ต่อจาก >>772-777 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
>>779 จะว่าไปก็จริง ต่อจากนี้ไปจะลงให้เห็นชัดๆแล้วกันนะคะว่าจบตอนแล้ว 5555 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
..............…….....
ฉันเรียนไม่รู้เรื่องเลย คงเป็นเพราะกังวลกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมั้งคะ เพื่อนๆฉันบอกว่าฉันหน้าแดงตลอด ไหนๆก็รับบทคนไม่สบายจนไม่มาโรงเรียนอยู่แล้วก็ถือโอกาสบอกว่าสงสัยคงยังไม่หาย บางทีฉันอาจจะเป็นไข้จริงๆนะคะ ตัวร้อนไปหมดเลยค่ะ ฉันขอตัวอาจารย์ออกมาจากห้อง มุ่งหน้าสู่ห้องพยาบาล
การแต่งเรื่องของคาบุรากิทำฉันมึนงงสับสนไปหมดเลยนะ ฮะฮะ
ฉันเข้ามาก็เห็นนายตัวสำรองมองตัวเองในกระจกอย่างแปลกใจ นายกำลังทำอะไรน่ะ...หรือว่า ไปทำอะไรบางอย่างมา และกำลังสงสัยว่าทำไมเจ็บขนาดนี้แต่ไม่มีบาดแผล?
นายตัวสำรองเห็นฉันกำลังมองอยู่ก็สะดุ้งตกใจแล้วยิ้มแห้งๆให้ฉัน
นายเมาอะไรสักอย่างอยู่หรอ...
อาจารย์ประจำห้องพยาบาลหายไปไหนไม่รู้เพราะงั้นจึงลงมือหาปรอทวัดไข้ด้วยตัวเอง ก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงอะไรบางอย่าง
“คุณมิซึซากิได้บอกคุณทาคามิจิหรือเปล่าคะ”
“เรื่องอะไรงั้นหรอ”
“เรื่องที่ฉันเอารองเท้าตัวเองให้คุณทาคามิจิไงคะตอนที่ถูกแกล้ง...”
ฉันคาใจเรื่องนี้มาสักพักแล้ว ตอนนั้นฉันมั่นใจมากว่าดูไปรอบๆอย่างดีแล้วแท้ๆ วาคาบะจังไม่น่าจะรู้ว่าฉันช่วยนะ... อีกคนที่รู้เรื่องนี้แน่ๆก็มีแค่คนที่แกล้งวาคาบะจังกับนายตัวสำรองเท่านั้น ฉันขอให้นายตัวสำรองเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแล้วก็จริง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าวาคาบะจังทำไมพูดเหมือนรู้ว่าฉันช่วยเลยล่ะคะ...
“ไม่หรอก”
นายตัวสำรองตอบอย่างหนักแน่น และมองฉันยิ้มๆ ฉันรู้สึกอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล แต่ว่าก็พยายามไม่ใส่ใจมาก ยังไงนายตัวสำรองก็เป็นตัวละครฝ่ายดีนี่นา คงรักษาสัญญาจริงๆ
ฉันที่หาปรอทวัดไข้ไม่เจอ หน้าก็เริ่มร้อนน้อยลงแล้ว หรือว่าไข้ฉันหายไปแล้วคะ มาไวไปไวดีนะคะ ต้องเป็นพลังแห่งการมายืนในห้องพยาบาลแน่ๆค่ะ
ขณะที่ฉันกำลังจะออกจากห้อง นายตัวสำรองก็ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าสงสัย
"ทำไมถึงได้ช่วยทาคามิจิงั้นหรอ"
"อ้า คงเพราะทำอะไรไม่ดีไว้ด้วยเยอะล่ะมั้งคะ”
ฉันนึกไม่ออกว่าควรจะตอบอะไรไปดีเหมือนกันนะคะเนี้ย
"แต่พอทำแบบนั้นจะกลายเป็นทำไม่ดีกับคนอื่นนะ”
นายตัวสำรองถาม นายใช้ตรรกะไหนพูดเรื่องแบบนั้นออกมาคะ
"คนที่มารังแกคุณทาคามิจิก็สมควรแล้วค่ะ!!! คุณทาคามิจิไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ ก็แค่คนที่อิจฉาคนอื่นจนเล่นสกปรก” ฉันพูดอย่างดุเดือด มองนายตัวสำรองที่ยังถามคำถามแบบนั้นออกมาได้ ฉันอธิบายว่าวาคาบะจังพยายามแค่ไหน เป็นคนดีแค่ไหน เรื่องแบบนี้ คนที่ตามจีบวาคาบะจังอย่างนายต้องรู้สิ!!!
