วันวาเลนไทน์มาถึงอย่างรวดเร็ว เป็นวันที่น่าเบื่อสำหรับพวกผม จนอยากจะหยุดเรียน ผมเห็นคิโชวอินถือช็อกโกแลตเดินไปมาทั้งวัน ในที่สุดก็ให้มาซายะ ผมไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่นัก แต่ว่ามาซายะก็ยอมกิน ทั้งๆปกติหมอนั่นไม่ยอมกินขนมทำมือแท้ๆ
ผมแอบเห็นการ์ดแนบอยู่ในนั้น พอมาซายะไม่เห็น ผมก็แอบหยิบมาดู มันเขียนไว้ว่า “ถึงนายอาจจะไม่เคยเห็นฉันอยู่สายตา แต่ฉันก็แอบชอบนายมาตลอดนะ”
หัวใจของผมกระตุกวูบอีกครั้ง ข้อความในนั้นถูกย้ำซ้ำๆในหัว
มาซายะทำความสะอาดกล่อง และกระดาษห่ออย่างดี ก่อนจะวางไว้ข้างเตียงในห้องนอน
“นายชอบคิโชวอินงั้นหรอ”
ผมลองถามดู มาซายะสะดุ้งและหน้าแดง ตอบรับในลำคอเหมือนไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
คงสู้ไม่ได้...
มาซายะถามผมว่าควรจะจีบผู้หญิงยังไง ผมเลยแนะนำเท่าที่นึกออกในสภาวะเจ็บปวดแบบนี้ และบอกเสริมไปว่าต้องจีบให้ติด ให้มั่นใจก่อนว่าอีกฝ่ายชอบ แล้วค่อยสารภาพรัก แบบนี้จะยืนยาวกว่า มาซายะก็พยักหน้าอย่างตั้งใจ
ว่าแต่นายตัดใจจากทาคามิจิแล้วหรอ... พอถามเรื่องนี้ไป เจ้าตัวก็ยิ้มฝืนๆกลับมา ซึ่งไม่ช่วยอธิบายอะไรเลย
วันต่อมาเกือบหมดช่วงพักเที่ยง ผมเห็นมาซายะนั่งซึมในสโมสร พอไปทัก หมอนั่นก็เอาแต่พูดว่า “อย่ารู้จักฉันไปมากกว่านี้เลย...” พูดซ้ำๆราวกับโดนคำสาป
เกิดอะไรขึ้นน่ะ...
สายข่าวผมรายงานมาว่าคิโชวอินถูกประธานฟุตบอลสารภาพรักมา มาซายะก็ไปลากคิโชวอินออกมา พร้อมส่งสายตาเย็นชาแบบจักรพรรดิให้ทุกคนในที่นั้น
มาซายะนั่งจุ่มอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปเรียน สุดท้ายตอนเลิกเรียนจึงดักเจอคิโชวอิน แล้วเล่าที่เกิดขึ้นให้ฟัง ก่อนจะเดินไปที่สโมสรด้วยกัน ผมปล่อยให้คิโชวอินไปคุยกับมาซายะ และยินฟังอยู่ข้างๆ
“ท่านคาบุรากิคะ”
“เมื่อกี้ฉันล้อเล่นค่ะ”
“ล้อเล่น...?”
“ก็ท่านคาบุรากิล้อเล่นมาก่อนนี่คะ ไม่ได้ถามจริงๆใช่ไหมล่ะคะเรื่องขอเป็นแฟนน่ะค่ะ”
หะ?! นายขอเป็นแฟนมาแล้วงั้นหรอ!!!
คาบุรากิตอบงึมงำในลำคอ
"ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดล้อเล่นก็ตกลงเป็นแฟนใช่ไหม"
"อ้า..."
"ฉันเลวร้ายขนาดนั้นเลยสินะ..."
มาซายะทำหน้าเหมือนเด็กน้อยใกล้ร้องไห้ ผมเห็นภาพน่าสะเทือนใจแทนมาซายะที่คิโชวอินปลอบว่าเขาไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าเขามาขอ เธอก็ตกลงเหมือนกัน เพราะงั้นเลยให้กำลังใจในการจีบทาคามิจิ...
นายควรจะบอกคิโชวอินไปได้แล้วนะว่าไม่ได้ชอบทาคามิจิแล้ว...
มาซายะดูอารมณ์ดีขึ้น พอคิโชวอินกลับบ้านไปแล้ว เขาก็เดินไปข่มขู่สมาชิกชมรมฟุตบอลด้วยสายตาจักรพรรดิ และเตะประธานชมรมเข้าโกลพร้อมบอล... นายทำอะไรเห็นชัดไปแล้วนะ ควรเก็บเงียบไม่ให้คนอื่นรู้ง่ายๆสิ...
วันต่อมาผมเห็นมาซายะไปเห็นเนียนๆใกล้ๆกับคิโชวอินแล้วรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก เลยพายูกิโนะมาที่สโมสร น้องชายของผมก็ให้ความร่วมมืออย่างดี และคิโชวอินก็ไม่สนใจมาซายะอีกต่อไป แต่ก็ไม่ได้สนใจผมอยู่แล้วล่ะนะ...
ผมนั่งลงข้างคิโชวอิน อีกฝ่ายสะดุ้งแล้วพยายามถอยหนีจนติดมาซายะ ใจร้ายจังนะ...ผมไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นซะหน่อย
ผมได้แต่ฟังมาซายะคุยเรื่องขนมกับคิโชวอิน มองยังไงสองคนนั้นก็น่าจะชอบกันแล้วจริงๆ...
แต่ว่าคิโชวอินที่มาซายะชอบ คือ ตอนเสียความทรงจำนี่นา...
แล้วถ้าความทรงจำของคิโชวอินกลับมา นายคงไม่ได้ชอบแบบนี้แล้วใช่ไหม...
เมื่อถึงตอนนั้น คิโชวอินจะเป็นยังไงนะ...
ผมคิดถึงประเด็นนี้จนนอนไม่หลับ จึงง่วงนิดหน่อยในตอนเช้า เลยเบลอๆจนไม่รู้ว่าสิ่งที่มาซายะพูดเป็นความจริงหรือภาพหลอนกันแน่ เขาอุทานอะไรบางอย่าง บ่นๆว่าต้องรีบแกะพิกัดจีพีเอสตามตัว และพึมพำว่าบ้านของทาคามิจิ รู้ตัวอีกทีเขาก็วิ่งออกไปแล้ว ผมคิดว่าเขาคงไปเข้าห้องเรียน แต่ปรากฏว่าช่วงบ่ายเขาโดดเรียน และเขาก็ไม่กลับบ้านเลย คนที่บ้านตามตัววุ่นวายกันหมด แต่ก็หาเขาไม่เจอ