เอ็นโจน้ำตาตกในแล้วนั่น มีแต่คนทรยศ โอ๋ๆ ชูสุมอย มาหาพี่มา
Last posted
Total of 1000 posts
เอ็นโจน้ำตาตกในแล้วนั่น มีแต่คนทรยศ โอ๋ๆ ชูสุมอย มาหาพี่มา
ขึ้นมู้ใหม่แล้ว ฟิคสลับร่างมาลงไว้แล้ว รอๆๆๆๆ
ส่งท่านจอมมารมากู้เรือโดยด่วนค่าา555555555
กูมาทำตามสัญญา!
ปล. กูยังคงตัดสินพระเอกฟิคนี้ไม่ได้
ชื่อเรื่อง เอ่อ เอาเป็น 'ตำนานรักราชวงศ์(?)' ละกัน //สูดกาว
---------
วันนี้เป็นวันทัศนศึกษาวันสุดท้ายค่ะ
พวกเราเดินเที่ยวกันตามโปรแกรม จนกระทั่งช่วงเย็นที่ต้องเตรียมตัวกลับโรงเรียน ฉันเตรียมตัวกลับโรงเรียนอย่างปกติ แต่ผิดปกติตรงที่อยู่ๆอาจารย์กลับพาแวะศาลเจ้าที่ดูเก่าแก่แห่งหนึ่งซะก่อน
หวา ช่างขัดกับภาพลักษณ์โรงเรียนคุณหนูสุดๆไปเลยค่า---!
ทางนักเรียนซุยรันที่เป็นคุณหนูดูตื่นเต้นกับสภาพเก่าแก่โดยรอบ ฉันเห็นวาคาบะจังอยู่ไกลๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อยดูแปลกใจเลย สงสัยไปศาลเจ้าบ่อยล่ะมั้งคะ
“ท่านเรย์กะ ดูสิคะมีเครื่องรางขายด้วยค่ะ”
“มีเครื่องรางความรักด้วยค่ะ ท่านเรย์กะ!”
ฉันถูกเพื่อนๆเรียกให้ไปดูที่วางขายเครื่องรางหลากสี หลากรูป ฉันมองดูเครื่องรางบนที่ตั้ง ไหนดูสิ เครื่องรางโชคดี เครื่องรางทำงาน เครื่องรางการเรียน เครื่องรางสุขภาพ แล้วก็เครื่องความรัก!
นี่มัน! ไอเท็มโชโจวมังงะชัดๆ!
อุหวา ชาติก่อนฉันก็มีพกบ้างตามประสา แต่พอมาเป็นคิโชวอิน เรย์กะแล้วให้พกเครื่องรางแบบนี้มันจะดูแปลกๆมั้ยน้า?
แต่พอเห็นเหล่าสาวๆทั้งหลายพากันเลือกดูอย่างตั้งใจ ฉันก็เลยอยากได้บ้าง แหม ถึงจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านคานทอง แต่ขอนิดๆหน่อยๆคงไม่เป็นไรหรอกมั้งคะ ฮุฮุ
แต่จะให้เลือกเครื่องรางความรักอย่างเปิดเผยก็รู้สึกเขินอาย ก็เลยทำเป็นเลือกเครื่องรางเกี่ยวกับการเรียนที่อยู่ข้างๆแทน แต่สายตาแอบเล็งอันที่ต้องการไว้แล้วค่ะ
โฮ ทำไมเป็นฉันถึงได้อนาถขนาดนี้
“ท่านเรย์กะ มีเขียนคำแนะนำไว้ด้วยล่ะค่ะ”
เซริกะจังชี้บอร์ดด้านข้างให้ดู ฉันยืนอ่าน เห เดือนเกิดฉัน...สัตว์ให้โชคเรื่องความรัก
...เป็นไก่?!
หา---!? ทำไมถึงเป็นไก่กัน!
ของเดือนอื่นยังเป็นสัตว์น่ารักๆอย่าง แมว หรือปลาเลย?
“ได้ยินอาจารย์คุยกันว่าศาลเจ้านี้ศักดิ์สิทธิ์มากเลยนะคะ ขออะไรได้แบบนั้นเลยค่ะ”
คำพูดของคิคุโนะจังทำให้แรงฮึดของฉันกลับมา
เอ้า ไก่ก็ไก่!
ฉันรวบรวมพลังขั้นสูง แล้วจก (?) เครื่องรางรูปไก่สองชิ้นมาอย่างรวดเร็ว ซื้อสองอันจะได้ไม่ดูน่าสงสัย
ฮูว ภารกิจเสร็จสิ้น ฉันกับพวกเซริกะจังคิคุโนะจังกำลังจะเดินต่อเพื่อไปขอพร แต่คาบุรากิกับเอ็นโจก็เดินเข้ามา
สาวๆที่เดินตามมาราวกับเงาตามตัวเว้นระยะห่างอย่างพอดี
คาบุรากิเดินขมวดคิ้วเข้ามาใกล้ ฉันทำท่าจะเขยิบหนี แต่กลับถูกเหล่าสาวกจักรพรรดิปิดทางล้อมเอาไว้
ฉันสาปแช่งขอพรจากไก่ สัตว์นำโชคของฉัน ขอให้ทั้งสองคนโดนจิกตายไปซ้า---!
“สวัสดี คุณคิโชวอิน”
“ท่านคาบุรากิ ท่านเอ็นโจ สวัสดีค่ะ”
ฉันยิ้มเจื่อน ส่งสายตา SOS ให้พวกเซริกะจังรู้ แต่พวกเธอกลับถอยหนีด้วยความเกรงอกเกรงใจซะงั้น!? เซริกะจาง คิคุโนะจาง พาฉันไปด้วยย!
“เครื่องราง? นี่เธอเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเรอะ” คาบุรากิเปิดปาก หมอนี่ไม่รู้อะไรซะแล้ว รู้มั้ยว่าคนเราต้องมีที่พึ่งทางใจน่ะ! หัวหน้าหมู่บ้านอย่างฉันจะให้มีคานเป็นที่พึ่งเหรอยะ! ไม่เอาด้วยหรอก!
แต่จะให้ตอบแบบนั้นก็คงจะไม่ได้ “ก็นิดหน่อยค่ะ”
คาบุรากิขมวดคิ้วมองมาที่เครื่องรางในมือฉัน ก่อนจะคลายลง แล้วเปลี่ยนมาตบบ่าฉันแทน โอ้ย มันเจ็บนะ! คิดว่าตัวเองแรงน้อยรึไงยะ! โอ้ยๆๆ ฉันได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดเบาๆจากเหล่าสาวๆผู้ติดตามจักรพรรดิ
“ฉันเข้าใจแล้ว” คาบุรากิพยักหน้าอย่างเข้าอกเข้าใจ เข้าใจอะไรยะ---! “ที่แท้เธอซื้อเพราะจะเก็บปีระกานี่เอง เอ้า พยายามเข้าล่ะ”
ตบบ่าปุๆอีกสองสามที ก่อนจะจากไป
สัตว์นำโชค! สัตว์นำโชค! สัตว์นำโชคของฉันต่างหาก!
ถึงไก่มันจะปีระกา แต่อย่าเอาฉันเหมารวมไปกับนายสิ คาบุรากิ---!
ด้วยความคับแค้นใจ ฉันเลยเอาไปลงกับการขอพรแทน ฉันโยนเหรียญห้าเยนลงกล่อง ปรบมือสองครั้งแล้วขอพร เอ่อ ว่าแต่ขออะไรดีล่ะ?
ไม่สิ!
ท่านเทพคะ! ขอให้ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนคิโชวอิน เรย์กะคนนี้ด้วยเถอะค่ะ!
ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องจะขอพรอย่างอื่นอีก ก็ดันเหลือบไปเห็นคาบุรากิกับเอ็นใจที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ แล้วก็เผลอได้ยินสองคนนี้เขาคุยกัน
“เฮ้อ ไม่อยากไปงานของแม่เลย”
“เอาน่า มาซายะ ถือว่าช่วยงานไงล่ะ”
“เป็นนายนี่ดีจังเลยนะ ชูสุเกะ น่าอิจฉาชะมัด”
คนที่น่าอิจฉาจริงๆคือนายนั่นแหละคาบุรากิ! มีทุกอย่างอยู่รอบตัว! มีคู่บุพเพอย่างวาคาบะจังอยู่แล้ว! ฉันสิ! ดำรงตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านมายาวนานยังไม่เห็นจะบ่นเลย! (ที่จริงคือบ่นไม่ได้มากกว่าค่ะ โฮ)
“อยากเป็นนายจังเลยแฮะ”
“แต่ให้ฉันเป็นอย่างมาซายะก็ไม่ไหวหรอกนะ แต่ถ้าให้เลือกล่ะก็ขอเป็น...” เอ็นโจหยุดพูด ก่อนจะหันมามองฉันที่มองอยู่ก่อนแล้ว ฉันเลยหันกลับแทบไม่ทัน
หวา หวา หวา คงไม่รู้ตัวหรอกนะคะว่ามีคนแอบฟังอยู่!? อ้าว แล้วฉันจะไปแอบฟังทำไมเนี่ย?
“ท่านเรย์กะ” ฉันถูกเรียกโดยเซริกะจัง ก็เลยเลิกสนใจสองคนนั้นไปโดยปริยาย
...โดยไม่รู้ตัวเลยว่าความคิดชั่ววูบที่อิจฉาคาบุรากิจะนำเรื่องวุ่นวายมาให้!
เพราะรู้สึกว่าเตียงที่นอนอยู่มันแข็งจนปวดหลัง ก็เลยรู้สึกไม่สบายตัว เตียงฉันมันแข็งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ไหนจะหมอนที่สูงเกินไปนี่อีก ปวดคอจังเลย สุดท้ายฉันก็เลยต้องตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อาเร๊ะ? ไหงห้องฉันมันมืดแบบนี้ละคะ?
แต่คงเป็นเพราะยังไม่สว่างมากกว่าล่ะมั้งคะ
ฉันตอบตัวเอง พลางบิดขี้เกียจ รู้สึกตัวหนักๆพิกล ตรงหว่างขาก็รู้สึกแปลกๆ คงคิดไปเองล่ะมั้ง
ฉันหาวออกมา ก่อนจะก้าวลงจากเตียง อ้าว นี่คุณแม่บ้านมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเป็นสีดำตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะเนี่ย
ฉันเบลอๆลากขาเข้าห้องน้ำ ไหนๆก็ตื่นแล้วไปโรงเรียนเร็วกว่าเดิมนิดหน่อยละกัน
แต่ภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกก็ปัดความเบลอทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
เสียงฉันโหยหวนไปทั่วคฤหาสน์
ฉันกลายเป็นคาบุรากิไปแล้ววว---!?
ปึงๆ
“คุณมาซายะ เกิดอะไรขึ้นคะ!” เสียงของมาดามคาบุรากิดังจากหน้าประตู ฉันมองซ้ายมองขวา ว้าก ไหงฉันกลายเป็นคาบุรากิไปได้เนี่ย?! นี่มันจะการ์ตูนไปแล้ว! แต่ไอ้ตัวฉันที่หลุดมาอยู่โลกคิมิดอลได้ตั้งเกือบสิบแปดปีก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกค่ะ
ฮือ น่ากลัว น่ากลัว
ไม่กล้าเข้าห้องน้ำเลยค่ะ
มิน่ารู้สึกแปลกๆระหว่างขา
แง หนูมีแท่งงอกออกมา!
ฝัน...หรือจะเป็นฝัน! ฉันละล่ำละลักอยู่ตรงหน้าต่าง ทั้งจิก ทั้งตบ ทั้งบิดเนื้อ แอบน้ำตาไหลกับความเจ็บ แง แต่ก็ยังไม่ยอมตื่นอยู่ดี!? หรือมันยังเจ็บน้อยไป!? หรือมันต้องเจ็บแบบให้สะดุ้งตื่นให้คราวเดียว!?
กริ๊ก! มาดามคาบุรากิเปิดประตูเข้ามา มองฉันด้วยท่าทางเป็นห่วง
“คุณมาซายะ เป็นอะไรไปคะ”
มาดามทำท่าจะเดินเข้ามากอดปลอบฉันที่อยู่ในร่างคาบุรากิ สายตาเปี่ยมไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นสภาพลูกชายตัวเองชัดๆ ผมยุ่งเหยิง ใบหน้าตื่นตระหนกแบบที่ไม่เคยได้เห็น
ไม่ ไม่ ไม่ ฝัน นี่ต้องเป็นความฝันแน่ๆ!
ฉันต้องตื่น!
ต้องเจ็บมากกว่านี้!
ฉันรวบรวมพลังขั้นสูงอีกครั้ง ก่อนจะกระโดดออกนอกหน้าต่างทันควัน
I believe I can flyyyyyy!
“กรี๊ดดดดด คุณมาซายะ---!!!”
พวกมึงใจร้ายกับเอ็นโจชิบหายเลย โอ๋ๆ ไม่ต้องร้องนะคะ เดี๋ยวจะช่วยกอบกู้เรือให้น้าาาา
พิมพ์ได้แล้วเหรอ ทำไมก่อนหน้านี้กูกดโพสต์ไม่ได้(เป็นชั่วโมงเลย) เว็บรวนใช่ป่าว หรือเป็นแค่เรื่องกู
>>20 ตามนี้ >>>/meta/2804/846
กูว่าเว็บรวนเพราะอำนาจมืดของจอมมารแน่ๆ ไหนใจจะจมเรือท่านจอมมารนะ
I can flyyyyy~ ท่านเรย์กะมาอยู่ในร่างบากะรากิก็เลยบ้าตามใช่มั้ย55555555555 โม่งฟิคแต่งดีมาก ประทับจายยย /ส่งกาวให้สองถัง แต่งต่อไปนะ เป็นกำลังใจให้!
ไม่เกินคืนนี้พวกมึงได้อ่านสลับร่างสามคนต่อ กูขอเวลาพี้กัญชาแปป ฟืดฟาด
งั้นมาซายะจะอยู่ในร่างของเอนโจว เอนโจวอยู่เรย์กะถูกมะ
กุวาดภาพประกอบฟิค >>15 >>16 มา
กุเม้น >>32 เอง(บอกทำไม? เออนั่นดิ )
http://imgur.com/a/w8wzw
พวกมึงนี่น้าาา ตอนดึก ๆ ล่ะคึกกันจัง กูไปนอนล่ะไม่ไหวโคตรง่วง พรุ่งนี้ตื่นมากูอาจมาเจอเม้นอยู่ที่ 400 กว่า ๆ ก็เป็นได้.. ราตรีสวัสดิ์เพื่อนโม่ง จุ๊ฟ ๆ
>>42 มึงลองกดเข้าไปดูใหม่สิ ดูได้รึยัง กูกดแก้ไปนิดหน่อยตอนลงใหม่ๆ
ไม่ก็ลอง http://imgur.com/a/w8wzw (กุลองก๊อปลิงค์มาใหม่)
ชะอ้าว กูเขียนสลับร่างสามคนไปครึ่งหนึ่งพอดี....งั้น ของกูก็ไม่ต้องลงแล้วสินะ เย้
>>46 >>47 ลองอันนี้ดูได้ไหมอะ? https://drive.google.com/file/d/0B5wqTNdLnv19NGg5SVRFcXg4SnM/view?usp=sharing
จริงๆภาพมันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากนักหรอก 555555 แค่วาดเล่น
พร้อมรับทุกฟิค
กูว่านะ สลับร่างเรย์กะกับมาซายะไม่ค่อยมีคนจับได้หรอก บ้าเหมือนกัน#โดนพัดตบ
แต่ถ้าเพิ่มเอ็นโจเข้ามาด้วย สนุกแน่ๆ555555555555
ต่อจาก >>15-16
วันนี้พอแค่นี้ กาวกูหมดป๋องและ
-------
เจ็บจัง ฮือ ทำไมเจ็บจัง ฉันน่าจะตื่นจากฝันได้แล้วสิ!
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา เพดานสีขาวเหมือนในห้องของฉัน!? นี่ฉันตื่นแล้วสินะคะ! ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ช่างเป็นเช้าที่ฝันร้ายสุดๆไปเลยค่ะ
ฉันพยุงตัวขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง
อาเร๊ะ
“แจ้งมาดาม! ท่านมาซายะฟื้นแล้ว!”
เหล่าแพทย์รอบตัวกรูกันเข้ามาถามอาการ ต่างกับฉันที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว อ่า ฉันเห็นคุณยมทูตมายืนรอตรงหน้าต่างด้วยล่ะค่ะ
ทุกคน ลาก่อนค่ะ ฮือ
ปึง!!!
วิญญาณฉันกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองผู้มาใหม่ที่เปิดประตูซะเสียงดังลั่นไม่เกรงใจใคร
“ท่านชูสุเกะ?” แพทย์คนหนึ่งพูดพลางมองเอ็นโจในชุดนักเรียนอย่างงุนงง ใบหน้าของเอ็นโจชุ่มไปด้วยเหงื่อราวกับเพิ่งวิ่งรอบสนามมาแถมบนหัวยังมีผ้าพันแผลพันรอบเอาไว้ด้วย? สายตาของเอ็นโจมองตรงมายังฉันในร่างคาบุรากิด้วยแววตาหวาดระแวง
“นายเป็นใครกัน!!!”
หา?
เอ็นโจที่ดูเหมือนไม่ใช่เอ็นโจ วิ่งเข้ามาเขย่าคอฉันอย่างรุนแรง ว้ากกก มึนหัวววว นี่นายจะฆ่ากันเรอะ ฉันเพิ่งโดดหน้าต่างมาเองนะยะ!!
“อ..อ่อก”
นี่นายจะฆ่ากันใช่มั้ยยยยย!
“ท..ท่านชูสุเกะ ใจเย็นก่อนครับ!”
แพทย์จะเข้ามาห้ามเอ็นโจ หมอนั่นสะบัดหน้าหันไปส่งสายตาเขม็งใส่ แพทย์คนนั้นนิ่งไปราวกับหิน เดือดร้อนเพื่อนแพทย์ต้องมาลากตัวออกจากห้องไป...เดี๋ยวๆ นี่จะทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เลยเรอะ!?
กลับมาก๊อนนนนน!!!
“ออกมาจากร่างฉันเดี๋ยวนี้นะ!!”
ร่างฉัน...?
อย่าบอกนะว่า---
หมอนี่คือคาบุรากิ?!
“ท่าน...คาบุรากิ?”
ฉันพูดอย่างลำบาก เพราะเอ็นโจ เอ่อ คาบุรากิยังกำรอบคอเสื้อไม่ปล่อย เจ้าตัวดูจะชะงักไปกับคำพูดฉัน มือคลายลง แต่ยังไม่ได้ปล่อย แถมยังจ้องอย่างหวาดระแวงมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
“ฉ..ฉันคิโชวอิน เรย์กะเองค่ะ!”
“...หา คิโชวอิน?”
คาบุรากิปล่อยมือจากคอเสื้อ มองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ยอมถอยไปนั่งข้างเตียง เกิดเดดแอร์ขึ้นระหว่างพวกเราสองคน ฉันยังสับสนอยู่นิดหน่อย ต่างกับคาบุรากิที่เหมือนจะไปเข้าฌาน (?) รวบรวมสติกลับมามากกว่า
อยู่ๆคาบุรากิก็บ่นออกมาท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด (เรอะ)
“นี่เธอ วันหลังอย่าเอาร่างคนอื่นไปซ้อมโดดตึกอีกล่ะ ถึงข้างล่างจะมีพุ่มไม้รองรับก็เถอะ แต่มันก็เจ็บอยู่ดี”
ซ้อมโดดตึก!? ในสายตาคาบุรากิ มองฉันเป็นคนยังไงกันแน่ย้า---!!!
แต่ก็อดสำนึกผิดขึ้นมานิดๆไม่ได้ ถ้าเกิดห้องที่หมอนี่อยู่สูงกว่านี้อีกสักสองสามชั้น ฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ฮือ สำนึกผิดแล้วค่ะ
“ท่านคาบุรากิเองก็เถอะ แผลบนหัวนั่นไปโดนอะไรมาเหรอคะ...”
เมื่อวานเอ็นโจก็ยังไม่มีแผลบนหัวเลยนี่? หรือเกิดตอนอื่น?
“อ๋อ พอดีคิดว่าเป็นความฝันก็เลยเอาหัวพุ่งใส่กระจกน่ะ”
ชักสงสารเอ็นโจที่มีคาบุรากิในร่างซะแล้วสิ
แต่ฉันก็เมินคำพูด แล้วเปลี่ยนเรื่อง “ท่านคาบุรากิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉันถึงมาอยู่ร่างท่าน---”
เดี๋ยว
ถ้าฉันมาอยู่ร่างคาบุรากิ
คาบุรากิมาอยู่ร่างเอ็นโจ
แล้วเอ็นโจ...ก็ต้องอยู่ร่างฉันน่ะเซ่!
กรี๊ด--- แบบนั้นหมอนั่นก็เห็นร่างกายฉันหมดเลยนะสิ! ไม่น้า---!
ฉันคร่ำครวญในใจ คาบุรากิกลับขมวดคิ้ว พอมาอยู่ในร่างเอ็นโจแล้วกลับรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเลยค่ะ จอมมารจอมทวงหนี้มาทำท่าแบบนี้กลับไม่รู้สึกถึงออร่าจอมมารเลย เอ่อ สงสัยไม่มีรอยยิ้มพิฆาต (?) ล่ะมั้งคะ
“อย่างนี้ชูสุเกะก็อยู่ร่างเธอน่ะสิ”
อีตานี่ก็หัวไวเหมือนกันแฮะ ค่อยสมกับลำดับที่หนึ่ง!
“ก็น่าจะใช่นะคะ”
“...ถึงจะสลับร่างกัน ฉันว่าชูสุเกะก็คงไปรอพบเราที่โรงเรียนนั่นแหละ”
คาบุรากิลุกขึ้นยืนพลางสั่งด้วยท่าทางแบบเดิม แต่ในร่างของเอ็นโจกลับให้ความรู้สึกอีกแบบมากกว่า
“เอ้า ไปแต่งตัวซะ เราจะไปโรงเรียนกัน!”
แต่งตัว!? โรงเรียน!?
ม่ายน้า หนูไม่อยากเข้าห้องน้ำ!
สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องยอมทนเข้าห้องน้ำอยู่ดีค่ะ ฮือ ไม่นะ ฉันเสียบริสุทธิ์ทางสายตาไปแล้ว---!!
แต่กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลานานโข ตอนออกมาจากห้อง คาบุรากิในร่างเอ็นโจแทบจะเข้ามากินหัวเลยค่ะ ช่วยไม่ได้นี่ยะ! ฉันไม่เคยเป็นผู้ชายมาก่อนนะ! ปุบปับจะให้ทำอย่างง่ายๆมีที่ไหนกัน!
“เร็วๆ เข้าสิ คิโชวอิน! อย่างน้อยจะได้ทันคาบสอง!”
เป็นขนาดนี้แล้วยังจะมีกะจิตกะใจเรียนอีกเร้อออ
ฮือ หนูอยากกลับบ้าน หนูอยากกลับร่าง!
ถ้าคะแนนตกจริงๆ มาดามคาบุรากิคงคิดว่าลูกคงโดนสาวหักอกมาอีกแล้ว แถมช่วงนี้บ้ามากกว่าเดิมนิดนึงด้วย
ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/3588/833-834/ ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ไม่ค่อยถนัดเขียนบทคนธรรมดา(?)เท่าไหร่ อาจจะแปลกๆนะคะ 5555
..............…….....
หลังจากฉันก็ทำพังเรื่องพยายามทำตัวไม่สนิทกับคาบุรากิในที่สาธารณะ และหมอนั่นเองก็ไม่คิดจะทำอย่างนั้นตั้งแต่แรก สุดท้ายเราก็ล้มเลิกความพยายามแบบนั้นไปแล้วค่ะ แต่ว่าท่านพ่อท่านแม่ดีใจกันใหญ่เลยค่ะ ไม่รู้ทั้งสองคนเอาข่าวมาจากไหนกัน...
ฉันแอบตามดูวาคาบะจังบ่อยๆ เผื่อมีใครมาตามมาแกล้ง จะได้จัดการได้ทัน ก็ได้เห็นว่าวาคาบะจังกำลังฝึกเขียนหนังสือด้วยมือซ้ายล่ะค่ะ หลังๆเหมือนจะคล่องขึ้นแล้วด้วยค่ะ เก่งจังเลยนะวาคาบะจัง ดีใจด้วยนะ แบบนี้น่าจะผ่านวิกฤตไปได้แล้วล่ะ
ส่วนคนที่เหยียบมือวาคาบะจังนั้น อยู่ๆก็หายตัวไปจากโรงเรียนเลยค่ะ... ฉันไม่แน่ใจว่าควรถามคาบุรากิดีไหม แต่คาดว่าหมอนั่นน่าจะอยู่เบื้องหลัง อื้ม หรือบางทีเอ็นโจอาจจะจัดการให้ก็ได้ เอ็นโจชอบช่วยลับหลังแบบนี้ตลอดล่ะนะคะ ถ้าไม่ติดว่าฉันมีชาติตระกูลสูง เอ็นโจคงกำจัดฉันได้ไปนานแล้วค่ะ...
จริงๆ เอ็นโจน่าจะเกือบกำจัดฉันได้แล้วล่ะนะคะ ถ้าไม่ใช่ว่าคาบุรากิมาช่วยฉันเอาไว้ ความสัมพันธ์ทั้งคู่ดูแตกแยก แต่ท้ายที่สุดก็เหมือนจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อย่างงงๆ
คิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกโชคดีจริงๆนั่นแหละค่ะที่ฉันไม่ได้ทะลุมิติมาโลกนี้คนเดียวล่ะนะคะ
ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วยค่ะ เนื้อหายากกว่าครั้งที่แล้วอีกนะคะ กลัวอันดับร่วงจนไม่ติดบอร์ดจังเลยค่ะ... ฉันเลยพยายามตั้งใจมากกว่าครั้งที่แล้วเสียอีก ท่านแม่กรีดร้องเมื่อเห็นฉันอ่านหนังสือจนดึกจนดื่น บอกว่ามันทำร้ายสุขภาพผิวอะไรยังไง และย้ำว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนหนักขนาดนั้นหรอก
ฉันเลยต้องแอบอ่านใต้ผ้าห่มด้วยไฟฉายเอาแทนค่ะ
แต่คงเพราะจริงจังมากเกินไป ในห้องเรียนเลยรู้สึกง่วงๆอย่างบอกไม่ถูกเลย ฝืนเกินไปสินะคะ...
ช่วงพักแทนที่ฉันจะลากตัวเองไปกินอะไรสักอย่าง ฉันกลับขอตัวเพื่อนๆมาแอบหลับในห้องสมุดเย็นๆแทน ไม่ไหวแล้วค่ะ...
อยู่ๆฉันก็สะดุ้งตื่น สัญชาตญาณบอกว่ามีใครแอบดูอยู่เลยรู้สึกร้อนๆหนาวๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นนายตัวสำรองยืนขมวดคิ้ว
“ห้องสมุดไม่ใช่ที่สำหรับนอนนะ”
“เอ๊ะ...ขอโทษค่ะ”
ฉันตอบรับอย่างมึนๆ แล้วมองเวลา เกือบจะเข้าเรียนแล้วนี่นา ดีจริงๆที่นายตัวสำรองมาเตือนได้ทันเวลา ไม่งั้นหลับเพลินไปอีกนานแน่ๆค่ะ แต่ว่านะ วันนี้นอนเร็วตามที่ท่านแม่บอกน่าจะดีกว่าล่ะมั้งคะ... มาง่วงตอนเรียนแบบนี้ไม่คุ้มเลยค่ะ
หิวด้วย... ตอนพักจะรีบออกมาหาอะไรกินในสโมสรแล้วกันนะคะ
ฉันลุกขึ้นอย่างโซเซนิดหน่อย
“ไม่เป็นไรใช่ไหม” นายตัวสำรองถาม “ถ้าไม่สบายก็ไปที่ห้องพยาบาลไหม”
ฉันมองนายตัวสำรองอย่างงงๆ ฉันเป็นคนที่รังแกคนที่นายรักนะ ทำไมถึงพูดอะไรแบบนั้น หรือว่าเป็นหน้าที่ของประธานนักเรียนที่จะดูแลนักเรียนทุกคนที่ลำบากอย่างเท่าเทียม
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ” ฉันยืนยันขณะกดท้องตัวเองไม่ให้ร้องออกมา “คาดไม่ถึงเลยนะคะว่าคุณจะเป็นห่วงคนที่รังแกคนอื่นไปทั่วอย่างฉันด้วย โดยเฉพาะหลังจากสิ่งที่ฉันทำกับคุณทาคามิจิ”
“หมายถึงเอาตัวไปรับกาแฟร้อนเอง ไม่ก็เผชิญหน้ากับคนที่เหยียบมือทาคามิจิน่ะหรอ”
เอ๊ะ...เรื่องนั้นจะปิดยังไงก็ยากสินะคะ ฉันทำท่ามกลางที่สาธารณะขนาดนั้น
“นั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญค่ะ ฉันแค่ไม่ถูกใจผู้หญิงเหล่านั้นอยู่แล้ว เลยถือโอกาสหาเรื่องเฉยๆค่ะ อีกอย่างก่อนหน้านั้น ฉันเองก็แกล้งคุณทาคามิจิไว้ตั้งมากมายไม่ใช่หรือไงคะ”
“นั่นมันก่อนจะสูญเสียความทรงจำนี่ และก็จะบอกว่าบังเอิญ แต่ทำไมถึงเปลี่ยนรองเท้าให้ทาคามิจิล่ะ”
เหหหหหหห!?! ระ...รู้ได้ยังไงคะ ตอนนั้นมันยังเช้ามากๆ แถมมองรอบๆก็ไม่เห็นมีใครเลยนี่คะ...
ฉันรีบเก็บอาการให้เร็วที่สุด แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้ว
“พอดีแอบดูสถานการณ์อยู่แถวนั้นน่ะ พอเห็นคุณเข้ามาพูดกับคนทำก็รอดูว่าจริงๆคุณอยู่เบื้องหลังหรืออะไรหรือเปล่า ก็เลยได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดน่ะ”
“...”
เห็นจริงๆด้วยสินะคะ จะปฏิเสธยังไงดีล่ะคะเนี้ย
“อย่าบอกคุณทาคามิจิได้ไหมคะ” ฉันตัดใจโยนศักดิศรีไปชั่วคราว รู้สึกไม่อยากให้วาคาบะจังรู้เรื่องนี้เลยค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน มันคงอึดอัดแปลกๆน่าดูเลยนะคะที่คนที่แกล้งมาตลอดอย่างฉันเข้าไปช่วยเหลือ
นายตัวสำรองจ้องมองฉันสักพัก ไม่ยอมตอบ อย่าเงียบสิคะ...อย่าบอกนะว่านายบอกไปแล้วน่ะ!
“อย่างนั้นก็ได้ ถ้าคุณคิโชวอินต้องการล่ะนะ...”
เอ๋? ยังไม่ได้บอกสินะคะ ค่อยยังชั่วหน่อย จะว่าไปนายยังไม่สนิทกับวาคาบะจังมากพอที่คุยเรื่องพวกนี้งั้นหรอ อื้ม ในนิยายก็น่าจะประมาณนี้ล่ะมั้ง ที่มาสนิทกันจริงๆก็ประมาณม.6 แล้วนี่น่า คงอีกพักใหญ่
“ไม่อยากเชื่อจริงๆว่าคุณจะเปลี่ยนไปขนาดนี้”
“อ้า งั้นหรอคะ...”
“ขอโทษที่ก่อนหน้านั้นอคติมากไปหน่อยนะ”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันเองก็ทำตัวให้น่ามีอคติใส่อยู่เหมือนกัน”
ฉันตอบรับไป มองเวลาอีกครั้ง อีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาเรียนแล้วล่ะนะคะ คงต้องรีบไปแล้ว
“คุณคิโชวอิน ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้นะ”
“เอ๋...” ฉันชะงัก หมอนี่กำลังรู้สึกผิดใส่อคติกับฉันเลยพยายามไถ่โทษหรอ ฉันอยู่กับคนแบบคาบุรากิมากเกินไปจนลืมๆไปแล้วว่าคนปกติคิดยังไงล่ะนะคะ
“งั้นขอถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ ย้อมผมสีเงินไม่ผิดกฎระเบียบหรอคะ”
ฉันมองผมสีเงินของนายตัวสำรองอย่างคาใจ นี่เป็นสิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอดเลยค่ะ แต่ว่าในโลกก่อนคงไม่มีใครเข้าใจหรือให้คำตอบฉันได้ ไหนๆก็เข้ามาในโลกที่คล้ายนิยายมากกว่าโลกเดิมแล้ว ขอถามเรื่องนี้หน่อยเถอะค่ะ
“ฉันไม่ได้ย้อมผม”
นายตัวสำรองตอบ ท่าทางคาดไม่ถึงกับคำถามฉันเท่าไหร่
“เอ๋! แล้วทำไมถึงมีผมสีเงินได้หรอคะ”
นายตัวสำรองมองฉันแบบคลับแคลงสงสัย
“สีเงินก็สีผมธรรมชาตินี่”
“เหหหห!” ฉันอุทานออกมาอย่างตกใจ จะว่าไป ฉันไม่เคยคิดในมุมนี้มาก่อนเลย อ้า โลกนี้ผมสีเงินถือว่าปกติสินะคะ ความรู้รอบตัวที่สุดยอดไปเลยค่ะ
หลังจากได้คำตอบแล้ว ฉันจะเดินจากไปอย่างพึงพอใจ แต่นายตัวสำรองหยุดไว้ก่อน
“พูดถึงผิดกฎระเบียบ ม้วนผมของเธอก็ผิดนะ”
อ้า...นั่นสินะ
ฉันทำเป็นไม่ได้ยินรีบเข้าห้องเรียนให้ทัน และหนีห่างจากนายตัวสำรอง
วันนั้นฉันเขียนเมลล์ถึงคาบุรากิอย่างตื่นเต้น เรื่องที่แตกต่างแต่ดูไร้สาระแบบนี้เขาต้องชอบแน่ๆ คาบุรากิตอบมาในเวลาที่รวดเร็วมากว่า จริงๆแล้วนอกจากสีเงินแล้ว ยังมีสีแปลกๆอีกหลายสีที่ถือเป็นสีธรรมชาติ เช่น สีเขียว สีฟ้า สีส้ม สีชมพู สีม่วง หมอนี่ก็รู้เรื่องแบบนี้อยู่แล้วหรอ สมกับเป็นเขาจริงๆ
นี่เป็นโลกในมังงะจริงๆด้วยล่ะนะคะ แสดงว่าที่ฉันเห็นคนผมหลากสีนี่เป็นสีธรรมชาติเองหรอคะ
ฉันอยากลองมีสีผมแบบนั้นบ้างจังค่ะ หลุดมาในโลกนิยายทั้งทีกลับเป็นสีปกติล่ะนะคะ เสียดายจัง
“ว่าแต่รู้เรื่องนี้ แสดงว่าไปคุยกับประธานนักเรียนนั่นมาหรอ” คาบุรากิส่งเมลล์ถามมา ฉันก็ยอมรับไปว่าคุยมาจริงๆ เขาก็ไม่ตอบอะไรฉันมาอีก
ฉันอ่านหนังสืออย่างเคร่งเครียดอีกสักพัก มีจุดที่ฉันสงสัยมากๆเลยค่ะ แล้วพอไม่เข้าใจก็อ่านต่อไม่ได้ซะที หรือวันนี้ไว้แค่นี้ แล้วเก็บไปถามอาจารย์มารินทีหลังดีไหมนะคะ
ฉันตัดสินใจลองเมลล์ไปถามคาบุรากิดู ยังไงหมอนั่นก็สอบได้ที่ 1 ประจำ อาจพอช่วยอะไรได้บ้าง
10 นาทีต่อมา คาบุรากิส่งคำอธิบายยาวเยียดมาให้จนฉันตกตะลึง แต่ว่าพออ่านจบแล้วก็ยังงงๆอยู่ดี หมอนั่นพยายามถามคำถามทดสอบว่าฉันเข้าใจหรือยัง แต่ก็สิ้นหวังทีเดียวค่ะ ในที่สุดฉันก็บอกว่าไม่เป็นไร
ก็นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยถามอาจารย์ก็ได้ค่ะ รบกวนเวลาคาบุรากิมากไปก็ดูไม่ดี
ฉันอ่านวิชาอื่นแทน อยู่ๆก็มีคนมา สงสัยอาจจะเป็นท่านพ่อล่ะมั่งคะ ช่วงนี้งานหนักทีเดียว คงน่าดีใจกว่านี้ถ้าท่านพ่อหยุดโกงซะทีนะคะ...
ท่านแม่เดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทางดูดีใจสุดๆบอกว่ามีแขกมาหา
ฉันตกตะลึงเมื่อคาบุรากิเดินเข้ามา
"ท่านคาบุรากิ มาทำอะไรที่นี่ตอนนี้คะ!?!”
"เธอทำเอาฉันนอนไม่หลับ"
"หะ?!"
"ให้ตายเถอะ ถ้าเธอไม่เข้าใจจุดนั้นมันจะพังทั้งเรื่องเลยนะ"
"เอ๊ะ..."
นายกังวลเรื่องนั้นจนนอนไม่หลับงั้นหรอ... คิดมากเกินไปแล้วนะ!
คาบุรากิเอาหนังสือวิชานั้นมาด้วย นั่งลงข้างๆและพยายามอธิบายพร้อมวาดแผนผังประกอบให้เข้าใจง่าย นายก็สอนคนเก่งเหมือนกันนะ น่าช็อกชะมัดที่หมอนั่นวาดรูปได้น่ารักมากๆเลยค่ะ เก่งรอบด้านสมกับเป็นพระเอกมังงะมั้งคะ
พอฉันเข้าใจดีแล้ว คาบุรากิก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ บอกว่าเราในฐานะตัวแทนคนที่ทะลุมิติมา ต้องเอาชนะคนในโลกนี้ให้ได้ นายมีเป้าหมายอะไรแปลกๆอีกแล้วหรอคะ...
เราคุยทบทวนกันอีกสักพัก คาบุรากิก็กลับบ้าน ท่านแม่เหมือนพยายามอยากให้คาบุรากินอนค้างที่นี่ แต่ฉันค้านสุดชีวิต
เห็นแววตาเป็นประกายของท่านแม่แล้วใจคอไม่ดีเลยค่ะ...
>>70-71 กูตายแล้วววววว มันโดขิโดขิมากเลย ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ ตอนนี้นายตัวสำรองเท้เท่!!! นึกว่าจะคะแนนนำที่ไหนได้ คาบุรากิทำคะแนนพุ่งกระจุยเลยค่ะ เอื้ออออ ดีต่อใจ ฮือๆๆๆๆๆๆ
คาบุรากินายหึงใช่ไหม ก็นายเข้าใจผิดว่าเรย์กะชอบนายตัวสำรองตั้งแต่โลกก่อนแล้วนี่
ตอนใหม่มาแล้ว ขอบคุณโม่งแปลมากกกกกกกกก *กอดดดดดดดด*
วันนี้ขอบคุณทั้งโม่งฟิคโม่งแปลเลยน้าา
เปิดมาก็เจอแต่เรื่องดีๆเลย หุหุหุ/หัวเราะแบบผู้ดีซุยรัน
ตอนใหม่ ขอบคุณโม่งแปลมากเลยค่า ฮือออ
ท่านพี่คะ! ขอโทษที่เคยจิ้นให้ท่านพี่คู่กับอิมาริค่ะ ตอนนี้รู้แล้วว่าท่านอิมาริควรคู่กับกุ แอร๊ย/โดนตบ ซิสค่อนแบบนี้น่ารักจังเลย ท่านเรย์ก๊าาาา ชีวิตจะดีไปแล้วนะเธอ!!
ท่านพี่ออกมาน้อยๆ แต่มาทีไรก็ชื่นใจ มีท่านพี่สุดหล่อในชุดสูทมานั่งลงคลายปมเนกไทใกล้ๆ นี่ จอมมารก็จอมมารเถอะ....
มัวแต่เเล่นเรือเอ็นโจตั้งนาน เกือบลืมไปว่าเรือยอร์ชที่ตามมามันคือเรือท่านพี่.. /ทิ้งเรือเอ็นโจ
กรี๊ดดดดด วันนี้โม่งแปลเอาท่านพี่มาเสิร์ฟด้วย ฉากคลายเนคไทนี่ป้ามโนแล้วระทวยอยุ่ในซอกหลืบของโซฟา ท่านพี่ยังคงซิสค่อนเสมอต้นเสมอปลาย ขนาดเจอสนธยาลาลับฟ้าเข้าไปยังโอ๋ต่อได้ เป็นทานุกินี่คงสตั๊นท์ไปละ 55
ตอนล่าสุด ท่านพี่แสดงความซิสค่อนได้ชัดเจนฝุดๆ ถึงบ้านเราจะล้มละลาย แต่สำหรับน้องพี่มีค่าเทอมให้เสมอจ๊ะ ส่วนสกิลมโนเรย์กะนางยังล้ำเลิศเหมือนเดิม ไม่รู้ตัวเองจริงดิว่าเป็นเจ้าแม่กาลีที่ด่าทั้งคาบุรากิทั้งเอ็นโจจนต้องมาขอโทษ ไหนว่าคุมสองคนนี้ไม่ได้ไงล่ะ ถถถถถถ
>>86 ก๊ากกกกก สงสารเอ็นโจจริงๆ มีลูกเรือหนอนบ่อนไส้เต็มไปหมด คนนั้นคนนี้ก็พากันทรยศหนีไปซบเรือคนอื่น ที่เหลืออยู่ก็เจาะรูเรือตัวเองเล่นซะงั้น
เมื่อวานปิดท้ายด้วยการกล่าวว่าจะจมเรือจอมมาร เว็บล่มไปเป็นชั่วโมงเลยนะเฮ้ย ทำเป็นเล่นไป
ท่านพี่คือโคตรดีอ่ะ ถ้าเรย์กะจะขยันหักธงก็ยังเหลือท่านพี่วะ เอ้า อย่างน้อยคงหักศอกหลบเรือคานไปเรือค้ำคอได้แบบฉิวเฉียด
ชายใดเล่าจะดีเท่าท่านพี่
ฉากคลายเนคไทนี่ฆ่ากูสุดๆ ท่านพี่คะฟฟฟฟฟฟ
//โดดข้ามเรือจอมมารโผเข้าอ้อมอกท่านพี่
ท่านพี่ ~ กูเกือบกรี๊ดกลางโรงอาหาร สายเปย์มากข่ะ รักท่านพี่ กรีดร้องงงงงงงงงง
ปล. ขอบคุณโม่งแปลมากกก โอเอซิสของกู้ววว
ขอบคุณโม่งจริงๆนะ ท่านพี่มีบทนิดเดียวแต่เอาใจหนูไปเลยค่าาาาา ละมุนนนนนนสุดดดดดด ท่านเรย์กะจะปฏิเสธประธาน pivoine ยังไงอ่ะ ถึงทำเพ้อเป็นตัวละครเลย เฮอะๆ
เออมีความสงสัยว่าตอนเป็นภาษาญี่ปุ่นนี่สองพี่น้องแทนตัวเองว่าอะไรกันอะ มีสรรพนามแทนตัวแบบพี่ - น้อง เหมือนในภาษาไทยที่โม่งแปลใช้รึป่าวอะ หรือเป็นเหมือนอังกฤษที่มีแค่ I - you อะไรแบบนี้ กุข้องใจ อยากเอามาประกอบการจิ้นโมเม้นพี่น้องฟรุ้งฟริ้งในหัว 55
โอ๊ยท่านพี่ ออกมาแค่นี้แต่กุพร้อมล่มทุกเรือเพื่อท่านพี่เลยคร้าาาา ไม่แปลกใจทำไมเรย์กะมีสกิลหักธงสูงก้อมีผู้ชายแบบท่านพี่ใครก้อสู็ไม่ได้5555
วันนี้พอจะมีฟิคกาวให้กุเสพไหมวะ
>>63 มาต่อกับฟิคตำนานรัก (มันมีที่มาของชื่อนะเว้ย แค่ยังไม่ถึง 55)
--------
แต่ด้วยแรงไม่ค่อยจะน้อยของคาบุรากิ หมอนั่นก็ลากฉันเข้าโรงเรียนจนได้
อาจารย์ข้างหน้ามองพวกเราอย่างตำหนิเล็กน้อยที่มาสายเอาป่านนี้ แต่ด้วยอิทธิพลของ Pivoine หรืออย่างไรไม่ทราบ พวกเราเลยไม่โดนทำโทษอะไรเลย แถมปล่อยเข้าโรงเรียนง่ายๆเลยด้วย!?
คาบุรากิบ่นอุบถึงความไม่ยุติธรรมที่ไม่โดนลงโทษ หา นี่นายอยากโดนทำโทษเหรอยะ ไปสิ ไปเลย! ไปวิ่งรอบสนามสองรอบซะ! แล้วก็ปล่อยฉันไปปปป!
คาบุรากิลากฉันมาหน้าห้องตัวเอง เพราะกำลังอยู่ในชั่วโมงเรียน รอบข้างก็เลยเงียบ ไม่มีนักเรียนคนไหนอยู่บนทางเดินเลย
“ฉันนั่งแถวที่สามนับจากทางซ้าย ไปล่ะ เจอกันพักกลางวัน”
เดี๋ยวววว
นายลากฉันมาโรงเรียนได้ แต่จะมาทิ้งกันเฉยๆอย่างนี้ไม่ได้!
แต่หมอนั่นเดินไปแล้ว ฉันเลยได้แต่สาปแช่งในใจ และในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ก็เลยต้องเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน
ครืด
สายตาของทุกคนหันมามองฉันในร่างคาบุรากิ แงง จะตายแล้วค่า
“ท่านคาบุรากิมาสายนะครับ แต่ไม่เป็นไร นั่งที่เถอะครับ เราจะได้มาเรียนกันต่อ”
โฮ คาบุรากิ นายไม่ต้องบอกที่นั่งตัวเองก็ได้นะ ก็มันเหลืออยู่ที่เดียวนี่นา~!
ฉันเดินตัวลีบเข้าไปนั่งที่ ไม่วายได้ยินเสียงซุบซิบจากพวกสาวๆในห้อง
“วันนี้ท่านจักรพรรดิก็ยังเท่เหมือนเดิมเลย!”
ภายนอกน่ะเหมือนเดิม แต่ภายในไม่ใช่น่ะสิ!
“แต่วันนี้ท่านคาบุรากิมาสาย นึกว่าจะไม่มาซะแล้วสิ~”
ก็ไม่ได้อยากมานะคะ แต่จักรพรรดิตัวจริงมันลากมาต่างหาก!
“แต่งตัวไม่เรียบร้อยก็ยังเท่เลยค่า~”
ฮือ พวกเธอไม่รู้เหรอว่าฉันต้องใช้ความพยายามขนาดไหนกว่าจะใส่แต่ละชิ้นส่วนออกมาได้น่ะ!
ฉันพยายามเมินเสียงกระซิบกระซาบนั่นแล้วหันมาตั้งใจเรียนแทน เป็นนายเองก็ลำบากเหมือนกันนี่นา คาบุรากิ~!
พักกลางวัน
ฉันรีบยัดของลงใต้โต๊ะด้วยความไวแสง แต่ก็ยังมิอาจทันความว่องไวของแฟนคลับเดนตายได้อยู่ดี หนอย อีกแค่นิดเดียวแท้ๆ!
ฉันหน้าเสียยามอยู่ท่ามกลางเหล่าสาวๆแฟนคลับจักรพรรดิ พวกเธอเสียงดังจนฉันปวดหัว แต่คาบุรากิในร่างเอ็นโจก็เดินมาช่วยชีวิตไว้ คาบุรากิ~! บุญคุณนี้ไม่ลืมแน่นอนค่า-!
“คิโชว...เอ้อ มาซายะ ไปสโมสรกันเถอะ”
รู้นะยะว่าเกือบหลุดชื่อฉันน่ะ! ฉันเดินแหวกเหล่าสาวๆไปราวกับโมเสกแหวกทะเล พวกเราเดินข้างกันไปเพื่อไปสโมสร Pivoine หมอนั่นบอกว่าฝากเพื่อนไปเรียกเอ็นโจให้ไปเจอกันที่สโมสรแล้ว
หวังว่าจะไม่มีข่าวลือแปลกๆหรอกนะ
แน่นอนว่าคาบุรากิเริ่มต้นการเดินด้วยการบ่นฉันอีกเหมือนเดิม หมอนี่จะขี้บ่นเกินไปแล้วนะ!
“...ปกติเธอเองก็เป็นคนนำพวกผู้หญิงไม่ใช่เรอะ ไหงคราวนี้ไร้ราศีซะอย่างนั้น นี่ อย่าเอาหน้าฉันไปทำหน้าเสียๆแบบนั้นอีกล่ะ!”
หนอยยยย ออกไปดวลกันข้างนอกเลยมั้ยยะ--! ฉันแค่ไม่มีอาวุธก็เลยจัดการไม่ได้ต่างหากล่ะ!
พวกเราเดินเข้าสโมสรที่มีใครคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
นั่นมันตัวฉันนี่นา---!
ตัวฉันที่น่าจะมีเอ็นโจอยู่ข้างในค่อยๆหันใบหน้ามาทางนี้ ก่อนแย้มรอยยิ้มออกมา กรี๊ด คิโชวอิน เรย์กะไม่มีรอยยิ้มแบบนี้นะยะ!
ฉันพุ่งเข้าไปสำรวจร่างกายตัวเอง ไม่มีส่วนไหนสึกหรอหรือบาดเจ็บ หมอนี่คงไม่ได้เอาร่างฉันไปโดดหน้าต่างหรือพุ่งใส่กระจกหรอกนะคะ
แต่หมอนี่ต้องเห็นร่างกายฉันแล้วแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่ใส่เครื่องแบบได้เต็มยศแบบนี้หรอก!
แง หนูแต่งงานไม่ได้แล้ว!
“...แต่งงานไม่ได้แล้ว”
ฉันเผลอหลุดปาก เอ็นโจเหมือนจะเห็นฉันหน้าเสีย น้ำตาคลอเบ้า เลยเอื้อมมือมากุมมือของฉันไว้ พลางยิ้มอย่างอ่อนโยนมาให้ เป็นรอยยิ้มที่ฉันยิ้มแบบนั้นไม่ได้แน่นอน
โฮ พอยิ้มแบบนั้นแล้วตัวฉันก็ดูสวยขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ไม่ต้องห่วงนะคุณคิโชวอิน ถ้าไม่มีใครแต่ง ให้ผมแต่งแทนก็ได้นะ”
.
.
.
เอ๊ะ...?
เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะคะ ไม่ทันฟัง?
ฉันหน้ามึน มองใบหน้ายิ้มแย้มของตัวเอง ก่อนจะหันไปมองคาบุรากิที่ทำหน้าพิลึกๆอยู่
เอ็นโจในร่างฉันกลั้วหัวเราะ ก่อนจะผายมือให้เราสองคนนั่งกันซะก่อน
“ผมว่าทั้งสองคนใจเย็นๆก่อนดีกว่านะ”
นายนั่นแหละที่จะใจเย็นเกินไปแล้ววววว---?!
“นั่นสินะ อยู่ในร่างชูสุเกะก็ดีเหมือนกัน” คาบุรากิพยักหน้าพลางกอดอก หา ดีที่ไหนกันยะ! ตัวเองอยู่ในร่างผู้ชายก็เหมือนเดิม แต่ฉันผู้หญิงนะ! มาอยู่ในร่างผู้ชายแบบนี้จะโหดร้ายเกินไปแล้ว!
แล้วพวกนายจะยอมรับกันง่ายเกินไปหน่อยมั้งงง!!!
“เธอเองก็พยายามในฐานะฉันด้วยล่ะ อย่าให้เสียชื่อล่ะ!”
คาบุรากิตบบ่าฉัน แต่คงเป็นเพราะมาอยู่ในร่างจอมบ้าพลังก็เลยไม่ค่อยเจ็บ ต่างกับเอ็นโจที่ยังคงยิ้มๆราวกับเรื่องตรงหน้ามันสนุกมากอย่างนั้นแหละ!
ฮึก
ฉันน้ำตาซึม ทุกอย่างดูมั่วไปหมด
แง ไม่เอาน้า ฉันอิจฉาหมอนี่แค่อารมณ์ชั่ววูบเองน้า ไม่ได้อยากมาเป็นตาบ้านี่สักหน่อย~!
“ฮึก! โฮฮฮฮ!!”
เค้าอยากกลับร่าง~!
“เฮ้ย!”
“...!”
ตาคาบุรากิตกใจที่อยู่ดีๆฉันก็ร้องโฮขึ้นมา หมอนั่นบ่นอุบว่าอย่าเอาร่างคนอื่นไปร้องไห้แบบนั้นสิ แต่ก็เปลี่ยนจากตบบ่ามาลูบหลังเบาๆคล้ายปลอบโยน เอ็นโจก็เขยิบเข้ามาใกล้ เหมือนจะยังไม่ชินกับสภาพเพื่อนตัวเอง แต่ก็กุมมือฉันพลางบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจ
ความอบอุ่นที่ได้รับจากทั้งสองคนทำให้ฉันน้ำตาไหลพราก
ฮืออ
เค้าอยากกลับร่างอ่าาา
กริ๊ดดดด ฟิคกาวทำเรือเอ็นโจแล่นฉิวเลยค่าาาา
ดีต่อใจจริงๆ "ถ้าไม่มีใครแต่ง ให้ผมแต่งแทนก็ได้นะ”
ตอนล่าสุด ไม่เคยอ่านกุหลาบแวร์ซายส์เลยไปค้นข้อมูล...
สรุปแล้วตัวละครที่ท่านเรย์กะกล่าวถึงล้วนแต่เป็นบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์การปฏิวัติฝรั่งเศส
...สุดท้ายแล้ว สภานักเรียนก็จะลุกฮือขึ้นก่อการปฎิวัติ! อ๋า แล้วฉันก็ถูกส่งตัวไปยังแท่นประหารกิโยตินอย่างน่าเวทนา...
ถ้าฉันเป็นราชินีโรโคโค่ นายตัวสำรองก็ต้องเป็นโรเบสต์ปิแอร์! ถ้างั้นวาคาบะจังก็คงเป็นแซงต์จุสต์? ม่าย--- น้า---! ช่วยฉันด้วย เฟอร์เซน!...
1) พระนางมารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette)
สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศสและนาวาร์ ถูกประหารด้วยกิโยตินระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส
https://www.wikiwand.com/th/มารี_อ็องตัวแน็ต
2) แมกซิมิลเลียน โรแบสปิแอร์ (Maximillen Robespierre)
ผู้อยู่เบื้องหลังในการปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นอดีตประธานคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะที่ตั้งขึ้นเพื่อสอดส่องดูแลความมั่นคงปลอดภัยในสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 1 ช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งประธานของคณะนี้มีอำนาจจับกุมและสั่งประหารชีวิตผู้คนได้
https://www.wikiwand.com/th/มักซีมีเลียง_รอแบ็สปีแยร์
http://freedom-thing.blogspot.com/2011/06/blog-post_2987.html
3) แซงต์ จุสต์ (Saint-Just)
เพื่อนสนิทของโรแบสปิแอร์ เป็นผู้นำการทหารและนักการเมืองในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคมของเหล่าฌาโกแบงส์, มิตรแห่งเสรีภาพและความเสมอภาค (Société des Jacobins, amis de la liberté et de l'égalité) ที่มีเป้าหมายอยู่ที่การสถาปนาระบอบสาธารณรัฐ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเขาเป็นชายคนรักของโรแบสปิแอร์
https://www.wikiwand.com/en/Louis_Antoine_de_Saint-Just
4) เคานต์อักเซล ฟอน เฟอร์เซน (Count Axel von Fersen)
เป็นทหารชาวสวีเดน สหายคนสนิทของพระนางมารีอ็องตัวแน็ต ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่วัยเยาว์ก่อนที่พระนางจะดำรงตำแหน่งพระราชินี ว่ากันว่าทั้งสองลอบคบชู้กัน
https://www.wikiwand.com/en/Axel_von_Fersen_the_Younger
http://historybecauseitshere.weebly.com/a-love-story-for-valentines-day---marie-antoinette-and-count-axel-von-fersen.html
.
ท่านเรย์กะขอให้แฟร์เซนมาช่วย แล้วใครคือเฟอร์เซนคนนั้นกันน่ะคะะะะ
แล้วใครจะเป็นหลุยที่16 คาบุรากิหรอ
ขอ ky หน่อยนะเพื่อนโม่ง
คือกุอยากแต่งพล๊อตแนวๆเรื่องลึกลับในรร.ซุยรัน ประมาณว่าท่านเรย์กะถูกขังอยู่ในรร.กับวาคาบะจังอ่ะ แต่กุไม่มั่นใจเรื่องสถานที่เท่าไหร่ มันมีตรงไหนที่พอเป็นพื้นที่ปิดแต่ก็กว้างพอให้สำรวจมั้ย?
>>146 KY หรือ Kuuki yomenai แปลว่า อ่านบรรยากาศรอบข้างไม่ออก ตัวอย่างการใช้ เอ็นโจกำลังซาบซึ้งที่ได้ใช้ผ้าขนหนูคู่กับคิโชวอิน แล้วคาบุรากิก็มาซื้อใช้ตาม อาจพูดได้ว่า คาบุรากินี่แม่งหัด KY บ้างสิว้อย!
แต่ในกรณีของเวบบอร์ด อาจพูดเป็นเชิงออกตัวแบบเกรงใจเวลาคนคุยกันติดพันยาวๆ อยู่ แล้วจะถามเรื่องอื่นขึ้นมา ก็เกริ่นๆ ขึ้นว่า ขอ KY หน่อย แบบขอแทรกหน่อยน้า ไรงี้ เป็นต้น
กูรอดาวอยู่น้า ปริบๆ
กาว* พิมพ์ผิดอะตัวเธอออ
ทำไมวันนี้มันเงียบๆแทนเสาน์อาทิตย์ 55
เออมึง ย้อนกลับไปอ่านตอนเก่าๆแล้วสงสัย
ที่บากะรากิจ้องท่านเรย์กะตอนหลังจากได้ของไวท์เดย์จากรุ่นพี่นี่ น่าจะคิดอะไรอยู่วะ
จะความคิดของบากะรากิ ท่านเอ็นโจ หรือวาคาบะจังก็ดี อ่านไม่ออกเลยโว้ย(ถ้าไม่ได้อ่านมุมมองของท่านเรย์กะ กูก็คงเดาความคิดนางไม่ออกเช่นกัน...)
อยากบอกโม่งฟิคว่ากูมารอกาวที่ท่าน้ำทุก5นาทีเลยนะ555
>>156 กุว่ามีนะ พอกับตอนวาเลนไทน์ที่ก็รู้สึกว่าต้องมีแน่ พอเปิดมาดูก็สครีมมมม แต่ฮิโยโกะซังเมื่อไหร่จะว่างพออัพถี่หน่อยนะอยากรู้ ที่จริงคือเรื่องนี้มันเคยอัพถี่มั้ยนะ 55 คือกุว่าถ้ายังเดินสปีดนี้ต่อนี่กว่าเรย์กะจะเข้ามหาลัย กว่าจะเรียนจบออกมา พอดีได้ฉลองท่านเรย์กะเรียนจบพร้อมวันแซยิดกุแหง
>>159 เฮ้ย อย่าทำเป็นเล่นไป ช่วงแรกๆ ตอน 1-210 อาจารย์แกแม่งโคตรขยันเลยนะ อัพทุกวัน บางวันคึกจัดอัพวันเดียว 2 รอบ ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันปีใหม่ แล้วจู่ๆ ก็หายวูบไปเลยสามเดือนอย่างกะลาคลอด จากนั้นก็มาแบบกระปริบกระปรอย เดือนละครั้งสองครั้ง หายห้าเดือนรวดก็ทำมาแล้ว ...ว่าแต่ พูดถึงเรื่องนี้ กูก็เคยคิดเหมือนกันนะว่าอยากลองจำลองสภาพการลงให้ใกล้เคียงจารย์ฮิโยโกะให้มากที่สุด จะทดลองกันดูมั้ย แรกๆ นี่มีให้อ่านรัวๆ แต่ตอนเว้นนานนี่ขาดใจเลยนะ ไคลแมกซ์ทั้งนั้น 55555
โม่งแปลน่ะแหละ แบบว่าอยากให้ทุกคนเข้าถึงอรรถรสในการอ่านที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับที่สุดยังไงล่ะ! 55555
แต่จริงๆ คงไม่ทำหรอก กูนี่แหละจะลงแดงตายเหมือนกัน...
