Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็ก love ปริศนา ที่ไม่ตั้งใจจะใส่มาหรอกนะ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้นเอง [แท็กที่ 12]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"

รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้

.

謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015

♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
>>>/webnovel/3628/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
>>>/webnovel/3689/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิอันฟรุ้งฟริ้งของเรย์กะจัง♡ ~โดขิโดขิ หัวใจของเธอเป็นของฉันนะ! ♡♡ กาวยกกำลัง10! ♡♡ (,,,ゝ∀・,,,)ノシ *:・゚✧*:・゚✧
>>>/webnovel/3786/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]

.

♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
1.2) ไม่สปอยล์เนื้อหามากจนเกินไป คนอยากโดนสปอยล์ก็อดใจรอไว้หน่อย ไว้ไปฟินพร้อมๆกัน

2) อย่าเร่ง อย่ากดดันโม่งแปล !!!!

3) งดเว้นการตั้งชื่อกระทู้ด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็น​มงคล (หรือถ้อยความ​ที่เป็นแง่ลบ อาทิ คาน, จมเรือ, เรืออับปาง, หักธง, ซากเรือ เป็นต้น) "ห้ามแก้เคล็ดเด็ดขาด" หากฝ่าฝืนตั้งมา ชื่อนั้นก็จะไม่เอามาโหวตนับคะแนนแต่อย่างใด

.

♕ สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต ♕
https://docs.google.com/document/d/1Jtm_XMsTD_t_6GWtvFfN3qDIm3yxYGeJCX29QUS1vIo/edit?usp=sharing

How to: วิธีการใช้และอัพเดตสารบัญ
https://docs.google.com/document/d/1ET-eMchwMQyJ8awYO1Q5yIcKWuTeJrJ0TVhXXVd8eD4/edit?usp=sharing

รวมไฟล์สารบัญ
https://drive.google.com/drive/folders/0BwR6XEqxsnTAZWdSckFqb182VDQ

2 Nameless Fanboi Posted ID:8cEL2eJSz

ไถเข้ามู้ใหม่ รออ่านฟิค 555

3 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

แจกบัตรเชิญแก่ทุกท่านขึ้นสู่ยานอวกาศไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น
เอ็นโจ side story >>>/webnovel/3364/7-11
----------------------------------------

ปิดเทอมหน้าร้อนปีนี้ก็ยุ่งอีกเหมือนเคย เมื่อผมขึ้นชั้นม.ปลาย ความรับผิดชอบก็ต้องมีมากขึ้น เป็นการเตรียมตัวในฐานะผู้สืบทอด เวลาเที่ยวเล่นก็น้อยลงไป มาซายะเองก็ไม่ค่อยต่างกัน เราสองคนต่างก็งานล้นมือด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็ยังมีนัดไปเที่ยวกันบ้างตามประสาวัยรุ่นที่โรงเรียนปิดเทอม

วันหนึ่ง ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากมาซายะ น้ำเสียงปลายสายค่อนข้างร้อนรนแปลกไปจากเดิม

“นายต้องไม่เชื่อแน่ ชูสุเกะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันในวันนี้”

จากที่เขาเล่าคือ ขณะที่กำลังจะกลับบ้าน ตอนที่รถกำลังเลี้ยวก็ได้ชนกับจักรยานคันหนึ่งเข้าให้ เจ้าของจักรยานคันนั้นคือคุณทาคามิจิ

มาซายะเล่าเสียละเอียดยิบ ทำเอาทึ่งหน่อยๆ

คุณทาคามิจิที่ถูกรถชนลอยละลิ่วไปพร้อมกับจักรยาน กลิ้งหลุนๆไปตามพื้น แม้จะยังเดินไหว แต่ก็ได้แผลถลอกตามแขนขามาพอสมควร มาซายะรีบเอารถพาคุณทาคามิจิไปส่งโรงพยาบาลทันที ทำแผลและตรวจเช็คแทบทุกอย่างให้แน่ใจว่าไม่มีอาการบาดเจ็บแทรกซ้อนตรงไหนก็พากลับไปส่งบ้าน กล่าวขอโทษบ้านคุณทาคามิจิที่ทำให้บาดเจ็บ

“พรุ่งนี้แม่ฉันคงส่งทนายไปคุยเรื่องค่าเสียหาย แต่ฉันก็เปรยๆไว้บ้างแล้วล่ะ”

“ก็ให้ไปตามที่คิดว่าสมควรก็แล้วกัน”

“เรื่องนั้นมันก็ต้องแน่อยู่แล้ว” เขาพูดห้วนๆตอบกลับมา “แล้วอีกอย่าง ฉันต้องซื้อจักรยานคันใหม่ให้ทาคามิจิด้วย นายคิดว่าแบรนด์นี้เป็นไง”

เราสองคนคุยกันเรื่องแบรนด์จักรยานอยู่อีกครู่หนึ่ง มาซายะก็ขอวางสายไปก่อน ทิ้งให้ผมอยู่กับเรื่องราวที่ฟังดูค่อนข้างจะเหลือเชื่อเหมือนถูกพายุพัดผ่านหน้า

เย็นวันถัดมา มาซายะก็โทรมารายงานผลการเจรจากับบ้านคุณทาคามิจิ น้ำเสียงดูหงุดหงิดเล็กน้อย

