ทั้งคู่พยายามถกเถียงว่าทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น และจะกลับไปยังไง หรือจะรับมือกับสถานการณ์นี้แบบไหน ฉันเลยแนะนำไปบ้างนิดหน่อย ทั้งคู่ดูประหลาดใจทีเดียวค่ะ
“คุณคิโชวอินสุดยอดไปเลยนะคะ” วาคาบะจังในร่างนายสำรองพูดอย่างชื่นชม เมื่อฉันบอกว่ามีกรณีไหนที่อาจจะทำให้เกิดการสลับร่างได้
ฉันเคยคุยเรื่องนี้กับคาบุรากิมาก่อนล่ะนะคะ หมอนั่นวิเคราะห์มาตั้งแต่เรื่องเวทมนตร์ คำสาป ไปยันคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เราเคยคิดเล่นๆกันว่าถ้าสลับร่างจะทำยังไงดีด้วยค่ะ ไม่นึกเลยนะคะว่าเรื่องไร้สาระแบบนั้นจะได้มาใช้ประโยชน์จริงๆ...
“นั่นสิ แต่จะว่าไป เธอทำใจเชื่อเรื่องแบบนี้ได้เร็วผิดคาดนะ...” นายตัวสำรองพูด
ถ้านายเป็นเพื่อนกับคาบุรากิ เรื่องแปลกนี้ไม่ถือว่าแปลกมากหรอกค่ะ อีกอย่าง ฉันทะลุมิติมาเองตั้งสองรอบแล้ว ยังต้องมีอะไรที่ฉันต้องตกใจอีกหรอคะ…
วาคาบะและนายตัวสำรองแนะนำเรื่องว่าปฏิบัติตัวตอนอยู่ที่บ้านและเพื่อนๆยังไง ฉันแนะนำให้บอกทุกคนไปว่าเสียความทรงจำน่าจะดีกว่าคอยโกหกในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ล่ะนะคะ
“อย่าบอกนะคะว่าคุณคิโชวอินเอง ตอนนี้ก็สลับร่างอยู่ อ้า...คุณเป็นใครหรอคะ”
“ฉันไม่ได้สลับร่างหรอกค่ะ...”
วาคาบะจัง... เส้นทางแนวคิดเริ่มเข้าใกล้คาบุรากิแล้วหรอคะ นี่หรือเปล่านะที่เขาเรียกคู่แท้พรหมลิขิต...
แต่ที่วาคาบะวิเคราะห์มาก็ดูสมเหตุสมผลอยู่นะคะ ฉันดูเชี่ยวชาญราวกับเคยสลับร่างมาก่อน (จริงๆเพราะเคยคิดเล่นๆกับคาบุรากิ) และที่ฉันแนะนำให้บอกว่าเสียความทรงจำเพื่อหลักเลี่ยงแทน ก็แทบไม่ต่างอะไรจากฉันทำเลยค่ะ (ถึงแม้ความจริงจะเอาไว้กลบเกลื่อนเรื่องทะลุมิติมาก็เถอะค่ะ)
นายตัวสำรองรีบกลับไปก่อน เพราะวาคาบะจังมีทั้งทำงานพิเศษและทำงานที่ร้านต่อ เขาไม่ได้อยากให้วาคาบะเสียการงานล่ะนะ วาคาบะจังขอบคุณอย่างเกรงใจ นายตัวสำรองก็ยิ้มและปลอบๆ บรรยากาศเหมือนพระเอกนางเอกชะมัดเลยค่ะ
มีหวังโลกนี้วาคาบะจังคู่กับนายตัวสำรองเหมือนโลกแน่เลยค่ะ... ขอโทษจริงๆนะคาบุรากิ
ฉันเดินคุยไปกับวาคาบะจัง ขณะไปที่ห้องสโมสร
“ขอโทษนะคะ...” วาคาบะจังพูดขึ้น “ตอนนั้นอยากรู้มากไปหน่อย เลยทำแบบนั้นไป มันไม่สมควรเลยจริงๆล่ะนะคะ”
ฉันใช้เวลาอยู่หลายวินาทีกว่าจะคิดออกว่าวาคาบะจังพูดถึงเรื่องอะไร
เรื่องนั้นเองสินะคะ... ฉันอาจจะเคยโกรธที่เหมือนโดนหลอกก่อนหน้านั้นก็เถอะค่ะ พอวาคาบะจังพูดอย่างรู้สึกผิดก็อดใจอ่อนไม่ได้เลยค่ะ ก็ไม่แปลกมั้งคะที่จะอยากรู้ ฉันสิคะที่ออกตัวปกป้องมากเกินไปจนไม่กล้าสู้หน้ายังไงไม่รู้ค่ะ
“คิโชวอิน?!”
