ต่อจาก >>15-16
วันนี้พอแค่นี้ กาวกูหมดป๋องและ
-------
เจ็บจัง ฮือ ทำไมเจ็บจัง ฉันน่าจะตื่นจากฝันได้แล้วสิ!
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา เพดานสีขาวเหมือนในห้องของฉัน!? นี่ฉันตื่นแล้วสินะคะ! ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ช่างเป็นเช้าที่ฝันร้ายสุดๆไปเลยค่ะ
ฉันพยุงตัวขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง
อาเร๊ะ
“แจ้งมาดาม! ท่านมาซายะฟื้นแล้ว!”
เหล่าแพทย์รอบตัวกรูกันเข้ามาถามอาการ ต่างกับฉันที่วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว อ่า ฉันเห็นคุณยมทูตมายืนรอตรงหน้าต่างด้วยล่ะค่ะ
ทุกคน ลาก่อนค่ะ ฮือ
ปึง!!!
วิญญาณฉันกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันไปมองผู้มาใหม่ที่เปิดประตูซะเสียงดังลั่นไม่เกรงใจใคร
“ท่านชูสุเกะ?” แพทย์คนหนึ่งพูดพลางมองเอ็นโจในชุดนักเรียนอย่างงุนงง ใบหน้าของเอ็นโจชุ่มไปด้วยเหงื่อราวกับเพิ่งวิ่งรอบสนามมาแถมบนหัวยังมีผ้าพันแผลพันรอบเอาไว้ด้วย? สายตาของเอ็นโจมองตรงมายังฉันในร่างคาบุรากิด้วยแววตาหวาดระแวง
“นายเป็นใครกัน!!!”
หา?
เอ็นโจที่ดูเหมือนไม่ใช่เอ็นโจ วิ่งเข้ามาเขย่าคอฉันอย่างรุนแรง ว้ากกก มึนหัวววว นี่นายจะฆ่ากันเรอะ ฉันเพิ่งโดดหน้าต่างมาเองนะยะ!!
“อ..อ่อก”
นี่นายจะฆ่ากันใช่มั้ยยยยย!
“ท..ท่านชูสุเกะ ใจเย็นก่อนครับ!”
แพทย์จะเข้ามาห้ามเอ็นโจ หมอนั่นสะบัดหน้าหันไปส่งสายตาเขม็งใส่ แพทย์คนนั้นนิ่งไปราวกับหิน เดือดร้อนเพื่อนแพทย์ต้องมาลากตัวออกจากห้องไป...เดี๋ยวๆ นี่จะทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เลยเรอะ!?
กลับมาก๊อนนนนน!!!
“ออกมาจากร่างฉันเดี๋ยวนี้นะ!!”
ร่างฉัน...?
อย่าบอกนะว่า---
หมอนี่คือคาบุรากิ?!
“ท่าน...คาบุรากิ?”
ฉันพูดอย่างลำบาก เพราะเอ็นโจ เอ่อ คาบุรากิยังกำรอบคอเสื้อไม่ปล่อย เจ้าตัวดูจะชะงักไปกับคำพูดฉัน มือคลายลง แต่ยังไม่ได้ปล่อย แถมยังจ้องอย่างหวาดระแวงมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
“ฉ..ฉันคิโชวอิน เรย์กะเองค่ะ!”
“...หา คิโชวอิน?”
คาบุรากิปล่อยมือจากคอเสื้อ มองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ยอมถอยไปนั่งข้างเตียง เกิดเดดแอร์ขึ้นระหว่างพวกเราสองคน ฉันยังสับสนอยู่นิดหน่อย ต่างกับคาบุรากิที่เหมือนจะไปเข้าฌาน (?) รวบรวมสติกลับมามากกว่า
อยู่ๆคาบุรากิก็บ่นออกมาท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด (เรอะ)
“นี่เธอ วันหลังอย่าเอาร่างคนอื่นไปซ้อมโดดตึกอีกล่ะ ถึงข้างล่างจะมีพุ่มไม้รองรับก็เถอะ แต่มันก็เจ็บอยู่ดี”
ซ้อมโดดตึก!? ในสายตาคาบุรากิ มองฉันเป็นคนยังไงกันแน่ย้า---!!!
