วันต่อมา ฉันมากับรถที่ท่านพี่เตรียมไว้ให้ค่ะเลยไม่ต้องตื่นเช้ามาก แต่ก็ยังง่วงอยู่ดีนะคะ ฉันบังเอิญเจอนายตัวสำรองในร่างวาคาบะจังพอดี เขาเล่าให้ฟังว่าการเป็นวาคาบะนี่ไม่ง่ายเลยสักนิด
วันนี้ตอนเย็น ที่ทำงานพิเศษปิดปรับปรุงพอดี เลยนัดกับวาคาบะจังให้มาช่วยสอนทำขนมที่ร้านให้ เขาคิดอยากช่วยทำอาหารที่ร้านบ้าง นายจริงจังเอาเรื่องนะคะเนี้ย หรือว่าอยากจะอยู่กับวาคาบะจังสองต่อสองกันนะคะ
ในโลกนี้นายตัวสำรองก็ทำคะแนนเยอะนะคะ ก็นะ ถึงขั้นสลับร่างแล้ว คงมีอะไรต้องคุยกันและรู้เรื่องของอีกฝ่ายไม่น้อยแล้วล่ะค่ะ
เพื่อนๆของฉันบอกว่าวาคาบะจังช่วงนี้ดูสู้คนสุดๆเลยค่ะ ใครจะว่าหรือรังแกอะไรก็ไม่ยอมแพ้ และหลังๆก็ปฏิบัติตัวอย่างซื่อสัตย์จริงใจเท่าเทียม ท่าทางฝากความเชื่อมั่นเอาไว้ได้ แก้ปัญหาระหว่างนักเรียนได้ดีทีเดียวค่ะ
ส่วนนายตัวรองก็มีข่าวลือว่าดูร่าเริงอ่อนโยน แตกต่างอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็มีสาวๆแอบชอบเป็นแฟนคลับเพิ่มด้วยล่ะนะคะ
ไม่นานนักก็มีข่าวว่าวาคาบะจังและนายตัวสำรองเสียความทรงจำ หลายๆคนดูตกใจ และเริ่มมีข่าวลือว่าการเสียความทรงจำเป็นเทรนด์ใหม่ในขณะนี้...
คาบุรากิเมลล์มาปรึกษาฉันว่า “เป็นไปได้ไหมว่าสองคนนั้นก็ทะลุมิติมาเหมือนเรา”
ฉันสยองกับการมองโลกแฟนตาซีได้ใกล้เคียงจริงของเขามากเลยค่ะ แต่ก็ตอบไปว่า “ไม่ใช่หรอกมั้งคะ”
วันหนึ่งระหว่างทางกลับห้องในเวลาพัก ก็เจอวาคาบะจังในร่างนายตัวสำรองมาทักทาย และท่าทางลังเลยังไงไม่รู้ค่ะ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คือว่า... อยากปรึกษาอะไรนิดน่อยน่ะค่ะ ฉันอยากทำขนมมากเลยค่ะ ถึงจะไปใช้ห้องทำอาหารของซุยรันได้ก็เถอะ แต่ว่าในร่างนี้...ก็นะ...”
จะว่าไป ผู้ชายตัวใหญ่ๆไปทำขนมมุ้งมิ้งคนเดียวก็คงทำให้คนที่ผ่านไปมาสงสัยเหมือนกันนะคะ วาคาบะจังคงกลัวชื่อเสียงนายตัวสำรองไม่ดีนัก
“งั้นไปกับฉันไหมคะ”
ฉันถาม ถ้าไปแบบที่วาคาบะจังกับนายตัวสำรองไปสอนกันทำก็คงไม่เท่าไหร่มั้งคะ อาจจะมองได้ว่ามาทำเป็นเพื่อนหรืออะไร แม้ฉันจะมองมันแปลกๆนิดหน่อยก็เถอะค่ะ แต่คนที่เดือดร้อนก็เป็นวาคาบะจังที่โดนแฟนคลับนายตัวสำรองอิจฉาล่ะนะคะ ถึงยังไงตอนนี้ในร่างวาคาบะจังก็เป็นนายตัวสำรองแล้ว คงไม่ต้องกังวลล่ะมั้งคะ
ส่วนฉัน คงไม่น่ามีใครกล้ามาแกล้งหรอกค่ะ
“เอ๋? แต่ว่าไปรบกวนเวลาคุณคิโชวอิน...”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเองก็อยากให้คุณทาคามิจิสอนนิดหน่อยเหมือนกันนะคะ
“ถ้างั้นก็ตกลงค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ!”
