ท่านเรย์วัยประถมต้นกับท่านพี่ร่างหญิง
“ยินดีต้อนรับครับนายน้อยเรย์”
เมื่อถึงเวลาโรงเรียนเลิก คนขับรถของบ้านคิโชวอินจะคอยมารับผมเสมอ ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงอาชญากรรมอย่างการลักพาตัว และเพราะว่ามีการเสริมเนื้อหาในบทเรียนในโรงเรียน และบทเรียนทางวัฒนธรรม ต้องไปเรียนพิเศษส่วนตัวหลังเลิกเรียนต่ออีกด้วย
ชีวิตของลูกชายบ้านเศรษฐีนี่ยุ่งยากกว่าที่คาดคิดเสียอีกนะครับ
ตารางเวลาหลังเลิกเรียนแทบจะเต็มไปด้วยการเรียนเสริมพิเศษส่วนตัว
ต่างกันลิบกับเด็กที่เข้าเรียนโรงเรียนประถมของรัฐที่อยู่ใกล้ๆ บ้านของนักเรียนแต่ละคนในโรงเรียนซุยรันนั้นต่างก็กระจัดกระจายไปคนละทิศ แล้วแต่ละคนก็วุ่นกับการเรียนพิเศษต่างๆกัน เพราะงั้นหลังเลิกเรียนพวกเราได้แต่ร่ำลากันด้วยคำว่า “ขอลาล่ะนะครับ” เท่านั้น
ก็ว่ากันไป ส่วนของผมวันนี้เป็นการเรียนจิตรกรรมกับเปียโนล่ะ
“กลับมาแล้วครับ”
อา เหนื่อยจังเลยน้า อย่างที่คิดเลย การเรียนอะไรหลายๆ อย่างนี่มันยากสุดๆ ไปเลย
เปียโนก็สนุกอยู่หรอกแต่จิตรกรรมนี่มันก็นะ…
ก็เซนส์ศิลปะเห่ยๆ ของผมมันแสดงออกมาเป็นภาพแบบนั้นน่ะสิ
แม้แต่ในวันนี้ งานที่ผมวาดไปมั่วๆ ยังได้รับการตีค่าเกินจริงเลย
อาจารย์ที่ไม่ได้รู้เลยว่านั่นคืองานที่เสร็จแล้วบอกว่าให้ผมทำยังไงก็ได้ให้มันดูสดใสกว่าเดิม แต่ด้วยเซนส์ด้านศิลปะแย่ๆ ของผม ทำให้ผมไม่อาจจะทำอะไรกับมันได้มากกว่านั้น
สุดท้ายอาจารย์ก็บอกว่า “ไม่คิดว่ามันจะดีกว่านี้หรือคะถ้าวาดตรงนี้เพิ่มน่ะค่ะ?” แล้วก็ปาดสีไปมาตรงนู้นทีตรงนี้ที ทำให้ผลผลิตที่ออกมาใหม่มองไม่เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวของงานดิมของผมสักนิด ขอโทษจริงๆ ที่เป็นนักเรียนที่ไม่ได้เรื่องนะครับอาจารย์
ตอนที่ผมกลับมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากไปเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ท่านพี่ พี่สาวของผมก็กลับมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับท่านพี่”
“พี่กลับมาแล้วจ้ะ เรย์”
ใช่แล้วครับ เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน แต่คิโชวอิน เรย์มีพี่สาวที่สวยงามมากเลยล่ะ
ก็ในการ์ตูน เรย์เป็นตัวละครที่ออกมามีบทเป็นแค่ตัวร้าย เพราะอย่างนั้นก็เลยไม่ได้มีรายละเอียดอะไรลึกซึ้งเกี่ยวกับพื้นฐานครอบครัวของเขา หรือด้านลึกๆในใจเหมือนกับพระเอกหรือจักรพรรดินี
ถึงขั้นที่พ่อแม่ของเขายังเพิ่งได้โผล่มาครั้งแรกก็ตอนบทที่มีงานหมั้นเลยครับ
นักอ่านทั้งหลายก็คงไม่มีใครอยากจะรู้เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมอะไรของเรย์เหมือนกันนั่นแหละครับ
อ่า… น้ำตามัน…
“ท่านพี่ครับ กลับมาจากกิจกรรมหลังเลิกเรียนแล้วหรือครับ?”
