Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9

Last posted

Total of 1000 posts

405 Nameless Fanboi Posted ID:IDISxLFMP

"เรย์กะ ต้องเข้าใจนะ ไม่ว่าลูกจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่ว่าธุรกิจเราจะเป็นไปได้ดี หากเราผูกสัมพันธ์กับตระกูลคาบุรากิ"

ท่านพ่อที่เงียบมาโดยตลอดเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง ฉันมองท่านพ่ออย่างไม่อยากเชื่อ อย่าบอกนะคะว่าเพื่อจะบริหารงานอย่างโกงๆได้ไร้ที่ติ เลยผูกมิตรทางสายเลือดกับตระกูลคาบุรากิ แม้เรื่องโกงอาจจะแดงขึ้นมา ตระกูลคาบุรากิแม้จะไม่อยากทำ ก็ยอมช่วยปกปิด เพราะถือว่าเป็นสายเดียวกันไปแล้ว

"หนูไม่ยอมให้ทำเรื่องแบบนั้นหรอกค่ะ!"

"เรย์กะ..."

"หยุดบริหารงานฉ้อโกงไม่ได้หรือไงคะ!!!"

"อะไรคะ คุณเรย์กะรู้ไหมว่าบ้านเรามีกินมีใช้ อยู่อย่างสุขสบายกันขนาดนี้ได้เพราะอะไร"

"ทำแบบนี้ต่อไปก็มีแต่ล่มจมแหละค่ะ!!! ทำไมท่านแม่ถึงดูไม่ออก ท่านพ่อเองก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่ามีตัวอย่างมากมายหรอคะว่าคนโกงมีจุดจบยังไง"

"เรย์กะ สิ่งที่พ่อเจอมีแต่พวกอ่อนแอที่ไม่กล้าโกง สุดท้ายก็ตายไปจากตลาดเท่านั้นแหละ"

"ตระกูลของเราจะถึงจุดจบเมื่อทำแบบนี้ต่อไปนะคะ!!!"

"ไร้สาระค่ะ คุณเรย์กะ"

ฉันจ้องท่านแม่เขม็ง ในใจกรีดร้องอยากเล่าให้ฟังว่าความจริงคืออะไร แต่ก็ไม่อาจทำได้...

"หนูฝันค่ะ"

"นั่นแหละค่ะที่ไร้สาระ"

"หนูฝันทุกวันนับตั้งแต่เสียความทรงจำไป"

"..."

"บ้านเราจะล่มสลายเพราะการโกง วันหนึ่งเราจะถูกจับได้ ถูกยึดทรัพย์สิน ท่านพ่อกลายเป็นบุคคลล้มละลาย และพวกเราก็กลายเป็นชนชั้นสามัญ"

"..."

"ใช่ค่ะ เป็นชนชั้นที่ท่านแม่รังเกียจนั่นแหละค่ะ"

"ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก"

ท่านพ่อพูดอย่างเด็ดขาด เมื่อเห็นท่านแม่เริ่มท่าทางหวาดๆ

"เรย์กะ ทำไมลูกถึงกลายเป็นคนอ่อนแอไม่ได้เรื่องไปได้ กลายเป็นเหมือนพี่ชายทรยศของลูกคนนั้นแล้วหรือไง"

พอท่านพ่อพูดถึงท่านพี่อย่างรังเกียจ ความอดทนที่มีอยู่บ้างก็ไม่เหลืออีกต่อไป

“ท่านพี่ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกค่ะ! เขาพยายามช่วยเหลือครอบครัวเรามาโดยตลอด แต่ท่านพ่อไม่เคยเห็นค่า!!!”

“นั่นมันก็แค่ความคิดของคนโง่เขลาที่ไม่เคยเห็นโลกจริงเท่านั้นแหละ”

“ไม่จริงนะคะ!”

ฉันพยายามค้าน พยายามโต้เถียง พยายามให้เหตุผล แต่ทว่าทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องไร้สาระไปหมด... ทัศนคติของท่านพ่อและท่านแม่ในตอนนี้เหมือนเป็นความคิดของใครคนหนึ่งที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยค่ะ เหมือนฉันกำลังคุยกับคนแปลกหน้า พยายามทุกอย่างที่จะช่วยเหลือ แต่การกระทำเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์...

บทสนทนาของเรารุนแรงกันขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมันกำลังจะแตกหักแบบที่ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว สุดท้ายท่านพ่อก็ตระโกนไล่ฉันออกจากบ้าน ท่านแม่พยายามค้าน แต่ฉันที่กำลังโกรธอยู่แล้วก็รับคำ ออกจากบ้านไปทันทีแบบไม่หันกลับมามอง ไม่สนใจว่าระหว่างทางจะมีใครออกมาห้ามไว้

ฉันวิ่งออกมา วิ่งไปเรื่อยๆโดยปราศจากจุดหมาย น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด แต่ฉันไม่สนใจใคร ไม่คิดถึงอะไรอีกแล้ว ไม่รักษาภาพลักษณ์อะไรอีกแล้ว แม้เวลานี้ยังมีผู้คนมากมายเดินไปมา

ทำไมถึงต้องทำแบบนั้นด้วยคะ...

ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันไม่รู้ควรทำยังไงดี ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน ได้แต่ร้องไห้ แม้ร่างกายจะกรีดร้องให้หยุดเพราะไม่เคยฝืนวิ่งหนักขนาดนี้มาก่อน แต่ก็ยังคงวิ่งต่อไป ราวกับหวังว่าให้ความเจ็บปวดทางกายจะกลบความเจ็บปวดทางใจได้

ฝนที่เริ่มโปรยปรายมาตั้งแต่แรก ก็ตกหนักขึ้น ในที่สุดฉันก็ก้าวต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ล้มลงกับพื้นถนนที่เปียกและแข็ง รู้สึกได้ว่ามีเลือดออก แต่ว่าฉันไม่สามารถรับรู้ความเจ็บจากแผลได้เลย ในเมื่อหัวใจตอนนี้เจ็บหนักยิ่งกว่า...

“คุณคิโชวอิน!!!”

ฉันชะงักเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นวาคาบะจังทำหน้าแตกตื่น พยายามพยุงตัวฉันให้ลุกขึ้น และเอาร่มของตัวเองมากันฝนให้ฉัน

“ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ...” วาคาบะจังเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวลพยายามพาฉันเดินไปเรื่อยๆ เราไม่ได้คุยกันอีก รู้ตัวอีกที ฉันก็มาถึงบ้านของวาคาบะจัง

ฉันยังคงร้องไห้ไม่หยุด วาคาบะจังดูรนราน แต่ก็หยิบเสื้อผ้ามาให้ฉันใส่แทนตัวที่เปียก และเอาไดร์มาเป่าผมฉันให้ วาคาบะจังทำทุกอย่างได้เบามือและอบอุ่นมากค่ะ

ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ฉันร้องไห้จนเพลียและหลับไป...

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.