หลังเลิกเรียน ฉันไปเรียนทำขนมกับวาคาบะจัง ซุยรันนี่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเยอะดีจริงๆนะคะ วาคาบะจังตอนทำขนมดูใจเย็น แต่ก็ร่าเริงสดใสเอามากๆเลยค่ะ
หลังจากฉันลองทำอย่างผิดๆถูกๆ ภายใต้คำแนะนำใกล้ชิดของวาคาบะจัง ฉันก็อบคุกกี้หน้าตาดูกินได้เป็นครั้งแรกค่ะ วาคาบะจังชิมดูก็บอกว่าใช่ได้ล่ะค่ะ ดีจังเลยนะ
ฉันมองวาคาบะจังในร่างนายตัวสำรองทำเค้กอย่างคล่องแคล่ว ขนาดทำเนื้อเบา 5 ชั้นอย่างนั้นก็ทำได้ประณีตสุดๆ มือนิ่งมากๆเลยค่ะตอนบีบครีมให้เป็นรูปร่างสวยเพอร์เฟ็ค สมกับเป็นลูกสาวเจ้าของร้านเค้กเลยนะคะ
วาคาบะจังแบ่งเค้กมาให้ฉันด้วยล่ะค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ
วันนั้นฉันกลับห้องไปก็นั่งกินเค้กอย่างอารมณ์ดี คาบุรากิแวะมาเยี่ยมก็เหลือแต่ซากเค้กไปแล้วค่ะ
ฉันนำเสนอคุกกี้ที่ฉันทำให้เขาลองกิน หมอนั่นทำหน้าระแวงสุดๆ
“ทำเองหรอ...ลองชิมหรือยัง”
“ก็ยังหรอกค่ะ”
“อ้า...”
นายกลัวออกนอกหน้าเกินไปแล้วนะ!!!
“แต่ว่าคุณมิซึซากิก็บอกว่าอร่อยนะคะ”
ฉันตัดสินใจบอกชื่อนายตัวสำรองแทนวาคาบะจัง ตอนนั้นวาคาบะจังก็อยู่ในร่างนายตัวสำรองนี่คะ แถมถ้าพูดถึงวาคาบะจังตอนนี้คงไปเปิดแผลเก่าอกหักช้ำใจของคาบุรากิแน่ๆเลยค่ะ
“เธอเอาให้หมอนั่นงั้นหรอ?”
“ไม่เชิงหรอกค่ะ เขาเป็นคนสอนฉันทำเอง”
คาบุรากิขมวดคิ้ว ฉันรีบใช้เรื่องโกหกก่อนหน้านั้นที่บอกว่าขอให้นายตัวสำรองช่วยสอนทำอาหารมาสนับสนุน
เขาทำท่าเหมือนกลั้นใจตาย ก่อนจะหยิบกินชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็พึมพำว่า “น่าตกใจชะมัดเลย”
นายมีทัศนคติกับของที่ฉันทำเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรอคะ...
ฉันให้คุกกี้ที่เหลือทั้งหมดกับเขาไป กำลังคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้จะทำขนมอย่างอื่นอีกดีไหมนะ ได้เรียนกับวาคาบะจังอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ปกติวาคาบะจังมักจะยุ่งกับงานพิเศษหรืองานที่ร้านอยู่ตลอดนี่คะ นอกจากนี้จะได้บังคับให้คาบุรากิกินด้วยความระแวง เพื่อแก้แค้นให้ขนคิ้วที่หายไป
ฉันลองเมลล์ไปถามวาคาบะจัง ชวนไปทำอาหารกันอีก วาคาบะจังตอบตกลงมาแทบในทันทีเลยค่ะ ดีจังเลยนะ
วันนั้นฉันการบ้านเสร็จก็รีบนอน ตื่นเต้นกับการทำอาหารพรุ่งนี้อย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
-------------- (จบตอน 27) ----------------