ฉันแนะนำตัวกับทั้งคู่เป็นครั้งแรกในโลกนี้ เราคุยอะไรกันเรื่อยเปื่อยจนลืมเวลาไปเลยค่ะ
ฉันได้เจอท่านยูริเอะกับท่านไอระด้วยค่ะ เหมือนแวะมาหาคาบุรากิและเอ็นโจ คาบุรากิลากฉันไปหาสองคนนั้น ไม่รู้ว่ามีคดีอะไรกันไว้หรือเปล่า แต่ท่านไอระมองฉันอย่างระแวงหน่อยๆ เจ็บปวดจังเลยค่ะที่โดนท่านอัศวินมองแบบนั้น... แต่ท่านยูริเอะยิ้มแย้มทักทายปกติ ช่างอ่อนโยนเหลือเกินนะคะ
ว่าแต่งานเลี้ยงเล็กๆนี่คนเยอะจังเลยนะคะ แต่อดีตประธาน Pivioine เป็นคนจัดเองทั้งทีล่ะนะคะ ต่อให้บอกว่าเล็กๆ แต่ความจริงก็ยิ่งใหญ่อลังการอยู่ดี ถึงอาจจะไม่ใหญ่เท่ากับงานปาร์ตี้ฤดูร้อนก็เถอะค่ะ
ไมฮามะเองก็ติดท่านยูริเอะมาด้วย ฉันตกตะลึง ไม่นึกว่าจะได้เจอกันในเวลาแบบนี้ แต่ยังม้วนผมลอนปลอมอยู่เลยนะคะ
คาบุรากิเห็นไมฮามะที่ดูกระตือรือร้นเกาะแกะเขาอยู่ ก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาทางฉัน ให้ฉันทำอะไรล่ะคะ... นายจัดการเองแค่นี้ไม่เป็นหรือไง
จะว่าไป ถ้าแค่นี้คาบุรากิคงปฏิเสธไมฮามะ สะบัดแขนหนีไปนานแล้ว แต่ท่านยูริเอะยังอยู่ใกล้ๆนี่คะ คงไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าท่านยูริเอะ
“ท่านมาซายะไปกินขนมกันตรงนู้นไหมคะ”
“ไม่ล่ะ” คาบุรากิตอบอย่างขอไปที ทำหน้าบูดชัดเจนขึ้นเมื่อท่านยูริเอะเดินไปอีกฝั่ง
“ท่านคาบุรากิ...” ฉันเริ่มพูด แต่โดนคาบุรากิขัดขึ้น
“จะว่าไป ฉันอยากจะบอกนานแล้วเหมือนกัน เราสนิทกันขนาดนี้แล้วเลิกเรียกฉันอย่างห่างเหินแบบนั้นซะทีเถอะ”
“เอ๊ะ?”
“เรียกฉันว่ามาซายะก็ได้นะ”
ไมฮามะมองฉันตาถลน
“อยู่ดีๆก็ไปถึงขั้นนั้น...”
“เรียกว่าคาบุรากิคุงก่อนก็ได้”
เหมือนที่บังคับให้วาคาบะจังเรียกเลยนะคะ
“เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันตอบยิ้มๆ พลางมองไมฮามะที่เริ่มอึ้งค้าง
“งั้นเรียกว่าเธอว่าเรย์กะนะ”
“ค่ะ”
ไมฮามะจ้องฉันแทบกินเลือดกินเนื้อ แหม ช่วยไม่ได้นะคะ พอดีฉันสนิทกับคาบุรากินี่นา
“เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำให้แล้วกัน” หมอนั่นพูดเสร็จก็สะบัดแขนจากไมฮามะหนีไปเลย เอางี้เลยหรอคะ!
“คุณคือเรย์กะ คิโชวอินสินะคะ” ไมฮามะเอ่ยขึ้นด้วยสายตาเป็นศัตรู
“แหม ไม่นึกนะคะว่าความจำสั้นจนต้องทวนด้วย”
ไมฮามะดูโกรธจนพูดไม่ออก ปลาซิวปลาสร้อยจังเลยนะคะ
“เธออย่าได้ใจไปล่ะ! คนที่รังแกคนอื่นไปทั่วจนมีแต่คนรังเกียจอย่างเธอน่ะไม่คู่ควรกับท่านมาซายะหรอก!!!”
