มาปลอบประโลมใจกับฟิคเอ็นโจเลี้ยงต้อยต่อดีกว่า >>>/webnovel/3628/203-204
----------------------
เรย์กะหยุดเรียนไปหนึ่งวัน แล้วก็มาโรงเรียนด้วยท่าทีร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พอผมถาม เธอก็ยิ้มให้อย่างเคย “ฉันสบายดีค่ะ”
“อยากพูดอะไรก็พูดออกมาเถอะ” ผมวางมือลงบนศีรษะเธอ “ผมยินดีรับฟังนะ”
เธอนิ่งไปสักครู่แล้วก็จับมือผมเอามาแนบแก้มตัวเอง ส่งยิ้มที่ดูอ่อนหวานมาให้
“แค่คุณชูสุเกะเป็นห่วงก็รู้สึกดีใจแล้วค่ะ”
ทั้งที่น่าจะดีใจที่ถูกทำเช่นนี้ แต่ผมไม่สบายใจกับรอยยิ้มนั่น มันดูฝืนและมองไม่เห็นความสุข แต่ถ้าเธอพอใจที่จะทำอย่างนี้ ผมก็ไม่อาจขัดใจได้
.
.
.
คืนนั้น ผมโทรไปหาเลขาของท่านพ่อ ขอให้ช่วยสืบข้อมูลของคิโชวอิน ทาคาเทรุมาทั้งหมดเท่าที่จะหาได้ คิดว่าเขาคงไปขอความช่วยเหลือจากโมโมโซโนะ อิมาริที่เป็นเพื่อนสนิท ผมก็ขอให้สืบค้นเกี่ยวกับคุณโมโมโซโนะด้วย
เลขาของท่านพ่อทำงานได้รวดเร็วเกินความคาดหมาย ผ่านไปสองวัน ข้อมูลของทั้งคู่ก็ถูกส่งมาให้
ส่วนมากก็เป็นอะไรที่ผมรู้อยู่แล้ว ไม่ต่างไปจากโลกเดิมที่ผมจากมาเท่าไหร่
สิ่งที่ทำให้ผมสนใจคือ สองวันนี้ คิโชวอิน ทาคาเทรุมีความเคลื่อนไหวด้วยการไปสรรพากร สำนักงานผู้ตรวจสอบบัญชีและธนาคารที่ให้คิโชวอินกรุ๊ปกู้ยืมเงินทำธุรกิจ โดยอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานมาก
ใจผมหวนนึกไปถึงประธานคิโชวอินกับรัฐมนตรีในงานวันเกิดของเรย์กะวันนั้น ยังจำได้ดีถึงสีหน้าของคุณทาคาเทรุที่ดูเคร่งเครียด และท่าทีแปลกๆของครอบครัวที่มีต่อกันและกัน
เขาคิดจะทำอะไร
ถ้าไปธนาคารเพื่อจะขอกู้มาลงทุนทำธุรกิจเองเพราะแยกตัวออกมาจากบ้านแล้ว ดูตอนนี้ก็ยังไม่น่าจะใช่เวลาไปสรรพากรเลยสักนิด
ผมมองเบอร์โทรศัพท์ของเขาที่อยู่มุมกระดาษ ชั่งใจเล็กน้อยว่าจะโทรไปดีหรือไม่
เราเคยเจอกันแค่ในงานวันเกิดเรย์กะ ไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน ถ้าเป็นฝ่ายโทรไปอาจจะดูแปลกๆ เขาคงไม่ไว้ใจผมจนยอมคุยด้วยแน่
ผมเลยขอให้เลขาท่านพ่อสืบดูพฤติกรรมของเขาอีกระยะหนึ่ง หยั่งท่าทีก่อนจะลงมือทำอะไรลงไป ระหว่างนี้ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับคิโชวอินกรุ๊ปและรัฐมนตรีคนนั้น รู้สึกว่าประธานคิโชวอินจะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันที่ซุยรัน คงเป็นการมางานเลี้ยงตามประสาเพื่อน
แต่ก็วางใจไม่ได้ ข่าวว่ามีส่วนพัวพันกับการทุจริตของเขาทำให้ผมไม่สบายใจเลยสักนิด
ลองพลิกๆอ่านข่าวเศรษฐกิจ ก็ยังไม่พบอะไรที่เป็นพิรุธ มีข่าวที่น่าสนใจอยู่ข่าวเดียวคือคิโชวอินกรุ๊ปได้เข้าเทคโอเวอร์กิจการของบริษัทดิจิตอลแห่งหนึ่ง หุ้นของบริษัทดิจิตอลนี้ราคาพุ่งขึ้นไปสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นต้นมา
ผมที่เพิ่งจะเป็นเด็กมัธยมปลายยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกพวกนี้ได้ ต้องศึกษามากกว่านี้
ระหว่างมื้อค่ำ พอเอ่ยขึ้นมาว่าจะลองศึกษาวิธีเล่นหุ้นดู ท่านพ่อก็อนุมัติคำขอนี้
เย็นวันถัดมา ที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทมารออยู่ก่อนแล้ว พวกเขาสอนวิธีการเล่นหุ้นต่างๆนานา ทั้งวิธีการซื้อขาย วิธีการเก็งกำไร โดยเริ่มจากตัวพื้นฐานง่ายๆความเสี่ยงต่ำ ลงทุนจำนวนน้อยๆก่อน ส่วนเชิงลึกจะสอนในสัปดาห์ถัดๆไปที่ต้องเรียนรู้งานบริหาร
วันเสาร์ มาซายะมาหาผมที่บ้าน เอาเค้กมาฝาก เห็นผมนั่งมองพอร์ตหุ้นอยู่ก็มานั่งข้างๆแล้วเริ่มพูดเรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่ไปถึงวอลล์สตรีทและฮั่งเส็ง แล้วก็แนะนำให้ผมซื้อหุ้นตัวนั้นตัวนี้เก็บเอาไว้เก็งกำไร เชี่ยวชาญสมกับเป็นทายาทกลุ่มเงินทุนระดับโลก ความสามารถไม่ต่างจากโลกเดิมที่ผมจากมา
“นึกยังไงถึงอยากเล่นหุ้น”
“ผมเองก็ต้องรับช่วงบริหารต่อเหมือนมาซายะ ก็ต้องศึกษาไว้บ้างน่ะ” คำตอบนี้น่าจะโอเคที่สุดแล้ว
มาซายะจ้องผมอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็หันไปมองหน้าจอต่อ มองดูกราฟที่กำลังขึ้นๆลงๆน่าปวดหัว
ผมนั่งทานเค้กที่เป็นของฝาก รสชาติแบบนี้….เค้กบ้านคุณทาคามิจิสินะ
“อร่อยดี ซื้อจากไหนมาน่ะ หน้าตาธรรมดาเกินกว่าจะเป็นเค้กในโรงแรมนายนะ”
“ร้านเค้กไงล่ะ” มาซายะตอบแล้วหันมามองผมด้วยสายตาที่เหมือนกำลังด่าว่า ‘ถามอะไรโง่ๆ’
“ตอนนี้ นายกำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับผมอยู่รึเปล่า มาซายะ”
“เปล่าซักหน่อย”
“จริงเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า”