เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/3600/749-752
กูต้องการความหวานมาเติมเต็มหัวใจ ในเมื่อไม่มี ก็ต้องผลิตกาวรสหวานขึ้นมาเอง
-----------------------
บัตรเชิญไปงานวันเกิดของเรย์กะวางอยู่บนโต๊ะ หลังซองมีรูปวาดกระต่ายกับหมาป่าถือป้ายที่เขียนด้วยลายมือเธอว่า “คุณชูสุเกะ” กับ “ต้องมาให้ได้นะ” น่ารักจนต้องยิ้มออกมา
นึกถึงสีหน้าและท่าทางที่ดูลุกลี้ลุกลนตอนที่เอาบัตรเชิญใบนี้มาให้กับมือแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เรย์กะในตอนนั้น คล้ายกับคุณคิโชวอินเวลาอยากหนีห่างจากผมไม่มีผิด
แต่พอนึกถึงคุณคิโชวอิน ก็มักจะนึกว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรอยู่นะทุกครั้งไป
ที่ผ่านๆมา มันก็เป็นแค่อาการรำลึกความหลัง ผมเข้าใจว่าตัวเองตายแล้ว จึงอวยพรให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีต่อไป ส่วนผมจะพยายามใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกครั้ง
ผ่านมาสิบปีแล้ว ผมเองก็ไม่รู้ว่ามาซายะจะจีบคุณทาคามิจิติดหรือยัง แต่ยูกิโนะคงขึ้นเป็นผู้สืบทอดที่เพียบพร้อม ส่วนเธอคงแต่งงานไปกับใครสักคนที่ทางบ้านจัดหาให้ตามประสาคุณหนูของซุยรัน
เวลานึกถึงเรื่องนี้ หัวใจก็จะเจ็บแปล๊บๆขึ้นมาทุกครั้ง แต่ก็สามารถทำใจได้ในที่สุด
ความคิดของผมสั่นคลอนเมื่อได้ยินเสียงของทั้งสามคนนั้นในความฝัน หมายความว่าอย่างไรกัน ที่โลกเดิมผมยังไม่ตายงั้นหรือ แล้วทุกคนก็เรียกให้ผมกลับไปหาพวกเขาใช่ไหม
แล้วจะกลับไปยังไงล่ะ
ผมนึกถึงวาระสุดท้ายของตัวเองก่อนที่จะมาอยู่ในร่างนี้ เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือผมควรจะลองไปอยู่ในสถานการณ์นั้นอีกครั้ง
นึกแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า เป็นความคิดที่บ้าระห่ำเกินกว่าจะเสี่ยง
มันไม่คุ้ม และไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าเมื่อตายอีกครั้ง ผมจะได้กลับคืนร่างเดิมในโลกเดิม แถมจะพาให้ร่างนี้แหลกเละไปเพราะอุบัติเหตุล่ะสิไม่ว่า
ที่แย่ไปกว่านั้นอาจจะไปเข้าร่างอะไรแปลกๆที่ไม่ใช่คนอย่างสุนัข แมว หรืออื่นๆที่ไม่อาจรู้ได้
และถ้าผมตายไป เจ้าของบัตรเชิญนี้จะอยู่ยังไงนะ
ขนาดทำเมินเฉยไม่กี่สัปดาห์ก็ทำเหมือนจะเป็นจะตายแล้ว ชีวิตนี้เธอขาดผมไม่ได้จริงๆนั่นล่ะ
ผมเก็บบัตรเชิญใส่กระเป๋าในอกเสื้อสูท หยิบกล่องของขวัญและช่อดอกไม้มาถือ มุ่งหน้าสู่คฤหาสน์คิโชวอินตามเวลาในบัตรที่ได้นัดหมาย
