เอ็นโจฟิคกุนับวันยิ่งหลุดออกไปนอกจักรวาลอันเวิ่งว้าง ลงฟิคเผื่อมีคนกรุณาลงกาวบ้าง ฟิคสลับร่าง สลับคาทั้งหลายน่าอ่านทั้งนั้นเลย ไม่มีใครคิดจะลงกาวบ้างเลยเหรอ 55555 รู้สึกขาดกาวมากเลย ฮือออ
----------------------------------------------------------------------------
เอ็นโจไม่ใช่จอมมารหรอกนะ (2)
.
.
หลังจากถูกมาซายะขัดขวางอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมก็ยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวเองในที่สุด
“นายเป็นแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว อย่าไปพยายามฝืนทำเรื่องไม่เข้าเรื่องเชียวล่ะ!!” มาซายะพูดอย่างโล่งใจเมื่อเห็นหน้าผมวันถัดมา พร้อมกำชับไม่ให้ผมทำอะไรแปลกๆ อีก
ทั้งที่คิดว่าคาแรกเตอร์เร่าร้อนมันดีมากเลยแท้ๆ....
“อย่าว่าแต่ฉันเลยนะชูสุเกะ ฉันว่าคิโชวอินกับคนอื่นๆ ก็คงไม่อยากเห็นนายเป็นแบบนั้นเป็นครั้งที่สองหรอกนะ” ราวกับรู้ว่าผมกังวลเรื่องอะไร มาสายะก็รีบร้อนเกลี่ยกล่อม พอเห็นท่าทางร้อนรนอย่างเอาเป็นเอาตายของมาซายะแล้ว ผมก็ได้แต่ยอมรับชะตากรรม กลับไปเป็นตัวผมคนเก่าแต่โดยดี
ผมถอนหายใจยิ้มขื่ออยู่ในสโมสร บางทีมาซายะอาจพูดถูกก็ได้ เมื่อเช้าตอนที่ผมเข้าโรงเรียนมา พวกนักเรียนที่เห็นหน้าผมก็พากันแตกตื่นอย่างยินดี บางทีเหลือบไปเห็นกลุ่มที่ทำท่าพนมมือแปลกๆ เหมือนกับขอพรอยู่ ประหลาดดีแท้
ไม่เพียงแค่นักเรียนธรรมดา แม้กระทั่งสโมสรเอง ทุกคนก็พากันเข้ามาคุยหว่านล้อมให้กำลังใจกันใหญ่ ดูเหมือนว่าการลองเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของผมจะทำให้ทุกคนตกใจกันมากสินะ... ถึงจะเสียดายมากแค่ไหน แต่ถ้าทุกคนไม่ชอบขนาดนี้ก็ช่วยไม่ได้ จะยอมล้มเลิกก็ได้
แต่เรื่องของคุณคิโชวอินน่ะ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก
.
.
.
เย็นนั้น พอถึงบ้านผมก็ได้แต่ซดลาเต้รูปวัวฝีมือยูกิโนะที่โซฟาพลางฟังน้องชายเล่าเรื่องเจี๊ยวแจ่ว พอถูกถามเรื่องความคืบหน้าเรื่องที่ปรึกษาคราวก่อน ก็ได้แต่ยิ้มขื่อๆ ทั้งที่ยูกิโนะแนะนำมาทั้งทีแต่พี่คนนี้กลับทำออกมาไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ขอโทษนะ
“ผมเองก็คิดว่าพี่ชูสุเกะทำตัวแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะฮะ” ยูกิโนะ... พูดเหมือนจะปลอบใจแต่ใจจริงก็ไม่ชอบคาแรกเตอร์เร่าร้อนนั่นสินะ เร่าร้อนมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ
ไม่คิดมาก่อนเลยว่าแหล่งข้อมูลที่ผมหามาอย่างดีจะผิดพลาดได้ ทำไมกัน? ทั้งท่าชิดกำแพง ทั้งคำพูดตรงไปตรงมามันไม่โรแมนติกเลยสินะ งั้นตอนนั้นคุณคิโชวอินคงไม่ได้หน้าแดงเพราะเขิน แต่เพราะรังเกียจอยู่งั้นเหรอ...
พอคิดแบบนั้นก็เผลอทำหน้าสลดออกมา
“อย่าสลดเลยนะท่านพี่ น้ำหยดทุกวันหินยังกร่อน ตื้อเข้าไว้สักวันคุณพี่เรย์กะต้องเห็นความดีแน่”
ยูกิโนะ...
“อ๊ะ แต่กับคุณพี่เรย์กะคงใช้ไม่ได้สินะ อืมมม เอาเป็นว่าพยายามเข้านะฮะ”
ยูกิโนะ....ทั้งที่อุตส่าห์ปลอบใจทั้งทีอย่าโพล่งประโยคหลังออกมาสิ แล้วภาษิตน้ำหยดทุกวันหินยังกร่อนนี่ไปรู้มาจากไหนอีกล่ะ รู้ดีสมเป็นตระกูลเอ็นโจจริงๆ
ผมซดกาแฟที่เหลือในแก้วจนหมด ตอนนี้คงได้เวลาใช้นั่นแล้วมั้ง?
หลังแยกกับยูกิโนะ ผมก็ตรงดิ่งไปที่มุมหนึ่งของห้อง ตรงตู้หนังสือที่เต็มเอี๊ยดไปด้วยหนังสือเรียนสำหรับเตรียมสอบต่างๆ และหนังสือเกี่ยวกับสาขาที่ผมสนใจ ที่มุมเล็กๆ ชั้นสุดท้ายของตู้ที่มีบานพับปิดล็อคอย่างดีเป็นที่ที่ผมเก็บสิ่งนั้นไว้อยู่ เนื่องจากสิ่งนั้นเป็นของที่ไม่ค่อยเหมาะกับภาพลักษณ์ผู้สืบทอดตระกูลเอ็นโจผมเลยแอบเก็บไว้เงียบๆ ในมุมที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเท่าไหร่
ผมพบกับสิ่งนั้นโดยบังเอิญขณะที่ตามอ่านเกี่ยวกับเรื่องความรักของเด็กสาวในอินเตอร์เน็ต ด้วยชื่อที่สะดุดตากับคำชื่นชมเกี่ยวกับเนื้อหาข้างในทำให้ผมอดที่จะสนใจไม่ได้