วนๆอะ อาจจะปนบุคลิกหรืออะไรก็ตามแต่ แต่ก็แบบไม่ค่อยให้เกียรติยูริเอะเลยอยู่ดี อย่างน้อยฟังกันบ้างนี่แบบลากยัดเข้ารถไม่ต่างจากเคสวาคาบะ ส่วนถามว่ามีใครขัดข้องมั้ยตอนเลือกนี่ต้องถามอยู่แล้วอะ เพราะจริงๆมันต้องโหวตเลือกกัน อย่างเรย์กะคือเป็นแคนดิเดทที่โยโกะซังจะเสนอชื่อ แบบเป็นคนที่เลือกมาแนะนำให้เฉยๆ มันต้องโหวตด้วยสมาชิกอยู่ดี แต่คาบุนี่มาแบบมึงไม่โหวตเลยจ้าาาา ก็เลยถามไปแบบนั้น บังคับกรายๆอยู่ดี
เพิ่งกลับเข้ามาอีกรอบหลัง ถึงได้รู้ว่าโม่งแปลกลับมาแปลต่อแล้ว ดีใจจริงๆว่ะ มีไรอยากบอกโม่งแปลสักหน่อยด้วย เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้โพสต์ไรเลย ไม่ค่อยว่างน่ะ
ถึงโม่งแปล
กูดีใจนะที่มึงกลับมาแปลให้อ่านต่อ ภาษามึงดีอ่านสนุกจริงๆ มีเสน่ห์มาก กูทำงานแปลหาเลี้ยงชีพ แต่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น อ่านแล้วยังคิดเลยว่าภาษาตัวเองจะดี อ่านแล้วได้อารมณ์เท่าของมึงหรือเปล่า ถ้าต้องมาแปลเรื่องแนวเดียวกัน เข้าใจว่ะเรื่องที่ไม่สบายใจกับการแปลแบบไม่มี lc อยากบอกว่าทำตามที่สบายใจเถอะนะ (แต่แปลให้กูอ่านต่อจนจบได้จะเป็นพระคุณมาก ฮ่าๆๆ) ขอบคุณมากๆเลยที่สละเวลาและความเหนื่อยยากมาแปลให้อ่าน
>>863 ก็เรย์กะฐานะเท่ากัน ในความหมายของกูคือ คนที่มีอะไรเท่าเทียม เทียบเคียงกันได้ เหมือนเอ็นโจน่ะ เป็นคนที่มันให้การยอมรับ นอกนั้นไม่อยู่ในสายตาเลยมั้ง
แต่กับคนที่คาบุมันชอบ มันจะตีค่าเขาเป็นรองตัวเองตลอด ตั้งแต่ยูริเอะแล้ว ออกแนว ฉันคิดว่าดีก็คือดี เธอทำตามฉันซะห้ามมีปากมีเสียง แล้วเรื่องสาวมากรี๊ดๆมัน มันก็รู้ แต่ก็แล้วไงใครแคร์ กูไม่สน อยากกรี๊ดก็กรี๊ดไป ไม่มีความสำคัญไม่มีค่าให้ใส่ใจ ครบสูตรพระเอกโชโจมังงะเลยนะ หล่อ รวย ป็อบสุดในโรงเรียน ซื่อบื้อ ไม่เห็นหัวใคร คลั่งรักนางเอก เอ็นโจก็ครบสูตรเพื่อนพระเอกเหมือนกัน
ถ้าเรย์กะคบกับสองคนนี้ไม่คนใดก็คนหนึ่งนี่ต้องอึดอัดแน่ๆ คบกับคาบุก็คงรำคาญความเอาแต่ใจ คบกับเอ็นโจก็โดนรู้ทันตลอด แต่ก็ไม่แน่อาจจะสวีทหวานก็ได้55555555
>>867 ถึงได้บอกสงสัยว่านี่มันชอบจริงๆรึป่าวไง ถ้าพูดอีกอย่างคือคาบุมันเข้าใจคำว่าชอบว่ารักจริงๆรึป่าวว่าต้องเป็นความรู้สึกแบบไหน เพราะไอแนวจับเค้ามาอยู่ข้างๆแต่สมองไม่ต้องมา ปากเสียงไม่ต้องมี คือมันแทบจะพอๆกับไปหาตุ๊กตาแปะหน้าไปก็พอ ไม่ได้สนอะไรที่เป็นตัวตนอีกฝ่ายเลยอะ แค่ไม่ฟังนี่ก็จะรู้จักกันดีขึ้นได้ยังไง คือในโชโจมังงะมันได้ไง แต่ความเป็นจริงคือแบบไม่มีทางงงงง และในนิยายก็เหมือนเล่นประเด็นหลายเรื่องที่ชี้ไปที่จุดอ่อนความเป็นมังงะ ที่ชีวิตจริงมีหลายๆอย่างไม่ตรง และมันดูเรียลขึ้น คือเหมือนตอนนี้ที่เรย์กะอยู่ก็โลกเรียลๆที่ไม่โชโจอะ กูเลยเพ่งเล็งประเด็นคาบุวาคาบะอยู่ดี ว่าแบบถ้าไม่เปลี่ยนท่าทีและทัศนคติต่อกันซักวัน ยังไงก็ไม่รู้สึกว่านี่คือชอบ หรือไม่ก็คงต้องมีคนอื่นที่โผล่มาเป็นตัวเปรียบเทียบเรื่องความใส่ใจหน่อยถึงจะรู้ตัวว่ามันใช่ความชอบหรือไม่ใช่กันแน่ ยังไม่นับรวมประเด็นว่าถ้าสองคนนี้ต้องคู่กันเพราะเป็นปมสืบเนื่องมาจากมังงะว่าลงเอยเข้าคู่ แต่มังงะก็มีประเด็นยูริเอะตามที่บอก ที่ดูชอบวาคาบะไม่เท่ายูริเอะ คือก็เหมือนถ้าเซตติ้งคงที่จบแบบเดิม ผลลัพธ์คือความรู้สึกต่อวาคาบะน้อยกว่ายูริเอะ แต่ตอนนี้ก็อะไรสารพัดมันเปลี่ยนหมดแล้วอะ เหมือนถ้าเป็นบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค นี่มันคงมีเรื่องรอให้เอฟเฟคโคตรเยอะ มันไม่น่าเป็นแบบเดิมละ และที่จริงแบบเดิมก็ดูไม่ใช่บทสรุปแฮปปี้ด้วยในสายตากู แบบดูหน่วงไงไม่รู้