พวกมึงว่าวันจบการศึกษาเอ็นโจจะมาสารภาพรักกับท่านเรย์กะป่าววะ หรือถ้ามาสารภาพแล้วเรย์กะจะรับป่าววะ ไม่ใช่กลัวแล้วมโนนู่นนั่นนี่ไปเองเลยปฏิเสธไป เอ็นโจช้ำใจแล้วหนีไปเรียนต่อต่างประเทศพอเรียนจบก็คุมบริษัทสาขาต่างประเทศไม่กลับมาอีกเลย ปล่อยให้เรย์กะอยู่บนคาน มีแต่หนุ่มน้อยยูกิโนะมาเต๊าะเยียวยาหัวใจทุกวันตั้งแต่เด็กจนโตไปเรื่อยๆ เรย์กะก็ไม่รู้ตัวโดนเด็กลวนลามทุกวัน
กูนึกถึงเรื่องเล่านึงในพันดิปนะ คนไทยมีแฟนเป็นชายญี่ปุ่น เป็นเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันตอนไปเรียนแลกเปลี่ยน เป็นเพื่อนกันปกตินี่แหละ จนกลับไทย แต่ก็ยังคุยกันเรื่อยๆ พอเรียนจบต่างฝ่ายต่างมีงานแต่ก็ยังติดต่อกันแบบเพื่อนกันต่างฝ่ายต่างไม่มีใคร วันนึงคนไทยอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น เลยนัดเพื่อนคนนี้ไป ก็เที่ยวกันสนุกสนานมีความสุขมาก แล้วไปปีนเขากัน พอถึงยอดแล้วสวยมาก อากาศดีมา บนนยากาศมันใช่ จู่ๆฝ่ายชายก็บอกว่า "อากาศดีจังนะ มาแต่งงานกันเถอะ" สาวไทยก็เหมือนบ้าจี้ตอบว่า "โอเค" สุดท้ายแต่งกันจริงมีลูกแล้ว กูเขินแทน 555555555555555 ท่านเรย์กะกูจะมีโมเม้นนี้ไหม ถถถถ
กลัวแล้วค่ะ อย่าทำบอร์ดล่มเลย /ส่งเครื่องรางด้านความรักไปให้เอ็นโจรัวๆ
เพราะพวกมึงเอาแต่เจาะรูเรือท่านจอมมาร กูเลยต้องรีบมากอบกู้(มั้ง)
>>>/webnovel/3572/523-526 เมื่อฉันกับเขา xxx
----------------------
งานกีฬามาถึงแล้วค่ะ
เริ่มต้นงานด้วยการวิ่งร้อยเมตรของฝ่ายหญิง วาคาบะจังก็ลงแข่งด้วย ฉันเองก็เชียร์วาคาบะจังอยู่ในใจอย่างลับๆ แม้แต่คาบุรากิที่ควรจะเตรียมตัวแข่งก็ไปนั่งดูวาคาบะจังวิ่งด้วยเหมือนกัน
วาคาบะจังถึงจะได้ที่สองก็หัวเราะ ถือธงลำดับที่กลับไปให้หัวหน้าห้องของตัวเองอย่างร่าเริงแล้วไปเข้าร่วมการแข่งอื่นๆต่อ ทำได้ดีมากเลยล่ะค่ะ ฉันเองก็จะพยายามเหมือนกันนะคะ
มาที่ฝั่งชาย คาบุรากิก็ลงวิ่งผลัดเหมือนทุกครั้ง ดูเหมือนปีนี้พวกทีมวิ่งผลัดจะเรียนรู้ความผิดพลาดจากปีที่แล้วที่มีคนสะดุดล้มระหว่างวิ่ง ถึงคาบุรากิจะไม่ได้โกรธเคืองหรือต่อว่าอะไร แต่พวกนั้นก็คงไม่อยากทำพลาดต่อหน้าจักรพรรดิเป็นรอบที่สองหรอก
คราวนี้ ทีมวิ่งผลัดก็เลยมุ่งมั่นวิ่งเอาจริงเอาจัง รับส่งไม้ต่อกันเป็นจังหวะไม่ให้มีผิดพลาด ดูแล้วเหมือนกองทัพหุ่นยนต์ของประเทศไหนเลยล่ะค่ะ
แหม แหม เร็วกันจังเลยนะคะ
ห้องของคาบุรากิได้ที่หนึ่งไปตามคาดไม่มีอะไรต้องให้ลุ้น ฉันเลยลุกขึ้นยืนไปเตรียมตัวแข่งปาบอลบ้าง
เอ็นโจยืนอยู่กับพวกอายาเมะจัง พอหันมาเห็นฉันก็ส่งยิ้มให้ ฉันเลยยิ้มตอบกลับไป
เด็กผู้หญิงที่อยู่รอบๆตัวส่งเสียงเอะอะขึ้นมาทันทีแล้วทำท่าจะมารุมล้อมฉัน ดีที่ว่าเสียงนกหวีดดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกให้เริ่มแข่งได้ ทุกคนเลยต้องแยกย้ายไปทำหน้าที่ตัวเอง
ฉันก้มเก็บบอลที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาขว้างใส่ตะกร้า แต่ก็มองไปทางเอ็นโจที่ปาบอลอยู่ไม่ไกล ท่าทางขยันขันแข็งดี ฉันก็ต้องเอาจริงบ้างสินะ ไปแสดงพลังที่แท้จริงของจ้าวแห่งการปาบอลกันเถอะ
ผลของการปาบอล ห้องของฉันได้ที่ 1 ล่ะค่า ไม่สิ ห้องของเอ็นโจต่างหากที่ได้ที่ 1 ส่วนห้องฉันเป็นที่ 2
พอได้สบตากับเอ็นโจ ฉันเลยยักคิ้วให้
นายต้องขอบคุณฉันนะเอ็นโจ ที่ช่วยเอาชัยชนะมาให้ห้องนายน่ะ
เอ็นโจยิ้มให้ฉันแล้วก็หัวเราะออกมา อืม เป็นรอยยิ้มที่น่ารักดีจนเผลอยิ้มตามเลยล่ะค่ะ
เอ๊ะ ฉันเป็นพวกนาร์ซิซัสไปแล้วจริงๆใช่มั้ย ถึงมาคิดว่าร่างของตัวเองยิ้มน่ารักแบบโน้นแบบนี้
ต่อไปจะเป็นการแข่งวิ่งแฟนตาซี คาบุรากิเดินมาสมทบกับฉัน เดินไปที่นั่งว่างๆด้วยกันเพื่อดูการแข่ง
“ปีนี้ยัยนั่นก็ลงด้วยสินะ” คาบุรากิพูดขึ้น ทำให้ฉันนึกขึ้นได้ว่าฉันลืมอะไรไป
เอ็นโจเอาร่างของฉันไปลงวิ่งแข่งแฟนซีนี่นา แล้วฉันก็ลืมถามไปซะสนิทเลยว่าใช้ธีมอะไร
หวังว่าจะไม่เป็นอะไรแปลกๆนะ
ฉันยังจำได้ดีถึงวงดนตรีเบรเมนที่กลายเป็นเทพเจ้าเร็กเก้ได้ดี จะให้เอ็นโจมาใส่หน้ากากสัตว์เนี่ยนะ อย่างเอ็นโจคงไม่ยอมแต่งชุดแปลกๆหรือวิกผมอาฟโร่หรอก
ฉันนึกจินตนาการไปเรื่อยถึงชุดที่อาจจะใส่ ถ้าเกิดออกมาแบบนั้นจริงๆฉันจะวิ่งไปตีเอ็นโจเดี๋ยวนี้เลยล่ะค่ะ อย่ามาเอาร่างฉันไปแต่งชุดพิลึกๆนะ
แล้วก็ได้เวลาเปิดตัวทีมผู้เข้าแข่งขันในแต่ละห้อง ธีมของห้องเอ็นโจปีนี้คือโมโมทาโร่ค่ะ
น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้ลงวิ่งแข่งแฟนซีด้วยเพราะขาเจ็บอยู่ ไม่งั้นฉันจะเลือกชุดลูกท้อให้ร่างของอีตานี่ใส่ไปแล้ว จะถ่ายรูปเก็บไว้เยอะๆ จากนั้นก็จะเอาไปลงหนังสือรุ่น มันต้องเป็นความทรงจำที่ดีแน่นอนค่ะ
อิวามุโระคุงออกมาในชุดสโนวไวท์ ก็ยังใส่วิกผมหลอดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะคะ
ฉันมองหาห้องของฉัน แล้วก็เจอค่ะ
เด็กผู้ชายในชุดราชินีแดง แมวเชสเชียร์ อลิซ แล้วก็...กระต่ายขาว
ร่างของฉันใส่ชุดทักซิโด้สีขาวที่ชายเสื้อด้านหลังเป็นแฉกยาว ด้านหลังมีปอมฟูสีขาวติดอยู่เป็นหางกระต่าย บนหัวมีคาดผมทรงหูกระต่ายสีขาวประดับริบบิ้นดูน่ารัก ถุงน่องเป็นลายตารางหมากรุกสีขาวสลับเทา เสริมความเซ็กซี่เล็กๆด้วยสายรั้งถุงน่องแบบริบบิ้นสีดำกับกางเกงขาสั้นสีขาว
อา นี่สินะคะ ที่เขาเรียกว่าพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์
ถึงรองเท้าจะเป็นรองเท้าบูทหุ้มข้อแต่ก็มีส้นขึ้นมาเล็กน้อยแบบส้นสูง ใส่แล้วจะวิ่งถนัดมั้ยนะ
คิดอยู่เพลินๆก็ได้ยินเสียงคาบุรากิพูดขึ้น “ชูสุเกะ”
“หะ หา ว่าไง”
“ปีที่แล้ว นายช่วยยัยเรย์กะเก็บแต้มนักษัตรปีเถาะไปแล้วนี่” คาบุรากิเพ่งมองแล้วขมวดคิ้ว “ยังเหลืออีกตั้งหลายตัวที่ยังไม่ได้แต่ง อย่างมะโรง มะเส็ง กุน วอก…แถมจมูกก็ไม่ติด”
จะบ้าเหรอคะ!!! ธีมอลิซไม่มีมังกร งู หมู ลิงอะไรซักหน่อย ทำไมนายต้องคิดด้วยว่าฉันอยากแต่งแฟนซีสัตว์ถึงขนาดนั้นเลยล่ะ หา!!!! ในสมองคิดอะไรอยู่เนี่ย!!!!!!!
ฉันรู้สึกอ่อนเพลียเกินกว่าจะพูดแล้ว ก็เลยนั่งเงียบๆชมการแข่งไป
ปกติแล้วกระต่ายขาวน่าจะอยู่ไม้แรกตามลำดับของเรื่อง แต่กลับถูกวางตัวให้อยู่ไม้ที่สี่อันเป็นไม้สุดท้ายที่จะวิ่งเข้าเส้นชัย ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าฉันวิ่งไม่เร็วเท่าไหร่นี่นา นายไปสำแดงเดชอะไรไว้เหรอ
การแข่งมาถึงโค้งสุดท้าย เอ็นโจรับไม้คทาต่อมาจากราชินีแดงแล้วออกวิ่ง
ระ เร็ว เร็วจริงๆค่ะ
เอ็นโจวิ่งไล่กวดสโนวไวท์อิวามุโระคุงที่กำลังนำโด่งไปไกลแล้ว คาดผมหูกระต่ายขยับเขยื้อนไปมาตามการเคลื่อนไหว รวมถึงหางที่เป็นปอมฟูกำลังส่ายดุกดิกด้วย เหมือนกระต่ายจริงๆเลยล่ะค่ะ
อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัย สโนวไวท์ผมม้วนเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน แต่เอ็นโจตีตื้นอิวามุโระคุงขึ้นมาเรื่อยๆ จบงานนี้อิวามุโระคุงจะคิดว่าฉันเป็นศัตรูคู่แข่งรึเปล่าคะ อย่าเป็นแบบนั้นเลยน้า
ห้องของฉันส่งเสียงเชียร์ เรียกชื่อท่านเรย์กะกันดังลั่น ทุกคนคอยเชียร์นายอยู่นะ อย่าแพ้เขาล่ะเอ็นโจ
ช่วงวินาทีตัดสิน เอ็นโจก็วิ่งเข้าเส้นชัยก่อนคนแรก คว้าชัยชนะไปได้อย่างขาวสะอาดงดงาม
รอบสนามปรบมือให้เสียงดังสนั่น แสดงความยินดีกับผู้ชนะ ทีมห้องฉันเข้าไปรุมล้อมเอ็นโจ กระโดดโลดเต้นดีใจสนุกสนาน อิวามุโระคุงก็เข้าไปก้มหัวปลกๆให้ด้วยเหมือนกัน เห็นเอ็นโจพูดอะไรกับอิวามุโระคุงที่ทำหน้าจ๋อยซักพักอิวามุโระคุงก็ยิ้มออกมา
แหม ดีจังค่ะที่ไม่ได้ทำร้ายจิตใจของสาวน้อย
ทีมวิ่งแฟนซีของห้องฉันเดินผ่านมาพอดี เอ็นโจหยุดยืนตรงหน้าฉันแล้วโบกธงที่หนึ่งให้ดูด้วยรอยยิ้มกว้าง
ภาพนั้นน่ารักจนฉันต้องยิ้มตอบแล้วปรบมือให้ ส่วนคาบุรากิหัวเราะหึๆ “หยวนๆเรื่องไม่ติดจมูกให้ก็ได้”
เรื่องไม่ติดจมูกมันก็ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นตั้งแต่เริ่มไม่ใช่รึไงยะ!!
เรย์กะเดินจากไปแล้ว แต่เด็กผู้หญิงรอบๆตัวฉันยังส่งเสียงเอะอะไม่หยุด ฉันเอาสูจิบัตรงานกีฬามาโบกต่างพัดเพื่อคลายร้อนให้ตัวเอง มองไปในสนาม คาบุรากิกำลังพูดคุยอะไรกับนักกีฬาที่กำลังจะลงแข่งขี่ม้าส่งเมืองในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้
ฉันมองไปรอบๆก็เห็นเด็กม.สี่ คนที่ไปสารภาพรักกับเอ็นโจในร่างฉันวอร์มร่างกายอยู่พอดี ท่าทางมุ่งมั่นมาก คงอยากชนะเพื่อพิชิตใจเธอสินะ แต่คู่แข่งนายน่ะได้รับการฝึกฝนจากจักรพรรดิในตำนานคนนั้น แถมยังมีนายตัวสำรองที่เป็นแชมป์เมื่อปีที่แล้วอีก คงยากหน่อยน้า
.
.
การแข่งขี่ม้าส่งเมืองเริ่มแล้วล่ะค่ะ
อิวามุโระคุงดูดุเดือดเป็นพิเศษ ผลักคู่ต่อสู้กระเด็นไปอีกทางพร้อมกับชิงผ้าคาดหัวมา คงอยากจะโชว์เท่ห์ต่อหน้าคุณโนโนเสะสินะ สู้เขา สโนวไวท์ผมหลอด
ปีนี้ม้าของคาบุรากิดูจะฮึกเหิมยิ่งกว่าเดิม แถมใช้กลยุทธ์พลิกแพลงแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เผลอแผลบเดียวนายตัวสำรองก็ตกอยู่ในวงล้อมแบบ 4 ต่อ 1
ฉันหันไปมองคนอื่นบ้าง เจ้าเด็กม.4 คนนั้นเหมือนจะฉลาดไม่เบาเลยล่ะค่ะ เพราะถอยไปเก็บพวกปลาซิวปลาสร้อยรอบๆสนาม ไม่เข้ามายุ่ง ปล่อยให้ตัวใหญ่ๆอย่างนายตัวสำรองกับม้าของคาบุรากิซัดกันเองจนกว่าจะหมดแรง อย่างกับไฮยีน่าเลยค่ะ รอให้สองฝ่ายห้ำหั่นแล้วค่อยย่องมากินซาก
สู้เขา นายตัวสำรอง นายเป็นความภาคภูมิใจของหมู่บ้านเรานะ อย่าให้เสียแชมป์ได้ล่ะ
รอบสนามได้ยินเสียงสาวๆตะโกนเชียร์ “ท่านประธาน” “ท่านรัชทายาท” กันให้เต็มไปหมด ฉันเองก็ลุ้นด้วย เมื่อนายตัวสำรองฝ่าวงล้อมพวกนี้ออกไปได้แล้วเริ่มโต้กลับ
คาบุรากิยืนเครียดเลยล่ะค่ะ
ดูเหมือนคาบุรากิไม่ใช่คนเดียวที่มีแผนรับมือ นายตัวสำรองเองก็มีเหมือนกัน แถมกล้าบ้าเลือดยิ่งกว่าปีที่แล้ว ไม่ทันไรผ้าคาดหัวของทหารม้าฝ่ายคาบุรากิก็เริ่มโดนฉกไปทีละคนจนเหลือสองทีมสุดท้าย อ้าว อิวามุโระคุงแพ้ไปตอนไหนคะเนี่ย ไม่ทันดูเลย
ฉันขอโทษขอโพยอิวามุโระคุงอยู่ในใจ แต่ก็ยังจับจ้องนายตัวสำรองที่ถูกทีมคาบุรากิล่อหลอก ดูเหมือนนายตัวสำรองจะไม่หลงกลง่ายๆ จนม้าตัวสุดท้ายของคาบุรากิล้มลงไปกองอยู่บนพื้น
นายตัวสำรองหันขวับไปที่เจ้าเด็กม.4 คนนั้นที่เหลืออยู่เป็นทีมสุดท้าย ในมือมีผ้าคาดหัวไว้เต็มเพียบ
ชมรมบาสเก็ตบอลชายซุยรันคือคนของหมู่บ้านคาสโนว่าที่เป็นศัตรูกับหมู่บ้านคานทอง เพราะงั้น ในฐานะรองหัวหน้าหมู่บ้าน ห้ามแพ้เด็ดขาดนะ
ถ้าเจ้าเด็กม.4 นั่น เกิดชนะขึ้นมา มันจะเป็นการกดดันให้คิโชวอิน เรย์กะต้องยอมตอบตกลงคบด้วยรึเปล่าล่ะนั่น ถึงเอ็นโจจะบอกว่าไม่ตกลง แต่ฉันก็ไม่ไว้วางใจเท่าไหร่นัก
นายตัวสำรองก้มหลบมือที่พยายามยื่นคว้าผ้าคาดหัว เท่ห์อย่างกับได้ดูหนังแอ็คชั่นเลยล่ะค่ะ แถมสาวๆหลายคนคงจะคิดอย่างฉันเพราะเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คู่ต่อสู้เป็นแค่เด็กหน้าใหม่ มีหรือจะเอาชนะท่านรัชทายาทผู้เป็นแชมป์เมื่อปีที่แล้วได้ ชิงไหวชิงพริบกันอยู่พักหนึ่งก็โดนเหวี่ยงลงไปกองที่พื้น ผ้าคาดหัวหลุดติดมือของนายตัวสำรองมาด้วย ค่อยยังชั่วหน่อย นายตัวสำรองได้แชมป์สองสมัยซ้อน เสียงเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่วสนาม
นายทำได้ดีแล้วล่ะนะ เจ้าเด็กม.4 เอ๋ย แต่เลือกคู่ต่อสู้ผิดไปหน่อย ปีหน้าไปฝึกมาใหม่นะ
การแข่งขี่ม้าส่งเมืองเป็นกีฬาสุดท้ายในงานกีฬาสี แข่งจบก็ถือว่างานจบไปโดยปริยาย หลายๆคนเริ่มทยอยกันออกจากสนาม พูดคุยเรื่องการแข่งเมื่อครู่นี้กันอย่างสนุกสนาน
คิโชวอิน เรย์กะก็เดินไปกับผองเพื่อนของเธอด้วย ผ่านเจ้าเด็กม.4 คนนั้นพอดี หมอนั่นพอเห็นเรย์กะก็ยืนนิ่งแล้วก็โค้งหัวลงแทบจรดพื้น
คนที่เหลือเริ่มชลอฝีเท้าดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ เสียงซุบซิบดังให้ได้ยินไปทั่วว่าเจ้าเด็กนั่นจะรอคำตอบหลังแข่งขี่ม้าส่งเมืองด้วยนี่นา
ฉันขยับไปยืนใกล้ๆเพื่อฟังคำตอบกับเขาด้วย ในใจนึกเครียดหนัก พวกเซริกะจังก็ยืนกอดอกคุมเชิงอยู่ข้างหลัง แต่เจ้าเด็กนั่นไม่หวาดหวั่นเลย ก็ดูคล้ายๆรุ่นพี่โทโมเอะเหมือนกันนะคะ
“ขอโทษด้วยที่ต้องปฏิเสธนะคะ” เอ็นโจในร่างฉันก้มหัวลงแทบจรดพื้น “ไม่ว่ายังไงฉันก็ตอบรับคำสารภาพรักนั้นไม่ได้จริงๆค่ะค่ะ”
“หรือเป็นเพราะผมไม่ชนะในการแข่งขี่ม้าส่งเมืองงั้นเหรอครับ”
“ไม่ใช่หรอกค่ะ แต่เพราะ…..”
เอ็นโจเงยหน้าขึ้นมา สบตากับฉันที่ยืนอยู่ไม่ไกล ส่งยิ้มให้แล้วก็หันไปพูดต่อ
“ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วน่ะค่ะ”
เสียงฮือฮาดังไปทั่วสารทิศเมื่อได้ฟังคำตอบนั้น ทุกคนต่างสงสัยใคร่รู้ว่า “ใคร” คือคนที่คิโชวอิน เรย์กะชอบ ฉันเองก็มึนไปเหมือนกัน
ยังนะคะ ยัง ฉันยังไม่มีคนที่ชอบค่า พวกคุณอย่าไปฟังนะค้า นั่นไม่ใช่ฉันเลยน้า!!!!
ฉันนึกเคืองอยู่นิดหน่อยที่เอ็นโจเอาร่างฉันไปพูดมั่วซั่วอีกแล้ว พูดออกไปแบบนั้นใครจะกล้ามาจีบฉันอีกล่ะยะ ถ้าฉันขึ้นคาน ฉันจะลากนายไปด้วยอีกคน จะทำตัวบ้าๆบอๆในร่างนี้ ทำลายภาพลักษณ์เจ้าชายที่นายสร้างขึ้น เอาให้สาวๆที่มารุมล้อมแตกกระเจิงไปเลย
แต่คำตอบนี้คงได้ผล เพราะเจ้าเด็กม.4 นั่นก็ดูยอมรับ และไม่เซ้าซี้อะไรมาก เดินไปสมทบกับเพื่อนๆชมรมบาสที่ตบไหล่ตบหลังปลอบกันใหญ่ ฉันจะมองข้ามเรื่องพูดมั่วซั่วนี่ไปก็ได้ค่ะ
ก็เสียดายอยู่เหมือนกันนะคะ ที่ฤดูใบไม้ผลิของฉันยังไม่มาถึงสักที แถมคนมาสารภาพรักฉันก็ไม่ได้ฟังด้วยตัวเองอีกต่างหาก
เอ็นโจหันมายิ้มให้ฉันอีกครั้งก่อนจะเดินไปสมทบกับพวกเซริกะจัง ส่วนคิคุโนะจังหันไปพูดอะไรกับอายาเมะจังข้างหลังก็ไม่รู้ หน้าเครียดเชียวค่ะ
.
.
.
หลังงานกีฬาสี เรื่องของเรย์กะตอบปฏิเสธคำสารภาพรักของนักเรียนคนนั้นไปก็เป็นที่พูดถึงในสโมสร Pivoine ด้วยเช่นกัน แต่เรย์กะปิดปากเงียบด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ไม่แย้มพรายออกมาแม้แต่นิดว่าใครคือคนที่อยู่ในใจคนนั้น
เมื่อไม่มีใครกล้าไปถาม ก็เลยต้องปล่อยให้เป็นปริศนาต่อไป ฉันคิดว่าเอ็นโจคงพูดมั่วๆปัดปัญหาไปให้ไกลตัวมากกว่า
แต่ถ้าคำพูดนั้นเป็นจริง แล้วใครกันนะที่เป็นคนที่เอ็นโจชอบ....คุณยุยโกะเหรอ
ฉันถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น ถ้าเป็นคุณยุยโกะฉันคงเอาชนะไม่ได้แหงๆ
ได้แต่บอกให้ตัวเองเลิกคิดเรื่องนี้แล้วหยิบรองเท้าเข้าไปใส่ในล็อกเกอร์ เตรียมตัวจะไปที่ลานจอดรถเพื่อจะกลับบ้าน
พอหมุนตัวกลับมาก็เห็นเซริกะจังกับคิคุโนะจังยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า สองคนนี้ยิ้มหวาน แต่ฉันกลับรู้สึกหนาวไปถึงไขสันหลัง
“ท่านเอ็นโจคะ ขอรบกวนเวลาสักนิดได้รึเปล่าคะ” เซริกะจังเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนน้อม เบื้องหลังเป็นอายาเมะจังที่มีท่าทีกระวนกระวาย และรุเนะจังที่ยืนเอามือไขว้หลังไว้
อายาเมะจังจะเป็นแฟนคลับของเอ็นโจนี่นา เอ๋ หรือว่า….จะมาสารภาพรักกับเอ็นโจสินะคะ
ฉันอยากได้ฤดูใบไม้ผลิ มีคนมาสารภาพรักก็จริง แต่ไม่อยากได้ในสถานการณ์แบบนี้ซักหน่อยง่า
------------------
พิมพ์อย่างสโลว์ไลฟ์
ขอบคุณสำกรับฟิคค่าาา
ดีอีกแล้ววว ท่านเอ็นโจไม่ได้หมายถึงยุยโกะแน่ๆล่ะ คิดไปได้ไงเนี่ยฮะ!!
มันเกิดอะไรขึ้นวะ ตอนกูหลับไปยังเม้น80 ตื่นมา เม้นพุ่งมา200กว่าแล้ว โหดขิงจริงๆเลยพวกมึงเนี่ย ถถถถถ
>>223 กูว่าเราตัดสินไม่ได้นะว่าใครหล่อกว่ากันคาบุรากิหรือท่านพี่
เพราะว่าอายุคนละรุ่นกัน เราเห็นคาบุรากิมันดังๆเพราะเล่าจากมุมมองรุ่นเดียวกันอย่างท่านเรย์กะ
ไม่แน่ว่า รุ่นท่านพี่ ท่านพี่เองก็น่าจะดังมากเหมือนกัน(ถึงจะตระกูลจะไม่ได้สูงส่งเท่าตระกูลคาบุรากิก็เถอะ)
อีกทั้งในมังงะคิมิดอลนั่นเองก็ไม่มีท่านพี่โผล่เลยบอกไม่ได้จากสายตาคนอ่านมังงะด้วย
กุไม่รู้ รู้แต่ว่า ท่านพี่น่ากินมาก-----
พูดถึงท่านพี่แล้ว ท่านพี่เป็นประธานชมรมยิงธนูด้วยนิ ชั้นชอบผู้ชายใส่ชุดยิงธนู อยากเห็นท่านพี่ยิงธนูจัง มันต้องแซ่บมากๆเลย
>>226 เห็นเรย์กะบอกว่าวาเลนไทน์ทีไรก็ได้ช๊อกโกแลตกลับบ้านประมาณ 20-30 อันนะ ก็น่าจะป๊อบพอตัวเลย แถมจากงานเลี้ยงก็ถูกบรรดาคุณหนูที่หมายตาตำแหน่งภรรยามารุมล้อม แต่ความป๊อบของพวกคาบุรากิกับเอ็นโจนี่มันดูเป็นลัทธิอะไรไปแล้ว ทุกคนดูคลั่งไคล้หลงใหลแบบมืดฟ้ามัวดินมากๆ
จะดีเหรอมึง 18 ชั่วโมงเนี่ย
ท่านพี่แค่หายใจก็หล่อ เวลายิ้มอ่อนโยนนี่แบบ กรี๊ดดดดดดด ชายใดจะสู้ท่านพี่ของข้าได้
ทุกวันนี้กูนอนมากสุดก็ 5 ชั่วโมง โฮววว แบ่งเวลานอนให้กูหน่อย
>>239 หึ...มึงมันไม่รู้อะไร... กูตกงานฟระ.... อย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ....//เบลอมัน
>>240 มีงานทำดีกว่าไหมมึง ถ้านอนเผื่อได้กูก็อยากทำให้อะนะ...
>>241 รักนะจึงหยอกเล่น 5555 กูก็ชอบแกล้งตัวละครที่ชอบเหมือนกัน
>>242 ดูจากการประกวดชื่อกระทู้ในกระทู้ที่7สิมึง ฝีมือลูกเรือเอ็นโจก็มีนะ....
กลับมากาวท่านเรย์กะหนีความจริงดีกว่าตรู...
ตอนแรกกูเรือเอ็นโจนะ แต่ตอนนี้กลับเอนไปทางคบรก.กับท่านพี่ซะได้
เราเรือท่านพี่ ท่านอิมาริ นายบ้าหมา คบรก. นายตัวสำรอง เอ็นโจ วาคาบะจัง ริรินะ ซากุระ
ความจริงคือทุกเรือยกเว้นคาน
เท่าที่อ่านมามีบรรยายว่าหล่ออ่อนโยนมั้งท่านพี่ แบบดูเป็นมิตร แต่กุขำที่เรย์กะบอกว่าเวลาพูดมุมปากท่านพี่จะยกขึ้นเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้เฟรนด์ลี่พุ่งฉิวทะลุไส้ติ่ง แต่ทำไมกุอ่านแล้วรุ้สึกว่าท่านพี่ยิ้มเพราะคุยกับเรย์กะ และน่าจะเฉพาะคุยกับเรย์กะด้วยมั้ง แบบว่าซิสค่อนงี้ 5555 แต่ประเด็นคือกุไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่เรื่องท่านพี่หล่อสไตล์ไหน เพราะฟิลเตอร์เรย์กะนี่อาจจาเลนส์เบี้ยวได้ อยากรุ้มากกว่าว่าหล่อเลเวลไหน กี๊สสสสส แบบอ่านว่าคาบุรากิหล่อมากกกทีไร ชอบคิดมาตลอดว่าถ้าเรย์กะหน้าเป๊ะซะคนนึกว่าตุ๊กตา ท่านพี่น่าจะหล่อเป๊ะอยู่เหมือนกันนะ ทำเอาสงสารปนสงสัยทานุกินิดหน่อย หรือว่านั่นก็หล่อแบบอ้วนๆกันวะ 555
ตอนแรกก็เอ็นโจ ตอนนี้เริ่มเรือนายตัวสำรองแหล่ะเป็นผู้ชายที่น่ารักดี โธ่...แต่ไหงของจริงดูท่าทางจะเข้าfriendzone ว่ะ ไม่เข้าใจ ท่านเรย์กะจะหักธงกี่คนถึงจะพอใจค่าาาา
ท่านเรย์กะผู้หักธงทุกคนยกเว้นคานนนนน
ทำไมมม
เราเรือคาบุรากินะ ปัจจุบันก็เรือนี้เป็นหลัก ตอนแรกๆเข้ามามีแต่เรือเอ็นโจ เลยต้องสงมเสงี่ยมเจียมตัว แล้วควบเรือเอ็นโจอีกลำเพื่อความฟินในการอ่านฟิค แต่ทำไมตอนหลังๆมีแต่ลูกเรือทำร้ายเอ็นโจล่ะ รู้สึกสงสารจอมมาร โถถถถถ
>>250 ตอนแรกกุก็คิดงั้นนะ แต่แบบเคยไปส่องแฟนอาร์ตฝั่งยุ่น เวลาวาดทานุกิทีไรนี่แบบ พังงงงง คือนอกจากหน้าอืดแบบไม่ค่อยจะมีเค้าโครงคนเคยหล่อเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ยังเตี้ยกว่าท่านแม่อีกกก เห็นแล้วค้างไปทันใด กุเลยเริ่มเขวว่าเอ๊ะ หรือมันจะมีช็อตที่บอกถึงทานุกิว่าเตี้ยๆอ้วนๆอยุ่ด้วยเนี่ย แต่ก็อีกอะ อย่างท่านแม่ไม่น่าปิ๊งมั้ยนะถ้าเตี้ยๆหน้ามาตรฐานอะไรแบบนั้น
>>246 ใจเย็นมึง กูไม่ได้ถือโทษอะไรหรอกน่าาาา~~
>>249 มันเป็นคำสาป!! พวกเราต้องสาดเกลือ โอร่าาาาา
>>253 คนเราตอนแก่ถ้าหลังค่อมลงมันน่าจะเตี้ยได้ปะวะ?
กุสงสัยนะว่าคาบุรากิกับเอ็นโจนี่จริงๆมันสนิทกันไหม หรือแค่เพราะตระกูลดังเหมือนกันเลยจับกลุ่มจับคู่เป็นเพื่อนกัน
แต่ก็ทั้งอยู่ด้วยกันสองคนในคืนวันคริสต์มาส(ที่ทะเลคลั่ง) ทั้งแค่คำพูดของเอ็นโจว่า "หืม? มาซายะ"พร้อมรอยยิ้มคาบุรากิก็ทำตามทันที
ข่าวลือว่าทั้งคู่อยุ่ด้วยกันตั้งแต่เตรียมประถม มิตรภาพของพวกมันนี่...จะเรียกว่าเพื่อนสนิทหรือเจ้ากรรมนายเวรดี?
อย่างท่านพี่ก็บอสลับกับกระสอบทรายอิมาริ แต่ก็รู้สึกว่า สมเป็นเพื่อนที่สนิทกัน(แปลกๆ)อยู่นะ
ท่านพ่อกับท่านแม่นี่มีชื่อเปล่านะ หรือมีแต่ฉายาแบบทานุกิกีบสาวงามเดียวโตงี้5555555
เกียวโตสิ เดียวโตอะไร พิมผิดชีวิตเปลี่ยนนนนน
>>107-108 ลงรัวๆด้วยความเมากาว
ฟิคตำนานรัก
---------
ฉันสูดน้ำมูก โฮ ทำไมฉันบ่อน้ำตาแตกง่ายจังเลยคะวันนี้ คงเพราะอยู่ในร่างคาบุรากิแน่ๆ ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ! ฉันใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา มองการโต้วาทีของคาบุรากิและเอ็นใจ
“...ประเด็นมันอยู่ที่ทำไมอยู่ๆถึงได้สลับร่างกัน ทำไมฉันเป็นนาย นายเป็นคิโชวอิน และคิโชวอินถึงมาเป็นฉัน มีเกณฑ์อะไร”
“อืม...ตรงนี้ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นะ”
“ก่อนหน้าก็ไม่ได้มีสัญญาณอะไรด้วย”
“นั่นสิ...ที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คงจะเป็นศาลเจ้าที่เราไปวันทัศนศึกษาวันสุดท้ายนั่นแหละ”
คาบุรากิพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะชะงัก เหล่สายตามองมาทางฉันที่นั่งเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่ “แต่ก็ดีเลย ฉันจะได้ไม่ต้องไปงานที่แม่จะจัด”
ดีกับผีสิคะ! อย่ามาปัดความรับผิดชอบแถวนี้สิคะ!
“...ถึงยังไงก็ได้ไปอยู่ดีนั่นแหละ มาดามเองก็ชวนผมไปด้วยนะ อย่าลืมสิ”
คาบุรากิหน้างอ แต่ยังไงก็ยังไม่ชินอยู่ดี หมอนี่ลืมรึไงว่าอยู่ในร่างเอ็นโจอยู่น่ะ!
“แต่ดูเหมือนคุณคิโชวอินจะยังไม่ได้ถูกชวนเลยนะ” เอ็นโจพูดยิ้มๆ แต่ทำไมฉันถึงเห็นออร่าสีดำออกมากันคะ! ทำไมนายถึงลากฉันไปเกี่ยวด้วยล่ะ! ไม่ใช่สิ สลับร่างกันอยู่นี่นา ยังไงฉันต้องไปอยู่แล้ว แต่อย่าเอาร่างฉันไปสิคะ!
“อย่างนี้ที่สลับร่างกันก็ไม่ช่วยอะไรเลยน่ะสิ” คาบุรากิถอนหายใจ แต่ฉันติดใจอยู่อย่างหนึ่ง พูดถึงงานที่มาดามคาบุรากิจะจัดมาตั้งแต่วันสุดท้ายของทัศนศึกษาแล้วนะคะ มันคืองานอะไรล่ะนั่น?
เอ็นโจเหมือนอ่านความคิดฉันออก “เป็นงานเลี้ยงน้ำชาทั่วๆไปนั่นแหละครับ มาซายะก็แค่บ่นอย่างปกติเท่านั้นเอง”
“ก็ใครมันจะอยากไปล่ะ!” คาบุรากิบ่นกระปอดกระแปด “เดินทักทายคนนู้นทีคนนี้ที น่าเบื่อจะตาย แล้วยังมีผู้หญิงเข้าหาอีก น่ารำคาญ!”
ปกติก็มีผู้หญิงเข้าหานายอยู่แล้วนะ คาบุรากิ
ไว้มีผู้ชายเข้าหานายก่อนล่ะกัน แล้วฉันจะเก็บไปช่วยคิดดูอีกที
“เอาน่ามาซายะ มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว” เอ็นโจปรามคาบุรากิที่ดูใกล้จะทึ้งหัวตัวเองลงทุกที สงสัยลืมว่าไม่ได้อยู่ร่างตัวเอง “...จะให้ผมไปเป็นเพื่อนรึเปล่าละ ถ้าจะให้ไปกันแค่สองคนน่าจะไม่รอด”
ดูถูก!? ดูถูกหรือคะ!? ถึงฉันจะไม่ได้ออกงานบ่อย แต่ก็ไม่น่าจะถึงกับไปไม่รอดหรอกนะ!
“...ไหนจะมาดามหลายท่านที่คุณคิโชวอินไม่เคยเจอ ถ้าทำพลาดขึ้นจะแย่เอานะครับ”
...เอ่อ ขอถอนคำพูดค่ะ ไม่น่ารอด---!!!
“แต่แม่ไม่ได้ชวนคิโชวอินไปด้วยนี่ จะไปยังไงล่ะ”
“หืม มาซายะ ก็ให้คุณคิโชวอินในร่างนายเป็นคนชวนไปก็ได้นี่นา”
อย่ามาโบ้ยปัญหามาทางนี้นะ! ฉันยังไม่อยากถูกเข้าใจผิดๆ!
“ก็จริงแฮะ เอาล่ะ! คิโชวอิน วันนี้กลับไปบ้านก็พูดกับแม่ฉันด้วยล่ะ!” คาบุรากิลุกขึ้นยืน ชี้สั่งเสร็จสรรพเป็นการสรุปความทุกอย่างที่คุยกันมา ก่อนจะหันไปหาเอ็นโจ “ไปโรงอาหารกัน ชูสุเกะ”
“อืม ผมเองก็รู้สึกหิวแล้วสิ” เอ็นโจลุกตาม ทั้งสองคนเตรียมเดินออกจากสโมสรไปด้วยกัน แต่ เฮ้ย พวกนายลืมอะไรไปรึเปล่า?! พวกเราสลับร่างกันอยู่นะ!
“เดี๋ยวก่อนสิคะ!”
ทั้งสองคนชะงัก พลางหันมอง
“อะไรของเธอ--”
“ลืมไปแล้วเหรอคะว่าเราสลับร่างกันอยู่! ถึงข้างในจะเป็นท่านคาบุรากิกับท่านเอ็นโจก็เถอะ แต่ภายนอกมันเป็นฉันกับท่านเอ็นโจนะคะ!”
ฉันไม่อยากให้ร่างฉันมีข่าวลือแปลกๆกับเอ็นโจหรอกนะ!
“ก็เรื่องแค่นั้นเองนี่”
เรื่องแค่นั้น?
นายรู้จักพลังแห่งข่าวลือของเด็กซุยรันน้อยไปแล้วย่ะ!
“น่า มาซายะ มันก็จริงอย่างที่คุณคิโชวอินว่า” เอ็นโจปราม แต่เหมือนจะไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไหร่ น่าหมั่นไส้ที่สุดเลยค่ะ! คนเดือดร้อนจริงๆน่ะมันฉันต่างหากก!
“เพราะงั้นเราก็ไปด้วยกันสามคนเลยสิ”
ทำไมเป็นทางเลือกที่ไม่ค่อยจะต่างจากเดิมเท่าไหร่เลยย่ะ---!!!
โรงอาหาร
ฉันนั่งหน้าครึ้มอยู่ตรงที่นั่งของ Pivoine เหลือบสายตามองพวกเซริกะจังที่นั่งคุยกันอย่างสนุกสนานด้วยสายตาละห้อย ฉันเองก็อยากเข้าไปร่วมคุยด้วยเหมือนกันน้า! ก่อนจะหันมองเอ็นโจที่นั่งอยู่ตรงข้าม คาบุรากิในร่างเอ็นโจไม่อยู่ เพราะไปเข้าห้องน้ำ
อย่าทิ้งฉันไว้กับจอมมารสองคนสิ!
“คุณคิโชวอิน คงกังวลสินะ” เอ็นโจยิ้ม เฮ้ๆ คิโชวอิน เรย์กะไม่ได้ยิ้มแบบนายนะ! “...ไม่เป็นอะไรหรอกนะ ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดี”
หวังว่าจะเป็นไปตามนั้นจริงๆนะคะ...
คาบุรากิกลับมาจากห้องน้ำแล้ว หมอนั่นเดินจะเข้าไปนั่งข้างเอ็นโจ เฮ้ยยย ข้างเอ็นโจก็จริง แต่นั่นร่างฉันนะ!
“มาซายะ ไปนั่งข้างคุณคิโชวอินสิ” เอ็นโจคงเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของฉัน ถึงได้บอกคาบุรากิไปแบบนั้น แต่ตานั่นคงสมองทึ่มเกินไปจึงไม่อาจแปลความหมายของคำพูดนั้นออก
ตุบ
และหย่อนตัวลงนั่งข้างเอ็นโจ...ที่อยู่ในร่างฉัน!
เจ้าบากะรากี้---!!!
ปกติแล้วฉันมักจะไปนั่งทานข้าวกับพวกเซริกะจังมากกว่า พอมานั่งที่ Pivoine ซึ่งข้างๆกันมีเอ็นโจ (ที่มีคาบุรากิอยู่) กับตรงข้ามที่มีคาบุรากิ (ที่มีฉันอีกที) นั่งอยู่ก็เลยกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ขึ้นมาเสียอย่างนั้น!
ฉันมองเห็นพวกเซริกะจัง คิคุโนะจังส่งสายตายินดีมาให้ร่างฉัน พวกเธอยินดีอะไรกันนน---!!!
แต่ตัวฉันคับแค้นใจเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยออกมา จึงระบายไปกับการกินอาหารตรงหน้า
คาบุรากิ นายจงลงพุงไปซร้า---!
ช่วงเลิกเรียน
ฉันนั่งหน้าเครียดในสโมสร Pivoine จนสมาชิกคนอื่นๆไถ่ถามด้วยความเป็นห่วง ฮึ่มๆ ฉันกำลังเครียดอยู่ว่าจะทำให้มาดามคาบุรากิชวนฉัน (หมายถึงร่างฉัน!) ไปยังไงดี อะไรกันคะเนี่ย ปกติมาดามชอบชวนฉันไปไม่ใช่รึไง หรือเพราะเห็นฉันไปปฏิเสธมากๆก็เลยตัดสินใจไม่ชวนแล้ว!?
นี่ฉันต้องไปกับเจ้าบ้ารากิกันแค่สองคนเหรอคะ!?
ม..มองไม่เห็นลู่ทางรอด
ถ้าไปงานก็น่าจะเจอกับไมฮามะที่มาเกาะแกะ แง ฉันในร่างคาบุรากิไม่รู้จะรับมือยังไงนะคะ! คาบุรากิก็ไม่น่าจะมาช่วยฉันด้วย โฮ เกิดเป็นฉันช่างลำบาก
ฉันเครียดจนต้องยัดช็อกโกแลตมูสไปสองถ้วยเต็มๆ ตอนที่กำลังจะทานถ้วยที่สาม คาบุรากิกับเอ็นโจก็เดินเข้ามาพร้อมกัน
ว้ากก นี่พวกนายไม่ได้ฟังที่ฉันพูดไปเลยรึยังไงกัน---!!!
ได้ยินเสียงพึมพำ อุ๊ยตาย ออกมาจากสาวๆในสโมสรยามเห็นคาบุรากิกับเอ็นโจเดินเข้ามาพร้อมกัน เอ็นโจเดินเข้ามานั่งข้างฉัน ตามด้วยคาบุรากิที่นั่งข้างเอ็นโจอีกต่อหนึ่ง....นี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่!
ภายนอกมันก็เหมือนฉันนั่งตรงกลาง ขนาบข้างด้วยจักรพรรดิและองค์ชายเลยน่ะเซ่!
“โอ ช็อกโกแลตมูสเรอะ” คาบุรากิเริ่มพร่ำถึงรสชาติขนมในสโมสร ก่อนจะเริ่มเข้าสู่โลกส่วนตัวไป ต่างกับเอ็นโจที่ปรามเพื่อนตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันมามองฉัน
“คุณคิโชวอิน” เอ็นโจยิ้มอีกแล้ว... “ผมจะพยายามไม่ทานของหวานล่ะกันเนอะ เดี๋ยวจะลำบากคุณคิโชวอินตอนไดเอท”
พูดแบบนี้เอาถาดมาตบหน้าฉันเลยดีกว่าค่าาา!
ฉันกัดฟันแน่น เอ็นโจ! สักวันฉันจะล้างแค้น! “ม..ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”
“ทานๆไปเถอะชูสุเกะ การไดเอทที่ถูกต้อง มันต้องหมั่นออกกำลังกายต่างหากล่ะ”
คาบุรากี้! นายจะมากไปแล้วนะยะ! คนต้นคิดโปรแกรมไดเอทก็คือแม่นายไม่ใช่หรือไงยะ---!
“ฉันขอตัวกลับก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไปทำเรื่องการเชิญท่านเอ็นโจ...ในร่างฉันไปงานเลี้ยง” ฉันหน้าดำไปครึ่งแทบ กลั้นใจยัดช็อกโกแลตมูสถ้วยที่สามที่ยังไม่ได้ทานใส่มือเอ็นโจ ได้ยินเสียงฮือฮารอบข้าง แต่ฉันไม่สนใจอะไรนอกจากรีบลุกออกมา
พวกนายสองคนทานช็อกโกแลตมูสแล้วก็หุบปากไปซ้า!!!
ตอนนี้ฉันอยู่บ้านคาบุรากิแล้วค่ะ เห็นมาดามคาบุรากิกำลังจัดการเรื่องบัตรเชิญอยู่ มันก็ควรจะเป็นโอกาสที่ฉันจะต้องไปบอกมาดาม แต่ถ้าบอกไปแล้วมาดามเข้าใจผิดล่ะ!? แง ทำยังไงดีคะ!
“อาร่า คุณมาซายะ มาพอดีเลย” มาดามหันมาเห็นฉันที่ยืนนิ่งพอดี เธอเรียกให้ฉันเข้าไปหา ซึ่งฉันก็เดินเข้าไปหาอย่างไม่อิดออดใดๆ มาดามพูดเรื่องงานเลี้ยง ฉันก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เพราะมัวแต่จ้องมองรายชื่อผู้ถูกเชิญอยู่
ไม่มีชื่อคิโชวอินจริงๆด้วยค่ะ!
ตามปกติฉันก็ควรจะดีใจที่ไม่มีชื่อตัวเอง แต่ตอนนี้มันไม่ปกตินี่คะ!
มาดามเหมือนจะเห็นท่าทางของลูกชายตัวเองที่ผิดสังเกต
“คุณมาซายะ? หรือมีคนที่อยากเชิญไปด้วยเหรอคะ?”
ฉันสะดุ้งจนเผลอหลุดปาก “ค..คิโชวอิน เรย์กะ!”
กรี๊ด ฉันต้องถูกปิศาจสิงสู่แน่นอนเลยค่ะ! ถึงได้หลุดปากออกไปแบบนั้น!
มาดามดูแปลกใจเล็กน้อย แต่ฉันเห็นนะว่าในสายตามาดามมีแววยินดีอยู่! ม่ายยยยยย เพราะความปากพล่อยของฉันแท้ๆ! ไม่สิ! มันต้องเป็นความปากพล่อยของคาบุรากิแน่นอน! มันติดต่อมาจากร่างของหมอนี่!
ฉันต้องไปอาบน้ำมนต์ขับไล่สิ่งชั่วร้าย!
“แหมๆ ถ้าคุณมาซายะอยากให้เชิญล่ะก็ได้สิคะ” มาดามหัวเราะ ฮุฮุ อย่างเบิกบานก่อนจะขอตัวไปจัดการบัตรเชิญ ฮื่อๆ ฉันพลาดไปแล้ว พลาดไปซะแล้ววว
ฉันวิ่งเข้าห้องนอนของคาบุรากิด้วยความรวดเร็ว แต่ก่อนเข้าห้องก็เจอคุณแม่บ้านคนหนึ่งซะก่อน
“คุณ---” เอ้อ ปกติแล้วหมอนี่เรียกคุณแม่บ้านว่ายังไงเนี่ย “---ช่วยเอาเกลือมาให้ที่ห้องทีสิครับ”
แม่บ้านทำหน้าพิศวง แต่ก็รับคำว่าจะรีบนำมาให้ ฉันเอ่ยขอบคุณเป็นพิธี ก่อนจะแวบเข้าห้องทันที ฉันต้องการเกลือมาโรยทั่วมุมห้องค่ะ! ฮือ! ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ตื่นมาฉันอาจจะกลับร่างตัวเองก็ได้!
ใช่แล้ว!
ตื่นมาต้องกลับร่างเดิมแน่ๆค่ะ!
แต่สุดท้ายฉันกลับใช้เวลาทั้งคืนท่องบทสวดไล่ปิศาจจนไม่ได้นอน
แถมยังไม่ได้กลับร่างเดิมอีกด้วย---!
แงงงง!!!
Mousse au chocolat
หรือ Chocolate mousse ช็อกโกแลตมูส
เป็นขนมหวานของฝรั่งเศส
สามารถทำได้โดยไม่ใช้เตาอบด้วย ลองไปหาทำดูกันได้นะเพื่อนโม่ง
http://m.imgur.com/a/hwkA9
ตะเอง เค้าเข้าสารบัญไม่ได้อ่ะ เป็นคนเดียวปะวะะะ
ต่อจาก >>70-71 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
..............…….....
การสอบสิ้นสุดอย่างงดงาม ครั้งนี้ฉันรู้สึกทำได้แย่กว่าครั้งที่แล้วล่ะนะคะ แต่คิดว่าชื่อไม่น่าจะหลุดบอร์ด
ฉันรีบพุ่งไปทันทีที่เห็นว่ามีคนมารุมๆกัน และกวาดสายตามองรายชื่อบอร์ดอย่างเคร่งเครียด
ไม่มีชื่อฉันค่ะ... แต่ว่านั่นไม่น่าจะตกใจเท่าไม่มีชื่อคาบุรากิติดบอร์ด เอ๋?! แม้แต่ เอ็นโจ วาคาบะจัง หรือนายตัวสำรองก็ไม่มีงั้นหรอคะ!!! เกิดอะไรขึ้น!?!
ฉันหันไปมองรอบๆดูว่ามีใครตกใจกับเหตุการณ์นี้ไหม แต่ดูนิ่งเฉยปกติมากๆเลยค่ะ ก่อนที่จะเหลือบไปเห็นเอ็นโจยืนกลั้นขำอยู่ไม่ห่างกันมาก
"นั่นบอร์ดของรุ่นน้องนะครับคุณคิโชวอิน"
"..."
ฉันกรีดร้องในใจ เมื่อมองหัวข้อด้านบนบอร์ดก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย ทำไมต้องเป็นเอ็นโจที่เห็นอะไรแบบนี้ของฉันด้วยคะ!!!
"ฉันแวะมาดูคะแนนให้ลูกพี่ลูกน้องน่ะค่ะ" ฉันพูด
"งั้นหรอครับ ดูก่อนผลสอบตัวเองอีกสินะ"
ฉันทำสีหน้าปกติ ทั้งๆที่ในใจสาปแช่งเอ็นโจ ไปตายซะ!
ฉันเดินไปอีกบอร์ด เมื่อมั่นใจว่าเป็นม.ฉันไม่ผิดแน่ ก็กวาดตาดูอันดับบนนั้น
ที่ 1 ทาคามิจิ วาคาบะ
ที่ 2 คาบุรากิ มาซายะ
ที่ 3 เอ็นโจ ชูสึเกะ
ที่ 4 มิซึซากิ อาริมะ
เห!!! วาคาบะจังได้ที่ 1 งั้นหรอคะ แย่แล้วค่ะ... แบบนี้ วาคาบะจังต้องถูกแกล้งอีกแน่เลยค่ะ แต่ว่าน่าแปลกที่คาบุรากิที่เคยสอบมาครั้งหนึ่งจะไม่ได้คะแนนเกือบเต็มไม่ก็เต็มแบบครั้งที่แล้ว คนแบบหมอนั่นไม่น่าจะประมาทให้กับชัยชนะนี่นา...
เอ็นโจกับคาบุรากิก็เดินมาดูผลคะแนนหลังจากฉัน
เอ็นโจ นายเองก็ไปทำอะไรแถวบอร์ดประกาศคะแนนรุ่นน้องน่ะ ไม่มาดูคะแนนของตัวเองก่อน นายเองไม่มีสิทธิ์มาว่าฉันหรอกนะ!
ทุกคนเปิดที่ให้สองคนนั้นเดินเข้าไป คาบุรากิมองผลสอบแล้วทำหน้านิ่งๆ ส่วนเอ็นโจก็ยังยิ้มเช่นเดิม
มีเสียงซุบซิบแผ่วเบาดังไปรอบๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อวาคาบะจังเดินเข้ามาดูผลสอบอีกคน
"เอ๋?" วาคาบะจังมองบอร์ดประกาศคะแนน
บรรยากาศดูอึดอัดเอามากๆเลยค่ะ... คาบุรากิที่ยึดติดในชัยชนะขนาดนั้น เห็นผลสอบแบบนี้จะเป็นไรไหมนะ น่าเป็นห่วงทั้งคาบุรากิและวาคาบะจังเลยนะคะ...
"เก่งมากเลยนะ" คาบุรากิพูดขึ้นเหนือความคาดหมายของฉัน
"อ้า..." วาคาบะจังพูดอย่างกลัวๆ
"ทำได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่มือบาดเจ็บแบบนั้นแท้ๆ"
คาบุรากิยิ้ม ทำเอาสาวๆแฟนคลับต่างมองไปที่วาคาบะจังอย่างอิจฉาตาร้อน อันตรายมากๆเลยค่ะ...
"เพราะมือเป็นอย่างนั้นเลยพยายามมากเป็นพิเศษน่ะค่ะ"
วาคาบะจังหัวเราะแก้เก้อ แต่บรรยากาศจากสาวๆดูทวีคูณความน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้วาคาบะจังต้องโดนหมายหัวอีกแล้วสินะคะ... แต่วาคาบะจังก็ไม่ผิดนะที่เรียนเก่ง!
คาบุรากิหัวเราะกับวาคาบะจังอย่างสนิทสนม หัวใจฉันกระตุกวูบ
อ้า...สงสัยฉันคงเป็นห่วงวาคาบะจังที่จะถูกแกล้งมั้งคะ แบบนี้มีแต่ทำให้วาคาบะจังเดือดร้อนโดนแกล้งนะคะ!
ฉันหนีไปที่อื่นทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูผลสอบตัวเองด้วยซ้ำ รังสีอาฆาตแค้นของสาวๆผู้อิจฉานี่น่ากลัวชะมัดเลยค่ะ
ฉันเดินไปห้องสมุด หวังว่าจะเจอนารุคุงปลอบประโลมหัวใจซะหน่อยก็เห็นเมลล์จากคาบุรากิส่งมา
"นี่ คิโชวอิน! ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ ไม่เป็นไรใช่ไหม ฉันเห็นเธอทำหน้าเศร้าๆ... เอาน่า! เธออันดับตกแค่นิดเดียวเอง ที่ 7 ก็ไม่ได้แย่นี่นา ฉันเองก็ยังอันดับลดลงเลย ครั้งหน้ามาพยายามด้วยกันเถอะ!!! "
ฉันมองเมลล์นั้นอยู่เนินนาน แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรไป...
......................
อีกไม่นานก็ถึงวันวาเลนไทน์แล้วค่ะ ในซุยรันสาวๆต่างคุยกันอย่างตื่นเต้นว่าจะให้ช็อกโกแลตใครกัน พวกเซริกะจังถามฉันอย่างตื่นเต้นว่าจะให้ช็อกโกแลตคาบุรากิอีกไหมปีนี้ ฉันก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดไปค่ะ
“อย่าบอกนะคะว่าจะให้ท่านเอ็นโจ” คุคิโนะจังถามอย่างกระตือรือร้น
“ไม่หรอกค่ะ” ฉันตอบไป ตั้งแต่เอ็นโจเอาลาเต้กระต่ายมาให้ฉัน ข่าวลือแปลกๆก็แพร่กระจายไปทั่ว ตอนนี้เริ่มมีรักสามเส้าสี่เส้าโผล่ออกมาแล้วค่ะ ใครๆก็มองว่าฉันชอบคาบุรากิ ตอนนี้ก็มองว่าเอ็นโจมาชอบฉันอีก คิดแล้วน่าขนลุกทั้งคู่เลยค่ะ...
ว่าแล้วว่าหลังจากสอบต้องมีคนรังแกวาคาบะจังเพิ่มอีกแน่ๆ ฉันแอบช่วยวาคาบะจังอยู่ห่างๆ จัดการศัตรูไปหลายคนแล้วล่ะนะคะ ไม่อยากนึกถึงตอนสูญเสียอำนาจไปเลยค่ะ... พอเป็นเรื่องเกี่ยวกับวาคาบะจังทีไหร่ก็อดช่วยไม่ได้แบบนี้ทุกทีเลยค่ะ
ฉันมาฝึกทำช็อกโกแลตที่บ้านอยู่บ่อยๆ ลองชิมและคัดช็อกโกแลตที่ดีที่สุดมาทำเลยค่ะ ปรึกษาท่านแม่ให้จ้างครูสอนทำช็อกโกแลตมาช่วยด้วยค่ะ ฉันโกหกว่าจะทำให้คาบุรากิ ท่านแม่ก็ยอมจัดการเรื่องทั้งหมดให้อย่างยินดีค่ะ ฉันวางแผนจะบอกท่านแม่ทีหลังว่าคาบุรากิไม่ชอบช็อกโกแลตทำมือ เลยปฏิเสธช็อกโกแลตที่ฉันให้
ฉันว่าจะทำให้ท่านพี่ค่ะ ในโลกก่อนฉันทำช็อกโกแลตวาเลนไทน์ให้ท่านพี่ทุกปีเลยนี่คะ โลกนี้คงเป็นครั้งแรกที่ได้ทำให้ท่านพี่สินะคะ ฉันจะทำสุดความสามารถเลยค่ะ!
ฉันว่าจะทำให้ท่านพ่อด้วยค่ะ แล้วทำการ์ดติดไปประมาณว่า “ถ้ารักลูกสาวคนนี้ หยุดฉ้อโกงเถอะนะคะ” “สวรรค์มีตา” “ทำสิ่งใด ฟ้าย่อมรู้ ดินย่อมรู้”
อีกคนที่ฉันจะทำให้จริงจัง แต่โกหกท่านแม่ว่าให้คาบุรากิ คือนารุคุงค่ะ เมื่อวันก่อนฉันเจอเขาที่ห้องสมุดด้วยค่ะหลังจากแวะเวียนไปเป็นประจำ เขาทำดินสอตก และฉันก็เก็บให้ เขารับดินสอไปจากมือฉันพร้อมขอบคุณ นี่คืบหน้าจากโลกก่อนมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
ถึงจะแปลกก็เถอะค่ะ แต่นารุคุงก็เป็นคนที่ฉันแอบชอบมาสามชาติติดนะคะ ถึงเวลาที่ฉันควรจะลองสารภาพรักดูแล้วล่ะนะคะ ดีไม่ดีฤดูใบไม้ผลิอาจจะมาถึงฉันได้เร็วกว่าปกติก็ได้ค่ะ โลกนี้แหละค่ะ ฉันจะเดทในชุดเครื่องแบบให้ได้!
ฉันทำช็อกโกแลตให้ท่านพี่อย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้นารุคุงด้วยความรัก และทำให้ท่านพ่ออย่างลวกๆ ถ้าท่านพ่อเลิกโกงเมื่อไหร่จะทำที่ดีกว่านี้ให้นะคะ
เช้าวันวาเลนไทน์ มีเสียงอื้ออึ้งเต็มไปหมด ฉันแทบจะเดินผ่านห้องคาบุรากิกับเอ็นโจไม่ได้เลยค่ะ บนโต๊ะพวกเขามีช็อกโกแลตเต็มไปหมด คาบุรากิถึงกับต้องเอาถุงใหญ่ๆมาใส่กล่องช็อกโกแลตจำนวนมหาศาลนั่น ผู้หญิงต่างยืนกันเต็มระเบียง
เป็นที่นิยมนี่ลำบากเหมือนกันนะคะ แต่อิจฉาจังเลยค่ะที่ได้ช็อกโกแลตกันเยอะขนาดนั้น ฉันนี่แม้แต่ผู้ชายที่มองฉันตรงๆโดยไม่สะดุ้งตกใจหนีไปยังหายากเลยค่ะ
ฉันเดินวนๆรอบห้องสมุด นารุคุงไม่อยู่เลยค่ะ... ฉันเดินหาจนเกือบถึงเวลาเรียนก็ต้องยอมรับและทำใจกลับห้องค่ะ เดี๋ยวตอนพักกลางวันมาดูอีกรอบก็ได้ล่ะมั้งคะ...
ตอนพักกลางวันปรากฏว่าเพื่อนๆพาฉันไปคุยเรื่องรักๆในวันวาเลนไทน์ค่ะ ตอนเช้าดูมีคู่รักหลายคู่เกิดขึ้น และมีคนอกหักด้วยเช่นกัน จนหมดเวลาพักฉันก็ไม่ได้ไปไหน เลยจำใจเดินตามเพื่อนๆเข้าห้องเรียนค่ะ
ทำไมความรักฉันมันมีอุปสรรคขนาดนี้นะคะ ช็อกโกแลตที่ทำอย่างตั้งใจหนักอึ้งอยู่ในกระเป๋า เมื่อไหร่ฉันจะได้บอกความในใจที่แอบชอบให้ใครสักคนสักทีคะ...
พอเลิกเรียนฉันก็ไปที่ห้องสมุดอีก แต่ก็หาไม่เจออยู่ดี ฉันเลยได้แต่ยอมรับว่าคงไม่มีทางเจอนารุคุง...
ขณะที่กำลังจะออกจากโรงเรียนก็บังเอิญเจอคาบุรากิที่พูดอยู่กับคนจากที่บ้านมาช่วยยกถุงที่อัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลต เขาเหลือบมาเห็นฉันพอดีก็เดินเข้ามาหา
“เป็นอะไรไป...”
“เอ๊ะ...?” ทำไมคะ หน้าฉันมันดูเป็นยังไงกัน
คาบุรากิมองฉันราวกับว่ากำลังเสียใจอย่างลึกซึ้งไปพร้อมกับฉัน
“เธอทำช็อกโกแลตนั่นให้ประธานนักเรียนนั่นน่ะหรอ”
“เปล่าหรอกค่ะ” ฉันตอบพลางยิ้มพิลึก คาบุรากิยังคิดไปเองอยู่หรอคะว่าฉันชอบกับนายตัวสำรอง... มันแค่เรื่องบังเอิญเองค่ะที่ฉันเกิดร้องไห้ตอนที่นายตัวสำรองเดินผ่านมากับวาคาบะจัง อย่าคิดว่าทุกคนบนโลกเหมือนกับนายสิ!!!
อยู่ๆคาบุรากิก็นิ่งค้างไป จ้องเขม็งไปที่ที่หนึ่ง ฉันเลยหันไปมองตาม ก็เห็นวาคาบะจังกำลังยื่นกล่องช็อกโกแลตให้นายตัวสำรองค่ะ!!!
เดี๋ยวนะ! ทำไมวาคาบะจังถึงทำแบบนั้นล่ะ ไม่รู้ว่าเป็นช็อกโกแลตตามมารยาทหรือเปล่า วาคาบะจังมีก้มหัวให้นายตัวสำรองเหมือนขอบคุณด้วยค่ะ ฉันพยายามเค้นสมองว่าในมังงะที่ฉันเคยอ่านมีตอนไหนที่วาคาบะจังให้ช็อกโกแลตกับนายตัวสำรองหรือเปล่า เท่าที่จำได้มีแต่คุกกี้นะคะ วันวาเลนไทน์ก็มีแต่ให้คาบุรากินี่คะ
เมื่อนายตัวสำรองเดินจากไปแล้ว วาคาบะจังก็บังเอิญมาเห็นฉันกับคาบุรากิกำลังยืนอึ้งอยู่ตรงนี้ วาคาบะจังสะดุ้งก่อนจะหนีไป
อ้า... นั่นสินะคะ วาคาบะจังคงไม่กล้าให้คาบุรากิหรอกมั้งคะ โดยรังแกข่มขู่มาขนาดนั้น... และก็นะ ถ้าจะให้จริงๆ คงไม่กล้าให้คาบุรากิตอนที่ฉันยังยืนหัวโด่อย่างนี้หรอกมั้งคะ ท่าทางฉันควรจะแอบหลบไปอยู่ที่อื่นก่อนแล้วกันนะคะ
“คิโชวอิน...” คาบุรากิพูดออกมาท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่ใกล้จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
หมอนั่นจับแขนฉันไว้แน่นเลยค่ะ จะทิ้งเขาไปก็น่าสงสาร แต่ว่าถ้าไม่รีบไป ฉันเองก็คงเอาช็อกโกแลตไปให้ท่านพี่ไม่ทันแน่ๆค่ะ
ฉันเลยยัดช็อกโกแลตสำหรับนารุคุงใส่มือคาบุรากิ หมอนั่นก็รับมาอย่างงงๆเหมือนปรับตัวไม่ทัน
“นี่เป็นช็อกโกแลตทำมือ ท่านคาบุรากิคงไม่ชอบเท่าไหร่ล่ะนะคะ ถ้าไม่กินก็ถือว่าฝากทิ้งแล้วกันนะคะ”
“หะ?”
“นี่มันแค่เริ่มต้นเองนี่คะ ยังมีโอกาสอีกตั้งเยอะที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของเราได้ เพราะฉะนั้นอย่ายอมแพ้ง่ายๆสิคะ”
ฉันเองก็จะไม่ยอมแพ้เรื่องนารุคุง เพราะงั้นนายก็อย่ายอมแพ้เรื่องวาคาบะจังสิ!
