หะ?! นี่มันสมาชิกชมรมฟุตบอลนี่คะ ในโลกนี้ฉันไม่ได้สร้างความแค้นอะไรกับพวกเขานี่คะ... หรือว่าเรย์กะเคยทำไปก่อนหน้านั้น ทำยังไงดีล่ะคะเนี้ย ถึงฉันจะเป็น Pivioine ก็เถอะ แต่ถ้าโดนคนเป็นฝูงแบบนี้ข่มขู่ก็ใช่ว่าจะกล้าหาญได้ตลอดนะคะ ไม่มีข้อมูลอะไรมาขู่ซะด้วยสิ...
ประธานชมรมฟุตบอลก้าวออกมาด้านหน้าทุกคน โดยมีสมาชิกชมรมยืนเป็นวอล์เปเปอร์ด้านหลัง
หมอนั่นทำหน้าจริงจัง ไม่ได้ดูหวาดกลัวจนมือเย็นเยียบแบบโลกก่อนด้วย จะรับมือยังไงดีล่ะคะ..
“คุณคิโชวอินครับ ผมแอบชอบคุณมาโดยตลอดเลยครับ!”
วิ่งหนีไปข้างหลังดีไหมนะ
เดี๋ยวนะ...หะ!?! เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะคะ!!!
สมาชิกชมรมที่ยืนอยู่ข้างหลัง ช่วยกันกางป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่เขียนความในใจของประธานชมรมฟุตบอล พร้อมเสียงเชียร์ไปทั่ว สาวๆรอบข้างต่างพากันกรี้ด ส่วนฉันช็อกอ้าง
เอ๋?! ไม่ใช่ความฝันหรอคะ มีคนมาสารภาพรักกับฉันจริงๆด้วยงั้นหรอคะ!
“ผมรู้ว่าคุณคิโชวอินชอบคุณคาบุรากิมาโดยตลอด แต่ผมเองก็ไม่เคยตัดใจจากคุณได้เลย อย่างน้อยผมก็อยากบอกความรู้สึกนี้ให้คุณรับรู้ ยังไงก็รับผมไปพิจารณาเถอะนะครับ!”
กรี้ดดดดดดด มีคนมาพูดอะไรแบบนี้กับฉันจริงๆงั้นหรอคะ ท่าทางจริงจังใสซื่อนั่นทำเอาใจฉันละลายเลยค่ะ
ฉันยิ้มให้ เขาหน้าแดงให้ฉันด้วยล่ะ อือออ น่ารักจังเลยค่ะ โรแมนติคสุดๆเลยนะคะ
“ขอบคุณมากเลยค่ะ” ฉันดีใจสุดๆไปเลยค่ะในตอนนี้! พิจารณาแล้ว ลองคบกันดูก็ได้นะคะ!!!
พูดยังไงดีนะคะ นึกคำพูดไม่ถูกเลยค่ะ ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึงฉันแล้วหรอคะเนี้ย!
“จริงๆแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ชอบท่านคาบุรากิหรอกนะคะ” ฉันถือโอกาสประกาศเรื่องนี้โดยทั่วกัน เสียงฮือฮาดังไปทั่วระเบียง เสียงเชียร์ประธานชมรมฟุตบอลดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม สาวๆรอบข้างต่างพากันตื่นเต้น
“เอะอะอะไรกัน นี่จะถึงเวลาเรียนแล้วอยู่ในความสงบด้วยนะครับ” เสียงนิ่งเฉยดังขึ้นมา บรรยากาศหวานแหววหายแวบไปทันที
นายตัวสำรอง! มาทำอะไรแถวนี้คะ ไปจีบวาคาบะจังนู้นไป๊
นายตัวสำรองพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องเรียนไป ไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบข้าง
เมื่อนายสำรองเดินเข้าห้องไปแล้ว ฉันก็หันไปหาประธานชมรมฟุตบอล แต่ก่อนจะได้พูดอะไรต่อก็โดนใครสักคนลากออกมา แถมไม่มีใครห้ามด้วยค่ะ แหวกทางให้อย่างไม่มีคนกล้าค้าน อะไรกันเนี้ย!
