อาการปวดแปลบในหัวเกิดขึ้นอีกหนแบบไม่รู้เวล่ำเวลา ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทนักเรียน เปิดฝาขวดยาแบบมือสั่นๆเล็กน้อย คราวนี้ไม่ปวดมากเท่าไหร่ แค่เม็ดเดียวก็น่าจะพอ
ผมวางกระปุกยาลงบนโต๊ะ ทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ หลับตาลง พิงพนักแบบเหนื่อยๆ
ปวดแค่นี้ผมทนไหวอยู่ เดี๋ยวนั่งอีกสักครู่ให้อาการดีขึ้นค่อยเดินไปที่ลานจอดรถแล้วก็กลับบ้าน วันนี้คงไม่ถึงกับต้องยกเลิกครูสอนพิเศษเพราะอาการปวดหัวแบบครั้งที่แล้ว
“ชูสุเกะ”
ผมสะดุ้งเฮือก เผลอลุกพรวดทั้งที่เอนตัวนั่งอยู่ ขวดพลาสติกสีขาวที่วางอยู่หมิ่นๆโต๊ะเมื่อได้รับการกระทบกระแทกก็ร่วงลงไป ผมจะคว้าไว้แต่ไม่ทัน ขวดนั้นหล่นลงบนพื้น กลิ้งไปหยุดแทบเท้าของคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
“มาซายะ”
เขาไม่ตอบอะไรผม แต่ก้มลงเก็บขวดยา อ่านข้อความบนนั้นแล้วก็เงยหน้าขึ้น
“นี่มันอะไร”
“ลูกอมไงล่ะ มาซายะอยากทานซักเม็ดมั้ย” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน ฉวยขวดยามาจากมือของเขาแล้วรีบเก็บใส่กระเป๋า
“ไม่ตลก” เขาถลึงตาใส่ผม “ยานั่นฉันรู้จักนะ ชูสุเกะ”
“มาซายะมีธุระอะไรกับผมเหรอ แล้วมาที่นี่ได้ยังไง” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง แม้ในใจจะสงสัย ห้องติวนี่น่าจะเป็นที่ลับๆของผมกับเรย์กะนี่นา แถมบริเวณนี้แทบไม่มีใครผ่านไปผ่านมาด้วย
“ฉันเจอคิโชวอินตรงทางเดินเมื่อกี้ พอถามหานาย เธอก็บอกให้มาดูที่นี่” มาซายะพ่นลมหายใจ “นายปิดมือถือ ฉันไม่รู้จะไปตามตัวที่ไหน”
“อ้อ โทษที” เวลาติวหนังสือให้เรย์กะ ผมมักปิดมือถือเพื่อป้องกันการรบกวนเสมอ “แล้ว...มีธุระอะไรล่ะ”
“เรื่องนั้นช่างมันก่อน” มาซายะกอดอก หรี่ตามองผม “นายกินยานั่นมานานเท่าไหร่แล้ว”
“ก็ไม่นานนักหรอก”
“ไปหาหมอรึยัง”
“หมอเป็นคนจ่ายยาให้ผมเอง”
“ไม่ได้กินเกินขนาดที่หมอสั่งใช่มั้ย”
“อือ”
“อย่าโกหกฉัน ชูสุเกะ” มาซายะหรี่ตาลง หักข้อนิ้วตัวเองส่งเสียงดังกร๊อบเป็นการเตือน “ฉันให้โอกาสนายพูดความจริงอีกครั้ง ไม่งั้นล่ะก็…”
ผมถอนหายใจ ตัดสินใจพูดความจริงที่ยากลำบาก
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ปวดหัวนิดๆหน่อยๆก็เลยต้องทานยาแค่นั้นล่ะ”
“ปวดหัวนิดหน่อย ทำไมต้องใช้ยาแรงขนาดนี้”
“ก็ไม่ได้ทานติดๆกันอะไรขนาดนั้นหรอก เพียงแต่เวลาปวดมันปวดมากจนยาทั่วไปเอาไม่อยู่ก็เท่านั้น”
มาซายะวางมือลงบนหน้าผากผม อีกมือทาบหน้าผากตัวเอง “ตัวก็ไม่ร้อนนี่”
“ผมไม่ได้เป็นไข้ซักหน่อย”
“แล้วตกลงเป็นอะไร ไมเกรน มะเร็ง เนื้องอก เส้นเลือดในสมองแตก หรืออย่างอื่น”
“ไม่รู้สิ ยังหาสาเหตุไม่เจอ” ผมยักไหล่ “แต่จิตแพทย์บอกว่าผมเป็นโรคเครียด ผมว่าผมก็ไม่ได้เครียดอะไรซักหน่อยนะ”
“คำว่าไม่ได้เครียด หมายถึงบางสิ่งที่นายกำลังพยายามทำอยู่รึเปล่า” มาซายะกอดอก จ้องผมแบบพิจารณา “มีอะไรก็เล่าให้ฉันฟังสิ”