ต่อ >>>/webnovel/3507/547-549
----
แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ซุยรันก็ยังคงเป็นโรงเรียนของชนชั้นสูงที่หรูหราและทันสมัยที่แทบจะไม่ได้เก่าลงไปจากความทรงจำเลยแม้แต่น้อย พวกเราได้พบอาจารย์บางท่านที่เคยสอนสมัยเรียน อาจารย์ดูแก่ลงไปเยอะเลยล่ะนะ
พอส่งเด็กๆเข้าโรงเรียนไปแล้ว รถยนต์บ้านเอ็นโจก็เคลื่อนตัวออกไปอีกครั้ง
"...ที่เด็กๆคุยกันเมื่อกี้ไม่สนใจจริงๆเหรอ?" คุณชูสุเกะเข้ามากระซิบที่ข้างหูก่อนที่ฉันจะทันรู้สึกตัวเสียอีก "เรย์กะชอบเด็กนี่นา~"
"ท่านเอ็นโจ!"
ฉันแยกเขี้ยวใส่อย่างหงุดหงิด อุตส่าห์ลืมๆเรื่องที่คุยไปแล้วเชียวนะ! แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาเลยสักนิด เอาแต่กลั้วหัวเราะอยู่นั่น
"ครับ คุณนายเอ็นโจ?"
อุกรี๊ดดดด
บ้าเอ๊ย! พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ การต่อปากต่อคำกับหมอนี่ไม่มีหนทางชนะเลยหรือยังไงกันนะ ฉันเลยเสมองไปอีกทาง เอาความเงียบสยบทุกอย่างแทน แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆอย่างเยาะเย้ยแว่วมา
อ๊าา ให้ตายซิ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้กันนะ?
ทั้งๆที่ตัวฉัน เรียกว่าได้เห็นธาตุแท้ของความเล่ห์ของตานี่มาตั้งแต่ประถม แล้วก็พยายามถอยห่างไม่เข้าใกล้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วแท้ๆ อะไรที่ทำให้ตัวฉันในอนาคตยินยอมตกไปลงบนฝ่ามือของจอมมารคนนี้กันนะ?
สิบกว่าปี นี่มันอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปจนสับสนไปหมด อย่างกับหลุดมิติมาอีกโลกนึงเชียวล่ะ ได้ยินว่าเพื่อนๆทุกคนต่างก็ทำงาน แต่งงาน มีครอบครัวมีลูกกันหมดแล้ว กับตัวฉันเองที่มีความทรงจำแค่ช่วงมัธยมนี้แปลกแยกโดดเดี่ยวขึ้นมาเลยล่ะ
แง้ ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี่มันเกิดอะไรขึ้นกันคะเนี่ย?
แล้วนารุคุงของเค้าล่ะ? อยากเจอจังเลยค่ะ ทั้งที่กะว่าพอจบงานแข่งกีฬาโรงเรียนแล้วจะได้มีเวลาแวะไปห้องสมุดแล้วแท้ๆ... นี่ยังไม่เคยได้พูดคุยอะไรกันเลยสักครั้ง... ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นฉันได้ทำความรู้จักกันบ้างแล้วยังนะ ถ้าได้สนิทกันบ้างก็คงจะดีซิ...
แต่สนิทแล้วจะยังไงกันล่ะ ในเมื่อท้ายที่สุดฉันก็กลายมาเป็นคนตระกูลเอ็นโจแล้วเนี่ย...
"เฮ้อ~"
"กังวลเหรอ?"
อ๊ะ เผลอถอนหายใจออกมาซะนี่
ฉันหันกลับไปทางคุณชูสุเกะ ก็พบว่าเขากำลังจ้องมองมาอย่างห่วงใยพร้อมรอยยิ้มบางๆ
"ไม่สบายใจอะไรปรึกษาผมได้นะ"
เรื่องนารุคุงน่ะ... ถ้าพูดออกไปต้องโดนอัดพลังมารใส่แหงๆ
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ..."