เจ็บไหล่ค่ะ เจ็บนะ!!!
“ทำอะไรของเธอน่ะ”
“ท่านคาบุรากิล่ะคะมาพาฉันมาที่นี่ทำไม”
ทำบ้าอะไรหะ คาบุรากิ! ฉันกำลังจะมีฤดูใบไม้ผลิอันงดงามแบบคนอื่นๆเขาซะที นายมาขัดขวางทำไมคะ?!
คาบุรากิขมวดคิ้ว ขณะถามฉันอย่างจริงจังแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ “เธอคิดจะตอบตกลงเป็นแฟนกับหมอนั่นหรอ”
“ค่ะ” ฉันตอบไป ใช่สิ! ฉันกำลังจะตอบตกลง เพราะงั้นอย่ามาขัดสิคะ!
“เธอจะเป็นแฟนกับคนที่เธอแทบไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยนี่นะ”
คนที่เห็นผู้หญิงกลิ้งตัวหลบรถแล้วตกหลุมรักแบบนายไม่มีสิทธิมาว่าฉันนะคะ!
“ลองคบกันดูก่อนก็ได้นี่คะ”
ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา ค่อยๆเรียนรู้กันไป มีตั้งหลายคู่ที่เป็นแบบนี้ คบกับคนที่รักเราน่าจะอบอุ่นกว่าคบกับคนที่เรารักฝ่ายเดียวอยู่แล้วล่ะนะคะ...
ฉันพยายามอธิบายว่าเรื่องนี้มันปกติแค่ไหน คาบุรากิก็ทำหน้านิ่ง
“หมายความว่าเธอจะคบกับใครก็ได้ที่มาขอเธอเป็นแฟนหรอ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ!”
หยาบคายจังค่ะ ฉันไม่ถึงขั้นนั้นหรอกนะคะ ถ้ามาขอเล่นๆหรือขอคบเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ ฉันก็ตอบปัดไปอยู่แล้ว แต่ถ้ามาขอด้วยความรักจริงๆฉันก็อดใจอ่อนไม่ได้เลยค่ะ การเดทในชุดเครื่องแบบเป็นความฝันของฉันนี่นา
คาบุรากิดูไม่ค่อยพอใจในคำตอบฉันเท่าไหร่ ก็นะ หมอนั่นเป็นพวกยึดมั่นในความรักหนึ่งเดียวของตัวเองเอามากๆ ตอนนี้เขาก็เข้าใจผิดว่าฉันชอบนายตัวสำรองอีก คงคิดว่าฉันเปลี่ยนใจง่ายไปงั้นหรอคะ
“งั้นถ้าฉันขอเธอเป็นแฟน เธอจะตอบตกลงไหม”
“เอ๊ะ?!”
ถามคำถามแบบนี้มันไม่เข้ากับภาพลักษณ์นายเลยนะ นี่แค่อยากรู้เล่นๆใช่ไหมคะ
“ถ้าไม่รู้จักมาก่อน ก็อาจจะนะคะ...”
“หะ?! อะไรนั่นน่ะ”
รู้จักห่างๆ คาบุรากิก็ดูเท่ เรียนดี กีฬาเก่งล่ะนะคะ แต่ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้ธาตุแท้อันล้ำโลกของคาบุรากิมากขึ้น ใครก็ตามที่ตกหลุมรักหมอนี่เป็นคนน่าสงสารชะมัดเลยค่ะ... แต่นะ วาคาบะจังก็ถูกเส้นด้ายแห่งโชคชะตาให้มาคู่กับเขา สู้ๆนะวาคาบะจัง...
“ถึงเวลาเรียนแล้ว ขอไปก่อนนะคะ” ฉันบอก รีบหนีดีกว่า