Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9

Last posted

Total of 1000 posts

685 Nameless Fanboi Posted ID:yNK7SeKsN

จากฟิคหลังเรียนจบ อยากแต่งต่อ แต่คิดไม่ออก เลยออกมาเป็น
พาร์ทเอ็นโจ(หลังเรียนจบ)
-------------------

นับตั้งแต่การหมั้นหมายถูกทำให้ล่มไป แม้ว่าภาพลักษณ์ภายนอกของเอ็นโจกรุ๊ปจะดำเนินต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าเบื้องหลังภายในบริษัทนั้นกลับสาหัสกว่าที่ผมคาดการณ์ไว้

ไม่ว่าจะพนักงาน ผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่กลับล้วนแล้วแต่เป็นคนของทางนั้นเสียกว่าครึ่ง ชอนไชกลืนกินจนเสถียรภาพในบริษัทสั่นคลอน ราวกับเป็นแผนการที่วางไว้ ข่าวและเอกสาร​เท็จเกี่ยวกับการทุจริตที่ถูกปล่อยลือกันภายในอย่างหาต้นตอไม่ได้ จนท่านพ่อโดนสอบสวนในการประชุมผู้ถือหุ้น กระทั่งมีแนวโน้มจะถูกปลดตำแหน่งประธานออกจากบริษัทตัวเอง อำนาจในมือกลายเป็นเพียงเสือกระดาษ ทุกอย่างหนักหน่วงจนเรียกได้ว่าตระกูลเอ็นโจแทบจะไร้ที่ยืนในที่ที่บรรพบุรุษของเราเองก่อตั้งมา ด้วย​ฝีมือ​ของกลุ่มคนที่ครั้งหนึ่งเรียกว่า "ญาติ"

หากไม่ใช่มิตร-ทองแผ่นเดียวกัน ก็เป็นศัตรู​ที่ต้องขจัดทิ้งให้สิ้นซาก เขาคงคิดแบบนั้​น​

ท่านพ่อตัดสินใจลาออกเพื่อไม่ให้เรื่องราวบานปลายจนเกิดการแทรกแซง และส่งมอบตำแหน่งให้กับว่าที่ประธานบริษัท ซึ่งก็คือผมที่กำลังฝึกงานในขณะนั้น ชีวิตในช่วง​มหาวิทยาลัย นอกจาก​การเรียน​แล้ว ผมจึงต้องแบกรับภาระและง่วนอยู่กับเรียนรู้การบริหารธุรกิจของครอบครัวที่ระส่ำระส่าย

ในขณะที่ผู้บริหาร หุ้นส่วนและบริษัทคู่ค้าต่างดูแคลนว่าเด็กมหาลัยจะดูแลบริษัทขนาดยักษ์ได้อย่างไร เธอคนนั้นก็มาปรากฏตัว เพื่อเย้ยหยันและปรามาสว่าทุกอย่างเป็นความผิดของผมที่ทำร้ายจิตใจเธอที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว เอ็นโจกรุ๊ปคงจะล่มสลายด้วยน้ำมือของผมเอง พร้อมกับจะยื่นข้อเสนอทางออกที่จะทำให้คนของเธอรามือให้ แน่นอนว่ายาพิษเช่นนั้นผมไม่ต้องการจึงปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี

ผมถลำตัวเข้ากับการทำงานจนถึงขั้นหามรุ่งหามค่ำ เพื่อไม่ให้ทุกอย่างที่มีมาแต่อดีตของตระกูลต้องพังทลายไม่เป็นท่าตามคำครหา จนทำให้ท่านแม่และยูกิโนะต้องเป็นห่วงตลอดเวลา

โชคดีที่นอกจากท่านพ่อแล้ว ก็ยังมีคนที่ไว้ใจได้และพวกเพื่อนๆที่เชื่อใจคอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ ปลดล็อคออกไปทีละเรื่องทีละอย่าง ในการแสดงความบริสุทธิ์ของท่านพ่อและตระกูล การที่ทำให้ผมได้รับการยอมรับในฐานะประธานบริษัท การทำให้เอ็นโจกรุ๊ปกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง และการทำความสะอาด กำจัดหนอนบ่อนไส้และมะเร็งเนื้อร้ายเหล่านั้นออกไป

แน่นอนว่า 'หากไม่ใช่มิตร ก็เป็นศัตรู​ที่ต้องขจัดทิ้งให้สิ้นซาก​'

