ต่อจาก >>164-165 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
..............…….....
เอ็นโจยืนเป็นเพื่อนฉันอยู่สักพักหนึ่ง เราไม่ได้พูดอะไรกันอีก ต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเองล่ะมั้งคะ
“ชูสุเกะ นายมาแล้วหรอ”
คาบุรากิทักเอ็นโจ พร้อมเอาเครื่องดื่มให้ฉันด้วย นี่สรุปนายไม่ได้แค่หนีไปอย่างเดียวจริงๆด้วยสินะคะ
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพูดขณะมองเครื่องดื่มที่ตัวเองได้อย่างงงๆ อะไรคือเครื่องดื่มสีเขียวอี๋ๆนี่คะ
“เธอเป็นร้อนในอยู่ไม่ใช่หรือไง สีมันอาจจะแปลกๆ แต่ฉันลองชิมแล้วรสชาติไม่ได้แย่นะ”
ฉันลองจิบๆดู ก็โอเคตามที่คาบุรากิบอก เลยดื่มอย่างจริงจัง มีวุ้นด้วยค่ะ! เคี้ยวเพลินดีนะคะ
คาบุรากิคุยอะไรกับเอ็นโจก็ไม่รู้ค่ะ เหมือนเป็นเรื่องรถหรือฟุตบอล
โลกนี้เพื่อนใน Pivioine ของฉันมีแค่คาบุรากิเองหรอคะ น่าเศร้าชะมัดเลยค่ะ... เรย์กะในโลกนี้ไปสร้างศัตรูกับใครต่อใครมาเยอะเหมือนกันล่ะนะคะ มีข่าวกระจายไปมากมายว่าเรย์กะเป็นคนขี้วีนขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ เอาแต่ได้สุดๆ ใครๆก็เอือมระอาที่จะเข้าใกล้แล้วล่ะค่ะ... สำหรับคนที่รู้ว่าฉันเปลี่ยนไป หลังๆฉันก็ช่วยเหลือวาคาบะจังออกนอกหน้าจนคนที่เลือดชนชั้นสูงแรงกล้าอาจจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับฉันมาก
ขณะที่ฉันกำลังคิดว่าจะไปหายูกิโนะคุงดีไหม เอ็นโจก็บอกลาคาบุรากิและฉันด้วยรอยยิ้มฝืนๆ แล้วออกไป
ทำไมออกจากงานเร็วขนาดนี้กันคะ? ฉันได้แต่มองอย่างสงสัย
“เรย์กะ” คาบุรากิพูดขึ้น ฉันตกใจนิดหน่อย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าฉันอนุญาตให้เขาเรียกชื่อต้นได้นี่คะ รู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูกเลยนะคะ
“มีอะไรหรอคะ”
“ไปสั่นกระดิ่งกันไหม”
“หะ?!”
ฉันมองไปตามที่คาบุรากิบุ้ยใบ้ ก็เห็นซุ้มทำจากดอกกุหลาบสีแดง มีริบบิ้นสีขาวผูกไว้ปลิวไสวในสายลมราวกับผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว คล้ายกับที่เห็นในงานปาร์ตี้ฤดูร้อนเอามากๆเลยค่ะ ข้างบนนั้นมีกระดิ่งประดับแขวนเอาไว้
“ประกาศให้โลกรู้ว่าเราทะลุมิติมาอะไรทำนองนี่น่ะ” คาบุรากิอธิบาย
“ก็ได้ค่ะ” ถึงตรรกะคาบุรากิจะแปลกๆก็เถอะค่ะ แต่ฟังดูน่าสนุกเหมือนกันนะคะ
เราเดินไปสั่นกระดิ่งด้วยกัน เสียงดังกรุ๊งกริ๊งๆเรียกให้คนที่อยู่แถวนั้นหันมามอง ฉันเห็นไมฮามะจ้องเขม็งมาด้วยล่ะค่ะ แต่ใจไม่ดีเลยค่ะที่เห็นท่านไอระมองมาอย่างกังวล ถึงโลกก่อนท่านไอระพยายามจับคู่ฉันกับคาบุรากิก็เถอะค่ะ แต่โลกนี้ไม่มีใครน่าสงสารมากพอที่จะคู่กับเรย์กะหรอกมั้งคะ
ฉันยังสะใจเลยนี่คะตอนที่อ่านมังงะ แล้วรู้ว่าเรย์กะได้รับผลกรรม ต้องตกเป็นชนชั้นสามัญที่ตัวเองรังเกียจ พอตอนนี้ฉันเป็นเรย์กะไปแล้วก็ทำให้ฉันสยองทุกครั้งเมื่อนึกถึงจุดจบอันเลวร้ายเช่นนั้น
ควรทำยังไงดีนะคะ...