“อือ” เขาตอบรับในลำคอ ฉันถือโอกาสหนีออกห่างมา ไม่นานวาคาบะจังเห็นคาบุรากิอยู่คนเดียวต้องเอาช็อกโกแลตมาให้แน่ๆเลยค่ะ
ฉันเดินออกห่างจากคาบุรากิ วางแผนการเดินทางไปหาท่านพี่
แต่ฉันก็ต้องชะงักไปเมื่อวาคาบะจังมาขวางทางเดินเอาไว้ แล้วยื่นช็อกโกแลตให้ฉัน
“คุณคิโชวอินคะ! ได้โปรดรับช็อกโกแลตนี่จากฉันด้วยเถอะค่ะ!”
ห๊าาาาาาาาาาาา!?!
ป.ล. ใกล้สอบแล้ว แต่ยังคงปั่นฟิคอย่างบ้าคลั่ง เดี๋ยวช่วงสอบจริงๆอาจจะขอหายไปสักอาทิตย์นะคะ... น่าจะอีกสองสามข้างหน้าก็ต้องหยุดเขียนแล้วอ่านหนังสือได้แล้ว 55555
นั่นไง ปักธงนี้จริงๆด้วย ถถถถถ
*สีข้างสิ โถถถถ
วันนี้กาวดีจริงๆ ชุ่มชื่นหัวใจมาก55555555 ฟิคตำนานรักนี่สมชื่อมากค่ะ ท่านเรย์กะควบสองไปเลยยย ฟิคคู่หูทะลุมิตินี่วาคาบะจังโดนปักธงไปแล้วสินะ สินะ สินะ!
ปล.คิดถึงองค์หญิงเรย์กะก้ากับเจ้าหมาเฝ้าหอคอยจัง นี่ไม่ได้ทวงนะ ไม่ได้ทวงจริงๆ555555555555555
คิดถึงฟิควาเลนไทน์ มึงพรุ่งนี้ไวท์เดย์แล้วนะะะะ
//เปล่า แค่พูด ไม่ได้ทวงจริงเจรงงงงง
ท่านเอ็นโจคะ ดิฉันเห็นใจท่านจริงๆคะ ลองเปลี่ยนจากเรือเป็นยานอวกาศติดเทอร์โบดีไหมคะ?จะได้ไม่ล่ม(จม)อีก(โดนหลุมดำดูดแทน) แถมยังเร็วกว่าด้วยไม่มีใครตามทันแน่นอนโดยเฉพาะคานเนี่ยมันจะหายไปกับตาเลยนะค่ะ!? อุคริ อุคริ
>>278>>279 โอ้ยยย ฟิคนี้ดีงาม กรี๊ดกร๊าด คาบุมาก วาคาบะก็น่ารัก เรือนู้นก็ดี เรือนี้ก็งาม ขาแขนเกาะเเม่งให้หมด อุวะฮาฮา แค่กแค่ก
คิดถึงเอ็นโจเลี้ยงต้อยด้วยอะค่ะคิดถึงพัฒนาการความคืบหน้าของทั้งสอง ไม่ได้ทวงจริงจริ๊ง
เห็นแว้บๆว่ามีคนทวงฟิคเลี้ยงต้อย เลยเอามาให้ ถือว่าฉลองไวท์เดย์
>>>/webnovel/3451/444-446
-------------------
ทุกวันผ่านไปอย่างปกติ เรย์กะก็ยังเป็นคนเดิมที่ชอบเข้ามาอ้อนผม ดูเหมือนเธอจะทำใจเรื่องมาซายะได้บ้างแล้ว เพราะไม่เห็นพูดอะไรขึ้นมาเลย ทั้งที่ปกติเธอมักจะถามผมเกี่ยวกับมาซายะเสมอ
ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าเธอจะรักมาซายะไปตลอดกาลเสียแล้ว ดูเหมือนว่าความจริงเรื่องมาซายะรักยูริเอะจะพอทำให้เธอตัดใจได้บ้าง
ค่อยยังชั่วหน่อย
เธอมักเอาเรื่องผู้ชายคนนั้นคนนี้ที่ทางบ้านแนะนำมาปรึกษาผม ผมก็แนะนำให้เธอไปเดทกับเขาบ้าง หรือลองคุยดูบ้าง แต่สุดท้ายเรย์กะก็จะวิ่งกลับมาหาผมอยู่ดี
"ไม่เห็นสนุกเลย ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้น่าเบื่อ คุยแต่เรื่องตัวเอง" เรย์กะเบ้ปาก "อยู่กับคุณชูสุเกะสนุกกว่าเยอะ"
แค่คำพูดคำเดียว ผมก็มีความสุขไปทั้งวัน ตัวเบาล่องลอยเหมือนอยู่ในอากาศ ช่างเป็นความรู้สึกที่วิเศษชวนเคลิบเคลิ้มอะไรเช่นนี้
โลกนี้ดีอยู่อย่างตรงที่ไม่มียุยโกะมาทำให้ผมปวดหัวเพิ่มมากขึ้น
ยุยโกะเป็นญาติในโลกเดิมของผม อายุเราไล่เลี่ยกันก็เลยถูกทาบทามให้มาเป็นว่าที่คู่หมั้น แต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบตกลงอะไรไปหรอกนะ
และเมื่อเธอเจอเรย์กะในงานโรงเรียนครั้งนั้น เธอก็เกาะติดผมแจยิ่งกว่าอะไรดี มันน่าเหนื่อยหน่ายและน่าเบื่อมากที่ต้องมารองรับอารมณ์หึงหวงและเง้างอนของผู้หญิง แต่ผมก็เป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่พูดออกไปต่อหน้าเจ้าตัว
แต่กับเรย์กะ เธอจะเอาแต่ใจและงอแงแค่ไหน ผมก็คิดว่าน่ารัก
ที่เขาว่าความรักทำให้คนตาบอดนี่คงจะจริง เพราะผมไม่เคยมองเห็นข้อเสียของเธอเลยสักครั้ง
เรย์กะที่ผมเลี้ยงมาให้ตรงตามอุดมคติของตัวผมเองแทบทุกอย่าง รู้จักเธอดียิ่งกว่าใครๆ และรับมือได้หมดทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน
เธอมักจะมาขลุกอยู่กับผม ถ้าไม่ติวบทเรียนก็นั่งคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย สุดสัปดาห์ไหนที่ว่างก็นัดกันไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เหมือนเราเป็นแฟนกันจริงๆ ติดตรงที่ยังไม่ได้เอ่ยปากขอคบแบบเป็นทางการ
ใจหนึ่งผมอยากทำอะไรให้มันชัดเจนไปสักที แต่อีกใจก็กลัวจะถูกปฏิเสธ
ถึงเรย์กะจะไม่ถามหามาซายะแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังหวาดระแวงกับคำพูดของชูสุเกะในโลกกระจกเสมอ
ผมจึงพยายามควบคุมตัวแปรให้อยู่บนมือให้ได้มากที่สุด การที่เราอยู่ด้วยกันบ่อยๆก็คล้ายจะประกาศสถานะกลายๆว่าเธอเป็นของผม ทำให้ไม่มีผู้ชายหน้าไหนกล้าเข้ามาวอแว พวกผู้หญิงเองก็ไม่ค่อยจะมารุมล้อมแบบโลกเดิมเท่าไหร่ คงเกรงใจเรย์กะกันพอสมควร ตัดปัญหาเรื่องหึงหวงออกไปได้
“นี่ คุณชูสุเกะ” เรย์กะแตะแขนผม สายตาที่มองมาดูสงสัยหน่อยๆ “ถึงคิวแล้วแน่ะ”
“อ้อ ขอโทษที” ผมขยับเดินเข้าไปในกระเช้าชิงช้าสวรรค์ที่พนักงานเปิดประตูรอไว้ ยื่นมือไปให้เรย์กะที่ก้าวตามเข้ามาแบบทุลักทุเลนิดหน่อย
วันนี้เรย์กะกับผมมาเที่ยวกันที่สวนสนุก เธอบอกว่าเพิ่งจะเคยมาที่แบบนี้เป็นครั้งแรก ถึงจะดูไว้ตัวหน่อยๆ แต่ก็ยังเที่ยวไปเล่นเครื่องเล่นนั่นนี่ด้วยความสนุกสนาน หัวเราะและยิ้มกว้างเหมือนเด็กๆ
พอส่งชูโรสให้ เธอก็ขมวดคิ้วใส่แล้วบ่นปอดแปด “อะไรเนี่ย ทุกคนเดินกินแบบนี้มันเสียมารยาทไม่ใช่เหรอ” แต่ก็ทานไปด้วยระหว่างที่กำลังเดินไปยังเครื่องเล่นอื่น
เมื่อทานหมดก็พูด “ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าของถูกๆแบบนี้จะอร่อยน่ะ” แล้วก็เลียนิ้วไปด้วย ถ้าเป็นที่โรงเรียนคงไม่มีวันได้เห็นภาพนี้เป็นแน่
ไม่สิ มีแค่ผมเท่านั้นที่ได้เห็นเธอในแง่มุมนี้
ผมเลยซื้อขนมให้อีกหลายๆอย่าง เรย์กะก็บ่นอีกว่าต้องไปลดความอ้วนครั้งใหญ่ แต่เห็นก็กินเอาๆนี่นา
พอหัวเราะ เธอก็หันมามองค้อนแล้วก็เชิดหน้าหนี ผมเลยต้องตามใจเธอทุกอย่างเป็นการง้องอน ยอมให้ลากไปที่นั่นที่นี่ตามแต่เธอต้องการไม่มีปริปากบ่น
เรย์กะลากผมไปที่ชิงช้าสวรรค์ มีแต่คู่รักหนุ่มสาวมาต่อแถวทั้งนั้น ผมมองเรย์กะใส่คาดผมรูปหูกระต่ายที่ผมซื้อให้จากร้านในสวนสนุก เห็นแล้วก็อดคิดถึงเรย์กะในโลกเดิมขึ้นมาไม่ได้
ป่านนี้เธอจะทำอะไรอยู่นะ
“วิวตรงนั้นสวยมากเลยล่ะคุณชูสุเกะ ดูสิๆ” เรย์กะพูดขึ้นขณะที่ชิงช้ากำลังลอยสูงขึ้นไป “สูงขนาดนี้จะมองเห็นซุยรันมั้ยน้า”
เมื่อผมไม่มีปฏิกริยาตอบรับ เธอก็เขย่าแขนผม ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ
“อะไรเหรอ”
“วันนี้คุณชูสุเกะดูเหม่อๆนะ”
“พอดีคิดอะไรนิดหน่อยน่ะ”
“เอ๋ อะไรกัน อยู่กับฉันแล้วยังคิดถึงเรื่องอื่นอีกเหรอ” เธอทำหน้ายู่ “ว่าจะให้อะไรซักหน่อย งั้นไม่ต้องเอาแล้ว”
“อื๋อ” ผมขยับเข้าไปใกล้ๆเธอ ส่งยิ้มให้แบบที่ทุกคนไม่มีทางปฏิเสธได้ “เรย์กะ”
เรย์กะฮึดฮัดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยอมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย หยิบถุงกระดาษสีน้ำตาลขนาดใหญ่ออกมา ของข้างในเป็นคาดผมเหมือนกัน แต่เป็นทรงหูหมาป่า
“เห็นที่ร้านเมื่อกี้ก็ซื้อมาเลยล่ะ” ที่เธอรีรออยู่ในร้านค้าเมื่อกี้ก็เพราะซื้อคาดผมนี่เองหรอกเหรอ “ทีแรกว่าจะซื้อกระต่าย แต่รู้สึกไม่เหมาะกับคุณชูสุเกะเลย หมาป่าเท่กว่าเยอะ”
ผมจ้องคาดผมในมือตัวเอง เป็นครั้งแรกที่ได้รับอะไรตอบกลับมาเช่นนี้
แล้วผมก็ยื่นคาดผมหมาป่านั่นคืนกลับให้เธอไป
“ไม่ชอบเหรอ” เรย์กะช้อนตามอง ทำเสียงกล้าๆกลัวๆ เป็นท่าทางที่เธอมักจะทำเสมอเวลารู้ว่าตัวเองมีความผิด “ขอโทษนะ คุณชูสุเกะ”
“ใส่ให้หน่อยสิ” เธอเลิกคิ้วขึ้นเมื่อผมเอียงหัวไปให้ “ตอนอยู่ในร้านผมยังใส่ให้เรย์กะเลยนี่นา”
“แน้ คุณชูสุเกะนี่ล่ะก็…”
เรย์กะทำปากยื่นแบบเด็กที่ถูกขัดใจ แต่ก็ยันตัวขึ้นมาจากที่นั่ง ก้มตัวอยู่เหนือร่างผม เอาคาดผมหูหมาป่าครอบให้ ท่าทางตั้งอกตั้งใจมาก
ผมมองใบหน้าเธอที่อยู่ใกล้มาก มากจนแทบจะนับขนตาได้ ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูอ่อนดูเชิญชวนให้ลองสัมผัส แทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าคาดผมบนหัวถูกใส่เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เธอเองก็จ้องตาผมอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ
ผมนั่งนิ่งไปอย่างคาดไม่ถึงกับปฏิกริยาเช่นนี้
นิ่งค้างไปอยู่ครู่หนึ่ง เรย์กะก็ลืมตา แล้วถอยกลับไปนั่งที่ มองออกไปนอกหน้าต่าง ทำเหมือนเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมมองตามด้วยความรู้สึกสับสน
เมื่อกี้นี้หมายความว่ายังไงกันนะ
“นึกว่าคุณชูสุเกะอยากจูบซะอีก” เรย์กะพูดโดยไม่หันมามองหน้าผม ใบหูที่โผล่พ้นเส้นผมเป็นสีแดงระเรื่อ
“เรย์กะ” ผมใจเต้นแรงขึ้นมากับคำพูดนั้น
“ไม่มีอะไรหรอก ช่างมั…”
คำพูดเหล่านั้นหายไปในลำคอเมื่อผมประคองใบหน้าของเธอขึ้น แนบริมฝีปากตัวเองเข้ากับปากของเธอ
เหมือนโลกหยุดเคลื่อนไหวในเวลานี้
หูผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ประสาทสัมผัสทุกส่วนหยุดนิ่ง มีเพียงสัมผัสที่อ่อนหวานนุ่มนวลเหมือนขนนกลากไล้ริมฝีปาก ผีเสื้อนับร้อยนับพันกระพือปีกอยู่ในท้อง
มือที่กำแขนเสื้อผมอยู่สั่นน้อยๆ ผมสอดประสานนิ้วเธอเข้ากับมือตัวเอง บอกให้รู้ว่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน
รู้สึกถึงความเปียกชื้นบนแก้ม ถอยออกมาก็เห็นว่าดวงตาคู่นั้นมีน้ำตานอง
ร้องไห้งั้นเหรอ ทำไมล่ะ
ความรู้สึกที่เหมือนผีเสื้อบินอยู่ในท้องได้หายไป มีแต่ความกระอักกระอ่วนเข้ามาแทนที่ ตามมาด้วยความเสียใจจนรู้สึกเจ็บหนึบ ตัวชาไปหมด
เธอรังเกียจผม จนร้องไห้
ความจริงที่คิดขึ้นมาได้ต่อจากนั้นคือ เธอยังรักมาซายะอยู่
“ขะ ขอโทษค่ะ” เรย์กะใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมา
“ไม่ต้องขอโทษหรอก” ผมถอยกลับไปนั่งที่ตัวเอง “ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ”
เรย์กะร้องไห้อยู่อย่างนั้น ผมก็ได้แต่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ นั่งมองเธอร้องไห้ไปเงียบๆโดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ชิงช้าค่อยๆเลื่อนลงมาข้างล่าง ทิวทัศน์งดงามเมื่อมองจากที่สูงก็หายไปเหมือนคนที่ตื่นจากฝัน
ได้เวลาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงสักที
------------------------
กูจะเจาะรูเรือตัวเองทำไมมมมมมมมมมมมมมม
ทำไมจู่ๆลูกเรือเอ็นโจก็เจาะเรือตัวเองวะ พวกมึงเก็บกดกันมาจากไหน 55555555555555555
ไหนๆโม่งฟิคเลี้ยงต้อยก็มาให้ฉลองวันไวท์เดย์ โม่งฟิคเรย์กะความจำเสื่อมอยู่ไหนน้า กูไม่ได้ทวงจริงๆนะ กูแค่อยากบอกว่ากูอ่านซ้ำไปซ้ำมาเกือบสิบรอบแล้วววว
>>302 คิดถึงมึงงง จุ๊บ <3 ตอนที่แล้วห้อง 3 นี่ห้อง 8 แล้ว มึงหายไป 5 ห้องเลยรู้ไหม ถถถถถถถ
โอ๊ยยย เจ็บ ตอนจูบนี่กูนึกว่าจะแฮปปี้แล้วนะ มึงหลอกกู๊ววว ฮืออออ ร้องไห้ทำไมล่ะเรย์กะ ฮืออออออ ทำไมฟิคช่วงนี้ทำร้ายท่านจอมมารของกูจังวะ ของขวัญวันไวท์เดย์นี่ขมขื่นเป็นบ้า ถถถถถถถ
รอตอนต่อไปอยู่นะมึงงง
ตอนนี้อยากอ่านทุกฟิคอ่ะ ต้องการกาวล็อตใหญ่
Side story ท่านแม่ด้วยมึง มึงบอกมาพรุ่งนี้ ตะไมพรุ่งนี้มึงนานจัง;___;
อ่อ เห็นพูดถึงกันเลยขอพูดมั่ง กูไม่ได้จะมาทวง กูแค่มาบอกเฉยๆ ว่า กูชอบฟิคความจำเสื่อมนะ ถ้าได้อ่านต่อก็จะดีมากๆ อ่อ แต่กูไม่ได้ทวงจริงจริ๊งงงงง
จริง อยากอ่านฟิคความจำเสื่อมต่อมาก
ฟิคนั้นดีต่อใจจริงๆ
แต่ก็รอคอยฟิคองค์หญิงเรย์กะก้ากับพ่อมดบนหอคอยอยู่เหมือนกัน แต่กูไม่ได้ทวงนะ ไม่ได้ทวงจริงจริ๊งงงงง
วันนี้ไวท์เดย์ อ.ฮิโยโกะจะประทานตอนใหม่มาให้หรือไม่
ky อ.ฮิโยโกะนี้แต่งเรื่องอื่นมั้ยว่ะ อยากตาม
อย่าลืมฟิคกำลังภายในด้วยนะ มีความน่าจะฮา
บางทีก็สงสัย ว่าถ้าเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์จริงๆมันจะดังขนาดนี้ไหมวะ แบบ กาวเต็มไปหมดทั้งฝั่งยุ่นฝั่งไทย หรือว่าจะเงียบๆลงไป
อาทิตย์นี้ดูเงีบบเหงาจัง มู้ที่แล้วไหลเร็วมาก
>>342 แอบคิดว่าเสียงคามิยันจะดูไม่ค่อยได้อิมเมจเอ็นโจ คิดว่า เอ็นโนกิ จุน ที่พากย์ทาเครุ ในดิจิมอนไตร อาจจะเหมาะกว่า คาแรคเตอร์คล้ายๆกันด้วย อิชิดะ อากิระซังก็แอบโอนะ ให้ความรู้สึกสต็อคเกอร์นิดๆด้วย ฮ่าๆ
คาบุ นี่อาจจะประมาณซุซุกิ ทัตสึฮิสะซังที่พากย์น็อคติส ไม่ก็ ซุกิยามะ โนริอากิซังที่พากย์ซาสึเกะ คนแรกให้ฟีลขี้เก็กแบบบ้าๆ คนหลังให้ฟีลขี้เก็กซึนๆ
ท่านอิมารินี่ยกให้ยูสะ โคจิซังเลย รายนี้พากย์ตัวละครคาสโนว่าเยอะมาก แถมเป็นคาสโนว่าสายโดนกระทำตลอด กระสอบทรายแท้ๆ
ท่านพี่นี่อาจจะฮิโนะ ซาโตชิซังอ่ะ รายนั้นพากย์ตัวละครพี่ชายแล้วดีงามมากๆ
ตัวละครหญิงโนคอมเมนต์
>>342 เสียงซากุไรเหมาะกับตัวสำรองมากกว่าอ่ะ
ส่วนบากะรากิต้องมิยาโนะ มาโมรุหรืออีตาฟุคุยามะ จุนไปเลย รั่วได้เหมาะมากสองคนนี้
แต่เอ็นโจนี่...นึกไม่ออกจริงๆ ว่าใคร... มีแคนดิเดตคนนึงน่าจะพอได้ อีตาโนบุนากะไง พอไหวอยู่...ไม่สิ ถีบน๊บบุไปพากย์อมวก.อาจจะเหมาะกว่า
ท่านเรย์กะ ต้องคะน้า! คะน้าไม่ได้ ก็ริเอะซัง!
>>343 กูชอบเสียงคามิยันตอนพากย์รีไวในไททันอะ นุ่มๆทุ้มๆดี คิดว่าเสียงเอ็นโจน่าจะเนิบนาบประมาณนั้นง่ะ แต่อิชิดะ อากิระก็แจ่มเหมือนกันนะ
ส่วนซากาโมโตะ มายะ กูชอบตอนเขาพากย์ฌานน์ ดาร์ก ในfate go เสียงสวยมากๆ
https://www.youtube.com/watch?v=e2Swga2D_0k
อ้อ แล้วก็คักกี้พากย์นายบ้าหมา
ช่วงนี้ยุ่งๆ ไม่ค่อยได้เข้ามาเลย พอเข้ามาฟิคกาวเต็มเลยย ><: ช่างดีเหลือเกินมีแต่คนร่มเรือเอ็นโจ (เอ๊ะ??) //ช่วยเรียกคะแนนหน่อยละกัน หรือมันจะยิ่งทำให้หมั่นไส้กว่าเดิมดี?
มาโยนฟิคกาว
เรย์กะสามัญชน ตอนพิเศษ --ความจริงที่อยู่เบื้องหลัง (คาราบุกิ)
*****************************************
แผนการทุกอย่างได้ถูกวางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
มันเริ่มก่อนที่บ้านของคิโชวอินจะล้มละลายเสียอีก ด้วยเครือข่ายของบ้านเอ็นโจที่เป็นตระกูลเก่าแก่ที่ด้อยกว่าเพียงแค่ตระกูลคาราบุกิเท่านั้น ถ้าหากตระกูลเอ็นโจเอ่ยว่าเขาเป็นเพียงแค่ที่สาม คงไม่มีใครกล้าขึ้นแท่นเป็นที่สองเทียบเท่าเสมอตัวหรอก แม้แต่ผมที่เป็นเพื่อนสนิทของชูสุเกะเองในบางครั้งก็คิดเสมอว่าหมอนี่น่ากลัว เป็นจอมวางแผนการอย่างแท้จริงเลยล่ะ...
ผมเฝ้ามองมาตลอด เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของผม ทายาทตระกูลเอ็นโจที่มักจะใช้สายตาแบบไหนมองตามยัยคนนั้น ผู้หญิงจอมเอาแต่ใจ หยิ่งยโสโอหัง ไม่เคยเห็นหัวใครคนไหนทั้งนั้นอย่างไร
ถึงผู้หญิงคนนั้นมักจะทำให้ผมโมโห ไม่ชอบใจตั้งแต่เด็กๆ เพราะผมไม่ค่อยชอบผู้หญิงที่ขี้โวยวาย แต่ว่าในตอนปกติเธอก็ไม่ได้ทำท่าทีแบบนั้นกับใคร ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงใช้อำนาจบารใหญ่ ทั้งที่เมื่อยิ่งเธอกลั่นแกล้งคนรักของผม ‘ทาคามิจิ วาคาบะ’ ก็ยิ่งอยากจะทำให้เธอหายไปซะ แต่ว่า…
ผมดันมารู้เสียก่อนว่า เอ็นโจ ชูสุเกะ เพื่อนสนิทของผมชอบยัยนั่น ถึงจะไม่รู้ว่าชอบได้ยังไงก็เถอะ แต่ว่าสายตาของชูสุเกะมักจะเปลี่ยนไปตอนที่มองคิโชวอิน เรย์กะ สายตาที่เต็มไปด้วยความโหยหา หึงหวง สับสน และเหนืออื่นใดก็สายตาที่เปี่ยมไปด้วยรัก
แต่ถ้าเกิดว่าเป็นคนที่เพื่อนของผมชอบ ยังไงผมก็ยอมลงให้อยู่แล้วล่ะ
ตอนที่ได้รู้ว่าชูสุเกะ ชอบผู้หญิงคนนั้น ผมได้แต่ช็อคค้าง ตะลึงงันไปหลายตลบเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าชูสุเกะจะไม่พูดอะไรออกมาเลย แต่พอสังเกตดีๆ สายตาของเขามักจะหยุดอยู่ที่ยัยผู้หญิงคนนั้นเสมอ
สายตาที่อยากได้เธอคนนั้นมาเป็นของตน แต่บางทีก็มองเหมือนกับเป็นของเล่นที่น่ากลั่นแกล้ง ทว่าพออยู่ต่อหน้าเธอคนนั้นชูสุเกะกลับเปลี่ยนท่าที แสร้งทำเป็นโหดร้ายและเย็นชา เอาแต่พูดกันไม่ให้เข้าใกล้ผม จนผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำตัวแบบนั้น แค่ไปพูดดีๆ กับเธอทำไม่ได้รึไงกัน จีบเธอเหมือนที่คนปกติเขาทำกันสิ
นายเป็นเด็กเรอะ ชูสุเกะ!
ไปแกล้งเด็กผู้หญิงที่ชอบแบบนั้นได้ยังไงเล่า?!
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยัยผู้หญิงคนนั้นใช้อำนาจของตระกูลจะให้เธอหมั้นกับผม แต่ว่ามีหรือที่ผมจะยับยั้งไม่ทันน่ะ เพียงแต่ดันมีใครบางคนอยู่เบื้องหลังแผนการนี้อีกที…
“ปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่ผม มาซายะ”
แค่คำพูดประโยคเดียวของชูสุเกะ ทำให้ผมสะอึก หนาวสั่นด้วยความกลัว รอยยิ้มหวานของชูสุเกะตอนที่พูดมานั้นทำให้ผมถึงกับกอดทาคามิจิที่นั่งอยู่ข้างๆ แน่น ถึงทาคามิจิจะทำท่างงงวยอยู่ไม่รับรู้คำขู่ของชูสุเกะก็ตามที
เฮ้ อย่ารู้สึกตัวช้าแบบนั้นสิ ไม่เห็นหรือไงว่าชูสุเกะกำลังขู่อยู่!!
สุดท้ายงานหมั้นระหว่างผมกับยัยผู้หญิงคนนั้นก็ล่ม เละไม่เป็นท่า สภาพของคิโชวอิน เรย์กะที่กำลังทึ้งผมทรงราชินีโรโคโค่ที่ตัวเธอนั้นทนุถนอมอย่างดียุ่งเหยิงจนหมดสภาพของมาดผู้ดี
ตอนนั้นชูสุเกะเพียงแค่ใช้สายตาเย็นชามองไปที่เธอเท่านั้น แต่ผมเห็นนะว่าตอนนั้นสายตาหมอนั้นสับสนน่าดูทีเดียว แถมพอเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่าง ผมกับทาคามิจิได้หมั้นหมายกัน แต่ว่าก็ยังคงเหลือด่านของท่านแม่ที่ยังไม่ยินยอมเท่านั้น แต่เชื่อว่าอีกไม่นานท่านแม่ต้องยอมแน่นอน
เพียงแต่ที่ผมเป็นห่วงก็คือผู้หญิงคนนั้น… คนที่ชูสุเกะชอบนั่นแหละ พอเธอถูกลากตัวไป ชูสุเกะก็หายตัวไปตัวด้วยเลย
...โครตน่ากลัวเลย ชูสุเกะ นายวางแผนอะไรอยู่กันแน่ฟะะะะ!
หลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็มาในโรงเรียนด้วยสภาพที่น่าสมเพชที่สุดเลยล่ะ ไม่เหลือร่องรอยของลูกคุณหนูผู้ทรงอำนาจเลย แต่ว่ายัยนั่นก็มีท่าทีหยิ่งยโสเหมือนเดิม เธอถูกรังแก กลั่นแกล้งจนดูน่าอดสู้ แต่ทว่าก็เข้มแข็งเหลือเชื่อที่ไม่ร้องไห้ให้เห็นเลยสักแอะ ผมรู้ว่ามีลูกน้องของเธอหลายคนอยากเข้าไปช่วย แต่ด้วยอิทธิพลของตระกูลผมและชูสุเกะทำให้ทุกคนไม่กล้า อีกอย่างเรื่องที่เธอเป็นคนที่ดูแลลูกน้องอย่างดีนั้น ก็เข้าหูมาบ้างเหมือนกัน เสียก็แต่เรื่องที่เธอใช้อำนาจไปเยอะนั้นแหละที่กลบข้อดีไปหมด
แต่จะโทษผมไม่ได้หรอกนะ ก็ผมไม่ได้ชอบเธอนี่
ชูสุเกะเองก็เอาแต่คอยเฝ้ามอง ทำท่าอยากจะไปช่วยตอนที่ถูกรังแก แต่กลายเป็นว่าพอเข้าไปช่วย กลับช่วยไม่สุด ดันไปตอกย้ำซ้ำเติมเขาอีก
แล้วดูสิ...ร้องไห้เลยเห็นไหมนั่นน่ะ
ชูสุเกะเองก็เอาแต่คอยเฝ้ามอง ทำท่าอยากจะไปช่วยตอนที่ถูกรังแก แต่กลายเป็นว่าพอเข้าไปช่วย กลับช่วยไม่สุด ดันไปตอกย้ำซ้ำเติมเขาอีก
แล้วดูสิ...ร้องไห้เลยเห็นไหมนั่นน่ะ
เท่านั้นยังไม่พอยังแอบไปเล่นงานพวกที่กลั่นแกล้งผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย ยังประกาศตัวตนว่า
“คนที่แกล้งคุณคิโชวอินได้มีแค่ผมเท่านั้น” ด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบขาด ชนิดที่ว่าทำให้ผู้ฟังแข็งตาย ทั้งยัง…
“...อ๋อ แล้วก็ถ้าเรื่องนี้แพร่ไปล่ะก็ ผมจะไม่ชอบใจเอานะ” บรรยากาศรอบข้างแข็งยะเยือกราวกับมีพายุมาพัดผ่าน เหมือนเห็นเงายมทูตแห่งความตายยืนอยู่หลังหมอนั่นยังไงอย่างงั้นล่ะ
เฮ้ยๆ มันไปกันใหญ่แล้วนะ ชูสุเกะ นายจะหมดทางเยียวยาแล้ว เดี๋ยวคนเค้าก็เกลียดหรอก พอว่าไปแบบนั้น ชูสุเกะก็ยิ้ม ยิ้มแบบที่ไม่อยากให้ใครมายุ่งทั้งนั้น
“ยังไม่พอหรอกมาซายะ สำหรับเธอคนนั้นน่ะ”
แกล้งไม่พอ? หรือแค้นไม่พอ?
สรุปแล้วนายชอบเธอหรือแค้นฝังหุ่นกับเธอกันแน่ ชูสุเก้ะะะะ
บางทีชูสุเกะก็ทำเรื่องที่ผมไม่เข้าใจ อย่างตอนที่ผู้หญิงคนนั้นไปร้องไห้อยู่ด้านหลังสโมสรเปอร์ติต์ เจ้านั่นก็ใช้ยูกิโนะ จอมมารในร่างเด็กไปใช้ความน่ารักหลอกล่อผู้หญิงคนนั้นอยู่หลายที
หรือจะเป็นตอนที่ชูสุเกะเฝ้ามองเธอในห้องที่โรงพยาบาล ตอนที่เธอคนนั้นหลับไปแล้ว เฝ้าทุกวัน ถ้าเกิดไม่ติดว่าต้องไปโรงเรียน ผมคิดว่าชูสุเกะคงไม่ออกมาจากในนั้นแน่
ในตอนนั้นเป็นวันที่ผมได้รู้เรื่องทั้งหมด และยอมตกลงช่วย ถ้าเกิดว่าย้อนเวลากลับไปได้ล่ะก็ผมจะทำเฉยเสีย ไม่พาทาคามิจิไปหาชูสุเกะเด็ดขาดเลย!
อ๋อ แน่นอนว่าคนที่ผลักผู้หญิงคนนั้น ไม่ตายดี…
ไม่สิ หายตัวไปแล้วล่ะ...
เอ๊ะ? มันความหมายเดียวกันเรอะ ช่างเถอะ…
พอหลายวันต่อมาแม่ของผู้หญิงคนนั้นก็มาที่โรงเรียนซุยรันเพื่อทำเรื่องลาออก แต่มีหรือที่เรื่องนี้จะชูสุเกะจะไม่รู้ และไม่รู้ว่าชูสุเกะทำอิท่าไหนถึงให้ท่านพ่อท่านแม่ของเขาออกค่าเล่าเรียนให้เธอ และก็พวกลูกน้องของเธอคนนั้นก็จงรักภักดีต่อผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วย ถึงขนาดที่รวมกลุ่มกันมาขอร้องผม และชูสุเกะ ทั้งที่เนื้อตัวสั่นเทาจนน่าสงสาร ผมไม่ได้ตอบอะไรไป แต่ชูสุเกะบอกเรียบๆ ว่าจะจัดการให้เท่านั้น
จนผมอดคิดไม่ได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นไปวางยาอะไรชูสุเกะ ไม่สิ อาจจะกลับกันก็เป็นไปได้?
พอยิ่งได้ฟัง ผมก็ยิ่งไม่เข้าใจชูสุเกะมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ซับซ้อนแบบนั้นทำไม สารภาพรักโต้งๆ สิ ปกป้องเธอซึ่งๆ หน้าสิ ทำแบบผมกับทาคามิจิไปเลย!
ลูกผู้ชายมันต้องเถรตรงเท่านั้นนะ!
“มาซายะเองก็ได้คำแนะนำจากผมไม่ใช่เหรอ?”
สิ้นคำพูดประโยคนั้น ผมได้แต่นั่งนิ่งคิดในใจว่ามันก็จริง เรื่องที่ผมจีบทาคามิจิได้เป็นเพราะชูสุเกะล้วนๆ
แต่ไม่ดิ มันผิดประเด็นแล้วนะ! นี่นายกำลังพยายามเบี่ยงประเด็นอยู่นะเฟ้ย ชูสุเกะ!
ให้ตายเถอะ เจ้าชูสุเกะไม่ฟังผมเลย แถมยังนั่งยิ้มให้ผมค่อยๆ หมดคำพูดไปเอง…
โรงเรียนปิดเทอมพอดีกับตอนที่ผู้หญิงคนนั้นน่าจะออกจากโรงพยาบาล ผมได้ยินข่าวปะปลายจากชูสุเกะแค่ว่าเธอเปลี่ยนไป ผมได้แต่เออออตามเพื่อนที่มีความรักแสนน่ากลัวไปตามเรื่อง หลังจากนั้นผมไม่อยากรับรู้แล้วว่าเรื่องเป็นไงต่อ!
แค่ได้ฟังแผนการต่างๆ จากคนเจ้าแผนการอย่างชูสุเกะก็แย่เกินไปแล้ว ช่วงเวลานั้นมันกดดันสุดๆ หลังจากนั้นผมเลยไปช่วยงานที่บ้านทาคามิจิเสียส่วนใหญ่ ถึงแม้จะโดนทาคามิจิหาว่าวุ่นวาย จนต้องนั่งมองอยู่เฉยๆ ไม่ก็เป็นเพื่อนเล่นน้องๆ ของทาคามิจิ
อย่างน้อยขอที่สงบๆ ให้ผมบ้างเถอะ…
พอวันงานเลี้ยงฤดูร้อน ผมได้ไปงานเลี้ยงกับทาคามิจิ สายตาทุกคนมองมาที่ผมกับเธอราวกับเหลือเชื่อ แต่มันก็ผิดกฏนั่นแหละที่พาคนนอกเข้ามาในงานนี้ แต่ทำไงได้ล่ะ ทาคามิจิเป็นคู่หมั้นของผมคงไม่มีใครคัดค้านแน่
แต่ครู่ต่อมาผมก็ต้องตะลึงกับชูสุเกะที่เข้ามาในงานพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงคนนั้นที่ชูสุเกะจับมือของเธอคล้องแขนเอาไว้หน้าทางเข้างานอย่างทนุถนอม แล้วรอยยิ้มของชูสุเกะนั่นมันอะไร สายตารักไคร่แบบนั้นอีก นายจีบเธอสำเร็จแล้วเรอะ!?
ทำตามที่ผมแนะนำไปใช่ไหม?
สารภาพรักกับเธอแล้วรึเปล่า?
พอผมถาม ชูสุเกะก็ยิ้มพราว บอกเพียงว่า “แผนเปลี่ยน แต่อีกไม่นานนักหรอก” ทำเอาบรรยากาศอันอบอุ่นหนาวยะเยือกในพริบตาอีกรอบ
ชักอยากจะรู้แล้วสิ ว่าคิโชวอิน เรย์กะไปทำอิท่าไหนให้ชูสุเกะเป็นแบบนี้ได้ อยากจะไปเรียกตัวมาถามนะ แต่ถ้าต้องเสี่ยงกับภาคอวตารจอมมารจอมวางแผนของชูสุเกะแล้ว ผมไม่ขอรับรู้อะไรทั้งสินแล้วกัน
เอาเป็นว่าผมจะขอเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ไม่ยุ่ง ไม่เห็น ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นก็แล้วกันนะ
ฉันกับทาคามิจิจะไปขอโทษที่หลัง
แล้วก็สุดท้ายนี้
…ขอให้ปลอดภัยจาก… เอ่อ คนคนนั้นก็แล้วกัน
คิโชวอิน เรย์กะ…
***********************************************
จบค่า
***************************************************
หมั่นไส้จอมมาร =_=
ทำไมลูกเรือเอ็นโจเป็นคนแบบนี้กันล่ะคะ เรืออื่นเขาช่วยกันพายขยันขันแข็ง แล้วพวกมึงจะยิงมิสไซล์ใส่เรือตัวเองกันทำไมมมมม 5555555555
วงวารจอมมาร ข้างกายมีแต่พวกทรยศต่อเลือดเต็มไปหมด//ทำเสียงครีเชอร์
ภาพพจน์ป่นปี้หมดแล้วท่านจอมมาร ลูกเรือทรยศกันรัวๆเลยโว้ย ถถถถถถถถถถถถถ หมู่นี้มีแต่ฟิคเจาะเรือเอ็นโจ โดยลูกเรือเอ็นโจเองทั้งนั้น
จากรังแกไซซายะก็มารังแกชูสุมอยกันเหรอวะพวกมึง 5555555555555555
Ky หน่อย กุสงสัยว่าทำไมท่านพี่ไม่โผล่ไม่ในคิมิคอลเลย ตระกูลคิโซวอินก็ไม่น่าเป็นรองเอ็นโจกับคาบุรากิมากไม่งั้นคงบังคับให้หมั้นไม่ได้แน่ๆ ถ้ามีท่านพี่ตระกูลคิโซวอินก็ไม่น่าจะล้มง่ายๆท่านพี่กุว่าร้ายกว่าเอ็นโจอีก ถ้าท่านพี่เป็นคนดีไม่ยอมรับการโกงของพ่อแต่คงไม่ยอมให้ตระกูลล้มละลายง่ายๆ ยิ่งถ้าบ้านคิโซวอินในคิมิคอลร้ายทั้งบ้านแล้วท่านพี่จะไม่ร้ายได้ไง ท่านพี่เป็นลาสบอสยังได้เลยแค่ในสายตาเรย์กะท่านพี่ หรือท่านพี่จะโดนตัดออกจากตระกูลแบบฟิคว่ะ5555 ท่านแม่ดูเกรงใจท่านพี่ออก เอ๊ะท่านพี่อาจจะเป็นเอ็นโจทะลุมิติมาแบบเรย์กะ หืมไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ โอ๊ยกุควรหยุดพี้ยา555555
กูเรือเอ็นโจว กูหมั่นไส้เอ็นโจวในฟิคนี้มาก เล่นซะบ้านคนอื่นล่มจม จมไปซะ ไปคุยกับรากมะม่วงไป๊ //ชูป้ายนายตัวสำรอง กี้สสสส
>>366 คิดว่ามันเป็นพล็อตโฮลของมังงะอะ เรย์กะเคยบอกว่าในมังงะแทบไม่เคยพูดถึงตระกูลคิโชวอินเลย พ่อแม่โผล่มาก็ตอนงานหมั้นท้ายเรื่อง
คิดว่าคงเหมือนมังงะตาหวานทั่วๆไปที่แบบก็ตัวร้ายอะ เกิดมาเพื่อวี้ดๆว้ายๆ ให้คนเกลียดแล้วก็จากไป ตัวละครไม่มีมิติอื่นในมังงะ
กูเคยคิดนะว่า ในมังงะ ท่านพี่อาจจะไม่มีอยู่เลยก็ได้ แบบเรย์กะในเรื่องนั้นเป็นลูกคนเดียว เช่นเดียวกับยูกิโนะคุงที่ก็ไม่เคยมีการกล่าวถึงในมังงะเลย
>>366 ตอนพาร์ทความคิดท่านพี่ ท่านพี่ไม่ชอบเรย์กะเวอร์ชั่นดั้งเดิมเลย มองน้องด้วยสายตาเย็นชาตลอด ถ้าเป็นเวอร์ชั่นคิมิดอลท่านพี่คงทนไม่ไหว ขอแยกตัวไปเองว่ะ แต่พอมีวิญญาณสาวสามัญชนมาสิง นิสัยค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อ้อนท่านพี่มากขึ้น ท่านพี่เลยกลายเป็นซิสค่อนมาจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็รักครอบครัวตัวเองมากขึ้นด้วย
>>370 กูว่าตัวละครอื่นๆในเรื่องมีในคิมิดอลหมดนั่นล่ะ เพียงแต่คิมิดอลมันโฟกัสไปที่พระเอกนางเอกมากกว่า เลยไม่ค่อยเห็นชีวิตตัวประกอบคนอื่นๆว่าอยู่กันยังไง คิดอะไร ไปทำอะไรมาในแต่ละวัน
ไม่มีชื่อเรื่อง แต่หลงรักท่านพี่ เป็นติ่งท่านพี่ กรี๊ดดดด ซุ่มเขียนมาตั้งแต่วันอาทิตย์แล้วแปลกๆเพิ่งจะรู้สึกว่าโอเคหน่อย อาจจะยังสำนวนแปลกๆบ้างน้าา อย่าว่ากัน นี่ก็เพิ่งแต่งเป็นครั้งแรก เพราะท่านพี่ ยกครั้งแรกนี้ให้ท่านพี่เลยค่ะ55555555555555
--------------------------------------
คิโชวอิน ทาคาเทรุ
ตั้งแต่เริ่มจำความได้ รอบๆตัวผมก็มีผู้คนรายล้อมมากมาย ทั้งเอาอกเอาใจ ไม่ว่าผมจะอยากได้อะไรก็ได้ตามที่ต้องการเสมอ แต่ผมรู้นั่นเป็นเพราะผมคือ 'คิโชวอิน ทาคาเทรุ'
เป็นเพราะผมคือลูกชายของตระกูลใหญ่ที่มีทั้งความมั่งคั่งทางการเงิน อิทธิพลและอำนาจ ทำให้พวกผู้ใหญ่ต่างพาลูกหลานเข้ามาแนะนำให้รู้จักอยู่เสมอ ผมที่เริ่มรู้ความแล้วจึงได้แต่ยิ้มและทักทายกลับอย่างมีมารยาทเท่านั้น
ผมรู้ดีอยู่แก่ใจคนพวกนี้เข้าหาผมเพียงเพราะตระกูล หรือถ้าไม่ก็เข้าหาเพียงเพราะเห็นหน้าตาและภาพลักษณ์ภายนอกของผม เป็นแค่เปลือกนอก ทุกคนที่เข้าหาผมไม่ได้เข้าหาเพราะตัวผมที่เป็น'ผม'
เพราะรอบๆตัวผมเป็นแบบนี้ คนที่ผมจะรักในโลกนี้คงมีเพียงแค่ท่านพ่อและท่านแม่เท่านั้น ถึงแม้ท่านพ่อท่านแม่จะชอบดูถูกคนอื่นและแบ่งแยกชนชั้นแค่ไหน ผมก็ยัง 'อยากที่จะรัก' ไม่ว่ายังไงพวกท่านก็คือครอบครัวของผม คนที่ให้ชีวิตทำให้มีตัวผมในทุกวันนี้
ตัวผมไม่สนใจเรื่องรักๆเท่าไหร่ สำหรับผู้หญิงที่ผมรักแล้วนอกจากท่านแม่คงไม่มีใครคนไหนที่ผมจะรักอีก
ผมคิดอย่างนั้นมาโดยตลอด จนกระทั่ง 'คิโชวอิน เรย์กะ' ได้ถือกำเนิดขึ้นมา
-----------------------------
TBC เจอกันใหม่วันที่พร้อม5555555 ขอไปอ่านย้อนเพิ่มความติ่งท่านพี่ก๊อนนน
เออะ ถึงโม่งที่แต่งนิยายให้เอ็นโจกับเรย์กะไปเดทกันแล้วพากันไปดูหนังย้อนยุคไทโชโรมันที่พระเอกจีบนางเอกอ้อมๆ นางเอกก็เอาแต่เข้าใจผิดจนกระทั่งพระเอกเสียไปถึงรู้ความจริง นี่ใช่โปสเตอร์หนังของมึงป่ะ กูดูแล้วรู้สึกใช่มาก สายตาเอ็นโจมันต้องประมาณนี้แน่ๆ ส่วนนางเอกก็ทำผมม้วนๆ เพิ่มอีกหน่อยนะ
https://imgur.com/a/83fLm
ขอkyหน่อยนะ
ตะกี้อ่านนิยายเรื่องนึง มีคนชื่อเบียทริช โผล่มา
จินตนาการเบียทันร่างคนไปซะงั้น ถถถถถถถ
>>373 เรื่องหนังกูแต่งมั่วๆเอาเรย์กะกับเอ็นโจมายำรวมกันน่ะ กูเพิ่งเคยเห็นรูปนี้ แต่สายตามันใช่ว่ะ ถถถถถถถถ กูชอบรูปนี้จัง โอเคเลยถ้าให้เป็นโปสเตอร์หนังเรื่องนั้น
กว่ากูจะเขียนพาร์ทสองเสร็จ เรือจอมมารจะเหลือแค่ไม้กระดานป่ะวะเนี่ย ปราณีเอ็นโจชูสุมอยหน่อยนะพวกมึง 555555555555
>>372 ว้ายยยย ท่านพรี่ ท่านพี่จะรักใครมากไปกว่าน้องสาวไม่มีอีกแล้วค่ะ
ว่าแล้วก็อยากให้มีคนแต่งบทละครหนังเรื่องนี้ออกมาจังค่ะ มีพล็อตพร้อมยันจบแล้วนะ 5555
กูอ่าน >>350-351 แล้วอินจัด ขอแต่งเรย์กะ kimidolce หน่อย
---------------------------------------------
การแก้แค้นของเรย์กะ
วินาทีที่สิ้นหวังนั้น ฉันก็ได้สบตากับชายที่ยืนอยู่ด้านหลังท่านคาบุรากิ
...เอ็นโจ ชูสึเกะ
แววตาของคนๆนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สะใจ รวมถึงยินดีในความตกต่ำของฉัน และแววตานั้นก็ได้บอกฉันว่า เขานั้นแหละคือคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง
ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าคนที่ทำให้ท่านคาบุรากิสนใจเด็กสามัญชนคนนั้นก็คือเขา คนที่แนะนำให้ท่านคาบุรากิจีบเด็กนั่นก็คือเขา คนที่สร้างสถานการณ์ต่างๆสำหรับท่านคาบุรากิกับสามัญชนคนนั้นก็คือเขา รวมถึงคนที่สร้างโอกาสให้ฉันกลั่นแกล้งคุณทาคามิจิได้ง่ายขึ้นก็คือเขา
แล้วทำไมคนที่แนะนำให้ท่านคาบุรากิทำลายตระกูลของฉันจะไม่ใช่เขาล่ะ
ฉันมองที่เอ็นโจ ชูสึเกะอย่างเจ็บแค้น เมื่อโอกาสมาถึง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ฉันคนนี้เนี่ยแหละจะทำให้คนๆนั้นทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
หลังจากบริษัทล้มละลายหนึ่งอาทิตย์ ท่านแม่ก็พาฉันไปที่ซุยรันเพื่อลาออก ถึงฉันจะไม่ยินยอมแค่ไหนแต่ตัวฉันก็รู้ดีว่าเงินที่เหลือของบ้านเราคงไม่พอสำหรับเรียนต่อ และฉันก็ไม่อยากทนเห็นสายตาของคนที่มองมาที่ฉันอย่างสมเพช
แต่เอ็นโจ ชูสึเกะกลับโผล่มาบอกท่านแม่ว่าจะดูแลเรื่องค่าใช่จ่ายให้
"ไม่ค่ะ"
ฉันปฏิเสธไป ท่านแม่มองมาที่ฉันอย่างตกใจ แล้วกระซิบถาม
"พูดอะไรน่ะคะคุณเรย์กะ นี่เป็นโอกาสดีเลยนะคะ"
"ท่านแม่ ผู้ชายตรงหน้าท่านคือคนที่ทำให้ท่านพ่อกลายเป็นผู้ต้องหา ทำให้บ้านเราล่มละลายนะคะ คิดหรอคะว่าเขาจะทำดีกับพวกเราจริงๆ เขาอาจจะมีแผนร้ายอย่างอื่นอีกก็ได้ค่ะ"
ฉันสบตาเอ็นโจอย่างแข็งกร้าว ไม่รู้คิดไปเองมั้ยแต่ฉันเห็นแววตาเจ็บปวดจากคนตรงหน้า แต่จะเป็นไปได้อย่างไรกัน...
"ฉันจะลาออกค่ะ"
เมื่อทำเรื่องลาออกเสร็จ ท่านแม่ก็บอกจะคุยกับผู้อำนวยการก่อน ให้ฉันไปรอที่รถได้เลย ฉันเดินเฉื่อยๆไป โชคดีจริงๆที่ตอนนี้เป็นเวลาเรียนจึงไม่ต้องเจอผู้คน ฉันพยายามเก็บภาพโรงเรียนให้มากที่สุด เพราะนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันมาที่นี้
"คิโชวอิน"
เสียงทุ้มทรงอำนาจเรียกฉัน เสียงที่ฉันหลงรักมาโดยตลอดและไม่เคยจะเลิกรักได้ ฉันหันไปหาท่านคาบุรากิ เขามองฉันด้วยแววตาเฉยชา ฉันไม่ตอบอะไรกลับไปเพราะกลัว กลัวว่าจะเผลอพูดอะไรที่เลวร้ายออกไป
"เธอจะลาออกงั้นหรอ"
"นั่นสินะ อย่างเธอคงไม่ยอมที่จะอยู่อย่างน่าสมเพชในที่ๆตัวเธอเองเคยอยู่จุดสูงสุด"
ท่านคาบุรากิหัวเราะเยาะฉันอย่างสมเพช ฉันไม่กล่าวตอบไปอะไร แค่เดินหันหลังจะจากไป
"เดี๋ยว"
ฉันหยุดอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้หันหลังกลับไป
"ฉันก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าทำไม แต่ชูสึเกะน่ะ เฝ้ามองเธอมาตลอดเลยนะ เธอรู้มั้ยว่าเขามองเธอด้วยแววตาแบบไหน"
ฉันขมวดคิ้ว ท่านคาบุรากิต้องการอะไรกันแน่นะ
"มองตรงไปสิ เห็นมั้ยแววตานั้นน่ะ คือแววตาของผู้ชายที่มองผู้หญิงที่เขารัก"
เอ็นโจกำลังเดินมา ดวงตาเขาจ้องมองมาที่ฉัน รักหรอ คนๆนี่น่ะหรอรักฉัน
"ผู้หญิงคนนั้นก็คือเธอนะ"
"มาซายะ พูดอะไรออกมาน่ะ"
ในพริบตา เอ็นโจก็มายืนตรงหน้าฉัน เขาก้าวออกไปหาท่านคาบุรากิ ดวงตาฉายแววแข็งกร้าว
"อย่าทำหน้าน่ากลัวแบบนั้นสิ ฉันแค่จะช่วย"
"ยุ่งไม่เข้าเรื่อง"
...เขาไม่ปฏิเสธ
ฉันหัวเราะดังลั่นทั้งน้ำตา นั่นสินะ ทำไมถึงไม่เคยสังเกตนะ ทั้งๆที่เขามองมาที่ฉันแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนิ ฉันก้มหน้าลง หลับตาแน่น มือหยิบของบางอย่างในกระเป๋าออกมา
"ทำไมล่ะ งั้นทำไมถึงทำกับฉันแบบนี้"
"...คุณคิโชวอินจะได้หันกลับมามองที่ผมบ้างไงล่ะ คุณน่ะมองแค่มาซายะมาตลอด ถึงจะเป็นสายตาที่โกรธเคืองแต่ครั้งนี้คุณยอมมองมาที่ผมแล้วนิ"
"และผมจะทำให้คุณอยู่โดยไม่มีผมไม่ได้ คุณจะต้องพึ่งพาแค่ผมคนเดียวเท่านั้น"
"...คุณต้องเป็นของผมเท่านั้น"
งั้นหรอ ขอบคุณนะที่บอกฉันคนนี้ในตอนที่กำลังแค้นขนาดนี้ ฉันเม้มปากอย่างตัดสินใจบางอย่างได้แล้วฉีกยิ้ม เงยหน้ามองเอ็นโจ
"ท่านเอ็นโจรักฉันคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆเลยสินะคะ"
เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นใบหน้าที่เปื้อนด้วยสีชมพูอ่อนๆของชายที่มักจะสวมแต่หน้ากาก ฉันแสยะยิ้ม
"งั้น...ถ้าฉันตายไป ท่านเอ็นโจก็จะทรมานมากสินะคะ"
เอ็นโจ ชูสึเกะเบิกตากว้าง ก่อนที่เขาจะได้ขยับเท้า ฉันก็แทงหน้าอกซ้ายของตัวเองอย่างแรง เจ็บจังเลยนะ หายใจไม่ออกด้วย
ฉันพยายามฝืนลืมตา มองผู้ชายที่ฉันแค้นสุดใจ เอ็นโจมองที่ฉันอย่างไม่อยากเชื่อ สองมือประคองฉัน เขาตะโกนอะไรซักอย่างใส่ท่านคาบุรากิ หน้ากากที่เขามักสวมหลุดไปแล้ว เขาหันกลับมามองฉันอย่างหวาดกลัว พูดอะไรบางอย่างชิดใบหูของฉัน
"อย่าตายนะเรย์กะ ขอร้องล่ะ"
น้ำตาหยดหนึ่งกระทบแก้มของฉัน...
ในที่สุด ฉันก็แก้แค้นคุณได้สำเร็จ
ฉันกัดฟัน รวบรวมแรงพูดสิ่งที่อยู่ในใจฉันมาโดยตลอด
"ฉันเกลียดคุณ เอ็นโจ ชูสึเกะ"
----จบ----
ตอนไหนจะมีฟิคตะมุ้งตะมิ้งออกมาบ้าง กูจิตใจสาวน้อย อ่านBad endแล้วสะเทือนใจ;___;
>>388 สะใจมากค่ะ พอๆกับเรื่อง "ตำนานรักเหนือภพ" ที่นางเอกสาปพระเอกให้เป็นอมตะ ส่วนตัวเองก็แตกดับไปไม่กลับมาเกิดใหม่มาเจอพระเอกอีกและทิ้งท้ายด้วยคำว่า "ถ้าทุกอย่างสามารถย้อนคืนกลับมาใหม่ได้ข้าจะไม่มีวันรักท่านอีก" ทิ้งพระเอกไว้ให้อยู่ในโลกอย่างเดียวดายตลอดกาลโลกที่คนที่รักพระเอกไม่เหลืออีกแล้วและเป็นโลกที่ไม่มีคนที่พระเอกรักอีกต่อไป ได้แต่ทรมาณไปจนกว่าโลกจะจบสิ้นนี่สะใจจริงๆ! #อินมาก
>>388 ...เรย์กะยอมหักไม่ยอมงอจริง ๆ ไงล่ะเอ็นโจเจ็บล่ะซี่ ฮิฮิ(หัวเราะแบบสะใจ) เขาตายในอ้อมกอดนายก็จริงอยู่แต่ก็มีแต่ความเกลียดชังอ่ะนะ หึหึ..เอ็นโจ ชูสุเกะ ขอให้จดจำวันนี้ไปตลอดนะคะ//พูดด้วยเสียงอ่อนหวาน ฮ่า ๆ เรือเอ็นโจจมดิ่งสู่ก้นทะเลไปซะ!!
ถึงเรือหลักกูจะเป็นเรือเอ็นโจแต่ตอนนี้กูหมั่นไส้จอมมาร เจาะเรือต่อไปค่ะ! อุวะฮะฮ่า!
สภาพเรือเอ็นโจตอนนี้น่าจะปะมาณนี้ล่ะนะ กูว่า 555555
http://www.ancient-origins.net/sites/default/files/field/image/wrecking-of-the-White-Ship.jpg
ทำไมไม่มีใครคิดจะแต่งเรย์กะkimidolceมาอู่ในร่างเรย์กะในนิยายบ้างวะ
นี่จมเรือใช่มั้ยเนี่ย จะจมเรือตัวเองกันทำม้าย
มาขึ้นแพท่านอิมาริกับกูมั้ย มาๆๆๆ ที่ว้างว่าง
>>399 น่าจะแต่งยาก กูว่าอึ้งแดกทั้งสองฝ่าย ไม่ก็คุยกันไม่รู้เรื่อง แบบพอเรย์กะทำท่าเอาแต่ใจ เอ็นโจวเดินมาวัดไข้ ไม่สบายเหรอ พอจะไปน้วยคาบุรากิก็โดนถามว่าท้องผูกเหรอ(?) เดินๆอยู่วาคาบะจัง ยิ้มร่าชูกำปั้นใส่ พอกลับบ้านจะมานอน ท่านพี่ก็บอกว่าไม่ไปเรียนพิเศษเหรอ พองอแง ท่านพี่ ก็จับวัดไข้ ทั้งบ้านประชุมกัน ลากเรย์กะไปหาหมอ ซากุระจังเป็นห่วงมาเยี่ยม เรย์กะเชิดใส่ เลยเจอฝ่ามือตบหัวดังผัวะ สักพักริรินะเดินเข้ามาปาดอกไม้ใส่แล้วเดินออกไป
ระหว่างวันก็มีเมลล์นายบ้าหมามาไม่หยุด พอบล๊อคไม่ตอบ นายบ้าหมาก็บุกมาร้องไห้คร่ำครวญ
ต่อมาคาบุรากสั่งภารกิจสามัญชัน นึกว่าไปเดทก็ลัลล้า สุดท้ายไปร้านโอเด้งข้างทางเอ็นดจวก็ตามมาด้วย คาบุรากิบอกกินให้ดูหน่อย
แต่เรย์กะไม่ยอมกิน ทุกคนเลยลงมติว่า เรย์กะป่วยหนัก ไม่กินเรื่องใหญ่มาก โรงเรียนแตกตื่น พอเรย์กะทำท่าจะโวยวาย ทุกคนวิ่งมาโอ๋ วิ่งเอาของมาเซ่น เอาแต่พูดวา่า ท่านเรย์กะไม่เป็นไรนะ เราจะยู่เคียงข้างท่านเสมอ สู้ๆนะคะ ต้องหายแน่ๆ
จนสุดท้ายเรย์กะก็เริ่มกลัว หลอน และเลิกเอาแต่ใจ happy end
>>397 กูว่าสภาพเรือเอ็นโจตอนนี้ น่าจะสภาพนี้มากกว่าว่ะถถถถถถถถถถถถ
http://imgur.com/IjFjHdz
ต่อ >>>/webnovel/3507/547-549
----
แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ซุยรันก็ยังคงเป็นโรงเรียนของชนชั้นสูงที่หรูหราและทันสมัยที่แทบจะไม่ได้เก่าลงไปจากความทรงจำเลยแม้แต่น้อย พวกเราได้พบอาจารย์บางท่านที่เคยสอนสมัยเรียน อาจารย์ดูแก่ลงไปเยอะเลยล่ะนะ
พอส่งเด็กๆเข้าโรงเรียนไปแล้ว รถยนต์บ้านเอ็นโจก็เคลื่อนตัวออกไปอีกครั้ง
"...ที่เด็กๆคุยกันเมื่อกี้ไม่สนใจจริงๆเหรอ?" คุณชูสุเกะเข้ามากระซิบที่ข้างหูก่อนที่ฉันจะทันรู้สึกตัวเสียอีก "เรย์กะชอบเด็กนี่นา~"
"ท่านเอ็นโจ!"
ฉันแยกเขี้ยวใส่อย่างหงุดหงิด อุตส่าห์ลืมๆเรื่องที่คุยไปแล้วเชียวนะ! แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาเลยสักนิด เอาแต่กลั้วหัวเราะอยู่นั่น
"ครับ คุณนายเอ็นโจ?"
อุกรี๊ดดดด
บ้าเอ๊ย! พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ การต่อปากต่อคำกับหมอนี่ไม่มีหนทางชนะเลยหรือยังไงกันนะ ฉันเลยเสมองไปอีกทาง เอาความเงียบสยบทุกอย่างแทน แต่ก็ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆอย่างเยาะเย้ยแว่วมา
อ๊าา ให้ตายซิ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้กันนะ?
ทั้งๆที่ตัวฉัน เรียกว่าได้เห็นธาตุแท้ของความเล่ห์ของตานี่มาตั้งแต่ประถม แล้วก็พยายามถอยห่างไม่เข้าใกล้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วแท้ๆ อะไรที่ทำให้ตัวฉันในอนาคตยินยอมตกไปลงบนฝ่ามือของจอมมารคนนี้กันนะ?
สิบกว่าปี นี่มันอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปจนสับสนไปหมด อย่างกับหลุดมิติมาอีกโลกนึงเชียวล่ะ ได้ยินว่าเพื่อนๆทุกคนต่างก็ทำงาน แต่งงาน มีครอบครัวมีลูกกันหมดแล้ว กับตัวฉันเองที่มีความทรงจำแค่ช่วงมัธยมนี้แปลกแยกโดดเดี่ยวขึ้นมาเลยล่ะ
แง้ ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี่มันเกิดอะไรขึ้นกันคะเนี่ย?
แล้วนารุคุงของเค้าล่ะ? อยากเจอจังเลยค่ะ ทั้งที่กะว่าพอจบงานแข่งกีฬาโรงเรียนแล้วจะได้มีเวลาแวะไปห้องสมุดแล้วแท้ๆ... นี่ยังไม่เคยได้พูดคุยอะไรกันเลยสักครั้ง... ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นฉันได้ทำความรู้จักกันบ้างแล้วยังนะ ถ้าได้สนิทกันบ้างก็คงจะดีซิ...
แต่สนิทแล้วจะยังไงกันล่ะ ในเมื่อท้ายที่สุดฉันก็กลายมาเป็นคนตระกูลเอ็นโจแล้วเนี่ย...
"เฮ้อ~"
"กังวลเหรอ?"
อ๊ะ เผลอถอนหายใจออกมาซะนี่
ฉันหันกลับไปทางคุณชูสุเกะ ก็พบว่าเขากำลังจ้องมองมาอย่างห่วงใยพร้อมรอยยิ้มบางๆ
"ไม่สบายใจอะไรปรึกษาผมได้นะ"
เรื่องนารุคุงน่ะ... ถ้าพูดออกไปต้องโดนอัดพลังมารใส่แหงๆ
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ..."
