เอ้า ต่อฟิค >>680-681
ไม่ได้เขียนฟิคนี้นาน คิดถึงจัง 55555555555
------------------------------------------------------------
ใกล้เวลาเลิกงาน ฉันเตรียมเก็บของใส่กระเป๋าสะพาย พอควานมือลงไปก็เจอตลับแป้งและกระเป๋าเครื่องสำอางแบบเซ็ตเล็กนอนนิ่งอยู่ในนั้น นึกชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หยิบพวกมันออกมาวางบนโต๊ะ
ฉันส่องกระจก ดูเหมือนว่าระหว่างวัน แป้งที่ตบมาเมื่อเช้าจะเลือนๆไปบ้างนิดหน่อย แถมรู้สึกหน้ามัน ฉันก็เลยซับความมันบนใบหน้า ตบๆแป้งพัฟใหม่อีกหน สีปากก็เลือนลงด้วยก็ต้องทาปากใหม่ แต่ตากับคิ้วยังโอเคอยู่ ไม่ต้องไปยุ่งอะไรมาก แต่แต่งแค่นี้ก็กินเวลาโขอยู่
ปกติฉันไม่มานั่งทำอะไรแบบนี้หรอกนะคะ เลิกงานแล้วก็กลับบ้าน ไปทานเค้กที่ท่านพ่อซื้อมาฝาก ดูทีวีอาบน้ำแล้วก็เข้านอน ถ้ามีนัดหรือไปงานเลี้ยงก็ไปร้านเสริมสวยให้ช่างมืออาชีพจัดการให้ ไม่มาแต่งหน้าก่อนกลับบ้านแบบสาวออฟฟิศทั่วไปอย่างนี้
แต่วันนี้พิเศษกว่าทุกวันคือต้องไปเยี่ยมยูกิโนะคุงที่โรงพยาบาลนี่คะ ก็ต้องดูดีเอาไว้ก่อน ไม่ได้แต่งไปให้ใครดูหรอกนะ
ตะกร้าของเยี่ยมที่คุณซาซาจิมะจัดมาให้เป็นเซ็ตน้ำผลไม้วิตามินซีสูงบรรจุมาในขวดแก้วน่ารักๆ และผลไม้สดน่าทาน หวังว่าคงจะไม่สิ้นคิดเกินไปนะคะ
มองนาฬิกา เลยเวลาเลิกงานมาโขแล้ว ท่านพี่ ท่านไอระ เอ็นโจ ยังคุยงานกันไม่เสร็จอีกเหรอ ขยันขันแข็งกันดีเหลือเกินน้า
ฉันที่อยู่ว่างๆก็มาสำรวจตัวเองอย่างกังวลเล็กๆ แล้วที่แต่งไปเมื่อกี้นี้มันเข้มเกินไปรึเปล่า สีปากจัดเกินไปมั้ยนะ ถ้าเอ็นโจยังไม่ลงมา แต่งใหม่จะดีมั้ยนะ แต่ก็กินเวลาชะมัด
ตอนนี้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนกหงส์หยกที่วันๆเอาแต่ส่องกระจกแล้วแต่งตัวยังไงก็ไม่รู้สิคะ
ท่านไอระเปิดประตูห้องทำงานฉันเข้ามา กำลังจะเอ่ยทัก เอ็นโจก็เดินตามท่านไอระเข้ามาด้วยรอยยิ้มสบายๆ
ฉันชะงักในทันที มือยังถือลิปสติกค้างไว้
“รบกวนเวลาแต่งหน้าอยู่รึเปล่าจ๊ะ” ท่านไอระเลิกคิ้ว
“ไม่ค่ะ ไม่เลย” ฉันรีบปิดฝาลิปสติกแล้วยัดลงกระเป๋า
“รู้สึกจะลิปคนละสีกับเมื่อตอนเที่ยงสินะ สีนี้ก็สวยเหมาะกับเรย์กะจังมากเลยล่ะจ๊ะ” ท่านไอระขยิบตาให้แล้วก็หันไปมองเอ็นโจ “สีชมพูหวานๆแบบนี้ดูน่ากินมากเลย เห็นแล้วนึกถึงมาการองกุหลาบ ว่ามั้ยชูสุเกะ”
เอ็นโจอมยิ้มแล้วก็พยักหน้า เอ๊ะ!! พยักหน้านี่หมายความว่ายังไงกันคะ
