ฉันตื่นมาในอ้อมกอดของท่านพี่ใบหน้าของท่านพี่ที่ยังนอนอยู่ยังคงหล่อเหลาอย่างที่เคยเป็น พอมองนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้เวลาเข้าเรียนของไนท์คลาสฉันจึงต้องรีบไปห้องของตัวเองเพื่อที่จะได้เตรียมตัวไปเรียน แวมไพร์ก็แบบนี้แหล่ะต้องเรียนกลางคืนแทน บางทีฉันก็คิดถึงบรรยากาศร้านอาหารเวลากลางวันเหมือนกันนะ
ฉันขึ้นรถเพื่อที่จะไปโรงเรียนซุยรัน ไนท์คลาส เนื่องจากแวมไพร์อย่างเราไม่ค่อยถูกกับแสงแดดซักเท่าไหร่ทางโรงเรียนจึงได้สร้างไนท์คลาสขึ้น ส่วนพวกเดย์คลาสจะเป็นมนุษย์ที่เรียนดีจึงได้เข้ามาเรียนที่นี่ อ่า คืนนี้ลมแรงจังนะ จะเข้าฤดูหนาวแล้วสินะแค่คิดถึงขนมและเค้กคริสมาสต์ก็มีความสุขจริงน้า ยิ่งถ้ามีเดทวันคริสมาสต์คงจะดีมาก
เห้อ เมื่อไหร่จะถึงฤดูใบไม้ผลิของฉันบ้างนะ
ฉันเดินผ่านประตูเข้าไปในแผนกไนท์คลาส เสียงทักทายของทุกคนทำให้ฉันตอบยิ้มทักทายตอบ ระหว่างทางเดินฉันก็ได้เจอท่านเอ็นโจ จอมมารเอ็นโจก็หันมายิ้มทักทายฉัน
“สวัสดีตอนค่ำครับคุณคิโชวอิน”
“สวัสดีตอนค่ำค่ะท่านเอ็นโจว คืนนี้ไม่ได้มากับท่านคาบุรากิหรอคะ”
ฉันยิ้มทักทายกลับอย่างช่วยไม่ได้ แต่อยู่ๆก็มีสายลมพัดมาวูบนึงทำให้ผมของฉันปลิวตามแรงลม ฉันจับรวบเส้นผมของตัวเองไว้ไม่ให้ผมเสียทรง พอหันไปมองเอ็นโจวก็พบว่าเขาจ้องเขม็งที่หลังคอของฉันอยู่ ดวงตาที่มักฉายแววอ่อนโยนแต่ตอนนี้กับวาวโรจน์ขึ้นมา
ทำเอาฉันรู้สึกกลัวขึ้นมา
มองอะไรกันค๊า คอฉันดำหรือไงยะ
เหมือนท่านเอ็นโจวจะรู้ตัวจึงรีบเปลี่ยนสีหน้ามายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทำไมฉันยังรู้สึกถึงบรรยากาศมาคุอยู่
“มาซายะลาไปทำธุระน่ะ ผมเลยต้องมาคนเดียว”
“อ่างั้นหรอคะ งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะพอดีนัดเพื่อนเอาไว้”
ฉันรีบเดินหนีจอมมารเอ็นโจว สัญชาตญาณของฉันกู่ร้องให้รีบเดินออกห่างจากหมอนี่ให้มากที่สุด สายตาแบบนั้นหมายความว่างไงคะ ระ หรือว่าเขาไม่พอใจอะไรฉัน? แค่ฉันถามถึงอีตาคาบุรากิเนี่ยนะ
ไม่เข้าใจเลยจริงๆค่ะ
………………………………
กุแต่งไปเขินไป ท่านพี่ร้ายกาจเกินไปแล้วววว
ชาวโม่งเอ๋ย
จงชาบูท่านพี่ ชาบูค้ำคอร์ ชาบูซิสค่อน!!