จนกระทั่งวิกฤติผ่านพ้น ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง ผมรู้สึกตัวอีกที​ เวลาก็ผ่านมาหลายปี เพื่อนๆก็ทยอยเข้าประตูวิวาห์กันแล้ว

ครั้งหนึ่ง มาซายะในชุดเจ้าบ่าวตบหลังผมดังพลั่กๆ​อย่างเต็มแรง กล่าวเยาะเย้ยว่า
"ไม่เป็นไร​นะ ชูสุเกะ ในฐานะซีอีโอ​โรงแรม​ในเครือ​คาบุรา​กิ ​ไว้ฉันจะสร้างคานทองนิเวศน์​โปรเจ็ค​สำหรับ​นายเอง!"

ผมได้แต่ยิ้มตอบเงียบๆและแอบกระทืบใส่เท้าเขาเบาๆในตอนเผลอ จนเขาร้องโอ๊ยแล้วหนีไปออดอ้อนเจ้าสาว​

ได้ทีล่ะเอาใหญ่เชียวนะ เจ้าบ้าเอ้ย

เพราะมัวแต่ทำงาน แค่ตรวจสอบเอกสารก็แทบจะไม่ได้นอน นอกจากงานเลี้ยงที่เกี่ยวข้องกับแวดวงธุรกิจแล้ว ก็แทบจะไม่ได้พบปะสังสรรค์กับใครเลย

... ต่อให้ไปก็ใช่ว่าจะได้พบกับคนที่อยากเจอด้วยซิ

ปกติแล้วการจะได้เข้าใกล้เธอก็เป็นเรื่อง​ยากจะแย่อยู่แล้ว ยิ่งพอพวกเราเรียนจบเข้ามหาวิทยาลัย แถมผมยังต้องง่วนกับการทำงานจนแทบลืมวันลืมคืน โอกาส​ที่จะได้พบเจอกันก็ยิ่งไกลโข​

หลายครั้งที่ผมเคยคิดระหว่างพักสมองจากการทำงาน ว่าบางทีช่วงที่ผมวุ่นวายกับบริษัท เธออาจจะพบเจอใครที่ต้องชะตาด้วยไปแล้ว หรือหากว่าหนึ่งในการ์ดแต่งงานที่ได้รับเชิญ เกิดมีชื่อของเธอขึ้นมา... เพียงแค่คิดก็รู้สึกขมขื่น ได้แต่ประคับประคองจิตใจให้ประคับประคองบริษัทให้ไปรอดเสียก่อน

โชคดีที่มันไม่เป็นอย่างนั้น

686 Nameless Fanboi Posted ID:yNK7SeKsN

คุณคิโชวอินไม่ใช่สาวเข้าสังคม การจะพบเจอในงานเลี้ยงก็​ยากสุดๆ บางงานก็มา ที่เลี่ยงได้ก็ไม่ร่วม ดังนั้น​ผมจึงพบเธอในงานแต่งของเพื่อนร่วมรุ่นเป็นส่วนใหญ่​

หลายครั้ง​จะเห็นคุณคิโชวอินเป็นเพื่อนเจ้าสาวผู้เชี่ยวชาญ​ เพราะทำหน้าที่นี้มาหลายงานแล้ว ไม่งั้น​ก็มาร่วมงานอย่างโดดเดี่ยว​ ทักทายบ่าวสาวพอเป็นพิธี​ก็จิบเครื่อง​ดื่ม​ชิมขนมอยู่ในซุ้ม​​อาหาร ถาดนั้นที ถาดนี้ทีอย่างเพลิดเพลิน พอถึงเวลาโยนช่อดอกไม้​ของเจ้าสาว ถึง​จะทำอิดออด​เดินเข้าไป ​แต่แววตา​กลับมีแววกระตือรือร้น​ลุกโชนอยู่

ทว่างานสามก็แล้ว... งานสี่ก็แล้ว... จนแล้วจนรอด​ก็ไม่เคยได้รับช่อดอกไม้​กะเขาสักงาน จนมาซายะเดินเข้าไปแซว ก็ส่งสายตาขู่ฟ่อใหญ่ ไม่วายเผื่อแผ่​ความเกรี้ยวกราด​มายังผมอีกต่างหาก ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ช่างหวาดระแวงไม่เปลี่ยนจากสมัยเรียนเลยสักนิด

พอมานึกย้อนอดีตดู นอกจาก​เรื่องราว​ของตัวผมเองและมาซายะแล้ว ​ก็เห็นจะมีเรื่อง​ของคุณคิโชวอินนี่ล่ะที่จดจำได้แม่นเสียเหลือ​เกิน​