“เอ่อ ท่านไอระจะไปเยี่ยมยูกิโนะคุงด้วยกันสินะคะ”
“เปล่าจ้า ฉันมาส่ง แล้วก็จะกลับไปคุยงานกับคุณทาคาเทรุต่อน่ะ” ท่านไอระหัวเราะแล้วตบไหล่เอ็นโจเบาๆ “ไปล่ะ ให้ท่านประธานรอนานจะไม่ดี ชูสุเกะก็อย่าพาเรย์กะจังไปเถลไถลข้างทางล่ะ ไม่งั้นล่ะก็ เจอดีแน่”
“ไปได้แล้วน่า ไอระ”
“พอหมดประโยชน์ก็ไล่กันทันทีเลยนะ” ท่านไอระหัวเราะแล้วหันมาทางฉัน “ถ้าถูกชูสุเกะรังแกล่ะก็ โทรหาฉันได้เลยนะเรย์กะจัง แล้วฉันจะจัดการให้เอง”
ท่านอัศวินจะปกป้องฉันจากเงื้อมมือปีศาจเหรอคะ ว้าย ดีใจจังเลยค่ะ
เอ็นโจต่อปากต่อคำกับท่านไอระอีกหลายประโยค ท่านไอระก็เป็นฝ่ายจากไป แหมสนิทกันดีจังเลยนะคะ น่าหมั่นไส้ชะมัด
แต่พอท่านไอระไปแล้ว ก็เหลือฉันกับเอ็นโจอยู่ในห้องทำงานสองต่อสอง ความเงียบก็เข้าปกคลุมทันที
อะ เอาไงต่อไปดีล่ะคะเนี่ย
“ปะ ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวยูกิโนะคุงจะรอนาน”
“นั่นสิ ไปกันเถอะ” เอ็นโจหิ้วตะกร้าของเยี่ยมขึ้นมาถือ อีกมือยื่นมาหาฉัน “เชิญครับ คุณผู้หญิง”
ฉันชะงักไปเล็กน้อย คว้ากระเป๋าสะพายพาดบ่า มองเมินมือที่ยื่นมาหานั่น ก้าวฉับๆไปที่ประตู ได้ยินเสียงหัวเราะดังแว่วๆมาก็นึกอยากหันกลับไปเสยปลายคางอีตานี่อย่างไรชอบกล
รถของตระกูลเอ็นโจจอดรออยู่แล้วตรงประตูทางออกหลัก คนขับเปิดประตูและก้มหัวให้ฉันอย่างนอบน้อม เอ็นโจส่งตะกร้าของเยี่ยมให้คนขับรับไปแล้วก้าวขึ้นมานั่งข้างๆฉันที่เบาะหลัง
รถเคลื่อนตัวออกจากบริษัทไม่ทันไร เสียงมือถือของเอ็นโจก็ดังขึ้น ฉันไม่ตั้งใจจะฟังแต่ก็ได้ยินบทสนทนาอย่าง “อือ” “กำลังจะไป” “รู้แล้ว” หรืออะไรทำนองนั้น ใครโทรมาน่ะ
เหมือนรู้ความคิดฉัน เพราะเอ็นโจหันมายิ้มให้แล้วก็บอก
“ยูกิโนะบอกว่าอยากทานเค้กให้ซื้อเข้าไปหน่อย” เอ๋ เทวดาน้อยอยากทานเค้กเหรอคะ รู้งี้ของเยี่ยมเอาเป็นเค้กก็ดีหรอกค่ะ
ร้านเค้กที่เอ็นโจจอดแวะซื้อเป็นร้านเล็กๆน่ารักที่ฉันกับท่านไอระเคยมาทานด้วยกันสมัยเรียน มีลูกค้าสาวๆมาใช้บริการค่อนข้างหนาตาเพราะเป็นเวลาเลิกเรียนและเลิกงาน สาวๆในร้านหันมองเอ็นโจกันใหญ่ เอ็นโจไม่ได้สนใจสายตาสาวๆพวกนั้นแต่หันมายิ้มกับฉัน
“คุณเรย์กะ ทานอะไรดี”
“ยูกิโนะคุงอยากทานอะไรก็เอาตามนั้นเถอะค่ะ”
“อือฮึ มาการองกุหลาบก็น่าทาน”
เอ๊ะ!! แล้วนายจะหันมามองฉันทำไมล่ะคะ มองเค้กในตู้ไปสิค้าาาาาา!!!!