นายตัวสำรองยิ้มไม่หยุด ตลอดเวลาที่ฉันบรรยายความดีของวาคาบะจัง อะไรของนายเนี้ย!
ฉันหลังจากระบายเรื่องราววาคาบะจังออกไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะพูดเท่าไหร่ เหลือแต่ความรู้สึกหงุดหงิดในใจเท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะ ขอบคุณมากจริงๆ”
นายตัวสำรองพูดด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม แล้วเดินออกจากห้องพยาบาลไป
ฉันได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้น นายตัวสำรองพูดแบบนั้นออกมาเพื่อทดสอบฉันงั้นหรอ ทำไมนายถึงร้ายกาจเหมือนจอมมารเอ็นโจไปได้... นายควรเป็นตัวรองฝ่ายดี ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมด้วยความเที่ยงตรงสิ…
ฉันเดินมึนๆไปตามทางเดิน และดันเข้าผิดห้อง เพื่อนต่างห้องหันมามองฉันอย่างสงสัย
แย่แล้วค่ะ... ถ้าฉันพูดว่ามึนจนเดินเข้าผิดห้องคงไม่ดีเท่าไหร่ จะยังไงก็อยากรักษาศักดิ์ศรีที่มีอยู่น้อยนิดนี่อยู่นะคะ...
ฉันพยายามกวาดสายตาไปรอบห้อง มองดูว่ามีใครที่ฉันรู้จักไหม จะได้เนียนๆว่าแค่มาหาเพื่อนได้ แต่ไม่มีเลยค่ะ...
คนในห้องเห็นฉันมายืนหน้าประตูห้องตั้งนานแต่ไม่พูดหรือทำอะไรก็หันมาอย่างสนใจมากขึ้น จนในที่สุดก็มีนักเรียนคนหนึ่งถามว่าฉันมาหาใครหรือเปล่า
ทำไงดีล่ะคะ...
ก่อนที่ฉันจะคิดอะไรออก ก็ถูกใครสักคนวางมือแปะที่ไหล่ไว้
“มาหาฉันหรอ”
“เอ๊ะ ค่ะ”
ฉันรีบตอบไป ที่นี่ห้องคาบุรากิหรอคะ ฉันจำไม่ได้เลยค่ะ...
เราทั้งคู่เดินออกมาจากห้อง ท่ามกลางเสียงกรี้ดจากคนในห้องคาบุรากิ ฉันคงไม่ได้โดนผู้หญิงในห้องนั้นหมายหัวหรอกใช่ไหมคะ... คาบุรากิ นายป็อบให้น้อยๆหน่อยก็ดีนะคะ
“ว่าแต่มีอะไรงั้นหรอ”
คาบุรากิถาม พอฉันเห็นหน้าเขาแล้วสติกระจายยังไงไม่รู้ค่ะ รู้สึกนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งพูดกับเอ็นโจมา แต่เขาดูทำตัวปกติอยู่นะคะ คงเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นจริงๆนั่นแหละค่ะ...
“รู้ไหมคะว่าสโมสรจะมีเมนู Crémet d'Anjou หรือ Crème chiboust มาเมื่อไหร่น่ะค่ะ”
ฉันตัดสินใจพูดถึงเรื่องขนมไปเลย แต่พูดไปก็อยากกินอยู่นะคะ ไม่ได้กินนานแล้วเหมือนกัน