ต่อจาก >>657-658 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
อาจจะเบลอๆไปบ้างนะคะ ยาวมากเลย ถ้านั่งตรวจคำผิดคงไม่ได้นอนกันพอดี 5555
ขอโทษนะคะที่ลงดึกไปหน่อย...
..............…….....
(มุมมองเอ็นโจ)
ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้ว่าคิโชวอินเปลี่ยนไปขนาดนั้น เพราะเสียความทรงจำบางส่วน
แม้ทุกคนดูเหมือนจะเข้าอกเข้าใจยอมรับกันรวดเร็ว แต่ผมกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล อะไรทำให้คิโชวอินเปลี่ยนไปขนาดนั้น ตามหลักแล้วการเสียความทรงจำ ลักษณะ ท่าทาง ทัศนคติ และการกระทำก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมาก หรือถ้าต่างก็อาจจะเหมือนตอนสมัยเด็ก แต่เท่าที่ผมสังเกตมาตั้งแต่ประถม ไม่มีช่วงไหนของคิโชวอินที่เป็นแบบนี้เลย
สมัยก่อนคิโชวอินเป็นศูนย์กลางของห้อง ทุกคนต้องคอยตามใจทุกอย่าง ใครขัดหูขัดตาก็ใช้อำนาจ Pivioine ข่มขู่ลงโทษทุกคนไปทั่ว จึงมีแต่คนต่างกลัวที่จะอยู่ห้องเดียวกับเธอทั้งนั้น
แต่ตอนนี้แม้คิโชวอินจะยังเป็นศูนย์กลางของห้องอยู่เหมือนเดิม แต่กลับกลายเป็นว่าทุกคนต้องการเอาอกเอาใจแทน พยายามให้อีกฝ่ายหันมามอง หันมายิ้มให้ ได้พูดคุยกัน มีผู้คนมากมายอิจฉาคนที่ได้อยู่ห้องเดียวกับคิโชวอิน บรรยากาศในห้องสดใส อบอุ่นปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
มาซายะตั้งแต่คุยคิโชวอินหน้าห้องน้ำครั้งนั้น เขานั่งๆอยู่ก็ยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า พูดจาอะไรแปลกๆกว่าเดิม บางทีเขาก็อยู่ในร้านขายต้นไม้เป็นชั่วโมง แล้วจดบันทึกเรื่องลักษณะใบไม้ที่แตกต่างกันทั้งๆที่เป็นพืชชนิดเดียวกัน บางทีก็นั่งศึกษาเรื่องสีผมของคนอย่างละเอียด มีครั้งหนึ่งเขาเอาสีส้มหลายเฉดสีมาวางเรียงแล้วถามผมว่าสีผมคนเรามีครบทุกสีแบบนี้ไหม
เมื่อตารางรายชื่อว่าใครจะลงแข่งอะไรมาถึง มาซายะบอกว่าจะไม่ลงแข่งขี่ม้าส่งเมือง ทุกคนต่างตื่นตกใจกันใหญ่ ไม่รู้ทำไมเขาถึงหยุดลงกีฬานี้ไปอย่างไร้สาเหตุ ในเมื่อเขาลงเสมอทุกปี ผมลองถามๆเขาดู เขาก็เผยออกมาว่าเคยประกาศแล้วว่าจะไม่ลงกีฬาชนิดนี้อีก และเมื่อผมถามว่าประกาศที่ไหนเมื่อไหร่ เขาก็เงียบไม่ยอมตอบ
วันต่อมาหลังข่าวเรื่องจักรพรรดิแห่งซุยรันไม่ลงกีฬานี้แล้วดังไปทั่วโรงเรียน ผมก็เห็นคิโชวอินมาแอบคุยกับมาซายะ เมื่อแอบฟังใกล้ๆ ก็ได้ยินคิโชวอินคุยกับมาซายะประมาณว่า “ไม่เห็นจำเป็นต้องรักษาสัญญาขนาดนั้นเลยนี่คะ โลกนี้ลงแข่งได้อยู่นะคะ”
ที่นายไม่ลง เพราะตกลงอะไรกับคิโชวอินงั้นหรอ... แต่อาจจะมีหนี้หรืออะไรค้างกันแค่ครั้งเดียวมั้ง
งานเทศกาลกีฬามาถึง มาซายะลงวิ่งแข่งแทน และชนะอย่างง่ายดายอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ผมสงสัยมากกว่าคือทำไมคิโชวอินถึงลงแข่งยืมของ แต่ว่าเทียบกับสิ่งที่ผ่านๆมา...ผมไม่ควรสงสัยอะไรอีกแล้วล่ะมั้ง
คิโชวอินได้โจทย์มาก็ชะงัก ทำท่าทางเคร่งเครียด และมองไปรอบๆอย่างร้อนรน ดูเหมือนว่าคงได้โจทย์ที่ยากทีเดียวมั้งนะ
มีคนหนึ่งวิ่งเข้าเส้นชัยไป ทำให้ผมรู้ว่าเราไม่ได้ยืมของ แต่เป็นยืมคนต่างหาก เป็นคนที่มีคุณสมบัติตรงกับที่จับสลากได้ ขณะที่ผมกำลังวิเคราะห์ว่าคิโชวอินจะได้โจทย์อะไร อีกฝ่ายก็ตรงมาหามาซายะ ไม่สนใจผมที่นั่งอยู่ข้างๆมาซายะเลยสักนิดเหมือนเคย
"ท่านคาบุรากิคะ มากับฉันหน่อยได้ไหมคะ"
เสียงฮือฮาดังไปทั่วสนาม ผมค่อนข้างแปลกใจที่คิโชวอินทำอะไรที่เสี่ยงกับการหน้าแตกทั้งสนามขนาดนี้ เมื่อกี้มาซายะเพิ่งปฏิเสธผู้หญิงที่มาขอไปสองคนนะ
จะยังไงคิโชวอินก็ยังคงชอบมาซายะงั้นหรอ ต่อให้ต้องถูกหักหน้าท่ามกลางผู้คนก็ยินยอม... ความรักทำให้เธอตาบอดจริงๆ ทำไมต้องไปชอบคนที่ไม่รักเธอด้วยนะ
ผมเตรียมลุกขึ้นเพื่อทำอะไรสักอย่าง แต่มาซายะก็เดินลงไปจับมือกับคิโชวอิน
ทั้งคู่วิ่งไปตามทางด้วยกัน เป็นภาพที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ผมรู้สึกไม่รับรู้ถึงเสียงแตกฮือของผู้คนที่ตกใจกับเหตุการณ์เบื้องหน้า
แม้จะแทบเรียกได้ว่าคล้ายปาฏิหาริย์ แต่มาซายะก็พาคิโชวอินเข้าที่สองได้ ทั้งๆที่ตามคนอื่นอยู่เยอะมาก และเมื่อกรรมการประกาศว่าของที่คิโชวอินต้องเอามาคือ “เพศตรงข้ามที่สนิทที่สุด” เสียงแห่งความสงสัย และแปลกใจก็ดังชัดไปทั่ว อันที่จริง คิโชวอินไม่แปลกที่จะคิดแบบนั้น แต่มาซายะกลับยิ้มให้คิโชวอินเมื่อรู้ว่าโจทย์คืออะไร