ใครจะไปรู้ว่าสุดท้ายคนขึ้นคานอาจจะคาบุก็ได้นะ 5555 ถ้าแบบไม่รู้จักความชอบความรัก และไม่เข้าใจอะไรใครเท่าไหร่แบบนี้ คานรอมึงอยู่เลยถ้าเป็นเรื่องชีวิตจริงหน่อย ถ้าแต่งก็แต่งทางธุรกิจมากกว่า แต่ทั้งนี้ในเรื่องคือมีจุดเปลี่ยนจากมังงะเยอะจนกูไม่คิดว่าคาบุกับวาคาบะจะเป็นคู่จบแบบเดิมอะ
>>863 กูว่าคาบุน่าจะชอบจริงอยู่นะ โครงเรื่องเดิมคือวาคาบะปลอบใจรึเปล่านะกูไม่แน่ใจ แต่ในนิยายเจอกันตอนรถชนซึ่งเรย์กะแปลกใจแสดงว่าไม่น่าอยู่ในมังงะ บางทีคาบุคงสนใจในตัววาคาบะจริงแล้วค่อยๆชอบมั้ง ส่วนเรื่องนิสัยเผด็จการนี่ จากการเลี้ยงดูมากกว่า ไอ้พวกมาตรฐานสูงนี่จากการใช้ชีวิตอ่ะ เนื้อเรื่องน่าจะค่อยๆปูให้ปรับจูนกัน จริงๆจะให้คาบุลดมาตรฐานตัวเองฝ่ายเดียวคงไม่ได้ น่าจะต้องปรับกันหมด ถ้าเอาความคิดวาคาบะมากับชนชั้นสูงคงโดนดูถูกเหมือนกัน
>>870 ในเรื่องมันก็ไม่ได้บอกนะว่าคาบุมันรักวาคาบะน้อยกว่ายูริเอะ ไอ้เรื่องที่วาคาบะคิดว่าเขายังรักยูริเอะอยู่ กูมองว่าเป็นปมให้แก้ความเข้าใจผิดตามการ์ตูนโชโจนั่นล่ะ ถ้าแก้ปมนี้ได้ ความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นมากขึ้น ตามสูตรโชโจ
แต่ความรักคาบุในมังงะเนี่ย เอาตามมาตรฐานโชโจก็...ยูริเอะคือความผูกพัน เป็นสายใยที่ตัดไม่ขาด ส่วนวาคาบะคือความรัก พอมาเป็นนิยายก็ไม่รู้จะเปลี่ยนไปทางไหน บอกยาก ถ้าคาบุมันยังไม่เลิกนิสัยเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง มันได้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านคานทองสาขาสองแน่ๆ
ผู้ชายที่นิสัยดีๆและยังว่างมีอยู่นะเฮ้ย อาริมะไง แต่บท.... บทน้อยไปไหน... //พายเรืออย่างเงียบงัน
เออ อีกอย่างนะ กูว่าอย่าเพิ่งไปตีความเลยว่ามันจะไม่รักไม่ชอบวาคาบะ คือ วาคาบะเข้าไปอยู่ในสายตามันได้ ก็ต้องมีอะไรดึงดูดให้มันสนใจนั่นล่ะ วาคาบะนางก็น่ารักนะ คนอ่านอย่างเราๆยังชอบเลย แล้วคาบุที่ได้ใกล้ชิดกว่า เห็นมากกว่าคนอ่านจะไม่ชอบเหรอ
รักมันก็มีหลายรูปแบบว่ะ ไม่ได้มีมาตรฐานเดียวซักหน่อย ไอ้เรื่องรักเขาชอบเขาก็ใส่ใจเทคแคร์ กูก็เห็นคาบุมันทำอยู่นะ อย่างอยากดูมายากลก็ไปฝึกมาให้ดู ไม่ชอบเขาจะลงทุนขนาดนั้นเหรอ มันอาจจะโง่ ไม่รู้ว่าเขาถูกแกล้ง เพราะไม่มีใครไปบอกฮี แต่พอฮีรู้ก็พยายามแก้ไขปัญหาในแบบของฮีที่ดูเหมือนคิดน้อยไปหน่อยน่ะ คงเป็นที่นิสัยที่ต้องค่อยๆปรับจูนกันไป
>>873 มันมีตอนบอกลายูริเอะอะ ที่มีอะไรแบบถ้ามีอะไรขอแค่บอกมา ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนฉันจะไปอยู่ข้างๆทันที อะไรแบบนั้น จำประโยคเป๊ะๆไม่ได้แต่จำได้ว่าเนื้อหาในประโยคอ่านแล้วกูค้าง แถมมีต่อที่เป็นบรรยายความคิดวาคาบะในมังงะด้วยว่ากังวลๆ แล้วก็มีคิดว่าสุดท้ายแล้วเค้าก็ยังชอบคุณยูริเอะอยู่สินะ คือกูรับไม่ได้อย่างแรงงงง แบบถ้าสองคนนี้จะลงเอยกันในฟีลหน่วงขนาดนี้ วาคาบะไปหาคนอื่นเหอะ กูเกลียดพวกโลเล