แถมเอกสารเก่าๆแต่ละแผ่นที่เก็บได้ก็อ่านแล้วจิตตกชะมัดเลยค่ะ เกี่ยวกับการทดลองมนุษย์ในโรงพยาบาลบ้างล่ะ หรือเจ็บป่วยมานานก็เลยสาปแช่งให้คนอื่นป่วยตายเหมือนตัวเองบ้างล่ะ มีแต่เนื้อหาที่ดูโรคจิตวิปริตทั้งนั้น คาบุรากิ!! ไหงเอาเกมแบบนี้มาให้เทวดาน้อยเล่นล่ะ ห๊า!!!
น่ากลัว น่ากลัวสุดๆ จะร้องไห้แล้วนะ ยูกิโนะคุง เอ็นโจ ใครก็ได้ กลับมาซักทีเถอะ
จอยในมือฉันสั่น หรือเป็นที่มือฉันสั่นเองก็ไม่ทราบได้ แต่พอจอยสั่นอย่างนี้ต้องมีอะไรโผล่มาแหงๆค่ะ แล้วก็มีจริงๆด้วย
ในจอปรากฎภาพของวิญญาณของพยาบาลสาวโปร่งใสดักรออยู่ที่หัวมุม ฉันยังไม่ทันเดินเฉียดเข้าไปใกล้ วิญญาณก็ทะลุมาหาด้วยความรวดเร็ว เห็นหน้าเละๆที่เบ้าตากลวงโบ๋เต็มไปด้วยคราบเลือดเหมือนคราบน้ำตาซูมเข้าใกล้ๆจอ กรีดเสียงร้องแหลมสูงโหยหวน
ฉันเองก็กรีดร้องด้วยเหมือนกัน โยนจอยทิ้งแล้วยกมือขึ้นปิดตา
ไม่เอาแล้ว!! ไม่เอาแล้ว!! ไม่เอาแล้ว!! จะกลับบ้าน เค้าอยากกลับบ้าน!!!!
“คุณเรย์กะ คุณเรย์กะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้หู เขย่าฉันเบาๆ
“กลัวแล้วค่ะ กลัวแล้ว อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย ผีก็อยู่ส่วนผีสิคะ” ฉันห่อไหล่ตัวเองแน่น ปากละล่ำละลักฟังแทบไม่เป็นคำพูด หลับตาปี๋ไม่กล้ามองอะไร
“นี่ผมเอง”
ฉันเอามือที่ปิดหน้าปิดตาออก เห็นเอ็นโจมองมาอย่างเป็นห่วง...เอ็นโจจริงๆนะ ไม่ใช่ผีแน่นะ
ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไร เอ็นโจก็ดึงฉันเข้าไปกอด ลูบหัวลูบหลังเบาๆ
“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องกลัว” เสียงทุ้มต่ำข้างหูฉันคอยปลอบโยน ดนตรีประกอบเศร้าๆหลอนๆจากเกมนั่นก็หายไป เอ็นโจคงปิดทีวีไปแล้ว พอไม่มีเสียงกดดันประสาท และรู้สึกถึงความอบอุ่นอ่อนโยน หัวใจฉันก็ค่อยๆสงบลงและเริ่มกลับมาเต้นตามจังหวะตามปกติ
แต่เพราะความเงียบ ทำให้ได้ยินเสียงบางอย่างได้ชัด ฉันที่แนบชิดกับเอ็นโจอยู่แบบนี้อยู่ใกล้กันมาก ใกล้ จนรู้สึกถึงเสียงหัวใจ
ทะ ทำยังไงดีคะ หัวใจฉันตอนนี้มันกลับไปเต้นในจังหวะที่เหมือนตอนเล่นเกมของยูกิโนะคุงอีกแล้วล่ะค่ะ
“คุณชูสุเกะ มาแล้วเห….” เสียงเปิดประตูดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงผู้หญิงที่ฉันจำได้ว่าเป็นเสียงของมาดามเอ็นโจ พอหันไปตามเสียงนั้นก็เห็นมาดามเอ็นโจยืนเอามือปิดปากอยู่ “อุ๊ยตาย”
อ๊ากกกกก!! อย่าเข้าใจผิดนะคะมาดาม มันเป็นเรื่องสุดวิสัยค่า ไม่ได้มีอะไรในกอไผ่จริงๆนะคะ!!!