“ยัยนั่นบอกไม่เป็นไร แผลเต็มตัวขนาดนั้นยังจะว่าไม่เป็นไรเนี่ยนะ แล้วปฏิเสธไม่เอาค่าเสียหายด้วย บอกว่ามากเกินไป”

“เสนอไปเท่าไหร่ล่ะ” มาซายะบอกตัวเลขมา ผมก็พยักหน้า “ก็พอรับได้”

“บ้านยัยนั่นยืนกรานว่าไม่เอาน่ะสิ ตอนนี้ให้ทนายคุยอยู่”

มาซายะบ่นปอดแปดถึงเรื่องนี้อีกครู่หนึ่งก็พูดถึงงานปาร์ตี้ซัมเมอร์ที่กำลังใกล้เข้ามา ดูเหมือนว่ายูริเอะกับไอระจะถูกชักชวนจากประธานนากาจิมะให้เข้าร่วมด้วย ยูริเอะดูลังเลแต่คิดว่าคงเกลี้ยกล่อมได้ไม่ยาก

“แน่ใจแล้วเหรอ มาซายะ” ผมถามเขาเพื่อเน้นย้ำถึงเรื่องนี้ มาซายะก็ตอบกลับมาว่าต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองให้ได้

ความรักสิบสี่ปีของมาซายะจบลงไปแล้ว ที่เชิญยูริเอะมาปาร์ตี้ซัมเมอร์ก็คงอยากเคลียร์เรื่องที่คั่งค้างอยู่ในใจ จะได้ไม่ต้องคาราคาซังกันอยู่แบบนี้

งานปาร์ตี้ซัมเมอร์อย่างนั้นรึ

อยากเจอคุณคิโชวอินจัง
.
.
.

วันงานมาถึงอย่างรวดเร็ว มาซายะไปรับยูริเอะ ผมเลยไปรับไอระที่บ้าน เราสองคนคุยเรื่องมาซายะกับยูริเอะไปตลอดทาง ไอระดูเป็นกังวลหน่อยๆกับท่าทีของมาซายะ แล้วก็พูดเรื่องที่เคยเสนอให้คุณคิโชวอินเป็นผู้เยียวยาหัวใจมาซายะให้เจอกับความรักใหม่ แต่แผนนั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า

ผมโล่งอก คิดว่าดีแล้ว ที่แผนนั้นมันล่ม หากแผนสำเร็จจริงๆ ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน

เราสี่คนเข้าสู่ภายในงานโดยตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน ใครๆก็อยากรู้เรื่องของมาซายะกับยูริเอะทั้งนั้นนั่นล่ะ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพอที่จะถามก็เท่านั้นเอง

มาซายะก้มไปกระซิบกระซาบกับยูริเอะที่มีท่าทีตกใจ แล้วก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้าง ควงแขนมาซายะไปสู่ฟลอร์เต้นรำ

ในเมื่อยูริเอะลงไปเต้นแล้ว ด้วยหน้าที่สุภาพบุรุษ ผมเลยชวนไอระไปเต้นบ้าง เพลงวอลซ์เชื่องช้าอ่อนหวานบรรเลงด้วยวงดนตรีฝีมือเยี่ยมที่ถูกจ้างมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ผมเต้นนำไอระตามจังหวะเพลง แต่สอดส่ายสายตามองหาใครคนหนึ่งไปด้วย

ท่ามกลางคนมากมาย ผมก็ยังหาเธอพบ

4 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

คุณคิโชวอินยืนอยู่เสียไกลลิบจากฟลอร์เต้นรำ ถือถาดสีเงินเอาไว้ในมือ โพสต์ท่าราวกับตัวเองเป็นนางแบบบนปกนิตยสาร เหมือนพยายามเสนอขายถาดใบนี้ให้คุณโนเซ็น

ทำอะไรของคุณน่ะ คุณคิโชวอิน

ผมอยากหัวเราะดังๆ แต่ต้องปั้นหน้ายิ้มแย้ม อดทนไว้ก่อน

ตอนนี้คุณคิโชวอินเอาถาดกลับไปวางที่แล้วยืนตัวตรง นิ่งๆ สงสัยการขายจะไม่ประสบความสำเร็จ

ไหล่ผมสั่นเพราะกลั้นหัวเราะอยู่รึเปล่านะ

มองไปอีกทีก็เห็นยูกิโนะเดินเข้าไปคุยกับคุณคิโชวอิน สักพักก็จับจูงมือเธอเดินมาทางฟลอร์เต้นรำนี้ โค้งให้ตามธรรมเนียมแล้วเริ่มต้นเต้นรำด้วยกัน

ผมรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย ยูกิโนะพอสบตากับผมก็ยิ้มให้ แต่คุณคิโชวอินมองมาแค่แว้บเดียวแล้วก็ไม่มีท่าทีสนใจผมสักนิด ก้มหน้าคุยแต่กับยูกิโนะแบบสนุกสนาน

พอจบเพลง สองคนนั้นก็ถอนตัวออกไปจากฟลอร์เต้นรำ ไปยืนคุยกันต่อ

ไอระมองตามสายตาของผม เข้าใจว่าผมเป็นห่วงน้องชาย ทุกคนรู้ดีว่าสุขภาพยูกิโนะไม่แข็งแรง มาเจอคนเยอะๆอาจป่วยไข้ไม่สบายได้ ผมก็เลยใช้ข้ออ้างนั้นเพื่อจะเลิกเต้นรำ เดินไปหาคุณคิโชวอินที่ยืนอยู่กับยูกิโนะ