หรือไอแบบตัวอยู่ตรงนี้ แต่ยังมีแบ่งใจไปตรงอื่น ตบกระเด็น คือไม่อยากให้คู่นี้ลงเอยกันเพราะในมังงะสำหรับกูไม่ได้มองว่าจบแฮปปี้เลยอะ คือถ้าไม่รู้สึกอะไรกับยูริเอะ ในมังงะที่คาบุมาดนิ่งๆเย็นชา คงไม่ต้องพูดอะไรเลี่ยนๆแบบนั้นออกไปมั้ง จะร่ำลาก็ไม่จำเป็นต้องเลเวลนี้อะ คือตอนนี้จากนิยายกูอยากให้คาบุเนี่ยแหละสืบทอดทายาทอสูร เป็นหัวหน้าหมู่บ้านแทนเรย์กะ แล้ววาคาบะคือจบกับคนอื่นเหอะะะ ดูอนาคตไม่โอเค ยังคิดว่าจริงๆบทสรุปที่ควรเป็นของวาคาบะทั้งทางฐานะสังคม บุคลิก ความสนิท เหมือนน่าจะเป็นตัวสำรองมากกว่าอีกนะ คือรวยแต่ไม่ไฮโซเก่าแก่ ผู้ดีมากขนาดเป็น pivoine ยังดูจูนกันง่ายกว่าเลย ส่วนเรย์กะเป็นบัค... คงต้องหาเส้นทางชีวิตเอง สู้นะตัวประกอบ!!!!
>>877 บทพูดฉากนั้นคือ "ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น โทรหาชั้นทันทีเลยนะ ชั้นจะไปช่วยเธอในทันทีไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนก็ตาม"
แต่ฉากลายูริเอะในมังงะมันก็ไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนี่ กูว่าน่าจะกลางเรื่องด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นฉากพีคความเข้าใจผิดของนางเอกให้ผิดใจกัน เพื่อปรับจูนความคิดกันทั้งสองฝ่าย สร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นมากว่า
>>877 กูมองว่าเป็นปมที่หยอดทิ้งไว้ว่ะ เกิดคนเขียนมุกตันก็หยิบตรงนี้มาเล่นต่อได้ ยืดเรื่องได้ และไอ้ปมที่หยอดๆมาแล้วคนเขียนไม่หยิบมาใช้ก็มีอยู่เยอะแยะไป ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องนี้นะ
กูว่าในมังงะคิมิดอลหลังจากบอกลายูริเอะ นางก็ไม่ได้เข้ามามีบทบาทอะไรอีกนะ ตามมังงะโชโจทั่วไป คือไปแล้วไปลับ โผล่มาตอนท้ายๆกำลังจะแต่งงานอะไรแบบนี้
กูยังสนับสนุนคาบุกับวาคาบะนะ คนนึงล้น คนนึงเกิน ลูกออกมาคงพิลึก 555
>>883 มันไม่มีบอกมั้งว่าอยู่ตรงไหน แต่ดูจากเป็นตอนยูริเอะจะปล่อยตัวเองเป็นอิสระจากทางบ้าน คือจะไปทำงานเมืองนอก อย่างน้อยก็ยาวไปยันจบมหาลัยแล้วอะ อาจจะทำงานก่อนแล้วรึเปล่าด้วยก็ไม่รู้ แต่ขั้นต่ำคือจบมหาลัยชัวร์ๆ ไม่น่าจะเรียกกลางเรื่องเท่าไหร่นะ รู้สึกค่อนไปทางท้ายๆเลยยังไงไม่รู้
>>888 อันนี้ไม่ใช่ฉากจบป่าว ฉากจบคงไม่ซูมตัวร้าย แล้วเหมือนอีเว้นท์นางร้ายอาละวาดยันโดนจัดการนี่จบตั้งแต่ในช่วงม.ปลายแล้วนะ เพราะตอนคาบุไปหาหลักฐานก็เป็นเด็กม.ปลาย กระบวนการศาลสั่งห้องล้มละลายคงไม่นานขนาดนั้น คิดว่าในมังงะเรย์กะหมดบทตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ
>>885 อันนี้ก็ไม่ได้มีตรงไหนเล่าถึงว่ะว่าจะมีบทอีกมั้ย แต่เอาแค่ที่มีบรรยายคือกูไม่โอเคกับคู่วาคาบะคาบุอะ แล้วยิ่งมีเรื่องมาดามยอมรับและต้องปรับตัว ชีวิตจริงรู้สึกมันยากมากเหอะ คนอื่นในสังคมและเรื่องปลีกย่อย มีความหน่วงมากแบบมันดูไกลกันเกิน รู้สึกเหนื่อยเลยหันไปเชียร์ตัวสำรองวาคาบะแทน
แล้วกูจะเปิดแอปมังงะเพื่อหาคิมิดอลมาเปิดพิสูจน์ทำไมวะเนี่ยยยย /ทึ้งหัว
ฉากจบในคิมิดอลนี่เป็นไง กูจำได้แค่คิโชวอินล้มละลาย
>>889 เพิ่มว่ามันมีตอนคาบุกับเรย์กะคุยกันถึงขนมวันไวท์เดย์ที่เรย์กะได้มาจากรุ่นพี่โทโมเอะกับคาซึมิอะ ที่เอารสพีชไล่มารให้คาบุไป คือขนาดไมฮามะยืนอยู่ด้วยยังตามไม่ทัน แล้วแบบเหมือนไม่รู้จักว่าขนมชื่อนี้คืออะไร คือขนาดไมฮามะก็รวยพอเข้ายูริมิยะได้ยังมีแกปทางสังคม ถ้าวาคาบะจะขนาดไหน
