ลองมองตามทิศทางที่เขาจับจ้อง รู้สึกว่าเขาจะจ้องประธานคิโชวอินอยู่ แต่หน้าตาดูเคร่งเครียด ไม่น่าจะใช่สีหน้าเวลาที่ลูกชายมองพ่อเลยสักนิด
ในวงสนทนาของประธานคิโชวอินมีนักการเมืองกับนักธุรกิจอยู่หลายคน สิ่งที่ทำให้ผมติดใจคือผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนพูดคุยอยู่ข้างๆประธาน เป็นรัฐมนตรีที่กำลังลงข่าวว่ามีส่วนพัวพันข่าวทุจริตโครงการระดับชาติ แต่เจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีหลักฐานเอาผิด
ทั้งตระกูลเอ็นโจและตระกูลคาบุรากิต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะคบค้ากับคนคนนี้ แล้วประธานคิโชวอินไปข้องเกี่ยวได้ยังไงกันนะ ดูมีอะไรไม่ชอบมาพากลเอามากๆ
คงต้องลองสืบดูสักหน่อย
“คุณชูสุเกะ” เรย์กะกระตุกแขนเสื้อผม “เป็นอะไรไป เห็นจ้องไปทางนั้นเขม็งเลย”
ผมละสายตาจากกลุ่มของประธานคิโชวอินแล้วหันมายิ้มให้เธอ
“ไม่มีอะไรหรอก”
“หรือคุณชูสุเกะอยากจะคุยกับกลุ่มเพื่อนของท่านพ่อกันล่ะ” เธอพูดล้อๆ “อายุแค่นี้ก็ทำหน้าที่ผู้สืบทอดตระกูลเอ็นโจไวจังเลยน้า เมื่อกี้ก็คุยกับพวกนักธุรกิจไปตั้งเยอะเลยนี่”
“มันน่าเบื่อออกนะ” ผมมองเธอยิ้มๆ “อยู่กับเรย์กะสนุกกว่าเยอะ”
“ปากหวานอีกแล้ว” เรย์กะก้มหน้าลง พูดจาอุบอิบในลำคอ พอผมหัวเราะ เธอก็มองค้อน
ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกว่าน่ารัก ถ้าไม่มีใครอยู่ผมอาจจะเผลอรวบเธอมากอดแล้วก็เป็นได้
“สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ” กลุ่มเพื่อนของเรย์กะเดินมาทักทายผม “ท่านคาบุรากิไม่มารึคะ”
“มาซายะบินไปอังกฤษตั้งแต่เมื่อวานน่ะ” บอกแค่นี้ทุกคนก็คงเข้าใจว่ามาซายะไปอังกฤษทำไม
ยูริเอะเรียนอยู่ที่นั่นได้ปีหนึ่งแล้ว มาซายะเองก็เทียวไปเทียวมาบ่อยๆ เวลาว่างทุกครั้งก็ไปหา ทุกคนเข้าใจว่ามาซายะกับยูริเอะเป็นแฟนกันแล้ว ทั้งที่ความจริง ยังเป็นการรักเขาข้างเดียวของมาซายะแท้ๆ
ผมเหลือบมองเรย์กะ เธอไม่มีปฏิกริยาอะไรก็พอใจชื้นขึ้นมาบ้าง
คุยกันต่ออีกหน่อยก็ได้เวลาเป่าเค้ก เรย์กะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มารุมล้อมแสดงความยินดี พ่อกับแม่ของเธอเข้าไปกอดและอวยพรให้ลูกสาว ตามด้วยเพื่อนๆของเธอและคนอีกมากมายที่ผมไม่รู้จัก
แต่คิโชวอิน ทาคาเทรุยืนอยู่วงนอกสุด ทำเหมือนตัวเองไม่ใช่คนในครอบครัวนี้ สายตาที่มองนั้นเฉยชาไร้อารมณ์
พอเขารู้ตัวว่าผมมองอยู่ก็ก้มหัวให้เล็กน้อย แล้วก็เดินออกไปจากที่ตรงนั้น หันหลังให้งานของน้องสาวตัวเองอย่างไม่ไยดี
เรย์กะตัดเค้กให้เพื่อนๆของเธอ ส่งมีดให้สาวใช้เอาไปรับช่วงต่อ แล้วก็ถือจานเค้กมาหาผม
“เค้กวานิลาร้านนี้อร่อยมากเลยล่ะ” เธอยื่นจานเค้กให้ “ตัดให้คุณชูสุเกะชิ้นใหญ่เป็นพิเศษเชียวนะ”
“ขอบคุณมากนะ”
“จัดงานใหญ่ๆนี่เหนื่อยมากเลยล่ะ ต้องคอยยิ้มตลอดเลย” เรย์กะทำหน้ายู่ “ปีหน้าเอาแค่งานเล็กๆ เชิญคนสนิทมาก็พอแล้วเนอะ”
“อือฮึ”
“แล้วก็นะ…” เธอจับจานเค้กที่ผมถืออยู่ หลับตา ก้มหน้าพูดกับเค้กบนนั้นคล้ายกับการอธิษฐาน “ขอให้คุณชูสุเกะอยู่ฉลองวันเกิดกับฉันไปอีกปี”
คำพูดน่ารัก จนผมอยากคว้าเธอมากอด แต่ตรงนี้มีสายตาคนมากมายที่มองอยู่ เลยทำอย่างใจคิดไม่ได้
“ปีเดียวเองเหรอ มักน้อยจัง” ผมหัวเราะแล้วก้มลงไปกระซิบข้างหูเธอ “ถ้าเรย์กะอยากให้อยู่ จะอยู่ตลอดไปเลยก็ได้”
เรย์กะเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็หัวเราะด้วย ตีไหล่ผมเบาๆเป็นการแก้เขิน
“สัญญาแล้วนะ อย่าผิดคำพูดเชียวล่ะ”