เห็นแว้บๆว่ามีคนทวงฟิคเลี้ยงต้อย เลยเอามาให้ ถือว่าฉลองไวท์เดย์
>>>/webnovel/3451/444-446
-------------------
ทุกวันผ่านไปอย่างปกติ เรย์กะก็ยังเป็นคนเดิมที่ชอบเข้ามาอ้อนผม ดูเหมือนเธอจะทำใจเรื่องมาซายะได้บ้างแล้ว เพราะไม่เห็นพูดอะไรขึ้นมาเลย ทั้งที่ปกติเธอมักจะถามผมเกี่ยวกับมาซายะเสมอ
ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าเธอจะรักมาซายะไปตลอดกาลเสียแล้ว ดูเหมือนว่าความจริงเรื่องมาซายะรักยูริเอะจะพอทำให้เธอตัดใจได้บ้าง
ค่อยยังชั่วหน่อย
เธอมักเอาเรื่องผู้ชายคนนั้นคนนี้ที่ทางบ้านแนะนำมาปรึกษาผม ผมก็แนะนำให้เธอไปเดทกับเขาบ้าง หรือลองคุยดูบ้าง แต่สุดท้ายเรย์กะก็จะวิ่งกลับมาหาผมอยู่ดี
"ไม่เห็นสนุกเลย ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้น่าเบื่อ คุยแต่เรื่องตัวเอง" เรย์กะเบ้ปาก "อยู่กับคุณชูสุเกะสนุกกว่าเยอะ"
แค่คำพูดคำเดียว ผมก็มีความสุขไปทั้งวัน ตัวเบาล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ ช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษชวนเคลิบเคลิ้มอะไรเช่นนี้
โลกนี้ดีอยู่อย่างตรงที่ไม่มียุยโกะมาทำให้ผมปวดหัวเพิ่มมากขึ้น
ยุยโกะเป็นญาติในโลกเดิมของผม อายุเราไล่เลี่ยกันก็เลยถูกทาบทามให้มาเป็นว่าที่คู่หมั้น แต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรไปหรอกนะ
และเมื่อเธอเจอเรย์กะในงานโรงเรียนครั้งนั้น เธอก็เกาะติดผมแจยิ่งกว่าอะไรดี มันน่าเหนื่อยหน่ายและน่าเบื่อมากที่ต้องมารองรับอารมณ์หึงหวงและเง้างอนของผู้หญิง แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่พูดออกไปต่อหน้าเจ้าตัว
แต่กับเรย์กะ เธอจะเอาแต่ใจและงอแงแค่ไหน ผมก็คิดว่าน่ารัก
ที่เขาว่าความรักทำให้คนตาบอดนี่คงจะจริง เพราะผมไม่เคยมองเห็นข้อเสียของเธอเลยสักครั้ง
เรย์กะที่ผมเลี้ยงมาให้ตรงตามอุดมคติของตัวผมเองแทบทุกอย่าง รู้จักเธอดียิ่งกว่าใครๆ และรับมือได้หมดทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน
เธอมักจะมาขลุกอยู่กับผม ถ้าไม่ติวบทเรียนก็นั่งคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย สุดสัปดาห์ไหนที่ว่างก็นัดกันไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เหมือนเราเป็นแฟนกันจริงๆ ติดตรงที่ยังไม่ได้เอ่ยปากขอคบแบบเป็นทางการ
ใจหนึ่งผมอยากทำอะไรให้มันชัดเจนไปสักที แต่อีกใจก็กลัวจะถูกปฏิเสธ
ถึงเรย์กะจะไม่ถามหามาซายะแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังหวาดระแวงกับคำพูดของชูสุเกะในโลกกระจกเสมอ