สาวๆทักทายกันไปตามเรื่องตามราว ส่วนมาซายะไปเล่นกับยูกิโนะที่ทำหน้ายู่ พยายามปัดมือมาซายะออกไปเพราะถูกยีหัว ยูริเอะกับไอระเลยจัดแจงดุมาซายะแบบที่ผมไม่ต้องลงมือเองสักนิด

ผมกล่าวขอบคุณที่ช่วยดูแลยูกิโนะให้ เธอก็รีบปฏิเสธแบบถ่อมตัว

“ยูกิโนะคุงต่างหากล่ะคะที่อุตส่าห์ใส่ใจ ชวนดอกไม้ริมผนังอย่างฉันออกมา” คุณคิโชวอินยิ้มแย้มดูมีความสุข “ฉันต่างหากล่ะคะที่ต้องขอบคุณ”

ชวนดอกไม้ริมผนังอย่างนั้นเหรอ

ถ้าเป็นผมที่ชวน เธอจะยอมลงไปเต้นด้วยรึเปล่านะ

คำตอบที่ได้แทบจะผุดขึ้นมาในหัวทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด

ไม่มีทางอยู่แล้วล่ะ ไม่มีหวังด้วย

ยูกิโนะแยกออกไปหาเพื่อนๆชั้นประถม ไอระกับยูริเอะก็เลยหันกลับมาคุยกับคุณคิโชวอินต่อเหมือนเดิม

ตอนที่รู้ว่ามาซายะเป็นคนชวนยูริเอะมา คุณคิโชวอินมองไปทางมาซายะอย่างอยากรู้อยากเห็น

บางครั้งผมก็อ่านท่าทีของเธอไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้กรี๊ดกร๊าดมาซายะแบบเด็กผู้หญิงทั่วไปในโรงเรียน แต่ก็ดูจะสนใจเรื่องมาซายะเอามากๆ เป็นแบบนี้มาตลอด หรือว่าเธอจะชอบมาซายะโดยไม่รู้ตัวกันนะ

แต่พอคิดแบบนี้แล้ว รู้สึกเจ็บชะมัดเลยแฮะ

“เข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่า คุณคิโชวอิน” ผมพยายามยิ้มให้เธออย่างเคย แต่รู้สึกว่ามันฝืดเฝือนเต็มที่

คุณคิโชวอินทำตาโตอย่างตกใจกับคำตอบของมาซายะ ท่าทางแบบนี้ก็ตลกดีอีกแล้ว พวกเราสี่คนเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ระหว่างฟังเรื่องเล่าจากยูริเอะ คุณคิโชวอินก็ดูอึ้งๆ มองมาซายะปรับความเข้าใจกับยูริเอะต่อหน้า แล้วพอมาซายะหันมาพูดเรื่องคุณคิโชวอินอกหักจากโทโมเอะ ยูริเอะกับไอระก็ดูจะตกใจเอามากๆ เข้าไปให้กำลังใจกันยกใหญ่ตามประสาเพื่อนผู้หญิง

คุณคิโชวอินดูกระอักกระอ่วนที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แค่ดูสีหน้าเธอที่แสดงออกมาก็สนุกแล้ว เป็นไปตามคาดที่เธอจะหันมาทำท่าขุ่นเคืองใส่ผมที่กำลังกลั้นหัวเราะเพราะสังเกตเธออยู่

คุณช่างมีสีหน้าที่หลากหลายเสียจริงๆ อยู่ใกล้ๆ มองคุณไปเรื่อยๆก็ทำให้โลกสดใสได้แล้ว
.
.
.

หลังจากงานเลี้ยง มาซายะก็เทียวไปหายูริเอะเหมือนตอนก่อนจะถูกหักอก เพียงแต่คราวนี้มีเค้กไปฝากเยอะแยะ เป็นเค้กหน้าตาธรรมดา ไม่หรูหราตกแต่งปราณีตแบบที่ทำขายในโรงแรม ออกจะผิดจากมาตรฐานของเขาไปพอสมควร

มาซายะแนะนำเค้กบ้านคุณทาคามิจิอย่างภาคภูมิใจประหนึ่งว่าเป็นฝีมือของตัวเอง และชื่อของคุณทาคามิจิก็มักจะโผล่ขึ้นมาในบทสนทนาบ่อยๆ อย่างเช่น

“อะไรของยัยนั่น มายืนยันอยู่ได้ว่าจะไม่เอาค่าเสียหาย ฉันจะช่วยซื้อเค้กทั้งร้านแทน ก็ดันปฏิเสธอีก จะดื้อไปถึงไหนกันเนี่ย”

หรือ

“ยัยนั่น หมิ่นความงามและสมรรถภาพของจักรยานที่ฉันให้มากเกินไปแล้ว!! คิดมาได้ยังไงว่าจะติดสติ๊กเกอร์พิลึกๆนั่นลงบนจักรยานน่ะ หา!! แล้วยังมีเรื่องขอให้ช่วยติดตะกร้ากับอานหลังอีกนะ ดีไซน์เนอร์ออกแบบได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เป็นนาย จะทำลายความสมบูรณ์แบบนั้นได้ลงเหรอ”

และ

“ขนมร้านทาคามิจิ ฉันว่าสตรอเบอรี่ช็อตเค้กก็ไม่เลวนะ มองบลังค์กับชูครีมมัทชะก็ดี แต่กาโตว์ชอคโกลาน่ะอร่อยที่สุดเลยล่ะ”

