เอ็นโจในโลกนั้นจะเข้มแข็งพอใช่ไหมคะ... ถึงไม่อยากยอมรับ แต่ฉันก็อดรู้สึกเป็นห่วงเขาไม่ได้ คาบุรากิเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขานี่นา
เอ็นโจในโลกนี้แม้จะข่มขู่ได้โหดร้ายจนถึงขั้นวิ่งหนีก็เถอะค่ะ แต่เขาเองคงเจอเรื่องยากลำบากเหมือนกันที่อยู่ๆต้องมาเจอกับคาบุรากิรูปแบบใหม่ที่เป็นคนละเรื่องกับเพื่อนสนิทที่เขารู้จัก
ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องเกิดขึ้นกับฉันด้วยนะ...
“คิโชวอิน...”
คาบุรากิเรียกฉันเบาๆ ฉันคงทำหน้าเศร้าอะไรออกไปมั้งคะ...
“อีกสิบนาทีเธอจะเรียนวิทยาศาสตร์แล้วนะ เราควรกลับไป...”
“หะ?!”
ฉันลืมซะสนิทเลยค่ะว่ามีสอบย่อยวิทยาศาสตร์ ทำไงดีคะ นั่นเป็นจุดประสงค์ที่ฉันมาที่นี่ด้วยซ้ำ...!!!
เห็นแก่คะแนนของฉัน คาบุรากิยอมเสี่ยงตายพาฉันกลับมาอย่างหวาดระแวง รีบส่งฉันที่ห้องและสั่งเสียว่าจะพยายามต้านเอาไว้ให้นานที่สุด รีบไปเถอะ นายคิดว่านายกำลังจะไปสู้กับจอมมารจริงๆขนาดนั้นเลยหรอคะ...
คาบุรากิก็จากไป สาวๆรอบข้างดูตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครถามฉันได้ เพราะอาจารย์เข้ามาในแทบจะทันที และก็มีสอบย่อยจริงๆด้วยค่ะ สุดยอดไปเลยนะคาบุรากิ นายจดจำสิ่งต่างๆได้ละเอียดจริงๆ
เนื่องจากคาบุรากิติวให้ฉันคร่าวๆเมื่อวานแล้ว ฉันเลยทำข้อสอบชิวมากๆเลยค่ะ และถือโอกาสออกจากห้องสอบก่อน ส่งเมลล์ถามว่าเขายังมีชีวิตอยู่ไหม ก่อนจะเริ่มออกตามหาเขากับเอ็นโจ
ฉันเดินไปมาจนเห็นทั้งคู่ยืนกันหน้าห้องน้ำหญิง พวกนายไม่มีที่ที่ดีกว่านี้ไปยืนคุยกันแล้วหรอ...
ตอนแรกฉันกะจะเข้าไปช่วยคาบุรากิ แต่ชะงักเมื่อได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนา
“คุณคิโชวอินงั้นหรอ...”
“เหมือนจะอย่างนั้น...”
ฉันมองสีหน้ากลืนคายไม่ออกของเอ็นโจ และสีหน้าหดหู่ของคาบุรากิ ฉันก็ตัดสินใจขอแอบฟังอีกสักพัก พวกนายพูดอะไรกันน่ะ
“ฉันพอเข้าใจแล้ว...” เอ็นโจยอมรับแบบยิ้มขื่นๆ “นายโอเคใช่ไหม”
“อื้ม...แต่ว่าอย่าบอกคิโชวอินเรื่องนั้นเลย”
“เห็นด้วยล่ะนะ...”
เรื่องอะไรคะ??? ฉันอยากให้ตัวเองโผล่มาที่นี่เร็วกว่านี้สักห้านาทีจังค่ะ คุยอะไรกันน่ะ อะไรที่ฉันไม่ควรรู้ หรือจะเกี่ยวกับเรื่องคาบุรากิปิดบัง
แต่ว่า... เป็นไปได้ไหมคะว่าคาบุรากิอาจจะแต่งเรื่องสักเรื่องหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะเล่าเรื่องครอบครัวฉัน
“นี่มาซายะ เมื่อไหร่นายจะบอกไปตรงๆซะทีน่ะ จะปล่อยให้ความสัมพันธ์ซับซ้อนแบบนี้ทำไม”
“นายสามารถว่าฉันเรื่องนั้นได้ด้วยหรอ”
“กรณีฉันมันไม่มีทางเลือกซะหน่อย...”
