คุณคิโชวอินยืนอยู่เสียไกลลิบจากฟลอร์เต้นรำ ถือถาดสีเงินเอาไว้ในมือ โพสต์ท่าราวกับตัวเองเป็นนางแบบบนปกนิตยสาร เหมือนพยายามเสนอขายถาดใบนี้ให้คุณโนเซ็น
ทำอะไรของคุณน่ะ คุณคิโชวอิน
ผมอยากหัวเราะดังๆ แต่ต้องปั้นหน้ายิ้มแย้ม อดทนไว้ก่อน
ตอนนี้คุณคิโชวอินเอาถาดกลับไปวางที่แล้วยืนตัวตรง นิ่งๆ สงสัยการขายจะไม่ประสบความสำเร็จ
ไหล่ผมสั่นเพราะกลั้นหัวเราะอยู่รึเปล่านะ
มองไปอีกทีก็เห็นยูกิโนะเดินเข้าไปคุยกับคุณคิโชวอิน สักพักก็จับจูงมือเธอเดินมาทางฟลอร์เต้นรำนี้ โค้งให้ตามธรรมเนียมแล้วเริ่มต้นเต้นรำด้วยกัน
ผมรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย ยูกิโนะพอสบตากับผมก็ยิ้มให้ แต่คุณคิโชวอินมองมาแค่แว้บเดียวแล้วก็ไม่มีท่าทีสนใจผมสักนิด ก้มหน้าคุยแต่กับยูกิโนะแบบสนุกสนาน
พอจบเพลง สองคนนั้นก็ถอนตัวออกไปจากฟลอร์เต้นรำ ไปยืนคุยกันต่อ
ไอระมองตามสายตาของผม เข้าใจว่าผมเป็นห่วงน้องชาย ทุกคนรู้ดีว่าสุขภาพยูกิโนะไม่แข็งแรง มาเจอคนเยอะๆอาจป่วยไข้ไม่สบายได้ ผมก็เลยใช้ข้ออ้างนั้นเพื่อจะเลิกเต้นรำ เดินไปหาคุณคิโชวอินที่ยืนอยู่กับยูกิโนะ
สาวๆทักทายกันไปตามเรื่องตามราว ส่วนมาซายะไปเล่นกับยูกิโนะที่ทำหน้ายู่ พยายามปัดมือมาซายะออกไปเพราะถูกยีหัว ยูริเอะกับไอระเลยจัดแจงดุมาซายะแบบที่ผมไม่ต้องลงมือเองสักนิด
ผมกล่าวขอบคุณที่ช่วยดูแลยูกิโนะให้ เธอก็รีบปฏิเสธแบบถ่อมตัว
“ยูกิโนะคุงต่างหากล่ะคะที่อุตส่าห์ใส่ใจ ชวนดอกไม้ริมผนังอย่างฉันออกมา” คุณคิโชวอินยิ้มแย้มดูมีความสุข “ฉันต่างหากล่ะคะที่ต้องขอบคุณ”
ชวนดอกไม้ริมผนังอย่างนั้นเหรอ
ถ้าเป็นผมที่ชวน เธอจะยอมลงไปเต้นด้วยรึเปล่านะ
คำตอบที่ได้แทบจะผุดขึ้นมาในหัวทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
ไม่มีทางอยู่แล้วล่ะ ไม่มีหวังด้วย
ยูกิโนะแยกออกไปหาเพื่อนๆชั้นประถม ไอระกับยูริเอะก็เลยหันกลับมาคุยกับคุณคิโชวอินต่อเหมือนเดิม
ตอนที่รู้ว่ามาซายะเป็นคนชวนยูริเอะมา คุณคิโชวอินมองไปทางมาซายะอย่างอยากรู้อยากเห็น
บางครั้งผมก็อ่านท่าทีของเธอไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้กรี๊ดกร๊าดมาซายะแบบเด็กผู้หญิงทั่วไปในโรงเรียน แต่ก็ดูจะสนใจเรื่องมาซายะเอามากๆ เป็นแบบนี้มาตลอด หรือว่าเธอจะชอบมาซายะโดยไม่รู้ตัวกันนะ
แต่พอคิดแบบนี้แล้ว รู้สึกเจ็บชะมัดเลยแฮะ
“เข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่า คุณคิโชวอิน” ผมพยายามยิ้มให้เธออย่างเคย แต่รู้สึกว่ามันฝืดเฝือนเต็มที่