ดูท่าทางมาซายะจะติดใจคุณทาคามิจิเข้าให้แล้ว พูดถึงไม่หยุดปากเลย

เปิดเทอมวันแรก มาซายะที่บังเอิญเจอคุณทาคามิจิหน้าโรงเรียน ก็เดินเข้าไปคุยกันอย่างสนิทสนม เรื่องนี้สร้างความฮือฮาให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง มาซายะไม่เคยเดินคุยกับผู้หญิงคนไหนนอกจากยูริเอะเลยสักครั้ง

ผมมองหาคุณคิโชวอิน คิดว่าเธอคงอยากรู้เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน เหมือนตอนที่ตอบข้อสงสัยเรื่องรักแรกของมาซายะในงานปาร์ตี้ซัมเมอร์นั่น เมื่อเล่าเรื่องความรักข้างเดียวที่ยาวนานถึงสิบสี่ปีของมาซายะให้เธอฟัง คุณคิโชวอินก็ดูทึ่งหน่อยๆที่เด็กสองขวบจะรู้จักรักแรกแล้ว

5 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

ผมเดาท่าทีของเธอในตอนนั้นไม่ออกจริงๆว่าคิดอะไรอยู่ จะดีใจไหมที่มาซายะอกหักจากยูริเอะ หรือจะเสียใจที่มาซายะไปรักชอบคุณทาคามิจิแล้ว

เมื่อก่อนผมคงไม่คิดอะไรเช่นนี้ แต่พอรู้ตัวถึงสิ่งที่อยู่ในใจ ผมทั้งกลัวและกังวลไปหมด พยายามจะห้ามไม่ให้ตัวเองคิดไปต่างๆนานาจนฟุ้งซ่าน

หรือควรจะหักห้ามใจตั้งแต่เนิ่นๆดีนะ จะได้ไม่เจ็บมาก

มาซายะเองก็เทียวมาหาผมที่ห้องทุกครั้งที่ว่าง แต่ดูเหมือนจะใช้ผมเป็นสะพานไปหาคุณทาคามิจิมากกว่า เห็นหน้าระรื่นแบบนั้นมันน่าหมั่นไส้ชะมัด ช่างมีความสุขเหลือเกินนะ

ถ้าจะแช่งให้อกหักอีกหน คนที่ลำบากก็ต้องเป็นผมอีกนั่นล่ะ
.
.
.

วันแล้ววันเล่าผ่านไปเช่นนั้น จนกระทั่งผมได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์ห้องพยาบาลเรื่องอาการหอบของยูกิโนะกำเริบ แม้จะมีแผนรับมือเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว ก็อดที่จะตกใจไม่ได้อยู่ดี

ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือ คุณคิโชวอินเป็นคนแบกยูกิโนะขึ้นหลังมาส่งที่ห้องพยาบาล

พอไปถึงที่ห้องพยาบาลของฝั่งประถม ก็เห็นคุณคิโชวอินนั่งอยู่ข้างๆเตียงยูกิโนะ ใบหน้านั้นขาวซีดไม่มีสีเลือด ผมสอบถามอาการของน้อง ยูกิโนะดูขืนตัวเองเล็กน้อยตอนที่ผมช่วยประคองให้ลุกขึ้น ถ้าให้เดาก็คงมาจากการที่ไม่อยากทำตัวอ่อนแอไปมากกว่านี้ต่อหน้าคุณคิโชวอินนั่นล่ะ

พอกล่าวขอบคุณที่ช่วยเหลือยูกิโนะและบอกว่าจะตอบแทนบุญคุณอย่างแน่นอน คุณคิโชวอินก็โบกไม้โบกมือปฏิเสธใหญ่บอกว่าอย่าไปถือเป็นบุญคุณ แค่ช่วยมาบอกอาการยูกิโนะก็พอ ทำเอาอึ้งไม่น้อย

ส่งน้องไปถึงมือหมอได้ ผมก็กลับมาครุ่นคิดพิจารณา

ผมถูกสอนมาว่าคนเราทำอะไรมันก็หวังผลตอบแทนหรือสิ่งแลกเปลี่ยนด้วยกันทั้งนั้น โลกนี้มันไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอก การให้ความช่วยเหลือแล้วสร้างสายสัมพันธ์ที่เรียกว่าบุญคุณ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ควบคุมบงการคนอื่นให้ทำตามความต้องการของเราได้

แต่กับคุณคิโชวอินไม่ใช่อย่างนั้น เธอรักและห่วงใยยูกิโนะจากใจจริง ช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไร ช่วยอย่างเต็มกำลังและความสามารถทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เก่งกาจ ทำด้วยใจอย่างจริงแท้ ผมที่พบเจอคนมามากมาย ยังไม่เคยเห็นใครเหมือนเธอมาก่อน

เพราะเธอเป็นแบบนี้ ผมถึงได้ชอบ และความรู้สึกนั้นมันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน

คราวแรกที่คิดว่าจะตัดใจตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อไม่ให้เจ็บหนักมาก แต่วินาทีนั้นผมก็ได้ตระหนักว่าผมกำลังถลำลึกลงไปจนยากที่จะถอนตัว

จะให้หักห้ามความรู้สึกตอนนี้ เห็นทีคงทำไม่ได้แล้ว
.
.
.

