คุณคิโชวอินไม่ใช่สาวเข้าสังคม การจะพบเจอในงานเลี้ยงก็ยากสุดๆ บางงานก็มา ที่เลี่ยงได้ก็ไม่ร่วม ดังนั้นผมจึงพบเธอในงานแต่งของเพื่อนร่วมรุ่นเป็นส่วนใหญ่
หลายครั้งจะเห็นคุณคิโชวอินเป็นเพื่อนเจ้าสาวผู้เชี่ยวชาญ เพราะทำหน้าที่นี้มาหลายงานแล้ว ไม่งั้นก็มาร่วมงานอย่างโดดเดี่ยว ทักทายบ่าวสาวพอเป็นพิธีก็จิบเครื่องดื่มชิมขนมอยู่ในซุ้มอาหาร ถาดนั้นที ถาดนี้ทีอย่างเพลิดเพลิน พอถึงเวลาโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว ถึงจะทำอิดออดเดินเข้าไป แต่แววตากลับมีแววกระตือรือร้นลุกโชนอยู่
ทว่างานสามก็แล้ว... งานสี่ก็แล้ว... จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยได้รับช่อดอกไม้กะเขาสักงาน จนมาซายะเดินเข้าไปแซว ก็ส่งสายตาขู่ฟ่อใหญ่ ไม่วายเผื่อแผ่ความเกรี้ยวกราดมายังผมอีกต่างหาก ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ช่างหวาดระแวงไม่เปลี่ยนจากสมัยเรียนเลยสักนิด
พอมานึกย้อนอดีตดู นอกจากเรื่องราวของตัวผมเองและมาซายะแล้ว ก็เห็นจะมีเรื่องของคุณคิโชวอินนี่ล่ะที่จดจำได้แม่นเสียเหลือเกิน
การเฝ้ามองการกระทำและคาดเดาความคิดของเธอ เป็นสิ่งบันเทิงรายวันให้กับผมเป็นอย่างมากทีเดียว
นับตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งเเต่ประถมจนกระทั่งเรียนจบจนทำงานแล้ว นี่อาจเรียกได้ว่าแทบจะทั้งชีวิต แต่ความสัมพันธ์ของพวกเราก็ไม่ได้มากไปกว่าการเป็นเพื่อนร่วมสโมสร... น่าปวดใจจังเลยแฮะ
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะรู้ความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด แต่ก็เพราะในเวลานั้นยังมีบ่วงผูกคอเส้นหนาเกินกว่าจะทำอะไรกับมันเองได้ แถมพะวงว่าอาจพาเธอติดร่างแหจนเดือดร้อนไปด้วย นอกจากนั้นคุณเธอเองก็ดูจะหวาดผวามาซายะกับผมไม่ใช่น้อย แค่จะได้คุยด้วยสักทีก็ต้องทั้งวางแผนหลอกล่อหลายตลบ
แต่ว่าถ้าเป็นตอนนี้แล้วล่ะก็...
"นั่นคุณชายบ้านโมโมโซโนะนี่ สนิทกันน่าดูเลยนะ"
มาซายะเอ่ยขึ้นขณะจิบไวน์แล้วเสมองมาทางผมอย่างรู้ทัน
ผมมองไปทางนั้นเห็นคุณคิโชวอินกับคุณชายที่ขึ้นชื่อว่าคาสโนว่าคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงผมจะรู้อยู่แล้วว่าเขาคนนั้นเป็นเพื่อนของพี่ชายเธอ ไม่ได้มีอะไรเกินกว่านั้น แต่ยังอดขัดใจเล็กน้อยไม่ได้
ไม่ใช่เพียงแค่เขาหรอก ผู้ชายบางคนในงานก็แอบเหล่มองเธอตลอด ออกจะโดดเด่นขนาดนั้นก็ไม่แปลกนักหรอก น่าหงุดหงิดจริงๆ ถ้าหากว่าผมไม่เริ่มทำอะไรตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะก็...
ผมขยับตัวเดินเข้าไปหาเธอ ปรายตาไปทางพวกผู้ชายเหล่านั้น พอพวกเขาเห็นผมก็สะดุ้งหน้าซีดก่อนจะรีบหลบไปอีกทาง บางทีคงเป็นเพราะข่าวลือเกี่ยวกับ 'การทำความสะอาด' ในเอ็นโจกรุ๊ปที่เล็ดลอดออกไป ไม่รู้ว่าลือกันไปขนาดไหนถึงผวากันขนาดนั้น
รู้สึกโหวงๆเหมือนกันแฮะ ผมไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้นสักหน่อย
ถ้าไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกันน่ะ
"สวัสดี คุณคิโชวอิน"
"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ"
เพียงแค่ได้ทักทายด้วย ความเหนื่อยล้าจากงานและความหงุดหงิดของผมก็จางไปหายไปแทบทั้งหมด ราวกับได้รับการชำระจิตใจจนปลอดโปร่ง
ตอนนี้ผมไม่มีบ่วงพันธะอย่างในอดีต ถ้าเป็นตอนนี้แล้วล่ะก็...
ผมคงจะสามารถทำอะไรได้ตามปรารถนาโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีก ผมจะไม่ยอมวิตกว่าวันหนึ่งวันใดจะได้รับการ์ดแต่งงานที่มีชื่อของเธอบนนั้นอีกแล้ว
นอกเสียจากว่า มันจะมีชื่อของผมอยู่ข้างกับชื่อของเธอล่ะนะ
ช่อดอกไม้ที่รับไม่ได้สักที ไว้คราวหน้าเปลี่ยนเป็นคนโยนเองอาจจะดีกว่าก็ได้
-----------------------
จบไม่ลง เลยจบออกมาน่าขนลุกแปร่งๆ...
น่าจะผิดคาร์แรคเตอร์ไปเยอะ ขออภัยค่ะ ฮาา
จบพาร์ทแค่นี้แหละ เขียนที่อยากเขียนไปหมดแล้ว