ฉันตอบ ก่อนที่คุณชูสุเกะจะยกมืออีกข้างที่ไม่ได้กุมมือฉันขึ้นมาลูบหัวของฉันเบาๆ
"อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงจากสมัยมัธยมไปตั้งเยอะเลย ถึงจะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ก็คงยากที่จะปรับตัวอยู่ดีซินะ คงสับสนแย่เลยใช่มั้ย?"
น้ำเสียงอ่อนโยนจนรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งเชียวล่ะ
"ไม่เป็นไรนะ ...ถึงคุณจะจำไม่ได้ แต่ว่าเราน่ะครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็พูดคุยกับผมได้นะ โอเค?"
"อ อือ"
"เรื่องที่จำไม่ได้ อย่ากังวลไปเลย คุณหมอก็บอกไว้นี่ว่าให้ค่อยเป็นค่อยไป อย่าฝืนตัวเอง เดี๋ยวจะปวดหัวอีกนะครับ"
"ค่ะ..."
"ต่อให้จำไม่ได้เลยก็ไม่เป็นไรหรอก ...ผมอยู่ข้างเรย์กะเสมอนะ เหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมา"
มือของเขาเปลี่ยนจากลูบหัวมาปัดเส้นผมที่หลุดมาปลกใบหน้าขึ้นไปทัดหูฉัน แววตาที่จ้องมองมายังฉันนั้นทำเอารู้สึกร้อนวาบไปทั้งหน้าจนต้องหลบตามองไปทางอื่นแทน
รู้สึกได้ว่าโดนจ้องมองไม่วางตาอย่างเสือจ้องจะกินเหยื่ออย่างงั้นล่ะ
กรี๊ดดดด อย่ามองอย่างงั้นนะ!!!
"เอ่อ แล้วเราจะไปที่ไหนกันอย่างงั้นเหรอคะ!?"
ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆน่าจะอันตรายต่อตัวฉันเองแน่ๆ ฉันเลยรีบพูดเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นแทน คุณชูสุเกะยังจ้องมองยิ้มๆไม่หยุด มือข้างหนึ่งก็จับปอยผมลอนของฉันเล่นอย่างเพลินเชียวนะยะ
"อา ก็หาพวกเพื่อนๆของคุณนั่นแหละ ...ถึงพอดีเลยน่ะ"
ฉันมองออกไปข้างนอกก็มองเห็นคฤหาสน์สีฟ้าโดดเด่นหลังหนึ่ง ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่โตเท่าคฤหาสน์เอ็นโจ เล็กกว่าคฤหาสน์คิโชวอินด้วยซ้ำ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโมรอคโคข้างที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ต้นไม้นานาพันธุ์อย่างสวยงาม
เพื่อนของฉันงั้นเหรอ? ฉันมีเพื่อนที่มีบ้านแนวนี้ด้วยงั้นเหรอ?
ไม่นานนักฉันก็พบกับคำตอบ
"ท่านเรย์กะ!"
"เซริกะจัง!"
เซริกะจังพร้อมกับสามีของเธอออกมาต้อนรับฉันกับคุณชูสุเกะถึงหน้าบ้าน เซริกะจังแต่งงานก่อนฉันหลายปี ทั้งยังต้องย้ายไปที่ประเทศนั้นที่ประเทศนี้ตามที่ทำงานของสามีเลยแทบจะไม่ได้พบหน้ากันนัก เธอเล่าว่าอย่างงั้นนะ
"เรย์กะอยู่กับเพื่อนดีๆล่ะ เสร็จธุระแล้วผมจะกลับมารับนะครับ"
"คุณชูสุเกะ!"
ฉันไม่ใช่เด็กๆนะยะ!
ดูเหมือนว่าสามีของเซริกะจังจะเป็นบริษัทคู่ค้ารายหนึ่งของเอ็นโจกรุ๊ป นี่ก็กะถือโอกาสมาติดต่อทำงานด้วยเลยซินะ ไหนว่าว่างงานแล้วไง? พอคุณชูสุเกะกับสามีของเซริกะจากไป เซริกะจังก็กรี๊ดกร๊าดหน้าแดงออกมา "ว้าย ท่านเอ็นโจกับท่านเรย์กะสวีทกันดีจังเลยค่ะ!"
นั่นมันแกล้งกันชัดๆ สวีทตรงไหนน่ะคะ!?
นั่งคิดทั้งวัน แต่ได้แค่แหละ ถถถถ
พบกันใหม่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ว~
>>395 ฟิคเกอิชา กูว่าไม่น่าทำหรอก เรย์กะนางกัดฟันสู้ คิดไปคิดมา ที่มันก่อนมีคนบอกว่านางควรอัพเลเวลเป็นเจ้าแม่โลกมืดไปเลยก็มีความเป็นไปได้นะ
แล้วเอ็นโจก็จะร่วมมือกับอาริมะที่เป็นตำรวจมาจับเรย์กะและเผลอยิงเรย์กะตายระหว่างการจับกุม
เอ็นโจโทษตัวเองที่ผลักเรย์กะให้เดินทางสายอบายมุข จึงปลงผมตัวเองแล้วเข้าทางธรรม หวังอุทิศบุญกุศลให้เรย์กะได้เกิดชาติหน้าเป็นลูกเศรษฐีติดดินที่ใครๆก็รักใคร่ทั้งคน หมา กวางและนกพิราบ
ตอนนี้เรือเอ็นโจประกอบร่างเป็นเรือดำน้ำ รอวันโผล่ขึ้นมาใหม่
ช่วงแรกๆที่กูเข้ามาในบอร์ดนี้นี่คือฟินสุดๆ ได้สูดกาวพี้ยาเอ็นโจอย่างเต็มเหนี่ยว มโนไปไกลหลายต่อหลายอย่างมาก แต่ไปๆมาๆทำไมกลายเป็นสูดกาวมากไปจนจะย้ายเรือแล้วเนี่ย555555 ทั้งๆที่อฟชมันก็ไม่ได่มีไรมากนะ
>>414 สัสสสสสสสส ถถถถถถถถถถถ มึงอย่ามาชี้ทางแบบเนร้ เดี๋ยวกูก็เผลอจบตามนี้จริงๆหรอก เดี๋ยวจะเพิ่มให้ว่า ระหว่างนั้นวาคาบะเจอถ่านไฟเก่าอย่างอาริมะ คาบุรากิตามหึงหวงเลยทะเลาะกัน วาคาบะทนนิสัยแบบนี้ไม่ไหวเลยบอกเลิกไปคบกับอาริมะแทน คาบุรากิเฮิร์ตมากเลยไปโกนหัวบวช เจอเอ็นโจที่มาปลงผมวันเดียวกัน คิดว่านี่คือคู่ชะตา คือโซลเมทที่แท้จริง ขนาดจะบวชยังบวชวันเดียวกัน เมื่อก่อนเราก็อยู่ด้วยกันเสมอ สุดท้ายปรับความเข้าใจได้และตกลงจะคบกันแบบแฟน กลายเป็นฟิคเอ็นโจ×คาบุรากิไปแทน เรย์กะนี่ใครวะ
ดีนะเนี่ยที่มี >>412 มาเยียวยาหัวใจอันอ่อนไหวของกู กูเลยมีแรงพลังที่อยากจะกอบกู้เรือนี้ต่อ //กอดๆชูสุมอย
มึงงงง อย่ามาจมเรือกันเองสิค้าาาาา นู่น! เรือคาน หันไปถล่มเรือคานเดี๋ยวเน้!!!!!
ชื่อหัวกระทู้กับคอมเม้นท์นี่ไปคนละทางเลย คราวหน้าถ้าตั้งชื่อใหม่คงเป็น "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือรักหักเหลี่ยมโหด ครั้งที่ 9 " แน่นอน
เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ นะสหายเพิ่ง 400 โพสเอง!
ไวท์เดย์อย่างงี้ มะหมาไซซายะและชูสุมอยก็อายุครบหนึ่งเดือนแล้วซินะ 55555
ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะดอยฟิคจากโม่งคนแรกมาแต่งต่อได้หลายพาร์ทอย่างงี้...
>>>/webnovel/3572/543-544
-----
ตั้งแต่ที่ไซซายะต้องปลีกตัวไปออกกำลังและซ้อมวิ่งลากเลื่อน ชีวิตของฉันก็สงบขึ้นเยอะเลยล่ะค่ะ
อ่า แต่เพราะแบบนั้นก็เลยต้องไปไหนมากับชูสุมอยกันสองตัวเนี่ยซิ ไม่ว่าจะไปเดินเล่น หรือตอนอยู่ในบ้าน ชูสุมอยก็จะจ้องมองฉันไม่วางตาอย่างกับถูกจับผิดอยู่อย่างงั้นล่ะ
หรือว่ากำลังวางแผนหาจังหวะจะจับฉันกินน่ะ!?
ไม่น้าาาาา
ตอนเวลากินอาหาร ชูสุมอยก็จะเดินออกมาตามฉันที่เล่นกับกลุ่มเพื่อนหมาทั่วไป พอนั่งกินด้วยกัน ก็มีหลายครั้งเชียวล่ะที่เขาแบ่งอาหารบางส่วนมาให้
หรือว่ากำลังวางแผนจะขุนฉันให้อ้วนๆจะได้เคี้ยวได้เต็มปากเต็มคำน่ะ!?
ไม่น้าาาาาา
ทั้งๆที่ฉันหวาดกลัวเขามากขนาดนี้แท้ๆ แต่เพื่อนหมาสาวๆกลับเห่ากรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ว่าฉันสนิทสนมกับท่านชูสุมอย พอปฏิเสธก็ไม่มีใครฟังฉันเลยสักนิด
แง้!
ไม่เอาแล้ว ไปคุยกับตัวอื่นดีกว่า
"เจ้านายส่งผมลงประกวดสุนัขแฟนซีคู่กับเจ้านายน้อยด้วยล่ะครับ ดีจังเลยในที่สุดก็มีขนยาวๆเหมือนอาจารย์แล้ว"
อิวามุลิชพูดพร้อมกับสะบัดวิกผมลอนสีทองบนหัวไปมาอย่างมีความสุข
อื้อๆ ฝันที่เป็นจริงซินะ
"วันนี้แบ่งกลุ่มทีมวิ่งหาของ ได้อยู่ทีมเดียวกับมิฮาว่าจังด้วยล่ะครับ"
จ่าฝูงพูดพร้อมกับบิดตัวไปมาอย่างเคอะเขิน
อื้อๆ ยินดีด้วยนะ
ยิ่งสนิทสนมกับหมาชายทั้งสองตัวแล้ว กลับยิ่งรู้สึกว่าได้หมาสาวเป็นเพื่อนมากกว่าเลยแฮะ...
ทุกตัวและทุกคนในบ้านดูจะยุ่งวุ่นวายกันสุดๆกับการซ้อม แต่ทำไมถึงมีแต่ฉันที่ว่างจังเลยล่ะคะ?
นอกจากติดตามนายหญิงไปเข้าเพ็ทช็อปเข้าสปาหมาแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรให้ทำเลยอะ...
พอคิดแบบนั้น ตกดึกไซซายะที่กลับเข้ามาในห้องก็มาพูดคุยกับฉัน
"เรื่องที่อยู่ของวาคาชิบะน่ะ ไปถึงไหนแล้ว!?"
หา? ยังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกเหรอเนี่ย? ที่เจอกันที่สวนสาธารณะบ่อยๆนั่นไม่พออีกเหรอ?
"ไม่พอ! นี่ฉันต้องเข้าสนามซ้อมทั้งเดือน ฉันไม่ได้ไปที่สวนสาธารณะเลยนี่นา! เธอว่างงานอยู่ซินะ ทั้งที่ตัวอื่นเขาลำบากลำบนกันอยู่แท้ๆ แย่ที่สุดเลยเรย์ทัน! ดังนั้นฉันจะขอมอบภารกิจให้เธออีกครั้ง! ไปหาที่อยู่ของวาคาชิบะมาให้ฉันให้ได้!!!"
หยิบยกเรื่องอื่นมาอ้าง แต่สุดท้ายมันก็เรื่องส่วนตัวนี่นา พอฉันจะปฏิเสธก็โดนข่มขู่ด้วยเขี้ยวแหลมๆในปาก
กรี๊ดดดดดดดดด อย่ากินเค้าน้าาาาาาาา
*****
ท้ายที่สุด ฉันจึงต้องออกปฏิบัติการสายลับอีกครั้ง ตอนนี้ทุกคนทุกตัวในบ้านต่างก็มีงานเป็นของตัวเอง ฉันหายไปสักตัวก็ไม่มีใครสังเกตเห็นหรอก
พอออกมาข้างนอกได้ ฉันก็ออกเดินไปตามทางที่คุ้นเคยที่เคยสำรวจก่อนหน้านี้ ทว่าวันนี้กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
"อ๊ะ เบียทัน!!"
ฉันหันไปตามเสียง ก็พบกับมนุษย์ผู้ชายตัวสูงผมสีทองที่ถือสายจูงสุนัขอีกตัวหนึ่งที่พันธุ์และสีเหมือนกับฉันเปี๊ยบเลยข้างหน้า
"ดูซิเบียทัน! เหมือนเบียทันเป๊ะเลย! นี่ต้องเป็นฝาแฝดของเบียทันแน่ๆเลย~ ว้าว ดูขนสวยที่เปล่งประกายนั่นซิ! ได้รับการดูแลอย่างดีเลยนี่นา แต่ เอ๋ ไม่มีคนตามมาด้วยอย่างงั้นเหรอ หลงทางอยู่ซินะ? ไม่ได้ล่ะ เบียทัน เราต้องช่วยเธอกันนะ!"
เปล่าค่ะ ไม่ได้หลงค่ะ
เขาว่าแล้วก็กางสองมือออกแล้วพุ่งตัวเข้ามาหาฉัน แต่ก็ช้าเกินไป ฉันน่ะได้รับการฝึกฝน(?)ทุกเช้ามาอย่างดีจากไซซายะการหลบหลีกน่ะง่ายนิดเดียวเท่านั้นล่ะค่า~
"อ๊ะ ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวอาทันจะดูแลอย่างดีแล้วส่งคืนเจ้าของให้น้า~"
ก็บอกว่าไม่ได้หลงทางไงเล่า!
แต่เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง เขาก็กระโจนเข้ามาอีกครั้งและอีกครั้ง ฉันรีบวิ่งหนีไปตามทางส่งเสียงเห่าขอความช่วยเหลือดังลั่น แต่มนุษย์คนนั้นก็ยังวิ่งตามมาไม่หยุดหย่อน รวมถึงหมาพันธุ์เดียวกับฉันที่ชื่อเบียทันนั่นด้วย
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ! อาทัน! เธอคนนั้นไม่ได้หลงทางซักหน่อย อย่าคิดเองเออเองอีกแล้วซิ! วิ่งซนอีกแล้วนะ!"
...ไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้านายกันแน่เลยแฮะ
วิ่งไปได้สักพัก ฉันก็สบโอกาสค้นพบพุ่มไม้แห่งหนึ่งตรงทางข้างหน้า ฉันรีบกระโจนตัวเข้าไปซ่อนทันที มนุษย์คนนั้นมาถึงก็พยายามตามหาฉันไปทั่ว จนกระทั่งเบียทันตัวนั้นเข้าไปดึงขากางเกงของเขาแล้วบอกว่า "เลิกซนได้แล้วอาทัน เหนื่อยชะมัดเลย! กลับบ้านได้แล้ว!"
"อ๋า~ เบียทันดึงขากางเกงใหญ่เลย หึงอาทันซินะ ขอโทษน้า~ อาทันก็แค่กังวลว่าสาวน้อยคนนั้นจะหลงทางเท่านั้นเอง ยังไงสำหรับอาทันแล้วเบียทันก็น่ารักและสำคัญที่สุดน้า~!"
สื่อสารไม่ได้ตรงกันเลยสักนิด!
แล้วทั้งสองก็เดินจากไป ฉันจึงโผล่ออกมาพุ่มไม้ ในที่สุดก็รอดแล้ว มนุษย์แปลกหน้านี่น่ากลัวจริงๆเลยค่ะ เค้าอยากจะกลับบ้านไปซุกตักเจ้านายแล้วอะ
ฉันหันมองทางไปรอบๆกะว่าวันนี้คงไม่ได้ช่วยไซซายะซะแล้วล่ะนะ แต่ว่า...
ที่นี่มันที่ไหนง่ะ?
เห็นแฟนอาร์ทจากเม้นนี้ >>373 แล้วอยากวาดต่อเลย55555
ปฏิกิริยาต่อมาของเอ็นโจและเรย์กะคงเป็นงี้ ถ้าคนในรูปนั้นคือสองคน
http://imgur.com/a/JkfX5
(อยากให้เรื่องนี้ได้ตีพิมพ์เป็นไลท์โนเวลแบบอฟชมาก หวังว่าฝันจะเป็นจริงซักวัน T T)
ต่อจาก >>278-279 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
พรุ่งนี้จะลงฟิคเป็นวันสุดท้ายก่อนหายไปสักพัก จะลงอีกทีก็ตอนสอบเสร็จ จริงๆอยากลงเรื่อยๆเหมือนกันค่ะ แต่ว่าพอเขียนฟิคทีไหร่ก็กินเวลาได้หายนะมากค่ะ 5555 ถ้าเป็นการบ้านยังพอว่า นี่สอบแล้ว ควรต้องตัดใจบ้าง...
..............…….....
“คุณคิโชวอินคะ! ได้โปรดรับช็อกโกแลตนี่จากฉันด้วยเถอะค่ะ!”
ห๊าาาาาาาาาาาา!?!
ฉันช็อกจนพูดอะไรไม่ออกเลย แอบเหลือบมองในถุง นี่เป็นช็อกโกแลตกล่องสุดท้ายด้วย ไม่ได้เอาไปให้คาบุรากิงั้นหรอ!!!
อะ...เอาจริงหรอคะ!?!
เมื่อฉันไม่ตอบอะไร วาคาบะจังก็ยัดกล่องช็อกโกแลตใส่มือฉัน มีเขียนไว้ว่าถึงเรย์กะ คิโชวอินด้วย...
“ทะ...ทำไมหรอคะ”
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือมาโดยตลอดนะคะ” วาคาบะจังก้มหัว “ดีใจมากๆเลยค่ะ”
“เอ๊ะ... ” ฉันตกตะลึง “นั่นมันแค่เรื่องบังเอิญนะคะ ฉันไม่เคยคิดจะช่วยคุณจริงๆหรอกค่ะ”
“ค่ะ” วาคาบะจังรับคำพร้อมรอยยิ้ม ดูไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูดเท่าไหร่เลยค่ะ...
“ว่าแต่คุณทาคามิจิให้ช็อกโกแลตนายตัวสำ...คุณมิซึซากิด้วยหรอคะ” ฉันที่กำลังมึนงง ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ เลยถามไปเรื่องอื่นแทน
“มิซึซากิคุงสั่งช็อกโกแลตจากร้านฉันน่ะค่ะเลยเอามาส่งให้ เห็นว่าจะให้คุณแม่มั้งคะ”
“เห?! ”
“ก็วาเลนไทน์นี่นา ช็อกโกแลตของร้านขายดีมากๆเลยนะคะ เป็นช่วงทำเงินช่วงหนึ่งเลยค่ะ”
“...”
“ของคุณคิโชวอิน ฉันทำเองสุดความสามารถเลยค่ะ ถึงอาจจะไม่ถูกปากก็เถอะ แต่อยากส่งความรู้สึกในใจนี้ให้จริงๆนะคะ”
วาคาบะจังเดินจากไป เหมือนต้องรีบไปทำงานที่ร้านต่อ ส่วนฉันก็ได้แต่ยืนเป็นรูปปั้นตรงนั้น...
.................................
วาคาบะจังเดาได้แล้วงั้นหรอคะว่าฉันช่วย ทำยังไงดีล่ะคะเนี้ย... แต่ช็อกโกแลตฝีมือวาคาบะจังต้องอร่อยมากแน่ๆเลยค่ะ แทบทนรอไม่ได้แล้วนะคะเนี้ยที่จะกลับไปกินที่บ้าน ฉันแอบดูข้างใน มีชื่อฉันไว้ด้วยบนช็อกโกแลต แบบนี้คงปลอบใจตัวเองไม่ได้แล้วค่ะว่าจริงๆวาคาบะอยากให้คนอื่น แต่ไม่มีโอกาสเลยมาให้ฉันแทน
นางเอกมังงะที่ผูกมิตรกับตัวร้ายงั้นหรอคะ อื้ม ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ
ฉันเริ่มระแวงขึ้นมา ฉันได้เขียนชื่อนารุคุงลงไปในการ์ดหรือเปล่านะคะ ถ้าเขียนนี่คาบุรากิอาจจะรู้แล้วก็ได้ แต่ว่าคาบุรากิน่าจะทิ้งไปแล้วมั้งคะ... น่าจะนะคะ หมอนั่นเกลียดช็อกโกแลตทำมือจะตาย
เอ๊ะ...ถ้าจำไม่ผิด ฉันเขียนไปประมาณว่า “ถึงนายอาจจะไม่เคยเห็นฉันอยู่สายตา แต่ฉันก็แอบชอบนายมาตลอดนะ” อะไรแบบนั้นด้วยนะคะ แย่แล้วค่ะ! อย่าอ่านเลยนะคาบุรากิ...
ฉันเดินทางไปให้ช็อกโกแลตท่านพี่ค่ะ ท่านพี่ดีใจมากๆเลยค่ะ ยิ้มสุดเท่ให้ฉันด้วย เห็นแบบนั้นฉันก็รู้สึกดี บรรเทาความรู้สึกอึ้งทึ้งสับสนตั้งแต่เช้าได้เป็นอย่างดีจริงๆค่ะ
อยากให้ท่านพ่อท่านแม่ยอมรับท่านพี่ แล้วเราก็กลับมาอยู่ด้วยกันจังเลยค่ะ... อยากอยู่กับท่านพี่ทุกวันจริงๆนะคะ ถ้ามีท่านพี่อยู่ด้วยรู้สึกไม่ต้องหวาดกลัวอุปสรรคไหนๆบนโลกนี้อีกแล้ว
ท่านพี่บอกว่าจัดการเรื่องการโกงของตระกูลอย่างลับๆแล้วค่ะ แต่ก็อันตรายนิดหน่อย เลยยังไม่กล้าลงมือเบ็ดเสร็จ ระวังตัวด้วยนะคะท่านพี่ ถ้าท่านพ่อทำอะไรท่านพี่ล่ะก็ น้องคนนี้จะช่วยท่านพี่เองค่ะ!
วันนั้นฉันกลับไปกินช็อกโกแลตที่วาคาบะจังทำ ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นช็อกโกแลตอย่างดีจากต่างประเทศ แต่รสก็เนียนนุ่มกลมกล่อมละมุนลิ้นเอามากๆเลยค่ะ สุดยอดไปเลยนะวาคาบะจัง
วันต่อมาฉันก็มาโรงเรียนอย่างร่าเริง ฟังเพื่อนๆในห้องพูดคุยเกี่ยวเรื่องรักๆมากมายเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา บางคนสารภาพรักสำเร็จด้วยค่ะ ยินดีด้วยนะคะ
เพื่อนฉันบางคนมีคนมาสารภาพรักด้วยค่ะ อืออ ดีจังเลยนะ ทำไมฉันไม่มีช่วงเวลาแบบนั้นบ้างนะคะ หรือว่าเพราะทุกคนคิดว่าฉันชอบคาบุรากิ แย่ที่สุด! นายนี่มาขัดขวางเส้นทางรักของฉันจริงๆ
ขณะที่ฉันกำลังเดินหดหู่กลับห้องในช่วงพักกลางวัน ก็เจอผู้ชายกลุ่มใหญ่ยืนขวางทางฉันไว้ค่ะ
หะ?! นี่มันสมาชิกชมรมฟุตบอลนี่คะ ในโลกนี้ฉันไม่ได้สร้างความแค้นอะไรกับพวกเขานี่คะ... หรือว่าเรย์กะเคยทำไปก่อนหน้านั้น ทำยังไงดีล่ะคะเนี้ย ถึงฉันจะเป็น Pivioine ก็เถอะ แต่ถ้าโดนคนเป็นฝูงแบบนี้ข่มขู่ก็ใช่ว่าจะกล้าหาญได้ตลอดนะคะ ไม่มีข้อมูลอะไรมาขู่ซะด้วยสิ...
ประธานชมรมฟุตบอลก้าวออกมาด้านหน้าทุกคน โดยมีสมาชิกชมรมยืนเป็นวอล์เปเปอร์ด้านหลัง
หมอนั่นทำหน้าจริงจัง ไม่ได้ดูหวาดกลัวจนมือเย็นเยียบแบบโลกก่อนด้วย จะรับมือยังไงดีล่ะคะ..
“คุณคิโชวอินครับ ผมแอบชอบคุณมาโดยตลอดเลยครับ!”
วิ่งหนีไปข้างหลังดีไหมนะ
เดี๋ยวนะ...หะ!?! เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะคะ!!!
สมาชิกชมรมที่ยืนอยู่ข้างหลัง ช่วยกันกางป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่เขียนความในใจของประธานชมรมฟุตบอล พร้อมเสียงเชียร์ไปทั่ว สาวๆรอบข้างต่างพากันกรี้ด ส่วนฉันช็อกอ้าง
เอ๋?! ไม่ใช่ความฝันหรอคะ มีคนมาสารภาพรักกับฉันจริงๆด้วยงั้นหรอคะ!
“ผมรู้ว่าคุณคิโชวอินชอบคุณคาบุรากิมาโดยตลอด แต่ผมเองก็ไม่เคยตัดใจจากคุณได้เลย อย่างน้อยผมก็อยากบอกความรู้สึกนี้ให้คุณรับรู้ ยังไงก็รับผมไปพิจารณาเถอะนะครับ!”
กรี้ดดดดดดด มีคนมาพูดอะไรแบบนี้กับฉันจริงๆงั้นหรอคะ ท่าทางจริงจังใสซื่อนั่นทำเอาใจฉันละลายเลยค่ะ
ฉันยิ้มให้ เขาหน้าแดงให้ฉันด้วยล่ะ อือออ น่ารักจังเลยค่ะ โรแมนติคสุดๆเลยนะคะ
“ขอบคุณมากเลยค่ะ” ฉันดีใจสุดๆไปเลยค่ะในตอนนี้! พิจารณาแล้ว ลองคบกันดูก็ได้นะคะ!!!
พูดยังไงดีนะคะ นึกคำพูดไม่ถูกเลยค่ะ ในที่สุดฤดูใบไม้ผลิก็มาถึงฉันแล้วหรอคะเนี้ย!
“จริงๆแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ชอบท่านคาบุรากิหรอกนะคะ” ฉันถือโอกาสประกาศเรื่องนี้โดยทั่วกัน เสียงฮือฮาดังไปทั่วระเบียง เสียงเชียร์ประธานชมรมฟุตบอลดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม สาวๆรอบข้างต่างพากันตื่นเต้น
“เอะอะอะไรกัน นี่จะถึงเวลาเรียนแล้วอยู่ในความสงบด้วยนะครับ” เสียงนิ่งเฉยดังขึ้นมา บรรยากาศหวานแหววหายแวบไปทันที
นายตัวสำรอง! มาทำอะไรแถวนี้คะ ไปจีบวาคาบะจังนู้นไป๊
นายตัวสำรองพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องเรียนไป ไม่ได้สนใจบรรยากาศรอบข้าง
เมื่อนายสำรองเดินเข้าห้องไปแล้ว ฉันก็หันไปหาประธานชมรมฟุตบอล แต่ก่อนจะได้พูดอะไรต่อก็โดนใครสักคนลากออกมา แถมไม่มีใครห้ามด้วยค่ะ แหวกทางให้อย่างไม่มีคนกล้าค้าน อะไรกันเนี้ย!
เจ็บไหล่ค่ะ เจ็บนะ!!!
“ทำอะไรของเธอน่ะ”
“ท่านคาบุรากิล่ะคะมาพาฉันมาที่นี่ทำไม”
ทำบ้าอะไรหะ คาบุรากิ! ฉันกำลังจะมีฤดูใบไม้ผลิอันงดงามแบบคนอื่นๆเขาซะที นายมาขัดขวางทำไมคะ?!
คาบุรากิขมวดคิ้ว ขณะถามฉันอย่างจริงจังแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ “เธอคิดจะตอบตกลงเป็นแฟนกับหมอนั่นหรอ”
“ค่ะ” ฉันตอบไป ใช่สิ! ฉันกำลังจะตอบตกลง เพราะงั้นอย่ามาขัดสิคะ!
“เธอจะเป็นแฟนกับคนที่เธอแทบไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยนี่นะ”
คนที่เห็นผู้หญิงกลิ้งตัวหลบรถแล้วตกหลุมรักแบบนายไม่มีสิทธิมาว่าฉันนะคะ!
“ลองคบกันดูก่อนก็ได้นี่คะ”
ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา ค่อยๆเรียนรู้กันไป มีตั้งหลายคู่ที่เป็นแบบนี้ คบกับคนที่รักเราน่าจะอบอุ่นกว่าคบกับคนที่เรารักฝ่ายเดียวอยู่แล้วล่ะนะคะ...
ฉันพยายามอธิบายว่าเรื่องนี้มันปกติแค่ไหน คาบุรากิก็ทำหน้านิ่ง
“หมายความว่าเธอจะคบกับใครก็ได้ที่มาขอเธอเป็นแฟนหรอ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ!”
หยาบคายจังค่ะ ฉันไม่ถึงขั้นนั้นหรอกนะคะ ถ้ามาขอเล่นๆหรือขอคบเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ ฉันก็ตอบปัดไปอยู่แล้ว แต่ถ้ามาขอด้วยความรักจริงๆฉันก็อดใจอ่อนไม่ได้เลยค่ะ การเดทในชุดเครื่องแบบเป็นความฝันของฉันนี่นา
คาบุรากิดูไม่ค่อยพอใจในคำตอบฉันเท่าไหร่ ก็นะ หมอนั่นเป็นพวกยึดมั่นในความรักหนึ่งเดียวของตัวเองเอามากๆ ตอนนี้เขาก็เข้าใจผิดว่าฉันชอบนายตัวสำรองอีก คงคิดว่าฉันเปลี่ยนใจง่ายไปงั้นหรอคะ
“งั้นถ้าฉันขอเธอเป็นแฟน เธอจะตอบตกลงไหม”
“เอ๊ะ?!”
ถามคำถามแบบนี้มันไม่เข้ากับภาพลักษณ์นายเลยนะ นี่แค่อยากรู้เล่นๆใช่ไหมคะ
“ถ้าไม่รู้จักมาก่อน ก็อาจจะนะคะ...”
“หะ?! อะไรนั่นน่ะ”
รู้จักห่างๆ คาบุรากิก็ดูเท่ เรียนดี กีฬาเก่งล่ะนะคะ แต่ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้ธาตุแท้อันล้ำโลกของคาบุรากิมากขึ้น ใครก็ตามที่ตกหลุมรักหมอนี่เป็นคนน่าสงสารชะมัดเลยค่ะ... แต่นะ วาคาบะจังก็ถูกเส้นด้ายแห่งโชคชะตาให้มาคู่กับเขา สู้ๆนะวาคาบะจัง...
“ถึงเวลาเรียนแล้ว ขอไปก่อนนะคะ” ฉันบอก รีบหนีดีกว่า
ฉันตัดสินใจรีบกลับบ้าน ไม่อยากให้ใครถามเรื่องคาบุรากิอะไรอีกแล้วค่ะ น่าเหนื่อยใจจริงๆ... ฉันควรจะตอบรับประธานชมรมฟุตบอลดีไหมนะคะ ที่คาบุรากิพูดอาจจะมีประเด็นก็ได้ ไปเป็นแฟนกับคนที่แทบไม่เคยรู้จักจะดีไหมนะ...
แต่ก่อนจะออกจากโรงเรียนได้ ก็เห็นเอ็นโจยืนดักไว้อยู่
“คุณคิโชวอิน ไปทำอะไรกับมาซายะมาหรือเปล่าครับ”
“เอ๊ะ? ทำไมหรอคะ”
“หมอนั่นนั่งซึม พอไปถามก็เอาแต่พูดว่า “อย่าพยายามรู้จักฉันให้มากขึ้นเลย” ”
“...”
ไม่นึกนะคะว่าจะอ่อนไหวขนาดนั้น ปกติต่อว่าอะไรก็ไม่ค่อยเข้าหัวนี่คะ มีแต่เวลาอกหักจากท่านยูริเอะกับวาคาบะจังที่ทำตัวแบบนี้นี่นะ...
ฉันกับเอ็นโจเลยเดินกลับไปที่สโมสร ก็ได้เห็นคาบุรากินั่งจุ่มตัวอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าเหม่อลอย หมดราศีจักรพรรดิหมดเลยค่ะ คาบุรากิ นายมีดีแค่ภายนอกนะ ช่วยอย่างน้อยก็ทำตัวภายนอกให้น่าชื่นชมหน่อยสิ
“ท่านคาบุรากิคะ”
คาบุรากิหันมองฉันด้วยสีหน้าว่างเปล่า น่ากลัวไปแล้วค่ะ...
“เมื่อกี้ฉันล้อเล่นค่ะ”
“ล้อเล่น...?”
“ก็ท่านคาบุรากิล้อเล่นมาก่อนนี่คะ ไม่ได้ถามจริงๆใช่ไหมล่ะคะเรื่องขอเป็นแฟนน่ะค่ะ”
“เอ๊ะ...อ้า...ก็นะ...”
คาบุรากิตอบงึมงำในลำคอ ฉันไม่สนใจเอ็นโจที่อุทานอย่างตกใจจนมาดหลุดอยู่ข้างๆ
"ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดล้อเล่นก็ตกลงเป็นแฟนใช่ไหม"
"อ้า..."
"ฉันเลวร้ายขนาดนั้นเลยสินะ..."
คาบุรากิทำหน้าเหมือนเด็กน้อยใกล้ร้องไห้ ฉันเลยได้แต่ปลอบๆว่าเขาไม่ได้แย่ขนาดนั้น ถ้าเขามาขอ ฉันก็ตกลงเหมือนกัน นายยังดูเท่และมีดีอยู่บ้างล่ะนะ! เพราะงั้นสู้ๆเรื่องวาคาบะจังนะ!!!
เขาดูอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย เอ็นโจแสดงสีหน้าประหลาดบางอย่างออกมา ฉันเข้าใจนายนะ อยู่ๆเพื่อนสนิทผู้เงียบขรึม ก็กลายเป็นคนบ้าอารมณ์ขึ้นๆลงๆขนาดนี้คงน่าเหนื่อยใจ แต่ว่าทำตัวให้ชินซะเถอะ
ฉันกลับบ้านด้วยความรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ฉันรู้สึกคืออะไรกันแน่
จะให้คำตอบประธานชมรมฟุตบอลยังไงดีนะคะ...
คืนนั้นฉันแทบนอนไม่หลับ ไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้กับฉันมาก่อนเลยนี่คะ ถ้าได้เป็นแฟนกับคนที่รักฉันจริงๆ คนที่ไม่ได้สนใจที่ชาติตระกูลก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนะคะ
ประธานชมรมฟุตบอลในโลกนี้ก็ดูน่ารักดีอยู่นะคะ ดูจริงใจจริงจังดีค่ะ แหม คนที่กล้าสารภาพรักกับฉันทั้งๆที่คิดว่าฉันรักคาบุรากิแล้ว น่าจะหาได้ยากนะคะ แถมสารภาพท่ามกลางผู้คนขนาดนั้นด้วย
วันต่อมาฉันตามหาประธานชมรมฟุตบอลเพื่อให้คำตอบ แต่ว่าดูเหมือนเขาจะบาดเจ็บจนมาโรงเรียนไม่ได้ค่ะ...
ไม่รู้อะไร กูขอคั่นรายการแปบ 55555
ตั้งชื่อเรื่องไม่ออก ตั้งเองเลย สุขสันต์วันไวน์เดย์ใสๆ!!!(?)
วันนี้เป็นวันไวท์เดย์ล่ะค่ะ แต่วันวาเลนไทน์ฉันก็ไม่ช็อคโกแลตจากใครเลยนอกจากพวกเพื่อนๆในชั้นกับของที่ให้ตามมารยาท วาคาบะจังก็อุส่าตั้งใจทำคุกกี้ให้แท้นะ แต่มันไม่นับซะหน่อย!
ฉันอยากได้ช็อคโกแลตจากคนที่ชอบหรือมีโอกาสให้นารุคุงด้วยตัวเองงต่างหาก ถ้าไม่ติดว่าวันวาเลนไทน์ไปที่ห้องสมุดแล้วกลับไปเจอตัว ต่อให้เจอก็ไม่กล้าให้หรอก เลยต้องเอาไปให้อุเมวากะฝากไปให้เบียทันแทน
ชีวิตช่างน่าอดสูยิ่งนัก ชาติที่สองกลับมาเกิดใหม่ก็เหมือนเดิม ฉันว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติเทพเจ้าแห่งความรักต้องไม่เข้าข้างอยู่ดี
“ระ....รุ่นพี่คิโชวอินครับ”
ฉันเงยห้าขึ้นหลังจากเหม่อมองหน้าต่างเสียนาน มองหน้าคนยืนเรียกที่แดงจวนเจียนจะระเบิดอยู่แล้ว
“มีอะไรหรอคะ มินามิคุง?”
อา....รุ่นน้องที่แสนน่ารัก นางฟ้าแห่งชมรมงานฝีมือ วันวาเลนไทน์จำได้เลยว่าช็อคโกแลตแฮนด์เมดของมินามิคุงทำออกมาน่ารักเอามากๆ โดยเฉพาะกล่องที่ใส่มาเจ้าตัวเอาริบบิ้นกับลูบไม้มากมายมาตกแต่งอย่างสวยงามราวกับช่างฝีมือที่หาจับด้วยได้ยากเลยค่ะ ไม่ต้องพูดถึงรสชาติที่หวานละมุนนิดๆติดลิ้นของช็อคโกแลตนมที่ไม่หวานมากเกินไปแล้ว....
ถ้าฉันเป็นผู้ชายก็คงหลงรักไปแล้วค่า...
“...พี่ รุ่นพี่ครับ ตอนเย็นนี้รุ่นพี่จะมาห้องของชมรมหรือเปล่าครับ?” ถ้าจำไม่ผิดวันนี้ชมรมหยุดไม่ใช่หรอ สงสัยฉันจะจำผิดไป
“แน่นอนว่าต้องไปอยู่แล้วค่ะ ถุงใส่ตุ๊กตาที่ทำค้างเอาไว้ยังอยู่ที่ห้องชมรมอยู่เลย มินามิคุงถ้าว่างดิฉันจะขอความคิดเห็นเรื่องชุดที่จะตัดเย็บใส่ตุ๊กตาหน่อยได้ไหมคะ?”
“ได้เสมอเลยครับ ถ้าเป็นรุ่นพี่ ผมจะพยายามทำชุดให้อยู่แล้ว” ไม่เอาค่ะ แบบนี้ฉันก็ไม่ได้ทำด้วยตัวเองสิ หยุดทำทำสายตาลูกหมาเลย ฉันจะไม่ยอมถูกใบหน้าน่ารักๆแย่งงานไปแน่
กว่าจะคุยเรื่องชมรมเรื่อยเปื่อยเสร็จก็เข้าเรียนพอดี อยากรู้จังว่ามินามิคุงมีเรื่องอะไร ปกติไม่เคยมาหาแท้ๆ….
พอเลิกเรียนก็รีบเดินไปที่ห้องชมรมทันที ระหว่างทางฉันเห็นท่านเอ็นโจทำตัวลับๆล่อๆตรงหัวมุมบันไดก่อนไปห้องชมรมด้วย
เอ๋ มีวาคาบะจังกับท่านคาบุรากิเหมือนกำลังจะให้ของไวน์เดย์กันขณะที่ท่านเอ็นโจเป็นต้นทาให้สินะคะ แบบนี้เดินอ้อมไปดีกว่า ฉันไม่อยากขัดขวางเส้นทางรักของใครซะด้วย ถึงจะอยากรู้แค่ไหนจะคอยฟังจากข่าวลือนะคะ
ไฟของห้องชมรมปิดสนิทเลย วันนี้หยุดจริงๆด้วย รีบเอาของกลับดีกว่า มินามิคุงทำไมต้องนัดในที่ๆน่ากลัวแบบนี้ด้วยนะ แสงพระอาทิตย์ที่เริ่มตกดินส่องเข้ามาทางหน้าต่าง เงาที่มาจากพวกหุ่นโชว์ที่ปกติจะดูสวยงามจากวกเสื้อผ้าสวยๆ ตอนนี้ฉันคิดว่ามาอยู่ที่ห้องจำลองตุ๊กตาผีมากกว่า
หลังจากรอมานาน ฉันตัดสินใจเรียกชื่อคนที่ควรจะมารอก่อนหน้าแล้วอย่างกล้าๆกลัว
“มินามิคุ....ปึก!” เหมือนมีประไรมาฟาดเข้าที่หลังคอฉัน จนร่างทรุดลงไปนอนกับพื้น ใครน่ะ ใครเป้นคนทำแบบนี้กันคะ ฉันยังไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครเลยนะ
ฉันพยายามเงยหน้ามองคนที่นั่งชันเข่า แต่ก็เห็นได้เพียงครึ่งหน้าเท่านั้น แต่ฉันจำเสียงนั่นได้....
“สวัสดียามเย็นครับ รุ่นพี่”
“มะ....มินามิคุง....” ดวงตาหนักอึ้งไปหมด สุดท้ายฉันก็ไม่รู้ตัวอะไรอีกเลย.....
“รุ่นพี่ครับ ผมเย็บชุดใหม่เสร็จแล้วล่ะครับ ไม่รู้จะถูกใจรุ่นพี่หรือเปล่า” ผมถือชุดราตรีสีดำที่ประดับด้วยดอกโบตั๋นสีแดงสดทาบกับตัวรุ่นพี่ที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้หรูหราที่อุส่าเก้บเงินซื้อมาเป็นพิเศษ
“รุ่นพี่ครับ รุ่นพี่รู้ไหมว่าผมชื่นชมมากขนาดไหน ตอนแรกผมคิดว่ารุ่นพี่เหมือนตุ๊กตาเลยนะ แถมยังชอบทำตุ๊กตาน่ารักออกมาอย่างตั้งใจเลยล่ะ....” ผมลูบใบหน้าที่เริ่มเย็นเชียบลงเรื่อยๆ ผิวขาวซีดตัดกับแพขนตาที่ปิดสนิทบ่งบอกว่าเจ้าของร่างได้จากไปแล้ว
“ผมจะเย็บชุดสวยๆให้รุ่นพี่ใส่ตลอดไปเลยนะครับ รุ่นพี่เรย์กะ....”
ยะ....อย่าตบกูนะ //แจกไม้จิ้มฟันใส่ทุกคน
>>372 กรี้ดดดด ไม่คิดว่าจะมีฟิคท่านพี่ด้วย กุรออยู่นะ รีบกลับมาาาาา ในเรื่องนี่ถ้าให้เลือกตัวละครที่ชอบสุดก็คงเรย์กะ แต่ตัวที่รู้สึกว่ามีเสน่ห์น่าสนใจ แบบชวนติดตามที่สุดนี่สำหรับกุคือท่านพี่~~~ ส่วนนึงคงเพราะเป็นสองพี่น้องที่ภายนอกกับภายในไปคนละเรื่องทั้งคู่ ท่านพี่ที่ดูดาร์กเวลาบรรยายพฤติกรรมเรย์กะก็ยังฮาอยู่ดี อยากให้มีตอนพิเศษมุมมองท่านพี่เยอะๆ รู้สึกเหมือนจะได้รู้มุมดีๆปังๆแบบฮาเงิบของเรย์กะอีกเพียบ โฮกกกกก ฮิโยโกะซามะก็ไม่แต่งมาอีกเลยอะ คือกุนี้ดมากกกก รออ่านฟิคมึงแทนนะ 55
วันนี้วันมหกรรมฟิคสินะ ขอบคุณโม่งฟิคทุกๆคนเลย
ต่อ >>372 อันที่แล้วสั้นมากเพิ่งรู้ตัว5555555555 อันนี้ก็สั้นแหละแต่จริงๆกะเขียนเป็นเรื่องสั้นอ่ะแต่จบไม่ลง ท่านพี่อาจนิสัยแปลกๆไปบ้าง เป็นการเอาอฟชผสมความมโนนนน
---------------------------------------
ในตอนที่เธอเกิดมานั้น ถึงแม้เธอจะคือน้องสาวของผม แต่แล้วยังไงล่ะ เอาอะไรมากำหนดกันว่าผมจะต้องรักเธอ และความคิดที่ว่าผู้หญิงที่ผมรักมีเพียงแค่ท่านแม่นั่นก็ยังไม่เปลี่ยน
ตั้งแต่เธอเกิดมาผมนั้นยังไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธอเท่าไหร่นัก แต่วันนี้เพราะผมรู้สึกเหนื่อยและเบื่อที่จะต้องไปงานเลี้ยงต่างๆกับท่านพ่อท่านแม่ จึงปฏิเสธที่จะไปด้วย ท่านพ่อและท่านแม่จึงส่งผมมาอยู่กับน้องสาวในวัย 3 เดือน
ผมมองน้องสาวที่นอนอยู่ในเตียงสำหรับเด็ก และเพิ่งได้มีเวลามองเธอแบบใกล้ๆ เธอเป็นเด็กที่ตัวเล็กกลมๆขาวๆ เห็นแล้วนึกถึงซาลาเปา แก้มกลมๆของเธอนั้นดูนุ่มนิ่มน่าสัมผัส ทำให้ผมอดใจไม่ไหวจนเผลอเอานิ้วไปจิ้ม จนทำให้เธอตื่นขึ้นมา
ดวงตากลมๆดูไร้เดียงสาของเธอจ้องมองผมราวกับกำลังทำความรู้จัก มือเล็กๆนั่นยื่นออกมาจับนิ้วของผมไว้ เธอเริ่มส่งเสียงร้องอ้อแอ้ออกมาราวกับกำลังทักทาย แก้มยุ้ยๆของเธอนั้นยกขึ้นราวกับกำลังส่งยิ้มมาให้ ชั่วขณะนั้นโลกของผมสว่างวาบขึ้นมา หัวใจสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อน้องสาวเริ่มโตขึ้นเพราะการเลี้ยงดูที่แสนตามใจจากท่านพ่อและอิทธิพลจากการที่อยู่แต่กับท่านแม่ ทำให้เธอกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ เป็นคุณหนูขนานแท้ที่ชอบดูถูกคนอื่น นั่นทำให้ผมมองเธอด้วยสายตาเย็นชาและไม่เคยคิดที่จะเข้าใกล้เธอ
แต่จู่ๆน้องสาวของผมก็เปลี่ยนไป
นั่นเป็นช่วงตอนเข้าเรียนชั้นประถม ตอนนั้นน้องสาวอายุ 5 ขวบ เธอมีไข้ขึ้นสูง สลบไสลร้องไห้และเพ้อออกมา ผมที่เดินผ่านห้องเธอ เห็นเธอที่เป็นแบบนั้นแล้วก็เกิดความรู้สึกแปลกๆในหัวใจ แต่ผมก็เลือกที่จะไม่สนใจความรู้สึกที่ไม่รู้จักนั้นและปล่อยผ่านมันไป
หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนไป จะบอกว่ายังไงดีนะ เธอกลายเป็นเด็กโง่ในความหมายที่ดี ถ้าบอกว่าไร้เดียงสาขึ้นจะดีกว่าไหมนะ ? และก็เหมือนจะมีนิสัยชอบพึมพัมคนเดียวเยอะขึ้น
---------
มีต่อออ อาจจะตัดสั้นไปบ้าง งงๆกับ 4000 คำอ่ะ5555555555
จากที่เคยมองเธอด้วยสายตาเย็นชา และคอยหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้ กลายเป็นว่าผมชอบที่จะสังเกตพฤติกรรมประหลาดๆของยัยน้องสาว และเข้าใกล้เพื่อดูปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ
นั่นทำให้ยัยน้องสาวเริ่มที่จะเกาะติดผมและเริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เวลาเธอเห็นหน้าผมเธอจะเข้ามาหาด้วยใบหน้ามีความสุข เหมือนพวกลูกหมายังไงยังงั้นเลย รู้สึกเหมือนมีหางที่มองไม่เห็นแกว่งไปมาอยู่ข้างหลังของเธอเลย
อา..ยังไงก็เป็นน้องสาวแท้ๆนี่นะ แถมยังติดแจ ทั้งไร้เดียงสาหลอกง่-- ไม่สิ ไร้เดียงสาเชื่อฟังขนาดนี้ น่ารักมากๆเลย ว่าไหมล่ะ ?
และยิ่งผมใจดีกับเธอมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งเกาะติดผมมากยิ่งขึ้น เวลาผมนั่งที่โซฟา ที่นั่งข้างๆผมก็เหมือนจะกลายเป็นที่ประจำของเธอไป
อยู่มาวันหนึ่ง อยู่ๆน้องสาวของผมก็บอกว่าอยากไปโรงเรียนกวดวิชา เธอยืนกรานว่าอยากจะเข้าโรงเรียนกวดวิชา ไม่ใช่ให้ครูมาสอนพิเศษ แล้วเหตุผลก็น่าสงสัยด้วย แต่ว่าเนื่องจากเธอแสดงความกระตือรือร้นออกมาให้เห็น อืม.. น่าสนใจดีแฮะ ผมเลยช่วยเธอพูดไปนิดๆหน่อยๆ แล้วเธอก็มีขอบคุณผมพร้อมรอยยิ้มกว้างจนเห็นเป็นลักยิ้ม
น่ารักจริงๆเลยน้ายัยน้องสาว...
ด้วยความอยากแกล้งนิดๆสนใจหน่อยๆ ผมเลยแกล้งถามถึงแรงจูงใจที่แท้จริง แล้วเธอก็กรอกตาไปมาตามที่คาดเอาไว้ อย่างที่คิดเลย ดูท่าจะมีเหตุผลอื่นอยู่จริงๆด้วยสินะ ถึงมันจะไม่สำคัญอะไรมากก็ตาม
ผมมองเธออยู่ครู่นึง ยัยน้องสาวที่เห็นเลยทำปากยื่นออกมา
"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว เอาตามนั้นก็ได้"
จะเห็นแก่ที่เธอยอมทำท่าทางตลกๆแตกต่างจากปกติที่มักจะวางตัวเป็นคุณหนูนั่น ยอมปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน
แต่ว่านะ...
"แต่ว่านะเรย์กะ.."
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเธอ แล้วกระซิบเสียงเบา "เวลาที่คนเราโกหกน่ะนะ สายตาจะเยื้องไปทางด้านขวาบนนะ"
จากนั้นผมจึงส่งยิ้มและลูบผมเธอเบาๆแล้วบอกทิ้งท้ายไว้ "งั้นก็..ราตรีสวัสดิ์นะ"
ผมที่เดินกลับห้องตัวเองไปก็นึกถึงท่าทางของน้องสาวไปด้วย เธอตัวแข็งค้างเป็นหิน อ้าปากเหมือนกับตุ๊กตาฮานิวะดูเอ๋อๆหน่อย เลยทำให้เผลอหัวเราะออกมาไม่ตั้งใจ
ถ้าคราวหน้าเธอเป็นฮานิวะอีก ผมจะลองเอาลูกอมใส่ปากเธอดู
มีน้องสาวที่ซื่อบื้--- ใสซื่อขนาดนี้ มันดีช่างจริงๆ การที่ได้อยู่กับเธอนั้นไม่น่าเบื่อเลยสักนิด ก็เพราะเธอน่ะมีแต่ความจริงใจให้ผมนี่นา ที่สำคัญเธอมักจะทำท่าทางตลกๆออกมาให้เห็นอยู่เป็นประจำ มันสนุกจริงๆนะ ไม่คิดแบบนั้นหรอ ?
อา..แล้วก็นะ ก็จริงอยู่ที่สายตาของน้องสาวเยื้องไปด้านขวาบน แต่เธอก็มีนิสัยที่ทำออกมาโดยไม่รู้ตัวอยู่อีก ตอนที่เธอพยามยามจะโกหกหรือยิ้มเพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงอะไรสักอย่าง ลักยิ้มเธอจะกระตุก
นี่เป็นนิสัยของเธอที่ผมเพิ่งขึ้นพบเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ใช้ระยะเวลาร่วมกันกับน้องสาวที่คอยเกาะติดนานขึ้น บางทีตัวน้องสาวเองก็คงไม่รู้ตัวถึงนิสัยนี้เลยสักนิด
แต่ว่า..ตัวผมเองก็ไม่คิดที่จะบอกเธอหรอกนะ เพราะแบบนั้นมันน่าสนุกและน่าสนใจมากกว่านี่นา จริงไหม ? :)
--------------------------
วันนี้แค่นี้แหละะะ ไม่ไหวแล้ววว
กาวอร่อยเยอะมากเลย แถมเกือบทุกฟิคยังมีความยันแฝงอยู่ในเรื่องด้วยนะ ถถถ
>>446 คาบุรากิ ชอบเรย์กะแล้วใช่มะ ก็พูดออกไปตรงๆเซ่ อย่าอ้อมค้อมแบบเพื่อนนาย
โอ๊ย วาคาบะน่ารัก วาคาบะน่ารัก ขอยูริด้วยเหอะ ฮรืออออ จะตายกับความน่ารักของวาคาบะแย้วววววว คนนี้ก็ชอบเรย์กะแล้วใช่มั้ย เอาชอคโกแลตเขียนชื่อมาให้ด้วย แล้วของคาบุรากิไปไหนจ๊ะ ไหนว่าเป็นคู่แท้ด้ายแดงพรหมลิขิตไงล่ะ จบยูริเหอะ ไม่นำพาความยุ่งยากมาให้แบบเจ้าสองหนุ่มป๊อบนั่นด้วย ตายๆๆๆๆๆ กูตายแล้ว กูตายแล้ว กูลำเอียงมากที่สครีมวาคาบะเป็นวรรคเป็นเวร แต่พูดถึงคาบุรากิบรรทัดเดียว 55555555555555 ส่วนเอ็นโจฟิคนี้กูคงไม่เชียร์เพราะกูเชียร์วาคาบะ ทั้งที่เรือหลักกูคือเรือเอ็นโจ แต่วาคาบะน่ารักกว่าน่ะ นายไปประจำการฟิคอื่นซะนะ หลีกทางให้ทุ่งดอกไม้เถิด
>>448 นี่ไวท์เดย์หรืออะไรเนี่ย ทำไมมีแต่ฟิคสะเทือนขวัญกันแบบนี้ล่ะ 55555555555555555555
มินามิคุง เดี๋ยวริรินะเอาผ้าขนหนูมารัดคอนะ เอ๊ะ หรือริรินะจะให้เดชชิยกคุณเรย์กะไปเก็บไว้ที่บ้านตัวเองเป็นตุ๊กตาตัวโปรดกันแน่นะ
>>445-447 กรี๊ดดด กรี๊ดใครก่อนดีวะ วาคาบะก็น่ารักกก เอสฟุตบอลก็ดีงามมม คาบุรากินี่ก็ว้ายยยย ใช้โปรเหมาๆเลยค่าท่านเรย์กะเก็บให้หมดทั้งโรงเรียนอย่าให้เหลืออออ
>>448 โว้ยยยย นึกว่าจะเป็นฟิครักใสๆของรุ่นพี่รุ่นน้อง ทำไมกลายเป็นฟิคยันล่ะวะ 55555555
>>454-456 ท่านเพ่่่่่สมกับเป็นจอมมารร่างต้น ความคิดร้ายกาจดำมืดชะมัด 55555
แต่ละเม้นท์มันได้ 4,000 ตัวอักษรน่ะ ไม่ใช่คำ แต่งแล้วเอาไปนับใน http://www.lettercount.com/ ก่อนก็ได้
ตอนกลางวันโคตรจะเงียบ ดึกแล้วฟิคลงรัวๆเลยนะะะะ
>>445-447 กรี๊ดดดด กูเชียร์คาบุรากิ หึงละสิ หึงละสิ อย่างน้อยกูว่าคาบุรากิหึงได้เป็นผู้เป็นครกว่าเอ็นโจนะ55555555555555
>>448 ทำไมฟิควันฮาโลวีนมาเร็วจังคะ นี่เพิ่งพฤษภาเองนะ55555555 กูเพิ่งสังเกตว่าโม่งฟิคเกือบทุกคนมีความยันแฝงอยู่ ถถถถถถ
>>454-455 ค้ำคอร์ กูเชียร์ค้ำคอร์ แต่งค้ำคอร์ได้นะมึง โม่งในนี้ไม่ว่าหรอกกกกกก หุหุหุ5555555
>>448 เดี๋ยวๆๆๆๆ มินามิคุงงงงง ทำไมยันขนาดนี้ วันนี้เจอจอมมารดาร์กไปแล้ว เจอฟิคนี้อีกหรอ...
>>451 ถือว่าใจตรงกันนะ 55555
>>454-456 ซิสค่อนผู้น่ากลัว แต่รู้สึกว่ามันเหมาะกับความคิดท่านพี่มากๆ 5555 นี่บทมาเป็นแค่ซิสค่อน หรือค้ำคอร์คะ 5555
>>445-447 ลองอ่านตัวเองดูอีกรอบ ทำไมเขียนบทเอ็นโจกลายเป็นตัวประกอบขนาดนี้เนี้ย 555 ก่อนหน้านั้นเวลาแต่ง บทเอ็นโจนี่พุ่งพรวดจนไม่เป็นอันเขียนบทคาบุรากิ ต้องตั้งสติว่านี่ฟิคเรือคาบุรากิก่อนจะเขียน แต่หลังๆ นั่งอ่านฟิคที่ลูกเรือที่ไล่เจาะเรือตัวเองแล้วเราก็เมาตาม โถถถถ ช่วงนี้มีแต่บทยันรัวๆไปทุกเรือ
>>460 กรี้ดดดดด รูทยูริช่างดีงาม
>>445 กรี๊ดๆๆๆๆกรี๊ดกรี๊ดกรี๊ดกรี๊ด ทำไมใบไม้ผลิคราวนี้ถึงอิรุงตุงนังนัก ต้นบทพายเรือวาคาเรย์กะรัวๆ มากลางบท ...เจ้าแม่คะ
นะ นี่มันเจ้าแม่ปางหักธงรุ่นศักสิทธิ์พิเศษ /กู ลงไปนอนร้องไห้
ถ้าจีบแบบเนิบๆเนียนๆอย่างเอ็นโจจะไม่ว่าเลย นี่เขาขอกันซึ่งหน้าแล้วยังคิดไปได้ขนาดนั้น หมดคำพูด
กู >>461 เอง พอก้มหน้าก้มตาแล้ววาดแยกลำบาก เลยพยายามเอาที่เด่นๆใส่ไว้ล่ะนะ 555
ที่วาดไปกำหนดไว้ว่าเป็น นายบ้าหมา (อัลบั้มเลิฟๆเบียทัน), อิมาริ (ช่อดอกไม้+ผ้าพันแผลที่มือที่โดนแทง ถถถ), ริรินะ (ผ้าขนหนูปักชื่อRK), นายตัวสำรอง (ดอกโบตั๋น+ป้ายติดแขนสภาฯ) และวาคาบะ (ข้าวแกงกะหรี่)
เดาถูกกันก็ดีใจค่ะ เย้
ท่านเรย์วัยประถมต้นกับท่านพี่ร่างหญิง
“ยินดีต้อนรับครับนายน้อยเรย์”
เมื่อถึงเวลาโรงเรียนเลิก คนขับรถของบ้านคิโชวอินจะคอยมารับผมเสมอ ทั้งเพื่อหลีกเลี่ยงอาชญากรรมอย่างการลักพาตัว และเพราะว่ามีการเสริมเนื้อหาในบทเรียนในโรงเรียน และบทเรียนทางวัฒนธรรม ต้องไปเรียนพิเศษส่วนตัวหลังเลิกเรียนต่ออีกด้วย
ชีวิตของลูกชายบ้านเศรษฐีนี่ยุ่งยากกว่าที่คาดคิดเสียอีกนะครับ
ตารางเวลาหลังเลิกเรียนแทบจะเต็มไปด้วยการเรียนเสริมพิเศษส่วนตัว
ต่างกันลิบกับเด็กที่เข้าเรียนโรงเรียนประถมของรัฐที่อยู่ใกล้ๆ บ้านของนักเรียนแต่ละคนในโรงเรียนซุยรันนั้นต่างก็กระจัดกระจายไปคนละทิศ แล้วแต่ละคนก็วุ่นกับการเรียนพิเศษต่างๆกัน เพราะงั้นหลังเลิกเรียนพวกเราได้แต่ร่ำลากันด้วยคำว่า “ขอลาล่ะนะครับ” เท่านั้น
ก็ว่ากันไป ส่วนของผมวันนี้เป็นการเรียนจิตรกรรมกับเปียโนล่ะ
“กลับมาแล้วครับ”
อา เหนื่อยจังเลยน้า อย่างที่คิดเลย การเรียนอะไรหลายๆ อย่างนี่มันยากสุดๆ ไปเลย
เปียโนก็สนุกอยู่หรอกแต่จิตรกรรมนี่มันก็นะ…
ก็เซนส์ศิลปะเห่ยๆ ของผมมันแสดงออกมาเป็นภาพแบบนั้นน่ะสิ
แม้แต่ในวันนี้ งานที่ผมวาดไปมั่วๆ ยังได้รับการตีค่าเกินจริงเลย
อาจารย์ที่ไม่ได้รู้เลยว่านั่นคืองานที่เสร็จแล้วบอกว่าให้ผมทำยังไงก็ได้ให้มันดูสดใสกว่าเดิม แต่ด้วยเซนส์ด้านศิลปะแย่ๆ ของผม ทำให้ผมไม่อาจจะทำอะไรกับมันได้มากกว่านั้น
สุดท้ายอาจารย์ก็บอกว่า “ไม่คิดว่ามันจะดีกว่านี้หรือคะถ้าวาดตรงนี้เพิ่มน่ะค่ะ?” แล้วก็ปาดสีไปมาตรงนู้นทีตรงนี้ที ทำให้ผลผลิตที่ออกมาใหม่มองไม่เห็นแม้แต่เศษเสี้ยวของงานดิมของผมสักนิด ขอโทษจริงๆ ที่เป็นนักเรียนที่ไม่ได้เรื่องนะครับอาจารย์
ตอนที่ผมกลับมาที่ห้องนั่งเล่นหลังจากไปเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ท่านพี่ พี่สาวของผมก็กลับมาถึงบ้านแล้วเช่นกัน
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับท่านพี่”
“พี่กลับมาแล้วจ้ะ เรย์”
ใช่แล้วครับ เรื่องนี้ผมก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน แต่คิโชวอิน เรย์มีพี่สาวที่สวยงามมากเลยล่ะ
ก็ในการ์ตูน เรย์เป็นตัวละครที่ออกมามีบทเป็นแค่ตัวร้าย เพราะอย่างนั้นก็เลยไม่ได้มีรายละเอียดอะไรลึกซึ้งเกี่ยวกับพื้นฐานครอบครัวของเขา หรือด้านลึกๆในใจเหมือนกับพระเอกหรือจักรพรรดินี
ถึงขั้นที่พ่อแม่ของเขายังเพิ่งได้โผล่มาครั้งแรกก็ตอนบทที่มีงานหมั้นเลยครับ
นักอ่านทั้งหลายก็คงไม่มีใครอยากจะรู้เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมอะไรของเรย์เหมือนกันนั่นแหละครับ
อ่า… น้ำตามัน…
“ท่านพี่ครับ กลับมาจากกิจกรรมหลังเลิกเรียนแล้วหรือครับ?”