“อืม ใช่แล้วจ้ะ”
คิโชวอิน ทาเคมิ อายุ 13 ปี ซึ่งแก่กว่าเรย์ 7 ปี
เธอมีผมยาวดัดลอนอ่อนๆ เป็นเพราะรสนิยมของท่านแม่ที่ชอบแต่งตัวให้ลูกแบบตุ๊กตาฝรั่ง(ดูจากผมที่เป็นลูกชายได้ โดนจับดัดผมจนหัวหยอยเหมือนกัน) แต่ท่านพี่หัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยอมทำผมทรงโรโคโค่เด็ดขาด เลยยื่นข้อเสนอว่าจะดัดผมลอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่านแม่ที่ฝืนใจท่านพี่ไม่ได้ก็ทำได้เพียงถอดใจเท่านั้น
ตอนนี้เธอเรียนอยู่ปี 2 ของโรงเรียนมัธยมต้นซุยรัน
เธออยู่ชมรมยิงธนูและทำกิจกรรมอยู่เสมอๆ สัปดาห์ละหลายวัน เวลากลับมาจากชมรมก็จะรวบผมลอนหลวมๆนั้นเป็นโพนี่เทลสูง น่าจะมัดเวลาทำกิจกรรมชมรมสินะ
มันออกจะแปลกหากผมเป็นคนพูดเอง แต่ท่านพี่ทาเคมินั้นช่างเป็นคนที่อ่อนโยนและซื่อตรง ราวกับเป็นแม่พระ
แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นพี่น้องกับเรย์ได้
“วันนี้ตอนหลังอาหารค่ำจะมีอาจารย์สอนพิเศษมาไม่ใช่หรือครับ? ถ้าอย่างนั้นคงไม่ว่าอะไรถ้าจะอยู่เป็นเพื่อนคุยกับผมจนถึงเวลาอาหารค่ำใช่ไหมครับ? ได้โปรดเถอะนะครับ นะครับ น้า”
ก็ผมรักท่านพี่มากที่สุดเลยล่ะครับ!
เพราะว่าเป็นตัวตนที่เรียกว่า “พี่สาว” ที่ผมจะคอยออดอ้อนได้ และเนื่องจากในชาติก่อน(จะเรียกแบบนั้นได้รึเปล่านะ ชักสับสนแล้วสิ)ผมมีแต่น้องชาย ท่านพี่ทาเคมิก็แสนประเสริฐซะด้วย!
“ได้สิจ๊ะ งั้นเรามาคุยเรื่องอะไรกันดีล่ะ วันนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหมล่ะ?”
ตอนที่ท่านพี่นั่งลงบนโซฟาและเธอตบข้างๆตัวขณะที่พูด ผมก็รีบวิ่งไปนั่งข้างๆ ท่านพี่ของผมตามความเคยชินเหมือนลูกหมาน้อยวิ่งหาเจ้านายเลย
“วันนี้ผมมีเรียนเปียโนกับศิลปะล่ะ”
ผมเล่าให้ท่านพี่ฟังอย่างมีความสุขว่าบทเรียนเปียโนสนุกยังไง และการวาดรูปที่ผมทำผิดพลาดไปนิดหน่อย
แล้วตอนที่ท่านพี่เล่าถึงตอนที่ทำได้ไม่ค่อยดีในชมรมด้วยใบหน้ายุ่งหน่อยๆ ผมก็พยายามให้กำลังใจเธอ แล้วท่านพี่ก็ลูบหัวผม พร้อมกับยิ้มแย้มให้อย่างอ่อนโยน
ท่านพี่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ ทั้งๆที่เพิ่งเสร็จจากชมรมแท้ๆ แต่เนื้อตัวไม่มีกลิ่นเหงื่อเลยสักนิด พลังของหญิงสาวสินะเนี่ย
ผมคุยกับท่านพี่เพลิดเพลินไปจนถึงเวลาอาหารค่ำ ท่านพี่ก็กลับห้องไปพร้อมกับครูสอนพิเศษส่วนตัว
รักท่านพี่ที่สุดเลย!
มาโยนท่านพี่แบบสลับเพศแล้วไปนอนก่อนนะจ๊ะ