>>890 มีพูดถึงเรื่องคาบุกับวาคาบะเข้ามหาลัยด้วยนะ หลังผ่านมรสุมช่วงม.ปลาย เหมือนเป็นช่วงเล่าอะไรเนิบๆและที่บ้านคาบุเริ่มยอมรับ เลยไม่รู้ว่าอารมณ์ side story ส่งท้ายเปล่า แต่คือไม่ได้จบม.ปลายอะ แล้วยูริเอะไม่ใช่วางแผนนะ เป็นแบบไปส่งที่สนามบินแล้วพูด คือนางต้องจะไปละ ต้องเรียนจบแล้วอะ
แต่สุดท้าย กูว่าในการ์ตูนมันก็คงจริงจัง ตัวละครสมจริงอะไรขนาดนั้นหรอกนะ กูว่ามันก็โชโจมังงะใสๆป๊อปปี้เลิฟแบบเด็กๆมอต้นมอปลายอ่านอะ อะไรก็หยิบจับเข้ามาได้ แบบโอรัง มีเครียดพอเป็นพิธี 55555
(นิยายนี้ก็ด้วย บางทีคนเขียนอาจจะไม่จริงจังเท่าที่วิเคราะห์กันอยู่ก็ได้ ประเด็นต้นเรื่องก็ตั้ง 5ปีที่แล้ว อาจจะลืมๆไปแล้วก็ได้ว่าเคยเขียนว่าไรบ้าง 5555555)
>>893 เรื่องคาบุวาคาบะเข้ามหาลัย กูว่าคงเป็นบทแถมท้ายว่ะ ตามสเต็ปความรักในรั้วโรงเรียน แบบ...เลิฟๆแล้ว อุปสรรคหายไปแล้ว หวานชื่นสวีทกันแล้ว แต่ปมทุกอย่างมันก็ขมวดเข้าหากันในตอนจะจบม.ปลายนี่ล่ะ แล้วนิยายก็คงเดินปมไปตามนั้นเหมือนกัน
แต่ยูริเอะเรียนจบแล้วจะไปเมืองนอก กูว่านางวางแผนอนาคตตัวเองมานานแล้วนะ แค่ไม่มีบอกให้เห็นเป็นกิจลักษณะเฉยๆ ไม่งั้นทางบ้านนางไม่คัดค้าน แต่คาบุพาไปส่งสนามบินเนี่ย กูไม่แน่ใจว่ายูริเอะไปเองหรือคาบุไปช่วยไว้นะ ขี้เกียจไปเปิดดู
>>896 จำได้ว่าคาบุพาวาคาบะไปส่งที่สนามบินด้วย และรู้สึกว่าคาบุเองก็ช่วยพูดกับทางบ้านเหมือนกัน แต่ประเด็นก็คือไปส่งพร้อมวาคาบะและพูดต่อหน้าวาคาบะเนี่ยแหละ แบบเอ๊อะทันที
>>895 เรื่องนี้กูว่าคนเขียนมีซ่อนประเด็นเยอะนะ แค่เล่าเรื่องด้วยตัวเดินเรื่องที่เอื่อยยย เฉื่อยยยย ชิลลลล แต่แบบมีประเด็นและรายละเอียดเยอะมากกกก ดูเขียนแบบตั้งใจใส่รายละเอียดสุดๆ ค่อยๆโยงกัน จริงๆแลดูเป็นพวกชอบทำอะไรซับซ้อนอยู่เหมือนกัน 555 เพราะนิยายจะใส่รายละเอียดเยอะโคตรๆแล้วถักทอให้มันเชื่อมกัน เหมือนนอกจาก POV ของตัวเดินเรื่อง ก็มีเหตุการณ์มากมายเกิดอยู่รอบตัวเหมือนชีวิตจริง คือเขียนโคตรยากเลย ไม่เหมือนเรื่องปกติที่ก็โฟกัสแค่ตัวเดินเรื่อง เพราะคนเขียนจินตนาการสร้างอีกจักรวาลขึ้นมาละเอียดยิบไม่ไหว ไทม์ไลน์ต้องเป๊ะอีกตะหาก คือใส่มาขนาดนี้คงไม่ใช่ปล่อยผ่านๆอะ แค่ว่าจะมีจับจุดไหนมาโชว์ในมุมมองหลักในตอนไหนบ้างแค่นั้น แต่จากเรื่องที่เดินผ่านๆมาหลายจุดมันก็ดูเกี่ยวเนื่องกันไปหมดนะต่อให้เป็นจุดยิบย่อยของตอนนี้ ในอีกหลายๆตอนถัดไปอาจจาดึงประเด็นออกมา คือเป็นเรื่องที่เขียนมาอลังการมาก /คารวะมันสมองฮิโยโกะซัง 3 จอก
>>897 เอามายกตัวอย่างว่าเรื่องขนมยังมีประเด็นเลยไง คิดว่าเรื่องอื่นไม่มีหรอ แล้วขนมนั่นคือโทโมเอะ คาซึมิ เรย์กะ คาบุ ก็รู้จักกันหมด มันดูมีความเป็นช่องว่างเหมือนกันระหว่างซุยรันกับเด็กที่อื่น แบบสังคมมันต่างอะ ทีนี้ถ้ามันไม่เป็นประเด็น ไม่พยายามสื่อ ฮิโยโกะซังจำเป็นต้องใส่ฉากที่ไมฮามะร้องเอ๋ พูดถึงอะไรกัน เข้ามามั้ย คือไม่จำเป็นต้องมีบทพูดนี้เลย ข้ามไปเลยก็ได้ให้นางไร้บทไปช่วงนึง หรือพูดอย่างอื่น ถ้าใส่มาก็คือต้องการสื่อสารน่ะแหละ
เม้น 900 แล้ว ยังไม่ได้เปิดโหวตกันเลยนี่หว่า!!!!