ยูกิโนะคุงยืนอยู่ข้างหลังมาดามเอ็นโจก็หัวเราะออกมาด้วย
“ตามสบายเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่จะไปนั่งดื่มชารอกับยูกิจังที่ล็อบบี้ก่อนนะ”
“เสร็จเมื่อไหร่ค่อยมาเรียกนะครับ ท่านพี่”
เสร็จ!? เสร็จอะไรค้าาาา!? อย่าเข้าใจผิดแล้วพูดสองแง่สองง่ามแบบนั้นสิ ยูกิโนะคูงงงง
เอ็นโจเอาแต่หัวเราะ เฮ้ นายก็ช่วยพูดอะไรหน่อยเซ่!! อย่าให้แม่นายกับน้องนายมาเข้าใจอะไรผิดๆแบบนี้ แล้วนายจะยืนกอดฉันอีกนานมั้ยห๊า ปล่อยซักทีสิ!!!
สุดท้ายเอ็นโจก็ยอมปล่อยมือออก เดินไปตามมาดามเอ็นโจและยูกิโนะคุงให้กลับมาที่ห้อง สองคนนั้นทำหน้ายิ้มๆ ฉันก็ยิ่งรู้สึกอยากละลายหายไปในอากาศเดี๋ยวนั้นเลยล่ะค่ะ
อย่าเข้าใจผิดนะคะ มันไม่มีอะไรจริงๆน้า อุแง้
ฉันคร่ำครวญอยู่ในใจ แต่บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ เอ็นโจก็ไม่ช่วยอะไรเอาแต่ยิ้ม โอ๊ย!!หงุดหงิดชะมัด รู้แบบนี้น่าจะตั้งใจอ่านเอกสารที่มีคำสาปแช่งในเกมก็ดีหรอก จะได้เอามาใช้ตอนนี้เลย
ยูกิโนะคุงเข้ามาขอโทษฉันเรื่องที่ฝากให้เล่นเกมผีแทนตัวเองจนฉันเกือบร้องไห้
“ขอโทษครับ ผมกลัวคุณพี่เรย์กะจะเหงาที่ต้องอยู่คนเดียว ก็เลยให้เล่นเกมฆ่าเวลา”
โถ เทวดาน้อย กลัวฉันอยู่คนเดียวแล้วจะเหงาสินะคะ คราวหน้าเอาเกมน่ารักๆมาฝากดีกว่า อย่าไปเล่นเกมที่มีเนื้อหารุนแรงแบบนี้เลยนะจ๊ะ
มาดามเอ็นโจให้คนแกะอาหารใส่จานมาวางบนโต๊ะ จูงมือฉันไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่อีกห้อง แบ่งเป็นสัดส่วนจากห้องของคนป่วย อันนี้คงสำหรับคนมาเฝ้าไข้ แต่บนโต๊ะอาหารมีชุดรับประทานอาหารจัดไว้สองชุด ของเอ็นโจกับมาดามสินะคะ
“ได้ยินจากคุณชูสุเกะว่าจะพาคุณเรย์กะมาเยี่ยมยูกิจังแล้วยังไม่ได้ทานมื้อค่ำ ก็เลยรีบให้คนไปซื้ออาหารมาทันที เป็นร้านประจำของบ้านเราเอง ไม่ทราบว่าจะถูกปากคุณเรย์กะรึเปล่านะคะ”
“ต้องขอบคุณมากนะคะ แต่เกรงใจจังเลยค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ตามสบายเลยนะคะ” มาดามเอ็นโจลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวขอกลับไปเอาของที่บ้านก่อนนะคะ คุณชูสุเกะดูแลคุณเรย์กะด้วยนะ”
เอ็นโจพยักหน้า มาดามเอ็นโจก็เปิดประตูออกไป ส่วนยูกิโนะคุงโผล่มาแค่หัวกับคอแต่ไม่เข้ามาในห้อง ฉันชวนยูกิโนะคุงทานอาหารแต่ยูกิโนะคุงส่ายหน้าบอกว่าทานมื้อเย็นไปแล้ว
“ท่านพี่ เค้กที่ฝากซื้อล่ะ”
“อยู่บนโต๊ะข้างเตียงไง”
“ขอบคุณครับ” พูดจบก็ปิดประตูทันที เหลือฉันกับเอ็นโจอยู่ในห้องสองต่อสอง
เอ็นโจนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม จับช้อนส้อมขึ้นมาแล้วเริ่มต้นลงมือรับประทานอาหาร ท่าทางจะหิวมากจริงๆ มิน่า ถึงได้ชวนทานมื้อค่ำ
แต่ฉันเองก็หิวเหมือนกัน เพราะงั้น จะทานละนะคะ