วันนั้นฉันหลับไป ก่อนจะฝันว่าทุกคนบนโลกนี้หายไป ไม่รู้ทำไมแต่รู้สึกได้ว่าฉันกำลังมองภาพอีกโลกหนึ่งที่เคยจากมา อยู่ๆก็เห็นภาพตัวเองทะเลาะกับท่านพี่ ฉันกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ทานุกิร้องห่มร้องไห้เมื่อฉันวีนใส่ ท่านแม่พยายามมาคัดค้าน แต่ก็โดนเรย์กะพูดกลับไปอย่างเจ็บแสบ เอ็นโจเข้ามาทักทายฉันคล้ายโลกก่อน แต่เรย์กะก็ต่อว่าไม่สนใจ เมื่อเห็นวาคาบะจังก็ทำท่าทางรังเกียจ
ทุกคนในโลกนั้นต่างสงสัยว่าเรย์กะเป็นอะไรไป พาทั้งหมอประจำตระกูลและจิตแพทย์มาตรวจ ดูเหมือนจะสรุปได้ว่าเรย์กะสูญเสียความทรงจำไป เพราะจดจำเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่ได้เลย เซริกะจังและคุคิโนะจังพยายามตามใจทุกอย่าง แต่ก็เกิดข้อกังขาไม่น้อย ตอนนี้คนทั้งซุยรันรู้แล้วว่าเรย์กะเปลี่ยนไปแค่ไหน เพื่อนที่เคยมีก็หายไปทีละคนสองคน โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มีฐานะดีอะไรนักต่างหลบหนีไป วาคาบะจังยังแวะมาช่วยฟื้นฟูความทรงจำให้ เอาเค้กที่เคยกินด้วยกันมาให้ แต่เรย์กะก็ปัดทิ้งต่อหน้าต่อตา
คาบุรากิในโลกนั้นก็ดูเงียบขรึมสมกับเป็นจักรพรรดิแห่งซุยรัน เอ็นโจเองก็งงกับความเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสนิท แต่ก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเมื่อเห็นเรย์กะไปกระแซเข้าหาคาบุรากิ ต่อว่าคนอื่นที่พยายามเข้ามาเกาะแกะคาบุรากิ ใช้อำนาจตระกูลข่มขู่ผู้คนไปทั่ว
นายตัวสำรองก็มาตักเตือน แต่เรย์กะก็ไม่สนใจ ถึงอย่างไรก็ตามคงเพราะวาคาบะจังไม่ได้คู่กับจักรพรรดิอย่างที่ตนกังวล เลยไม่ได้รังแกวาคาบะจังหนักมากนัก แต่ก็ใจร้ายกับทุกสิ่งที่วาคาบะพยายามมาช่วยเหลือ
เรย์กะทำร้ายจิตใจทุกคนที่เข้าใกล้ ทุกคนที่ฉันรัก...
ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากภาพมากมายเกินกว่าที่จะบรรจุได้ในแค่ความฝันเดียว น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด ลากตัวเองอย่างอ่อนแรงไปกดกริ่งห้องข้างๆ
คาบุรากิเปิดประตูออกมา และมองฉันอย่างตกใจ ก่อนพูดอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ”
ฉันปล่อยโฮแล้วกอดเขาไว้ เขาก็กอดฉันตอบ พลางลูบหัวเบาๆ ฉันเล่าความฝันที่เจอมาเมื่อกี้ให้ฟัง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตอบอะไรมาบ้าง แต่ก็รู้สึกดีขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
ดีจังที่ฉันไม่ได้มาโลกนี้คนเดียว ดีจริงๆเลยค่ะ
ฉันร้องไห้ จนไม่รู้เมื่อไหร่ก็หลับไปทั้งๆอย่างนั้น...