ฉันตอบ ก่อนที่คุณชูสุเกะจะยกมืออีกข้างที่ไม่ได้กุมมือฉันขึ้นมาลูบหัวของฉันเบาๆ
"อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงจากสมัยมัธยมไปตั้งเยอะเลย ถึงจะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็คงยากที่จะปรับตัวอยู่ดีซินะ คงสับสนแย่เลยใช่มั้ย?"
น้ำเสียงอ่อนโยนจนรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งเชียวล่ะ
"ไม่เป็นไรนะ ...ถึงคุณจะจำไม่ได้ แต่ว่าเราน่ะครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็พูดคุยกับผมได้นะ โอเค?"
"อ อือ"
"เรื่องที่จำไม่ได้ อย่ากังวลไปเลย คุณหมอก็บอกไว้นี่ว่าให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่าฝืนตัวเอง เดี๋ยวจะปวดหัวอีกนะครับ"
"ค่ะ..."
"ต่อให้จำไม่ได้เลยก็ไม่เป็นไรหรอก ...ผมอยู่ข้างเรย์กะเสมอนะ เหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมา"
มือของเขาเปลี่ยนจากลูบหัวมาปัดเส้นผมที่หลุดมาปลกใบหน้าขึ้นไปทัดหูฉัน แววตาที่จ้องมองมายังฉันนั้นทำเอารู้สึกร้อนวาบไปทั้งหน้าจนต้องหลบตามองไปทางอื่นแทน
รู้สึกได้ว่าโดนจ้องมองไม่วางตาอย่างเสือจ้องจะกินเหยื่ออย่างงั้นล่ะ
กรี๊ดดดด อย่ามองอย่างงั้นนะ!!!
"เอ่อ แล้วเราจะไปที่ไหนกันอย่างงั้นเหรอคะ!?"
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆน่าจะอันตรายต่อตัวฉันเองแน่ๆ ฉันเลยรีบพูดเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นแทน คุณชูสุเกะยังจ้องมองยิ้มๆไม่หยุด มือข้างหนึ่งก็จับปอยผมลอนของฉันเล่นอย่างเพลินเชียวนะยะ
"อา ก็หาพวกเพื่อนๆของคุณนั่นแหละ ...ถึงพอดีเลยน่ะ"
ฉันมองออกไปข้างนอกก็มองเห็นคฤหาสน์สีฟ้าโดดเด่นหลังหนึ่ง ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่โตเท่าคฤหาสน์เอ็นโจ เล็กกว่าคฤหาสน์คิโชวอินด้วยซ้ำ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมรอคโคข้างที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ต้นไม้นานาพันธุ์อย่างสวยงาม
เพื่อนของฉันงั้นเหรอ? ฉันมีเพื่อนที่มีบ้านแนวนี้ด้วยงั้นเหรอ?
ไม่นานนักฉันก็พบกับคำตอบ
"ท่านเรย์กะ!"
"เซริกะจัง!"
เซริกะจังพร้อมกับสามีของเธอออกมาต้อนรับฉันกับคุณชูสุเกะถึงหน้าบ้าน เซริกะจังแต่งงานก่อนฉันหลายปี ทั้งยังต้องย้ายไปที่ประเทศนั้นที่ประเทศนี้ตามที่ทำงานของสามีเลยแทบจะไม่ได้พบหน้ากันนัก เธอเล่าว่าอย่างงั้นนะ
"เรย์กะอยู่กับเพื่อนดีๆล่ะ เสร็จธุระแล้วผมจะกลับมารับนะครับ"
"คุณชูสุเกะ!"
ฉันไม่ใช่เด็กๆนะยะ!
ดูเหมือนว่าสามีของเซริกะจังจะเป็นบริษัทคู่ค้ารายหนึ่งของเอ็นโจกรุ๊ป นี่ก็กะถือโอกาสมาติดต่อทำงานด้วยเลยซินะ ไหนว่าว่างงานแล้วไง? พอคุณชูสุเกะกับสามีของเซริกะจากไป เซริกะจังก็กรี๊ดกร๊าดหน้าแดงออกมา "ว้าย ท่านเอ็นโจกับท่านเรย์กะสวีทกันดีจังเลยค่ะ!"
นั่นมันแกล้งกันชัดๆ สวีทตรงไหนน่ะคะ!?