ช่วงคืนความสุขให้ปชช.(?)
พิมพ์ไว้ตั้งแต่ก่อนโม่งแปลประกาศวันมหาวิปโยค ฟื้นตัวกันแล้วกูขอลงประเดิมเลยแล้วกัน _(:3JL)_
ต่อจาก >>141
----------------
หลายวันผ่านมานับแต่ที่ฉันฟื้นขึ้นมา
ดูเหมือนว่าฉันจะหลับไปนานหลายเดือนทีเดียว
แต่ถึงอย่างงั้น...
ร่างกายกลับไม่ได้ผอมลงไปจากที่จำได้เลยแฮะ
ทำไมกันล่ะคะ!?
ในการ์ตูนที่เคยอ่านยังมีเรื่องที่นางเอกอกหักร้องไห้อดอาหารไปสัปดาห์เดียว ก็กลายเป็นสาวสวยผอมเพียวป๊อปปูล่าได้เลยไม่ใช่เหรอ!?
แล้วนี่ฉันนอนหยอดน้ำเกลืออย่างเดียว ไม่ได้กินอะไรตั้งหลายเดือนเลยนะ! หลายเดือนเชียวนะ!! ทำไมไม่ผอมลงเลยล่ะ!?
หรือว่าจะเป็นกรรมพันธุ์มาจากพ่อ?
...บ้าเอ๊ย สิงโตทะเลแย่ที่สุดเลย!
ฉันคิดขณะที่ยัดขนมของเยี่ยมไข้เข้าปากด้วยความแค้นใจ
แม้ว่าคุณหมอจะบอกว่าฉันไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็ยังคงต้องอยู่เฝ้าดูอาการและทำกายภาพบำบัดซะก่อน ลงท้ายเลยยังคงอยู่ในห้องพยาบาลแห่งนี้
เป็นห้องเดี่ยวแบบนี้น่าจะแพงมากเลยไม่ใช่เหรอ?
พอฉันถามกับยูกะไป เธอก็ยิ้มกลับว่ามาไม่เป็นไรหรอก
"พ่อก็ขยันทำงานมากขึ้น แม่ก็เอาพวกของสะสมในบ้านไปขายบ้างน่ะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพวกของเก่าในบ้านเราขายราคาดีแบบนี้น่ะ! ฉันเองเวลาว่างๆเบื่อๆก็ไปทำงานพิเศษบ้างนะ สนุกมากเลยล่ะ ไม่เป็นไรหรอก~"
ฟังแล้วไม่เห็นจะไม่เป็นไรสักนิด
"นอกจากนั้นนะ อืม... อย่าโกรธนะ แต่พวกของในห้องพี่...บางอย่างก็เอาไปขายบ้างแล้วอะ..."
"เอ๋!?"
"พวกของสะสม หนังสือการ์ตูน ฟิกเกอร์เงี้ย... ก็นะ แม่บอกว่าถือโอกาสที่พี่เผลอเคลียร์ห้องไปซะเลยดีกว่าน่ะ จะเอาไปขายร้านขายของเก่างี้ แต่นั่นคงไม่ไหวแหงๆ ห้ามก็ไม่ฟัง ฉันเลยเสนอเอาไปประมูลในเน็ตแทน... บางอย่างเขาว่าเป็นของแรร์ได้ราคาสูงมากจนน่าเหลือเชื่อเลยล่ะ!..."
ยูกะก้มหน้าพูดอ้ำๆอึ้งๆในลำคอ ทำตัวหดเล็กลงท่าทางรู้สึกผิด ทั้งที่ปกติก็ตัวเล็กกว่าฉันตั้งเยอะอยู่แล้ว
"งั้นเหรอ..." ฉันถอนหายใจ
"...ไม่โกรธเหรอ?"
"อื้อ ก็นะ..."