“พูดไปเหมือนเข้าตัวเองเลยไม่ใช่หรอคะ~”
“คุณน่ะอย่ามาทำเป็นจำไม่ได้ไปหน่อยเลยค่ะว่าทำเรื่องเลวร้ายมาขนาดไหน!”
“งั้นหรอคะ” ฉันตอบ ขณะมองหาคาบุรากิ หมอนั่นคิดจะไปเอาเครื่องดื่มจริงๆ หรือแค่ข้ออ้างหนีไปกันแน่ ถ้าแค่หนี ฉันจะได้หนีไปบ้างเหมือนกันนะคะ
“กะใช้มารยาหญิงตบตางั้นหรอคะ ท่านมาซายะวันหนึ่งต้องดูออกแน่ๆค่ะ! ท่านไอระกับท่านยูริเอะก็ไม่อยากให้ท่านมาซายะคู่กับคุณหรอกนะคะ”
ฉันชะงัก ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา ในโลก KimiDolce เรย์กะก็ทำตัวน่าเกลียดจนเป็นที่รู้กัน คนที่เป็นห่วงคาบุรากิอย่างสองคนนั้นคงไม่อยากให้ฉันคู่กับเขาหรอกนะคะ ไม่ต่างอะไรจากเอ็นโจในตอนแรกๆ
จะว่าไปทั้งประวัติเรื่องการฉ้อโกงของตระกูลฉัน นิสัยเอาแต่ใจและขี้วีนขี้อิจฉา ไม่เหมาะที่จะคู่กับคาบุรากิหรอกค่ะ มองในเรื่องนี้ วาคาบะจังยังดีกว่าฉันตั้งเยอะ...
“เรื่องที่ว่ามาซายะจะคู่กับใครต้องให้เจ้าตัวตัดสินนะครับ”
ฉันหันไปมองเจ้าของเสียงอย่างตกใจ เห็นเอ็นโจเดินยิ้มมายืนใกล้ๆ
“เอ๊ะ...” ไมฮามะเห็นเอ็นโจเข้าพูดแบบนั้นก็ดูไปไม่เป็นซะแล้ว แหม อ่อนหัดจังเลยนะคะ
“อีกอย่าง ถ้าพูดเรื่องความเหมาะสม ตระกูลคิโชวอินก็เป็นตระกูลที่ใหญ่พอๆกับคาบุรากินะครับ ช่วยระวังคำพูดด้วยนะครับ ไม่งั้นอาจเดือดร้อนถึงตระกูลไมฮามะของคุณได้”
เอ็นโจพูดอย่างยิ้มแย้ม แต่ดูน่ากลัวกว่าทุกครั้งอย่างบอกไม่ถูก ไมฮามะรีบลนลานกลบเกลื่อนแล้วหนีไป
“ขอบคุณมากเลยค่ะ” ฉันรีบบอก ระแวงนิดหน่อยว่าเขาจะให้ฉันติดหนี้อะไรหรือเปล่า
“อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิครับ”
“เอ๊ะ...?”
“คุณคิดจริงๆหรอครับว่าไม่คู่ควรกับมาซายะ”
“ฉันเคยทำอะไรไม่ดีมาเยอะนี่คะ....” แถมครอบครัวฉันยังโกงอีก
“สำหรับผมแล้ว อดีตไม่สำคัญเท่ากับปัจจุบันหรอกนะครับ มาซายะเองก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน”
ฉันมองเอ็นโจ เขามีแววตาโศกเศร้าปรากฏอยู่ แต่ก็หายไปแทบจะในทันทีจนบางทีฉันอาจจะแค่ตาฝาดไปก็ได้ค่ะ จะว่าไปเอ็นโจคงคิดว่าฉันกับคาบุรากิรักกันล่ะนะคะ เพราะคาบุรากิเคยไปแต่งเรื่องบอกว่าชอบฉันก่อนหน้านั้น เลยทำหน้าที่เพื่อนพระเอกที่ดี ช่วยเหลือและสานสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเขาและฉัน
แต่ความเป็นจริงฉันคงไม่สามารถคู่กับเขาได้หรอกค่ะ...
-------------- (จบตอน 29) ----------------