วันรุ่งขึ้น ผมไปรายงานอาการของยูกิโนะให้คุณคิโชวอินทราบตามที่ได้สัญญากันไว้ เธอหน้าเสียไปเลยเมื่อได้ยินว่ายูกิโนะต้องเข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว พอบอกว่ายูกิโนะเองก็จ๋อยที่ต้องให้ผู้หญิงมาแบกขึ้นหลัง คุณคิโชวอินก็ทำหน้าแปลกๆ แต่คงเป็นความเอ็นดูมากกว่า

ผมก้มหัวให้เป็นการขอบคุณ คุณคิโชวอินก็รีบห้ามเอาไว้

มาซายะเดินมากับคุณทาคามิจิพอดี คุยกันสนิทสนม คุณคิโชวอินหันไปมองทางนั้น ทำตาโตแบบสงสัย ชะเง้อคอมองแบบคนสอดรู้สอดเห็นเต็มขั้น

ผมสังเกตท่าทีของเธอ ไม่เห็นความเสียใจหรือผิดหวังอยู่บนใบหน้าและแววตาก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา

แต่เมื่อจะเสนอช่วยไขคำตอบให้กับสิ่งที่เธอกำลังสงสัย คุณคิโชวอินที่หันมาจ้องตาผมก็ชะงักค้างแล้วรีบเผ่นหนีไปเลย อะไรกัน ท่าทีดีใจของผมมันปรากฎชัดขนาดนั้นเลยเหรอ

ถึงจะเสียดายที่คุณคิโชวอินไม่ยอมตกหลุมพรางที่ผมพยายามขุดล่อ แต่ได้เห็นท่าทีของเธอเหมือนจะยืนยันคำตอบในสิ่งที่ผมสงสัย

คุณคิโชวอินไม่ได้มีใจให้มาซายะ ผมยังมีโอกาสอยู่
.
.
.
พอยูกิโนะออกจากโรงพยาบาลก็เที่ยวเดินไปเดินมาในห้องผม เปิดนั่นเปิดนี่ดูไปเรื่อย แล้วก็ออกไปจากห้องด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่คุณคิโชวอินคงไม่มีวันได้เห็น

วันต่อมา น้องก็เอาผ้าขนหนูมาให้ ทำหน้าออดอ้อนแบบน่ารักว่าอยากให้ผมใช้มันที่โรงเรียน แต่แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว การแสดงแบบนี้มีแต่คุณคิโชวอินเท่านั้นล่ะที่จะตกหลุมพรางน่ะ

จะไปขัดคอก็คงไม่ดี ผมเลยแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไร รับผ้าผืนนั้นมาใช้แต่โดยดี

เป็นไปตามคาดที่ยูกิโนะจะส่งผ้าขนหนูแบบเดียวกันไปให้คุณคิโชวอินใช้ด้วย แล้วก็ยังมีเทียนอโรมากลิ่นที่ผมชอบ เจตนาชัดเจนแบบนี้ ไม่ต้องพูดอะไรก็รู้

ผมมองจากอีกฟากของสนาม เห็นเธอหยิบผ้าที่เหมือนกันกับของผมขึ้นมาใช้ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เห็นเธอใช้ของเข้าคู่กันกับตัวเอง เหมือนได้สร้างสายสัมพันธ์ที่เป็นพิเศษขึ้นมาได้อีกขั้น

มิน่า คนเป็นแฟนกันถึงชอบใช้ของเป็นคู่กัน เพราะเหมือนกับการประกาศความเป็นเจ้าของไปในตัว เป็นสิ่งพิเศษสำหรับคนสองคนเท่านั้น

แต่เวลาของความสุขนั้นช่างแสนสั้น มีคนไปทักเธอเรื่องผ้าขนหนูที่เป็นคู่กันกับผม เป็นไปตามคาดที่เธอจะเก็บผ้าผืนนั้นลงกระเป๋าทันที ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆกับตัวเอง รู้สึกขมปร่าในอก รู้ทั้งรู้ว่าคุณคิโชวอินพยายามเลี่ยงพวกผม แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้

รังเกียจกันขนาดนั้นเลยเหรอ

6 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

มาซายะที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มาถึงก็หยิบผ้าจากไหล่ผมไปเช็ดหน้าเช็ดตาตัวเองตอนล้างหน้า เช็ดๆไปซักพักก็ชมถึงคุณภาพ พลิกหายี่ห้อแล้วบอกว่าจะไปซื้อเย็นนี้เลย วันต่อมาก็เอาผ้าแบบเดียวกับผมมาใช้ สาวๆในซุยรันพอเห็นแบบนั้นก็รีบไปซื้อมาใช้เพื่อหวังจะเป็นคู่กับผมหรือมาซายะ

แน่นอนว่าคุณคิโชวอินไม่เอาผ้าผืนนั้นมาใช้ที่โรงเรียนอีกเลย

ยูกิโนะที่รู้ข่าว ถลึงตามองมาซายะแบบจะกินเลือดกินเนื้ออยู่หลายวัน มาซายะพูดด้วยก็ตอบกลับมาห้วนๆ จงใจเดินเหยียบเท้ามาซายะแล้วทำหน้าตาใสซื่อเหมือนไม่ได้ตั้งใจบ้าง หรือกีดกันมาซายะออกไปจากวงสนทนา ทำเมินเฉยโดยสิ้นเชิง

