เอ็นโจเลี้ยงต้อย >>>/webnovel/3628/82-84
--------------------------------
เวลาผ่านไปเร็วมาก จนพวกเราขึ้นม.4 แล้วผมก็นึกถึงคุณทาคามิจิขึ้นมา
ในโลกเดิมของผม มาซายะจะต้องอกหักจากยูริเอะจนต้องเดินทางไปฆ่าตัวตาย แต่เรย์กะช่วยมาซายะเอาไว้ให้หายจากอาการเหล่านั้น แล้วมาซายะก็หลงรักคุณทาคามิจิ ดังนั้น ผมก็ควรจะส่งเสริมให้คุณทาคามิจิช่วยเยียวยาหัวใจของมาซายะ ไม่ให้เรย์กะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้
ตั้งแต่ที่ชูสุเกะในโลกกระจกเตือนผม ผมก็กลัวมาตลอดในเรื่องที่ว่าผมไม่อาจบังคับใจใครได้
ถึงเรย์กะจะตัดใจไปแล้ว แต่ผมก็จะไม่เสี่ยงเด็ดขาด ผมจะไม่ยอมให้มีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ปรากฎขึ้นมาอย่างแน่นอน
.
.
.
คุณทาคามิจิเป็นเด็กผู้หญิงที่ร่าเริง ยิ้มง่าย ไม่ต่างจากเด็กผู้หญิงธรรมดาๆทั่วไป เธอสอบเข้ามาในโรงเรียนด้วยคะแนนสูงสุดของการเป็นนักเรียนทุน เป็นเหมือนโลกเดิมที่ผมเคยรู้จัก
วันแรกที่เข้าเรียน ดูเหมือนไม่มีใครบอกเธอเรื่องที่นั่งพิเศษของ Pivoine ว่าห้ามนักเรียนทั่วไปมานั่ง คุณทาคามิจิที่มองหาที่นั่งในโรงอาหาร เห็นมันว่างอยู่ก็ตรงดิ่งเข้ามาแบบดีอกดีใจ วางข้าวกล่องในมือลงบนโต๊ะ เลื่อนเก้าอี้ออกกำลังจะหย่อนตัวลงนั่ง
เหล่า Pivoine ที่นั่งรับประทานอาหารกันอยู่เงียบกริบในทันที
"ใครใช้ให้เธอมานั่งตรงนี้" รุ่นพี่ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มตวาดขึ้น "หัดเจียมตัวซะบ้างสิ"
คุณทาคามิจิชะงักค้าง กระพริบตาปริบๆแบบงุนงง คงรู้ตัวว่าทำอะไรพลาดไปแล้วและกำลังจะอ้าปากขอโทษ แต่กลับถูกปัดของทิ้งจากโต๊ะ กล่องข้าวกระเด็นคว่ำหน้าลงไปไม่เหลือชิ้นดี
ผมเหลือบมองเรย์กะว่าจะมีปฎิกริยาอย่างไร แต่เธอทำเพียงแค่มองแล้วก็รับประทานอาหารต่อแบบไม่สนใจ
ดีจริงๆที่เธอไม่ได้บ้าคลั่งความเป็น Pivoine เหมือนหลายๆคนที่ตรงนี้ นับว่าการอบรมสั่งสอนกริยามารยาทของผมใช้ได้
โลกเดิมเท่าที่จำได้คือเรย์กะเป็นคนลุกขึ้นเตือนคุณทาคามิจิเองว่านั่งไม่ได้ แต่ตอนนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไป ผมเองก็พยายามทำให้เธอเหมือนเรย์กะในโลกเดิมที่ผมจากมาให้ได้ใกล้เคียงที่สุด แล้วก็ใส่ความชอบกับรสนิยมของผมเข้าไปด้วย ผลก็คือเธออย่างทุกวันนี้ยังไงล่ะ
ตอนนี้ทุกสายตาจ้องมองมาที่ตรงนี้ มาซายะที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรก็เหลือบมองคุณทาคามิจิด้วย