“อืม ใช่แล้วจ้ะ”
คิโชวอิน ทาเคมิ อายุ 13 ปี ซึ่งแก่กว่าเรย์ 7 ปี
เธอมีผมยาวดัดลอนอ่อนๆ เป็นเพราะรสนิยมของท่านแม่ที่ชอบแต่งตัวให้ลูกแบบตุ๊กตาฝรั่ง(ดูจากผมที่เป็นลูกชายได้ โดนจับดัดผมจนหัวหยอยเหมือนกัน) แต่ท่านพี่หัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยอมทำผมทรงโรโคโค่เด็ดขาด เลยยื่นข้อเสนอว่าจะดัดผมลอนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ท่านแม่ที่ฝืนใจท่านพี่ไม่ได้ก็ทำได้เพียงถอดใจเท่านั้น
ตอนนี้เธอเรียนอยู่ปี 2 ของโรงเรียนมัธยมต้นซุยรัน
เธออยู่ชมรมยิงธนูและทำกิจกรรมอยู่เสมอๆ สัปดาห์ละหลายวัน เวลากลับมาจากชมรมก็จะรวบผมลอนหลวมๆนั้นเป็นโพนี่เทลสูง น่าจะมัดเวลาทำกิจกรรมชมรมสินะ
มันออกจะแปลกหากผมเป็นคนพูดเอง แต่ท่านพี่ทาเคมินั้นช่างเป็นคนที่อ่อนโยนและซื่อตรง ราวกับเป็นแม่พระ
แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นพี่น้องกับเรย์ได้
“วันนี้ตอนหลังอาหารค่ำจะมีอาจารย์สอนพิเศษมาไม่ใช่หรือครับ? ถ้าอย่างนั้นคงไม่ว่าอะไรถ้าจะอยู่เป็นเพื่อนคุยกับผมจนถึงเวลาอาหารค่ำใช่ไหมครับ? ได้โปรดเถอะนะครับ นะครับ น้า”
ก็ผมรักท่านพี่มากที่สุดเลยล่ะครับ!
เพราะว่าเป็นตัวตนที่เรียกว่า “พี่สาว” ที่ผมจะคอยออดอ้อนได้ และเนื่องจากในชาติก่อน(จะเรียกแบบนั้นได้รึเปล่านะ ชักสับสนแล้วสิ)ผมมีแต่น้องชาย ท่านพี่ทาเคมิก็แสนประเสริฐซะด้วย!
“ได้สิจ๊ะ งั้นเรามาคุยเรื่องอะไรกันดีล่ะ วันนี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหมล่ะ?”
ตอนที่ท่านพี่นั่งลงบนโซฟาและเธอตบข้างๆตัวขณะที่พูด ผมก็รีบวิ่งไปนั่งข้างๆ ท่านพี่ของผมตามความเคยชินเหมือนลูกหมาน้อยวิ่งหาเจ้านายเลย
“วันนี้ผมมีเรียนเปียโนกับศิลปะล่ะ”
ผมเล่าให้ท่านพี่ฟังอย่างมีความสุขว่าบทเรียนเปียโนสนุกยังไง และการวาดรูปที่ผมทำผิดพลาดไปนิดหน่อย
แล้วตอนที่ท่านพี่เล่าถึงตอนที่ทำได้ไม่ค่อยดีในชมรมด้วยใบหน้ายุ่งหน่อยๆ ผมก็พยายามให้กำลังใจเธอ แล้วท่านพี่ก็ลูบหัวผม พร้อมกับยิ้มแย้มให้อย่างอ่อนโยน
ท่านพี่มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ ทั้งๆที่เพิ่งเสร็จจากชมรมแท้ๆ แต่เนื้อตัวไม่มีกลิ่นเหงื่อเลยสักนิด พลังของหญิงสาวสินะเนี่ย
ผมคุยกับท่านพี่เพลิดเพลินไปจนถึงเวลาอาหารค่ำ ท่านพี่ก็กลับห้องไปพร้อมกับครูสอนพิเศษส่วนตัว
รักท่านพี่ที่สุดเลย!
มาโยนท่านพี่แบบสลับเพศแล้วไปนอนก่อนนะจ๊ะ
ทะลุมิติหาายยาว สิ่งเยียวยายามดึกของกูหายไปแล้ว5555555555555555 ตอนนี้หวีดมาก หวีดทุกคน ฮือออ วาคาบะก็หวัด เอ็นดจวก็หวีด หวีกคาบุรากิกับเอสชมรมฟุตบอลสุดไรสุด กรี้ดดดดดดดดดดด
วันนี้ฟิคเยอะจริงจังอ่ะพวกมึง กุเมากาวไปหมดแล้วว
อยู่เรือคาบุรากิ แต่เนื่องมาจากฟิคฮาเร็มเรย์กะที่ทุกคนต่างมารุมบอกรักเรย์กะ เนื่องจากิ่านเเล้วเกิดความกาวในไมฮามะในเมื่อไม่มีใครผลิตกาวให้เลยลงมือทำเอง ดม ขายเองเสียเลย
----------------------------------------------------------------------
ฉันและเธอคนนั้น
ไมฮามะ เอมะ คือชื่อของฉัน
มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันไม่ขอบขี้หน้าเธอเท่าไหร่ เธอเรียนอยู่ที่ซุยรัน
เราเจอกันครั้งแรกที่งานเลี้ยงของตระกูลคาบุรากิตอนได้เห็นครั้งแรกแวบแรกคิดว่าช่างเหมือนตุ๊กตาฝรั่งเศสจังน้า ผมลอนเป็นขดเป็นเกลียวดูเหมือนราชินีฝรั่งเศสที่ชื่อโรโคโค่เลยล่ะคุณคาบุรากิที่เมื่อเห็นเธอคนนั้นก็ตรงดิ่งเข้าไปทักทายทันทีพร้อมกับเพื่อนสนิทอีกคนที่ชื่อเอ็นโจ ฉันที่ติดตามคุณคาบุรากิไปด้วยพอจะได้รู้จักชื่อของเธอ
คิโชวอิน เรย์กะ บุตรสาวของตระกูลคิโชวอินที่ทรงอิทธิพลรองมาจากตระกูลคาบุรากิเพียงไม่กี่ส่วน คนที่มาดามคาราบุกิพูดถึงบ่อยๆด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทุกครั้งราวกับว่าอยากได้มาเป็นสะใภ้เสียเหลือเกินคิดเพียง เท่านั้นใบหน้าก็พลันบึ้งตึงขึ้นมาจากปกติบ่งบอกอย่างเห็นได้ชัดว่าฉันตั้งเป็นศัตรูกับ คิโชวอิน เรย์กะ อย่างออกตัว
นามสกุลไมฮามะเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหรอกนะ เพราะฉะนั้นไม่ขอยอมแพ้ให้เธอหรอกย่ะ!
คุณคาบุรากิคุยกับคิโชวอิน เรย์กะ ด้วยท่าทีเป็นกันเองก่อนจะพูดถึงตอนที่เธอไปเข้าแกรมงดอาหารของเครือคาบุรากิ ฮึ―! ฉันพูดเหน็บแนมเธอเล็กๆน้อยๆพอเป็นพิธีแต่ปฏิกิริยาที่ได้รับกลับมาเป็นแค่สีหน้าเหม็นเบื่อเท่านั้น....
นี่ฉันกำลังว่าเธออยู่นะยะ
ฉันเลยพูดจิกกัดไปอีก....ได้ผล คิโชวอิน เรย์กะเริ่มตอบโต้บางแล้วแต่ยังคงความนิ่งสงบเอาไว้สายตาที่มองมาทางฉันดูเหมือนกำลังมองปลาซิวปลาสร้อยเท่านั้น
หนอย สายตาแบบนี้หมายความว่าไงหา
ดวงตากลมโตที่เฉียงขึ้นนิดๆดูหยิ่งผยองแสดงออกว่าอยากไปจากที่นี่เต็มทน เธอกดสายลงมาที่ฉันแวบนึงก่อนจะขอตัวไปอีกที่เป็นโซนของหวาน ตอนนั้นอยู่ดีๆก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบโดยไม่มีเหตุผล
ฉันชวนคุณคาบุรากิคุยนู่นนี่นั่นเยอะแยะแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาเป็นเพียง อืม หรือบางทีก็ไม่ตอบเลย... ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ยอมแพ้หรอกค่ะ ทั้งที่รู้ว่าคุณคาบุรากิน่ะเบื่อที่จะอยู่กับฉันเอามากๆแต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธพูดออกมาตรงๆเพราะท่านพี่ยูริเอะเป็นคนฝากฝังฉันเอาไว้
เสียใจด้วยนะคะ แต่ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกนะค้าคุณคาบุรากิ~
ครั้งที่สองฉันมาหาคุณคาบุรากิที่ซุยรันและวันนั้นที่ซุยรันมีจัดงานโรงเรียนพอดีจึงเป็นโอกาสทำให้ฉันเดินเที่ยวกับคุณคาบุรากิ อื๋อ น่าดีใจจังเลยค่ะ หุหุ
แต่ก็ไม่ได้เดินเที่ยวกันสองคนหรอกนะ มีท่านพี่ยูริเอะ ท่านพี่ไอระ และเอ็นโจมาด้วย....
แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์อะไรหรอกนะ
พวกเราเดินชมงานเทศกาลไปเรื่อยๆจนมาถึงร้าน ‘สูฝู’ ก่อนจะเข้าไปนั่นข้างใน เมื่อนั่งลงปุ๊บในฐานะแขกวีไอพี ได้มีนักเรียนคนนึงดินเข้ามเพื่อรับเมนูแต่เมื่อมองขึ้นไปก็พบว่าเป็น คิโชวอิน เรย์กะ ที่อยู่ในชุดพ่อบ้านหูแกะ
หือ...ทำอะไรของเธอน่ะ?
“ คุณเรย์กะไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ” ท่านพี่ไอระทักทายเธอ หลังจากนั้นคิโชวอิน ก็ทักทายทุกคนบนโต๊ะ
“ คุณคิโชวอิน ต่อจากหนูก็เป็นแกะหรอทุกคนฮือฮากันใหญ่เลยนะ “ เอ็นโจว่าพลางหัวเราะ
“ จมูกแกะไปไหนล่ะ ” เอ๋ จมูกแกะ? ฉันไม่คิดว่าเรื่องนั้นมันควรจะเป็นประเด็นที่คุณคาบุรากิยกขึ้นมาถามหรอกนะคะ.... คิโชวอินตอบว่ามันหายใจไม่สะดวกเลยไม่ได้ติด ทำให้คุณคาบุรากิพูกว่า ” หาทางพัฒนาหน่อยซี่ ” และเธอก็ทำหน้าปลาตายอีกครั้ง
“ คุณเรย์กะเนี่ยเป็นถึงคุณหนูตระกูลคิโชวอินแท้ๆ แต่ช่างแต่งตัวประหลาดดีจังเลยนะคะ ” ฉันว่างพลางม้วนปลายผมตัวเองเล่น เมื่อเห็นว่าฉันแซะคิโชวอิน ท่านพี่ยูริเอะจึงพูดเตือนแต่ใครสนล่ะ?
“ ทั้งแต่งแฟนซีทั้งอดอาหาร คุณเรย์กะเนี่ยทำอะไรแปลกๆอยู่เรื่อยเลย ” คิโชวอินเหลือบตาลงมามองฉันก่อนจะหรี่ตาลงเล็กๆ
หึหึ
“ นี่เป็นการวิจารณ์คุณแม่มาซายะคนต้นคิดโปรเจคต์นี้หรือเปล่านะ ไว้ผมไปบอกคุณน้าให้เอาไหม? ” เอ็นโจเกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
จะบ้าหรอไง―!ใครจะให้ทำแบบนั้นเล่า!
ฉันรีบเกล่าวกลบเกลื่อนทันทีอย่างลนลาน จากวันนี้ทำให้รู้ว่า เอ็นโจ ชูสุเกะ คนนั้นน่ะปีศาจชัดๆเลย!
ฉันมาหาคุณคาบุรากิที่ซุยรันหลายต่อหลายครั้งแน่นอนว่าได้เจอคิโชวอินด้วย พวกเราทะเลาะกันเหมือนเดิมในงานชมหิงห้อยที่บ้านคาบุรากิจัดขึ้นนั้นฉันได้เจอกับคิโชวอินเหมือนเดิมแต่เพิ่มมาคือพวก Pivoin ของซุยรันที่ออกมาปกป้องคิโชวอินอย่างเต็มที่ ฉันกับประธาน Pivoin ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด หึ แบบนี้ก็ยิ่งน่าสนุกเข้าไปใหญ่
ของที่ได้มายากก็ยิ่งอยากเป็นเจ้าของนะคะ ยัยประธานคนเถื่อน
เมื่อหันไปมองคิโชวอินก็เห็นเธอค่อยๆเฟดตัวเองออกจากตรงนี้ก่อนจะตรงไปที่ซุ้มของหวานอีกแล้ว…
คิโชวอินคงจะชอบของหวานมากเพราะตอนไปที่ซุยรันที่ไรก็เห็นเธอนั่งทานขนมและชาอยู่ตลอด เห... ทานแบบนั้นบ่อยๆไม่กลัวอ้วนหรือไงยะหล่อน?....หลังจากนั้นไม่กี่วันฉันกับคิโชวอินนั้นได้ออกกำลังกายและทำโยคะแข่งกันอย่างดุเดือด ผลคือเสมอทั้งคู่ทันทีที่กลับมาบ้านก็ต้องให้เมดมาประคบตัวเป็นการใหญ่
อา~ ค่อยยังชั่ว เห็นคุณหนูแบบนั้นไม่คิดว่าจะบ้าพลังขนาดนี้นะ!
แค่พูดไปว่า “ อดอาหารไม่ได้ทำให้พุงย้วยๆของคุณยุบหรอกนะคะ คุณเรย์กะ ” ทำให้คิโชวอินชะงักไปสักแปปเดียวก่อนจะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว สุดท้ายเรื่องก็มาลงเอยที่ว่าทั้งฉันและคิโชวอินระบมไปทั้งคู่
ฉันหลุดขำออกมาเบาๆที่คิดถึงเรื่องนั้น ก่อนจะรู้สึกแปลกๆ เดี๋ยวนะ....
เป็นอะไรของเธอน่ะเอมะ―!ทำโยคะจนเพี้ยนไปแล้วเรอะ บ้า บ้า บ้า!
สุดท้ายฉันหนีไปทำสปาพื่อหลีกหนีความฟุ้งซ่าน
ฉันยังคงไปที่ซุยรันเรื่อยๆโผล่ไปหาคุณคาราบุกิตามเคยแต่นอกจากนั้นหลังที่ทักทายและตื๊อเสร็จพอเป็นพิธีฉันก็จะมุ่งไปที่คิโชวอินทันทีและพูดประทะฝีปากกับเธอเป็นประจำ เธอจะทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างไม่ปิดบังก่อนจะทักทายคำว่า “ มาอีกแล้วหรอคะ ไม่มีการมีงานทำเหมือนคนอื่นๆหรอคะ? ” ฉันเองได้ตอบไปว่า “ ฉันมาหาคุณคาบุรากิก็ถือว่าเป็นงานอย่างหนึ่งเหมือนกันแหละค่ะ! ” ทุกครั้ง
ฉันเถียงกับคิโชวอินจนกระทั่งคุณคาบุรากิกลับบ้านจึงตามออกไป ยัยนั่นน่ะปากคอเราะร้ายไม่เบาเลยล่ะ!
ทั้งหมดค่อยๆซึมซับอย่างไม่รู้ตัว....
ฉันที่นั้งคุยกับคุณคาบุรากิเหลือบไปเห็นคิโชวอินที่ตักการ์โตวช็อคโกล่าเข้าปากถึงสีหน้าจะดูเรียบๆแต่แววตาเป็นประกายระยับด้วยความอร่อย ฉันเลยส่งเสียง “ ฮึ ! ” ออกไปอย่างหมั่นไส้ คิโชวอินหันมามองก่อนจะหันหน้าเมินออกไปนอกหน้าต่าง
ยัยตัวบ้าของหวานเอ๊ย
ฉันมาที่ซุยรันอีกครั้งพร้อมขนมในมือทำเหมือนทุกครั้งที่ทำ ฉันนำช็อคโกล่าของร้านกรูเมต์ชื่อดังไปให้คุณคาบุรากิก่อนจะเดินตรงไปที่คิโชวอินอย่างทุกครั้ง
“ สวัสดีค่ะคุณเรย์กะ ”
“ สวัสดีค่ะคุณไมฮามะ ”
คิโชวอินทำหน้าตายเหมือนอย่างทุกครั้ง
“ พอดีว่าเค้กที่ฉันนำมาให้คุณคาบุรากิมันเหลือน่ะค่ะ จะทานเองก็กลัวน้ำหนักจะขึ้นเลยนึกขึ้นได้ว่าคุณคิโชวอินชื่นชอบในการทานขนมหวานเลยอยากจะเผื่อแผ่มาให้น่ะค่ะ ” ฉันยื่นถุงการ์โตวเค้กที่บอกว่าเป็นของ ‘เหลือ’ ให้คิโชวอินแล้วเพยิดหน้าขึ้นเป็นเชิงว่า รับๆสิยะ
คิโชวอินทำหน้าไม่เชื่อก่อนจะเปลี่ยนเป็นหวาดระแวงอย่างไม่ปิดบัง เสียมารายาทนะ! คิโชวอินตอบปฎิเสธอย่างไม่คิดนาน
“ ขอบคุณคุณไมฮามะมากนะคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ”
“ อ๋า อย่าเกรงใจเลยค่ะ ฉันเต็มใจอยู่แล้ว ” ว่าแล้วก็แสยะยิ้มให้คิโชวอินที่คิดว่าเป็นมิตรสุดๆ
“ ไม่ได้เกรงใจแต่ไม่ไว้ใจต่างหากค่ะ ”
“ เสียมารยาทค่ะ ! ” ฉันแหวอย่างหงุดหงิด “ รับไปเถอะค่ะ เฮอะ ! ” ฉันไม่สนใจเสียงคิโชวอินที่กำลังจะประทวงแล้ววางถุงขนมนั่นลงบนโต๊ะก่อนจะเดินกลับมาหาคุณคาบุรากิ
ก่อนที่คิโชวอินจะกลับบ้านฉันส่งสายตามองไปที่เธอเป็นการบอกว่าให้เอาถังนั่นกลับบ้านไปด้วย คิโชวอินที่ทำหน้ารำคาญจนเต็มทีคว้าถุงนั่นกลับบ้านอย่างไม่มีทางเลือก อย่าเข้าใจผิดว่าฉันจะญาติดีกับคิโชวอินแต่นี่เป็นหนึ่งในแผนการที่วางไว้ต่างหาก หลอกให้ยัยนั่นกินขนมไปเรื่อยๆจนอ้วนฉุ แล้วที่นี่คุณคาบุรากิก็จะไม่สนใจยัยนั่นอีกต่อไปรวมถึงมาดามคาบุรากิด้วย
แหม ใครอยากได้ลูกสะใภ้คาบุรากิที่อ้วนพุงย้อยกันล่ะ โฮะ โฮะ โฮะ
ฉันหลุดยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
สงสัยจะดีใจเกินไปหน่อยเลยได้รับสายตาแปลกๆจากเอ็นโจ เห อย่ามองกันอย่างนั้นสินายปีศาจ ฉันยังไม่อยากเข้าวัดตอนนี้หรอกนะยะ
....แต่ว่าลึกๆแล้วฉันรู้ดีว่ารอยยิ้มของฉันมันมีอะไรมากกว่านั้น เป็นเรื่องที่ต่อให้ตายก็ไม่ยอมรับเด็ดขาดเลยล่ะ
เป็นอีกครั้งที่ฉันโผล่หน้าไปทีห้องPivoinทำทุกอย่างเหมือนเดิมอาจจะแปลกที่ว่าฉันถือถุงขนมมาด้วยกันสองถุงแน่นอนว่าถุงแรกให้คุณคาบุรากิ และอีกถุงเป็นของคิโชวอิน
มองอะไรกันอย่างนั้นฉันกำลังดำเนินตามแผนอยู่ต่างหากล่ะ ไม่ได้ตั้งใจซื้อมาให้หรอกนะ!
“ ขนมเมื่อวานเป็นยังไงบ้างคะ คุณเรย์กะ ” แน่นอนว่าต้องอะไรอยู่แล้วล่ะย่ะ ฮึ
“ อ่า... ” ฉันมองคิโชวอินที่ทำหน้าเหมือนคิดสักแปปก่อนจะตอบว่า “ ก็โอเค....”
ตอบหลีกเลี่ยงแบบนี้แสดงว่า...” คุณเรย์กะไม่ได้ทานการ์โตวเของฉันใช่ไหมคะ !? ” คิโชวอินถอนหายใจเบาๆก่อนจะมองฉันด้วยสายตาจริงจัง
“ ขอพูดตรงๆนะคะคุณไมฮามะ เราสองคนไม่ได้เข้ากันดีสักเท่าไหร่เรื่องนี้เป็นที่รู้ๆกันอยู่ การที่คุณนำขนมมาให้ฉันนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ปกติหรอกค่ะคุณอาจจะใส่อะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้ บอกตามตรงว่าฉันไม่ไว้ใจค่ะ ” สายตาคิโชวอินที่มองมาที่ฉันสื่อให้รู้ว่าเธอไม่เคยไว้ใจฉัน
จู่ๆในอกมันวูบไหวแปลกๆ.... แต่เธอก็เข้าใจถูกแล้วล่ะะแต่แค่ไม่ได้ใส่อะไรลงไปนอกจากแป้งและน้ำตาลหรอกนะยะ
“ เสียมารยาทจังเลยนะคะคุณเรย์กะ ที่ซุยรันมองคนอื่นในแง่ร้ายทุกคนเลยหรือเปล่าน้า ” ฉันว่าพลางเก็ยซ่อนอารมณ์แปลกๆที่ก่อตัวขึ้นบางๆ “ ถ้าฉันจะทำอย่างนั้นจริงๆโอกาสที่ฉันจะโดนจับได้ก็มีความเสี่ยงสูงเลยไม่ใช่หรอคะ ถ้าฉันจะเล่นงานคุณรย์กะสู้ทำอะไรที่สาวตัวมาไม่ถึงจะดีกว่าค่ะ ” คิโชวอินทำหน้าเหลือเชื่อก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย นี่ ถอนหายใจบ่อยไปแล้วย่ะหล่อน เดี๋ยวความสุขก็หายไปหมดหรอก*
“ วันนี้ฉันเองก็นำมาเผื่อคุณเรย์กะด้วย ” ฉันวางถุงขนมบนโต๊ะที่มีชาดีจาลิงค์และขนมมิลล์เฟย
คิโชวอินรับมาด้วยท่าทางไม่เต็มใจและยัง่แกะถุงออก ฉันเลยนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพลางจ้องไปที่เธอ
ถ้าให้คิโชวอินเอากลับบ้านยังไงก็ไม่ทานหรอก....
“ ทานเลยสิคะ ไหนๆก็กังทานมิลล์เฟยอยู่ไม่ใช่หรอ? ”
“ ทำไมต้องขยั้นขยอกให้ทานถึงขนาดนั้นด้วยค่ะ มีอะไรหรอเปล่า ? ” คิโชวอินทำหน้าจับผิด
“ ก็...เปล่านี่ค่ะ ฉันแค่อยากให้คุณเรย์กะชิมเพื่อที่จะบอกว่าขนมร้านนี้สมควรซื้อให้ทันคาบุรากิไหมต่างหาก ได้ยินว่าปาร์ตี้บริษัทตระกูลคิโชวอินเลื่องลือเรื่องความอร่อยเพราะได้คุณเรย์กะมาเป็นที่ปรึกษา ก็เลยอยากให้ช่วยประเมิน ” ฟู่ว...เกือบไม่รอด...
คิโชวอินที่แกะขนมมออกมาแล้วแต่ยังคงเอาแต่นั่งจ้อง แครม บูเล่ ไม่ยอมทานเข้าไปเสียทีฉันจึงเร่งให้รีบๆเอาเข้าปากซะที
“ ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นฉันเอาเรื่องแน่ค่ะ ” คิโชวอินส่งสายตาข่มขู่มาให้ มะ... ไม่ได้น่ากลัวเลย....
เมื่อตักเข้าไปคำเล็กๆใบหน้าของคิโชวอินที่เคยเหม็นเบื่อค่อยๆดีขึ้น รู้สึกเหมือนมีประกายอะไรบางอย่างออกมาจากตัวของเธอด้วย
“ เป็นอย่างไรบ้างคะ ? ”
“ ผ่านค่ะ ” คิโชวอินกระแอมเบบาๆยกชาขึ้นจิบอย่างมีมาด
ต้องอร่อยแหงสิยะ ฉันเลือกร้านแทบตายแหนะ
ฉันลอบยิ้มเล็กๆให้กับตัวเองเพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นก่อนจะหายไป….
ครั้งหน้าลองเอาเป็นบานอฟฟี่ดีไหมนะ....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
* การถอนหายใจชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจะทำให้ความสุขหายไปด้วย
ย้ำอีกครั้งอยู่เรือคาบุรากิ 55555
ระ...เรือไมฮามะอยู่ๆก็พุ่งขึ้นมาจากใต้น้ำ!?
ชิบหาย คำผิดเยอะเลย 😂😂
-------
จากถุง เป็นถัง 555
เก็ย เป็น เก็บ
กัง เป็น กำลัง
รย์กะ เป็น เรย์กะ
เบบา เป็น เบา
จากคนเขียนเองง
เอาตอนใหม่มาแลกฟิคกาวล่ะนะ ตื่นมาก็เจอฟิคใหม่ๆ ไหลมาท่วมท้น วันนี้มีอะไรอ่านแล้วโว้ย! เดี๋ยวไปตามเก็บก่อน รักพวกมึงนะ ม๊วบๆ
ขอบคุณโม่งแปลนะค๊าาา *กระโดดกอด*
ท่านเรย์กะคะ ถ้าไม่อยากจะถูกลืมไปแบบตอนที่อาโออิจังกับซากุระจังกำลังคุยกัน ก็มีแฟนบ้างสิคะ อย่าหักธงชาวบ้านเค้าไปทั่วเซ่!!
>>488 เฮ้ย ไมฮามะน่ารักโครต กูชอบนะ ตอนนางโผล่มากูก็ว่าน่ารักแบบอนาถๆดี เหมือนเห็นโปริ่งพยายามเอาตัวพุ่งชนบาโฟ แค่เขาหายใจรดใส่ก็ตายละ ฟิคมึงทำดี กูชุ่มชื่นหัวใจมากๆ ทุ่งดอกไม้หอมมากๆ เยียวยากูดีมั่กๆ
>>491 ขอบคุณมึงด้วยนะ สำหรับตอนใหม่
ในขณะที่ฟิคกาวไปไกลขนาดให้มีคนมารุมสารภาพรัก แต่ความเป็นจริง ท่านเรย์กะกูยังสาปแช่งวันคริสต์มาสอยู่เลย ถถถถถถถถถ คนอะไรเนี่ย หักธงได้กระทั่งไปงานคริสต์มาสของเด็กประถม
พวกหยิ่งๆวางฟอร์มไม่ยอมเอ่ยความต้องการของตัวเองออกมาซักที ระวังจะแห้วนะคะ//พูดลอยๆไม่เจาะจง
เห็นฟิคมะหมาแล้วนึกถึงตัวนี้ชมัด ถ้าไซซายะรอดไปมีลูกกับวาคาชิบะได้คงออกมาหน้าตาประมาณนี้แหงๆ เป็นไซบีเรียนที่หน้าตาหลั่นล้า 55555
https://m.imgur.com/Bbn2jYC
อื้อหือ กลางค่ำกลางคืนพวงมึงไม่หลับไม่นอนกันหรอ ฟิคกาวนี่ออกมากันรัว ๆ ตื่นมาไล่อ่านกูไม่รู้จะเม้นอะไรก่อนดีเยอะจัด 555555
ขนาดธงเด็กประถม ท่านเรย์กะยังไม่เว้นเลย หักเรียบ สรุปเป็นหัวหน้าหมู่บ้านคานทองต่อไปเถอะ --"
แอบไปอ่านตอนใหม่ของโม่งแปลมา สปอยแม่งโคตรโหดร้าย นี่ยังไม่เที่ยงเลยนะมึงทำเอากูหิวแล้ว
พอโม่งแปลลงรูปเป็นก็ลงรัวๆเลยนะ! โคตรทำร้ายกันเลยยยย
ตอนนี้ท่านเรย์กะโคตรนกโคตรตัวประกอบ อาโออิกะซากุระสนิทกันแทบจะในทันทีจนโดนทอดทิ้ง โถ แล้วอย่าไปสาปแช่งวันคริสต์มาสอย่างงั้นซิคะ 555
ว่าจะอวดนานล่ะมีคนแฟนอาร์ตคนบ้าหมาได้ก้าวร้าวมาก ฮือออ
https://imgur.com/a/uSHZ1
https://imgur.com/a/GsrLg
/หาเครดิตไม่เจอแล้วอ่ะเซฟไว้นานเกินนนน/
>>501 อ่ะ เครดิต หาให้ https://touch.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=38973728&ref=touch_manga_button_thumbnail
ในนั้นมีแฟนอาตตอนเอ็นโจกางร่มให้เรย์กะด้วย
มีกาวเต็มโม่งเลยไม่หลับไม่นอนกันหรอว่ะ 5555
ฟิคคู่หูก็ดีมาก คารุบากิเริ่มรู้ตัวแล้วสินะค่ะ ฟิคยูริก็น่ารัก ฟิคท่านพี่ชนะไปเลย5555 อ่านฟิคไปเรื่อยๆนี้โม่งนี้มีแต่สายยันเต็มไปหมดเลย ไม่เป็นไรก็ชอบสายนี้555
//วันนี้จะมีฟิคนายตัวสำรอง มามั้ยดูเรือนี้เงียบๆไป มาเจาะเรือเอ็นโจอีกเร็ววววว
ว่าแต่อ่านตอนนี้แล้วสงสัยว่าทำไมไม่จอมมารเอ็นโจถึงไม่หาเรื่องติดสอยตามไปที่ห้องเปอติต์ด้วย ปกติไม่เคยเห็นพลาดโอกาส หรือกูอ่านฟิคกาวมากไปวะ...
ky ขอเสนอพล็อต AU เทพเจ้า
ถ้าเจ้าแม่เป็นเทพจะเหมาะกับเทพอะไร
คุยเรื่องเทพๆ เอ็นโจนี้กูนึกแรกเป็น ลูซิเฟอร์เลยนะ เทวดาตกสวรรค์ 555555 ขอโทษ
เอ็นโจ กูนึกถึงเฮอร์เมสนะ แต่คิดอีกทีเอ็นโจก็ไม่ทะเล้นขนาดนั้น
พอคิดถึงโลกิ กูก็จินตนาการถึงพี่ทอมฮิดเดิลสตัน แบบเคลิ้มๆ ก่อนจะนึกตำนานออริออก แล้วก็สำนึกว่าเอ็นโจคงไม่ชั่วขนาดนั้น
กุไปดำดิบตอนล่าสุดมาอ่านแล้วจี้จริง
.
.
.
.
.
.
ตอนที่เอ็นโจถามว่าเรย์กะไปไหน ไปทำอะไรเหมือนภรรยาที่สอบสวนสามีที่จะแอบหนีเที่ยวเลยวุ้ย แถมได้คำตอบจากที่ถูกต้องจากคำพูดไม่กี่คำจากเรย์กะด้วย ฮาตอนเรย์กะไม่ให้เอ็นโจเดินตามหลังเพราะไม่ค่อยสงบใจเวลามีคนอื่นเดินตามหลัง เอ็นโจเลยแซว "เปลี่ยนอาชีพจากสปายเป็นนักฆ่าแล้วหรอครับ?" (มันเคยมีมุกที่พวกนักฆ่าชอบเดินตามหลังเป้าหมาย พอมีคนเดินตามหลังตัวเองมันเลยเหมือนจะโดนจ้องฆ่าไง และเป็นมุกต่อเนื่องจากตอนก่อนๆที่เอ็นโจพูดแซวเรย์กะเรื่องเป็นสปายอีกด้วย)
>>532 สปอย
.
.
.
.
.
คือ จากตอนที่แล้วที่มีคนไปส่องมือถือเรย์กะจากด้านหลัง คนนั้นก็คือเอ็นโจ เห็นว่าเรย์กะยืนนิ่งๆอยู่นานแล้ว เลยมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอเห็นว่าจะหนีเที่ยวเลยสอบสวนใหญ่ เรย์กะเลยดุว่าไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้ ฮีก็หน้าจ๋อย บอกขอโทษ เรย์กะยกโทษให้ฮีก็ยิ้มออกมา บรรยายไว้ว่ารอยยิ้มน่ารักเหมือนเทวดาน้อยแบบยูกิโนะคุง หมอนี่มันเทวดาตกสวรรค์ชัดๆ ประมาณเนี้ย 5555555555555
เอ็นโจต้องจ้างท่านอิมาริมาลากท่านพี่ไปก่อนที่จะไปแนะนำตัวกับครอบครัวคิโชวอิน
กูไปส่องๆมา ท่านเรย์กะ วาคาบะ ริรินะ ยูกิโนะคุงน่ารักมวากกก ท่านไอระกับท่านยูริเอะ กูรู้สึกว่าแอบให้ฟีลพริตตี้เคียว ;;
ต่อออ >>455 กลัวแต่งท่านพี่หลุดคาแรคเตอร์มากเลยง่ะ55555555555
------------------
เมื่อปิดเทอมภาคฤดูร้อนได้มาถึง หลายๆครอบครัวเองก็มักจะไปท่องเที่ยวกันในช่วงนี้ ครอบครัวของผมเองก็เช่นกัน ปีนี้ครอบครัวผมไปเที่ยวที่ตาฮิติ และแน่นอนว่าผมนั้นต้องคอยสังเก— ดูแลยัยน้องสาวจึงนอนห้องเดียวกัน เป็นห้องสวีทที่มีห้องนั่งเล่นและมีห้องนอนอีกสองห้อง
ท่านพ่อท่านแม่มาถึงก็ได้แต่นอนอาบแดดที่ชายหาดไม่ก็เข้าสปา ส่วนน้องสาวของผม คนที่เคยอยู่ใต้อิทธิพลของท่านแม่เคยบอกว่าเธอไม่อยากตัวดำและเกลียดการลงทะเลมาก
คราวนี้กลับมีท่าทีอยากลงทะเล คอยรบเร้าผมตั้งแต่เช้าให้ไปเล่นน้ำด้วยกัน และดึงผมแล้ววิ่งลงทะเลเฉยเลย ก็ได้ ก็ได้ เห็นแก่ที่เธอเป็นน้องสาวที่น่ารักของผมผมจึงยอมไปตามแรงดึงของเธอ
เหมือนเธออยากอวดผลการเรียนของการว่ายน้ำ เธอก็เลยเริ่มว่ายเต็มแรง แต่ก็จมลงในทันทีจนผมตกใจแล้วรีบเข้าไปช่วยทันที
ช่างเป็นภาพการจมที่พิลึกพิลั่นจนน่าแปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้มั่นขนาดนั้น
ทำอะไรของเธอน่ะยัยน้องสาว ?
หลังจากนั้น เพราะผมเป็นห่วงเธอเลยคอยอยู่ใกล้ๆ ก็..ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาผมก็ไม่มีคนให้แกล้งน่ะสิ
เธอเองก็มีลูกเล่นใหม่ นั่นก็คือการว่ายน้ำแบบสบายๆเกาะติดหลังผมไม่ว่าจะตอนว่ายน้ำหรือตอนดำน้ำด้วยสน็อกเกิล แล้วเธอก็ทำตัวเป็นเจ้านายสั่งให้ผมไปตรงนั้นตรงนี้
หืม..น่าหมั่นไส้จริงๆเลยนะยัยน้องสาว
ด้วยความหมั่นไส้ปนอยากแกล้ง บางครั้งผมก็เลยจงใจทำเหมือนไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาตัวจมลงไปในน้ำให้ถูกคลื่นซัดได้ง่ายๆ น้องสาวที่โดนคลื่นซัดใส่จนจมดูเอ๋อๆตลกดี พอผมขอโทษเธอไปว่า “ขอโทษนะพี่ไม่ทันเห็นว่ามันจะมา”
เธอก็ตอบกลับผมมาว่า “ไม่เป็นอะไรค่ะ ไม่ใช่ความผิดของท่านพี่หรอกค่ะ เป็นความผิดของคลื่นต่างหาก” พูดจบก็ยกมือขึ้นตีน้ำทะเลเหมือนจะลงโทษ แต่มันกลับมันกระเด็นเข้าใส่หน้า ...เธอจะทำให้พี่ขำไปถึงไหนกัน
เป็นความจริงเลยที่ว่าเด็กๆน่ะ ยิ่งโง่ยิ่งน่ารัก…
น้องสาวที่ไม่ยอมลงทะเลจนถึงเมื่อปีก่อน คราวนี้เนื่องจากเธอลงเล่นน้ำทะเลตลอดเวลา ผิวเธอก็เลยคล้ำไปทั้งตัว ผมบอกให้เธอทาครีมกันแดดไม่อย่างนั้นจะโดนท่านแม่ดุเอาทีหลังได้ แต่เธอก็ตอบกลับมาแบบครึ่งๆกลางๆ
ตัวผมน่ะไม่มีปัญหาหรอกนะถ้าน้องสาวจะผิวคล้ำลง ก็ไม่ว่าเธอจะผิวคล้ำลงยังไง สำหรับผมยัยน้องสาวก็น่ารักอยู่ดี..
และเป็นไปตามที่คาด ท่านแม่ที่ได้เห็นน้องสาวที่ตัวคล้ำเข้าก็ตกใจจนกลายเป็นรูปภาพกรีดร้องของมุงค์ ส่วนน้องสาวก็ตื่นตระหนกที่ได้เห็นท่านแม่ที่เป็นแบบนั้น
ถึงได้บอกยังไงล่ะ จริงๆเลย ยัยเด็กเอ๋อนี่
ตอนกลางคืนเธอก็ถือหมอนเดินเข้ามาบอกขอนอนกับผม “ท่านพี่คะ แปลกที่น้องนอนไม่หลับเลย แต่ถ้านอนกับท่านพี่จะต้องหลับแน่ๆค่ะ!”
หืม.. เด็กที่กินอิ่มนอนหลับแบบน้องสาวเนี่ยนะจะนอนไม่หลับ นี่ก็แค่ข้ออ้างมากกว่าล่ะมั้ง แต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธเธอหรอกนะ พี่น้องนอนด้วยกันกันก็ไม่แปลกนี่ ?
“งั้นหรอ เอาแบบนั้นก็ได้ มาสิ” ผมยิ้มแล้วขยับแบ่งที่ให้เธอพลางตบเตียงเรียกให้เธอขึ้นมา
เธอยิ้มอย่างดีใจแล้วรีบขึ้นมานอนทันที พอผมห่มผ้าให้เธอ เธอก็ยิ้มกว้างกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วหลับตาลง
คงเพราะเหนื่อยจากการที่เล่นน้ำทั้งวัน ทันทีที่หัวถึงหมอนเธอก็หลับสนิทแทบจะทันที ผมนอนมองเธอสักพักก่อนจะหอมแก้มเธอแล้วกล่าว “ราตรีสวัสดิ์นะเรย์กะ”
-----------------------
วันหนึ่ง ผมกลับมาบ้านและไปที่ห้องเปียโนตอนที่ท่านพ่อท่านแม่ไม่อยู่บ้าน ด้วยสาเหตุอะไรที่ไม่รู้ ที่นั่นน้องสาวของผมกำลังเล่นเพลงเหยียบลงบนหลังแมวอย่างสนุกสนาน
พฤติกรรมพิลึกๆนั่นทำให้ผมสนใจ จึงไม่เข้าไป และยืนมองเธออยู่เงียบๆแทน ผมก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เวลาอยู่ด้วยกันผมมักจะต้องคอยมองสังเกตน้องสาวอยู่เสมอ คงเป็นเพราะเธอตลกสินะ ?
เธอโยกตัวไปมาแล้วก็ร้องเพลงด้วยเนื้อแปลกๆ เหยียบลองบอน ~
ท่าทางของเธอตอนเล่นดูสนุกสนานมากจนผมเผลออมยิ้มตามเนื้อเพลงแปลกๆของเธอไป ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามแต่เธอก็ทำให้ผมหัวเราะได้เสมอจริงๆ ถึงบางทีจะทำให้ผมรู้สึกอยากแกล้งด้วยก็เถอะนะ
แต่ว่าตอนที่ท่านแม่ถามเธอตอนเวลาอาหารเย็น เธอก็โกหกไปว่า “กำลังฝึกเปียโน เพลงที่จะใช้ในงานแสดงเดี่ยวค่ะ”
โกหกชัดๆ! ที่เธอเล่นน่ะมันเพลงฉันเหยียบลงบนแมวชัดๆ!
มันกลายเป็นเพลงแสดงเดี่ยวเปียโนไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันหา!?
สงสัยจริงๆ เวลาน้องสาวอยู่คนเดียวเธอจะทำอะไรอยู่ มันแปลกจริงๆนะ
ผมคิดว่าคงต้องหาเวลาว่างแอบสังเกตเธอให้มากขึ้นแล้วล่ะ ...แต่จะไม่ให้เธอรู้สึกตัวหรอกนะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่น่าสนุกน่ะสิ
---------------------
ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกันนะ5555555555555555
ท่านพี่ซิสค่อนจงเจริญ!!!
ชาบูซิสค่อนนน น้องสาวแล้วไงถ้าใจมันจะคำ้คอร์....
เออ ตอนแปะเพลงคราวก่อนลืมเพลงนี้ไปเลย
Der Flohwalzer (Flea Waltz)
หนึ่งในเพลงที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ไม่ทราบผู้ประพันธ์ ในญี่ปุ่นรู้จักกันในชื่อ Neko Funjatta (ねこふんじゃった - ฉันเหยียบลงบนแมว)
https://www.youtube.com/watch?v=NHeJPArUR9I
ท่านเรย์กะเล่นคงประมาณนี้ ถถถถ XD
https://www.youtube.com/watch?v=Zr1buKkKOzI
เห็นฟิคท่านพี่แล้วกูอยากแต่งบ้าง แต่งครั้งแรกผิดพลาดไรไปก็ซอรี่นะ ถถถถถถ
Au ถ้าคิโชวอิน ทาคาเทรุเป็นน้องชาย
-------------------
“วิดวิ้ววว ยอดไปเลยนะทาคาเทรุ แค่ตอนซ้อมยังมีสาวๆมามุงขนาดนี้ ตอนแข่งคงไม่ต้องพูดถึง”
“ยังกับว่าฉันชอบนักนี่” ผมค่อยๆตั้งท่า ยกคันธนูขึ้น หายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ตั้งสมาธิสายตาจับอยู่ที่เป้ายิง ดึงคันธนูลงมายังระดับเตรียมยิง และ....ปล่อย!
“เห วันนี้ฟอร์มไม่ดีเลยน้า”
“หุบปากน่ะ อิมาริ ว่าแต่นายเถอะ ไม่มีซ้อมรึไงถึงมานั่งว่างอยู่แถวนี้” ผมตอบไปอย่างหงุดหงิด หางตาเหลือบไปมองธนูที่พลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย อีกนิดเดียวแท้ๆ
“เค้าแข่งจบกันไปตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนู่น งานแข่งที่ฉันลงตัวจริงแต่นายไม่ยอมมาดูเพราะมัวแต่ไปเดทกับคุณพี่สาวคนสวยน่ะสิ เพื่อนอย่างฉันมันจะไปสำคัญอะไรล่ะเนอะ”
“ก็รู้ตัวนี่”
“อะไรกัน ไม่เถียงหน่อยหรอเจ้าซิสค่อน ฉันไม่มีพี่สาวน่ารักๆไว้คอยอ้อนแบบนายนี่ แต่ถ้าต่อไปฉันได้แต่งงานกับคุณพี่เรย์กะค่อยอ้อนตอนนั้นก็คงไม่สาย.. เดี๋ยวๆๆๆๆ ขอโทษครับ ขอโทษ ผมผิดไปแล้ว กรุณาอย่าหันธนูมาทางนี้เลยนะ!!!”
ผมลดธนูลงแล้วส่ายหัว วอนหาเรื่องได้ตลอดเลยนะหมอนี่ จนบางครั้งผมก็แอบนึกไปแล้วว่ามันเป็นพวกชอบความรุนแรง
“ท่านคิโชวอินคะ น้ำกับผ้าขนหนูนะคะ” “ท่านคิโชวอิน วันนี้ก็เยี่ยมยอดไปเลยนะคะ” “เพิ่งอยู่ชั้นประถมแท้ๆ แต่ทำได้ขนาดนี้สุดยอดไปเลยล่ะค่ะ” “ท่วงท่าเมื่อกี้สง่างามมากเลยค่ะ”
กลุ่มเด็กผู้หญิงที่ออกันอยู่ที่หน้าโรงซ้อมเมื่อซักครู่ทยอยเดินเข้ามาล้อมรอบผมแล้วส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ผมหันหาอิมาริส่งสายตาขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหมอนั่นกลับแกล้งโง่ไม่รู้เรื่องซะงั้น เมื่อกี้ไม่น่ายั้งมือเลยแฮะ...
“ขอบคุณนะครับทุกท่าน ผมดีใจจริงๆที่ทุกคนมาให้กำลังใจ แต่พามากันเยอะๆแบบนี้จะรบกวนท่านอื่นๆในโรงฝึกเอานะครับ อีกอย่างที่นี่ก็ร้อนอบอ้าวด้วย ไม่อยากให้มาลำบากเพราะผมเลยนะ”
“แหม ถ้าท่านคิโชวอินพูดแบบนั้นล่ะก็...”
จนกลุ่มสาวๆทยอยกันออกไปหมดอิมาริถึงเข้ามากอดคอจากด้านหลัง
“แหม ยอดไปเลยนะ เมื่อกี้หน้ายังเป็นยักษ์อยู่เลย เปลี่ยนมายิ้มอ่อนโยนขนาดนั้นในเวลาอันสั้นได้ยังไงเนี่ย ถ้านายไม่เอาแต่สนใจคุณพี่เรย์กะป่านนี้คงได้แฟนๆเยอะกว่านี้อีกนา สนใจยกคุณพี่สาวให้ฉัน อุก..”
ผมแทงศอกเข้าไปที่ท้องของอิมาริเต็มแรงจนหมอนั่นลงไปกุมท้องบนพื้น ชอบความรุนแรงจริงๆด้วยสินะ...
ผมกลับมาถึงที่บ้านอย่างเหนื่อยอ่อน หลังจากทักทายท่านพ่อท่านแม่แล้วก็กลับไปที่ห้องตัวเอง วันนี้ท่านพี่ที่เป็นกรรมการห้องต้องเตรียมงานออกร้านเลยจะกลับเย็น เหนื่อยเป็นบ้าเลย ขอไปชาร์ตพลังสักหน่อยแล้วกันนะ
ผมมองซ้ายมองขวา เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครเห็นแล้วก็ค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของท่านพี่ ล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆ สูดกลิ่นหวานจากหมอนเข้าเต็มปอด ท่านพี่มีกลิ่นหอมหวานๆติดตัวเสมอ ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอม มันหวานเหมือนขนม อาจจะเพราะท่านพพี่กินของหวานแทบจะตลอดเวลาก็ได้มั้ง ผมรู้สึกถึงของแข็งๆใต้หมอน พอล้วงมือเข้าไปก็เจอขนมเซมเบ้ เอาของแบบนี้ไว้ในห้องนอนจะดีหรอครับท่านพี่....
“ทาคาเทรู้วววว อยู่ไหนน่ะ”
ท่านพี่กลับมาแล้ว ในสายตาคนนอกท่านพี่นั้นเป็นคุณหนูตระกูลคิโชวอินที่เพียบพร้อม เก่งรอบด้านแถมยังเย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี เป็นผู้มีอิทธิพลที่ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยว เหมือนจะเคยได้ยินกระทั่งฉายาโรโคโค่อะไรสักอย่างมาด้วยแหละ...
“ยินดีต้อนรับกลับฮะ”
“ทาคาเทรู้ ฮืออออออ”
พอเปิดประตูออกไปท่านพี่ก็คว้าผมเข้าไปกอดแน่น เอาแก้มนิ่มๆถูกับแก้มผมไปมา ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ แต่ผมม้วนๆนั่นมันอัดเต็มหน้าผมเลยนะครับ... ท่านพี่ที่สมบูรณ์แบบคนนั้นเนื้อในแล้วเป็นคนไม่เอาไหน ทั้งขี้อ้อนและเอาแต่ใจ (เฉพาะกับผม แน่นอนล่ะ) แต่ก็ใจดีและมีความพยามมากกว่าใครๆ เป็นพี่สาวที่ผมรักที่สุด
“ไม่ร้องสิครับ โอ๋ๆไม่ร้องนะ วันนี้เจออะไรมาอีกล่ะ”
“โดนท่านแม่ลากไปงานเลี้ยงของตระกูลคาบุรากิอีกแล้วอะ ไม่อยากไปเลย... ท่านแม่ไม่กลัวตระกูลของเราล้มละลายหรอคะ หนูกำลังจะเรียนจบก็จริง แต่ทาคาเทรุล่ะ .....”
ประโยคหลังๆกลายเป็นคำพูดงึมงำ จับใจความไม่ได้ ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะลูบหลังปลอบท่านพี่ไปเรื่อยๆ
“ว่าแต่ทำไมทาคาเทรุถึงออกมาจาห้องพี่ได้ล่ะ ?” ท่านพี่ที่ดูจะงอแงจนพอในแล้วก้มหน้ามาถามผม แผขนตาหนากระพิบถี่ๆไล่น้ำตา พอมองแบบนี้แล้วดวงหน้าหวานเหมือนตุ๊กตายิ่งดูน่าทะนุถนอมเข้าไปอีก ผมค่อยเกลี่ยนิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้
“ลืมของไว้ตอนเข้าไปทำการบ้านเมื่อวานไงฮะ”
ตอบไปแบบนั้นพร้อมกับยิ้มหวานเหมือนเทวดาให้ท่านพี่ที่หลงเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ
โมเม้นนี้กูตายว่ะ !!!!
นี่หรือจริงๆแล้วท่านพี่เป็นลูกลับๆของตระกูลเอ็นโจ
กรี๊้ดดดดดดดดดดดดดดดด
อันนี้ฝากให้คนแต่งฟิคมะหมาตอนประกวดหมา น้อง Jack russel ไฮเปอร์สัดๆ กูเห็นแล้วนึกถึงไซซายะ 55555
https://m.youtube.com/watch?v=A4N7G29GWQI
2017/03/16
เว็บไม่สามารถโพสได้ชั่วคราวตั้งแต่ 21:00 วันที่ 15 ถึง 02:00 วันที่ 16
เนื่องจาก Redis ที่ทางเว็บใช้สำหรับจัดการคิวของโพสมีปัญหา
จะดำเนินการแก้ไขในสุดสัปดาห์นี้
โฮวว ได้สักที
นี่จอมมารแผลงอีกแล้วเหรอ กระทู้นี้มีแต่คนจมเรือ ถถถถ
กูว่างวดนี้เพราะโดนด่าว่าหล่อน้อยกว่าคนอื่น (FA) เลยแสดงอิทฤทธิ์ล่มนานๆ แม่ง 5555
เมื่อวานรอตั้งแต่สามทุ่มกว่าๆ จนถึงตี1ก็โพสไม่ได้ซะที...
ต่อจาก >>445-447 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
วันนี้จะลงยาวเป็นพิเศษนะคะ แล้วก็คงไม่ได้ลงอีกเลยจนกว่าจะสอบเสร็จ พยายามเอาตอนที่ไม่ค้างมากมาลงก่อนคั่นเวลา ถ้าเป็นตอนต่อจากนี้จริงๆเนื้อเรื่องต้องต่อเนื่องมากค่ะ ไม่ควรลงถ้าจะหายไปนาน น่าจะเจอกันอีกทีศุกร์ที่ 24 มี.ค. (วันสอบวันสุดท้าย) นะคะ จะพยายามมีรอดชีวิตกลับมาให้ได้นะคะ…
ป.ล. เลขที่เขียนๆไว้คือเลขหน้านะคะ เผื่อมีฟิคคั่นจะได้แยกถูก ครั้งนี้ลงหลายโพส กลัวมึน 5555
..............…….....
(1)
(มุมมองนักเรียนซุยรันคนหนึ่ง)
ที่โรงเรียนซุยรันมีคนคนหนึ่งที่ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลยค่ะ คือ “เรย์กะ คิโชวอิน” เธอเป็นผู้หญิงที่อารมณ์ร้าย เอาแต่ใจตัวเอง กลั่นแกล้งคนที่ไม่ถูกใจอย่างไม่สนใจใคร ส่วนหนึ่งคงเพราะเธอเกิดในตระกูลคิโชวอินที่มีอำนาจสูง สามารถขยี้ครอบครัวของคนที่ไม่ชอบได้ตามที่ต้องการ
นอกจากนี้เธอยังชอบคาบุรากิ มาซายะ จักรพรรดิแห่งซุยรันด้วยค่ะ ท่านคาบุรากิเป็นคนที่มาจากตระกูลชั้นสูงเช่นเดียวกับท่านคิโชวอิน ทั้งเท่ทั้งเก่ง เป็นที่นิยมและมีแฟนคลับสาวๆเต็มไปหมดทุกที่เลยค่ะ แต่ว่าท่านคิโชวอินก็มักรังแกสาวๆที่มาขวางหูขวางตาอยู่ตลอด หลังๆพอเห็นท่านคิโชวอินมา สาวๆก็มักจะแหวกทางให้เสมอค่ะ
เห็นได้ชัดว่าท่านคาบุรากิไม่ได้ชอบกลับ เขามักจะทำเป็นไม่เห็นท่านคิโชวอินในสายตา และไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากท่านยูริเอะ จนกระทั่งมาพบกับ วาคาบะ ทาคามิจิ
ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าท่านคาบุรากิชอบคุณทาคามิจิ แค่ก็ไม่มีใครยอมรับ เพราะอีกฝ่ายเป็นแค่สามัญชนคนธรรมดา การที่อาจจะได้คู่กับจักรพรรดิผู้สูงส่งนั้นทำเอาสาวๆต่างอิจฉาตาร้อน โดยเฉพาะท่านคิโชวอิน เธอกลั่นแกล้งคุณทาคามิจิสารพัด แม้ฉันจะไม่ได้ไม่ชอบคุณทาคามิจิก็เถอะค่ะ แต่ก็หวาดกลัวที่จะเป็นเพื่อน ก็นะ...ท่านคิโชวอินมองเป็นศัตรูแล้ว อย่าไปยุ่งด้วยอาจจะปลอดภัยกับชีวิตของฉันมากกว่าล่ะนะคะ
ท่านคาบุรากิที่ไม่เคยสนใจใคร หลงรักคุณทาคามิจิขึ้นมา และถึงขั้นตวาดใส่ท่านคิโชวอิน หลายคนต่างสะใจกันทั้งนั้น มารร้ายแบบนั้นถูกลงโทษบ้างก็ดีแล้วล่ะค่ะ แต่ว่าก็ไม่อยากให้ท่านคาบุรากิคู่กับสามัญชนอย่างคุณทาคามิจิอยู่ดีนะคะ
ท่านคาบุรากิมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ชื่อ ชูสุเกะ เอ็นโจ เป็นคนที่ชาติตระกูลดี มีรอยยิ้มประดับใบหน้าอยู่เสมอ ทำให้สาวๆต่างเคลิบเคลิ้มทุกครั้งที่ได้มอง งดงามดั่งเจ้าชายเลยค่ะ ท่านเอ็นโจมักสุภาพอ่อนโยน ราวกับชายในฝันเลยนะคะเนี้ย
ท่านคิโชวอินมักโดนท่านเอ็นโจเรียกเข้าไปคุยตัวต่อตัวกันบ่อยๆ และทั้งคู่ก็ออกมาโดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านคิโชวอินมักทำหน้าตาปกติเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ท่านเอ็นโจเหมือนจะยิ้มฝืนๆเล็กน้อย ว่ากันว่าท่านเอ็นโจหลงรักท่านคิโชวอิน แต่อย่างที่รู้ว่าเธอชอบท่านคาบุรากิผู้เป็นเพื่อนสนิทของเขาเพียงเท่านั้น เป็นรักที่น่าเศร้ามากเลยค่ะ ไม่อยากให้คนดีๆแบบท่านเอ็นโจต้องไปชอบผู้หญิงแบบนั้นเลยนะคะ...
ความน่ากลัวในการแกล้งและคว่ำบาตรของท่านคิโชวอินหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความอิจฉาที่ได้เห็นความรักระหว่างท่านคาบุรากิและคุณทาคามิจิ แต่อยู่ๆวันหนึ่ง ท่านคิโชวอินก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ฉันที่ไปโรงเรียนแต่เช้าอยู่ในเหตุการณ์นั้นพอดี ท่านคิโชวอินทักทายคุณทาคามิจิว่า "วาคาบะจัง~" ทำเอาทุกคนที่ได้ยินอึ้งช็อกกันไปหมด แม้แต่ท่านเอ็นโจที่บังเอิญอยู่ตรงนั้นพอดีก็อึ้งยิ้มค้างไปเลยทีเดียว
วันต่อมาท่านคิโชวอินกับท่านคาบุรากิก็หายไปตลอดคาบเช้าในเวลาเดียวกัน ไม่รู้ว่าไปที่เดียวกันหรือเปล่า แต่ฉันเห็นท่านเอ็นโจเดินไปคุยกับท่านเรย์กะตอนพักกลางวันด้วยค่ะ ท่านเอ็นโจดูกำลังโกรธเอามากๆ และท่านคิโชวอินก็ดูกลัวๆจนตัวสั่น ฉันไม่เคยเห็นท่าทางแบบนั้นของทั้งสองคนก่อน ท่านเอ็นโจมักจะสุภาพอ่อนโยนเสมอ และท่านคิโชวอินไม่เคยกลัวใคร
ทุกอย่างก็จบลงเมื่อท่านคาบุรากิมาเรียกท่านเอ็นโจไปกินข้าว ท่านเอ็นโจไม่หันกลับมามองท่านคิโชวอินเลย และท่าทางไม่พอใจเอามากๆ ทั้งๆที่ยิ้มแท้ๆ แต่ฉันรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ในขณะที่ท่านคาบุรากิกลับมองมาที่ท่านคิโชวอินแวบหนึ่งด้วยสายตาเป็นห่วง
ท่านคิโชวอินยืนค้างอยู่ที่เดิมสักพัก ก่อนจะอ่านเมลล์จากใครสักคน ท่านคิโชวอินมีรอยยิ้มกระตุก เหมือนไม่รู้ว่าควรยิ้มดีไหม แต่ก็ดูอารมณ์ดีขึ้น
หลังจากนั้นท่านคิโชวอินก็หยุดแกล้งคุณทาคามิจิ และบอกเพื่อนๆของเธอให้ทำเช่นเดียวกัน
ตอนนี้คนในซุยรันเริ่มลือกันว่าท่านคิโชวอินผีเข้า หัวกระแทก โดนคำสาปตุ๊กตาหินอะไรมากมาย จนในที่สุดท่านคิโชวอินคงทนไม่ไหวเลยบอกว่า “เสียความทรงจำบางส่วน” โดยมีหมอมายืนยัน ทุกคนก็เริ่มกระจ่างว่าทำไมพฤติกรรมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น
(2)
ในวันงานเทศกาล ท่านคิโชวอินลงแข่งยืมของด้วยค่ะ ทั้งๆที่ปกติไม่เคยลงเลยค่ะ เพราะถือว่าเป็น Pivioine สิ่งที่ทำมักจะลงโยนลูกบอลเข้าตะกร้า แล้วไปยืนเป็นตัวถ่วงอยู่ข้างๆ ไม่ทำอะไรสักอย่างเลยค่ะ
ดูเหมือนว่าการแข่งครั้งนี้จะไม่ใช่ยืมของ แต่เป็น “ยืมคน” ที่มีคุณสมบัติตามจับสลากมา ไม่รู้ว่าท่านคิโชวอินได้อะไรมา แต่ดูเคร่งเครียดน่าดูเลยค่ะ ทางอีกฝั่งหนึ่งของสนาม มีผู้หญิงสองสามคนพยายามขอให้ท่านคาบุรากิไปด้วยกัน แต่ก็โดนปฏิเสธไม่เหลือเยื่อใย... กล้าไปขอท่านคาบุรากิกันได้ยังไงคะ
ฉันคิดอย่างนั้นได้ไม่นานก็เห็นท่านคิโชวอินพุ่งตรงไปหาท่านคาบุรากิ ความสนใจของทั้งสนามเบนไปทางนั้นกันทั่วหน้า เสียงฮือฮาดังไปทั่วไม่หยุด ในขณะที่ฉันกำลังมั่นใจว่าท่านคาบุรากิคงบอกปัดเหมือนทุกที แต่กลับกลายเป็นว่าท่านคาบุรากิจับมือท่านคิโชวอินไว้ พูดอะไรเหมือนให้กำลังใจกัน แล้วออกวิ่ง ทั้งคู่พุ่งตรงไปยันเส้นชัยอย่างรวดเร็วราวกับสายลมเลยค่ะ
เมื่อถึงเส้นชัย กรรมการก็ประกาศว่าของที่ท่านคิโชวอินต้องไปเอามาคือ “เพศตรงข้ามที่สนิทที่สุด” เสียงรอบทิศก็อืออึง แตกฮือกัน
ท่านคิโชวอินคิดอย่างนั้นไม่แปลก แต่ที่น่าตกใจคือท่านคาบุรากิยอมวิ่งไปด้วยนี่แหละค่ะ ทำไมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้กันคะ!
