ต่อจาก >>481-484 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ตอนนี้เสร็จเร็วกว่าที่คิดแหะ แต่ไม่ยาวมากนะคะ... ถ้าเจอคำผิดเยอะอย่าตกใจนะคะ 555555 เบลอๆ
..............…….....
ท่านพี่จ้องคาบุรากิอยู่พักหนึ่ง
“นายเองสินะ คนที่หาประวัติฉันไปให้เรย์กะ”
คาบุรากิสะดุ้ง ท่านพี่ยิ้มให้ปฏิกิริยานั้น แล้วนั่งลงข้างฉันที่ยังปรับตัวไม่ทันกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอเรย์กะ”
ท่านพี่หันมาถามฉันอย่างอ่อนโยน สงสัยรอยยิ้มปีศาจเมื่อกี้ฉันคงตาฝาดไปเองมั้งคะ แต่ท่านพี่ตามหาน้องเจอแบบนี้ยอดไปเลยนะคะ! ราวกับโชคชะตาฟ้าลิขิตเลย ดีใจจังค่ะที่ได้เจอท่านพี่
ฉันเล่าเรื่องคร่าวๆฉบับคล้ายๆกับที่เล่าให้คาบุรากิฟัง แต่พออยู่กับท่านพี่แล้วก็พูดออกมาได้ยากขึ้นยังไงไม่รู้ค่ะ ก็นะ... ท่านพี่เองก็ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ฉันต้องต่อว่าท่านพ่อท่านแม่ให้ท่านพี่ฟัง แต่กลับเจ็บเมื่อนึกถึงท่านพ่อท่านแม่โลกเดิมที่ท่านพี่ไม่มีวันรู้จัก ในโลกนี้ทั้งคู่ต่างปฏิบัติกับฉันราวกับเป็นเครื่องมือสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลนี่คะ...
“ทั้งคู่ก็มีวิธีแสดงความรักที่ต่างออกไปล่ะนะ” ท่านพี่ปลอบเมื่อเห็นฉันเศร้าจนแทบพูดต่อไปไม่ได้ “พี่ได้ข่าวว่าวันนี้ประธานคิโชวอินนั่งซึม ยกเลิกนัดประชุมทุกอย่างด้วยล่ะนะ”
เอ๋...
ท่านพี่บอกฉันว่าเขาไม่เคยเห็นด้วยกับวิธีการของท่านพ่อให้การบริหารงาน แต่ท่านพ่อมักเชื่อว่าการหาเงินให้ได้มากที่สุดจะทำให้ลูกๆทั้งสองมีความสุขได้ ท่านแม่เองก็สนับสนุนท่านพ่ออย่างเต็มที่
แรกๆก็ทำแค่เล็กๆ แต่เมื่อนานไปก็ทำมากขึ้นเรื่อยๆ เงินสกปรกมันหาง่ายยิ่งขึ้นเรื่อยๆเมื่อเชี่ยวชาญมากขึ้น แต่ว่าก็ยากที่จะกลับมาจากเส้นทางนั้นได้ทุกทีๆ วันที่ท่านพี่รู้ตัว แล้วพยายามจะหยุดก็สายเกินไปแล้ว... และเมื่อเขาคัดค้าน ก็กลายเป็นตัวประหลาดที่เหมือนพยายามลากคนในครอบครัวสู่ความล่มจมซะเอง ในเมื่อการยุติเรื่องทั้งหมด ก็ต้องเปิดโปงสิ่งที่ทำมาทั้งหมด และเวลานั้นไม่มีทางที่ท่านพ่อจะรอดพ้น ชีวิตในแต่ละวันของท่านพี่ไม่สามารถมีความสุขได้อีก จนในที่สุดก็หนีออกจากบ้านไป
ฉันเคยอ่านประวัติในเอกสารที่คาบุรากิเคยให้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ว่าพอได้ยินจากปากท่านพ่อจริงๆก็กลับรู้สึกหดหู่ยิ่งกว่าเดิม แต่ก็รู้สึกเข้าใจท่านพ่อท่านแม่ขึ้นมา ฉันในตอนนี้ก็เหมือนท่านพี่ในตอนนั้นที่ยึดมั่นแต่สิ่งถูกต้อง โดยไม่รู้เลยว่าการที่ท่านพ่อจะออกจากวงวนนั้นมันยากมากแค่ไหน...
