คุณคิโชวอินดูอึกอักแปลกๆ “ก็นิดหน่อยค่ะ”
มาซายะมองเครื่องรางในมือคุณคิโชวอิน ก่อนจะคลายคิ้วลง แล้วเอื้อมมือไปตบบ่าเธอปับๆ อืม ดูท่าจะเจ็บไม่ใช่น้อย ดูได้จากหน้าเหยเกของคุณคิโชวอิน สีหน้าของคุณนี่แสดงออกมาตรงๆหมดเลยนะ
“ฉันเข้าใจแล้ว” มาซายะพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ แต่ผมกลับขบขัน “ที่แท้เธอซื้อเพราะจะเก็บปีระกานี่เอง เอ้า พยายามเข้าล่ะ”
ผมบอกแล้วใช่มั้ย เขาก็แค่เด็กบ้าคนหนึ่ง
พวกเราแยกกันตรงนั้น คุณคิโชวอินดูคับแค้นใจกับการที่ถูกมาซายะกล่าวหาว่าเป็นผู้หญิงที่มีรสนิยมเก็บสะสมซีรี่ย์นักษัตร ผมได้แต่หัวเราะ คุณคิโชวอินเป็นผู้หญิงที่น่าแกล้งสุดๆก็เพราะไม่ยอมเก็บสีหน้านั่นแหละ
มาซายะดูเครื่องรางอย่างสนใจ...ไหนตอนแรกดูไม่เชื่อล่ะ
พวกเราดูสักพักก็กลับไปขอพร ผมมองเห็นคุณคิโชวอินระบายอารมณ์ไปกับการขอพร เธอโยนเหรียญลงกล่องอย่างแรง ก่อนจะขอพร
คุณคิโชวอินขอพรว่าอะไรนะ?
“แม่น่ะให้ฉันไปร่วมงานอีกแล้ว”
“ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ? มาซายะ”
พวกเราโยนเหรียญห้าเยนลงกล่องเช่นเดียวกัน ระหว่างที่กำลังนึกว่าจะขอพรอะไรดี มาซายะก็เริ่มบ่นอีกครั้ง
“เฮ้อ ไม่อยากไปงานของแม่เลย”
“เอาน่า มาซายะ ถือว่าช่วยงานไงล่ะ”
“เป็นนายนี่ดีจังเลยนะ ชูสุเกะ น่าอิจฉาชะมัด”
คนที่น่าอิจฉาจริงๆคือนายต่างหากล่ะ ทำอะไรตามใจตัวเองได้อย่างอิสระ รักใครชอบใครก็แสดงออกไปอย่างซื่อตรง...ตรงจนคนอื่นเข้าลำบากเสมอเลยล่ะ ซึ่งคนอื่นที่ว่าน่ะมักจะเป็นผมตลอดเลย
บางครั้งอาจสนุก
แต่บางทีมันก็น่าเบื่อ
“อยากเป็นนายจังเลยแฮะ”
ยังไม่ยอมจบเรื่องนี้อีกเหรอ
“แต่ให้ฉันเป็นอย่างมาซายะก็ไม่ไหวหรอกนะ แต่ถ้าให้เลือกล่ะก็ขอเป็น...” ผมชะงักคำพูดเล็กน้อย ก่อนจะหันมองคุณคิโชวอินที่อยู่ไม่ไกล แอบแปลกใจเล็กน้อยที่คุณคิโชวอินมองมาทางนี้ แต่พอผมหันมอง เธอก็หันกลับอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวว่าผมจะจับได้
ภาพนั้นน่าขบขันจนอดยิ้มออกมาไม่ได้
ผมไม่ได้อยากเป็นคุณคิโชวอินหรอกนะ
ก็แค่อยากเป็นอะไรก็ได้ที่ได้อยู่ใกล้คุณคิโชวอินเท่านั้นเอง
ปกติแล้วผมเป็นคนตื่นค่อนข้างตรงเวลา เผลอๆอาจจะตื่นก่อนนาฬิกาปลุกด้วยซ้ำ แต่เช้าถัดจากทัศนาศึกษาครั้งนั้น ผมนอนรอนาฬิกาปลุกอยู่นานจนเอ๊ะใจแปลกๆ ทำไมถึงไม่ยอมดังสักทีนะ
ผมเปิดเปลือกตาขึ้นมอง
หืม เตียงของผมเป็นเตียงธรรมดาๆนะ ไม่ได้เป็นเตียงที่มีเสาสี่ด้านล้อมรอบแบบนี้ซะหน่อย ผมค่อยๆชันตัวลุกขึ้น รู้สึกแปลกๆตรงหน้าอก ก็เลยก้มลงมอง
“เฮ้ย---!”
โชคดีที่ผมเก็บเสียงตะโกนทัน ไม่งั้นทั้งบ้านได้แตกตื่นแน่ ผมมองซ้ายมองขวา ก่อนจะลุกพรวดวิ่งเข้าห้องน้ำ ผมยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ไม่ว่าจะหมุนตัวสองสามครั้ง ยกมือซ้ายขึ้นลง ภาพในกระจกก็ทำตาม บ่งบอกว่านั่นแหละผม
ภาพใบหน้าราวกับตุ๊กตาฝรั่งเศสสะท้อนจากกระจก
“...คุณคิโชวอิน?”
ผมยิ้ม อืม คงฝันล่ะมั้ง เป็นฝันที่จะว่าดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดีแฮะ ผมหมุนตัวอยู่รอบกระจกอีกครั้ง ยกมือขึ้นจับปลายผมม้วนของคุณคิโชวอินอย่างเบามือ ม้วนมาอย่างเป๊ะเลยนะ
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว
อืม...ถึงจะเป็นแค่ฝันก็เถอะ แต่ลองทำอย่างนั้นจะดีมั้ยน้า
...แต่ก็เป็นแค่ฝันนี่นา
ลองจับๆดูนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง...?