วันนั้นทุกคนต่างคาดเดาไปต่างๆนานา แต่ก็ไม่มีใครได้คำตอบเลย จะไปถามท่านคาบุรากิหรือท่านคิโชวอินตรงๆก็ไม่ได้ ก็เลยอยู่ในความสงสัยต่อไปล่ะนะคะ
เพื่อนของฉันที่อยู่ห้องเดียวกับท่านคิโชวอินบอกว่าท่านคิโชวอินตั้งใจเรียนเอามากๆเลยค่ะ ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เคยใส่ใจ จนอาจารย์ที่มาสอนยังงงๆ
นอกจากนี้ยังคอยช่วยเหลือเพื่อนๆในห้อง คอยหยุดเวลาคนทะเลาะกัน คุยเล่นและหัวเราะไปพร้อมกับคนในห้อง บรรยากาศในห้องท่านคิโชวอินดูสดใสร่าเริงเอามากๆเลยค่ะ จากแต่ก่อนท่านคิโชวอินมักจะวีนแตกและทำเอาคนในห้องเดือดร้อนเสมอ และเมื่อท่านคิโชวอินรู้ว่าเคยทำแบบนั้นก็มาขอโทษทุกๆคนในห้องด้วยค่ะ เป็นท่าทางที่ดูจริงใจไม่เสแสร้งเหมือนทุกๆครั้ง ตอนนี้ทุกคนดีใจกันใหญ่เลยค่ะที่ท่านคิโชวอินเสียความทรงจำ
สิ่งที่ทำเอาทุกคนตกตะลึงอีกครั้งคือผลสอบครั้งต่อมาค่ะ ท่านคิโชวอินได้อันดับที่ 5 ทั้งๆที่แต่ก่อนการเรียนย่ำแย่เอามากๆ ท่านคาบุรากิเองก็มาแสดงความยินดีด้วยเช่นกันค่ะ เอามือตบไหล่ทั้งๆที่ปกติไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ตื่นเต้นกันทั้งนั้น ฉันเองก็คาดเดาอยู่ในหัวว่าเป็นไปได้หรือเปล่าที่ทั้งคู่ติวหนังสือด้วยกัน คะแนนของท่านคิโชวอินถึงได้ดีขนาดนี้
ท่านคิโชวอินมีรอยยิ้มงดงามจริงใจประดับอยู่บนใบหน้า ขอบคุณพวกเราที่มาแสดงความยินดี ก่อนที่อยู่ๆรอยยิ้มก็หายไป เมื่อหันไปเห็นคุณทาคามิจิมองมาที่ท่านคิโชวอินและท่านคาบุรากิ ทันทีที่คุณทาคามิจิสะดุ้งรีบหนีไป ท่านคิโชวอินเหมือนต้องการจะวิ่งตามเลยค่ะ แต่ท่านคาบุรากิจับตัวเอาไว้
“จะว่าไป ขอคุยส่วนตัวหน่อยได้ไหม” ท่านคาบุรากิถามท่านคิโชวอินด้วยเสียงดังฟังชัด พวกเราทุกคนต่างคาดเดาไปต่างๆนานาว่าความสัมพันธ์ทั้งคู่คืบหน้าเอามากๆเพราะอะไรกัน ตอนนั้นฉันเองก็เอะใจว่าทำไมท่านคาบุรากิมาคนเดียว ทั้งๆที่ปกติจะไปไหนมาไหนพร้อมท่านเอ็นโจเสมอ
ฉันก็เดินกลับห้องเรียนตามปกติ แต่เพื่อนฉันส่งเมลล์มาบอกว่าตอนนี้ท่านคาบุรากิกับท่านคิโชวอินกำลังคุยกันที่ไหน และบอกว่าบรรยากาศโรแมนติคเอามากๆ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะไปดูด้วย ก็นะ อยากเห็นนี่นา
ฉันกับเพื่อนแอบอยู่มุมหนึ่งแถวนั้น แม้ไม่ได้ยินว่าทั้งคู่พูดอะไรกันอยู่ แต่ก็มีอารมณ์ที่หลากหลายทีเดียวค่ะ ได้เห็นสีหน้าแปลกๆของจักรพรรดิด้วยนะคะ ทั้งอึ้งทั้งสงสัย บางทีก็ดูเหมือนอ้อนๆด้วยค่ะ ท่านคิโชวอินก็ดูเหมือนจะกลุ้มใจบ้าง แต่ก็มียิ้มๆเป็นบางครั้ง
คุยๆไปสักพัก จักรพรรดิก็กลับมาดูเคร่งขรึมเช่นเดิม แต่แฝงความเศร้าเล็กน้อย ท่านคิโชวอินก็เหมือนจะแหย่ถามอีกนิดหน่อย แล้วเธอก็กลายเป็นฝ่ายตกใจซะเอง
เรื่องอะไรนะคะ อยากติดเครื่องดักฟังจัง แต่มันผิดกฎหมายนี่สิคะ
ไม่นานนัก เพื่อนของฉันก็ชี้ให้เห็นว่าท่านเอ็นโจ “บังเอิญ” เดินผ่านมาอีกแล้ว คงเพราะท่าทางของทั้งคู่ดูน่าสงสัย เลยแอบมองอยู่เหมือนฉันกับเพื่อน
เวลาต่อมา ท่านคาบุรากิก็หยิบซองสีน้ำตาลส่งให้ท่านคิโชวอิน จากนั้นก็วิ่งหนีไป ฉันเห็นเขาแอบมองท่านคิโชวอินอยู่แถวๆนั้นด้วยค่ะ พอเธอเปิดซอง และอ่านเนื้อหาข้างในด้วยรอยยิ้มสว่างสดใสก็หยิบมือถือขึ้นมาน่าจะส่งเมลล์ ท่านคาบุรากิเองก็มองมือถือในมืออย่างมีความสุข และหันไปยิ้มอย่างดีใจให้กับท่านคิโชวอินตัวจริงซึ่งยังคงไม่เห็นเขาแอบอยู่
นี่มันโรแมนติดเอามากๆเลยนะคะเนี้ย! ส่งของขวัญให้ แล้วมาแอบดูปฏิกิริยา
(3)
ท่านคิโชวอินดูมีความสุขจนเหมือนหุบยิ้มไม่ได้เลยค่ะ แต่ก็ชะงักไปเมื่อท่านเอ็นโจเคลื่อนตัวมาขวางทางท่านคิโชวอิน ทั้งคู่เหมือนคุยอะไรบางอย่างที่มีประเด็นรุนแรงทีเดียว ฉันรู้สึกเหมือนท่านคิโชวอินกำลังถูกข่มขู่คุกคามอยู่เลยค่ะ
ต่อมาไม่นานท่านคาบุรากิที่แอบอยู่แถวนั้นอยู่แล้ว ก็ออกมาจากที่ซ่อน
ท่านคาบุรากิยืนคั่นกลางระหว่างท่านคิโชวอินและท่านเอ็นโจไว้ นี่มันฉากพระเอกปกป้องนางเอกจากตัวร้ายนี่คะ!
แม้ไม่อยากให้ท่านเอ็นโจรับบทตัวร้ายเลยนะ แต่ว่าได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้น่าตื่นเต้นสุดๆไปเลยค่ะ หรือว่าท่านเอ็นโจจะหึงท่านคิโชวอินเลยทะเลาะกับทั้งคู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อตอนนี้ทั้งคู่รักกันแล้ว เป็นตัวรองที่น่าเศร้าไปแล้วค่ะ แต่หวังว่าคงไม่กลายเป็นตัวร้ายโดยสมบูรณ์ใช่ไหม สีหน้าเย็นชาตอนนี้ของท่านเอ็นโจน่ากลัวเอามากๆเลยค่ะ
ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เหมือนทั้งสามคนจะตกลงกันด้วยดี และแยกจากกันไป แต่ท่านคาบุรากิกับท่านคิโชวอินก็พูดกันต่อด้วยรอยยิ้ม จนเลยเวลาเรียนมานิดหน่อยทั้งคู่ถึงเดินกลับห้อง
หลังจากนั้นก็มีข่าวมาเรื่อยๆว่าท่านคิโชวอินออกตัวปกป้องคุณทาคามิจิด้วยค่ะ ฉันก็ได้เห็นเองกับตาตอนที่ท่านคิโชวอินเอาตัวไปขวางกาแฟที่สาดใส่คุณทาคามิจิเหมือนกันค่ะ เท่สุดๆไปเลยเลยนะคะ! ฉันเห็นฉากนั้นแล้วอดใจเต้นไม่ได้เลยค่ะ
เพื่อนฉันเองก็ได้เห็นว่าท่านคิโชวอินถอดรองเท้าตัวเองให้คุณทาคามิจิที่ถูกแกล้งด้วยค่ะ ทุกคนที่รู้เรื่องต่างกรี้ดกันใหญ่เลยค่ะ ท่านคิโชวอินช่างยอดเยี่ยมไปเลยนะ อยากถูกปกป้องแบบนั้นบ้างจังเลยค่ะ รู้สึกตัวอีกที ตัวฉันที่เคยเป็นพวกต่อต้านท่านคิโชวอินก็กลายมาเป็นแฟนคลับท่านคิโชวอินไปแล้วนะคะ ทำไงได้ล่ะ ก็มีเสน่ห์ออกขนาดนั้น
ไม่นานนักก็ถึงเทศกาลโรงเรียนค่ะ ห้องของเพื่อนฉันกับท่านคิโชวอิน ทำเทียนแฮนด์เมดขายค่ะ ฉันเองก็บอกเพื่อนให้จองเทียนท่านคิโชวอินไว้ให้ฉันสักเล่ม เพื่อนฉันเล่าให้ฟังค่ะว่าท่านคิโชวอินจัดการทุกอย่างได้ดีเยี่ยม น่าชื่นชมเอามากๆเลยค่ะ
ฉันแวะไปซื้อเทียนตอนที่ท่านคิโชวอินกำลังเดินออกร้านพอดี ท่านคิโชวอินยิ้มให้ฉันด้วยค่ะ แล้วขอบคุณที่ฉันมาช่วยซื้อเทียน
ท่านคิโชวอินรู้จักชื่อฉันด้วยค่ะ!!! ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ฉันเป็นคนธรรมดาสังกัดชมรมเย็บปักเท่านั้นเองนะคะ แต่รู้สึกดีจังเลยนะคะที่เป็นที่จดจำในสายตาท่านคิโชวอินบ้าง เธอบอกว่าให้ฉันเรียกเธอว่า “เรย์กะจัง” เฉยๆก็ได้ แต่มันมากเกินไปสำหรับนักเรียนธรรมดาอย่างฉัน เลยขอเรียกว่า “ท่านเรย์กะ” เอาแล้วกัน ท่านเรย์กะก็ส่ายหน้าเหมือนจำยอมกลายๆพร้อมหัวเราะ รอยยิ้มของเธอดูสดใสน่ารักมากเลยค่ะ
ฉันซื้อเทียนเสร็จก็แอบตามท่านเรย์กะไปคาเฟ่ของห้องท่านเอ็นโจ เพื่อนของฉันต้องเฝ้าร้านนี่คะ ฉันเลยต้องมาทำหน้าที่ดูความเป็นไปแทน
ท่านเอ็นโจในชุดบาริสต้านี่ดูสง่างามราวกับเจ้าชายเลยนะคะ แต่ว่าตอนนี้ในสายตาฉัน ยังไงก็สู้ท่านเรย์กะไม่ได้หรอกค่ะ! ท่านเรย์กะคุยหยอกล้อกับเพื่อนๆรอบข้าง ดูดีจังเลยนะคะ อยากเป็นหนึ่งในคนที่ได้นั่งข้างๆท่านเรย์กะจังเลยค่ะ
อยู่ๆท่านเอ็นโจก็วางกาแฟลาเต้อาร์ตรูปกระต่ายให้ท่านเรย์กะ ทั้งๆที่ปกติต้องมีบัตรคิวเท่านั้น แสดงว่าท่านเรย์กะต้องมีฐานะสำคัญในใจท่านเอ็นโจไม่น้อยเลยนะคะ และท่านเรย์กะเองก็มอบเทียนที่พกติดตัวอยู่ให้กับท่านเอ็นโจ สร้างเสียงฮือฮาไปทั้งร้าน มีคนคาดเดาไปต่างๆนานาว่าทั้งสองคนคบกันแล้ว ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะฉันเห็นท่านเอ็นโจข่มขู่ท่านเรย์กะเองกับตา หรือว่าสองคนนั้นมีรสนิยมชอบอะไรทำนองนั้น!?!
ไม่นานฉันก็เห็นท่านคาบุรากิวิ่งเข้ามาในร้าน พุ่งตรงไปหาท่านเรย์กะ มองด้วยท่าทางเป็นห่วง ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับท่านเอ็นโจ และพูดกันด้วยบทสนทนาที่ได้ยินไปทั่วทั้งร้าน เนื่องจากในเวลานั้นไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลย
“คิดจะทำอะไรน่ะชูสุเกะ” ท่านคาบุรากิเอ่ยถาม
“ก็ไม่มีอะไรนี่” ท่านเอ็นโจตอบรับยิ้มๆ คนในร้านเงียบกริบมองทั้งคู่อย่างสงสัย
ท่านคาบุรากิขมวดคิ้ว แต่สีหน้าดูนิ่งเฉยสมกับเป็นจักรพรรดิ
“ถ้านายคิดจะทำอะไรคิโชวอินล่ะก็ ต่อให้นายเป็นเพื่อนฉัน ฉันก็ไม่ปล่อยไว้หรอกนะ”
“งั้นหรอ มาซายะ”
ท่านเอ็นโจยิ้มรับ แต่มันดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
นี่มันฉากอัศวินช่วยเหลือเจ้าหญิงจากจอมมารร้ายชัดๆเลยนี่คะ! ฉันเห็นแล้วใจละลายเลยค่ะ
ถ้าเป็นก่อนท่านเรย์กะจะสูญเสียความทรงจำ ฉันคงคิดแต่ว่าท่านเรย์กะกับคุณทาคามิจิไม่มีใครเหมาะกับท่านคาบุรากิหรอก แต่ตอนนี้ฉันกลับคิดว่าท่านคาบุรากิเหมาะสมกับท่านเรย์กะจริงๆ ฉันเริ่มดูท่านเรย์กะเป็นหลักแทนท่านคาบุรากิแล้วนะคะเนี้ย
(4)
บรรยากาศตึงเครียดดูไม่มีทีท่าจะหายไป จนกระทั่งคุณทาคามิจิทำถาดใส่คุกกี้หล่น แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเหยียบมือคุณทาคามิจิอย่างจงใจ สงสัยเห็นคาบุรากิหันมาเป็นมิตรกับท่านเรย์กะที่เป็นศัตรูกับคุณทาคามิจิมาโดยตลอด เลยกล้าที่จะแกล้งออกนอกหน้ามั้งคะ
ท่านเรย์กะออกตัวปกป้องคุณทาคามิจิด้วยค่ะ ตอนนั้นฉันและแฟนคลับท่านเรย์กะน่าจะต่างส่งเสียงเชียร์กรีดร้องในใจกันทั้งนั้น เท่ไปเลยจริงๆนะคะ! ท่านเรย์กะคะ ช่วยเสียความทรงจำไปตลอดชีวิตได้ไหมคะ
แต่ว่าเวลาต่อมาท่านคาบุรากิก็ไปหาคุณทาคามิจิ จับมือขึ้นมาอย่างอ่อนโยนแล้วพาไปห้องพยาบาลด้วยกัน ฉันเห็นท่านเรย์กะมองภาพนั้นอย่างเจ็บปวด แต่เหมือนกำลังฝืนยืม
นี่มันบทนางเอกนี่คะ ที่แม้เห็นคนที่ชอบไปอยู่กับคนอื่น แต่ก็ยังแสดงความยินดีด้วย ถึงหัวใจเจ็บช้ำมากแค่ไหนก็ตาม แค่ได้เห็นพวกเขามีความสุขก็ดีใจแล้ว...
ฉันแทบใจสลายตามเลย ท่านเรย์กะยังคงรักท่านคาบุรากิงั้นหรอคะ...
เพื่อนฉันเล่าให้ฟังว่าท่านเรย์กะเดินหดหู่มาที่ร้านคนเดียวแล้วขอเปลี่ยนกะด้วยค่ะ เมื่อฉันไปถึงก็เห็นท่านเรย์กะพูดคุยอยู่กับท่านเอ็นโจ ท่าทางทั้งคู่ไม่ได้ดูเป็นศัตรูกันแล้วนะคะ ท่านเอ็นโจไม่ได้มีท่าทางข่มขู่อะไรอีกแล้ว อันที่จริงนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นรอยยิ้มท่านเอ็นโจที่เปลี่ยนไป เป็นรอยยิ้มเปี่ยมสุขแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ
ท่านเอ็นโจเองก็คงรักท่านเรย์กะอยู่แน่ๆ ฉันพอเข้าใจอยู่ล่ะนะคะ ตอนนี้ท่านเรย์กะออกจะน่ารักขนาดนี้นี่คะ บทจะเท่ก็ทำเอาใจเต้นตลอดเลยค่ะ
ตอนที่ผลสอบประกาศ แล้วท่านคาบุรากิกับคุณทาคามิจิพูดคุยกันสนิทสนม ฉันเห็นท่านเรย์กะทำสายตาเศร้าๆ แล้วเดินหนีออกไปอีกแล้วค่ะ เห็นแล้วเจ็บปวดกับท่านเรย์กะจังเลยนะคะ...
วันวาเลนไทน์มาถึง ท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจมีคนมาให้ช็อกโกแลตล้นหลามเช่นเคย ท่านเรย์กะเดินไปมา แต่ไม่ทีท่าว่าจะให้ช็อกโกแลตใคร จนกระทั่งตอนเย็น ท่านเรย์กะจะกลับบ้าน ท่านคาบุรากิก็เดินไปหาท่านเรย์กะ ฉันมองจากที่ไกลๆเลยไม่เห็นสีหน้าทั้งคู่ดีนัก แต่เหมือนท่านคาบุรากิกำลังอ้อนๆอยู่เลยค่ะ ท่านเรย์กะก็เอาช็อกโกแลตให้เขา ก่อนจะเดินจากมา
ฉันที่เดินเข้าไปใกล้มากพอแล้วในเวลาต่อมา เห็นท่านคาบุรากิมองกล่องช็อกโกแลตท่านเรย์กะด้วยสีหน้ายินดีสุดๆเลยค่ะ แทบจะเดินไปกระโดดไปอย่างร่าเริงขึ้นรถตระกูลคาบุรากิ นี่มันดูเหมือนหนุ่มน้อยในห้วงรักเลยนะคะ
เพื่อนของฉันรายงานมาจากอีกด้านว่าคุณทาคามิจิเองก็มอบช็อกโกแลตให้ท่านเรย์กะเช่นกัน น่าอิจฉาจังเลยนะคะ ถ้าฉันกล้ากว่านี้ก็อยากให้ท่านเรย์กะเหมือนกันนะคะเนี้ย
จะว่าไป ตอนแรกท่านเรย์กะกับคุณทาคามิจิ แย่งท่านคาบุรากิอยู่แท้ๆ พอท่านเรย์กะสูญเสียความทรงจำไป ไม่รู้ทำไมมันเหมือนกลายเป็นคุณทาคามิจิกับท่านคาบุรากิมาแย่งท่านเรย์กะไปแทนล่ะคะเนี้ย
วันต่อมา ขณะที่ฉันกำลังจะเดินกลับห้องเรียน ก็เห็นกลุ่มผู้ชายยืนเรียงเป็นแถบขวางทางเดินอยู่ ทั้งหมดกำลังเผชิญหน้ากับท่านเรย์กะอยู่ค่ะ
เอ๋?! เกิดอะไรขึ้นคะ หรือว่าท่านเรย์กะปกป้องคุณทาคามิจิจนไปสร้างศัตรูกับคนพวกนี้มางั้นหรอคะ???
ผู้ชายคนหนึ่งก้าวออกมาด้านหน้า โดยที่คนอื่นๆยังยืนอยู่ด้านหลังกั้นทางเอาไว้ ตอนนั้นเองก็ฉันนึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นประธานชมรมฟุตบอล
เขาดูมีสีหน้าที่จริงจังอย่างมาก และพูดอย่างกล้าหาญ
“คุณคิโชวอินครับ ผมแอบชอบคุณมาโดยตลอดเลยครับ!”
กลุ่มผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลัง ช่วยกันกางป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่เขียนความในใจของประธานชมรมฟุตบอล พร้อมเสียงเชียร์ไปทั่ว สาวๆรอบข้างต่างพากันกรี้ด ฉันเองก็อดกรี้ดอีกคนไม่ได้ สุดยอดไปเลยค่ะ! นี่มันโรแมนติคมากๆเลยนะคะเนี้ย
“ผมรู้ว่าคุณคิโชวอินชอบคุณคาบุรากิมาโดยตลอด แต่ผมเองก็ไม่เคยตัดใจจากคุณได้เลย อย่างน้อยผมก็อยากบอกความรู้สึกนี้ให้คุณรับรู้ ยังไงก็รับผมไปพิจารณาเถอะนะครับ!”
นี่มันบทพระรองนี่คะ ผู้ชายที่รู้ว่าเธอไม่รัก แต่ก็ยังคงรักเธอ ว้ายยย คล้ายกับท่านเรย์กะที่ไปรักท่านคาบุรากิเลยนะคะ... หรือจริงๆแล้วมันเป็นพรหมลิขิตกันนะ
ท่านเรย์กะส่งรอยยิ้มให้ ประธานฟุตบอลหน้าแดงด้วยค่ะ น่ารักจังเลยค่ะ แววตาเป็นประกายของท่านเรย์กะดูมีความสุขจริงๆค่ะ ถ้าท่านเรย์กะชอบล่ะก็ ฉันจะคอยเอาใจช่วยเองนะคะ
“ขอบคุณมากเลยค่ะ”ท่านเรย์กะพูดด้วยรอยยิ้มนางฟ้า ทำเอาฉันหลงใหล จนแทบไม่สังเกตเลยค่ะว่าท่านคาบุรากิเดินมาทางนี้
“จริงๆแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่ได้ชอบท่านคาบุรากิหรอกนะคะ” ท่านเรย์กะพูดเหมือนต้องการประกาศ เสียงฮือฮาดังไปทั่วระเบียง เสียงเชียร์ประธานชมรมฟุตบอลดังขึ้นยิ่งกว่าเดิม สาวๆรอบข้างต่างพากันตื่นเต้น
ฉันแอบเห็นท่านคาบุรากิคิ้วกระตุกไม่หยุดอยู่ข้างๆค่ะ
(5)
“เอะอะอะไรกัน นี่จะถึงเวลาเรียนแล้วอยู่ในความสงบด้วยนะครับ” เสียงนิ่งเฉยดังขึ้นมา บรรยากาศหวานแหววหายแวบไปทันที
ท่านมิซึซากิอย่าเพิ่งมาขัดเส้นทางแห่งรักของท่านเรย์กะสิคะ...
เมื่อประธานนักเรียนเดินเข้าห้องไปแล้ว ท่านเรย์กะก็หันไปหาประธานชมรมฟุตบอล เหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ตอนนั้นเองค่ะที่ท่านคาบุรากิเคลื่อนไหว เดินไปจับไหล่ท่านเรย์กะ และพาออกมา แบบที่ไม่มีใครกล้าห้าม กล้าค้าน แหวกทางแต่โดยดี
ก็นะ... สีหน้าท่านคาบุรากิน่ากลัวขนาดนั้น ใครจะไปกล้าเอาชีวิตไปเสี่ยงขวางทางล่ะคะ... ขนาดประธานฟุตบอลผู้กล้าหาญยังอึ้งค้างราวกับถูกคำสาปเลยค่ะหลังจากท่านคาบุรากิตวัดสายตามองครั้งหนึ่ง
ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นดังในชั่วพริบตา ไม่ว่าจะการสารภาพอย่างกล้าหาญของประธานชมรมฟุตบอล การที่ท่านเรย์กะประกาศว่าตัวเองไม่ชอบท่านคาบุรากิอีกแล้ว และท่านคาบุรากิที่พาออกมาจากจุดนั้นก่อนท่านเรย์กะจะให้คำตอบ มีข่าวลือว่าท่านคาบุรากิขอท่านเรย์กะเป็นแฟนด้วยค่ะ แต่น่าจะเป็นแค่ข่าวลือล่ะนะคะ
เย็นนั้นเพื่อนฉันที่แวะไปชมรม เห็นท่านคาบุรากิไปขอเล่นฟุตบอลกับคนในชมรมฟุตบอลด้วยค่ะ และเห็นท่านคาบุรากิเตะบอลใส่ประธานชมรมฟุตบอลจนตัวปลิวเข้าโกลทั้งคนทั้งบอลเลยค่ะ...
พฤติกรรมแบบนี้คล้ายกับกับที่เคยไปทำร้ายคนที่มาสารภาพรักท่านยูริเอะเลยนะคะเนี้ย
ฉันได้แต่ยืนไว้อาลัยกับประธานชมรมฟุตบอล...
ท่าทางถ้าฉันจะจีบท่านเรย์กะ คงต้องระวังท่านคาบุรากิเป็นพิเศษล่ะนะคะ!
ป.ล. มีหลายฉากที่อยากใส่ก่อนหน้านั้น แต่ไม่รู้จะใส่ไงดี เช่น ที่คาบุรากิกลับมาปกป้องเรย์กะจากเอ็นโจได้เร็ว จริงๆเพราะแอบดูปฏิกิริยาหลังให้ซองอยู่ ถ้าจะเขียนมุมมองคาบุรากิต้องใช้พลังจินตนาการสูงมากค่ะ เขียนยาวๆไม่น่าจะไหว เอาเป็นมุมมองนักเรียนซุยรันคนหนึ่งไปแล้วกันนะคะ 5555 แต่ก็มีจำกัดเล็กน้อย เพราะหลายอย่างต้องมองในมุมคนนอก มีหลายฉากที่คนนอกมโนไปเองนะคะ ไม่ได้เป็นความจริงซะหมด 555555
ป.ล.2 นักเรียนซุยรันทุกคนเป็นสโตรกเกอร์
ป.ล.3 คิดฉากจบไม่ออกจริงๆค่ะ อาจจะแปลกๆนะคะ 5555
>>570-575 ชีวิตดีมีฟิคให้อ่านแต่เช้า ท่านเรย์กะในมุมมองคนอื่นน่ารักจริงๆนะ พลอยจะหลงไปด้วยเลย แอบชอบตรงที่ตอนแรกแย่งคาบุรากิกัน พอทะลุมิติปั๊บแย่งเรย์กะกันซะงั้น5555
นี่ก็เพิ่งสอบเสร็จเหมือนกัน โชคดีในการสอบนะคะ จะรออ่านฟิคอย่างใจจดใจจ่อค่ะ♡
ว่าจะโพสต์ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วโพสต์ไม่ได้ FAท่านพี่ค่ะ อ่านฟิคท่านพี่แล้วแปรพักตร์กลับมาลงเรือท่านพี่แทบไม่ทัน5555
https://imgur.com/a/94nsE
>>579 นี่ก็ลูกเรือทรยศอีกคนเรอะ ถถถถถถถ ระวังจอมมารน้อยใจ ทำเว็บล่มอีกนะมึง เมื่อวานก็โดนบอกว่าหล่อน้ยกว่าคนอื่น วันนี้โม่งแฟนอาร์ตก็ทรยศ
>>573 เฮ้อ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเรือคาบุรากิ แต่อ่านโมเมนต์ที่พูดถึงวาคาบะนี่ก๊าวจริงๆ อยากให้ควบสองไปเลย ทั้งวาคาบะ ทั้งคาบุรากิ เอามาเป็นสนมในฮาเร็มให้หมด
ปกติกูเรือเอ็นโจ แต่ฟิคนี้ดันเฉยๆกับเอ็นโจซะงั้น บอกไปแบบนี้ห้ามทำเว็บล่มนะว้อยยย ท่านจอมมาร
http://imgur.com/8bf04RH
แฟนอาร์ตท่านเรย์กะอันใหม่มาแล้ว รูปนี้เห็นอล้วนึกถึงฟิคที่มีหนังยุคไทโชที่โม่งบนๆแต่งเลยอ่าาา
ที่มา 祥院麗華 | Kinom #pixiv http://www.pixiv.net/member_illust.php?illust_id=61930429&mode=medium
"งานกีฬาอลวน" (ชื่อสิ้นคิดมาก)
------------
ในที่สุดงานกีฬาโรงเรียนประจำปีก็เริ่มต้นขึ้น
ทุกๆคนในห้องต่างคึกคักกันใหญ่เลยล่ะค่ะ
ปีนี้ฉันลงแต่กีฬาแบบกลุ่มอย่างพวกกระโดดเชือกหมู่หรือแข่งชักเย่อเท่านั้นล่ะนะ ก่อนหน้านี้หัวหน้าห้องก็มีมาถามอยู่หรอกว่าฉันจะลงพวกรายการวิ่งมั้ย
แต่ไม่เอาอะ เดี๋ยวเหตุการณ์ซ้ำรอยปีก่อนๆ ไม่ว่าจะวิ่งสามขาหรือวิ่งแฟนซี ก็รู้สึกทำได้ไม่ดีตลอดเลยอะนะ อืม แต่ถ้ามีวิ่งแข่งกินขนมปังก็ดีซิ อยากกินอันปัง เมล่อนปังจังน้า~
ช่วงเช้า การแข่งชักเย่อ ห้องของเราพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย สาวๆหลายคนในห้องทำสีหน้าเศร้าสร้อยที่ผลมันออกมาไม่ดีอย่างที่คิด ฉันเลยต้องพยายามปลอบใจทุกคน
ไม่เป็นไรนะคะ การแข่งยังมีอีกหลายรายการน่า~
พวกฉันเดินออกจากสนามก็สวนทางกับคาบุรากิพอดี คาบุรากิเห็นฉันก็ตรงดิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าจริงจัง
"คิโชวอิน"
ห๊ะ? มีธุระอะไรน่ะ?
รู้สึกลางไม่ค่อยดีเลยแฮะ...
สาวๆคนอื่นเห็นแบบนั้นก็ร้องวี้ดว้าย รีบเปิดทาง แล้วถอยออกไปห่างๆ เอ๋~ อย่าทิ้งกันแบบนี้ซิคะ!
"แอบได้ยินมาน่ะ ว่าวิ่งผลัดแฟนซีห้องเธอปีนี้ธีมเจ้าหญิงนิทรา... เลือกใช้ปิศาจมังกรตะวันตกแทนงูใหญ่แบบจีนซินะ คาดไม่ถึงจริงๆ ใช้ได้เลยนี่ ยินดีด้วยนะที่เก็บมะโรงได้อีกตัวแล้วน่ะ"
คาบุรากิตบไหล่ฉันดังผัวะๆก่อนจะเดินจากไป
โอ๊ย! เจ็บ! ...ยังจะมามะโรงอะไรอีกล่ะยะ!? เจ้าหญิงนิทราเขาเน้นแค่ตัวเอกเจ้าชายฟิลลิปกับเจ้าหญิงออโรล่าย่ะ! ใครจะไปสนกันเล่าว่ามันมีมังกรอยู่ในเรื่องด้วยน่ะหา!?
เซริกะกับรุเนะจังรีบวิ่งรี่เข้ามากรี๊ดกร๊าดใหญ่ มโนว่าตาบ้านั่นเห็นห้องฉันแข่งแพ้ก็เลยเข้ามาให้กำลังใจฉัน
ปฏิเสธไปก็ไม่มีใครฟังฉันเลยสักคน เฮ้อ...
*****
ช่วงบ่าย หลังการวิ่งผลัดแฟนซีอันตื่นตาตื่นใจก็จบลง ต่อไปเป็นการแข่งยืมของ ที่โซนคนดูนั้นแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ดูเหมือนว่าปีนี้จะมีพวกตัวเด่นๆลงแข่งกัน ฉันโดนพวกเพื่อนๆลากกันไปนั่งเกาะติดขอบสนามตรงพื้นที่ที่จองไว้แล้ว
พอนั่งลงก็เห็นคาบุรากิกำลังเดินลงสนาม พอเขาสังเกตเห็นฉันก็หันมายกนิ้วโป้งมาให้สีหน้าพึงพอใจสุดๆ เหล่าคนดูต่างฮือฮากรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
... ให้ตายเหอะ เพราะฉันไม่ได้เข้าไปร่วมจัดคอสตูมให้ทีมแฟนซีก็เลยไม่รู้เรื่องน่ะ ใครจะไปคิดว่านอกจากเจ้าชาย เจ้าหญิงแล้ว ยังมีมังกรร้ายกับม้าของเจ้าชายร่วมลงแข่งวิ่งด้วยงะ... ทำไมไม่เป็นแม่มดหรือนางฟ้ากันล่ะ? ใครเป็นคนต้นคิดกันเนี่ย...
อย่างงี้ก็เหลือแค่ เสือ งู ลิง และหมู แล้วน่ะซิ...
ไม่น้าาา เค้าไม่อยากเก็บแต้มนักษัตรบ้าๆบอๆตามตาบ้านั่นนะ!
เห็นเอ็นโจเดินลงสนามแข่ง เข้าไปพูดคุยกับคาบุรากิสักพักหนึ่งก็มองมาทางฉันแล้วหัวเราะ
หยุดนะ! ไม่ต้องมาขำเลยนะยะเอ็นโจ! ดูแลเพื่อนนายอย่าให้บ้าบอไปมากกว่านี้ซิ! พาไปฉีดยาซะบ้างนะ!
คิคุโนะจังกับอายาเมะจังเขย่าตัวฉันอย่างตื่นเต้นใหญ่ว่า "ท่านคาบุรากิทักทายท่านเรย์กะก่อนลงแข่งด้วย คงขอกำลังใจกันซินะคะ!" บ้างล่ะ "ท่านเอ็นโจส่งยิ้มให้ท่านเรย์กะด้วยล่ะค่ะ!" บ้างล่ะ
เฮ้อ ทำไมไม่มีใครเข้าใจความเจ็บปวดใจของฉันกันบ้างเลยน้า...
การแข่งยืมของปีนี้ดูท่าทางว่าแต่ละห้องจริงจังน่าดูเลยล่ะ นอกจากคาบุรากิ เอ็นโจแล้ว ก็ยังมีนายตัวสำรอง อาคิสะวะคุง ...ตัวโหดหินกันทั้งนั้นเลย ห้องอื่นๆจะไหวมั้ยเนี่ย?
ที่พอจะคุ้นๆบ้างก็... อ๊ะ ประธานชมรมฟุตบอลนี่นา หมอนั่นหันมองที่นั่งคนดูไปรอบๆพอสบตากับฉันก็สะดุ้งโหยงหน้าซีด รีบหันหน้าเข้าสนามทันที อ่า ถ้าไม่สบายก็ไม่น่าลงแข่งเลยน้า~
ส่วนตัวแทนจากห้องฉันเอง เป็นตาดิเทล่ะ... คงไม่ต้องหวังรางวัลแล้วล่ะนะ นี่เป่ายิ้งฉุบเลือกกันมาแหงๆ
ผู้เข้าแข่งขันลงประจำที่กัน พอกรรมการส่งสัญญาณ ก็ดีดตัวออกวิ่งทันที
ว้าว! เร็วกันมากเลยล่ะ!
กองเชียร์ส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทั้ง "จักรพรรดิ!" "รัชทายาท!" "ท่านคาบุรากิ!" "ท่านประธาน!" "องค์ชาย!" ดังลั่นสนาม แว่วว่ามีคนตะโกนเชียร์อาคิสะวะคุงด้วยล่ะ ก็คงเป็นเพื่อนร่วมห้องหรือไม่ก็คนในชมรมล่ะน่า คงไม่ต้องรายงานซากุระจังหรอกมั้ง~
ที่น่าสงสารก็เป็นเหล่าตัวประกอบของห้องอื่นๆ อย่างดิเทก็เป็นหนึ่งในนั้นล่ะ ขนาดเพื่อนๆห้องเดียวกันยังไม่เชียร์กันเลย... โดนทรยศซะแล้วล่ะ
ถึงจะชื่อว่าเป็นแข่งวิ่งยืมของ แต่การจะไปถึงจุดจับสลากได้ก็ต้องวิ่งข้ามสิ่งขีดขวางกันก่อน
คาบุรากิและนายตัวสำรองที่วิ่งตีคู่กันขึ้นมาขบเขี้ยวกันสุดๆ! นี่แค่วิ่งยืมของต้องจริงจังกันขนาดนี้เลยเหรอ? อาคิสะวะคุงอยู่ชมรมกรีฑาอยู่แล้วก็วิ่งกระโดดข้ามรั้วอย่างสวยงาม ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะค่ะ! ตามมาติดๆด้วยเอ็นโจที่เริ่มเบียดเสียดขึ้นมาแล้ว! ประธานชมรมฟุตบอลก็ไม่น้อยหน้ากระโดดข้ามรั้วตามมาอย่างเร็วเชียว
กองเชียร์ส่งเสียงดังลั่นอย่างลุ้นสุดๆว่าใครจะได้เข้าไปจับสลากโจทย์เป็นคนแรก รวมถึงว่าพวกเขาจะได้โจทย์อะไรกันบ้างล่ะนะ
จำได้ว่าสมัยประถมที่ฉันลงแข่งเจอโจทย์ "เพื่อนที่วิ่งเร็วที่สุด" ตอนนั้นต้องรีบวิ่งไปขอให้อาคิสะวะคุงช่วยเลย นอกจากนั้นก็ดูเหมือนจะมีคนที่ได้โจทย์ว่า "เพศตรงข้ามที่ใส่แว่น" "ผู้หญิงที่ทำผมทรงทวินเทล" อะไรพรรค์นั้น พวกโจทย์แปลกๆที่กะจะกลั่นแกล้งกันชัดๆก็มีอยู่เหมือนกันนะ แต่ที่เป็นที่เลื่องลือที่สุดก็คงไม่พ้นโจทย์ "คนที่คุณชอบ" ล่ะ จำได้ว่าปีนั้นเด็กผู้หญิงที่โจทย์กะนั้นรีบไปขอคาบุรากิทันที แล้วก็โดนปฏิเสธอย่างสวยงาม
จะว่าไปแล้วโจทย์ที่มีก็แทบจะไม่ซ้ำกันเลยนี่นะ
อืม ขอเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องให้ฉันกลายเป็นของให้ยืมล่ะนะ ร้อนๆแบบนี้ขี้เกียจวิ่งจะตายไป
"ถ้าท่านคาบุรากิวิ่งมายืมฉันก็ดีซิคะ จะโจทย์ไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้นล่ะ!"
"ถ้าได้วิ่งคู่กับท่านเอ็นโจ ต่อให้เป็นโจทย์แย่ๆฉันก็โอเคนะคะ แต่เป็นท่านคาบุรากิก็คงตกลงเหมือนกันล่ะนะ"
"น้อยๆหน่อย!"
"แล้วท่านเรย์กะล่ะคะ? อยากถูกใครยืมตัวเหรอคะ? ท่านคาบุรากิหรือท่านเอ็นโจคะ?"
"ต้องเป็นท่านคาบุรากิซิ เมื่อกี้นี้ยังให้กำลังใจกันอยู่เลยนี่นา~"
"แต่เมื่อกี้ท่านเอ็นโจก็ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ท่านเรย์กะด้วยนะคะ~"
เห~ ไม่อยากทั้งนั้นอะ ไม่อยากถูกเลือก แล้วก็ไม่อยากวิ่งทั้งนั้นล่ะค่ะ นั่งจิบน้ำชาเย็นๆในที่ร่มอย่างงี้สบายกว่าตั้งเยอะ
"เอ... ก็คงต้องช่วยเพื่อนห้องเดียวกันล่ะมั้งคะ?"
ในตอนนั้นดิเทที่วิ่งตำแหน่งรั้งท้ายชาวบ้านก็สะดุดขอบรั้วจนล้มหน้าคะมำ ร้องโวยวายว่า "มือช้าน!" "หัตถ์เทวาของช้าน!" ก่อนจะโดนทีมพยาบาลหิ้วตัวออกจากสนามไป ...พึ่งไม่ได้ซะเล้ย
สาวๆพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างนั้นนายตัวสำรองก็วิ่งนำคาบุรากิไปถึงจุดจับสลากแล้ว กองเชียร์รัชทายาทส่งเสียงเฮกันดังลั่น นายตัวสำรองรับโจทย์ขึ้นมาอ่านแล้วก็วิ่งมาทางคนดู แววตานั้นกวาดมองไปทั่วอย่างกับจ้องจับผิดอย่างงั้นล่ะ หรือว่าจะเป็นโจทย์ "คนที่แต่งตัวผิดระเบียบ" กันน่ะ? ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วยเนี่ย
นายตัวสำรองกวาดสายตาไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาหยุดที่ฉัน
"คิโชวอิน! ขอรบกวนหน่อย" นายตัวสำรองเดินเข้ามาใกล้ฉัน พร้อมกับยื่นมือมา
หา?
ไม่นะ ฉันไม่ได้แต่งตัวผิดระเบียบอะไรนะคะ ผมโรโคโค่นี่ก็เป็นทรงธรรมชาติแต่กำเนิดแค่ดัดๆม้วนๆเพิ่มนิดหน่อยเองหรอกนะค้า~
"คนห้องเธอไม่แข่งต่อแล้วนี่ ช่วยกันหน่อยนะ" นายตัวสำรองว่า
"...ก็ได้ค่ะ~"
จะปฏิเสธก็น่าสงสารแย่ล่ะนะ ผู้ใหญ่บ้านจะช่วยคุณรองผู้ใหญ่บ้านสักหน่อยก็ได้ ฉันลุกขึ้นจากที่นั่ง ได้ยินเสียงสาวๆส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดในลำคออย่างตื่นเต้น พอฉันจะวางมือให้นายตัวสำรอง จังหวะนั้นเอง
"เดี๋ยวก่อน คิโชวอิน!" คาบุรากิวิ่งเข้ามายืนข้างหน้าฉันพร้อมกับยื่นมือมาให้ "เธอต้องมากับฉัน!"
หาา?
"ฉันขออนุญาตคิโชวอินก่อนแล้ว คาบุรากิ ไปยืมตัวคนอื่นซิ"
"ไม่ได้ ต้องคิโชวอินเท่านั้น!"
หาาา!??
โจทย์ที่ต้องเป็นฉันเท่านั้นอย่างงั้นเหรอ? คงจะไม่ใช่โจทย์ "ผู้หญิงที่มีผมทรงหัวสว่าน" ใช่มั้ย... หรือว่า "ผู้หญิงที่เก็บแต้มนักษัตร" น่ะ... ไม่เอาน้า!
ฝูงชนรอบๆโดยเฉพาะเหล่าสาวๆต่างส่งเสียงฮือฮาให้ความสนใจมาทางพวกเรากันใหญ่ ได้ยินเสียงแว่วมาว่า "ศึกชิงนาง!" "รักสามเส้าล่ะ!" หวาาา ไม่ใช่นะ! เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว ไม่เอาแบบนี้ซิ ฉันไม่อยากเป็นจุดเด่นนะ!
พอคิดแบบนั้นเอ็นโจก็วิ่งตามหลังเข้ามายิ้มๆ ทำเอาเรื่องแย่ลงไปกว่าเดิมซะอีก "คุณคิโชวอินมากับผมดีกว่านะ"
หาาา!??!!
คนดูฝั่งฉันยิ่งกรีดร้องกันดังลั่นไปกันใหญ่ "ไม่ใช่สาม แต่เป็นสี่เส้าต่างหากล่ะ!" "สมกับเป็นท่านเรย์กะ!"
นายตัวสำรองกับคาบุรากิคงจะมาเพราะโจทย์จริงๆ แต่ตาเอ็นโจนี่คงกะจะมาป่วนให้เรื่องลุกลามขึ้นไปอีกล่ะซิท่า?! เจ้าปิศาจเจ้าเล่ห์นี่!
ทั้งสามคนจ้องมองกันเองสักครู่หนึ่ง ที่อีกฟากของสนามก็ส่งเสียงเฮขึ้นมา มองเห็นอาคิสะวะคุงพาเพื่อนร่วมห้องคนนึง และประธานชมรมฟุตบอลลากตัวมินามิคุงวิ่งลงสนามไปแล้ว!
ทั้งสามรีบหันขวับกลับมาจ้องเขม็งมาที่ฉัน
"คิโชวอิน!"
"อย่ามัวแต่อืดอาดซิ!"
คาบุรากิกับนายตัวสำรองเรียก เอ็นโจก็ส่งรอยยิ้มดำมืดมาให้ บรรยากาศกดดันกันสุดๆ กองเชียร์ทั้งหลายยิ่งกรี๊ดกร๊าดลุ้นว่าฉันจะเลือกใคร
งื้ออ เจ้าพวกบ้าพลังนี่อย่าดุกันซิ
ไม่อยากไปกะใครทั้งนั้นอะ ทำไมไม่ไปยืมตัวคนอื่นกันเล่า
เค้าไม่ได้ผิดระเบียบแล้วก็ไม่ได้เป็นหัวสว่านนะ!!
------
ไปกะใครดีน้า ท่านเรย์กะ (つ∀<●)
โอ๊ยยยยยยย อย่าปล่อยให้ลุ้นนานเซ่ะ!! 5555 ไม่ไหวแล้วท่านเรย์กะจะทำไงเนี่ย
จะเรียกไปตรงๆได้ไง เอารถม้ามาให้เจ้าแม่นั่งแล้วเข็นไปสิคะ
กูอยากรู้ว่าโจทย์คืออะไรจริงๆ
ตอนนี้กูสงสัยโจทย์มาก มันคือะไรวะ5555555
/อาริมะคุงมาก่อนไปกะอาริมะสิคะ!
/โดนท่านจอมมาร+คาบุรากิโบก
กูก็สงสัยเหมือนกันว่าโจทย์คืออะไร...
... ห๊ะ อะไรนะ กูคนแต่งเองเหรอ
ยังไม่ได้คิดต่อเลยอะ (つ∀<●)" 5555555555
เอ็นโจ --คนที่แอบชอบ
คาบุ--คนที่นิสัยแปลก
นายตัวสำรอง--คนที่ผิดระเบียบ มั้ง//
เล่นมั่งๆกูทาย
คาบุ-ผู้หญิงที่สัตว์รัก(?)
องค์ชาย -เพศตรงข้ามที่สนิทที่สุด
อาริมะ- ราชินี
คาบุ-เพื่อนผู้หญิงที่สนิท
อาริมะ-เจ้าแม่
เอ็นโจ-คนที่สนใจ
ทายด้วย
คาบุ - คนที่มีทรงผมเป็นเอกลักษณ์
อาริมะ - คนที่ดูเหมือนตัวละครในประวัติศาสตร์
เอ็นโจ - คนที่อยู่ด้วยแล้วอารมณ์ดี
กูขอรอลุ้นเฉลยตอนหน้าเงียบๆละกัน.. ไม่ได้กดดันนะ จริ๊งจริงงงงง
ทำไมรู้สึกของเอ็นโจแต่ละคนดูน่ารักจังวะ ของคนอื่นแม่งฮากันเกิ๊นนนน
ลุ้นมากจนต้องวาด555 รัฟไปหน่อย รีบวาด55
//เรือยูริจงเจริญ แฮร่
https://imgur.com/a/lewfc
วาดสวยมาก วาคาบะโคตรหล่อ 555
กุเชียร์เอ็นโจเต็มที่ ณ จุดๆนี้ ต้องเกาะขอบเรือให้แน่น!
กุเกาะทุกเรือออ
จริงๆตอนแรกก็ไม่ได้ลงเรือใครหรอกนะ แค่อยากเห็นฤดูใบไม้ผลิของท่านเรย์กะเท่านั้น
แต่พอเจอกาวเข้าไปนี่กลายเป็นลูกเรือถาวรของเอ็นโจกับนายตัวสำรองเลย 555
กูอวยเอ็นโจ แต่จากสถิติการเข้าวินของคู่ที่กูอวยที่ผ่านๆมา กูควรจะเลิกอวยเอ็นโจว่ะ เพราะแม่งล่มหมดทุกคู่เลย 555555555555//อ๊ะ หัวเราะอยู่ดีๆทำไมน้ำตาถึงไหลได้ล่ะ
>>640 ของกูนะ
อุลคิฮิเมะ - อันนี้กูทำใจไว้ละว่ามันจะล่มแน่ๆ แต่โมเมนต์มันน่าอวยจริงๆ และพอถึงเวลากูก็เฮิร์ตตามระเบียบ
อิจิลูเคีย - เหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยกเลยสัส
ฟ้ามืด - ฟัคคคคคคคคคคคคค
นายอ.หญิงเล็ก - อันนี้ทำใจไว้ว่ามันเป็นรักข้างเดียว แค่ชอบโมเมนต์น่ารักๆของสองคนนี้เฉยๆ
แฮร์รี่ลูน่า - จินนี่มาจากไหนนน เล่มที่ผ่านมามึงมีบทขนาดเป็นนางเอกเลยเหรอ จบกับเฮอร์กูยังไม่ปวดใจเท่านี้
nisekoi - นอนตาย กูอวยหัวดำ
True Tear - โฮลี่ชิทททททททททท
shuffle - ตัวประกอบเข้าวินได้ไงแว้ (กูอวยหัวเหลือง)
พี่เทพนักจีบ - นี่ก็ตัวประกอบเข้าวินได้ไงแว้ (กูอวยเทนริ)
De Capo - หัวแดงช้ำรักมันเจ็บปวด
school rumble - กูอวยคุณน้อง
อีกเยอะที่กูยังไม่ได้พิมพ์ มึงเห็นอะไรรึยัง ถ้ากูอวยเอ็นโจต่อไปคงไม่แคล้วที่จะมีจุดจบแบบนี้แน่ๆ 5555555555555555555
กูพวกชอบลงเรือลำเล็ก nisekoiนี่แอบอวยน้องของหัวดำ ฮืออ
นี่ไม่มีใครลงฟิคต่อแล้วเหรอออ
>>650 กูควรไปต่อฟิคบ้านพักคนชราใช่มั้ย คานกันให้หมดทุกคน ถือว่าแก้เคล็ดให้พวกมึงทุกคน 555555555
กูมานึกๆดูอีก....
ดิจิมอน - กูอวยไทจิโซระ ทาเครุฮิคาริมากกกกก สุดท้ายก็....//ยักไหล่
อิจิโกะ 100% - กูอวยโทโจ อายะ.............
น้องสาวไม่น่ารัก - กูอวยแมวดำ
บาเกะ - กูอวยน้องแมว
Naruto - กูอวยซากุระ 5555555555555555555555
เดรโกเฮอร์มี่ - อันนี้รู้ตัวว่าต้องชวด แต่มันน่าอวยก็ต้องอวย และแห้วแดกตามระเบียบ
Love Hina - กูรำคาญสาวซึนแบบนารุและโมโตโกะมากๆ เลยอวยกับชิโนบุ แต่ไม่ได้เจ็บมากเท่าไหร่เพราะรู้ว่ามันล็อคคู่
Re Zero - กูอวยเฟลิส 55555555555555555555
ที่กูรอดก็
อินุยาฉะ - นี่ก็ล็อคคู่ แต่กูอวยเซ็ตโซมารุกับริน
Eva - ชินจิกูอวยกับคาโอรุ แต่กูก็คิดว่าอาสึกะแหล่ะนางเอก เรย์กูคิดว่าเหมือนแม่ชินจิมากกว่า
Orange Road - ดูจะล็อคคู่กลายๆ แถมมาโดกะสวยมีเสน่ห์มาก กูก็อวยมาโดกะ
อ้าว เชี่ย แค่สามอันเองเหรอ แถมเป็นเรื่องที่ล็อคคู่ไว้แล้วอีก 555555555555555555555555
พี่เทพกูรับได้ว่ะ ดีกว่าAZเยอะ
ใช่ az นางเอก(เหรอ) ไปกับตัวประกอบที่โผล่มาไม่ถึงห้านาที ทิ้งให้หนุ่มๆสองคนที่ทำเพื่อเธอตายอย่างไร้ความหมาย
>>266-267
ต่อ
----
นักเรียนหญิงซุยรัยคนหนึ่ง (?)
ในโรงเรียนซุยรันแห่งนี้มีชายหญิงอยู่สามคนที่ไม่สมควรเป็นศัตรูด้วยอย่างเด็ดขาด
ทั้งสามผู้เป็นดั่งตำนานเดินได้ของนักเรียนซุยรัน ผู้เป็นสมาชิก Pivoine ซึ่งเป็นดั่งราชวงศ์ผู้ปกครองอันสูงส่งที่นักเรียนธรรมดาอย่างพวกเรามิอาจเอื้อม
ท่านจักรพรรดิ คาบุรากิ มาซายะ องค์ชาย ท่านเอ็นโจ ชูสุเกะ และผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่แสนทรงอิทธิพล ท่านจักรพรรดินี คิโชวอิน เรย์กะ
แต่ในทั้งสามคน ท่านจักรพรรดินีเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด ตัวฉันที่เป็นเพียงนักเรียนธรรมดา แถมยังสอบเข้ามา ท่านเรย์กะก็อุตส่าห์มาพูดคุยอย่างสนิมสนม ช่างเป็นเกียรติโดยแท้ค่ะ!
ถึงอย่างนั้นท่านเรย์กะเองก็มีด้านที่คนสามัญอย่างฉันเข้าไม่ถึงอยู่เหมือนกัน ข่าวลือที่ว่าท่านเรย์กะสะบัดพัดลงทัณฑ์พวกกลุ่มคุณซึรุฮานะที่เหิมเกริมกับท่านคาบุรากิเองก็เป็นข่าวโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกันค่ะ
ฉันกับกลุ่มสาวๆชอบจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่เสมอ เรื่องราวความรักของท่านจักรพรรดินี!
ไม่ว่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับท่านคาบุรากิหรือท่านเอ็นโจ แม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้พวกเรามีประเด็นพูดคุยเรื่องนี้กันได้ทั้งวันเลยค่ะ ฮุฮุ
สำหรับฉัน คิดว่ายังไงจักรพรรดินีก็ต้องคู่กับท่านจักรพรรดิอยู่แล้วค่ะ~
แต่ตัวฉันที่ได้อยู่ห้องเดียวกับท่านเอ็นโจก็เลยแอบเอนเอียงไปทางองค์ชายเล็กน้อย
ที่จริง...มันมีสาเหตุมาจากข่าวลือที่โหมกระหน่ำในช่วงสองสามวันหลังจากกลับมาจากทัศนศึกษาค่ะ
เริ่มข่าวลือเริ่มที่วันนั้น ท่านเรย์กะที่มีบรรยากาศแตกต่างจากทุกวันมาโรงเรียนด้วยใบหน้าที่ดูกังวลใจแปลกๆ ท่านเรย์กะมาที่ห้องเรียนของฉัน พร้อมกับกล่าวถามถึงท่านเอ็นโจ!? แต่ตอนนั้นท่านเอ็นโจยังไม่มา ท่านเรย์กะก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะขอตัวออกไปอย่างนอบน้อม
มันเกิดอะไรขึ้น? นั่นคือสิ่งพวกเราคิดในใจ
แล้วท่านเอ็นโจก็ปรากฏตัวหลังเริ่มชั่วโมงเรียนที่สองไปไม่นาน นึกว่าท่านจะไม่มาซะแล้วสิคะ บรรยากาศรอบตัวก็ให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกด้วย ในกลุ่มแชทของนักเรียนซุยรันก็กำลังเมาท์มอยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจที่มาโรงเรียนสาย แถมยังให้ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม? หรือแม้แต่สภาพไม่เรียบร้อยของท่านคาบุรากิ? ไหนจะผ้าพันแผลบนหัวของท่านเอ็นโจอีก?
พวกเราก็ยังสงสัยต่อไปจนกระทั่งพักกลางวัน ท่านเอ็นโจลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว หันไปพูดคุยกับนักเรียนชายคนหนึ่งด้วยท่าทางเรียบๆ ก่อนจะออกจากห้องไป
พวกเรากรูกันเข้าไปล้อมเพื่อไถ่ถาม
“อา เอ็นโจคุง วานให้ไปเรียกคุณคิโชวอินให้ไปพบที่สโมสรน่ะ”
นั่นคือคำตอบที่ได้รับ
นอกจากการเรียกท่านเรย์กะแล้ว ท่านเอ็นโจก็ไปหาท่านคาบุรากิด้วยความเป็นห่วง... อุ หรือจะเป็นรักต้องห้าม!?
พวกเราแอบมองอย่างห่างๆห่วงๆส่งท้ายทั้งสองคนที่เดินเข้าไปในสโมสร
ไม่นานนักห้องแชทของนักเรียนแห่งซุยรันก็เต็มไปด้วยข่าวเกี่ยวกับทั้งสามคน!?
ท่านคาบุรากิที่หลั่งน้ำตาให้กับท่านเรย์กะและท่านเอ็นโจ?! ท่านเรย์กะที่มองท่านคาบุรากิด้วยสายตาเป็นห่วง?! หรือแม้แต่ท่านเอ็นโจที่พยายามปลอบท่านคาบุรากิทั้งที่ตัวเองหน้าเสีย?!
หรือนี่...จะเป็นรักสามเส้า!? โศกนาฎกรรมความรักแห่งราชวงศ์ Pivoine?!
สภาพไม่เรียบร้อยของท่านคาบุรากิกับผ้าพันแผลของท่านเอ็นโจมาจากการทะเลาะกันเพื่อปรับความเข้าใจกันเรื่องท่านเรย์กะ?!
หรือท่านคาบุรากิที่หลงรักท่านเรย์กะ พร้อมกับมารับรู้ว่าเพื่อนสนิทของตัวเองก็หลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน?! ก็เลยต้องหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจเพราะไม่อยากเสียใครไปใช่มั้ยคะ!? คนหนึ่งก็เพื่อนรัก! อีกคนก็คนที่ตัวเองรัก!
ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งติดตามข่าวในห้องแชทในโรงอาหารพร้อมเพื่อนๆ ท่านเรย์กะกับท่านคาบุรากิก็ปรากฏตัวขึ้น!? ท่านคาบุรากิขมวดคิ้วดูท่าทางอารมณ์ไม่ดีพลางนั่งตรงข้ามกับท่านเรย์กะตรงที่นั่งของ Pivoine
ฉันแอบมองห่างๆ เห็นท่านเรย์กะยิ้มให้ท่านคาบุรากิ แล้วพูดอะไรบางอย่าง? แต่นั่นก็ทำให้ท่านคาบุรากิเลิกขมวดคิ้วได้!?
ในห้องแชทเต็มไปด้วยความหวีดร้องของนักเรียนซุยรันที่เห็นเหตุการณ์
สักพักท่านเอ็นโจก็เดินเข้ามานั่งข้างๆท่านเรย์กะ ทั้งๆที่ปกติแล้วท่านจะต้องนั่งข้างท่านคาบุรากิแท้ๆ!
สีหน้าของท่านคาบุรากิกลับมาอารมณ์เสียอีกแล้ว
ท่านคาบุรากิเขม่นมองท่านเอ็นโจด้วยความไม่พอใจ กรี๊ด หรือว่านี้คืออาการหึง?! ท่านคาบุรากิหึงท่านเรย์กะที่มีท่านเอ็นโจนั่งข้างๆใช่มั้ยคะ! ประมาณว่าที่นั่งตรงนั้นต้องเป็นของฉันต่างหาก!
นี่คือศึกแย่งชิงจักรพรรดินีใช่มั้ยคะ!
โอ้ย เลือกเชียร์ข้างไม่ถูกเลยค่ะ! ท่านเรย์กะจะรู้มั้ยคะว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกแล้ว?!
แล้วท่านเรย์กะจะเลือกใครกันคะเนี่ย!?
คนนู่นก็ดี! คนนี้ก็ดี!
ถ้าท่านเรย์กะเลยไม่ถูก ฉันแนะให้ควบสองคนไปเลยก็ได้นะค้า---!
อืม...ขอโทษที่มาคั่นนะ แต่ว่าอยากจะถามหน่อย
พอดีเห็นกระแสโอเมก้าเวิร์สมันรุนแรงเกินไปกับกระทู้ใสๆ
คือ...เราว่าจะรีไรท์ท่านเรย์กะAu danganronpa น่ะ
มันรุนแรงเกินไปรึเปล่า หรือมันจะดูยำมั่วเกินไป มีใครอยากให้พับโปรเจคนี้เก็บ(เลิกทำ)ไหม? เรายังไม่ได้เริ่มทำนะ
(ถ้าแต่งมีคนตายแน่นอน)
เราชอบอ่านฟิคเรื่องนี้แบบใสๆนะ แต่ถ้านายอยากจะแต่งก็ไม่ได้อะไร แจ้งเตือนไว้หน่อยแล้วกันเดี๋ยวเลื่อนหลบเอาได้ ไม่ซีเรียส
แปลไทยล่าสุด ท่านเรย์กะพระเอกค่อดๆเลยว้อยยย ทุ่งดอกไม้นี่มันดีต่อใจจริงๆ ถ้าเรย์กะเป็นผู้ชาย นี่มันฉากปักธงให้สาวน้อยใจเต้นตึกตักจนตกหลุมรักแล้วชัดๆ ไปแย่งหน้าที่คาบุรากิแบบนี้ ท่านเรย์กะควรจบกับวาคาบะจริงๆว่ะ อัพเกรดตัวเองจากนางเอกเป็นพระเอกแม่ม ถถถถถถถถถถ
ขอบคุณโม่งแปลจ้า ตอนนี้ก็สนุกมากเลย เรือยูริจงเจริญ
สรุป ที่ท่านเรย์กะยอมออกหน้าช่วยแบบเปิดเผย เพราะดูถูกของกินสินะ - -
ตอนล่านี่ อฟช.หรือฟิคทะลุมิติท่านเรย์กะโคตรเท่เลยค่าา
>>642 ในลิสมึงนี่คล้ายๆกูเลย
แฮร์รี่ - กูเชียร์ แฮร์รี่ลูน่า เดรไมโอนี่(อันนี้รู้ว่าชวดแน่ๆ แต่ฉากอวยจริงจังคือตอนโดนต่อยหน้าว่ะ อห รู้สึกว่าใช่เลย! คู่นี้แหละ! แต่สุดท้าย ฮือออ)
นารูโตะ - กูมาถูกคู่ เกะระ
Nisekoi - อันนี้กูรอด กูเชียร์หัวทอง
อิจิลูเคีย - กูโดนลากมาตบกลางสี่แยกพร้อมมึงเลย คือเลิกอ่านไปพักนึงกลับมา ฮะ? อ่าว เรือกูล่มปากอ่าวเรอะ..
ฟ้ามืด - ..............................
AZ - คือทั้งเรื่องนี่ทำมาเพื่ออะไรกูงงมาก สุดท้ายเรื่องนี้เจ้าหญิงนี่เป็นแค่ตัวแปรที่ทำให้สองหนุ่มมาพบกัน? เรื่องนี้ทำกูช้ำทำกูเจ็บมาก จนเพื่อนยื่นวายฮิลลิ่งสองหนุ่มมานั่นล่ะ เบิกเนตรกูเลย
ชมรมคนไร้เพื่อน - กูเชียร์เพื่อนสมัยเด็ก(ถึงแม้จะทำใจไว้แล้วว่าน้องเนื้อหัวเหลืองน่าจะเข้าวินก็ตาม)
Yahari - อวยยูกิโนะ แต่ได้ดูแค่ssแรก ยังไม่ได้หาดูต่อเลย
Soma - กูอวยเอรินะ บทมันได้มาก กูชอบเวลาโซมะมันพูดไปเรื่อยแล้วมีแค่เอรินะที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อน5555
ตอนล่าสุดกูว่าท่านเรย์กะนี่เป็นพระเอกไปแล้วว่ะ รากิอะไรช่างมันเถอะ455555
วันนี้โคตรดี นอกจากแปลไทยมา raw ก็มาด้วย กี๊สสสสส แวบไปอ่านก่อนทั้ง 2 อย่าง ทำกุตื่นตาสว่างทันใด
ท่านเรย์กะปักธงเองจะดีหรอ55555
เรือวาคาบะแล่นแรงจริง :v
คาบุรากิแย่มาก นอกจากทำให้วาคาบะแย่แล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นยังไม่รู้ไม่ได้มาช่วยสาวเจ้า เป็นสโตรกเกอร์ไม่ใช่เรอะหัดใช้ความสโตรกเกอร์ให้ดีกว่านี้หน่อยสิ!
ไม่ได้ ไม่ได้ ปรับตก เดินเรือเรย์กะวาคาบะแทน ท่านเรย์กะแมนมาก วาคาบะก็เข้าใจเรย์กะมาก ของตอบแทนคือเค้กค่ะ! 5555
เห็นเพื่อนโม่งทักเลยรีบเข้าไปดู ดิบอัพตอนใหม่จริงๆแล้วด้วย!!! //กราบฮิโยโกะซามะ
.
.
.
.
.
.
.
พวกรุ่นน้องนี่ดูแล้วเหมือนตั้งใจจะเข้าหาเรย์กะซามะจริงๆแฮะ คุยกันสนิทสนมเชียว อยากรู้จริงๆว่าตอนรุ่นน้องเรียก"เรย์กะซามะ" เอ็นโจจะมีปฏิกิริยายังไง ฮุฮุ //ส่วนไพโรลิอินคงขำตัวสั่น
แล้วเอ็นโจตอนนี้นี่...รุกเข้าหาจริงๆสินะ!!! ไม่ยอมปล่อยโอกาสตอนที่แล้วให้หลุดลอย ชวนคุยต่อแถมยังโยงคาบุรากิมาเอี่ยวถึงเรื่องสถานที่เดทหน้าร้อนอีก ไม่กล้าชวนเขาไปด้วยกันสองคนเลยต้องลากคาบุรากิมาเอี่ยวสินะ สมเป็นเอ็นโจ...
กุก็เป็นโรคกระเพาะนะ พออ่านดิบช่วงหลังแล้วแอบสงสารเรย์กะไปด้วย แต่ก็ฮาอยู่ดี 555
.
.
.
.
.
ไอตัวแบคทีเรียไพโรลี่นี่บทเยอะนะมึงไปๆมาๆ หรือนี่พระเอก!!?? ใครโผล่มาก็ต้องแซะเรื่องนี้ นี่มันมาหลายตอนละแถมท่าทางจะอยู่กันอีกยาวววว แต่ถ้าท่านเรย์กะจะไปเช็คนี่ต้องส่องกล้องลงไปเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ จากประสบการณ์ตรงของกุคือต้องดูวีดีโอที่กล้องบันทึกไว้ตอนจกเนื้อกระเพาะกุไปด้วยอะ มีความเลือดพุ่งนิดนึง คาดว่านางไม่ไปตรวจแน่
ไหนๆก็พูดถึงเรื่อง แบคทีเรีย ไพโรลี่ แล้ว กุเอาเพลงของเจ้าแบคทีเรียตัวนี้มาฝาก 55555+
เดี๋ยวๆ ท่านเรย์กะกรุหลังๆมียันเรือแบคทีเรียเลยเหรอ ฮา
แปลไทยวันนี้ ท่านเรย์กะอย่างเสะอะ เท้เท่ วาคาบะจังล่อด้วยเค้กแล้วฉุดเข้าบ้านเรยยยยยบย
ส่วนดิบไปดำน้ำตามละ มาน้อยๆแต่ชุ่มชื่นหัวใจเจงๆ
.
.
.
.
.
ก๊าวใจตรงที่เอ็นโจไปหาข้อมูลต่อเรื่องสถานที่จะไปนี่แหละ ดูเหมือนจะวางแผนการไปไว้แล้วด้วยนะ โฮ่ย ทำขนาดนี้จะชวนก็ชวนเลยเสะ ป๊อดละเกิลจอมมารเรา อ้างนู่นอ้างนี่
แอบคิดว่าตอนเอ็นโจบอกว่าเมืองดอกผักบุ้งเหมาะกับการเดทหน้าร้อนนี่ จริงๆคือหมายถึงเดทระหว่างตัวเองกับเรย์กะรึเปล่า วั้ยยยย
บางทีถ้าไปกันสามคนอาจมีศึกชิงนางเกิดขึ้น กรี๊ดดดด //สูดกาวฟอดๆ
>>694 ตายโล้ววววววววว //ทำเสียงแบบอีเจี๊ยบ
หาข้อมูลเป็นอย่างดี วางแผนจะไป เอาเข้าจริงไม่กล้าชวนงั้นเร้อออ กล้าๆหน่อยสิเฮ้ย ใครก็ได้ส่งความกล้าไปให้ท่านจอมมารทียยยยย์
กูไม่หวังศึกชิงนางจากเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะอ.ฮิโยโกะเป็นนักหักธงในตำนาน ใครเข้าวินกูก็โอเคหมด หรืออีแบคทีเรียจะเข้าวิน??
ตอนจบท่านเรย์กะอาจตระหนักถึงความสุขแบบสามัญชน ละทิ้งคฤหาสน์ใหญ่โตมาช่วยงานร้านเค้กบ้านวาคาบะจังแบบกินอยู่ไปในตัว พอมีงานเทศกาลก็ไปเดินแทะปลาหมึกปิ้งกับวาคาบะจังอย่างมีความสุขก็ได้นะเนี่ย แค่ริรินะคงมาตามตบลากตัวกลับไปแหงๆ
แปลไทยตอนล่ะสุดกูกรี้ดท่านเรย์กะมาก เขินสัส อ่านไปเขินไป ถ้ากูเป็นวาคาบะกูคงตกหลุมรักท่านเรย์กะไปแล้ว
ท่านเรย์กะแปลไทยล่าสุดโครตพระเอกเลย คาบุรากิหลบไปเหอะ ให้ท่านเรย์กะคู่วาคาบะแทน ส่วนนายก็ไปให้เพื่อนนายรักษาแผลใจให้นะ ไปๆ ตรงนี้เขาจะปลูกดอกไม้กัน
>>694 โอ๊ยยยยยยย ขัดใจค่ะ ขัดใจ ขัดใจมากกกกกกกกก กล้าๆหน่อยสิคะ อย่าป๊อดสิ เดี๋ยวให้เรย์กะร้องเพลงพ่อคุณทูนหัวให้เลยนี่
"หากว่าเธอชอบฉัน ต้องเข้ามา
ใจกล้ากล้า ซักหน่อย"
https://www.youtube.com/watch?v=-uhhnc2H_J0
อร๊างงงง เจาะเรือเอ็นโจ มาลงเรือยูริกันเถอะ!
ตอนนี้เรย์กะหล่อเว่อวังงงงง เปิดตัวพระเอกแล้วสินะหลังจากเดากันมานาน เป็นท่านเย์กะนี่เองงงง กลิ่นลิลลี่หอมหวาน~~
ที่จริงกุกำลังแต่งฟิคแนวๆท่านเรย์กะช่วยวาคาบะจังอยู่ พอกุมาเจอแปลไทยตอนล่าสุดนี่กุถึงกับกุมขมับ หรือกุควรเปลี่ยนบทดีวะ orz
อยากเห็นฟิคเรย์กะกับวาคาบะสลับร่างกันมั่ง
แต่เรย์กะคงจะเปรมปรีดิ์กลายเป็นฟิคเรย์กะชวนชิมอาหารสามัญชนแหงๆ 5555
ขณะนี้เรือวาคาบะไม่ใช่ฝีพายธรรมดาแล้ว นี่มันติดเครื่องเจ็ตเต็มสูบ แล่นฉิวยิ่งกว่าเรือใดๆ!
ถ้าเรื่องนี้มีประกวดความนิยมแบบการ์ตูนจัมพ์คงฮาสุดๆ ท่านเรย์กะคงครองอันดับหนึ่งตลอดกาล แต่คาบุรากิ เอ็นโจ ตัวท็อปๆ ก็อาจถูกถีบลงไปรั้งท้ายได้ เวลาท่านพี่หรือวาคาบะจังโผล่ 5555
แล้วคาบุรากิก็จะตกหลุมรักเรย์กะ เพราะเห็นท่าตีลังกาหลบรถ
พวกสาวๆที่แกล้งวาคาบะจังก็เจอเจ้าแม่องค์ลง(?) จนไม่กล้าทำอะไรอีก เอ็นโจเห็นเป็นเรื่องน่าสนุกเลยตามติด
>>721 หัวกระเซิงเพราะไปมุดป่าหาของมาทำกับข้าวสำหรับเย็นนี้
เอาเถื่อนๆหน่อยก็ วาคาบะในร่างเรย์กะแบกหมูป่าที่ล่ามาได้จากป่าซุยรัน วางลงบนโต๊ะครัวแล้วเริ่มถอนขนออก ทำความสะอาด เอาเครื่องในออกมา หมักเครื่องเทศแล้วย่างทั้งตัว ย่างด้วยไฟอ่อนๆอย่างใจเย็น พอท่านพี่กับท่านพ่อกลับมาบ้านก็แล่มาให้สดๆใหม่ๆจากกองไฟ ชูนิ้วโป้งให้เป็นการการันตีว่าอร่อยมาก สูตรบ้านทาคามิจิเอง
ไม่นะ ท่านเรย์กะตัวจริงต้องโดนหมูป่าไล่ขวิดสิวะ ฝ่ายที่โดนไล่ล่ามันกลับกันอยู่นะ
ว่าแต่ มันไม่มีใครคัดค้านประเด็นที่มีหมูป่าอยู่ในโรงเรียนเลยเหรอวะ ทุกคนคิดว่าเป็นไปได้สินะ 55555 ถ้าวาคาบะในร่างเรย์กะไปล่ามาได้จริง คบรก.มันคงยินดีมาก ในที่สุดก็เก็บนักษัตรปีกุนได้แล้วสินะ คิโชวอิน เยี่ยมมาก
เอ็นโจก็อาจจะจับผิดสังเกตได้เหมือนกันนะ ตามสตอล์กมาตั้งหลายปี คงเห็นว่าผิดปกติ ถถถ
วาคาบะกับเรย์กะก็ต้องมาติวหนังสือด้วยกัน เพราะเดี๋ยวอันดับวาคาบะตก แล้วเรย์กะก็นึก ว้าว ทำไมร่างนี้จำอะไรได้ง่ายจัง
วันนี้มีกาวให้สูดมั้ย
วันนี้บอร์ดเงียบมากอะ เหงาอยากได้กาว
เรื่องประหลาดในโรงเรียนซุยรัน ภาคป่าหลังโรงเรียน
__________
เฮ้อ เมื่อยจังเลย~ ในที่สุดการเรียนของวันนี้ก็จบลงซักที.. อยากกลับบ้านเร็วๆจังเลยน้า~~
"ยัยคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! อย่างเธอน่ะต้องเจอแบบนี้!!"
"โฮะโฮะโฮะ"
หวายๆ เสียงแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเป็นพวกคุณซึรุฮานะอีกแล้ว!
คราวที่แล้วก็ขังไว้ข้างนอกจนวาคาบะจังต้องเปียกฝน ครั้งนี้คิดจะทำอะไรอีกกันคะ!!
"นี่เธอ ไปหยิบถังน้ำมาให้หน่อยสิคะ" จะเอาน้ำมาสาดวาคาบะจังงั้นเหรอคะ ก็เป็นการกลั่นแกล้งของตัวร้ายที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ.. ไม่คิดจะแกล้งด้วยวิธีที่ใสสะอาดอย่างทำตัวให้ดีกว่าอะไรแบบนี้เลยหรือไงกันนะ
เดี๋ยวสิ ตอนนี้ฤดูหนาวแล้วนะคะ!! คิดจะสาดน้ำใส่ในฤดูนี้จะโหดร้ายเกินไปแล้วนะ!!!
ไม่ได้ๆ ฉันคงต้องออกหน้าเบาๆซะแล้วล่ะค่ะ
...หรือจะรอให้คาบุรากิมาทำคะแนนดี? ยังไงทั้งคู่ก็น่าจะผูกชะตากรรมด้วยด้ายแดงอยู่นี่นา
เห ลูกสมุนของคุณซึรุฮานะถือถังน้ำเดินมาโน่นแล้ว!? ถึงฉันจะวิ่งไปตามคาบุรากิมาคงไม่ทัน.. ขอโทษนะ คาบุรากิ ถ้าเจอกันคราวหน้าจะซื้อช็อกโกล่าไปไถ่โทษให้นะ
"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ากำลังทำอะไรกันอยู่เหรอคะ?" ฉันพยายามกดเนื้อเสียงให้ราบเรียบ ตายจริง เหมือนจะไม่ได้หยิบพัดคู่ใจมาล่ะค่ะ วัดใจกันด้วยบรรยากาศล้วนๆเลย จะไหวมั้ยนะ..
"ท่านเรย์กะ!!?"
"ค คือนี่มัน.."
"ก็กำลังทำให้คุณทาคามิจิรู้ฐานะของตัวเองน่ะสิคะ โฮะโฮะโฮะ" ถึงจะมีบางคนที่ดูเกร็งกลัว แต่คุณซึรุฮานะก็ยังคงตอบกลับมาราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ใครๆก็ทำกัน
"อื๋อ ดิฉันไม่คิดว่าพวกเราที่เป็นนักเรียนซุยรัยอันทรงเกียรติ จะมากลั่นแกล้งกันเพียงเพราะแค่เรื่องฐานันดรหรอกนะคะ?" ว่าแล้วฉันก็กระตุกยิ้มเลียนแบบใครบางคน... จะใช้ได้รึเปล่าคะเนี่ย เซริกะจังกับคิคุโนะจังไม่ได้อยู่ข้างๆซะด้วย ถ้าถูกโต้กลับด้วยจำนวนคนจะทำยังไงดีนะ "อึก.." ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายหลายๆเสียงประสานกัน ถ้าคุณถอย ฉันก็ถอยนะคะ!? ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็แค่อยากปกป้องวาคาบะจังเท่านั้นเอง---
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก!!
จู่ๆก็ได้เสียงคนหลายคนกำลังวิ่งมาทางนี้ อ่าว ตายจริง คงไม่ต้องเก๊กโหดแล้วล่ะมั้งคะ?
...ไม่รู้ว่าทำไม แต่จู่ๆคุณซึรุฮานะก็แสยะยิ้มขึ้นมา
!!!
จู่ๆวาคาบะจังที่นั่งอยู่กับพื้นก็ลุกขึ้นมาขว้าแขนฉันวิ่งไปอีกทาง เอ๋ เอ๋??? พวกเราวิ่งไปเรื่อยๆ ถึงจะเจอป่า วาคาบะจังก็ยังคงพาวิ่งเข้าไปเรื่อยๆ
"ค คุณทาคามิจิ~~" จะหมดแรงแล้วน้า กล้าม-- กล้ามเนื้อที่ขามัน----
"! ขอโทษค่ะ" วาคาบะที่รู้สึกตัวแล้วปล่อยมือฉันแล้วก็ก้มหัวปลกๆขอโทษขอโพยใหญ่เลยล่ะค่ะ ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถามต่อ
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ แต่ว่าทำไมถึงต้องหนีออกมาล่ะคะ?"
"อ่า.. คือว่า~"
"กลัวว่าคุณคิโชวอินจะถูกใส่ร้ายเอาน่ะค่ะ"
หือ ใส่ร้าย? ทำไมถึงคิดอย่างงั้นล่ะคะ??
พอวาคาบะจังเห็นหน้างงๆของฉันก็อธิบายต่อ อืม... เหมือนวาคาบะจังจะคิดว่าหากมีคนอื่นมาพบในจังหวะสุ่มเสี่ยงอย่างนั้น พวกคุณซึรุฮานะอาจจะโบ้ยความผิดมาที่ฉันได้ หืม ความคิดของอัจฉริยะนี่เป็นสิ่งที่คนธรรมดาคาดไม่ถึงจริงๆนะคะ..
"แต่ตอนนี้คงไม่เป็นอะไรแล้วล่ะค่ะ กลับบ้านกันดีกว่า"
"คือว่าตอนนี้ฉัน..." อ้ะ จะว่าไปฉันต้องตอบแทนวาคาบะจังด้วยนี่นา อยากพาไปเที่ยวงานเทศกาลจังน้า
"...จำทางกลับไม่ได้ล่ะ" ฮืม~ ฮืม~
"อ้าว ถ้างั้นพวกเราก็กำลังหลงทางอยู่งั้นเหรอคะ?"
"ใช่ค่ะ"
"แหมๆ ล้อเล่นแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะคุณทาคามิจิ"
"...." วาคาบะจังทำหน้าเศร้า อ เอ๋
พวกเราหลงทางกันจริงๆเหรอค้า!!?
______
มา ต่อฟิคกันเถอะเพื่อนโม่ง..
กูนอนกลางวัน แล้วฝันว่าท่านพี่ทาคาเทรุคบกับวาคาบะ อีเหี้ย แตกตื่นกันทั้งคนในเรื่องและคนอ่าน ทีแรกวาคาบะก็โดนท่านแม่ของท่านเรย์กะกีดกันสุดฤทธิ์ ไปๆ มาๆ ท่านพี่ก็กล่อมท่านแม่สำเร็จ จบแฮปปี้ ส่วนคาบุรากิไปทะเลรอบสอง ลำบากเอ็นโจไปลากกลับมา ละกูก็ตื่น... โคตรพี้กาว อ่านมู้โม่งจนหลอน กูตื่นมางี้เหงื่อแตกพลั่กๆ 5555555555555
มองซ้ายมองขวา นี่สองทุ่มแล้ว เด็กเข้านอนกันหมดแล้ว ลงได้ ตอนนี้อาจมีฉากไม่เหมาะสม ควรใช้จักรยานในการอ่าน
>>>/webnovel/3600/305 เอ็นโจเลี้ยงต้อย
----------------------
ตอนออกจากชิงช้า ผมประคองเธอให้เดินก้าวออกมา หลังจากนั้นก็ไม่แตะต้องเธออีก
รู้ทั้งรู้ว่าทำแบบนี้มันแย่ ผู้ชายที่ดีควรจะคอยซับน้ำตาให้ผู้หญิงเวลาที่กำลังร้องไห้ แต่จะให้เอื้อมมือไปหา เรี่ยวแรงก็เหมือนจะหายไปไหนหมดก็ไม่รู้
ผมกลัว กลัวว่าเธอจะปัดมือผมออก เหมือนที่ปฏิเสธผมเมื่อครู่นี้
ขากลับมีแต่ความเงียบ เราสองคนนั่งกันคนละมุม มองไปนอกหน้าต่าง ผิดจากขามาที่คุยกันสนุกสนาน
เรย์กะโค้งหัวขอบคุณผมที่มาส่งถึงคฤหาสน์คิโชวอิน เธอมองผมด้วยสายตากล้าๆกลัวๆแบบที่ใช้ประจำเวลาที่รู้ตัวว่าทำอะไรผิด
“คุณชูสุเกะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากหรอก”
ผมยิ้มฝืนๆให้เธอหนึ่งที ก่อนจะกลับขึ้นรถ แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกลับมาที่บ้านตอนไหน ทุกอย่างเลื่อนลอยเหมือนอยู่ในฝัน
ในโลกเดิม ผมเจ็บปวดและผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอมาโลกนี้ตั้งใจว่าจะแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น ความผิดหวังก็ยังตามมาหลอกหลอน
พระเจ้า ผมทำอะไรผิดนักหรือ
ถ้าให้ผมตายจากโลกเดิมทั้งๆที่เป็นเช่นนั้น ก็ไม่ควรให้ฟื้นขึ้นมาอีกสิ จะให้ผมกลับมาเจอความเจ็บปวดบ้าๆนี่อีกทำไม
ผมอยากขว้างปาข้าวของ อาละวาดทุบทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าให้แหลกละเอียดเพื่อระบายอารมณ์ แต่ที่ทำได้ก็แค่นอนนิ่งๆบนเตียงแบบไร้เรี่ยวแรง หัวใจเจ็บจนชาหนึบ แม้แต่น้ำตาเองก็ยังไม่ไหลสักหยด อยากจะหลับไปอย่างนี้ แล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย
ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เช้าแล้ว ผมแต่งตัวไปโรงเรียนแบบเลื่อนลอย คล้ายกับกึ่งฝันกึ่งตื่น
ชูสุเกะในโลกกระจกที่มักปรากฎตัวเวลาที่ผมมีเรื่องไม่สบายใจหรืออยากปรึกษาใคร ก็ไม่มาให้เห็น
หมอนั่นหายไปนานมาก หรือว่าจะหายไปจากจิตใต้สำนึกผมแล้ว ร่างนี้เลยเป็นของผมสมบูรณ์
ถ้าให้เลือก ผมยินดีที่จะกลับไปร่างเดิมของตัวเองมากกว่า อย่างน้อยก็ยังพอมีทางทำอะไรได้ ไม่ใช่ต้องมารอด้วยความหวังลมๆแล้งๆแบบนี้
ผมรู้รสชาติของการแอบรักข้างเดียวมานานนับสิบปี ความรู้สึกพวกนั้นใช่ว่าจะไถ่ถอนกันออกไปได้ง่ายๆ และการรักคนที่เขาไม่มีวันจะหันมามองเรานั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวด
ผมรู้ เรย์กะก็รู้ แต่ก็ยังเลือกทำแบบนั้น
มองรูปโฉมตัวเองในกระจกเงา ท่านพ่อท่านแม่มอบให้ทุกอย่าง ทั้งหน้าตา ฐานะ ชาติกำเนิด หรือสติปัญญา แต่ทุกอย่างนี้ไร้ความหมาย ในเมื่อผมไม่สามารถใช้มันล่อลวงเธอได้
ตอนอยู่ที่โรงเรียน คงต้องหายหน้าไปจากสายตาเธอสักพัก แบบเดียวกับตอนโทโมเอะที่เคยทำในโลกก่อน
เธอคงไม่อยากเจอหน้าผม ผมเองก็ไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเธอด้วยเช่นกัน
.
.
.
เพราะรู้ตารางเวลาของเธอ ผมถึงมั่นใจว่าจะหลีกเลี่ยงเรย์กะไปได้ อย่างน้อยก็ซักสองสามสัปดาห์ คงพอซื้อเวลาที่จะทำใจได้บ้าง
ตอนพักกลางวัน เรย์กะก็ไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนที่โต๊ะธรรมดา ไม่มานั่งโต๊ะ Pivoine อย่างเคย เราสองคนไม่แม้แต่จะหันไปมองกันสักครั้ง นั่งทานกันไปเงียบๆ ตอนเดินสวนกันตามระเบียงเพราะเปลี่ยนคาบเรียนก็ต่างคนต่างเดินไม่สนใจ ทำเหมือนเป็นธาตุอากาศว่างเปล่า
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ระหว่างที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบที่บ้านมาซายะ เขาก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้น
“ทะเลาะกับคิโชวอินรึไง”
“เปล่านี่”
“อย่ามาปฏิเสธหน่อยเลย” มาซายะมองผมขึ้นๆลงๆ “ปกตินายชอบหายไปอยู่กับคิโชวอินตลอด ตอนนี้กลับมาขลุกอยู่กับฉัน แล้วก็ทำท่าเหมือนคนอกหัก”
“ไม่ใช่หรอก”
“ชูสุเกะ ฉันเป็นเพื่อนนายมากี่ปีแล้ว” มาซายะพ่นลมหายใจแล้วส่ายหน้า “นายเปลี่ยนไปทำไมฉันจะไม่รู้ บอกตรงๆว่ามันทำให้ฉันอึดอัดมาก เวลาเห็นนายพยายามฝืนยิ้ม”
“ผมไม่ได้ฝืน”
มาซายะเอาสมุดที่กำลังถืออยู่ฟาดหัวผม ถ้าเป็นโลกเก่าเขาคงไม่กล้าทำแบบนี้
“ให้มันน้อยๆหน่อยเจ้าบ้า” เขาถลึงตาใส่ “สภาพแบบนี้เนี่ยนะไม่ได้ฝืน คนทั้งโรงเรียนเขารู้กันหมดแล้วว่านายสองคนทะเลาะกัน”
“สังเกตง่ายขนาดนั้นเลยสินะ” ผมฟุบหน้าลงกับโต๊ะแบบหมดแรง
“ก็เออน่ะสิ” มาซายะดูหงุดหงิดได้ที่ “ถ้ายัยคิโชวอินหักอกนายไปหาคนอื่นล่ะก็ ฉันจะไปจัดการยัยนั่นเดี๋ยวนี้ ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ดีขนาดไหนถึงทำให้ยัยนั่นกล้าปฏิเสธเพื่อนของฉันคนนี้กัน หืม”
ก็นายไง
ผมคิดอยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป
อันที่จริง ใช่ว่ามาซายะจะไม่รู้ว่าเรย์กะคิดอะไรกับตัวเอง แต่เพราะเธอตัวติดกับผมตลอด มาซายะคงจะคิดว่าเรย์กะตัดใจจากเขา ยอมเปิดใจให้ผมได้ในที่สุด
“ไม่มีอะไรหรอก” ผมลุกขึ้นมานั่ง จับหนังสือเรียนมาบังหน้า “เราก็แค่ตกลงกันว่าจะตั้งใจอ่านหนังสือสอบ แล้วก็ยุ่งๆด้วย เลยไม่ได้คุยกันก็เท่านั้นล่ะ”
มาซายะเลิกคิ้วขึ้น แล้วก็ถอนใจออกมาแบบเหนื่อยหน่าย เปิดหนังสืออ่านทบทวนบทเรียนวิชาต่อไปไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอีก
โชคดีที่ช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว พอจะมีอะไรมาดึงความสนใจไปได้บ้าง ผมทุ่มอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นก็ได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อไม่ให้มีเวลาว่างฟุ้งซ่านไปคิดเรื่องอื่น
.
.
ความพยายามของผมสำเร็จผล การสอบปลายภาคงวดนี้ผมได้ลำดับหนึ่ง ที่สองคือมาซายะ ผมว่าจะไม่สนใจแล้ว แต่ก็ยังกวาดตามองหาชื่อของเธอบนบอร์ด
ปกติที่ผมติวให้ เธอมักจะอยู่ราวๆลำดับที่ 10-20 เสมอ แต่ตอนนี้กลับหาชื่อเธอไม่พบ ไม่อยู่ตรงไหนบนบอร์ดเลย
พอเห็นกลุ่มของเรย์กะเดินมาดูคะแนนของตัวเอง ผมเลยชวนมาซายะไปจากที่นี่ ตอนเดินสวนกันเธอทำเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ผมทำแค่ยิ้มน้อยๆให้แล้วไม่สนใจ
“พวกนายสองคนยังไม่คืนดีกันอีก” มาซายะถามขึ้น
“พูดเรื่องอะไรเหรอ”
“ยัยนั่นหน้าเสียไปเลยนะ ตอนนายเมินใส่”
“อือ” ผมพยักหน้า “แล้วไง”
“ชูสุเกะ นายมีปัญหาอะไรก็บอกฉันมาเถอะ” มาซายะวางมือสองข้างลงบนไหล่ผม “ฉันไม่ชอบที่นายเป็นแบบนี้เลย”
“ไม่มีอะไรหรอก มาซายะ” ผมปัดมือที่วางอยู่บนไหล่ออกแล้วเดินจากไป
“ชูสุเกะ”
มาซายะตะโกนไล่หลังมา แต่ผมไม่สนใจจะฟัง
วันนี้เลิกเรียนเร็วผมควรจะกลับบ้านไปพักผ่อน จุดเทียนหอม แล้วก็แช่น้ำอุ่นจะได้ผ่อนคลายจากเรื่องวุ่นๆนี่ ผมลากขาเดินไปตามทางเดินที่นำไปสู่ลานจอดรถด้วยความรู้สึกหลายอย่างปนเปสับสน
นึกไม่ถึงว่าพอเลี้ยวตรงหัวมุมไป จะพบกับเรย์กะที่ยืนดักอยู่
“คุณชูสุเกะ”
ผมยังไม่ได้เตรียมใจเผชิญหน้ากับเธอในสถานการณ์เช่นนี้ ทำได้แค่ยิ้มฝืดๆให้ คิดหาทางตัดบทให้เร็วที่สุด
ขืนผมอยู่ต่อหน้าเธอนานๆ ผมคงทนไม่ไหว
“มีอะไรเหรอ”
“ยินดีด้วยที่ได้ที่หนึ่งนะ” เรย์กะยิ้ม แต่ดูเป็นรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนชอบกล
“ขอบคุณมาก” ผมก้มหัวให้น้อยๆ
ผมกับเธอยืนนิ่งกันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครพูดอะไร ความเงียบครั้งนี้ทำให้อึดอัดยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่ผ่านมา
“แล้วก็ สะ สอบครั้งนี้ ฉัน...ไม่ติดอันดับ” เธอพูดเสียงแผ่วๆ ช้อนตามองแบบกล้าๆกลัวๆ “คุณชูสุเกะโกรธรึเปล่า”
“ทำไมผมต้องโกรธด้วยล่ะ”
“ก็...ก็…” เธอก้มหน้าลงอย่างเดิม สองมือขยุ้มชายกระโปรงไว้แน่น
“มีธุระแค่นี้สินะ งั้นขอตัวก่อน กลับบ้านดีๆล่ะ” ผมยิ้มให้แล้วเดินผ่านเธอไป
เดินไปไม่กี่ก้าวก็รู้สึกว่าถูกดึงชายเสื้อจากทางด้านหลัง หันไปก็เห็นเรย์กะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“คุณชูสุเกะ” น้ำเสียงของเธอที่ร้องเรียกชื่อผมยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บปวด “จะด่า จะตบฉันก็ได้ แต่อย่าเมินกันแบบนี้เลย ขอร้องล่ะ”
“ผมไม่ทำแบบนั้นหรอกนะ”
เรย์กะก้มหน้าลง เอาหัวซุกลงกับหลังของผม มือยังกำชายเสื้อไว้แน่น
ผมถอนหายใจ แกะมือนั้นออก คิดว่าอ้อนแบบนี้จะได้ผลทุกครั้งเลยงั้นเหรอ คิดผิดแล้วล่ะ
กำลังจะเอ่ยคำพูดลา อยู่ๆก็ถูกดึงคอปกเสื้อให้ก้มลงไปเบื้องล่าง ตามมาด้วยความอ่อนนุ่มตรงปาก
โลกหยุดเคลื่อนไหวไปอีกหน
เรย์กะกดริมฝีปากตัวเองเข้ากับปากผม แค่แตะๆไม่เกินเลยไปมากกว่านี้ ผมรู้สึกว่าริมฝีปากนั้นสั่นระริก มือทั้งสองข้างที่กำคอปกเสื้อผมก็สั่นด้วย
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน
ในหัวผมคิดอย่างสับสนอยู่นั้นเอง เธอก็ปล่อยมือออก ถอยหลังไปหลายก้าว สองข้างแก้มแดงก่ำเหมือนมีใครสาดสีแดงใส่หน้า
“จะ จูบวันนั้น ฉันไม่ได้รังเกียจหรอกนะ แต่...”
ไม่รอให้พูดจบประโยค ผมก็คว้าข้อมือเธอ เดินลิ่วๆไปที่ห้องเรียนว่างๆห้องหนึ่ง เรย์กะดูจะงุนงงไม่น้อยกับท่าทีนั้น พอจัดการล็อคกลอนไม่ให้ใครเข้ามายุ่มย่ามหรือขัดจังหวะได้ ก็ดันร่างนั้นไปชิดประตูแล้วแนบริมฝีปากลงไป มือสอดประสานเข้ากับมือเธอที่ตรึงไว้บนผนัง
สิ่งที่กักเก็บไว้มาเนิ่นนาน พังทลายได้ง่ายดายเพียงแค่จูบ
“อ้าปาก อ้าปากสิ” ผมกระซิบชิดริมฝีปาก พอเธอทำตาม ผมก็มอบความหวานล้ำให้ คล้ายกับผู้ใหญ่ที่เอาขนมหวานมาล่อเด็กน้อยให้เข้าหา
เรย์กะดูจะกล้าๆกลัวๆ แต่ก็ยอมโอนอ่อนตามโดยง่าย
เห็นเธอตอบสนอง ผมก็ยิ่งยินดี
ผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ไม่มีใครทราบ ริบบิ้นที่มัดอยู่ตรงปกเสื้อเธอก็เลื่อนหลุดไปพร้อมกระดุมเม็ดบนที่ถูกปลดออก ผมซุกหน้าลงกับต้นคอของเธอ จูบเบาๆแต่ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ จากที่ยืนๆอยู่เปลี่ยนมานั่งกับพื้นกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะผละออกจากร่างนั้น กลิ่นหอมหวานที่เย้ายวนเหมือนจะมอมเมาสติ ยิ่งได้ยินเสียงหอบหายใจน้อยๆที่ดังอยู่ข้างหูที่เหมือนจะแกล้งกัน ยิ่งทำให้รู้สึกทรมาน
ผมได้แต่บอกตัวเองว่าครั้งแรกต้องไม่ใช่ที่นี่ ไม่ใช่หน้าประตูห้องเรียนแบบนี้
“เรย์กะ” ผมเรียกชื่อเธอเบาๆ ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ร้องไห้แบบคราวนั้น อันที่จริงมันตรงกันข้ามด้วยซ้ำ มันดู เอ่อ...ยั่วยวน ถ้าใช้คำนี้คงจะเหมาะที่สุด
ตอนนี้ผมมองเธอแทบไม่ได้เพราะกลัวตัวเองจะกระโจนใส่แบบขาดสติเหมือนเมื่อครู่นี้ สองมือติดกระดุมกลับคืนที่ให้ มองหาริบบิ้นที่อาจจะตกอยู่แถวๆนั้น พอพบก็ส่งคืนให้เจ้าของ
“ขอโทษด้วยนะ”
“คุณชูสุเกะไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” เรย์กะหันไปมองทางอื่น สองข้างแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ “ไม่ต้องขอโทษหรอก มะ เมื่อกี้ก็รู้สึกดีด้วย”
“เอ๋ เมื่อกี้พูดอะไรนะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ “ไม่ได้ยินเลย”
“พะ พอเลย” เธอทุบลงบนไหล่ผม “บอกว่างั้นๆนั่นล่ะ”
“จริงเหรอ”
เมื่อได้จ้องตากันใกล้ๆแบบนี้ เรย์กะก็เป็นฝ่ายหลบตาก่อน พูดด้วยเสียงอ้อมแอ้ม
“ที่จริงแล้ว วันนั้นฉันดีใจมากเลยนะที่คุณชูสุเกะ เอ่อ...จูบฉัน ข้างในมันก็หวิวๆแปลกๆ ใจสั่นไปหมด”
“อือฮึ”
“แต่ แต่ว่าฉันน่ะ ยังลืมท่านคาบุรากิไม่ได้ ก็เลยรู้สึกสับสนเอามากๆ”
หัวใจผมหล่นวูบลงไปเล็กน้อยเมื่อชื่อของมาซายะเข้ามาข้องเกี่ยว
“ฉันรู้ว่าคุณชูสุเกะคิดยังไงกับฉัน แต่การที่ฉันยังไม่ลืมท่านคาบุรากิ มันก็เหมือนหลอกให้คุณชูสุเกะรักฉันไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย รู้สึกว่าตัวเองแย่มากๆ ก็เลยร้องไห้ออกมา ไม่ได้ร้องไห้เพราะรังเกียจหรืออะไรหรอกนะ”
เธอช้อนตามองผมด้วยสายตาแบบเดิมที่ทำมานับครั้งไม่ถ้วน
“คุณชูสุเกะจะเกลียดฉันก็ได้นะ”
“แค่นี้เองเหรอ” ผมฟุบหน้าลงบนไหล่เธอแล้วเริ่มต้นหัวเราะ “นึกว่าเป็นเรื่องอะไรใหญ่โตซะอีก”
“เอ๋”
“ผมรู้ว่าจะทำใจให้ลืมรักแรกน่ะมันยาก แต่เรย์กะก็อย่าปิดกั้นตัวเองขนาดนั้น” สองมือผมสอดประสานเข้ากับมือของเธอ “มีผู้ชายที่เลิศเลอขนาดนี้มาอยู่ตรงหน้า ไม่รีบคว้าเอาไว้ระวังจะมาร้องไห้เสียดายทีหลังไม่ได้นะ”
“แน้” เธอทำปากยื่นแบบเด็กที่ถูกขัดใจ “หลงตัวเอง”
“หรือไม่จริง”
จ้องตากันอยู่ครู่หนึ่ง เรย์กะก็เป็นฝ่ายหลบตาก่อน “ฉัน...จะพยายามนะ ช่วยรอฉันหน่อย ขอให้ฉันจัดการความรู้สึกตัวเองอีกหน่อยนะคะ”
“ได้สิ” ผมพยักหน้า “จะให้รอเท่าไหร่ก็ได้”
เรย์กะยิ้มออกมาได้ในที่สุด รอยยิ้มน่ารักจนผมรู้สึกมันเขี้ยว อดไม่ได้ที่จะฉกฉวยความน่ารักจากริมฝีปากนั้นอีกหน กระซิบเสียงเบาให้ได้ยินแค่สองต่อสอง
“แต่อย่าให้รอนานก็แล้วกัน”
ผมกลับมาบ้านด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ก็รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความหนักอึ้งหลายสัปดาห์ก่อนหายไป มีแต่ความอ่อนนุ่มและสัมผัสอันอ่อนหวานที่ยังติดอยู่จนเผลอแตะริมฝีปากตัวเองบ่อยๆแล้วก็อมยิ้ม
ปากบอกว่าลืมรักแรกน่ะยากและอย่าปิดกั้น เอาเข้าจริง ผมกลับยึดติดยิ่งกว่าใครๆทั้งหมด
ผมรักเธอ รักไปจนถึงหัวใจ ถึงจิตวิญญาณ จะโลกไหน ร่างไหน นิสัยอย่างไรก็รัก รู้ตั้งแต่ได้สบตาว่าผมเป็นของเธอ เป็นของเธอมาโดยตลอด
อายุของผมในตอนนี้ก็เข้าขั้นคุณลุงวัยกลางคนแล้ว แต่กลับมาเขินอาย นอนกลิ้งไปมาบนเตียงแบบหนุ่มน้อยเพิ่งได้รู้จักรัก จูบแค่นี้ก็เป็นเอามาก ไก่อ่อนชะมัด
ชูสุเกะในโลกกระจกจะว่ายังไงบ้างนะ เขาคงรู้อยู่แล้วว่าผมจูบกับเรย์กะ
ผมนึกอยากคุยกับเขา อยากแบ่งปันความยินดีนี้ แม้เขาจะไม่ชอบใจ แต่ผมไม่สน
พอได้เวลาเข้านอน ผมก็หลับไปอย่างง่ายดายด้วยความรู้สึกที่ปลอดโปร่ง
คืนนั้น ผมฝัน
ในฝันไม่มีชูสุเกะในโลกกระจกมารออยู่อย่างเคย
อันที่จริงผมมองอะไรไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ มีแต่ความมืดดำที่หนักอึ้งกำลังถาโถมเข้ามา หรือผมจะยังไม่ลืมตากันแน่นะ
ในขณะที่กำลังฝืนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียง “ชูสุเกะ ชูสุเกะ” ดังก้องไปทั่วเหมือนตะโกนไปในป่าลึก
เป็นเสียงของมาซายะที่เรียกชื่อผม พอผมจะอ้าปากพูด กลับไม่มีเสียงใดๆเล็ดรอดออกไป
“ตื่นได้แล้ว จะนอนไปถึงไหน” เสียงของมาซายะยังคงดังอยู่ “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ทุกคนเขาเป็นห่วงนะ”
“ท่านพี่” อีกเสียงตามมา ยูกิโนะสินะ “ฟื้นขึ้นมาสิฮะ หน้าที่ผู้สืบทอดของท่านพี่มันหนักเกินไป ผมทำไม่ไหวหรอกนะ”
ผมพยายามจะลุกแล้ว แต่กลับเหมือนมีอะไรหนักอึ้งทับตัวเองเอาไว้ แขนขาของผมดิ้นรนอยู่ในความมืด ตะเกียกตะกายที่จะลุกขึ้นมา
แต่อีกเสียงที่ดังขึ้นมาทำให้ผมตะลึงค้าง
“ท่านเอ็นโจ”
คุณคิโชวอิน
“กลับมาเถอะค่ะ กลับมาหาพวกเรา ลืมตาเถอะ ได้โปรด”
เสียงนั้นสั่นเครือราวกับกำลังร้องไห้ แผ่วค่อยเหมือนจะขาดใจ ต่างจากน้ำเสียงกราดเกรี้ยวของมาซายะหรือน้ำเสียงออดอ้อนของยูกิโนะลิบลับ
พอได้ยินก็เหมือนถูกฉุดกระชากออกจากพันธนาการ ผมเป็นอิสระในที่สุดและพยายามลืมตาขึ้น ไขว่คว้ามือเพื่อเอื้อมไปหาเจ้าของเสียงนั้น
แต่เมื่อลืมตา สิ่งที่เห็นก็คือความมืดที่พอจะเห็นได้รางๆว่าอะไรเป็นอะไร ที่นี่คือห้องนอนไม่ใช่ความฝัน ทั้งที่อากาศเย็นขนาดนี้ แต่เนื้อตัวกลับเต็มไปด้วยเหงื่อจนชุ่มชุดนอนที่สวมอยู่
ผมลุกขึ้นจากเตียง เดินโซเซเข้าไปยังห้องน้ำแล้วเริ่มต้นอาเจียน เอาความรู้สึกคลื่นไส้ผะอืดผะอมออกไปจากตัว
เมื่อล้างหน้าล้างตาให้พอสดชื่น ภาพในกระจกสะท้อนภาพของผู้ชายผมสีน้ำผึ้งที่ดูอิดโรยมองตอบมา ในหัวปวดตุบๆอย่างรุนแรง จนต้องควานหายาแก้ปวดในตู้มากรอกปาก นั่งนิ่งๆสักพักในห้องน้ำ พออาการดีขึ้นค่อยเดินกลับไปนอนที่เตียงเช่นเดิม
ความฝันเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน
การที่ผมอยู่ในร่างนี้ โลกเดิมผมก็น่าจะตายไปแล้ว ทำไมถึงได้ยินเสียงของสามคนนั้นกันล่ะ
นั่นเป็นความฝัน หรือความจริงกันแน่นะ
แต่ที่แน่ๆ อาการปวดศีรษะนี่เป็นของจริง ขนาดทานยาแล้วก็ยังแทบไม่ช่วยอะไร
ผมหลับตาลงช้าๆ นึกอยากกลับไปอยู่ในความฝันนั้นอีกครั้ง แต่ไม่สมหวัง ตื่นมาผมก็ยังอยู่ที่เดิม ห้องเดิม ในร่างของชูสุเกะผมสีน้ำผึ้งเหมือนเดิม
เสียงอ่อนระโหยโรยแรงเหมือนจะขาดใจของคุณคิโชวอิน ยังติดตรึงอยู่ในหัว
หากอยู่ตรงนั้น ผมคงเอื้อมมือไปหา เช็ดน้ำตาให้แล้วปลอบเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะสามารถ
พระเจ้าคงโปรดปรานการทรมานผมเสียจริง เพราะให้ผมได้ยินเสียงเธอ ให้ทรมานทุรนทุราย นึกไปต่างๆนานา แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้
ความขมปร่าแล่นขึ้นมาในลำคอ ผมฟุบหน้าลงกับฝ่ามือตัวเอง
และร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวังเป็นครั้งแรก
-----------------
มีต่อดีมั้ยน้ออ หรือจะตัดจบแค่นี้ดี 5555555
>>665 ฟิคตำนานรัก
--
เพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน ขอบตาของฉันในร่างคาบุรากิก็เลยดำคล้ำราวกับหมีแพนด้า
ฉันส่องกระจก มันเห็นชัดมากเลยค่ะ ฉันแหกตาตัวเองดูในกระจก หมอนี่ไม่มีเครื่องสำอางช่วยปกปิดด้วยเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
พอลงมาข้างล่างก็เจอกับมาดามและท่านประธานคาบุรากิ มาดามแลดูตกอกตกใจพอสมควร แต่ฉันไม่มีข้อแก้ตัวใดๆนอกจากบอกไปว่านั่งท่องบทสวดไล่ปิศาจทั้งคืน
ทั้งมาดามและท่านประธานคาบุรากิสุดเท่จ้องมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าว่างเปล่า และไม่ได้เอ่ยถามอะไรนอกจากนี้อีกเลย
ฉันนั่งรถมาโรงเรียนด้วยเวลาที่ช้ากว่าปกติเล็กน้อย นักเรียนซุยรันที่เห็นฉันลงจากรถก็ดูจะอุทานออกมาด้วยความตกใจ แล้วยังชี้ชวนให้เพื่อนมองมาที่ฉันอีกด้วย หา นี่คาบุรากิเป็นสัตว์ในพิพิธภัณฑ์หรือไงคะ ถึงได้ชี้ชวนมองแบบนี้-!
แค่ขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าเท่านั้นเองค่า---!
ฉันยังรู้สึกมึนๆหัวจากการไม่ได้นอน แต่ก็ต้องลากสังขารขึ้นห้องเรียนอย่างช่วยไม่ได้ โชคดีที่เหล่าสาวๆที่เป็นแฟนคลับเห็นว่าท่านจักรพรรดิดูจะอารมณ์ไม่ดี ก็เลยไม่ได้เข้ามาใกล้ จึงถือเป็นโชคของฉันไปค่ะ
ฉันเดินไปตามทางเดิน เห็นเอ็นโจในร่างฉันกำลังพูดคุยอยู่ในกลุ่มสาวๆอย่างกลมกลืน
นี่นายจะเนียนไปแล้วนะยะ---!!!
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
เหล่าสาวๆทักทายฉันตามมารยาท เอ็นโจเองก็มองมาทางนี้ด้วยแววตาเป็นห่วงเล็กๆ
“ท่านคาบุรากิ อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อา” ฉันรู้สึกคอแหบ แต่อาการปวดหัวก็รุมเร้าจนแทบอยากจะไปโดดหน้าต่างอีกรอบ แถมความเครียดก็เข้าเกาะกุม จึงอยากได้คนปรึกษาเรื่องนี้ซะหน่อย แต่นอกจากเอ็นโจกับคาบุรากิที่รู้เรื่อง ฉันก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี
...ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนอื่นฟังฉันคงได้ไปอยู่โรงพยาบาลบ้าแน่ๆค่ะ ฮือ
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ คิโชวอิน”
“คะ?”
เอ็นโจดูจะสงสัยเล็กๆที่ฉันเรียกคุย หมอนั่นหันไปบอกพวกเพื่อนๆให้ไปที่ห้องเรียนได้เลย ก่อนจะเดินออกจากกลุ่มมาหาฉัน
เสียงฮือฮาดังขึ้นมาอีกระลอก แต่ฉันก็มึนเกินกว่าจะรับรู้ว่าฮือฮาเรื่องอะไรกัน
“คุณคิโชวอิน สีหน้าดูไม่ดีเลยนะ เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
เอ็นโจถามด้วยความเป็นห่วง ฉันกำลังจะตอบ แต่คาบุรากิในร่างเอ็นโจก็ปรากฏตัวออกมา หมอนั่นมองมาทางฉันเงียบๆ หวา หวา ฉันไปทำให้ร่างกายของหมอนี่มีรอยคล้ำใต้ตาซะแล้ว จะโดนบ่นอะไรอีกล่ะ---!
“เฮ้ ไหวรึเปล่า”
ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่ถูกถามแบบนั้น เลยตอบเลี่ยงๆไปว่านอนไม่พอ แค่คาบุรากิเท่านั้นที่ไม่อยากให้รู้ว่าทำอะไร! เดี๋ยวหมอนั่นได้เข้าใจผิดๆอีก!
แต่ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกันมากกว่านี้ เสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น ฉันจึงได้แต่ขอตัวลาจากทั้งสองคน แล้วเดินเข้าห้องเรียนทันที ว่าจะไปแอบงีบหลับในห้องน่ะค่ะ ถ้าภาพลักษณ์ของนายในสายตาอาจารย์แย่ลงก็ขอโทษด้วยนะ คาบุรากิ~
ตลอดช่วงเช้าไม่ได้มีการเปลี่ยนห้องเรียน ทำให้ฉันได้นอนยาว รู้ตัวอีกทีก็พักกลางวันซะแล้วค่ะ อาการปวดหัวมึนๆก็หายไปแล้ว สงสัยเป็นเพราะได้นอนพักล่ะมั้งคะ ฉันสะบัดหัวไล่ความง่วงออกไป ก่อนจะตรงดิ่งไปยังโรงอาหารทันที แล้วได้ประสบกับปัญหาแบบเมื่อวานเปี๊ยบเลยค่ะ
ฉันได้แต่สูดหายใจเข้า-ออก ทำสมาธิกำจัดความโมโหโทโสนี่ออกจากร่างกาย
หนอย สักวันฉันจะเอาร่างนายไปโกนหัวบวชบำเพ็ญกุศลลลล!
หลังเลิกเรียนฉันมุ่งตรงไปยังสโมสร Pivoine เหมือนเดิม แต่ต่างกันตรงที่ทางเข้าสโมสรมีเทวดาน้อยผมสีอำพันยืนอยู่ค่ะ!
ยูกิโนะคุง! ยูกิโนะคุงล่ะ! ฉันรู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยา กำลังเดินจะเข้าไปหา เป็นเวลาเดียวกับที่ยูกิโนะคุงหันมาพอดี
“...ท่านพี่มาซายะ?”
เอ๋ เหมือนจะตาฝาดเห็นเทวดาน้อยทำหน้าตาบูดบึ้ง แต่ไม่ว่าจะกระพริบตาหลายๆรอบ หรือแอบจิกเนื้อตัวเอง ยูกิโนะคุงก็ยังคงทำสีหน้าแบบเดิมอยู่ดี?!
“อะไรกัน ไม่ได้อยากจะมาเจอท่านพี่มาซายะสักหน่อย”
เทวดาน้อยบ่นอุบ ก่อนจะฉีกยิ้มราวกับปิศาจน้อยมาให้ กรี๊ด นี่มันอะไรกัน ทำไมยูกิโนะคุงถึงได้มีรอยยิ้มปิศาจแบบนั้นล่ะคะ---! คาบุรากิ นี่นายไปทำอะไรให้ยูกิโนะคุงไม่พอใจกันยะ!
“ท่านพี่มาซายะ คุณพี่เรย์กะอยู่มั้ยฮะ?”
“อ..เอ้อ ไม่รู้สิ”
“เอ๋... ไม่ได้เรื่องเลย~”
กรี๊ด เทวดาน้อยแสนน่ารักหายไปไหนแล้ว!?
ฉันช็อก และอาจจะยังช็อกต่อไปไม่เลิก ถ้าไม่ได้คาบุรากิที่เดินเข้ามาทักซะก่อน
“คิโช---” คาบุรากิชะงักเพราะเพิ่งสังเกตเห็นยูกิโนะคุง
“ท่านพี่!” ยูกิโนะคุงกลับมายิ้มแย้มราวกับเทวดาน้อยอีกครั้ง ส..สงสัยเมื่อกี้คงจะติดเชื้อบ้ามาจากคาบุรากิก็เลยมองเทวดาน้อยผิดเพี้ยนไปแน่นอนเลยค่ะ!
คาบุรากิลูบหัวยูกิโนะคุง แต่ฉันเห็นนะคะว่าตานั่นทำหน้าสยองอยู่!
“เข้าไปข้างในกันมั้ย” ฉันเอ่ยชวน ยูกิโนะคุงสุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่ อยู่ข้างนอกนานๆคงไม่ดี ยูกิโนะคุงหันมามองฉัน แต่สุดท้ายกลับเมินไปมองคาบุรากิซะอย่างนั้น?!
“ท่านพี่ เข้าไปข้างในกันเถอะครับ~”
คาบุรากี้~! ฉันขอถามอีกครั้ง นายไปทำอะไรให้ยูกิโนะคุงไม่พอใจกันแน่---!
“ท่านพี่~ เมื่อไหร่คุณพี่เรย์กะจะมาเหรอฮะ” ยูกิโนะคุงเอ่ยถามคาบุรากิ เทวดาน้อยนั่งเท้าคางมองคาบุรากิในร่างเอ็นโจด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผมจะมาให้คุณพี่เรย์กะช่วยดูนีดเดิลเฟลต์ซะหน่อย~”
ยูกิโนะคุงหันไปหยิบนีดเดิลเฟลต์รูปกระรอกออกมา ว้าย น่ารักจังเลยค่ะ! ทำไมยูกิโนะคุงถึงได้ทำสวยกว่าฉันที่เป็นคนสอนอีกคะเนี่ย!
“ท่านพี่เป็นยังไงบ้างฮะ?”
คาบุรากิดูอึกอักกับยูกิโนะคุงแปลกๆ เหอะ เพราะนายไปทำให้ยูกิโนะไม่พอใจนั่นแหละ ถึงได้ไม่มีโอกาสพบกับยูกิโนะเวอร์ชั่นเทวดาแบบนี้! หมอนั่นส่งสายตาขอความช่วยเหลือมา โธ่ แค่นี้ก็ขอความช่วยเหลือแล้วเหรอคาบุรากิ
นายมันอ่อนหัด!
“น่ารักดีนี่ ยูกิโนะ” ฉันเอ่ยออกไปแทนคาบุรากิที่ไม่ยอมตอบสักที ยูกิโนะคุงลดนีดเดิลเฟลต์กระรอกในมือลง พลางหันมามองฉันด้วยแววตาเรียบนิ่ง
“ไม่ได้ขอความเห็นท่านพี่มาซายะสักหน่อย เงียบๆหน่อยสิฮะ”
ฉึก อึก อึก อึกกกก---!
กรี๊ด ฉันเองก็ไม่ชินกับเทวดาน้อยในเวอร์ชั่นนี้เหมือนกันค่า---!
ฉันเงียบ คาบุรากิเงียบ เทวดาน้อยยิ้มแย้ม พวกสมาชิกสาวๆที่มาทีหลัง พอพบกับยูกิโนะคุงก็เลยไปรุมล้อมกันยกใหญ่ เพราะนานๆทีจะได้เห็นเอ็นโจคนน้องนอกจากสโมสรชั้นเปอติต์
ไม่นานนัก เอ็นโจก็ปรากฏตัวขึ้น หมอนั่นดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นยูกิโนะคุงอยู่ในสโมสร พอเห็นร่างฉัน ยูกิโนะคุงก็ขอตัวจากวงล้อมสาวๆเข้ามาหาเอ็นโจ
“คุณพี่เรย์กะ ผมลองทำนีดเดิลเฟลต์ตามที่สอนมาให้ ช่วยดูหน่อยสิฮะ”
ยูกิโนะคุงยังคงมีรอยยิ้มเทวดาตลอดการพูดคุยกับเอ็นโจในร่างของฉัน...
คาบุรากิ! เป็นเพราะนายนั่นแหละ ยูกิโนะคุงถึงได้ไม่หันมามองทางนี้เลย!
ไปตายซร้า---!
“คุณพี่เรย์กะเองก็จะไปงานเลี้ยงของครอบครัวท่านพี่มาซายะด้วยเหรอฮะ”
ฉันที่กลายเป็นตัวประกอบฉากไปแล้วได้แต่กัดผ้าเช็ดหน้ามองเอ็นโจที่พยักหน้าให้ยูกิโนะคุงด้วยรอยยิ้ม ก็บอกแล้วไงคะว่าคิโชวอิน เรย์กะ ไม่ได้มีรอยยิ้มแบบนั้นนนน!
“ผมเองก็อยากไปบ้างจัง...” เทวดาน้อยทำหน้าหงอย น่าสงสารจังค่ะ! ฮือออ! “ผมอยากเต้นรำกับคุณพี่เรย์กะอีกนะฮะ~”
กรี๊ดดดด พี่เองก็อยากเต้นรำกับยูกิโนะคุงนะคะ---!
“เพราะแบบนั้นท่านพี่ช่วยเต้นรำกับคุณพี่เรย์กะแทนผมหน่อยสิฮะ~”
แวบหนึ่งที่ฉันแอบเห็นรอยยิ้มแสนมีเลศนัยของเทวดาน้อย ว้าก ทำไมฉันจะต้องไปเต้นรำกับเอ็นโจด้วยล่ะคะ! ยูกิโนะคูงงงงงงงงง!
เอ็นโจในร่างฉันไม่ตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มนิดๆให้ ก่อนจะพาเปลี่ยนไปเรื่องอื่น พร้อมกับที่สมาชิกสาวๆเข้ามาพูดคุยด้วย
...แล้วความซวยก็บังเกิด
“อาร่า จะว่าไปแล้ว ไหนๆท่านยูกิโนะก็มาแล้ว ท่านคาบุรากิสนใจเล่นเปียโนสักหน่อยมั้ยคะ”
ยูกิโนะคุงไม่ได้อยากฟังเลยนะ คนที่อยากฟังน่ะมันพวกเธอมากกว่า---!
ไม่ ไม่ ไม่ ฉันเล่นไม่ได้หรอกค่า---! ถ้าเล่นแล้วพลาดขึ้นมาจะทำยังไง! ยูกิโนะคุง! ปฏิเสธไปสิ!
“ไม่---”
“จริงเหรอฮะ! ท่านพี่มาซายะจะเล่นให้ผมฟังเหรอฮะ?”
ยูกิโนะคุง! ยูกิโนะคุงเมินคาบุรากิมาตลอดไม่ใช่เหรอ! แล้วไหงอย่างงี้ถึงอยากฟังขึ้นมาล่ะค้า---!
สมาชิกคนหนึ่งเสนอ “เล่นเพลง Pathetique op 3 Rondo allegro ก็ดีนะคะ”
กรี๊ด ฉันเล่นไม่ได้หรอกค่ะ!
คาบุรากิเหมือนจะเห็นสีหน้าลำบากใจของฉัน ก็เลยเอ่ยปาก “ยูกิโนะ ถ้าอยากฟังเดี๋ยวไปเล่นให้ฟังที่บ้านก็ได้นี่”
คาบุรากี้---! นายคือผู้มีพระคุณ---!
“เอ๋...ก็อยากเห็นท่านพี่มาซายะเล่นนี่นา~”
ม่ายยยยยยยยยยยยย
เอ็นโจส่งสายหน้าเห็นอกเห็นใจมาให้ หนอย ไม่ต้องมาเห็นอกเห็นใจกันเลยนะยะ! อีตาจอมมาร!
“ไม่ได้เหรอฮะ ท่านพี่มาซายะ”
เทวดาน้อยก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง สีหน้าหงอยๆนั่นทำให้เหล่าสมาชิกสาวๆหันมาเร่งเร้าฉันแทน อ้าวเฮ้ย พวกเธอเสนอเองก็ไปเล่นเองสิ! แต่ด้วยแรงกดดันจากหลายๆฝ่าย (?) ฉันก็เลยต้องลุกไปที่เปียโนจนได้ แต่ก็ได้ยินคาบุรากิกระซิบบอกเบาๆ
“อย่าทำให้ขายหน้าล่ะ”
กรี๊ด ยิ่งกดดันเข้าไปอีก! เดี๋ยวนี้ฉันเองก็ไม่ค่อยได้เล่น เลยไม่รู้ว่าจะเล่นได้มั้ยน่ะสิ เพลงที่พวกเธอเสนอจังหวะมันก็ใช่ว่าจะช้าๆนะยะ---!
ฉันสูดหายใจเข้าออกลึกๆเป็นเชิงให้กำลังใจตัวเอง ทุกคน ถ้าฉันตายก็อย่าลืมทำบุญส่งไปให้นะคะ ฮือ
ฉันวางนิ้วลงบนคีย์เปียโน ก่อนจะเริ่มบรรเลง โย้ช! จังหวะแรกผ่านไปได้ด้วยดี! ฉันแอบเหล่มองใบหน้าเคลิบเคลิ้มของเหล่าสาวๆ ใบหน้าประดับรอยยิ้มของเอ็นโจ ใบหน้าพออกพอใจของคาบุรากิ และใบหน้ายิ้มแย้มของเทวดาน้อย
นี่แหละ! กำลังไปได้สวยเลยนี่คะ!
บรรเลงต่อไปแบบนี้เรื่อยๆกำลังดีเลยค่ะ!
โอเย้!
ไปได้สวย---!
ตึง!!!
“...”
“...”
“...”
ฉันชะงัก สาวๆชะงัก ยูกิโนะคุงชะงัก เอ็นโจชะงัก คาบุรากิเองก็ชะงัก ก่อนจะเปลี่ยนมามองฉันอย่างกินเลือดกินเนื้อแทน! ฮือ ผิดไปแล้วค่า---! เพราะความหลงระเริงในความสำเร็จแรก ทำให้ฉันผ่อนจังหวะลง จนพลาดนั่นเองค่ะ!
แง
สำนึกผิดแล้วค่า!
ทุกคน อย่าลืมนะคะ ถ้าฉันตายก็ทำบุญส่งไปให้ด้วย
ปล. คนร้ายก็คือคาบุรากินั่นเองค่ะ!
ท่ามกลางความอับอายที่ไม่อาจทำอะไรได้ อยู่ๆเอ็นโจก็กระแอมไอขึ้นมา
“จะว่าไปวันนี้ท่านคาบุรากิก็ดูไม่ค่อยดีตั้งแต่เมื่อเช้า ยังไม่หายหรือคะ?”
เอ็นโจ---!!!
“อ..อ่า ปวดหัวมาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วน่ะ”
ความช่วยเหลือที่เอ็นโจหยิบยื่นมาให้ฉันก็กระโจนรับมันมาอย่างรวดเร็ว พลางลุกขึ้นยืนจับหัวตัวเองเบาๆให้ทุกคนรู้ว่า นี่ไง นี่ไง ฉันปวดหัวนะยะ! ที่เล่นพลาดเมื่อกี้ก็เพราะปวดหัว! ที่เล่นพลาดเมื่อกี้ก็เพราะไม่สบาย!
ขอบคุณมากนะเอ็นโจ แต่หวังว่าจะไม่มาทวงหนี้ทีหลังนะคะ...
“จริงสิ ได้ข่าวว่าแบรนด์ยี่ห้อดังจะมาเปิดตัวเร็วๆนี้นะ”
คาบุรากิเปลี่ยนเรื่องกะทันหัน สาวๆเองก็เหมือนจะปล่อยผ่านเรื่องเมื่อกี้ไป และหันไปพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ดังที่คาบุรากิเปิดประเด็นเอาไว้ ฮือ ขอบใจนายมากคาบุรากิ ฉันมองคาบุรากิอย่างซาบซึ้ง พลางเข้าไปนั่งร่วมพูดคุยด้วยอีกแรง
เรื่องเมื่อกี้ทุกคนจงลืมไปซะ---!
คาบุรากิละจากวงสนทนาหันมามองฉันอย่างไม่พอใจ ฉันทำได้เพียงก้มหน้าอย่างยอมรับผิด ง่า เค้าไม่ได้ตั้งใจน้า~ ก็ไม่ได้อยากเล่นสักหน่อยนี่นา~
“เธอนี่มันใช้ไม่ได้จริงๆเลย!”
“ข..ขอโทษค่ะ”
“...วันหลังอย่าให้เป็นแบบนั้นอีกล่ะ”
เอ๋ ฉันเงยหน้ามองคาบุรากิที่ถอนหายใจออกมา นึกว่าจะโดนบ่นเยอะกว่านี้อีกค่ะ แต่ดูเหมือนคาบุรากิจะยอมรับสภาพไม่ได้เรื่องของฉันก็เลยดูปลงๆ...กรี๊ด ไม่รู้ทำไม แต่เจ็บใจที่สุดเลยค่ะ!
ตัวเองยังเป็นแค่บากะรากิแท้ๆ!
“ไปซ้อมเพลงนั้นมาจนกว่าจะอ้วกเป็นโน้ตเพลงซะ คิโชวอิน”
หา...?! นี่นายจะบ้าเรอะ!
“ไม่ไหวหรอกค่ะ ท่านคาบุรากิ”
“พูดว่าไม่ไหวๆอยู่นั่นแหละ แล้วเมื่อไหร่เธอจะไหวกันล่ะหา”
คาบุรากิทำท่าจะบ่นอีกรอบ แต่ก็ถูกเอ็นโจเข้ามาขัดบทสนทนาซะก่อน ดูเหมือนสาวๆจะไปรุมล้อมยูกิโนะคุงเหมือนเดิมซะแล้ว เอ็นโจก็เลยปลีกตัวออกมาได้
“ทั้งสองคนคุยกันน่าสนุกจังเลยนะ”
นายมองส่วนไหนว่ามันน่าสนุกกันยะ---!
“ชูสุเกะ นายก็ดูคิโชวอินสิ! เอาร่างของคนอื่นไปทำเรื่องหน้าขายหน้าชะมัด!”
“...ทางนี้ก็เห็นนายเอาร่างของผมไปทักทายคุณทาคามิจิอย่างออกนอกหน้าด้วยนะ”
“เอ๊ะ...นั่นมันก็---”
“...มาซายะ”
“...ก็ขอโทษครับ”
หา ขอโทษกันง่ายๆอย่างนี้น่ะเหรอ!? ไหงเป็นฉันถึงได้ข่มเอาข่มเอาล่ะย่ะ! ไอ้เจ้าบากะรากิ! เอ็นโจยิ้มให้คาบุรากิ ก่อนจะหันมามองฉัน
“คุณคิโชวอินเองก็ลำบากหลายเรื่องเลยนะ”
ฉันแอบลังเล แต่ก็ตอบออกไปตามจริง หึ ถ้าคาบุรากิหาเรื่องล่ะก็ฉันจะเอาร่างนายไปบวชจริงๆด้วย! คอยดูสิ!
“นั่นมันก็...ใช่ค่ะ”
“หา นี่เธอจะบอกเป็นฉันมันลำบากงั้นเหรอ!”