มาซายะไม่ได้ถือโทษโกรธเคืองอะไรเพราะรู้ๆนิสัยกันอยู่ คิดว่าครั้งนี้ยูกิโนะก็คงงอนป่องด้วยเรื่องอะไรซักอย่าง เดี๋ยวก็หายไปเองตามประสาเด็กเอาแต่ใจ ผมปล่อยให้มาซายะกับยูกิโนะทำสงครามประสาทกันไป ไม่เข้าไปยุ่งด้วย

การที่คุณคิโชวอินไม่ใช้ผ้าผืนนั้นอาจจะดีแล้วก็ได้ เพราะตอนนี้ ใครต่อใครก็ใช้กันทั่ว ทำลายความพิเศษที่มีจนแทบไม่อยากหยิบมาใช้

มีคนมาถามถึงเรื่องนี้เหมือนกัน ผมก็ได้แต่ตอบไปว่านี่คือผ้าผืนโปรด อย่างไรเสีย มันก็เป็นของชิ้นแรกที่เป็นคู่กันกับเธอ

และตอนที่เอาผ้าผืนนี้แนบแก้มทีไร ผมก็ยังระลึกถึงความรู้สึกอ่อนหวานเป็นพิเศษในวันนั้นได้เสมอ
.
.
.

เย็นวันหนึ่ง หลังจากซ้อมวิ่งเสร็จ พวกเราที่เดินผ่านตรงก๊อกน้ำก็ได้เห็นกลุ่มสาวๆกลุ่มใหญ่กำลังรุมล้อมอะไรสักอย่าง พอสาวๆกลุ่มนั้นเห็นผมกับมาซายะก็ถอยออกไปทันที

คุณทาคามิจิอยู่ตรงกลางวงล้อมนั่น ใช้มือปาดน้ำเปียกๆออกจากใบหน้า ที่เท้ามีผ้าขนหนู รอยรองเท้าประทับตราไว้บนนั้นแบบเด่นชัด เห็นแป๊บเดียวก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

อ๋อ การกลั่นแกล้งด้วยความอิจฉาริษยาจากบรรดาแฟนคลับของมาซายะสินะ

หมู่นี้ มาซายะชักจะออกหน้าออกตาเรื่องคุณทาคามิจิเกินไป เจอหน้าก็ทัก แล้วก็เข้าไปพูดคุยด้วยดื้อๆ ไม่สนใจสายตาแฟนคลับเพราะไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาตั้งแต่ต้น แต่คงจะลืมไปว่าคุณทาคามิจิที่เป็นนักเรียนธรรมดา ไม่มีอำนาจ ไม่มีบารมีอะไรจะคุ้มครองตัวเอง ก็ต้องตกเป็นเป้าความอิจฉาริษยาถูกรุมกลั่นแกล้ง ไม่เหมือนคราวของยูริเอะ

โชคดีที่ยังไม่มีใครรังแกหนักข้ออย่างการทำร้ายร่างกาย อย่างมากก็เหน็บแนมหรือกระทบกระแทกเล็กๆน้อยๆ ซึ่งคุณทาคามิจิก็ดูไม่ได้เก็บมาใส่ใจอะไร

มาซายะถามไถ่เรื่องผ้าขนหนูที่หล่น แล้วก็โยนผ้าของตัวเองให้คุณทาคามิจิ สายตาของกลุ่มคุณซึรุฮานะเปลี่ยนไปทันควัน เท่านี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าคุณทาคามิจิน่ะ “พิเศษ” สำหรับมาซายะ

ผมมองคุณคิโชวอินที่อยู่วงนอกสุด ดูเหมือนเธอจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการรังแก แต่ก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือแบบออกนอกหน้าตามประสาคนที่ไม่ชอบเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องยุ่งยาก ยิ่งเป็นเรื่องความขัดแย้งไร้สาระระหว่างสาวๆในโรงเรียนแบบคราวที่มีเรื่องกับกลุ่มคุณซึรุฮานะ เธอก็ยิ่งวิ่งหนีให้ห่างออกไป ไม่อยากยุ่งเกี่ยว

คุณทาคามิจิที่วิ่งตามหลังมา พยายามจะเอาผ้าผืนนั้นมาคืนมาซายะ ซึ่งมาซายะก็ปฏิเสธที่จะรับคืน คุณทาคามิจิก็เลยต้องเก็บผ้ากลับไปแบบเสียมิได้

แน่นอนว่าคุณทาคามิจิก็ไม่กล้าเอาผ้านั่นมาใช้ที่โรงเรียนให้ตกเป็นเป้ามากขึ้นหรอก

เท่านี้ก็เสมอกันในเรื่องผ้าขนหนูแล้วนะ มาซายะ

คุณคิโชวอินไม่ได้ใช้ คุณทาคามิจิก็ไม่ได้ใช้ด้วยเหมือนกัน

-----------------------------
ตัดตอนจ๊ะ ตัดตอน

7 Nameless Fanboi Posted ID:ZfC+Mz45t

>>3-7 กรี๊ดดดด ฟิคเอ็นโจ side story ในที่สุดมึงก็มาต่อแล้วววว อ่านแล้วคิดถึงตอนเก่าๆ จังคร่ะ โดยเฉพาะตอนผ้าขนหนูเข้าคู่กันนั่น >///<

8 Nameless Fanboi Posted ID:kl81Mt4Pq

กรี๊ดดดดดดดด ฟิน กาวที่ห่างหายไปนาน ㅠ ㅠ

9 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

>>3-6 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ฟิคบ้องอวกาศที่รอมานาน โอ๊ย เอ็นโจจจจจจจจจ ห้ามใจไม่ได้แล้วเนอะ กรี๊ดดดดดดด
แต่ทำไมมาแค่นี้ล่ะ! เอาตอนต่อมานะ!!!