>>829 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ: ปาร์ตี้ดินเนอร์(กัญชา)ด้วยฝีมือเสน่ห์ปลายจวักของท่านเรย์กะ ที่ทำอะไรก็อร่อยทุกอย่าง ชามที่13
>>832 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบานพิชิตใจเธอ! [ศึกรักที่ 13]
>>835 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิของท่านเรย์กะที่ถึงชาตินี้จะไม่มาแต่ชาติหน้าก็ไม่แน่!!! ฤดูกาลที่13
>>836 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเรยกะตัวประกอบโชโจ!!! ฤดูกาลที่13
ปิดโหวต 980
>>899 กูว่าไมฮามะนางเอ๋ เพราะไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปให้ของกันตอนไหนน่ะ เกิดอะไรขึ้นลับหลังที่นางไม่รู้ ส่วนเรื่องขนมเนี่ย กูว่าคนในซุยรันก็ไม่ได้รู้จักกันทั้งหมดหรอกนะ อย่างตอนขนมญี่ปุ่นที่เรย์กะพูดตอนช่วยวาคาบะ กูว่าก็มีคนไม่รู้นั่นล่ะ ไม่งั้นก็มีคนพูดก่อนหน้าเรย์กะไปนานแล้ว
>>900 มันเป็นประโยคแบบไม่รู้จักขนมอะ กูก็จำเป๊ะไม่ได้และเปิดหาคงยากกกกส์ด้วย มีความต้องไปงม แต่เป็นแบบที่อ่านแล้วรู้เลยว่ายัยนี่ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร คือแบบเป็นขนมหรืออะไรยังไม่รู้เลยประมาณนั้น แล้วไมฮามะมีบทแบบนี้อยู่อีกที่นึงที่กูจำไม่ได้ละตรงไหนและเรื่องอะไร แต่แบบปล่อยไก่กับเรื่องความไฮโซเนี่ยแหละ(แอบสงสาร 555)
คือเหมือนจะเขียนเล่าว่าไมฮามะค่อนข้างดูไม่ไฮโซจริง ยังมีอะไรที่พยายามทำอยู่เยอะแต่ก็มีพลาดเยอะ กูว่าเป็นวิธีบอกเล่าบุคลิกลักษณะตัวละครของฮิโยโกะซังอะ ใครอยู่โพสิชั่นไหน ถนัดอะไร คือจะเล่าผ่านเหตุการณ์ที่เกิดทั่วๆไป ประโยคสนทนาไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องมีอะไรแบบที่นิยายหรือเมะบางทีชอบทำ ไอแบบมาถึงเพราะชั้นเก่งด้านนี้ๆๆๆ อันนี้คือความถนัดเฉพาะของชั้น ชั้นหน้าตาดี ฉลาด อะไรเทือกนั้นซึ่งพูดออกมาเองหรืออยู่ในมุมมองความคิดตัวเองนี่โคตรจะจูนิเบียวชิบหายเลยจ้ะ 555 แบบนี้คือสมจริงกว่าอะ อย่างแบบอ่านไปนี่ก็รู้เลยว่าเรย์กะถนัดดนตรี ศิลปะหน่อย แล้วเป๊ะประวัติศาสตร์มากถึงขนาดยกประโยคมาพูดเป็นวลีๆได้เลย พวกอะไรที่ดูเป็นวรรณกรรมก็พอกัน อย่างตอนเล่นมุกเต้นรำใส่ซาราระเงี้ย มาเป็นบทพูดเลยจ้าาาา คือโหดมากนะ และไม่เคยมีอะไรที่ออกวิทย์ออกคณิตโผล่มาในหัว คือรู้ได้ว่าถนัดทางสายศิลป์ ออกวิทย์ออ่อนคณิตตั้งแต่ยังไม่ต้องรอให้มีฉากติวเตอร์ที่บ้านมาทักว่าอ่อนคณิตอะ
ท่านพี่ก็จะมีมาดแบบเก่งจิตวิทยา ไหวพริบดีมากจนจับจุดอะไรได้เร็วแม้แต่วาดรูปหรืองานฝีมือ แสดงละครเก่งมากด้วยเพราะบ่นน้องในหัวตรึมแต่ต่อหน้านี่อ่อนโยนมุ้งมิ้ง ก็ไม่ต้องมีประโยคบรรยายว่าเป็นคนยังไงออกมาเลยอะ รู้ได้จากเรื่องราวที่เดิน ไมฮามะนี่ก็โดนทำร้ายแบบไม่ต้องมีประโยคบอกเล่าเป๊ะๆตรึมเลย ก็จะดูออกมากิ๊กก๊อกหน่อย ดูเป็นตัวร้ายกี๊ๆตั้งแต่ก่อนเรย์กะเรียกปลาซิวปลาสร้อยแล้วอะ แบบโพสิชั่นคือไม่ใช่ไฮโซตัวจริง
กูไปดูมาให้แล้วนะ ถ้าไม่ผิดน่าจะตอน 109