แขกส่วนใหญ่ในงานเป็นนักเรียนซุยรัน แต่ก็มีผู้ใหญ่ที่ทางบ้านคิโชวอินเชิญมาด้วยเช่นกัน โดยมากเป็นคนในแวดวงธุรกิจและข้าราชการระดับสูง ยืนคุยกับประธานคิโชวอินด้วยท่าทีครึกครื้นเฮฮา
ผมเข้าไปทักทายประธานและมาดามคิโชวอิน แล้วก็ถูกกักตัวไว้พักใหญ่ๆกว่าจะขอปลีกตัวออกมาได้ นักเรียนซุยรันหลายคนเข้ามาคุยกับผม แต่ยังไม่เห็นเจ้าภาพของงานนี้ซักแอะ
ขณะที่กำลังมองหา ก็รู้สึกถึงมือที่มาแตะบริเวณหลัง พอหันไปก็เห็นเรย์กะในชุดเดรสสีขาวยาวถึงเข่าดูพริ้วไหวเหมือนกลีบดอกไม้ ประดับคอด้วยสร้อยไข่มุกเส้นยาว ส่วนเส้นผมรวบขึ้นไปหลวมๆแซมด้วยดอกไม้สีขาว
“คุณชูสุเกะ” เธอส่งยิ้มหวานมาให้ “มานานรึยัง”
“เพิ่งจะมาเมื่อครู่นี้เอง” ผมเองก็ยิ้มด้วย ยื่นกล่องของขวัญและช่อดอกไม้ไปตรงหน้า “สุขสันต์วันเกิดครับ คุณหนูคิโชวอิน ขอให้มีความสุขมากๆ”
“ขอบคุณค่ะ” เรย์กะก้มมองช่อดอกไม้ในมือตัวเอง “เอ๊ะ นี่มัน…”
“ดอกอุราระ ดอกไม้ที่ชื่อเดียวกับเรย์กะไงล่ะ”
เรย์กะก้มหน้าซุกกับช่อดอกไม้ แต่ผมเห็นว่าเธอกำลังอมยิ้มอยู่ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเอามากๆ
“แล้วก็...วันนี้เรย์กะสวยมากเลยนะ” ผมก้มลงไปกระซิบข้างหูให้ได้ยินกันแค่สองคน “สวยจนไม่อยากให้ใครมองเลย”
“แน้” เธอเอาช่อดอกไม้ตีผมเบาๆ “จะปากหวานเกินไปแล้วนะ”
“พูดความจริงต่างหาก” ผมยังคงยิ้มอยู่
“พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่เอาด้วยแล้ว” เรย์กะเชิดหน้าขึ้น เดินลิ่วๆหนีผมไปรวมกลุ่มกับสาวๆของซุยรัน
ผมหัวเราะให้กับภาพนั้น กริยาเขินอายแบบนี้ได้เห็นกันบ่อยๆ แต่เห็นทีไรก็กระชุ่มกระชวยหัวใจทุกที
ในงานเองก็มีคู่ค้าของตระกูลเอ็นโจอยู่ด้วยเช่นกัน และบุคคลเหล่านั้นก็เข้ามาทักทายผม พูดคุยกันด้วยเรื่องเบาๆสัพเพเหระ เพราะผมเองก็ยังเป็นเด็กม.ต้นอยู่ ยังไม่ต้องรับผิดชอบธุรกิจของทางบ้านมากนัก
ผมกวาดตามองไปรอบๆ ดูว่ามีใครมางานอีกบ้าง แล้วก็ไปสะดุดตากับคนที่ยืนอยู่ในมุมของงานเลี้ยง
คิโชวอิน ทาคาเทรุ
ตามปกติ เขาก็น่าจะโดดเด่นในฐานะของเจ้าภาพอีกคน แต่เขากลับยืนอยู่ในมุมมืดเหมือนเป็นแขกมางานไม่ใช่เจ้าของบ้านอย่างที่ควรเป็น
ผมได้ยินจากเรย์กะว่าท่านพี่ของเธอไม่ค่อยลงรอยกับทางบ้าน เขามักจะทะเลาะกับท่านพ่อเสมอ พลอยให้เธอไม่สนิทกับท่านพี่ไปด้วย นี่อาจจะเป็นสาเหตุของท่าทางแปลกๆที่เขามีต่อครอบครัวตัวเอง
คงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกสินะ