ต่อจาก >>403-406 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
มุมมองคาบุรากิเขียนยากมากเลยนะคะ ถ้าจะเขียนนี่ต้องพยายามเข้าถึงความมโนล้ำโลกอยู่หลายวัน... ตอนนี้สมองด้านชากับการสอบอยู่น่ะค่ะคงยาก 555555 อีกอย่างถ้าเขียนมุมมองคาบุรากิมันจะสปอยตอนต่อๆไปของฟิคนี้เยอะมากเลยค่ะ 5555
ป.ล. ขอโทษที่มาไม่ทันตี 1 นะคะ เขียนๆไปมันยาวจนลงจบไม่ได้ซะที 5555
..............…….....
ฉันตื่นขึ้นมาอย่างมึนงง ตอนนี้ฉันอยู่บนเตียงใครสักคนที่ไม่ใช่ของตัวเอง
ใช้เวลาสักพักก่อนที่ฉันจะค่อยๆนึกออกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...หัวใจเจ็บหน่วงๆขึ้นมา อยากจะร้องไห้อีกรอบ แต่ไร้เรี่ยวแรงอย่างประหลาด ฉันมองนาฬิกาในห้อง ตอนนี้เป็นเช้าวันใหม่แล้ว ปกติเวลานี้ฉันคงยังนอนอยู่บนเตียง และอีกครู่หนึ่งก็ตื่นมาอาบน้ำ กินข้าว นั่งรถประจำตระกูลไปโรงเรียน...
ฉันค่อยๆยันตัวลุกขึ้น ดูจากของในห้องแล้วน่าจะเป็นห้องของวาคาบะจังนะคะ
ทำตัวน่าอายต่อหน้าวาคาบะจังเข้าซะแล้วสินะคะ... แต่ถ้าไม่เจอวาคาบะจังเข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันในตอนนั้น
ฉันเห็นวาคาบะจังแอบมองอยู่ตรงประตู พอฉันหันไปเห็น อีกฝ่ายก็สะดุ้งนิดๆ
“ตื่นแล้วหรอคะ” วาคาบะจังพูดอย่างลังเลเล็กน้อย “คือ...ที่บ้านฉันไม่ได้มีอาหารหรูหราอะไร อาจจะไม่ถูกปากคุณคิโชวอินก็ได้นะคะ”
วาคาบะจังทำท่าเหมือนรวบรวมความกล้าเดินเข้ามาหาฉัน
“รู้สึกดีขึ้นไหมคะ...”
“อื้ม...คิดว่านะคะ” ฉันตอบไป
เราเงียบกันไป และไม่ได้พูดอะไรกัน จนกระทั่งวาคาบะจังพาฉันออกจากห้องไปกินข้าวด้วยกัน
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ทั้งๆที่ฉันเคยทำร้ายคุณไปหลายครั้งแท้ๆ...”
เรย์กะกลั่นแกล้งวาคาบะจังนับครั้งไม่ถ้วนเลยนะคะ แต่ว่า...วาคาบะจังก็ยังคงช่วยเหลือฉันอยู่ดี
วาคาบะจังชะงัก ทำหน้างงๆนิดหน่อย ก่อนจะยิ้มสดใสมาให้
“นั่นเป็นเรื่องในอดีตนี่คะ อย่าไปใส่ใจเลยค่ะ คุณคิโชวอินดีกับฉันมากๆเลยนะคะในปัจจุบัน เพราะงั้นเลยรู้สึกอยากช่วยเหลือน่ะค่ะ”
วาคาบะจัง เธอเป็นคนดีสมกับเป็นนางเอกมังงะเลย!
ดีจริงๆเลยที่ได้มาเจอเธอนะ ดีใจที่สุดเลย! ฉันตื่นตันอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
คุณแม่ของวาคาบะจังเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉันกับทุกคนในครอบครัว ถามฉันว่าดีขึ้นไหม เรื่องที่ฉันร้องไห้เมื่อวานนี่น่าอายชะมัดเลยค่ะ... แต่มีคนที่เป็นห่วง เอาใจใส่ฉันแบบนี้ก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลยนะคะ
คิดถึงท่านพ่อท่านแม่ในโลกก่อนจังเลยค่ะ...
กลิ่นแกงกระหรี่หอมหวนชวนหิวลอยมาจากจานเบื้องหน้าของฉัน ทำให้แม้จะเศร้าสร้อยแค่ไหนก็หยิบช้อนส้อมลงมือกินทันที จะเวลาไหนก็ไม่ควรเป็นปรปักษ์กับอาหารอร่อยล่ะนะคะ!
น่าคิดถึงจังเลยค่ะ รสชาติแบบเดียวกับที่เคยกินโลกก่อนกับวาคาบะจังเลยนะคะ แกงกระหรี่บ้านๆ สามัญชน แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น
ฉันร้องไห้ออกมาทั้งๆที่กินอยู่ คุณแม่และน้องๆของวาคาบะจังต่างตกใจกันหมด
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ มันอร่อยมากจริงๆ...” ฉันบอกไป มือหนึ่งปาดน้ำตาไป อีกมือก็ไม่หยุดกิน “รู้สึกดีจริงๆค่ะ”
น้องๆของวาคาบะจังพยายามปลอบๆฉันด้วยค่ะ บอกว่า “พี่สาวอย่าร้องไห้นะ” อย่างแตกตื่น ฉันเลยอดยิ้มออกมาไม่ได้ แล้วขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน
คุณแม่ของวาคาบะจังไปส่งน้องๆ ปล่อยฉันไว้กับวาคาบะจัง
"คุณทาคามิจิคะ ไม่ไปเรียนหรอคะ"
"แล้วคุณคิโชวอินล่ะคะ"
"ฉันออกมาจากบ้านแบบนี้ เลยไม่ได้เอาชุดนักเรียนกับพวกหนังสือมาด้วยน่ะค่ะ แล้วก็...ยังไม่พร้อมจะไปในสภาพนี้หรอกนะคะ”
“ว่าแต่...ทำไมคุณคิโชวอินถึง...”
วาคาบะจังถามฉันอย่างสงสัย แต่ก็เหมือนเกรงใจเกินกว่าจะต่อประโยคให้จบ ฉันก็ยิ้มให้บางๆ
“ฉันทะเลาะกับที่บ้านน่ะค่ะ”
“เอ๋...”
“เรื่องคู่หมั้นน่ะค่ะ”
ฉันตัดสินใจไม่บอกเรื่องโกงดีกว่าล่ะนะคะ...
“ถูกบังคับให้หมั้นกับคนอื่นที่ไม่ใช่ท่านคาบุรากิหรอคะ”
“เปล่าค่ะ ฉันถูกให้หมั้นกับคาบุรากินี่แหละค่ะ...”
“เอ๋!?!”
วาคาบะจังอุทานอย่างตกใจ
“ฉันไม่ได้ชอบท่านคาบุรากิแล้วนะคะ...”
ทำไมไม่มีใครเชื่อสิ่งที่ฉันประกาศเลยนะคะ... ฉันพูดอย่างจริงจังขนาดนั้นแท้ๆ ตอนประธานชมรมฟุตบอลมาสารภาพรักกับฉัน... เพื่อนๆฉันก็ยังไม่เชื่อเลยค่ะ
“ถึงจะเป็นหลังเสียความทรงจำก็เถอะค่ะ แต่ว่าทั้งงานกีฬา และก็..”
"เราสนิทกันมากขึ้นค่ะ แต่ว่าไม่ได้รักกันแบบแฟนหรอกค่ะ” ฉันรีบยืนยัน
วาคาบะจังยิ้มอย่างลำบากใจหน่อยๆ
“จะพูดอย่างนั้นก็เถอะค่ะ แต่ว่าความรักไม่ได้หายไปง่ายๆหรอกนะคะ...”
วาคาบะจังคิดว่าต่อให้เสียความทรงจำ ความรักที่มีให้คาบุรากิยังคงเหมือนเดิมสินะ แต่ว่านะคะ... ฉันไม่ได้เสียความทรงจำนี่คะ แต่ทะลุมิติมา เป็นคนละคนกับเรย์กะคนเก่าโดยสิ้นเชิง