10 Nameless Fanboi Posted ID:F/ko+0FyC

>>3-6 ดีงามมมมมม มึงงง มันดีงามมากๆ โอ๊ยยยยยยย หัวใจกูได้รับการฮีลลล HP +9999 ทำไมกูต้องเขินแทนเอ็นโจ อ๊ากกกกกก กูจะรอมึงมาต่อน้าาาา

11 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

>>9 วันละตอนละกันเพราะแม่งยาวสัส 5555555555555555

12 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

>>11 โอเคคร่ะ //กราบงามๆ

13 Nameless Fanboi Posted ID:11DK/rnV6

>>11 วันละตอนนนน!!!! วันที่เป็นจริงของกูววว จูบโม่งฟิครัวๆ

14 Nameless Fanboi Posted ID:znzrnDqN1

>>3-6 โอ๊ย..ดีต่อใจแต่ทรมารเอ็นโจ เอ็นโจนี่ดูแล้วน่าสงสารชะมัดแค่ได้มองก็สุขใจ โธ่...พ่อคุณ

15 Nameless Fanboi Posted ID:2nddw+8e+

โอ่ย โอ่ยยยย มโนเหมือนกูเลยเรื่องผ้า เป็นผ้าผืนโปรดเพราะเป็นของชิ้นแรกที่เข้าคู่กัน ฮือออออ กูตายค่ะ ตายแล้วค่ะ เป็นสุขมากเลยค่ะ
ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหวแล้วนะเอ็นโจ มองท่าทีของเขายังไม่ได้มีใจให้เพื่อนนายก็ตาเป็นประกายระยิบระยับเชียวนะ เผลอดีใจออกนอกหน้า กระต่ายเลยหนีไปก่อน คราวหลังก็ระวังๆหน่อยนะ กระต่ายตัวนี้ยิ่งขี้ระแวงอยู่
ขอบคุณสำหรับกาวที่ห่างหายไปนาน กูฟินมากกกกกก กูจะรอมึงมาต่อน้าาาาาาา

16 Nameless Fanboi Posted ID:Nyutj6sXc

>>3 กรี๊ดดดดดด เอ็นโจจจจจจสู้เขาาาา ยูกิโนะ---กู๊ดจ็อบ!!!bbbbbbbb >>11 วันละตอน!? *นั่งกอดเข่ารอ*

17 Nameless Fanboi Posted ID:uehW5H+xH

>>3-6 ดีค่ะ ดีต่อใจที่ซู๊ดดดดดดดดดดดดดดดด อ๊าคคคคค ยูกิโนะคุงงงงง น่าร๊ากกกกก เก่งมากเลยลูก
/แอบสงสารเอ็นโจ เหมือนเรานก เขาก็นกด้วย 55555+ (โดนจอมมารเชือด)

18 Nameless Fanboi Posted ID:Nyutj6sXc

กุเพิ่งสังเกต ตอน116 ที่เอ็นโจเข้าไปคุยกับวาคาบะ เรย์กะก็ดูตกใจเหมือนกันนะ คิดในใจว่า สนิทกัยตั้งแต่ตอนไหน แถมคาบุก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย เชี่ยยยยยยย กุมโนนนนนนน

19 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

>>18 ตอนเขาแยกกัน ก็โล่งอกด้วยนะ //w\\

20 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

>>18 ตอนวาคาบะเรียกเอ็นโจคุงก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้ด้วยนะ ฮุๆๆๆๆๆๆๆ

21 Nameless Fanboi Posted ID:Nyutj6sXc

>>19 >>20 เอ้อออออ จริงด้วย!

22 Nameless Fanboi Posted ID:gQMtkU7fy

>>20 แล้วจากที่เรย์กะบรรยายว่าปล่อยผ่านไปไม่ได้เนี่ยมีสองครั้งนะ ครั้งแรกคือตกใจเรื่องวาคาบะถูกรถคาบุรากิชน ครั้งที่สองคือเรียกเอ็นโจคุง นั่นแน่

23 Nameless Fanboi Posted ID:xzkhcSZE4

เฮ้ยพวกมึง กูอยากลงฟิคกะเขาบ้าง แต่กูไม่มั่นใจว่าตอนนึงต้องยาวเท่าไหร่...