“อ้า...ก็นะ”
ฉันมองภาพหนุ่มป๊อบสองคนทำหน้าขมขื่นใส่กันแล้วมีเบื้องหลังเป็นห้องน้ำหญิงนี่สะดุดตาจริงๆค่ะ อยากกรีดร้องให้พวกนายเปลี่ยนฉากหน่อย แต่ก็เข้าไปบอกตอนนี้ไม่ได้ เท่าที่ฟังมาฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่เลยค่ะ แต่ในเมื่อพวกเขาคิดจะปิดบังฉัน ถ้าฉันปรากฏตัวตอนนี้ พวกเขาคงไม่บอกหรอกนะคะ
“จริงๆฉันก็เคยเนียนๆบอกไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่รู้ตัวเลยน่ะ”
“อ๋อ ตอนนั้นน่ะนะ...”
ฉันฟังแล้วรู้สึกหน่วงๆอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ คาบุรากิคงบอกรักวาคาบะจัง แต่อีกฝ่ายไม่รู้ตัวมั้งคะ ที่สองคนนั้นพยายามปิดบังฉัน บางทีอาจเพราะฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้วาคาบะจังตัดใจจากคาบุรากิจริงๆก็ได้ค่ะ...
ฉันพยายามหันหลังและเดินหนีออกห่าง สงสัยว่าคาบุรากิคงบอกเอ็นโจว่าออกจากบ้าน เพราะสะเทือนใจกับเรื่องวาคาบะจัง และตัวฉันเองก็มีส่วนในเรื่องนี้ไม่น้อย... แต่เพราะฉันเป็นเพื่อนกับเขา ก็เลยไม่อยากทำร้ายความรู้สึกมั้งคะ จึงตกลงว่าคงจะไม่บอกฉัน
แต่เรื่องนี้ก็คงทำให้เอ็นโจหายสงสัยเรื่องการหายไปของคาบุรากิได้ดีแล้วล่ะนะคะ...
“แต่ฉันว่ารีบบอกคุณคิโชวอินไปตรงๆเถอะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว...”
ฉันชะงักเท้าที่จะเดินหนี ยืนนิ่งท่ามกลางความเงียบสงบ
“ตอนนี้ฉันจีบยังไม่ติดเลย จะให้บอกรักก็เร็วไปนะ”
ห๊าาาาาาาาาาาาา?!
หมายความว่าไงกันคะ!!! คาบุรากิแต่งเรื่องว่าชอบฉันเพื่อเบนความสนใจงั้นหรอคะ...?
“คุณคิโชวอินน่ะชอบนายมาตั้งนานแล้ว ต่อให้เสียความทรงจำก็ชอบนายไม่เปลี่ยนแปลงหรอกนะ แต่เพราะคิดว่านายยังชอบคุณทาคามิจิอยู่ก็เลยหลีกทางให้”
“คิโชวอินตอนเสียความทรงจำไม่ได้ชอบฉันหรอก...”
ฉันรู้สึกเหมือนสมองเริ่มปิดการรับรู้ทั้งหมดไป รู้สึกตัวอีกทีคาบุรากิกับเอ็นโจก็ไปที่อื่นนานแล้ว คาบุรากิส่งเมลล์มาบอกว่าเขาเคลียร์กับเอ็นโจเรียบร้อย ไม่ต้องเป็นห่วง!
คงแค่แต่งเรื่องโกหกแหละค่ะ... แค่ช่วยปกปิดเรื่องฉันออกจากบ้านเท่านั้นเอง
เมื่อฉันกลับห้องเรียน ทุกคนก็เข้ามาถามอย่างเป็นห่วงว่าเป็นไข้หรือเปล่า ถึงได้หน้าแดงแบบนี้
ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีเลยค่ะ