ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/3588/833-834/ ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ไม่ค่อยถนัดเขียนบทคนธรรมดา(?)เท่าไหร่ อาจจะแปลกๆนะคะ 5555
..............…….....
หลังจากฉันก็ทำพังเรื่องพยายามทำตัวไม่สนิทกับคาบุรากิในที่สาธารณะ และหมอนั่นเองก็ไม่คิดจะทำอย่างนั้นตั้งแต่แรก สุดท้ายเราก็ล้มเลิกความพยายามแบบนั้นไปแล้วค่ะ แต่ว่าท่านพ่อท่านแม่ดีใจกันใหญ่เลยค่ะ ไม่รู้ทั้งสองคนเอาข่าวมาจากไหนกัน...
ฉันแอบตามดูวาคาบะจังบ่อยๆ เผื่อมีใครมาตามมาแกล้ง จะได้จัดการได้ทัน ก็ได้เห็นว่าวาคาบะจังกำลังฝึกเขียนหนังสือด้วยมือซ้ายล่ะค่ะ หลังๆเหมือนจะคล่องขึ้นแล้วด้วยค่ะ เก่งจังเลยนะวาคาบะจัง ดีใจด้วยนะ แบบนี้น่าจะผ่านวิกฤตไปได้แล้วล่ะ
ส่วนคนที่เหยียบมือวาคาบะจังนั้น อยู่ๆก็หายตัวไปจากโรงเรียนเลยค่ะ... ฉันไม่แน่ใจว่าควรถามคาบุรากิดีไหม แต่คาดว่าหมอนั่นน่าจะอยู่เบื้องหลัง อื้ม หรือบางทีเอ็นโจอาจจะจัดการให้ก็ได้ เอ็นโจชอบช่วยลับหลังแบบนี้ตลอดล่ะนะคะ ถ้าไม่ติดว่าฉันมีชาติตระกูลสูง เอ็นโจคงกำจัดฉันได้ไปนานแล้วค่ะ...
จริงๆ เอ็นโจน่าจะเกือบกำจัดฉันได้แล้วล่ะนะคะ ถ้าไม่ใช่ว่าคาบุรากิมาช่วยฉันเอาไว้ ความสัมพันธ์ทั้งคู่ดูแตกแยก แต่ท้ายที่สุดก็เหมือนจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อย่างงงๆ
คิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกโชคดีจริงๆนั่นแหละค่ะที่ฉันไม่ได้ทะลุมิติมาโลกนี้คนเดียวล่ะนะคะ
ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วยค่ะ เนื้อหายากกว่าครั้งที่แล้วอีกนะคะ กลัวอันดับร่วงจนไม่ติดบอร์ดจังเลยค่ะ... ฉันเลยพยายามตั้งใจมากกว่าครั้งที่แล้วเสียอีก ท่านแม่กรีดร้องเมื่อเห็นฉันอ่านหนังสือจนดึกจนดื่น บอกว่ามันทำร้ายสุขภาพผิวอะไรยังไง และย้ำว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนหนักขนาดนั้นหรอก
ฉันเลยต้องแอบอ่านใต้ผ้าห่มด้วยไฟฉายเอาแทนค่ะ
แต่คงเพราะจริงจังมากเกินไป ในห้องเรียนเลยรู้สึกง่วงๆอย่างบอกไม่ถูกเลย ฝืนเกินไปสินะคะ...
ช่วงพักแทนที่ฉันจะลากตัวเองไปกินอะไรสักอย่าง ฉันกลับขอตัวเพื่อนๆมาแอบหลับในห้องสมุดเย็นๆแทน ไม่ไหวแล้วค่ะ...
