"ตระกูลของฉันต้องการสานสัมพันธ์กับตระกูลคาบุรากิค่ะ พยายามให้ฉันเข้าหาคาบุรากิ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันถึงกลายเป็นแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้ฉันตาสว่างแล้วค่ะ" ฉันโม้ปนความจริงด้วยสีหน้าที่น่าเชื่อถือ
“...”
"อีกอย่างท่านคาบุรากิไม่เคยรักฉันหรอกค่ะ คนที่เขารักมีแค่คุณทาคามิจิเท่านั้น”
ฉันรีบตัดปัญหาก่อนคาบุรากิเข้ารูทมรณะอกหักแล้วลากฉันไปบวชด้วยกันอีกรอบ วาคาบะจังเป็นคนดีขนาดนี้นี่นะ ถ้าคิดว่าฉันชอบคาบุรากิ และคาบุรากิเองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรฉัน คงจะหลีกทางให้ฉันแน่ๆเลยค่ะ... ด้วยฐานะตระกูลอะไรต่างๆ
“เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ” วาคาบะจังพูดด้วยรอยยิ้มฝืนๆ ในโลกนี้วาคาบะจังรักคาบุรากิตามเนื้อหาในนิยายแล้วสินะคะ
“ฉันก่อนเสียความทรงจำรังแกคุณทาคามิจิก็เพราะรู้ว่าท่านคาบุรากิรักคุณนะคะ...”
“...”
วาคาบะจังมองฉัน ดูเหมือนลังเล แต่ก็พูดออกมาในที่สุด
“ฉันคิดว่าตอนนี้ท่านคาบุรากิชอบคุณคิโชวอินนะคะ”
“เอ๋...ไม่หรอกค่ะ...”
วาคาบะจังยิ้มให้ฉัน
“ท่านคาบุรากิดูมีความสุขมากๆเลยนะคะเวลาที่ได้อยู่กับคุณคิโชวอิน และคุณคิโชวอินก็เหมือนกันไม่ใช่หรอคะ”
“นั่นเป็นแบบเพื่อนแหละค่ะ...”
“ฉันเข้าใจนะคะว่าทำไมท่านคาบุรากิถึงชอบคุณคิโชวอินในตอนนี้”
วาคาบะจังพูด ฉันพยายามปฏิเสธยังไงก็ไม่ยอมเปลี่ยนความคิด... ขอโทษนะคาบุรากิ ดูเหมือนว่านายจะมีแววอกหักรอบสามแล้วล่ะ... ถ้าวาคาบะจังคิดแบบนี้ คาบุรากิคงจีบยากแล้วล่ะนะคะ...
ถึงเวลาที่วาคาบะจังต้องไปเรียนแล้ว ตอนแรกก็ยืนยันว่าจะอยู่เป็นเพื่อน แต่ว่าแค่นี้ก็รบกวนมามากแล้ว วาคาบะจังต้องเอารางวัลรางวัลนักเรียนดีเด่นไม่ขาดไม่สายด้วยล่ะนะคะ สุดท้ายก็ตกลงกันได้โดยฝากคุณแม่ของวาคาบะจังมาดูแลฉันไปก่อน ฉันเกรงใจมากจริงๆ และรู้สึกผิดหน่อยๆด้วย เหมือนวาคาบะจังจะเล่าเรื่องดีๆของฉันให้คุณแม่ฟังล่ะนะคะ ทั้งๆที่แต่ก่อนเรย์กะรังแกวาคาบะจังอย่างหนักแท้ๆ...
ฉันแอบนั่งอยู่หลังร้าน พยายามอยู่ที่ที่ไม่เกะกะคุณแม่ของวาคาบะจังที่ต้องทำเค้กและเตรียมขาย ตอนเที่ยงฉันก็ได้กินอาหารฝีมือคุณแม่วาคาบะจังอีกค่ะ อร่อยมากจริงๆเลยนะคะ
เมื่อกินเสร็จและนั่งทำใจมากพอก็มาสำรวจเสื้อผ้าของตัวเอง ดูเหมือนฉันจะพกมือถือใส่กระเป๋ากระโปรงไว้ด้วยค่ะ และดูน่าจะยังใช้ได้อยู่ โชคดีจังค่ะ แต่ก็ไม่ได้เอาเงินมาเลย... ก็นะ เวลานั้นฉันอยู่ในบ้าน ไม่จำเป็นต้องพกเงินเดินไปมาหรอกนะคะ
คาบุรากิส่งเมลล์มาค่ะ ฉันก็เปิดอ่านดู
ข้อความจากเมื่อคืนเขียนว่า "ทำไมไม่ตอบล่ะ นอนคามือถือหรอ? คราวหน้าถ้าง่วงก็บอกมาตรงๆสิ!”
เอ๊ะ? ฉันลืมไปเลยค่ะว่าก่อนหน้าที่จะไปคุยกับท่านพ่อท่านแม่ ก็คุยเรื่องขนมค้างไว้กับคาบุรากิเมื่อวานนี่นา...
ตอนกลางวันของวันนี้ คาบุรากิก็เขียนมาอีกข้อความ "ทำไมไม่มาโรงเรียนล่ะ ไม่สบายหรอ หรือว่าเพราะฉันพาเธอคุยดึกไปจนเป็นหวัด...”
ดึกอะไรกันคะ พระอาทิตย์เพิ่งตกเอง! ฉันไม่ได้อ่อนแอปลิวลมขนาดนั้นนะคะ!!! แต่เขาส่งข้อความมาแค่ประมาณนี้ แสดงว่าเขาเองก็ไม่รู้เรื่องการหมั้นงั้นหรอคะ... ท่านพ่อท่านแม่มโนกันไปเองหรือเปล่าคะเนี้ย...
ฉันมองข้อความนั้นแล้วนึกสนุกขึ้นมาปนหงุดหงิดนิดหน่อยที่เขาไม่รู้อะไรเลยสักอย่างเลยส่งกลับไปว่า "เปล่าหรอกค่ะ พอดีหนีออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืน เลยวุ่นวายนิดหน่อยน่ะค่ะ"
คาบุรากิใช้เวลาไม่ถึงสองนาทีก็ส่งกลับมา นี่นายอ่านเมลล์ตลอดเวลาหรอ
"หะ?! ตอนนี้อยู่ไหนน่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า! กินอะไรยัง มีเงินติดตัวไหม ถึงเธอมีไขมันสะสม แต่ไม่กินอะไรก็เป็นลมได้นะ!"
คาบุรากิ๊! นายเป็นห่วงหรือหลอกด่าคะ!!! ตอนนี้ฉันอาจจะปล่อยตัวไปบ้าง แต่ไม่ได้เห็นชัดขนาดนั้นซะหน่อยนะคะ!!! ฉันยังใส่ชุดตัวเดิมได้อยู่เลยนะคะ ถึงจะคับหน่อยๆ แต่มันแค่ชั่วคราวค่ะ ได้ยินไหมคะ แค่ชั่วคราว! ฉันไม่สงสารนายแล้วถ้าอกหัก! ไปบวชเลยซะ!!!
ขณะที่ฉันเตรียมจะพิมพ์ด่าอย่างดุเดือด คาบุรากิก็ส่งอีกข้อความมา
"ถ้าไม่มีที่อยู่ มาอยู่บ้านฉันไหม มีห้องว่างรับแขกอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันบอกที่บ้านให้"
"ไม่ค่ะ! อย่าเพิ่งบอกที่บ้านนะคะ" ฉันรีบพิมพ์ตอบ