คุณทาคามิจิที่กำลังก้มลงเก็บกล่องข้าว หน้าแดงแจ๋แบบอับอาย พอเก็บเสร็จวิ่งออกจากไปที่ตรงนี้แทบจะในทันที
เหล่ารุ่นพี่เริ่มพูดกันอย่างหงุดหงิด "เด็กใหม่เหรอ ใครน่ะ ค้นชื่อมาแล้วเตือนให้หนักๆเลยจะดีกว่า"
"นักเรียนทุนพิเศษยังไงล่ะครับ อยู่ห้องผมด้วย รู้สึกจะชื่อคุณทาคาซึกิอะไรนี่แหล่ะ"
"หวา แย่จริงเชียว ต้องลงโทษให้หนักๆเลยนะคะ จะได้หลาบจำ"
พอทานมื้อกลางวันเสร็จ ขบวน Pivoine ที่นำโดยประธานและผู้ติดตามอีกหลายคน เดินทางไปที่ห้องของคุณทาคามิจิ เรียกทั้งเธอและหัวหน้าห้องของเธอออกมาต่อว่าเรื่องมารยาทและการปฏิบัติตัวเสียยกใหญ่
คุณทาคามิจิได้แต่ก้มหัวขอโทษ แต่ดูเหมือนทุกคนจะยังไม่พอใจ
มาซายะขมวดคิ้ว มองประธาน Pivoine อย่างไม่ชอบใจเมื่อได้ยินคำกล่าวพาดพิงไปถึงครอบครัวและชาติกำเนิดของคุณทาคามิจิ ผมเองก็รู้สึกว่าเป็นอะไรที่รุนแรงเกินไปเหมือนกัน กะอีแค่เด็กใหม่นั่งผิดที่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องพูดจารุนแรงขนาดนี้เลย
หวังว่าเรย์กะจะไม่เป็นแบบผู้หญิงคนนี้นะ
คุณทาคามิจิกลายเป็นตัวปัญหาอย่างรวดเร็ว เมื่อถูกเพ่งเล็งจาก Pivoine ก็แทบไม่มีใครกล้าคุยกับเธอสักคนและตีตัวออกห่าง ซ้ำร้ายเมื่อมีคนกลั่นแกล้งรังแก ทุกคนก็ทำแค่หัวเราะ หรือไม่ก็ช่วยรุมซ้ำเติมเข้าไปอีก
ผมอดเห็นใจเธอไม่ได้ ควรจะยื่นมือเข้าไปช่วยดีมั้ยนะ
และเท่าที่จำได้ การกลั่นแกล้งมันไม่ได้รุนแรงกันขนาดนี้นี่นา
.
.
เย็นวันหนึ่ง ผมกลับบ้านช้ากว่าปกติเพราะต้องไปเป็นที่ปรึกษาให้กับกรรมการห้องเรื่องงานเทศกาลโรงเรียนที่กำลังจะมาถึง เรย์กะกลับไปก่อนแล้วเพราะมีเรียนพิเศษ พักนี้เราไม่ค่อยอยู่ด้วยกันเท่าไหร่เนื่องจากตารางเวลาที่รัดตัวมากขึ้น ต่างคนก็ต่างยุ่ง
ตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย ผมก็มีกำหนดการไปงานเลี้ยงนั่นนี่มากมาย หรือไม่ก็เรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย อนาคตถูกวางไว้ล่วงหน้าเสร็จสรรพในฐานะผู้สืบทอดตระกูลเอ็นโจ ไม่ต่างจากโลกเดิมสักนิด
มีแค่เธอที่ผมเต็มใจเลือกด้วยตัวเอง
ผมเคยเปรยๆเรื่องนี้กับท่านแม่เรื่องเรย์กะ ท่านแม่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ดีเสียอีกที่ได้เกี่ยวดองกับตระกูลคิโชวอิน อนาคตสดใสราบรื่นไม่มีปัญหา
แต่สำหรับมาซายะอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น