>>903 ไอตรงขนมญี่ปุ่นแล้วคนอื่นไม่รู้เนี่ยแหละ พอเรย์กะรู้ขึ้นมาเลยดูโห คุณหนูตัวจริงไปเลยไง อย่างน้อยหลายมุมดูจะไม่คุณหนูเท่าไหร่ แต่มันมีหลายจุดอยู่ที่แสดงชัดว่าเรย์กะนี่ไฮโซนะ แบบละเอียดอ่อนและต้องรู้จักอะไรพวกนี้ดีถึงรู้ว่าไม่ใช่สึบากิ มันก็เป็นเรื่องแบบบ่มเพาะจากความคุ้นเคยและความรู้ส่วนตัวงี้ เป็นฉากที่ใส่มาให้เห็นจุดยืนเรย์กะเลยอะ เพราะเจ้าตัวมองตัวเองสามัญชนสุดๆตลอดอยู่ละ แต่ที่จริงคือถึงจะรั่ว แต่ก็รั่วแบบคุณหนู มีอะไรที่คูณหนูเข้าเส้นเลือดอยู่ในตัวเยอะเหมือนกัน
ขนมไวท์เดย์อันนั้นคนอื่นในซุยรันไม่รู้จักก็คงมี เพราะซุยรันไม่ใช่เด็กระดับเดียวกันหมดอยู่แล้วอะ แต่แบบในชั้นที่ใกล้กันหน่อยคือรู้จักไอขนมนี้กัน มันเหมือนบทบรรยายความไฮโซแอบแฝงมากกว่า เรย์กะนี่ทั้งแสดงตัวเป็นสามัญชนผ่านของกิน แล้วเวลามีบทแสดงตัวเป็นไฮโซก็ผ่านของกิน คือสมกับแท็กฟู้ดละ
แต่ๆๆๆ กูว่ามันคงจะ "หา? XXXX" ซึ่งให้อารมณ์แบบ หา ยัยนี่ให้ขนมทั่นคาบุวันไวท์เดย์หรอกเรอะ?! มากกว่านะ
>>908 อันนี้แหละ แต๊งกู้ววว มึงเมพมาก 555
>>909 เออนึกออกแล้ววววว อีกอันคือตอนพูดชื่อร้านช็อคโกแลต หรืออะไรซักอย่างเกี่ยวกับช็อคโกแลต นางก็แบบ หา พูดถึงอะไร มันคืออะไรแบบอันนี้แหละ คือไม่รู้จักอะ ที่ไปซื้อมานั่นคงไปหาข้อมูลมาแล้ว คือตอนให้มีโมเม้นฟีลอวด มันยิ่งดูแบบ หล่อนยังไม่ช่ายยยย พยายามต่อไป~
พอมาซ้ำด้วยขนมนี่อีกรอบคือประเด็นแนวเดิม เดจาวูเดิม มันก็ย้ำอยู่ดีว่าไม่รู้จักอะ ยังต้องทำการบ้านอีกเยอะ
>>910 มันมีบทพูดแบบ
@@@@@@@@
"พูดถึงไวท์เดย์ Guimauve นั่นอร่อยดีนี่ เป็นของลิมิตใช่ไหม"
"หา ? Guimauve ?"
เฮอะ ดันพูดอะไรไม่เข้าเรื่องออกมาได้
คุณไมฮามะทำหน้าประหลาดถามว่า "ท่านมาซายะ Guimauve นี่มันอะไรกันคะ" นี่หล่อน อย่าจุ้นให้มากนักจะได้ไหมยะ
"ฉันได้ Guimauve รสพีชาจากคิโชวอินตอนไวท์เดย์"
"จากคุณเรย์กะ !?"
@@@@@@@
กูว่าชัดแล้วนะว่าไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วสุดท้ายคือความสนใจมาจับที่เป็นของจากเรย์กะไปละ แต่ถามว่ารู้รึยังว่าขนมอะไรหน้าตายังไงเป็นแนวไหน คิดว่าแบลงค์อยู่ดีในตอนนั้น
กูว่าไฮโซตัวจริงคือท่านฮิโยโกะนี่แหละ ขนม ของกิน แบรนด์เครื่องใช้ รสนิยมทางศิลปะอะไรก็ดูรู้ลึกรู้จริงไปทุกสิ่งอัน ตัวจริงอาจไว้ผมหลอดและพกพัดฝรั่งสีไวน์แดงก็เป็นได้
อ้อ ตอนก่อนๆ ที่มีคนตั้งฉายท่านเรย์กะว่า dolly girl เลยไปเสิร์ชภาพดูด้วยคีย์เวิร์ด ドーリーガール นี่มันสไตล์คุณหนูเลยนี่นา มีคนไว้ผมหลอดๆ ของจริงด้วย ถ้าท่านเรย์กะแต่งแบบนี้ไปยืนแทะปลาหมึกอยู่ที่ร้านแผงลอย กูว่าก็สะดุดตาอยู่ว่ะ
Guimauve น่าจะเป็นภาษาฝรั่งเศสนะ เอาเป็นว่าเรียกมันว่ามาร์ชเมลโล่ก็พอละกัน เสียหมด ฟฟฟฟ
>>918 ตอนแทะปลาหมึกทำน้ำจิ้มเลอะชุดแล้วจะร้องไห้นี่ก็พีคนะ คือแบบถ้ายังมีเนื้อในเป็นสามัญชนคนบ้านๆแบบที่นางคิดว่าตัวเองเป็น ก็เช็ดๆ หรือเดินหาห้องน้ำล้างไปได้ละ เอาอะไรบังๆไว้ก่อนก็พอ แต่มาแบบทำอะไรไม่ถูก สติแตก จะร้องไห้ คือนางได้ย่างเท้าเข้าไปเป็นคุณหนูเกินครึ่งตัวแล้ววว มีแต่ทัศนคติต่อคนอื่นกับความชอบด้านอาหารที่ยังเหลืออยู่