อยู่ๆฉันก็สะดุ้งตื่น สัญชาตญาณบอกว่ามีใครแอบดูอยู่เลยรู้สึกร้อนๆหนาวๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นนายตัวสำรองยืนขมวดคิ้ว
“ห้องสมุดไม่ใช่ที่สำหรับนอนนะ”
“เอ๊ะ...ขอโทษค่ะ”
ฉันตอบรับอย่างมึนๆ แล้วมองเวลา เกือบจะเข้าเรียนแล้วนี่นา ดีจริงๆที่นายตัวสำรองมาเตือนได้ทันเวลา ไม่งั้นหลับเพลินไปอีกนานแน่ๆค่ะ แต่ว่านะ วันนี้นอนเร็วตามที่ท่านแม่บอกน่าจะดีกว่าล่ะมั้งคะ... มาง่วงตอนเรียนแบบนี้ไม่คุ้มเลยค่ะ
หิวด้วย... ตอนพักจะรีบออกมาหาอะไรกินในสโมสรแล้วกันนะคะ
ฉันลุกขึ้นอย่างโซเซนิดหน่อย
“ไม่เป็นไรใช่ไหม” นายตัวสำรองถาม “ถ้าไม่สบายก็ไปที่ห้องพยาบาลไหม”
ฉันมองนายตัวสำรองอย่างงงๆ ฉันเป็นคนที่รังแกคนที่นายรักนะ ทำไมถึงพูดอะไรแบบนั้น หรือว่าเป็นหน้าที่ของประธานนักเรียนที่จะดูแลนักเรียนทุกคนที่ลำบากอย่างเท่าเทียม
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” ฉันยืนยันขณะกดท้องตัวเองไม่ให้ร้องออกมา “คาดไม่ถึงเลยนะคะว่าคุณจะเป็นห่วงคนที่รังแกคนอื่นไปทั่วอย่างฉันด้วย โดยเฉพาะหลังจากสิ่งที่ฉันทำกับคุณทาคามิจิ”
“หมายถึงเอาตัวไปรับกาแฟร้อนเอง ไม่ก็เผชิญหน้ากับคนที่เหยียบมือทาคามิจิน่ะหรอ”
เอ๊ะ...เรื่องนั้นจะปิดยังไงก็ยากสินะคะ ฉันทำท่ามกลางที่สาธารณะขนาดนั้น
“นั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญค่ะ ฉันแค่ไม่ถูกใจผู้หญิงเหล่านั้นอยู่แล้ว เลยถือโอกาสหาเรื่องเฉยๆค่ะ อีกอย่างก่อนหน้านั้น ฉันเองก็แกล้งคุณทาคามิจิไว้ตั้งมากมายไม่ใช่หรือไงคะ”
“นั่นมันก่อนจะสูญเสียความทรงจำนี่ และก็จะบอกว่าบังเอิญ แต่ทำไมถึงเปลี่ยนรองเท้าให้ทาคามิจิล่ะ”
เหหหหหหห!?! ระ...รู้ได้ยังไงคะ ตอนนั้นมันยังเช้ามากๆ แถมมองรอบๆก็ไม่เห็นมีใครเลยนี่คะ...
ฉันรีบเก็บอาการให้เร็วที่สุด แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว
“พอดีแอบดูสถานการณ์อยู่แถวนั้นน่ะ พอเห็นคุณเข้ามาพูดกับคนทำก็รอดูว่าจริงๆคุณอยู่เบื้องหลังหรืออะไรหรือเปล่า ก็เลยได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดน่ะ”
“...”
เห็นจริงๆด้วยสินะคะ จะปฏิเสธยังไงดีล่ะคะเนี้ย
“อย่าบอกคุณทาคามิจิได้ไหมคะ” ฉันตัดใจโยนศักดิศรีไปชั่วคราว รู้สึกไม่อยากให้วาคาบะจังรู้เรื่องนี้เลยค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน มันคงอึดอัดแปลกๆน่าดูเลยนะคะที่คนที่แกล้งมาตลอดอย่างฉันเข้าไปช่วยเหลือ
นายตัวสำรองจ้องมองฉันสักพัก ไม่ยอมตอบ อย่าเงียบสิคะ...อย่าบอกนะว่านายบอกไปแล้วน่ะ!
“อย่างนั้นก็ได้ ถ้าคุณคิโชวอินต้องการล่ะนะ...”
เอ๋? ยังไม่ได้บอกสินะคะ ค่อยยังชั่วหน่อย จะว่าไปนายยังไม่สนิทกับวาคาบะจังมากพอที่คุยเรื่องพวกนี้งั้นหรอ อื้ม ในนิยายก็น่าจะประมาณนี้ล่ะมั้ง ที่มาสนิทกันจริงๆก็ประมาณม.6 แล้วนี่น่า คงอีกพักใหญ่