ผมจึงพยายามควบคุมตัวแปรให้อยู่บนมือให้ได้มากที่สุด การที่เราอยู่ด้วยกันบ่อยๆก็คล้ายจะประกาศสถานะกลายๆว่าเธอเป็นของผม ทำให้ไม่มีผู้ชายหน้าไหนกล้าเข้ามาวอแว พวกผู้หญิงเองก็ไม่ค่อยจะมารุมล้อมแบบโลกเดิมเท่าไหร่ คงเกรงใจเรย์กะกันพอสมควร ตัดปัญหาเรื่องหึงหวงออกไปได้
“นี่ คุณชูสุเกะ” เรย์กะแตะแขนผม สายตาที่มองมาดูสงสัยหน่อยๆ “ถึงคิวแล้วแน่ะ”
“อ้อ ขอโทษที” ผมขยับเดินเข้าไปในกระเช้าชิงช้าสวรรค์ที่พนักงานเปิดประตูรอไว้ ยื่นมือไปให้เรย์กะที่ก้าวตามเข้ามาแบบทุลักทุเลนิดหน่อย
วันนี้เรย์กะกับผมมาเที่ยวกันที่สวนสนุก เธอบอกว่าเพิ่งจะเคยมาที่แบบนี้เป็นครั้งแรก ถึงจะดูไว้ตัวหน่อยๆ แต่ก็ยังเที่ยวไปเล่นเครื่องเล่นนั่นนี่ด้วยความสนุกสนาน หัวเราะและยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆ
พอส่งชูโรสให้ เธอก็ขมวดคิ้วใส่แล้วบ่นปอดแปด “อะไรเนี่ย ทุกคนเดินกินแบบนี้มันเสียมารยาทไม่ใช่เหรอ” แต่ก็ทานไปด้วยระหว่างที่กำลังเดินไปยังเครื่องเล่นอื่น
เมื่อทานหมดก็พูด “ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าของถูกๆแบบนี้จะอร่อยน่ะ” แล้วก็เลียนิ้วไปด้วย ถ้าเป็นที่โรงเรียนคงไม่มีวันได้เห็นภาพนี้เป็นแน่
ไม่สิ มีแค่ผมเท่านั้นที่ได้เห็นเธอในแง่มุมนี้
ผมเลยซื้อขนมให้อีกหลายๆอย่าง เรย์กะก็บ่นอีกว่าต้องไปลดความอ้วนครั้งใหญ่ แต่เห็นก็กินเอาๆนี่นา
พอหัวเราะ เธอก็หันมามองค้อนแล้วก็เชิดหน้าหนี ผมเลยต้องตามใจเธอทุกอย่างเป็นการง้องอน ยอมให้ลากไปที่นั่นที่นี่ตามแต่เธอต้องการไม่มีปริปากบ่น
เรย์กะลากผมไปที่ชิงช้าสวรรค์ มีแต่คู่รักหนุ่มสาวมาต่อแถวทั้งนั้น ผมมองเรย์กะใส่คาดผมรูปหูกระต่ายที่ผมซื้อให้จากร้านในสวนสนุก เห็นแล้วก็อดคิดถึงเรย์กะในโลกเดิมขึ้นมาไม่ได้
ป่านนี้เธอจะทำอะไรอยู่นะ
“วิวตรงนั้นสวยมากเลยล่ะคุณชูสุเกะ ดูสิๆ” เรย์กะพูดขึ้นขณะที่ชิงช้ากำลังลอยสูงขึ้นไป “สูงขนาดนี้จะมองเห็นซุยรันมั้ยน้า”
เมื่อผมไม่มีปฏิกริยาตอบรับ เธอก็เขย่าแขนผม ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ
“อะไรเหรอ”
“วันนี้คุณชูสุเกะดูเหม่อๆนะ”
“พอดีคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”
“เอ๋ อะไรกัน อยู่กับฉันแล้วยังคิดถึงเรื่องอื่นอีกเหรอ” เธอทำหน้ายู่ “ว่าจะให้อะไรซักหน่อย งั้นไม่ต้องเอาแล้ว”
“อื๋อ” ผมขยับเข้าไปใกล้ๆเธอ ส่งยิ้มให้แบบที่ทุกคนไม่มีทางปฏิเสธได้ “เรย์กะ”