ลองเสิชตามแล้วโอ้ คุณหนูมากจริง แถมมีผมม้วนเป็นหลอดจริงงง แต่ไม่หลอดแรงขนาดเทียบกับมารี อังตัวเนตต์ได้นะ อันนี้รู้สึกดูเป็นยุคโมเดิร์นหน่อย ของแท้นี่ต้องโรโคโค่ 5555
>>919 ลาก่อนน้องกีอะไรซักอย่างที่กูก็ไม่สามารถอ่านจริงๆ ถ้ามีพูดถึงอีกเรียกมาร์ชเมลโลไวท์เดย์น่าจะพอเข้าใจ 5555
เอาจริงๆพวกชื่อขนมกับชื่อแบรนด์ทั้งหลายแหล่ในเรื่องนี่เป็นปัญหากับกูมากเพราะกูเป็นคนชอบออกเสียงในใจ ยกตัวอย่างเช่นpivoineเนี่ย เวลากูอ่านกูก็จะรู้แบบเอ้อ..คำนี้คืออันนี้ แต่กูไม่ออกเสียง(เพราะอ่านไม่ออก555) แล้วเวลากูจะเล่าท่านเรย์กะให้เพื่อนฟังมันจะได้มาหวีดกันกูก็ไม่รู้จะเรียกยังไง พอเปิดคำให้เพื่อนอ่านนางก็บอกว่าอ่านว่า พีโวน ป่ะวะ กูเลยอ่านว่าพีโวนมาตลอดแล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้หาคำอ่านที่ถูกจริงๆเลย...... แต่เวลาเข้าโม่งก็เลยเรียกตามว่ากลุ่มโบตั๋นเอาอ่ะ5555555 กูต้องไปหาคำอ่านที่ถูกซะละ
>>922 เหมือนกันนนน แต่อย่าง pivoine นี่พยายามหาคำอ่านมาหลายทีละ แต่ไม่เจอซักที กูอ่านเองว่า พีวองเน่ พยายามอ่านให้ใกล้เคียง peony เพราะเดาว่าน่าจะเสียงคล้ายกันบ้าง(มั้ง) จนทุกวันนี้ยังหาคำอ่านไม่ได้ 5555 ล่าสุดไปเจอแฮนด์ครีมล็อกซิทานกลิ่นโบตั๋น ที่หลอดเขียน pivoine คือบ้าขนาดไปถามพนักงานว่านี่กลิ่นอะไร นางตอบพีโอนี คือแบบ ไม่ช่ายยยย เอาแบบฝรั่งเศสสิ ก็ยังยืนยันว่าอ่านพีโอนีอยู่ดี นั่นมันภาษาอังกฤษมั้ยอะ ก็ยังไม่รู้คำอ่านต่อไป~
>>922 มึงพูดจนกูสงสัยขึ้นมาเลยว่ะ มันมีเวบชื่อ forvo ไว้ให้ฟังเสียง pronunciation จากเจ้าของภาษาได้ กูลองไปกดฟังดู pivoine มันออกเสียงคล้ายๆ ปิแวร์ป่ะ ใครหูดีๆ ลองไปช่วยกันฟัง
https://th.forvo.com/word/pivoine/
ถามว่าเรื่องเรียนขยันแบบนี้มั้ย ก็ไม่... แต่ความรู้จิปาถะกูเพิ่มขึ้นมากจริงๆ จากการอ่านเรื่องนี้ โดยเฉพาะของกิน...
ปิ-ฟัว-เนอ(ะ) เสียงne ตัวสุดท้ายออกเสียงเบาๆหน่อย ไม่แน่ใจเหมือนกันนะฝรั่งเศสกูกาก เรียนไปแบบไม่ตั้งใจเรียน55555555555555
นำมาสู่ความข้องใจ ว่าญี่ปุ่นออกเสียงแนวนี้ได้หรอเนี่ยยยย ตัว v กับ r คือคนไทยยังออกเสียงไม่ค่อยได้เลยอะ ญี่ปุ่นหนักกว่าอีกนะปกติ แล้ว pivoine นี่เสียงแอดวานซ์มาก
ตัวสะกด P ฝรั่งเศสออก "เป"
ตัวสะกด v ตัวกัดปากเสียงออกไรฟัน "เว" แบบมี ฟ ประสมนิดนึง แบบ "เวฟ์ะ" (ไม่รู้จะเขียนยังไงวุ้ย)
สระ -oine มันออกเสียง "-วน(เนอะ - ออกเสียงกึ่งนึง)"
Pivoine ก็ออก ปิ-วฟ์วน(เนอะ)
Pivoine ที่ท่านฮิโยโกะเขียนก็ออกเสียงยากกเอาการอ่ะ เขียนมา ピヴォワーヌ ถ้าถอดเสียงแบบเทียบคำต่อคำน่าจะได้ประมาณ Pi-Vuo-Va-N(u) ออกเสียงยากชิกหาย
คาตาคานะของ Pivoine > ピヴォワーヌ
Guimauve > ギモーヴ
ใช้กูเกิลฟังแล้วอย่างกะคนละคำกัน 5555555
พีโว้~~วาหนุ กูค้างตั้งแต่โว้ 5555555
ว่าไป กูก็นับถือโม่งแปลนะ ที่สามารถหาคำถอดเสียงคาตาคานะออกมาให้มันถูกต้องได้เนี่ย ....
