(2)
ในวันงานเทศกาล ท่านคิโชวอินลงแข่งยืมของด้วยค่ะ ทั้งๆที่ปกติไม่เคยลงเลยค่ะ เพราะถือว่าเป็น Pivioine สิ่งที่ทำมักจะลงโยนลูกบอลเข้าตะกร้า แล้วไปยืนเป็นตัวถ่วงอยู่ข้างๆ ไม่ทำอะไรสักอย่างเลยค่ะ
ดูเหมือนว่าการแข่งครั้งนี้จะไม่ใช่ยืมของ แต่เป็น “ยืมคน” ที่มีคุณสมบัติตามจับสลากมา ไม่รู้ว่าท่านคิโชวอินได้อะไรมา แต่ดูเคร่งเครียดน่าดูเลยค่ะ ทางอีกฝั่งหนึ่งของสนาม มีผู้หญิงสองสามคนพยายามขอให้ท่านคาบุรากิไปด้วยกัน แต่ก็โดนปฏิเสธไม่เหลือเยื่อใย... กล้าไปขอท่านคาบุรากิกันได้ยังไงคะ
ฉันคิดอย่างนั้นได้ไม่นานก็เห็นท่านคิโชวอินพุ่งตรงไปหาท่านคาบุรากิ ความสนใจของทั้งสนามเบนไปทางนั้นกันทั่วหน้า เสียงฮือฮาดังไปทั่วไม่หยุด ในขณะที่ฉันกำลังมั่นใจว่าท่านคาบุรากิคงบอกปัดเหมือนทุกที แต่กลับกลายเป็นว่าท่านคาบุรากิจับมือท่านคิโชวอินไว้ พูดอะไรเหมือนให้กำลังใจกัน แล้วออกวิ่ง ทั้งคู่พุ่งตรงไปยันเส้นชัยอย่างรวดเร็วราวกับสายลมเลยค่ะ
เมื่อถึงเส้นชัย กรรมการก็ประกาศว่าของที่ท่านคิโชวอินต้องไปเอามาคือ “เพศตรงข้ามที่สนิทที่สุด” เสียงรอบทิศก็อืออึง แตกฮือกัน
ท่านคิโชวอินคิดอย่างนั้นไม่แปลก แต่ที่น่าตกใจคือท่านคาบุรากิยอมวิ่งไปด้วยนี่แหละค่ะ ทำไมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้กันคะ!
วันนั้นทุกคนต่างคาดเดาไปต่างๆนานา แต่ก็ไม่มีใครได้คำตอบเลย จะไปถามท่านคาบุรากิหรือท่านคิโชวอินตรงๆก็ไม่ได้ ก็เลยอยู่ในความสงสัยต่อไปล่ะนะคะ
เพื่อนของฉันที่อยู่ห้องเดียวกับท่านคิโชวอินบอกว่าท่านคิโชวอินตั้งใจเรียนเอามากๆเลยค่ะ ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เคยใส่ใจ จนอาจารย์ที่มาสอนยังงงๆ
นอกจากนี้ยังคอยช่วยเหลือเพื่อนๆในห้อง คอยหยุดเวลาคนทะเลาะกัน คุยเล่นและหัวเราะไปพร้อมกับคนในห้อง บรรยากาศในห้องท่านคิโชวอินดูสดใสร่าเริงเอามากๆเลยค่ะ จากแต่ก่อนท่านคิโชวอินมักจะวีนแตกและทำเอาคนในห้องเดือดร้อนเสมอ และเมื่อท่านคิโชวอินรู้ว่าเคยทำแบบนั้นก็มาขอโทษทุกๆคนในห้องด้วยค่ะ เป็นท่าทางที่ดูจริงใจไม่เสแสร้งเหมือนทุกๆครั้ง ตอนนี้ทุกคนดีใจกันใหญ่เลยค่ะที่ท่านคิโชวอินเสียความทรงจำ