ท่านพี่ถามว่าต่อจากนี้ทำยังไงต่อ ทั้งเรื่องโรงเรียนและเรื่องที่อยู่ คาบุรากิเสนอให้ฉันไปอยู่กับเขา นายจะบ้าหรอ!!! ยังไม่ล้มเลิกความคิดนั้นอีกหรอคะหลังจากฉันเล่าเรื่องทั้งหมดนั้นไป! ฉันหนีออกจากบ้านเรื่องหมั้นกับนาย แล้วจะไปอยู่บ้านนายนี่นะ ไหนจะเรื่องท่านพ่อท่านแม่รู้เรื่องอีก ทำแบบนั้นมันยิ่งหนักกว่าเดิมนะคะ!!!
ท่านพี่ชี้ประเด็นทั้งหมดให้คาบุรากิฟังแทนฉันที่ได้แต่บ่นในใจ หมอนั่นก็ทำหน้าจ๋อยๆ อ้า...ก็รู้ว่านายหวังดี แต่ว่าคิดถึงเหตุผลก่อนก็ดีนะคะ...
ถ้าไปอยู่กับท่านพี่ ก็ไกลกับซุยรันเอามากๆ จะว่าไปฉันควรจะออกจากโรงเรียนดีไหมนะคะ... ค่าเทอมแพงทะลุโลกขนาดนั้นนี่คะ หรือจะสอบทุน ตอนนี้อาจจะยังได้ เพราะเคยเห็นข้อสอบมาก่อน แต่หากเป็นภาวะปกติแล้ว ต่อให้ฉันอ่านจนลากเลือด ก็อันดับเกือบตกบอร์ดนะคะ... แล้วไหนจะเรื่อง Pivioine หากฉันหนีออกจากบ้านแบบนี้ คงกลายเป็นสามัญชน โดนคนที่เคยข่มไว้กลับมาแก้แค้นแน่ๆเลยค่ะ...
ฉันเริ่มคิดจริงจังเรื่องเอารองเท้าในอาคารกลับบ้าน จะได้ไม่มีใครแกล้งได้...
ฉันลองเกริ่นๆเรื่องย้ายโรงเรียนดู คาบุรากิบอกจ่ายให้ได้นะ แต่ถ้านายจ่ายให้คิดว่าท่านพ่อท่านแม่ฉันหรือครอบครัวนายจะไม่รู้หรอคะ...
ฉันพอเข้าใจล่ะนะคะ ฉันเป็นคนเดียวที่ทะลุมิติมากับเขา ถ้าฉันเป็นเขาก็คงไม่อยากอยู่คนเดียวหรอกค่ะ...
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นหรอ เดี๋ยวพี่จะช่วยเอง”
“เอ๋!? แต่ว่า...”
“ให้พี่ได้ทำหน้าที่พี่เถอะนะ พี่ไม่เคยทำมาก่อนเลยนี่นาก่อนหน้านั้น”
ท่านพี่ยิ้มอ่อนโยนอย่างรู้สึกผิดนิดๆ ฉันที่กะจะปฏิเสธตอนแรกก็หัวใจพองฟูด้วยความตื้นตัน
“ขอบคุณมากเลยค่ะ”
ฉันพูดพร้อมน้ำตา แล้วกอดท่านพี่ รู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัวเลยค่ะ ดีจังเลยค่ะที่ยังมีท่านพี่อยู่ ดีใจมากๆเลยค่ะ
ผ่านไปพักหนึ่ง กว่าฉันจะหยุดร้องไห้ได้ ท่านพี่ลูบหัวปลอบประโลมอย่างอบอุ่นแบบนี้ทำใจฉันละลายเลยนะคะ พอฉันเริ่มตั้งสติได้แล้วก็เช็คๆน้ำตา ท่านพี่บอกว่าให้รอเขาแปบหนึ่งนะ ก่อนจะออกไปจากห้อง ปล่อยฉันไว้กับคาบุรากิสองคนอีกครั้ง
จะว่าไปดูเหมือนท่านพี่จะไว้ใจคาบุรากิทีเดียวเลยนะคะที่พูดเรื่องแบบนั้นต่อหน้าเขา ทำไมกันนะคะ... พอฉันพูดเรื่องนี้ขึ้นมา คาบุรากิก็ทำหน้าประหลาดๆ