ผมหมุนตัวกลับหลัง เดินออกไปจากตรงนั้น กลัวว่าคุณคิโชวอินออกมา ผมจะเผลอแสดงสีหน้าน่าสมเพชออกไปให้เธอเห็น
ลงบันไดไปไม่เท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังมาจากข้างบน เป็นเสียงของคุณคิโชวอินและเสียงของประธานนักเรียน ผมชะงักเท้า ลังเลอยู่เล็กน้อยว่าจะกลับไปดีหรือไม่
ประธานนักเรียนเกลียด Pivoine คุณคิโชวอินอาจจะถูกต่อว่าแรงๆก็ได้ที่พาคนพวกนั้นเข้ามา
ผมตัดสินใจยืนฟังสถานการณ์ เห็นท่าไม่ดีค่อยออกไปช่วยก็แล้วกัน
คุณคิโชวอินอธิบายกับประธานนักเรียนเรื่องกลุ่มคนพวกนั้น บอกว่าไม่ได้ถูกขู่เข็ญอะไร และเป็นเพื่อนที่โรงเรียนกวดวิชาของเธอเอง ได้ยินแล้วก็อดที่จะรู้สึกเจ็บไม่ได้
ผมน่ะ ขนาดความเป็นเพื่อนเธอยังไม่มีให้เลยนะ
ได้ฟังคำอธิบาย ดูเหมือนประธานนักเรียนจะเข้าใจได้ในที่สุด แล้วก็ไม่ได้ต่อว่าคุณคิโชวอินอะไรแรงๆแบบที่คิดไว้ เสียงที่ได้ยินก็ค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ เธอกับประธานนักเรียนคงเดินไปจากตรงนั้นแล้ว ผมเห็นว่าคงไม่มีอะไรให้กังวลอีกก็เดินจากมา ปล่อยให้จัดการกันเองต่อ
ดีแล้วล่ะที่ไม่ได้ออกไป ปัญหาทุกอย่างเธอก็จัดการแก้ไขเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้ผมช่วย
ผมไม่ได้มีค่ามีความหมายอะไรนักหรอก ทำอะไรให้ไปเธอก็คงจะรำคาญอยู่ดี
.
.
.
ทำลาเต้อีกไม่กี่แก้วก็หมดโควต้าบัตร ของอย่างอื่นก็ขายหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ ร้านปิดเร็วเกินกว่าที่คิด แถมเวลาเดินเที่ยวงานก็มีเหลือเฟือ ทุกคนก็เลยเดินออกไปเที่ยวกันแบบสบายอกสบายใจ ไร้ภาระกังวลเรื่องเปลี่ยนกะแบบวันแรก
ผมเดินเที่ยวงานกับมาซายะอย่างทุกครั้ง แต่ไม่ค่อยมีอารมณ์เอนจอยกับงานทั้งคู่ มาซายะเองก็คงอยากเดินกับคุณทาคามิจิมากกว่า บรรยากาศรอบตัวเราสองคนชักจะหดหู่อึมครึมเกินไปแล้ว
ตอนอยู่บ้าน ยูกิโนะบอกอยากเดินเที่ยวงานของฝั่งมัธยม ผมก็เลยไปรับน้องมาจากฝั่งประถม และคำแรกที่ยูกิโนะเอ่ยคือ
“อยากไปเที่ยวงานที่ห้องของคุณพี่เรย์กะจังเลยล่ะฮะ ท่านพี่พาไปหน่อยสิ”
ช่างชัดเจนถึงเจตนา เข้าเป้าตรงประเด็นไม่มีอ้อมค้อม
ก็คิดแล้วว่ายูกิโนะต้องขอให้พาไปหาคุณคิโชวอิน เจ้าเด็กนี่ทำหน้าระรื่นสุดๆ จนอดที่หมั่นไส้ไม่ได้
รู้รึเปล่าว่าคุณคิโชวอินทำอะไรไว้กับพี่ชายของนายบ้าง ผู้หญิงคนนี้น่ะใจร้ายมากเลยนะ
พอก้าวเข้าไปในห้อง ก็เห็นคุณคิโชวอินใส่ชุดกี่เพ้าดูต่างออกไปจากทุกวัน ถึงจะทำผมม้วนอย่างปกติ แต่ก็ใช่ว่าจะขัดตา ออกจะน่ารักด้วยซ้ำ
เธอหันมาเห็นพวกผมตามเสียงกรี๊ดก็ทำหน้าเซ็งๆ แต่พอยูกิโนะโผล่หน้าออกไปก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง กุลีกุจอมาต้อนรับ
“สวัสดี คุณคิโชวอิน ยูกิโนะบอกอยากมาเลยพามาหาแน่ะ วันนี้เป็นโกวเนี้ยน้อยน่ารักเชียวนะ”
ผมเอ่ยชม แต่คุณคิโชวอินก็ทำหน้าเฉยๆไม่รับรู้แล้วหันไปยิ้มให้ยูกิโนะที่เอ่ยทัก
อืม คำชมก็ไร้ประโยชน์อีกแล้ว
เธอหันมาถามผมเรื่องทำไมไม่ไปดูแลห้องตัวเอง พอบอกว่าขายหมดแล้วก็ทำหน้าแปลกๆในแบบที่ตีความไม่ออก นี่อยากจะไล่กันขนาดนั้นเชียวเหรอ
มาซายะมองซ้ายมองขวาไปทั่วร้าน พูดเรื่องไม่ประดับตกแต่งลายมังกรจะเก็บไม่ครบซีรีย์นักษัตร คุณคิโชวอินทำหน้านิ่งแล้วตอบห้วนๆว่าไม่มีความทะเยอทะยานพรรค์นั้น ทำเอาหลุดขำออกมาแบบอดไม่ได้
คุณคิโชวอินมองค้อนใส่ผมหนึ่งทีก่อนจะหันไปหายูกิโนะ ไม่ยอมพูดด้วยอีกพักใหญ่ๆ
ชาที่สั่งมาเสิร์ฟถึงที่ แล้วก็มีขนมเปี๊ยะแถมมาให้ด้วยทั้งที่ไม่มีในเซ็ต ถ้าเป็นคนอื่นผมจะคิดว่าเป็นความพิเศษ แต่ถ้าเป็นคุณคิโชวอินที่ปฏิบัติกับผมและมาซายะเป็นพลเมืองชั้นสอง ผมเลยคิดว่ามันเป็นของที่เหลืออยู่เยอะเลยแถมมาด้วยเพื่อให้มันหมดๆไปมากกว่า
แต่เขาให้มาก็ต้องถือโอกาสน้อมรับน้ำใจนี้เอาไว้ ผมนั่งจิบชาทานแกล้มกับขนมเปี๊ยะ มองเธอคุยกับยูกิโนะเรื่องชาบุปผาคลี่ที่พอใส่ก้อนชากลมๆลงไปในน้ำร้อน ก็ค่อยๆคลี่คลายตัวออกมาเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานเต็มที่
มาซายะจิบชาอย่างเดียว เก็บขนมเปี๊ยะที่เสิร์ฟมาใส่กระเป๋า และบอกว่าไม่เอาขนมหวานแล้ว
ก็แหงสิ มานั่งทานคุกกี้ของคุณทาคามิจิจนเต็มคราบขนาดนั้น จะไม่อยากทานของหวานอีกก็ไม่แปลก