สิ่งที่ทำเอาทุกคนตกตะลึงอีกครั้งคือผลสอบครั้งต่อมาค่ะ ท่านคิโชวอินได้อันดับที่ 5 ทั้งๆที่แต่ก่อนการเรียนย่ำแย่เอามากๆ ท่านคาบุรากิเองก็มาแสดงความยินดีด้วยเช่นกันค่ะ เอามือตบไหล่ทั้งๆที่ปกติไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ตื่นเต้นกันทั้งนั้น ฉันเองก็คาดเดาอยู่ในหัวว่าเป็นไปได้หรือเปล่าที่ทั้งคู่ติวหนังสือด้วยกัน คะแนนของท่านคิโชวอินถึงได้ดีขนาดนี้
ท่านคิโชวอินมีรอยยิ้มงดงามจริงใจประดับอยู่บนใบหน้า ขอบคุณพวกเราที่มาแสดงความยินดี ก่อนที่อยู่ๆรอยยิ้มก็หายไป เมื่อหันไปเห็นคุณทาคามิจิมองมาที่ท่านคิโชวอินและท่านคาบุรากิ ทันทีที่คุณทาคามิจิสะดุ้งรีบหนีไป ท่านคิโชวอินเหมือนต้องการจะวิ่งตามเลยค่ะ แต่ท่านคาบุรากิจับตัวเอาไว้
“จะว่าไป ขอคุยส่วนตัวหน่อยได้ไหม” ท่านคาบุรากิถามท่านคิโชวอินด้วยเสียงดังฟังชัด พวกเราทุกคนต่างคาดเดาไปต่างๆนานาว่าความสัมพันธ์ทั้งคู่คืบหน้าเอามากๆเพราะอะไรกัน ตอนนั้นฉันเองก็เอะใจว่าทำไมท่านคาบุรากิมาคนเดียว ทั้งๆที่ปกติจะไปไหนมาไหนพร้อมท่านเอ็นโจเสมอ
ฉันก็เดินกลับห้องเรียนตามปกติ แต่เพื่อนฉันส่งเมลล์มาบอกว่าตอนนี้ท่านคาบุรากิกับท่านคิโชวอินกำลังคุยกันที่ไหน และบอกว่าบรรยากาศโรแมนติคเอามากๆ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะไปดูด้วย ก็นะ อยากเห็นนี่นา
ฉันกับเพื่อนแอบอยู่มุมหนึ่งแถวนั้น แม้ไม่ได้ยินว่าทั้งคู่พูดอะไรกันอยู่ แต่ก็มีอารมณ์ที่หลากหลายทีเดียวค่ะ ได้เห็นสีหน้าแปลกๆของจักรพรรดิด้วยนะคะ ทั้งอึ้งทั้งสงสัย บางทีก็ดูเหมือนอ้อนๆด้วยค่ะ ท่านคิโชวอินก็ดูเหมือนจะกลุ้มใจบ้าง แต่ก็มียิ้มๆเป็นบางครั้ง
คุยๆไปสักพัก จักรพรรดิก็กลับมาดูเคร่งขรึมเช่นเดิม แต่แฝงความเศร้าเล็กน้อย ท่านคิโชวอินก็เหมือนจะแหย่ถามอีกนิดหน่อย แล้วเธอก็กลายเป็นฝ่ายตกใจซะเอง
เรื่องอะไรนะคะ อยากติดเครื่องดักฟังจัง แต่มันผิดกฎหมายนี่สิคะ
ไม่นานนัก เพื่อนของฉันก็ชี้ให้เห็นว่าท่านเอ็นโจ “บังเอิญ” เดินผ่านมาอีกแล้ว คงเพราะท่าทางของทั้งคู่ดูน่าสงสัย เลยแอบมองอยู่เหมือนฉันกับเพื่อน
เวลาต่อมา ท่านคาบุรากิก็หยิบซองสีน้ำตาลส่งให้ท่านคิโชวอิน จากนั้นก็วิ่งหนีไป ฉันเห็นเขาแอบมองท่านคิโชวอินอยู่แถวๆนั้นด้วยค่ะ พอเธอเปิดซอง และอ่านเนื้อหาข้างในด้วยรอยยิ้มสว่างสดใสก็หยิบมือถือขึ้นมาน่าจะส่งเมลล์ ท่านคาบุรากิเองก็มองมือถือในมืออย่างมีความสุข และหันไปยิ้มอย่างดีใจให้กับท่านคิโชวอินตัวจริงซึ่งยังคงไม่เห็นเขาแอบอยู่
นี่มันโรแมนติดเอามากๆเลยนะคะเนี้ย! ส่งของขวัญให้ แล้วมาแอบดูปฏิกิริยา