กูคิดถึงโม่งฟิคกาลครั้งหนึ่งในฝันจัง
>>947 เราไม่มีความรู้เรื่องภาษาญี่ปุ่นเลยงงๆกับเรื่องนี้ แต่ฟังดูสุดยอดไปเลย 5555 แต่ที่โม่งแปลรู้เรื่องรอบด้านสรรหาข้อมูลได้ขนาดนั้นนี่ก็เทพมากๆ อนุโลมบ้าง มุกจากในไบเบิ้ลบ้าง ไหนจะสารพัดชื่ออาหาร ต่อให้เป็นภาษาไทย ถ้าไม่มีคนอธิบายก็อึ้ง รักโม่งแปลจริงๆ รู้สึกโชคดีที่มีโม่งแปลมาแปลเรื่องนี้ให้ //กราบรัวๆ
กูขำที่พวกมึงพยายามเลียนเสียง พีโว้~~ วา~~~ หนุ มากกกกก 555 อ่านแล้วกูลั่น แต่พอมางี้รู้สึกโม่งแปลเจ๋งไปเลยแฮะ /พุ่งตัวเข้าไปกอดขา มึงอยู่กับพวกกูไปนานๆนะ อย่างเพิ่งทิ้งพวกเราาาา ดูแนวโน้มแล้วอ่านเองนี่อาจตายได้ ดำน้ำกูคงตายอยู่ในกอสาหร่าย พีโว้~~~~
>>952 อุณาโลมป่าวมึง... 5555555
มู้จะเตผ้มแล้ว รีบสรุปรีบสร้างใหม่ดีกว่ามั้ง
กูกำลังคิดว่ากำลังออกเสียงหรือกลายเป็นปลาเสือวะ พ่นน้ำลายจนเลอะ 555+
ลองเอาให้กูเกิลอ่านแล้วเหมือนคนละคำจริงๆว่ะ55555
พิ่-โว้~-[อ้า]-หนุ
กิ-โม๊~~-หว(ฟ) ุ
โอย กูไม่สามารถจริงๆนั่นแหละ555555 ยิ่งพบเจอคำท่านเรย์กะยิ่งนับถือโม่งแปลมากขึ้น เป็นกูนี่สาหร่ายพันคอตายเป็นร้อยเป็นพันศพ
คลาสเรียนภาษากันเหรอวะคืนนี้ ถถถถถถถถถถถถถถ
Pivoine กูออกเสียงในใจกูเองเป็น ปิ - โวย - เน ตลอดเลยว่ะ ฟังคล้ายๆปินอยยังไม่รู้ดิ
ตอนนี้นอกจากหล่อระทมแล้วกูคงหลอนคำว่า พีโว้~ เพิ่มไปอีกคำ 55555 ถ้าไปได้ยินที่อื่นข้างนอกนี้รู้เลยว่าอ่านเรื่องนี้
เออแล้วงี้เวลาคนญี่ปุ่นคุยกันก็แบบ สมาชิกพีโว้อาหนุ เอิ่มมมม ไม่เท่อย่างแรง!!!! ชื่อน่าเกลียดอะไรเยี่ยงนี้กันนนน
คำว่า Pivoine ไร้ความศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป พวกมึงทำอะไรกันเนี่ย 5555555555555555555555
ถ้าอ่านตามที่กูอ่านๆมาแบบไม่พึ่งอะไรเลยกูจะอ่านว่า พิ-โวย-เน่
แต่ตอนนี้กูอ่านแบบนั้นไม่ไหวแล้วว่ะ พวกมึงดูตั้งใจเกิ๊น 55555555+
ถึงกะเปิดตำราการทับศัพท์ฝรั่งเศส http://www.royin.go.th/wp-content/uploads/2015/03/2346_2556.pdf
แต่ยังไง Pivoine ก็พ่ายแพ้กะการพยายามทับศัพท์ให้ได้คำหน้าตาดูดีๆว่ะ 55555555
Pivoine [ /pi.vwan ] ปิ-ววน
Guimauve [ /gi.mov/ ] กีโมฟว์ (ถ้าในตำราข้างต้นจะเป็น กุยโมฟว์ แต่ยึดตาม phonetic น่าจะถุกต้องกว่า)
นี่อ่านพิวอยมาตลอด😂😂😂
กระทู้หน้า https://fanboi.ch/webnovel/3856/
แต่ญี่ปุ่นออกเสียง V เป็น B นี่นา Pivoine ถ้าอ่านเป็น พี - โบ - ว้า - หนุ รู้สึกพังไปกันใหญ่......
ลองค้น youtube อยากจะหาเสียงคนจริงๆพูดคำนี้ ไม่ใช่เสียงAIแบบสิริของกูเกิล แต่ไม่มีเลยว่ะ 55555
กูไล่ๆอ่านตั้งแต่ประเด็นคาบุ จู่ๆเปลี่ยนเป็นประเด็นไมฮามะ ขนม แล้วก็การออกเสียง ได้ไงวะ 55555555
ตอนแรกกูอ่าน pivoine เป็นไพวองเน่ อ่าว กำนี่กูอ่านผิดมาตลอดเรอะ(เศร้าใจ) แต่ดีที่ได้อ่านถูกล่ะ จริงๆในเรื่องนี่มีชื่อขนม อาหารฝรั่งเยอะมากกกกกก หลายคำมากที่กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอ่านดีเลยได้แต่ข้ามๆไป
นี่ยังไม่หมดมู้อีกเหรอ ถถถ
มาๆๆ เดี๋ยวกุช่วยปั่นเอง
ไหน โม่งคนไหนจะปิดท้ายมู้นี้อย่างสวยงาม???
ยังไม่ปิดกระทู้กันอีกเหรอวะ ถถถถถถถถถถ
มา กูช่วย
อีกสองเมนท์
พี~ โว ~ว้า~~ หนุ~~ ~
ซือโก้ยยยยยยยยย~~ ทาโนชิหวาาาาาาาา~~
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.