เขาเล่าให้ฟังอย่างละเอียดเป็นครั้งแรกว่าเธอร้องไห้จนหลับไปตอนที่พูดถึงว่าดอปเปอร์แกงเกอร์ของเขาช่วยเธอเอาไว้ และคนที่ฟื้นมาไม่ใช่คนเดิม เขาบอกว่าเมื่อมาคิดอย่างจริงจังอีกที บางทีควรจะปล่อยให้พวกเธอสองคนอยู่โลกเดิมด้วยกัน
ท่านคาบุรากิเองก็เศร้าซึมเหมือนกันตอนที่แรงปรารถนาที่อยากเจอทาคามิจิดูไม่มากพอที่จะข้ามมิติไปได้ ไม่เหมือนฉันที่รักเอ็นโจมากพอที่จะทำอย่างนั้นได้ เดี๋ยวค่ะ!!! เดี๋ยวๆๆๆๆๆ พูดอะไรน่ะ! ฉันไม่ได้รักหมอนั่นซะหน่อยนะ! ต้องเป็นความแค้นแบบศัตรูแน่ๆเลยค่ะที่ทำให้ข้ามมิติไปต่อยหมอนั่นได้! อย่าคิดไปเองมั่วๆสิ!!!
ถ้าอยากให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ก็พาเขากลับมาทั้งคู่สิ! แค่สลับโลกให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็ได้แล้วไม่ใช่หรือไงกัน!!! ฉันไม่ยอมอยู่โลกนี้ แล้วฝันเห็นเอ็นโจทำหน้าเศร้าจนน่าสมเพชแบบนั้นหรอกนะ! แล้วตอนที่ฉันนึกถึงเอ็นโจฉันไม่ได้ทำสีหน้าหดหู่อย่างที่ท่านคาบุรากิบอกหรอกนะ นั่นมันสีหน้าแห่งความสะใจต่างหาก!!!
ถ้าเธอกลับมาแล้วได้อ่านบันทึกนี้ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาดนะว่าฉันชอบเอ็นโจ! แล้วก็ห้ามเชื่อคำพูดของทาคามิจิด้วยนะ!
ฉันจะกลับไปให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!
แต่ที่ฉันพูดอย่างนั้นไม่ได้หมายความว่าฉันจะกระโดดให้รถชนกับนายซะหน่อยคาบุรากิ๊!!!
-------------- (จบตอน 42) -------------
ป.ล. อธิบายเพิ่มเติม คาบุรากิถูกรถชนกลับมาโลกเดิม พอรู้ตัวก็กระโดดไปให้รถชนอีกรอบเพื่อกลับไปหาเรย์กะ ที่เรย์กะเห็นตอนฟื้นขึ้นมาครั้งแรกเป็นคาบุรากิจากโลกคิมิจริงๆ ไม่ได้เป็นความฝันนะคะ 555 แต่คาบุรากิไม่รู้ว่าเรย์กะตื่นมารอบหนึ่งแล้ว
ป.ล.2 เราอาจจะเขียนแปลกๆนะตอนนี้ ฮืออออ ต้องเป็นเพราะงานที่ยังไม่ได้ทำหลอกหลอนเราอยู่แน่ๆ...