24 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

>>23 เม้นท์นึง ใส่ได้ไม่เกิน 4,000 ตัวอักษร เช็คจำนวนได้ใน word หรือไม่ก็เว็บ http://www.lettercount.com/

25 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

>>23 ลงๆมาเหอะ ความยาวก็ตามแต่จะพิจารณา ไม่มีอะไรตายตัว

26 Nameless Fanboi Posted ID:xzkhcSZE4

>>24 >>25 โอเค ขอบคุณพวกมึงมาก

27 Nameless Fanboi Posted ID:OZYDf6gCt

กลับไปย้อนอ่านตอนเก่าๆแล้วอยากกินโมจิชะมัด มีใครเคยเจอที่ไหนขายโมจิมาทำเป็นอาหารหลายๆแบบในไทยมั่งมั้ยอะ กูเคยเจอแต่แบบโมจิที่ใส่มาในถั่วแดงต้มอะไรแบบนั้น อยากลองกินนน

28 Nameless Fanboi Posted ID:OZYDf6gCt

จิ้มย้อนกลับไปที่เม้น 963 ของมู้ที่แล้ว พอดีมาไม่ทัน มึงเลวมากกกกก คิดแล้วสงสารเรย์กะ ดูตอนโอจิซังกลายเป็นลายเส้นนี่กูลั่นเลยข่ะ 555555

ลิงค์มึงควรอยู่ในมู้นี้นะ เข้ากับชื่อมู้มากอะ เป็น tag love แบบไม่ได้ตั้งใจ 5555555

29 Nameless Fanboi Posted ID:qVKj6LR.+

>>27 เคยเห็นแต่โมจิสำเร็จรูปให้เอาไปทำกินเองต่อจากนั้นว่ะ มีขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นตรงสุขุมวิท กูเคยลองซื้อมาย่างกินเองก็อร่อยดีนะ
ถ้าตามร้านอาหารญี่ปุ่นเคยเห็นแต่แบบเป็นขนมว่ะ แบบโมจิใส่ถั่วแดงร้อน ยังไม่เคยเห็นแบบของคาวแบบที่คนญี่ปุ่นเขากินกันเลย

30 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

[[ เรย์กะกับเพื่อนร่วมห้อง ]]
(เนื่องจากส่วนมากไม่มีระบุว่าอยู่ห้องเลขอะไรบ้าง ขอแทนค่าเป็น X Y Z)

ประถมซุยรันมีห้องเรียน 4 ห้อง เปลี่ยนห้องเรียนตอนขึ้น ป.3 และ ป.5

• ประถมชั้นปีที่ 1
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, คิคุโนะ

• ประถมชั้นปีที่ 3
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, คิคุโนะ
ห้อง Y : เอ็นโจ, อาคิสะวะ

• ประถมชั้นปีที่ 5
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, หัวหน้าห้อง, มิฮารุ
ห้อง 3 : คาบุรากิ, คิคุโนะ
________

มัธยมต้น มีนักเรียนใหม่เพิ่มเข้ามา 3 ส่วน ไม่มีบอกจำนวนห้อง, เปลี่ยนห้องเรียนทุกปี

• มัธยมชั้นปีที่ 1
ห้อง X : เรย์กะ, หัวหน้าห้อง
ห้อง Y : เอ็นโจ, มิฮารุ, เณรน้อย
ห้อง Z : โมชิดะ, ซึรุฮานะ, อายาเมะ

• มัธยมชั้นปีที่ 2
ห้อง X : เรย์กะ, เอ็นโจ
ห้อง Y: คาบุรากิ, หัวหน้าห้อง

• มัธยมชั้นปีที่ 3
ห้อง X : เรย์กะ, คาบุรากิ, เซริกะ, ซึรุฮานะ, เณรน้อย
ห้อง 5 : หัวหน้าห้อง
__________

มัธยมปลาย มีนักเรียนใหม่เพิ่มเข้ามาประมาณร้อยคน

• มัธยมชั้นปีที่ 4
ห้อง 1 : วาคาบะ
ห้อง X : เรย์กะ, ซาโตมิ, อิโคมะ, ดิเท, อิวามุโระ

• มัธยมชั้นปีที่ 5
ห้อง X : เรย์กะ, หัวหน้าห้อง, รุเนะ, โนโนเซะ, ดิเท, ฟุยุโกะ
ห้อง Y : เอ็นโจ, วาคาบะ, ทากาคิ, หมายเลข 2 (กลุ่มซึรุฮานะ)

__________

คุ้นๆว่าเคยอ่านเจอว่า อิวามุโระเคยเป็นม้าให้คาบุรากิ ก็น่าจะเคยอยู่ห้องเดียวกัน แต่หาไม่เจอแฮะ ไม่รู้ว่าปีไหน...

31 Nameless Fanboi Posted ID:J84wA7Mqc

>>30 ยอมใจความขยันมึงเลย ชาบู
แต่ม.ปลายเรย์กะไม่ได้อยู่ห้องเดียวกับคิคุโนะ เซริกะหรอ

32 Nameless Fanboi Posted ID:32rLWJCPK

>>31 ตอนม.4 บอกแค่ว่ามีกลุ่มเพื่อนสาวๆอยู่ด้วย​ ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย แต่ในช่วงปีนั้นไม่มีบทบาท​ออกมาเลย วิ่งสามขายังต้องไปวิ่งกะอิโคมะ
ม.5 ตอนดูชื่อเพื่อน​ร่วมห้อง ทักแค่ว่ามีรุเนะ กะหัวหน้า​ห้องอยู่ด้วย

33 Nameless Fanboi Posted ID:J84wA7Mqc

>>32 แต้งกิ้วว พอดีจำได้ว่าเวลานั่งเม้าส์ตอนเช้าก่อนเข้าเรียนเหมือนคิคุโนะกับเซริกะจะอยู่ด้วย แต่ก็เป็นไปได้ที่จะเข้ามาห้องเรย์กะก่อน พอเรียนค่อยไปห้องตัวเองไรงี้

34 Nameless Fanboi Posted ID:khdCqtGUq

ฟิคคคค อ่าห์ ขอบพระคุณค่ะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.