“ท่านคาบุรากิ!”
ฉันบังเอิญเจอกับคาบุรากิที่เดินออกห้องพักครูพอดี เขามองฉันและวาคาบะจังในร่างนายตัวสำรอง
คาบุรากิจ้องร่างของนายตัวสำรองอย่างเย็นชา ใจเย็นๆนะคะคาบุรากิ ถึงร่างเป็นนายตัวสำรองศัตรูหัวใจของนาย แต่ข้างในก็เป็นวาคาบะจังนะ...
วาคาบะจังดูไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ และหันมาหาฉัน
“จะว่าไป ขอเบอร์และเมลล์เธอหน่อยได้ไหม คิดว่าคงอาจต้องคุยกันอีกเยอะ”
“เอ๊ะ ได้สิคะ”
พอเราแลกกันเรียบร้อย วาคาบะจังก็โบกมือลาฉัน และเดินออกไป คาบุรากิทำหน้าบูดบึ้ง จะว่าไปในสายตาคาบุรากิแล้ว วาคาบะจังคือนายตัวสำรองนี่คะ นี่คงคล้ายๆกับการที่ฉันไปเข้าข้างศัตรูของเขาหรือเปล่านะ เขาเลยไม่พอใจขนาดนั้น
“เธอไปคุยอะไรกับหมอนั่นน่ะ”
“ก็แค่เรื่องเรียนทั่วไปน่ะค่ะ” ฉันพยายามจะบอกเขาว่าฉันไม่ได้คุยเรื่องวาคาบะจังหรอกนะ แต่ก็นึกเรื่องโกหกที่ดีกว่านี้ไม่ออกแล้ว ฉันถูกไหว้วานให้ปิดเป็นความลับด้วยสินะคะ
“เรื่องเรียน?”
หน้ามุ่ยของคาบุรากิเริ่มเข้าระดับสอง แย่แล้วค่ะ การที่ไปคุยเรื่องเรียนกับนายตัวสำรองทั้งๆที่คาบุรากิเก่งกว่าชัดๆ คงทำให้เขาน้อยใจน่าดูเลยค่ะ
“ทำอาหารน่ะค่ะ เรียนทำอาหาร” ฉันตอบอย่างเอาสีข้างเข้าถูสุดแรงเกิด
“ทำไมต้องเรียนกับหมอนั่นด้วยน่ะ ฉันก็ทำเป็นนะ”
“เอ๋?! ท่านคาบุรากิน่ะหรอคะ!!!” ฉันอุทานอย่างตกใจ นายทำอาหารเป็นด้วยงั้นหรอ
“อย่างน้อยก็ทำได้อร่อยกว่าเธอแล้วกัน...ถ้าเธออ้างว่าตัวเองทำเป็นน่ะนะ”
“หะ?! หมายความว่าไงคะ!!!”
“เธอเคยกินอาหารที่ตัวเองทำบ้างไหม...”
“ท่านคาบุรากิเคยกินอาหารฝีมือฉันหรอคะ มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นซะหน่อยค่ะ!”
“ฉันเคยแล้ว...”
“ตอนไหนหรอคะ???”
ฉันพยายามเค้นสมองคิดว่าเคยไปทำอาหารให้คาบุรากิตอนไหน แต่ก็นึกไม่ออกจริงๆ
“ก็ช็อกโกแลตวาเลนไทน์ไง”
“เอ๊ะ! กินด้วยหรอคะ...!!!”
ฉันคาดไม่ถึงเลยจริงๆค่ะว่าคาบุรากิจะกินจริงๆทั้งๆที่ปกติปฏิเสธขนมทำมือของทุกคนมาโดยตลอด คงไม่ได้ไปปลุกความทรงจำอันเลวร้ายเกี่ยวกับการกินอาหารทำมือของนายนะ...