ถ้าเป็นปกติแล้วฉันคงจะต้องโกรธมากแน่ๆ อย่างที่เคยทะเลาะกับแม่ที่เข้ามารื้อของฉันไปทิ้งจนบ้านแทบแตก หรือทะเลาะกับยูกะที่เอาของของฉันไปใช้โดยพลการจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน แต่...อืม คราวนี้กับไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น รู้สึกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเลยแฮะ คงเป็นเพราะว่าพวกเขาทำเพื่อฉันล่ะนะ... กลับรู้สึกผิดมากขึ้นด้วยซ้ำไปที่ทำให้ทุกคนลำบากแบบนี้ แย่จัง
แต่พวกการ์ตูนอย่างงั้นเหรอ ฉันเป็นพวกบ้าสะสมการ์ตูนมาก เลยมีมากมายจนล้นทะลักตู้มากองกับพื้นหลายกอง มักจะโดนแม่ดุบ่อยๆเลยล่ะ
หนึ่งในนั้นก็มีเรื่องที่ชอบมากที่สุดอยู่นะ ถึงขั้นว่าห้ามแตะต้องเรื่องนี้เชียวนะอะไรแบบนั้น
เรื่องนั้นทั้งฮิตและโด่งดังเป็นพลุแตก จนได้เอาไปทำเป็นละครซีรีส์ที่นำแสดงโดยนักแสดงและไอดอลชื่อดังหลังจากหนังสือเขียนจบเลยล่ะ แถมหนังสือการ์ตูนที่ฉันมีก็เป็นแบบตีพิมพ์ครั้งแรกเกือบทั้งเซ็ต ถ้าไปประมูลล่ะก็คงจะได้ราคาสูงมากๆเลยล่ะ
เรื่องที่ฉันรักมากที่สุดเรื่องนั้น...
"... เอ๋?"
"เป็นอะไรเหรอ?"
"... เปล่า ไม่มีอะไรหรอก"
ฉันส่ายหัวพร้อมกับหยิบขนมเซมเบ้ชิ้นสุดท้ายเข้าปาก ยูกะก็รีบลุกขึ้นไปเทน้ำมาให้ เป็นเด็กเอาการเอางานไม่เปลี่ยนเลยน้า
"ขอบใจนะ ยูกะ~"
"อะไรล่ะนั่น อย่าทำให้ขนลุกซิ!"
มาขนลงขนลุกอะไรกันล่ะ เสียมารยาทจริง ฉันอุตส่าห์ขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจในความน่ารักของน้องสาวแท้ๆ
ฉันดื่มน้ำ ขณะที่ในหัวก็พยายามนึกชื่อของการ์ตูนที่ฉันเคยคลั่งไคล้มากเรื่องนั้น
แต่ฉันกลับนึกไม่ออก
++++
"ขอบคุณค่ะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ"
ถึงจะนอนติดเตียงมาหลายเดือน แต่การทรงตัวเคลื่อนไหวร่างกายของฉันกลับฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การอยู่ในห้องทั้งวันทั้งคืนนี่มันน่าเบื่อสุดๆไปเลย หลังจากรอให้ทุกคนกลับกันไปแล้ว ฉันก็เลยแอบออกมาเข้าร้านสะดวกซื้อในโรงพยาบาลแก้เบื่อ
ฟ้าข้างนอกมืดครึ้มท่าทางว่าพายุไต้ฝุ่นกำลังจะเข้ามาแล้ว
แบบนี้อาการหอบจะกำเริบอีกรึเปล่านะ
เป็นแค่เด็กประถมแท้ๆแต่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆเนี่ย
น่าสงสารจัง...
...
หืม? ...ฉันหมายถึงใครกันนะ? อยู่ๆมันก็เป็นความคิดผุดขึ้นมาในหัว
แต่คนที่ฉันรู้จักไม่มีใครที่ยังเป็นแค่เด็กประถมอยู่เลยนี่นา...
ตั้งแต่ที่ฟื้นมาฉันก็มักจะรู้สึกแปลกๆอย่างงี้อยู่บ่อยๆ บางทีก็มีความคิดแปลกประหลาดผุดขึ้นมา บางทีก็เหมือนอะไรบางอย่างในหัวมันกลวงเปล่า อะไรบางอย่างที่เคยมีอยู่มันจางหายไป อะไรบางอย่างที่ฉันลืมมันไปสนิทใจ...
คงจะเพราะยังเบลอและสับสนจากการที่นอนหลับไปนานล่ะมั้ง คุณหมอก็บอกแบบนั้น
ดังนั้น ช่างมันเถอะ