การเฝ้ามองการกระทำและคาดเดาความคิดของเธอ เป็นสิ่งบันเทิงรายวันให้กับผมเป็นอย่างมากทีเดียว

นับตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งเเต่​ประถม​จนกระทั่ง​เรียนจบจนทำงานแล้ว นี่อาจเรียกได้ว่าแทบจะทั้งชีวิต​ แต่ความสัมพันธ์​ของพวกเราก็ไม่ได้​มากไปกว่าการเป็นเพื่อน​ร่วมสโมสร... น่าปวดใจจังเลยแฮะ

ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาผมจะรู้ความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด แต่ก็เพราะในเวลานั้นยังมีบ่วงผูกคอเส้นหนาเกินกว่าจะทำอะไรกับมันเองได้ แถมพะวงว่าอาจพาเธอติดร่างแหจนเดือดร้อนไปด้วย นอกจากนั้นคุณเธอเองก็ดูจะหวาดผวามาซายะกับผมไม่ใช่น้อย แค่จะได้คุยด้วยสักทีก็ต้องทั้งวางแผนหลอกล่อหลายตลบ

แต่ว่าถ้าเป็นตอนนี้แล้วล่ะก็...

"นั่นคุณชายบ้านโมโมโซโนะนี่ สนิทกันน่าดูเลยนะ"
มาซายะเอ่ยขึ้นขณะจิบไวน์แล้วเสมองมาทางผมอย่างรู้ทัน

ผมมองไปทางนั้นเห็นคุณคิโชวอินกับคุณชายที่ขึ้นชื่อว่าคาสโนว่าคุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงผมจะรู้อยู่แล้วว่าเขาคนนั้นเป็นเพื่อนของพี่ชายเธอ ไม่ได้มีอะไรเกินกว่านั้น แต่ยังอดขัดใจเล็กน้อยไม่ได้

ไม่ใช่เพียงแค่เขาหรอก ผู้ชายบางคนในงานก็แอบเหล่มองเธอตลอด ออกจะโดดเด่นขนาดนั้นก็ไม่แปลกนักหรอก น่าหงุดหงิดจริงๆ ถ้าหากว่าผมไม่เริ่มทำอะไรตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะก็...

ผมขยับตัวเดินเข้าไปหาเธอ ปรายตาไปทางพวกผู้ชายเหล่านั้น พอพวกเขาเห็นผมก็สะดุ้งหน้าซีดก่อนจะรีบหลบไปอีกทาง บางทีคงเป็นเพราะข่าวลือเกี่ยวกับ 'การทำความสะอาด' ในเอ็นโจกรุ๊ปที่เล็ดลอดออกไป ไม่รู้ว่าลือกันไปขนาดไหนถึงผวากันขนาดนั้น

รู้สึกโหวงๆเหมือนกันแฮะ ผมไม่ได้อันตรายอะไรขนาดนั้นสักหน่อย
ถ้าไม่ได้คิดจะเป็นศัตรูกันน่ะ

"สวัสดี คุณคิโชวอิน"
"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ"

เพียงแค่ได้ทักทายด้วย ความเหนื่อยล้าจากงานและความหงุดหงิดของผมก็จางไปหายไปแทบทั้งหมด ราวกับได้รับการชำระจิตใจจนปลอดโปร่ง

ตอนนี้ผมไม่มีบ่วงพันธะอย่างในอดีต ถ้าเป็นตอนนี้แล้วล่ะก็...

ผมคงจะสามารถทำอะไรได้ตามปรารถนาโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีก ผมจะไม่ยอมวิตกว่าวันหนึ่งวันใดจะได้รับการ์ดแต่งงานที่มีชื่อของเธอบนนั้นอีกแล้ว

นอกเสียจากว่า มันจะมีชื่อของผมอยู่ข้างกับชื่อของเธอล่ะนะ
ช่อดอกไม้ที่รับไม่ได้สักที ไว้คราวหน้าเปลี่ยนเป็นคนโยนเองอาจจะดีกว่าก็ได้

-----------------------
จบไม่ลง เลยจบออกมาน่าขนลุกแปร่งๆ...
น่าจะผิดคาร์แรคเตอร์ไปเยอะ ขออภัยค่ะ ฮาา
จบพาร์ทแค่นี้แหละ เขียนที่อยากเขียนไปหมดแล้ว

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.