แต่ก็อดสำนึกผิดขึ้นมานิดๆไม่ได้ ถ้าเกิดห้องที่หมอนี่อยู่สูงกว่านี้อีกสักสองสามชั้น ฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ฮือ สำนึกผิดแล้วค่ะ
“ท่านคาบุรากิเองก็เถอะ แผลบนหัวนั่นไปโดนอะไรมาเหรอคะ...”
เมื่อวานเอ็นโจก็ยังไม่มีแผลบนหัวเลยนี่? หรือเกิดตอนอื่น?
“อ๋อ พอดีคิดว่าเป็นความฝันก็เลยเอาหัวพุ่งใส่กระจกน่ะ”
ชักสงสารเอ็นโจที่มีคาบุรากิในร่างซะแล้วสิ
แต่ฉันก็เมินคำพูด แล้วเปลี่ยนเรื่อง “ท่านคาบุรากิ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉันถึงมาอยู่ร่างท่าน---”
เดี๋ยว
ถ้าฉันมาอยู่ร่างคาบุรากิ
คาบุรากิมาอยู่ร่างเอ็นโจ
แล้วเอ็นโจ...ก็ต้องอยู่ร่างฉันน่ะเซ่!
กรี๊ด--- แบบนั้นหมอนั่นก็เห็นร่างกายฉันหมดเลยนะสิ! ไม่น้า---!
ฉันคร่ำครวญในใจ คาบุรากิกลับขมวดคิ้ว พอมาอยู่ในร่างเอ็นโจแล้วกลับรู้สึกแปลกๆขึ้นมาเลยค่ะ จอมมารจอมทวงหนี้มาทำท่าแบบนี้กลับไม่รู้สึกถึงออร่าจอมมารเลย เอ่อ สงสัยไม่มีรอยยิ้มพิฆาต (?) ล่ะมั้งคะ
“อย่างนี้ชูสุเกะก็อยู่ร่างเธอน่ะสิ”
อีตานี่ก็หัวไวเหมือนกันแฮะ ค่อยสมกับลำดับที่หนึ่ง!
“ก็น่าจะใช่นะคะ”
“...ถึงจะสลับร่างกัน ฉันว่าชูสุเกะก็คงไปรอพบเราที่โรงเรียนนั่นแหละ”
คาบุรากิลุกขึ้นยืนพลางสั่งด้วยท่าทางแบบเดิม แต่ในร่างของเอ็นโจกลับให้ความรู้สึกอีกแบบมากกว่า
“เอ้า ไปแต่งตัวซะ เราจะไปโรงเรียนกัน!”
แต่งตัว!? โรงเรียน!?
ม่ายน้า หนูไม่อยากเข้าห้องน้ำ!
สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องยอมทนเข้าห้องน้ำอยู่ดีค่ะ ฮือ ไม่นะ ฉันเสียบริสุทธิ์ทางสายตาไปแล้ว---!!
แต่กว่าจะเสร็จก็ใช้เวลานานโข ตอนออกมาจากห้อง คาบุรากิในร่างเอ็นโจแทบจะเข้ามากินหัวเลยค่ะ ช่วยไม่ได้นี่ยะ! ฉันไม่เคยเป็นผู้ชายมาก่อนนะ! ปุบปับจะให้ทำอย่างง่ายๆมีที่ไหนกัน!
“เร็วๆ เข้าสิ คิโชวอิน! อย่างน้อยจะได้ทันคาบสอง!”
เป็นขนาดนี้แล้วยังจะมีกะจิตกะใจเรียนอีกเร้อออ
ฮือ หนูอยากกลับบ้าน หนูอยากกลับร่าง!