คุณคิโชวอินทำตาโตอย่างตกใจกับคำตอบของมาซายะ ท่าทางแบบนี้ก็ตลกดีอีกแล้ว พวกเราสี่คนเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ระหว่างฟังเรื่องเล่าจากยูริเอะ คุณคิโชวอินก็ดูอึ้งๆ มองมาซายะปรับความเข้าใจกับยูริเอะต่อหน้า แล้วพอมาซายะหันมาพูดเรื่องคุณคิโชวอินอกหักจากโทโมเอะ ยูริเอะกับไอระก็ดูจะตกใจเอามากๆ เข้าไปให้กำลังใจกันยกใหญ่ตามประสาเพื่อนผู้หญิง
คุณคิโชวอินดูกระอักกระอ่วนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แค่ดูสีหน้าเธอที่แสดงออกมาก็สนุกแล้ว เป็นไปตามคาดที่เธอจะหันมาทำท่าขุ่นเคืองใส่ผมที่กำลังกลั้นหัวเราะเพราะสังเกตเธออยู่
คุณช่างมีสีหน้าที่หลากหลายเสียจริงๆ อยู่ใกล้ๆ มองคุณไปเรื่อยๆก็ทำให้โลกสดใสได้แล้ว
.
.
.
หลังจากงานเลี้ยง มาซายะก็เทียวไปหายูริเอะเหมือนตอนก่อนจะถูกหักอก เพียงแต่คราวนี้มีเค้กไปฝากเยอะแยะ เป็นเค้กหน้าตาธรรมดา ไม่หรูหราตกแต่งปราณีตแบบที่ทำขายในโรงแรม ออกจะผิดจากมาตรฐานของเขาไปพอสมควร
มาซายะแนะนำเค้กบ้านคุณทาคามิจิอย่างภาคภูมิใจประหนึ่งว่าเป็นฝีมือของตัวเอง และชื่อของคุณทาคามิจิก็มักจะโผล่ขึ้นมาในบทสนทนาบ่อยๆ อย่างเช่น
“อะไรของยัยนั่น มายืนยันอยู่ได้ว่าจะไม่เอาค่าเสียหาย ฉันจะช่วยซื้อเค้กทั้งร้านแทน ก็ดันปฏิเสธอีก จะดื้อไปถึงไหนกันเนี่ย”
หรือ
“ยัยนั่น หมิ่นความงามและสมรรถภาพของจักรยานที่ฉันให้มากเกินไปแล้ว!! คิดมาได้ยังไงว่าจะติดสติ๊กเกอร์พิลึกๆนั่นลงบนจักรยานน่ะ หา!! แล้วยังมีเรื่องขอให้ช่วยติดตะกร้ากับอานหลังอีกนะ ดีไซน์เนอร์ออกแบบได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เป็นนาย จะทำลายความสมบูรณ์แบบนั้นได้ลงเหรอ”
และ
“ขนมร้านทาคามิจิ ฉันว่าสตรอเบอรี่ช็อตเค้กก็ไม่เลวนะ มองบลังค์กับชูครีมมัทชะก็ดี แต่กาโตว์ชอคโกลาน่ะอร่อยที่สุดเลยล่ะ”
ดูท่าทางมาซายะจะติดใจคุณทาคามิจิเข้าให้แล้ว พูดถึงไม่หยุดปากเลย
เปิดเทอมวันแรก มาซายะที่บังเอิญเจอคุณทาคามิจิหน้าโรงเรียน ก็เดินเข้าไปคุยกันอย่างสนิทสนม เรื่องนี้สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง มาซายะไม่เคยเดินคุยกับผู้หญิงคนไหนนอกจากยูริเอะเลยสักครั้ง
ผมมองหาคุณคิโชวอิน คิดว่าเธอคงอยากรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน เหมือนตอนที่ตอบข้อสงสัยเรื่องรักแรกของมาซายะในงานปาร์ตี้ซัมเมอร์นั่น เมื่อเล่าเรื่องความรักข้างเดียวที่ยาวนานถึงสิบสี่ปีของมาซายะให้เธอฟัง คุณคิโชวอินก็ดูทึ่งหน่อยๆที่เด็กสองขวบจะรู้จักรักแรกแล้ว