“เป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเองมันก็ลำบากกันทั้งนั้นแหละ มาซายะ”
เอ็นโจว่า ฉันแอบเห็นด้วย แต่ในพวกเราสามคน คาบุรากิก็สบายที่สุดแล้วนี่นา ไม่ได้เปลี่ยนเพศอย่างกะทันหันแบบฉันหรือเอ็นโจ แถมยังอยู่ในร่างเพื่อนสนิทตัวเองที่ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ คงจะชินกว่าฉันหรือเอ็นโจอยู่แล้ว
ตื่นมามีแท่งตรงกลางไม่ตลกเลยนะคะ ฮือ
หลังจากนั้นพวกเราก็คุยกันต่อในเรื่องเรื่อยเปื่อย ก็รู้สึกแปลกดีที่มานั่งคุยกับพวกนั้นนะคะ ก็ทั้งสองคนเป็นคนที่ฉันอยากหลีกเลี่ยงตลอด พอได้คุยก็รู้สึกว่าทั้งสองคนเองก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้ายอย่างที่คิด ฉันคงต้องปรับอคติตัวเองให้ลดลงบ้างแล้วล่ะค่ะ
คุยกันไม่นานนักก็ได้เวลากลับบ้าน
“คุณพี่เรย์กะ ไว้เจอกันนะฮะ”
เอ็นโจโบกมือลาเทวดาน้อยที่เดินขึ้นรถไปกับคาบุรากิ ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ฉัน
“คุณคิโชวอินเองก็กลับบ้านดีๆนะครับ เจอกันที่งานเลี้ยงพรุ่งนี้ครับ”
ฉันกำลังว่างค่ะ
วันนี้เป็นวันเสาร์ งานเลี้ยงจะถูกจัดขึ้นที่โรงแรมในเครือคาบุรากิในช่วงเย็น ถ้าอยู่ร่างเดิม ตอนนี้คิโชวอิน เรย์กะคงต้องตื่นมาเตรียมตัวเพื่อไปงานเลี้ยงตอนเย็นแล้ว เกิดเป็นผู้หญิงช่างลำบากยากเย็นมากค่ะ
แต่พอมาอยู่ในร่างคาบุรากิ
ก็เลยว่างค่ะ
หันมองหน้าต่างที่อยู่สภาพกำลังซ่อมแซมก็นึกสะท้อนใจตัวเอง ตอนนั้นทำไมฉันถึงบ้าบิ่นกระโดดลงไปได้นะ?
หรือเพราะติดเชื้อความบ้ามา---!?
ฉันละสายตาจากหน้าต่างหันมองข้าวของในห้อง ถ้าไม่ใช่สีดำก็เป็นสีทึบๆหมดเลยค่ะ ช่างมืดมนแท้ คาบุรากิ
ฉันสำรวจข้าวของเครื่องใช้ของคาบุรากิไปทั่วด้วยความว่างจัด จนกระทั่งมีคนมาเคาะประตูห้องเรียก เปิดออกมาก็เป็นคาบุรากิในร่างเอ็นโจ? หมอนี่มาทำอะไรที่นี้น่ะ? Homesick?
คาบุรากิถือกระเป๋าใบหนึ่งเดินเข้ามาในห้องราวกับเป็นห้องของตัวเอง...เอ่อ ก็ห้องของหมอนี่จริงๆนี่นา ฉันเบลออะไรของฉันเนี่ย!
“ให้ตาย ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”
คาบุรากิบ่นประมาณว่าห้องไหนก็ไม่ดีเท่าห้องตัวเอง แล้วอยู่ๆก็วกมาบ่นฉันเรื่องห้ามซ้อมโดดตึกในห้องของเขาอีก?! นี่นายยังไม่เลิกเข้าใจผิดอีกเร้อ!
“ห้องชูสุเกะน่ะไม่จัดตามโหงวเฮ้งเลย” คาบุรากิส่ายหน้าเบาๆ เดินไปรอบห้อง ก่อนจะกลับมาหยุดอยู่ที่เดิม...นี่นายเป็นหมาเรอะ---!
นี่อย่าบอกนะว่าห้องนี้จัดตามโหวงเฮ้งน่ะ?! เฮ้ นายเชื่อเรื่องโหวงเฮ้งแท้ๆ แต่ทำไมไม่เชื่อเรื่องเครื่องรางล่ะยะ!
“ว่าแต่คิโชวอิน...เธอเต้นรำเป็นมั้ยเนี่ย”
คาบุรากิถามฉันนิ่งๆ
หา ถามอะไรแปลกๆ ก็ต้องเป็นอยู่แล้วสิ!
“...เป็นฝ่ายผู้ชายน่ะ”
“...เต้นไม่เป็นค่ะ”
ฉันเป็นผู้หญิงมาโดยตลอดนะยะ! เพิ่งมาเป็นผู้ชายได้สองสามวันนี้เอง จะไปเต้นเป็นได้ยังไงกันน่ะ---!
“ฉันก็เลยจะมาสอนเธอเนี่ยแหละ ถ้าเธอทำฉันขายหน้าอีกล่ะก็ ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!”
กรี๊ด---! หนูโดนข่มขู่---!
“เอาล่ะ เรามาเริ่มเรียนกันดีกว่า”
คาบุรากิพูดพลางขยับแว่นบนใบหน้าตัวเอง
เดี๋ยว! นายไปเอาแว่นมาจากไหนกันยะ! ไม่สิ นายใส่แว่นทำไม!
“ท่านคาบุรากิ...ใส่แว่นทำไมงั้นเหรอคะ”
“ใส่แว่นแล้วมันจะได้ดูมีความรู้ยังไงล่ะ” คาบุรากิใช้นิ้วดันแว่นเบาๆ “...ใส่แล้วดูดีรึเปล่าล่ะ”
ถ้าบอกว่าไม่ดูดีก็คงจะโกหกนั่นแหละค่ะ...
แต่ว่านะ
“...ท่านคาบุรากิอยู่ในร่างท่านเอ็นโจนะคะ...”
“หา มันก็เหมือนๆกันนั่นแหละ!” คาบุรากิบ่นอีกแล้ว! หมอนั่นเริ่มสอนฉันตั้งแต่ภาคทฤษฏี มันละเอียดตั้งแต่การวางองศาเท้าเลยล่ะคะ...เวลานายเต้นจริง นายจะมาวัดรึเปล่าล่ะตัวเองตั้งเท้ากี่องศาน่ะ---!
ฉันได้แต่กัดฟันกรอดฟังที่คาบุรากิพล่ามอย่างขอไปที จากที่ฟังๆดูแล้ว ผู้ชายกับผู้หญิงก็ไม่ค่อยจะต่างกันเท่าไหร่ คงจะพอไปได้อยู่ค่ะ
“เอาล่ะ มาซ้อมจริงกันเลยดีกว่า”
โอ้ย~ ฉันคอตกอย่างเซ็งๆ แต่ว่านะคาบุรากิ ใครจะมาเป็นคู่ซ้อมให้ฉันกันล่ะ! หรือว่า...นายเรอะ?! นี่นายเต้นผู้หญิงก็เป็นด้วย!?
“ท่านคาบุรากิเต้นผู้หญิงได้ด้วยเหรอคะ”
“มันก็ต้องแน่อยู่แล้วสิ เวลาเรียนเต้นรำ เขาก็เรียนกันทั้งชายทั้งหญิงนั่นแหละ มันจะได้สมดุลกัน”
ไอ้ ‘เขา’ ที่ว่าน่ะมันใครกันนนนนนนนน---?!
คาบุรากิเดินเข้ามาใกล้ พวกเราวางฟอร์มท่ากันเล็กน้อย ประสานมือที่มือขวา มือซ้ายของฉันวางไปที่เอว มือซ้ายของคาบุรากิเองก็วางไปที่ไหล่ของฉัน ก่อนจะเริ่มเต้นเปล่าๆโดยไม่มีเพลงนั่นแหละค่ะ
ภายนอกเป็นผู้ชายสองคนมาเต้นรำด้วยกันจะแปลกๆมั้ยนะ...
เอ้า 1 2 3 1 2 3 หมุนตัว 1 2 3 1 2 3
โอ๊ะ! ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดนี่นา!
เอ้า 1 2 3 1 2 3 หมุนตัว 1 2 3 1 2 3
ฉันมองหน้าคาบุรากิ...เอ่อ นี่มันหน้าเอ็นโจนี่นาระหว่างที่กำลังเต้นไปด้วย จู่ๆคาบุรากิก็เหลือบสายตาขึ้นมาสบตากับฉัน แสงแดดที่สะท้อนมาจากหน้าต่างที่อยู่สภาพกำลังซ่อมขับย้อมให้เรือนผมของหมอนี่เปล่งประกายราวกับสีทอง...
ตึกตัก
เอ๊ะ....?!
เสียงอะไร?! เสียงหัวใจใคร?! หัวใจฉันเรอะ!?
เฮ้ย เดี๋ยว!
ถ้าใจเต้นจริง...
ฉันใจเต้นให้ใครกัน?!
ระหว่างคาบุรากิ มาซายะ
หรือเอ็นโจ ชูสุเกะ?!
คิดอีกทีไม่มีทางที่ฉันใจเต้นหรอกค่ะ
ไม่มีทาง
ยาวหน่อย 555 ตอนนี้มีฉากที่กูอยากเขียน
ฉากใจเต้นไงล่ะ! แต่ท่านเรย์กะเป็นยอดรักนักหักธง ถ้ารู้ตัวเร็ว ฟิคเรื่องนี้ก็จบเร็วน่ะซิ---! //ทำสีหน้าชั่วร้าย
>>764 กูลืมแก้ เพลง pathetique op13 rondo allegro ต่างหาก ของบีโทเฟน จังหวะค่อนข้างสนุกดีสำหรับกูนะ 555
https://m.youtube.com/watch?v=Ifj8dwuAzAQ
แล้วเมดบ้านคาบุรากิก็จะเปิดประตูเข้ามาพบสองหนุ่มเต้นรำคู่กัน กลายเป็นเรื่องเม้าท์ในบ้านคบรก. ก่อนข่าวลือจะเริ่มแพร่สะพัดไปถึงเครือข่ายสาวใช้บ้านอื่นๆ
อ้อ ถ้าขจัดคู่แข่งในอนาคต ท่านเอ็นโจก็กินเยอะๆเลยค่ะ พอคืนร่างท่านเรย์กะจะได้ไปลดความอ้วนรัวๆ ไม่มีเวลาให้เรื่องอื่น
>>773 ประมาณนี้สินะ
"ดิฉันว่าท่านมาซายะของบ้านเราเป็นเซเมะค่ะ" สาวแว่นในชุดเมดขยับแว่นที่ส่องแวววาวขึ้นลง "ท่านมาซายะน่ะคุณสมบัติทุกประการในการเป็นเซเมะ ทั้งเย็นชา เคร่งขรึม อีกทั้งยังหล่อเหลากระชากใจดั่งกุหลาบสีน้ำเงิน ไม่มีทางที่จะเป็นอุเคะไปได้"
"โธ่เอ้ย หล่อนน่ะก็คิดตื้นๆแบบเนี้ย" สาวเมดผมสั้นท่าทางห้าวๆรายหนึ่งมองด้วยความดูถูก "พนันเลยว่าคู่ที่หล่อนชิพต้องเป็นคู่เมนสตรีมยอดนิยมในท้องตลาดใช่มั้ยล่ะ เจ้าพวกตามกระแส"
"เอ๊ะ ดิฉันจะชิพคู่ไหนมันก็เรื่องของดิฉันนี่คะ"
สายตาที่สบประสานคล้ายกับมีสายฟ้าฟาดลงมายังพื้นดิน เปรี้ยงปร้างสว่างไสวอันตรายไปทุกที่
"เอาน่าๆ อย่าทะเลาะกันเลย เราควรมาแชร์ข้อมูลข่าวสารกันดีกว่านะคะ" สาวเมดผมหยักศกที่นั่งอยู่หัวโต๊ะรีบห้ามก่อนจะเสียเรื่อง ทั้งคู่เลยสะบัดหน้าหนี ทำท่างอนกันสุดชีวิต
"ดิฉันว่าท่านชูสุเกะเมะค่ะ" สาวเมดผมเปียอีกรายหนึ่งยกมือพูดด้วยท่าทางเขินอาย "ถึงท่านชูสุเกะจะงดงามดั่งกุหลาบขาว อ่อนโยนราวกับขนนก แต่ดิฉันสัมผัสได้ถึงบางอย่างภายใต้หน้ากากนั่น ตัวตนที่แท้จริงต้องดิบเถื่อนเร้าใจมากแน่นอนค่ะ"
"ใช่ๆ ท่านมาซายะออกจะใสซื่อปานนั้น ไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมของท่านชูสุเกะหรอก อย่างตอนที่ออกเดินทางไปทะเลด้วยกัน ไม่แน่อาจจะเป็นแผนการอยู่ด้วยกันสองต่อสองของท่านชูสุเกะก็ได้" สาวเมดผมสั้นหัวเราะคิกคัก "จะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างก็ไม่รู้"
"ว้ายยยยยยยยยยยยยย"
เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นรอบวงทันที บรรดาสาวน้อยในชุดเมดต่างจินตนาการไปถึงฉากล่อแหลมชนิดต้องปิดตาและแปะป้ายเตือนว่า nc-18
แต่ทั้งท่านชูสุเกะและท่านมาซายะก็ยังอายุไม่ถึง 18 เลยนี่คะ จะผิดรึเปล่านะ
"จะฝ่ายไหนเป็นเซเมะ ดิฉันก็ไม่ทราบหรอกนะคะ" สาวเมดผมหน้าม้ารายหนึ่งตอบเสียงขรึมๆ "แต่ว่าตอนเปิดประตูเข้าไปน่ะ ท่านมาซายะเต้นรำอยู่ในท่าผู้ชาย ส่วนท่านชูสุเกะอยู่ในท่าของผู้หญิงล่ะค่าาาาาาาา"
เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกหน คราวนี้สาวเมดสวมแว่นหันไปฉีกยิ้มให้กับสาวเมดผมสั้นอย่างผู้ชนะ ส่งสายตาเยาะเย้ย
"ไงล่ะ ฉันบอกแล้วท่านมาซายะน่ะเป็นเซะเมะ"
"อาจจะสลับกันก็ได้นะคะ" สาวเมดอีกคนกล่าว
"ไม่ได้ รีบะไม่ได้นะ มันเรื่องต้องห้ามเลย!!!!" รอบวงรีบยกมือขึ้นห้าม
"เอ๋ ทำไมจะรีบะไม่ได้ล่ะคะ" สาวเมดคนที่เปิดประเด็นรีบะได้กล่าวขึ้น "ดิฉันว่ามันก็เป็นความสัมพันธ์ที่แฟร์และเท่าเทียมกันออกนะคะ เรารักเขา เราก็ย่อมไม่อยากให้เขาเจ็บอยู่ฝ่ายเดียวใช่มั้ยล่ะคะ ผลัดกันเสียบก็แฟร์ๆดีออกน้า"
คราวนี้ ทุกคนในวงน้ำชายกมือขึ้นปิดหูเหมือนไม่อยากฟัง แม้บางคนจะทำหน้าคล้อยตามไปแล้วก็เหอะ
การประชุมลับๆครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ จบไปเพราะลงมติไม่ได้ว่าใครจะเมะหรือใครจะเคะ แม้จะเปิดโหวตจากสาวใช้ในแต่ละบ้าน แต่คะแนนก็สูสี ขับเคี่ยวกันมาแบบหายใจรดต้นคอ ได้คะแนนไปเท่าๆกันเหมือนนัดกันมา
"เท่านี้ก็น่าจะรู้ผลกลายๆแล้วนะคะว่าไม่อาจตัดสินได้ว่าใครเมะหรือเคะ" สาวใช้ที่ชื่นชอบการรีบะคู่ชิพยิ้มแป้นให้กับบอร์ดคะแนน "เห็นมั้ยล่ะคะ รีบะน่ะ ดีที่สุดเลยนะ"
-----------------
จบเหอะ 5555555555555555555555555555
กูทีมเอ็นโจเมะ แต่ก็รับรีบะได้นะ 5555555555555555555555555
ทีมเอ็นโจเมะ แต่ท่านเรย์(ชาย) เมะซื่อบื้อใสๆก็ดีงาม//โดนตบไปหลังฉาก
ส่วนตัวแล้วกูท่านเรย์เป็นอุเคะที่ข้างนอกดูเมะแต่ภายในนี่เต้าหู้ ส่วนวาคาบะเป็นเมะซื่อๆ สู้ชีวิตว่ะ. แล้วท่านเอ็นโจเป็นเมะจอมมาร ส่วนคาบุรากิเป็นอุเคะแนวโชเน็นชักจูงง่ายว่ะ ในหัวแต่ละอย่างแม่ง.
>>790 เรื่องนี้ซากาโมโต้(อากิระหัวเขียวๆอะ)โดนผ.อ.คาบไปแดกในมังงะ ตะเตือนไตมาก...(กุไม่ชอบผ.อ.T^T)
ซากาโมโต้แต่งหญิงด้วยครั้งนึง... คนเขียนบอกในมังงะFamily Complexด้วยว่าอากิระจะโตขึ้นแล้วจะสูง 182 สูงกว่าท่านซากาโมโต้(คนพี่ที่หล่อๆ)
รูปซากาโมโต้แต่งหญิง(น่ารักโว้ยยยย ผ.อ.แม่ง...) http://imgur.com/gmdy4mf
กุเสียเวลาในการตอบเพราะไปขุดหารูปนี้แหละ 55555
งั้นมิซึซากิ อาริมะก็อยู่ในตำแหน่งซากาโมโต้ อากิระสินะ อากิระเป็นว่าที่ประธานนักเรียนนี่
แต่ว่าในเรื่องเจ้าหญิง เจ้าหญิง เนี่ยมันแต่งหญิงแค่ตอนปี1นี่(ประมาณม.4)
เรื่องเจ้าหญิง เจ้าหญิงมีโลกคู่ขนานด้วยนะเป็นเวอร์ชั่นสลับเพศ ให้ผู้หญิงเล่นเป็นเจ้าชายแทน
ถ้าเอาตามPrincess Princess จะมีฉายาคือ เจ้าหญิงตะวันตกกับเจ้าหญิงตะวันออก
งั้นจะให้แต่ละคนมีฉายาใหม่ว่ายังไงดีล่ะ?
ว่าแต่ครอบครัวแต่ละคนก็รวยหรูขนาดนั้น เรื่องอุปกรณ์แต่งหญิงน่าจะไม่มีปัญหา
แต่ปัญหาก็คือ ทั้งเรย์ ชูสุเกะ มาซายะก็รวยมีอำนาจกันทั้งนั้น คงไม่ต้องการสิทธิพิเศษ และไม่น่าจะมีใครบังคับได้(โดยเฉพาะเอ็นโจ)
เออ จะว่าไปก็นึกขึ้นมาได้ แล้วท่านพี่กับอิมาริล่ะ จะเคยเป็นเจ้าหญิงมาก่อนรึเปล่า.... เรย์คุงอาจจะมีเป้าหมายแบบแปลกๆ ผมจะเป็นเจ้าหญิงของโรงเรียนแบบท่านพี่ให้ได้ไรเงี้ย ส่วนมาซายะ ยูริเอะอาจจะขอร้องมาในฐานะเจ้าหญิงรุ่นก่อน ส่วนเอ็นโจตกกระไดพลอยโจน เหมือนตามมาควบคุมสองหน่อนี้(เรย์และมาซายะ) แต่ดันเป็นเจ้าหญิงได้สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าสองคนนั้นซะอีก ถถถถถถ
ก็เรย์คุงไว้ผมยาวในชายล้วนอาจเป็นจักรพรรดินีอยู่แล้ว เอ็นโจก็เลื่อนเป็นเจ้าหญิง แต่รากินี่แหละที่จะใช้อะไรดี เพราะจักรพรรดินีเรย์ก็ใช้อยู่5555
ยึดตามมังงะก็ได้นะ เรย์คุงแต่งหญิงคงไม่พ้นแนวฝรั่งเศส เป็นเจ้าหญิงตะวันออก คบรก เป็นเจ้าหญิงตะวันออก ส่วนเอ็นโจ....เจ้าหญิงอะไรดีอ่ะ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรพรรดินีผู้สูงส่งสง่าบนคาน คานที่ 9
สูงส่งไหมละมึงบนคานอะ 55555555555
กูขอคั่นนิดนึง เพราะเกิดสงสัยขึ้นมา
ท่านเรย์กะเนี่ยมีอะไรที่ถนัดบ้างนอกจากเรื่องกิน
ทั้งงานเย็บปัก ทั้งการทำอาหาร ทั้งทำขนม ทั้งการจัดดอกไม้ หรือการเรียนก็ไม่ได้ถือว่าเก่ง
งั้นท่านเรย์กะถนัดอะไรอะ? (ปกติตัวเอกต้องโชว์เมพไม่ใช่หรอวะ หรือกุอ่านแฟนตาซีมากไป?)
จะแต่งวาคาบะ(ชาย)Xท่านเรย์ มีใครจะอ่านไหม//สาววายมีชีวิตอยู่บ่
วาคาบะคุงxท่านเรย์
ภาษาไม่สวยเพราะแอบพิมพ์ตอนจารย์สอน อาร๊ายยยยยย
---------------------------------
วันนี้ก็เหมือนเดิมสินะ....
ผมมองตู้ใส่รองเท้าของตนเองด้วยสายตาว่างเปล่า รองเท้าใส่บนอาคารสีขาวตอนนี้กลับเต็มไปด้วยคราบหมึกและขี้โคลนเต็มไปหมด
แต่เช้าก็โดนแกล้งซะแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเลย แค่มียัยจักรพรรดินีสมองเซลล์เดียวมาเกี่ยวด้วยแค่นั้นเอง ทั้งๆที่ฉลาดขนาดนั้นยังทำตัวใสซื่อทำให้พวกแฟนคลับพากันเหม็นขี้หน้าผมอีก คนแบบนั้นขอให้ขึ้นคานต่อไปเถอะ ชาตินี้ต่อให้สวยเพียบพร้อมขนาดไหน ถ้ารู้ธาตุแท้ก็ไม่มีใครเอาหรอก....
คิดไปก็เสียเวลาเปล่า ทีงี้จะทำยังไงดีล่ะ จะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่ก็แพงซะด้วย ซักที่ก๊อกน้ำหลังอาคารจะออกไหมนะ พวกแปรงขัดกับผงซักฟอกที่ห้องน้ำก็น่าจะมีให้ยืมอยู่....
"คุณทาคามิจิกำลังทำอะไรอยู่หรอครับ?"
เสียงทุ้มนุ่มที่เต็มไปด้วยอำนาจดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมเลยหันกลับไปมองเจอกับคุณคิโชวอินเข้า
ผมหยักศกสีเข้มรับกับใบหน้าดูดีไม่มีที่ติราวกับรูปปั้นรับรุ่งอรุณแต่เช้า ทำให้ความขุ่นมัวหายไปหมดเลยครับ....
"อา ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่ปัญหาเล็กน้อยเท่านั้นเอง"
"แต่ปัญหาเล็กน้อยน่าจสร้างความลำบากใจให้คุณมากเลยนะ เฮ้อ.... ตามมานี้สิ"คุณคิโชวอินจับมือผมให้เดินตามไปยังตู้เก็บรองเท้าของเขา มือนุ่มนิ่มจังแหะ แถมยังขาวเนียนอีกด้วย กลิ่นหอมจากกลุ่มใกล้ๆแทบจะทำให้สติกระจัดกระจายไปหมดแล้ว
"เอานี่ไปใช้สิ" รองเท้าสีเหมือนใหม่ถูกยัดเข้ามาในมือ ขนาดก็พอๆกับของผมเลย
"แต่ของผมเอาไปซักก็ใช้ได้แล้วล่ะครับ อีกอย่างนี้เป็นรองเท้าของคุณคิโชวอินด้วย"
"ไม่ออกหรอก ต่อให้ออกก็คงไม่แห้งทันเข้าเรียนแน่ๆ อีกอย่างรองเท้าคู่นี้ผมก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้วเพราะมันเปื้อน ผมใช้คู่นี้ต่างหาก" นิ้วเรียวชี้รองเท้าอีกคู่ในตู้ให้ดูและชี้จุดที่เปื้อน
ไอ้จุดที่เปื้อนมันก็แค่จุดเล็กๆเองนะครับ แต่พอได้รับการยืนยันว่าถ้าไม่ใส่จะไม่ยอมไปไหนเลยต้องยอมซักครั้งด้วยความอ่อนใจ
หืม ไซส์พอดีกันเลยแหะ
คุณคิโชวอินบอกว่าจะไปส่งไปที่ห้อง และปรายสายตาไปมองพวกที่แกล้งที่แอบมองอยู่จนหนีหายไป
ผมเลยต้องเดินตามต้อยๆถือกระเป๋าของอีกฝ่ายที่แย่งมาถือไว้อนบอก บอกไปว่าถ้าไม่ให้ช่วยถือจะไม่ตามไปด้วย
ถึงคุณคิโชวอินจะดูน่ากลัวสมกับคำว่าจักรพรรดิ จนไม่อยากมีคนเข้าใกล้ แต่ก็ใจดีเอามากๆกับพวกคนนอกแทบจะฃม่แบ่งแยกพวกกันเลย เลยมีแฟนคลับทั้งชายหญิงที่เฝ้ามองดูความสง่างามอยู่ห่างๆ
บางมุมที่ไม่มีใครรู้ก็น่ารักใช่เล่น ครั้งก่อนที่เจอคุณคิโชวอินเดินเที่ยวเทศกาลในเมืองโดยบังเอิญ เสื้อสีเข้มที่เลอะไอติมสีอ่อนมันช่างน่าดึงดูดใจซะจริงๆ พอมารู้ว่าเป็นพวกชอบขนมหวานและของกินก็ยิ่งทำให้ดูน่าเอ็นดูไปอีก...
ผมเงยหน้ามองแผ่นหลังที่เดินนำขึ้นบันไดอาคารด้วยความรู้สึกหลากหลาย ...
อา...ดูเหมือนคุณคิโชวอินกินขนมหวานเยอะขึ้นอีกแล้วสินะ ก้นกลมอวยอิ่มตรงหน้าน่าฟัดชะมัดเลย....
-------------------------☆
แต่งวาคาบะคุงซะ คิโม่ยเลยตู//เผ่นหนีโม่ง
กุเคยคิดนะว่า ที่วาคาบะคุงโดนแกล้งประจำแล้วมีท่านเรย์ออกมาปกป้องบ่อยๆมันช่างเยี่ยวยาหัวใจดีจริงๆ คล้ายๆกับตอนที่ยูกิโนะคุงปกป้องเรย์กะจากตาไก่โง่อ่ะ
ตัวเล็กๆแต่ใจใหญ่ มันโดคิๆ อารายยยย
แถมเรย์มันก็เหมือนจะซึนจะช่วยก็ไม่ช่วยออกนอกหน้า ถ้ามีลูบหัวชมนิดหน่อยหน่อยก็สติไปไกลเหมือนที่ท่านพี่ชม....ใครมาสานต่อกาวกุที
กูชอบอ่ะมึง!!!! วาคาบะหื่นอีกนะ 5555
วันนี้มู้เงียบจังเลย ตอนนี้ลุ้นกับหลายๆฟิคมากๆ รอโม้งฟิคมาต่อกาว 5555
ใครอ่านถึงดิบตอนล่าสุดแล้วมาสปอยกูทีว่าเรือวาคาเรย์กะนี่เป็นไปได้จริงๆไหมมึง กูจะได้ลงเรือถูกซักที ตอนนี้กูสับสนมากว่าจะลงเรือไหนดี 55555
อัพเดทคะแนน
>>434 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือรักหักเหลี่ยมโหด ครั้งที่ 9
= >>803, >>809, >>814
>>436 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
= >>801, >>807, >>808, >>810, >>813, >>824, >>825, >>826, >>827, >>829, >>854
>>806 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรพรรดินีผู้สูงส่งสง่าบนคาน คานที่ 9
= >>811, >>812
ชื่อกระทู้หลังๆแต่ละอันนี้ โคตรบ่งบอกความรักที่มีต่อท่านเรย์กะกันเลย..... ไหนกระทู้ๆแรกบอกว่าอัปมงคลวะ 5555555555
เออ อยากจะเสนอ AU อนุบาลซุยรัน
- เด็กหญิงเรย์กะ(และคนอื่นๆรุ่นเดียวกัน)ในชั้นอนุบาล 2
- พี่ทาคาเทรุ พี่แท้ๆของเรย์กะ และเป็นครูพี่เลี้ยงประจำ อ.2 ห้องดอกอุราระ ที่โคตรจะซิสค่อนลำเอียงน้องสาวและกีดกันเด็กชายทุกๆคน...
- พี่อิมาริ เป็นครูพี่เลี้ยง อ.2 ห้องดอกโบตั๋น เอาใจใส่แต่กับเด็กผู้หญิง ส่วนเด็กชายปล่อยให้ป่วนซนก่อเรื่องตามสบายอย่างชิวๆ
- เด็กชายคาบุรากิ ห้องดอกโบตั๋น ได้รู้จักกับรักแรกพบกับครูพี่เลี้ยงยูริเอะ สมัย อ.1
- เด็กชายเอ็นโจ ... ก็เอ็นโจ... (นึกไม่ออก 55555555)
- เด็กหญิงวาคาบะ โดนรถสามล้อถีบของเด็กชายคาบุรากิชนขณะเด็กหญิงวาคาบะหัดปั่นจักรยานล้อเดียวอยู่ ครอบครัวคาบุรากิเลยออกทุนให้มาเรียนที่อนุบาลซุยรันเพื่อรับผิดชอบ
รอฟิคจากเพื่อนโม่งอยู่นะ
ทำไมคืนนี้โม่งเงียบจัง
เสาร์อาทิตย์นี่กาวขึ้นราคาสินะเพื่อนโม่ง กาวแห้งหมดแล้ว
เสาร์อาทิตย์เป็นวันพักผ่อน วันธรรมดาคือวันค้ากาว ตลาดกาวเสรี
ว้อยยยย หนังสือกดจุด!? เจ้าคนขาดความโรแมนติก!! (┛ಠДಠ)┛彡┻━┻
ของขวัญให้สาวคือที่แปะกอเอี๊ยะเนี่ยนะ บากะรากิ๊๊๊๊๊๊๊๊
หนังสือนวดกดจุด....จะว่ายังไงดี สมเป็นเรื่องนี้ก็แล้วกัน ของแต่ละอย่างแม่งหาความโรแมนซ์ไม่ได้เลย
ถ้าคาบุรากิมันเอาตำราสาปแช่งมาให้เรย์กะ เรย์กะอาจจะใจเต้นตึกตักจนตกหลุมรักก็ได้นะ 55555555555555
แล้วไอ้ "รู้กันแค่นี้นะ" ตรงนี้เขารู้กันเป็นชาติแล้วค่าคุณเรย์กะะั รู้ตั้งแต่ช็อกโกแลตวาเลนไทน์ตอนประถมแล้วข่าาาาา
โอ้ยคาบุรากิ 55555 นี่มันความใส่ใจสไตล์คาบุ ความรู้สึกนี้อยากเหยียบมันทุกเรือ
เทียบกันแล้วเอ็นโจนี่แม่งอ้อมค้อมชิบหาย อุตส่าห์เห็นเขาดูเหนื่อยๆ เลยทักด้วยความห่วงใย เพื่อนดันตัดหน้าส่งหนังสือให้สาวเฉ้ย
จะว่าท่านเรย์กะชอบหักธงก็ไม่ได้นะ ธงน่ะปักได้เรื่อยๆ ดูคนรอบตัวท่านเรย์กะสิ.. //น้ำตาตกใน
หนังสือนวดกดจุด.... ยอมใจฮิโยโกะซามะเลย เป็นของให้ที่แปลกแหวกแนวมาก
กรี้ดดดดด อ่านแปลล่าสุดแล้วตื่นเต้นมาก ถึงคาบุรากิอาจจะแปลกๆบ้าๆบอๆ แต่ใส่ใจมากจริงๆนะ
อยากโยนหนังสือสอบทิ้ง แล้วปั่นฟิคคู่หูจังงงง //ต่อเรืออย่างอย่างบ้าคลั่ง
เห็นเม้นท์ในแมวว่าทุกคนในสโมโดนผมเกลียว เรย์กะสะกดจิตรึเปล่านี่.... หรือว่าจริงๆแล้วนี่มันเป็นเนื่องก้นหอยมรณะ ถถถถถ
กูว่าถ้านี่เป็นเกมจีบหนุ่ม item ที่ได้แต่ละจากแต่ละหนุ่มตอนเพิ่มค่าความใกล้ชิดนี่คงประหลาดสุดๆ... แต่ดูดีๆ นี่ก็เป็นฮาเร็มได้นะเว้ย ตอนที่แล้วได้เค้ก ตอนนี้ได้หนังสือกดจุด... แสดงว่าคาบุรากิมันต้องอ่านแล้วลองใช้มาก่อนเลยติดใจสินะ
มาส่งกาว ขอเป็นมุมมองบุคคลอื่นบ้างนะ
***- สมาชิกชมรมฟุตบอลไร้ชื่อ -***
ผมชื่นชมรุ่นพี่ในชมรมฟุตบอลของผมมาก
รุ่นพี่ทั้งเล่นฟุตบอลเก่ง ทางบ้านฐานะดี ทีเกียรติประวัติยาวนานแม้จะไม่ได้เป็น Pivoine แต่ก็เอ่ยชื่อตระกูลได้อย่างไม่อายใครแถมยังได้เป็นกัปตันทั้งที่อายุน้อยด้วย หัวจิตหัวใจกล้าหาญใหนจะเรื่องต่อยตีที่ไม่เป็นรองใคร ถึงจะไม่เคยไปตีกับใครเขาก็เถอะนะ
ตัวผมเองเข้าซุยรันมาตั้งแต่ ม.ต้นด้วยโควต้านักฟุตบอลถึงจะแอบใช้เส้นสายของทางครอบครัวให้ได้มาด้วยก็เถอะเพราะขี้เกียจทำข้อสอบ แหมก็ไม่อยากจะคุยหรอกนะว่าผมน่ะเล่นฟุตบอลเก่งใช้ได้เลยล่ะซุยรันเลยยอมโอนอ่อนให้โควต้าน่ะ มีไม่มากหรอกที่ลูกคุณหนูระดับผมจะมีฝีเท้าเยี่ยมยอดขนาดนี้ แต่หลังเข้าซุยรันมาก็ทำให้รู้ว่าผมน่ะคิดผิด ชมรมฟุตบอลของที่นี่น่ะของจริง มีการจ้างเทรนเนอร์ต่างประเทศกับโค้ชทีมชาติมาด้วยแหละ
และความอวดดีหยิ่งผยองในฝีเท้าของผมก็โดนรุ่นพี่สยบแบบราบคาบในวันแรกที่เข้าชมรม ตั้งแต่ตอนนั้นมาไม่นานผมก็ตัดสินใจแล้วว่าจะติดตามรุ่นพี่ไปจนถึงที่สุด นี่แหละยอดชายในอุดมคติ!!!
แต่มาพักหลังๆ ยอดชายในอุดมคติคนนั้นกำลังตัวสั่นอยู่ที่ม้านั่งตัวสำรอง
รุ่นพี่ที่เป็นแบบอย่างคนนั้นกำลังนั่งจ้องดอกไม้อะไรสักอย่างสีแดงพลางพึมพัมว่า 'จักรพรรดินีทรงกริ้วแล้ว ทำยังไงดี ทำยังไงดี ทำยังไงดี ทำยังไงดี ทำยังไงดี ต้องบวงสรวงอะไรเจ้าแม่จึงจะพอพระทัยนะ ไม่น่าเลย พลาดแล้ว พลาดแล้ว พลาดแล้ว พลาดแล้ว โธ่เว้ย ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย ไม่น่าเลย'
จริงๆ รุ่นพี่เองก็ซึมๆ มาตั้งแต่ตอนที่มีประชุมชมรมแล้วล่ะนะ แต่ตอนนั้นอาการยังไม่หนักเท่านี้ คงเพราะรู้สึกผิดที่แย่งพื้นที่ในร่มมาไม่ได้ล่ะมั้ง ความรับผิดชอบสูงสมเป็นรุ่นพี่จริงๆ
อ๊ะแต่ถ้าพูดถึงจักรพรรดินีก็ต้องหมายถึงยัยนั่นสินะ คิโชวอิน เรย์กะ
อา......ไม่ผิดแน่มีคำว่าเจ้าแม่หลุดมาด้วยนี่
ว่ากันว่าในซุยรันน่ะมีชายหญิงสามคนที่ห้ามเข้าไปเป็นศัตรูด้วย
หนึ่งคือจักรพรรดิ
หนึ่งคือองค์ชาย
หนึ่งคือจักรพรรดินี
ก็เคยเป็นมาทั้งสามคนแล้วน่ะแหละ บอกตามตรงว่าเชื่อไม่ได้ทั้งหมดหรอก
ยอมรับนะว่าคาบุรากิน่ะมีออร่าที่สามารถทำให้ผู้คนโอนอ่อนยอมสยบได้ เหมือนราชาปีศาจที่มีเนตรมารยังไงยังงั้น ทรงอำนาจ ดุดัน ยิ่งใหญ่สมชื่อจักรพรรดิแต่คนแบบนี้น่ะอยู่ไกลตัวเกินไป ชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่มีทางได้ร่วมงานด้วย
ส่วนเอ็นโจ ว่าไงดีล่ะ เหมือนเป็นคู่ขั้วตรงข้ามกับจักรพรรดิล่ะมั้ง ใบหน้ายิ้มแย้มเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นดูอบอุ่นสมฉายาองค์ชายแต่ขอโทษทีเหอะ แกหลอกคนอื่นได้แต่หลอกสายตาของผมไม่ได้หรอก ไอ้หมอนี่น่ะมันมารร้ายชัดๆ ถ้าในเกมก็คงประมาณบอสลับหลังปราบบอสใหญ่ได้ล่ะมั้ง เหมือนพวกตัวประกอบจืดจางที่ยืนกุมไข่อยู่ข้างๆ จอมมารเวลาต่อสู้แต่เวลาจอมมารแพ้ก็จะโดดกระซวกจอมมารจากด้านหลังแล้วเผยตัวออกมาสู้กับผู้กล้าด้วยความโกงแบบไร้เหตุผล
ทำไมถึงมั่นใจน่ะเหรอ?
ก็ไม่ได้อยากจะอวดอะไรหรอกนะแต่ทางบ้านของผมน่ะร่ำรวยมาด้วยธุรกิจมืด หลังพยายามมาหลายปีดีดักถึงพึ่งจะปลด"ชื่อเสีย"ของตระกูลล้างมือออกมาจากวงการน้ำโคลนได้จนสามารถส่งลูกชายเข้ามาเรียนซุยรันเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปไงล่ะ ตอนยังเด็กน่ะเคยเจอคนที่มีออร่าคล้ายๆ เอ็นโจมาเยอะเพราะงั้นไม่มีทางมองผิดแน่
แต่แหม การที่ต้องมาคอยเรียกพวก Pivoine ว่าท่านนู่นท่านนี่เนี่ยให้ตายยังไงก็ไม่ชินแฮะ
เอาเถอะ สำหรับสองคนข้างบนผมได้เจอและได้พิสูจน์มาแล้วว่าเป็นของจริงเลยไม่คัดค้านอะไรและพยายามเลี่ยง
แต่กับยัยคิโชวอินอ่ะไม่ใช่
วงหน้ายิ้มละไมล้อมด้วยผมหลอดเข้ากับรูปหน้า เดินเฉิดฉายอย่างงามสง่าไปวันๆ พร้อมกับพวกผู้หญิงตามเป็นพรวนนั่นแหละที่ยัยนี่เป็น บอกตามตรงว่าความรู้สึกแรกที่ได้เจอจักรพรรดินีคือตกใจในความจืดชืด ที่ตกใจยิ่งกว่าคือยัยจืดชืดแบบยัยนี่ดันมีข่าวลือมากมายไม่ซ้ำเรื่อง ที่ฮาที่สุดคงเป็นเรื่องใช้พัดตบกลุ่มของยัยสาวแกลทั้งกลุ่มจนราบคาบอันเป็นที่มาของฉายาเจ้าแม่กาลีนี่แหละ
จะขำตาย ใช้พัดตบคนทั้งกลุ่มเนี่ยนะมันจะเป็นไปได้ยังไง
อ้อที่ว่าจืดไม่ได้หมายความว่ายัยนี่ไม่สวยหรอกนะ ทั้งสวยทั้งสง่าสมเป็นลูกคุณหนูขนานแท้เชี่ยๆ อ๊ะ เผลอติดนิสัยสบถตอนเด็กมาซะได้ แต่ช่างมัน ในความคิดส่วนตัวผมเองสรุปออกมาได้ว่ายัยนี่อ่ะแค่สวยเท่านั้นแหละ ตอนอยู่ไกล้ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรแบบจักรพรรดิเลย ไม่รู้สึกว่ามีออร่าอะไรด้วย ดังนั้นการที่ได้เห็นรุ่นพี่ต้องมาสติแตกเพราะยัยนี่แล้วเลยยิ่งยอมรับไม่ได้
ยัยนี่ต้องเล่นกลโกงอะไรสักอย่างกับรุ่นพี่แหง บางทีอาจจะวานให้คุณโคะโทลูกพี่ลูกน้องที่ซ่องสุมกองกำลังระดับที่จะปฏิวัติแผนก ม.ต้น-ม.ปลาย เมื่อไหร่ก็ได้เป็นคนลงมือทำบางอย่างแน่ๆ
แต่พูดถึงคุณโคะโทแล้วก็รู้สึกแปลกใจที่เธอคนนี้ยอมลงให้กับยัยคิโชวอินทั้งที่นิสัยออกจะแรง
คุณโคะโท ริรินะน่ะเหมือนคลื่นลูกใหม่ ทั้งห้าวหาญเหี้ยมเกรียมจนไม่นึกว่าเป็นเด็กผู้หญิง ใจกล้าบ้าเลือดถึงลูกถึงคนท้าชนดะไม่เกี่ยงชั้นปีแบบไม่สมกับเป็นลูกคุณหนู แต่พออยู่ต่อหน้ายัยคิโชวอินแล้วคุณโคะโทคนนั้นกลับไม่ต่างจากลูกแมวซึนเดเระขี้อ้อนซะอย่างนั้น ไม่เข้าใจจริงๆ
ยังไงก็ตาม ปริศนาทั้งหลายแหล่น่ะจะจบแค่วันนี้เท่านั้นแหละ
หลายวันมานี้ผมได้ใช้อำนาจรวมถึงคนของผมสืบเสาะเรื่องราวเกี่ยวกับยัยคิโชวอินมา ก็มีเรื่องราวต่างๆ ที่กรองแล้วว่าเป็นจริงรายงานเข้าหูมาหลายเรื่องนะ
อย่างมีเบ๊เป็นเอสของชมรมยูโดสุดเถื่อนที่พร้อมน้อมรับบัญชาของยัยนี่อย่างไม่บิดพริ้วแม้จะเป็นการแต่งหญิงก็พร้อมสนอง ไอ้นี่ก็ตัดสินได้ง่ายๆ เลยว่าคงโดนเงินฟาดหัวแน่ๆ
ไม่ก็มีลูกน้องเป็นพวกกุ๊ยหัวทองที่เป็นหัวโจกแก๊งค์ดังย่านชินจูกุคอยเป็นมือเท้ารับบัญชา ข่าวนี้หลุดมาเพราะมีคนเห็นหัวโจกที่ว่ามาขอขึ้นเงินสนับสนุนตอนงานโรงเรียน เฮ้อ อ่อนหัดจริงๆ ยัยนี่ เรื่องการเลี้ยงดูสวะพวกนี้ต้องทุ่มบ้างสิ ไม่รู้จักสำนวนเลี้ยงทัพพันวันรึไง
ที่เหลือก็เป็นข่าวลือรักใคร่ๆ ไร้สาระ และคงเพราะหน้าตาน่ารักนั่นแหละมั้งเลยเป็นข่าวว่าทั้งจักรพรรดิกับประธานนักเรียนต่างก็สนใจยัยนี่ทั้งคู่ ช่างเป็นผู้หญิงที่มีดีแค่หน้าตาจนอยากจะขำเสียจริง
แต่ก็ด้วยสายข่าวจึงทำให้รู้ว่ายัยนี่เวลาไปชมรมงานฝีมือจะไม่มีบริวารตามไปด้วย เป็นโอกาสเหมาะที่จะเค้นถามสั่งสอนที่สุดแล้ว
บริวารที่ว่าคือเด็กผู้หญิงสองคนรู้สึกจะชื่อคาซามิ เซริกะกับอิมามุระ คิคุโนะล่ะมั้ง สองคนนี้เหมือนคู่หูไรจินกับฟูจินที่จะคอยเป็นหัวหอกคอยยกพวกไปจัดการเรื่องต่างๆ แทนยัยนั่น ได้ยินว่าทำงานได้เบ็ดเสร็จชนิดว่าเลขาชั้นหนึ่งยังอาย ว่ากันว่าที่ฉายาเจ้าแม่กาลียังไม่ไปเข้าหูยัยนั่นก็เพราะความสามารถในการควบคุมข่าวสารของสองคนนี้นี่แหละ ไม่รู้ว่ายัยคิโชวอินฟาดหัวสองคนนี้หนักขนาดใหนถึงได้ยอมทำงานเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้
แต่ก็อย่างว่า บริษัทของยัยนี่ถูกบริหารโดยจอมมารธุรกิจอย่างคิโชวอินทาคาเทรุนี่นะ ถ้าไม่นับตระกูลคาบุรากิหรือเอ็นโจที่มั่นคงล้นฟ้าแล้วเนี่ย ชื่อตระกูลคิโชวอินก็นับว่าหนึ่งในตองอูเลยล่ะ
น่าอิจฉาจังน้า ถ้าเล่นเกมกาชาคงมีเงินมาเปย์หาฮัสแบนโอะไม่อั้นแหง
ระหว่างที่คิดแบบนั้นก็เดินตามยัยคิโชวอินกับไรจินฟูจินไปเงียบๆ เพราะต้องการให้ไม่สะดุดตาก็เลยปฏิบัติการเดี่ยว และเพราะใว้ใจใครไม่ได้เลยต้องลงมือเอง แต่ใว้ใจเหอะลูกพี่ ไม่สิตอนนี้ยังเป็นรุ่นพี่อยู่นี่นะ ความวิตกของรุ่นพี่ผมจะสะสางให้เอง
โอ๊ะ ใกล้ละๆ พอเดินเลี้ยวโค้งที่หัวมุมโน้นไรจินฟูจินก็จะแยกตัวจากกาลีสินะ หมูตู้จริงๆ ว่าแล้วก็เร่งฝีเท้าอีกนิดดีกว่า
ในตอนที่คิดแบบนั้นแล้วเดินเลี้ยวตามไปที่หัวมุม
อิมามุระกับคาซามิก็ยืนนิ่งอยู่หลังยัยคิโชวอินแล้วทั้งคู่ก็ค่อยๆ หันมามองผมช้าๆ ถึงจะเป็นระยะห่างเกือบห้าเมตรผมก็มองเห็นได้ชัดเจน
อิมามุระหันมาจากด้านขวาโดยก้มหน้านิดหน่อย วงหน้านั้นไร้อารมณ์แม้แต่มุมปากก็ไม่กระตุกราวกับมองทะลุตัวผมไป
คาซามิหันมาจากด้านซ้ายองศาคอแหงนเล็กน้อยทำให้สายตามองต่ำ แววตาฉายแววสังเวช แสยะปากยิ้มเยาะราวกับมองหนอนแมลงขยะสด
ยัยคิโชวอินไม่ได้หันกลับมาด้วย แต่นั่นไม่สำคัญแล้วเพราะข้างหน้ายัยคิโชวอิน ไม่สิข้างหน้าคิโชวอินมีร่างของบุคคลที่ได้ฉายาองค์ชายอยู่
ใบหน้ายิ้มแย้มแต่ไม่ใช่รอยยิ้มอบอุ่น มันเป็นรอยยิ้มของพวกเสนาธิการจอมวางแผนชัดๆ แววตาส่องประกาย ถ้าตาไม่ฝาดมองดูแล้วมันส่องประกายแดงชาดราวกับจะแผดเผาตัวผมให้เป็นจุล
ไม่ดีแล้ว แผนแตกงั้นเหรอ ได้ยังไงกัน
ไม่ได้การ แบบนี้คงต้องตีเนียนถอนตัวไปก่อนแล้วค่อยคิดหาแผนอื่น ถ้าเป็นตอนนี้เรายังไม่ได้ทำอะไรลงไป พวกนั้นเองก็มีชื่อเสียงค้ำคอคงไม่ผลีผลามทำอะไรหรอก บ้าเอ๊ย นี่สินะความหมายของฉายาจักรพรรดินี
พยัคฆาหุ้มหนังแกะ ปกปิดตัวตนขับเคลื่อนเบื้องหลัง แม้แต่จอมมารก็เอามาใช้เป็นแขนขาได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว
ใจเย็นๆ ตัวผม ถอยกลับอีกไม่กี่ก้าวก็จะพ้นสายตาน่าสยองของมารร้ายเอ็นโจแล้ว อย่าพึ่งสั่นสิขาของผม
-----------------------------------------------------------------------------------------------
"อา น่าสยองจริงๆ ให้ตายสิ"
ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกหลายๆ อย่างทันที่ที่ถอนตัวออกมาเอาหลังพิงกำแพงตรงทางเลี้ยวมุมห้องได้
หึหึหึ ให้ตายสิท่านคิโชวอิน เรย์กะ ย่อมได้หมากตานี้ผมขอยอมรับว่าพ่ายแพ้ จะยอมรามือเรื่องล้างแค้นให้รุ่นพี่ไปก่อนก็ได้ คงต้องขอยอมรับแล้วล่ะว่าท่านคือจักรพรรดินี คุณโคะโทเองคงไม่ถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอกสินะเลยยอมสยบ คนเราต้องเรียนรู้จากบาดแผล หึหึหึ วันนี้ผมได้เติบโตขึ้นแล้ว
"นี่...นายน่ะช่วงนี้รู้สึกจะตามวอแวคุณเรย์กะนี่"
ระหว่างที่หลับตาคิดอะไรแบบนั้นก็มีเสียงดุๆ ก้องกังวานดังขึ้นด้านหลัง
เมื่อลืมตาหันไปมองก็พบกับแววตาเหี้ยมหาญกดดันของคุณโคะโท ริรินะพร้อมเหล่าเพื่อนพ้อง
"มีจุดประสงค์อะไร"
คุณโคะโทริรินะเอามือกอดอกช้าๆ จ้องมองมาด้วยสายตาคมกริบราวกับจะพุ่งเข้ามากระซวกได้ทุกเมื่อ ทำยังไงดี
พอเหลียวซ้ายแลขวาหาตัวช่วยก็พบกับความเสียวสันหลังอีกครั้ง
รอยยิ้มสบายๆ ใบหน้าอ่อนโยน แต่จ้องมาที่ผมราวกับมดปลวก
อา นี่น่ะเหรอการเดินหมากของจักรพรรดินี
รุกฆาตแม้แต่ทางเสมอก็ไม่มี
เรื่องยอมแพ้ก็คง....
"ศัตรูของคุณเรย์กะ"
อา เรื่องยอมแพ้นี่หมดหวัง ผมรับรู้เรื่องนั้นจากเสียงใสๆ ของคุณโคะโทที่ดังขึ้นพร้อมๆ กับการก้าวเดินผ่านไปของเอ็นโจโดยไม่เหลียวมอง
คนเราต้องเรียนรู้จากบาดแผลสินะ
"ต้องกำจัด"
- แต่ดูท่าบาดแผลนี้คงถึงตาย -
***- ด้านคิโชวอิน เรย์กะ -***
ริรินะไปก่อเรื่องอีกแล้ว ให้ตายสิเด็กคนนี้ พักหลังห็นว่าทำตัวดีขึ้นมาหน่อยเลยวางใจที่ใหนได้กลับไปเล่นงานเด็กในชมรมฟุตบอลจนถึงกับขอย้ายโรงเรียน ที่รู้เรื่องนี้ก็เพราะจู่ๆ หัวหน้าชมรมฟุตบอลมาก้มกราบขอขมาหน้าห้องแหละนะ
พอไปถามเจ้าตัว เจ้าตัวกลับแอ่นอกยอมรับเสียอย่างนั้น เลยทำใจยักษ์เอาเอาอาวุธสงครามที่เอบเอามา(พัด)เคาะหัวไปที ปรากฏว่านอกจากจะไม่เป็นไรแล้วยังลูบหัวป้อยๆ ยิ้มแหะๆ หน้าแดงไม่รู้สึกรู้สาอะไรอีกซะงั้น
ฮึ้ยยยยยย อะไรกันนายตัวสำรอง ไม่เห็นจะเป็นอาวุธพิฆาตสักนิด
แต่ก็ช่างเถอะ วันนั้นถ้าไม่เพราะเอ็นโจชวนไปงานเลี้ยงจนไม่รีบเผ่นหนีคงเข้าไปห้ามทัพทันอยู่หรอก
โชคดีที่คิคุโนะกับเซริกะช่วยหาเรื่องแถเลยพอฉากตัวหลบมาได้แต่ก็อดไปชมรมเลย เฮ้อ แบบนี้จะถือว่าบกพร่องในหน้าที่ประธานมั้ยเนี่ย
เครียดจังเลย แบบนี้คงต้องไปหาอะไรกินแล้ว
การสันนิฐานบางอย่างของนายตัวประกอบก็ถูกนะ แต่บางอย่างก็มโนไป๊ 555
แปลล่าสุดคบรก.เอาหนังสือกดจุดให้ เลยรวบรวมดูว่าใครเคยให้อะไรบ้าง ไม่แน่ใจว่าครบมั้ยแฮะ?
------
<< ของที่คาบุรากิ ⇨ เรย์กะ >>
• หนังสือรวมบทกลอน
• หนังสือกดจุด
<< ของที่เอ็นโจ ⇨ เรย์กะ >>
• ของฝากในนามของค่าปิดปาก (คุกกี้โทจิมโบ, บิสกิตน้ำตกเคเก็น, ซาละเปาจุไก)
• กรงไม้สานใส่หิ่งห้อยหนึ่งตัว
• ลาเต้อาร์ตลายกระต่ายในงานโรงเรียน
<< ของที่ยูกิโนะ ⇨ เรย์กะ >>
• อโรม่าแคนเดิลกับผ้าขนหนู ยี่ห้อเดียวกับที่เอ็นโจใช้
• ลาเต้อาร์ตลายวัว
<< ของที่วาคาบะ ⇨ เรย์กะ >>
• ยากิโซบะ
• มองบลังค์ (จากแม่วาคาบะ)
• ข้าวแกงกะหรี่ 1 คำ(จาน)
• Bûche de Noël แทนคำขอบคุณ
<< ของที่เรย์กะเคยให้ >>
• (⇨ คาบุรากิ) กล่อง Guimauve รสพีช
• (⇨ ยูกิโนะ) หนังสือนิทานเด็กเรื่อง "โรงเตี๊ยมแห่งป่าชูเพซัลท์"
• (⇨ ยูกิโนะ) เซ็ตเค้กพิสตาชิโอจิ๋ว
• (⇨ อุเมวากะ) ช็อคโกแลตวาเลนไทน์(ให้เบียทัน)
• (⇨ อุเมวากะ) กระเป๋าใส่เบียทริซสีฟ้าลายดอกทานตะวัน มีชื่อ "Asuka&Beatrice"
• (⇨ อุเมวากะ) ตุ๊กตาเบียทริซที่เรย์กะทำ
• (⇨ วาคาบะ) ใบชา, กาแฟ และเครื่องเขียนตอบแทน(ที่ซักชุดให้)
• (⇨ วาคาบะ) รองเท้าเก่าที่เรย์กะเคยเหยียบขี้นก
• (⇨ ประธานชมรมฟุตบอล) ดอกโบตั๋น
------
วาคาบะน่าจะเก็บแต้มเรย์กะได้มากสุดละ... มีแต่ของกิน 5555
เรย์กะไม่เคยให้อะไรเอ็นโจเลย???
กูขอ ky หน่อยนะ คือกูเล่นเดอะซิมส์ค่ะ แล้วหมาบ้านกูมันมีลูกกันสามตัวพอดี กูก็เลยตั้งชื่อว่าเรย์ทัน ไซซายะ ชูสุมอยด์
คือซิมส์สัตว์เลี้ยงเนี่ย กูจะสั่งอะไรไม่ได้เลย กูก็เลยปล่อยมันเล่นกันเอง
ทีนี้กูลองมาดูค่าความสัมพันธ์ ปรากฏว่าเรย์ทันกับไซซายะสนิทกันมาก5555555 แบบค่าเต็ม 100 ในขณะที่ชูสุมอยด์ ไม่สนิทกับใครเลย5555555555
ชีวิตมีความปลีกวิเวก55555555 แต่ก็เห็นชอบไปวอแวเรย์ทัน แต่เรย์ทันชอบไปเล่นกับไซซายะ (...)
ท่านเอ็นโจของกูว ทำไมชีวิตน่าเศร้าแบบนี้คะ55555555555
>>921 ยิ่งเห็นยิ่งสงสารเอ็นโจจริงๆว่ะ จะน่าอนาถเกินไปแล้วนะ ถ้าเป็นผลโหวตตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในเรื่อง เอ็นโจต้องได้ที่หนึ่งแน่ๆ
จะเข้าหาเรย์กะต้องใช้ของกินนะ เป็นของใช้หรืออุปกรณ์โรแมนซ์ๆทั้งหลาย นางไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอก แต่ทางที่ดีเอาหนังสือสาปแช่งให้น่าจะตรงใจกว่า แล้วก็ไปสวดมนต์สาปแช่งด้วยกันกับนาง รับรอง เรย์กะตกหลุมรักชัวร์ๆ 5555555555555555555555
เออใช่ >>931 ทักแล้วถึงนึกได้
อุเมวากะเคยให้ ปานีโน่ (แชนด์วิชอิตาลี) ไส้แฮมสดและผัก (ขอโทษที่ขโมยซูชิไข่ไป)
แล้วก็ในงานโรงเรียนตอนที่นายตัวสำรองมาคุยเพราะนึกว่าเรย์กะโดนข่มขู่ เรย์กะก็มีเล่าว่าอุเมวากะเลี้ยงขนมหวาน ตอนแทนกระเป๋าเบียทริชที่เรย์กะให้
(นี่ก็ให้แต่ของกินล้วนๆ พอกะวาคาบะ 5555)
แปลไทยตอนล่าสุด คาบุรากิทำคะแนนเว้ยยย น่ารักอ่ะมึง มันดูแบบใส่ใจในแบบของนางอ่ะ สาวเจ้าเขาดูเหนื่อยๆ ก็เอาหนังสือนวดกดจุดมาให้ น่ารักว่ะ 555555 กูเอ็นดู
ดีใจเอ๋ยดีใจจังของท่านเรย์กะนี่มันจิบิมารุโกะจังชัดๆ55555555555555555
มึง สรุปมู้ใหม่ชื่อไรเนี่ย จะครบพันแล้วนะเว้ยย ปิดโหวตยังว้า
อัพเดทคะแนนต่อจาก >>865
>>434 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือรักหักเหลี่ยมโหด ครั้งที่ 9
= >>803, >>809, >>814, >>878
>>436 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
= >>801, >>807, >>808, >>810, >>813, >>824, >>825, >>826, >>827, >>829, >>854, >>869, >>870, >>874
>>806 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรพรรดินีผู้สูงส่งสง่าบนคาน คานที่ 9
= >>811, >>812
ปิดไปเลยละกัน ปกติก็ปิดที่ 900 อยู่ละ
กระทู้หน้า :
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
======
เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"
รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้
.
謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015
♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต-รายชื่อตัวละคร
https://justpaste.it/reika
จะถึงมู้เก้าแล้วเรอะ เร็วชิบ
พวกมึงว่าภายในปีนี้จะถึง30มั้ย?
"โรงเตี๊ยมแห่งป่าชูเพซัลท์" ที่เรย์กะให้ยูกิโนะตอนป่วยเข้าโรงพยาบาล
Das Wirtshaus im Spessart (The Inn in the Spessart)
เป็นเทพนิยายที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน แต่งโดย Wilhelm Hauff ในปี 1826
เกี่ยวกับนักเดินทางสองคนที่เป็นนักทำเข็มทิศและนักขุดทองกับสุนัขหนึ่งตัว เดินทางผ่านป่าชเปสซาร์ทที่ว่ากันว่ามีโจรคอยดักปล้นนักเดินทาง จนกระทั่งตกดึก ทั้งสองเดินทางไปเจอโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งกลางป่า
หาแบบแปลไทยไม่ได้ อ่านแบบอังกฤษได้ที่นี่ http://www.gutenberg.org/ebooks/32109 (PART II. Tales of the Inn.)
พรุ่งนี้เปิดเทอมซัมเมอร์แล้วท่าจะไม่ว่างมาดูมู้แล้ว ถถถ
วันหยุดไม่มีแรงผลักดันไง ไว้วันจันทร์ก่อนเถอะ...
ไม่ก็ท่านเรย์กะอาจจะแอบไปสอบทุนนอกเงียบๆบอกแค่ท่านพี่ก็ได้
แต่ถ้าได้ทางบ้านจะให้ไปรึเปล่านั้น
....
>>969 ถ้าเป็นนิยายรักทั่วไป ก็มีบ่อยนะที่เป็นคุณหนูติดดินแอบหนีพ่อแม่ไปเรียนเมืองนอก ทำงานพิเศษงกๆ แล้วไปเจอรักแท้ที่ต่างแดน ตนอื่นต่างมองว่านางเป็นซินเดอเรลล่าตกถังข้าวสาร แต่ในความเป็นจริงนั้นนางรวยเว่อรรรร์
แต่เมื่อเป็นท่านเรย์กะแล้ว..............ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ555
>>972 ทำไมชีวิตเหมือนโดนคำสาปวะ 555555555555555 หนีสี่คนนี้ไม่พ้นซักที
วาคาบะคงเอาโต๊ะโคทัตสึมาด้วย พอถึงหน้าหนาวเรย์กะก็ไปขลุกอยู่ห้องวาคาบะ นั่งแช่โต๊ะกินส้มกับเซมเบ้ พอสามคนนั้นตามมา ต้องมีคนหนึ่งที่ไม่ได้นั่งโต๊ะ สามหนุ่มก็เถียงกัน เป่ายิ้งฉุบกัน เรย์กะรำคาญความวุ่นวายเลยย้ายไปนอนซุกข้างๆวาคาบะแทน เหลืออีกที่พอดี ลงตัวห้าคนกับหนึ่งโต๊ะ
หรือไม่ไปๆมาๆนายตัวสำรองทำอาหารได้อร่อยสมบูรณ์แบบที่สุด ทุกคนเลยฝากท้องไว้กะอาริมะเสียเลย....
>>985 กูนึกถึงคลิปนี้เลยว่ะ “สาวน้อย เธอขี้เหร่เพราะไปเรียนต่อแคนาดา และเรื่องราวถัดมา หลังจากนั้น”
https://www.facebook.com/SubJingJang/videos/1835139460099827/
มีใครตั้งกระทู้ยัง กูตั้งนะ
ทางเข้ากระทู้ใหม่
>>>/webnovel/3628/
จากนี้เชิญวิ่งควายกันได้
สิบเม้นท์สุดท้าย กระทู้นี้จะปิดด้วยอะไรดี ถถถ
แล้วทำไมถึงวนอยู่กับการจมเรือล่ะเฮ้ย
>> เป้าหมายเดิมไง จมเรือคานสะ จะใครเป็นคนจมก็ได้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.