ต่อจาก >>627-630 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
เห็นเอ็นโจเริ่มฐานะตกต่ำโดนด่าตลอดยังไงไม่รู้ 5555 ตอนนี้เลยพยายามเขียนมาช่วย (หรือซ้ำเติม..) นิดหน่อยล่ะกันนะคะ
ป.ล. เราเรือคาบุรากิจริงๆนะคะ 5555
..............…….....
หลังจากเหตุการณ์ที่ร้านคาเฟ่ ฉันก็เดินหนีความจริงออกมา ไม่ได้ซื้อคุกกี้ไปให้คาบุรากิด้วย จะยังไงหมอนั่นก็ได้อยู่กับวาคาบะจังตามที่ต้องการแล้วนี่นา คงไม่จำเป็นต้องซื้อคุกกี้ไปให้อีก
เพื่อนๆฉันถามอย่างตื่นเต้นว่าฉันจะเลือกใคร ฉันเลยยืนยันว่าไม่เลือกใครทั้งนั้นแหละค่ะ ทุกอย่างทุกคนคิดไปเองทั้งหมด
ฉันไม่มีอารมณ์เดินงานต่อยังไงไม่รู้ เลยขอตัวแยกจากกลุ่มเพื่อนๆ แล้วว่าจะกลับไปที่ห้องคนเดียว ไปนั่งเฝ้าเทียนเฉยๆดีกว่า
จริงๆฉันก็เคยตกลงกับคาบุรากิไปว่าอย่าทำตัวสนิทกันมากที่โรงเรียน แต่ว่าฉันเองนี่แหละค่ะทำพังตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานกีฬาสี คุยกันบ่อยๆในที่สาธารณะ นั่งกินข้าวด้วยกัน หรือการที่เขามาช่วยฉันจากเอ็นโจ ตอนนี้จะแก้ตัวอะไรก็ลำบาก
ฉันในสายตาคนทั้งโรงเรียน คือ ผู้หญิงมีอำนาจที่ชอบคาบุรากิ และกลั่นแกล้งทุกคนที่มาเข้าใกล้ หรือใครก็ตามที่คาบุรากิไปยุ่งด้วยหรือสนิทสนมมากเกินไป วาคาบะจังก็เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งที่เรย์กะเกลียดและกลั่นแกล้งประจำล่ะนะคะ ต่อให้ตอนนี้ฉันสูญเสียความทรงจำก็จริง แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงกะทันหันแบบนี้ เป็นใครก็อาจจะงง เพราะคนที่เปลี่ยนไม่ใช่แค่ฉัน คาบุรากิเองก็เปลี่ยนมาด้วยทั้งๆที่ไม่เสียความทรงจำ ตอนนี้ข่าวลือแปลกๆกระจายไปหมดแล้วค่ะ...
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนเข้าร้านเลยค่ะ อ้า...ปกติคนก็ไม่ได้เข้ามาซื้อเทียนแล้วอยู่นานอยู่แล้วล่ะนะคะ ต่างจากร้านคาเฟ่
ขณะที่ฉันเริ่มจะเหม่อลอยถึงอาหารเย็นก็บังเอิญเห็นเอ็นโจยืนทำลับๆล่อๆอยู่มุมมืดของอาคารเรียน ท่าทางดูไม่น่าเป็นอะไรที่ดี ว่าแต่นายไม่ต้องอยู่ทำลาเต้ที่ร้านงั้นหรอ
ไม่นานนักฉันก็ได้ยินเสียงดูน่ารำคาญหน่อยๆ
“คุณเอ็นโจไม่อยู่ร้าน ขอโทษนะครับที่พามาเสียเที่ยว”
คาซึรางิคุงไก่โง่ที่ชอบร้องกระโต๊กกระต๊ากพูดอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว ดูไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไหร่เลยค่ะ
“เดี๋ยวเรารออีกสักพักค่อยไปหาอีกรอบก็ได้”
ผู้หญิงอีกคนตอบรับอย่างใจเย็น เป็นคนที่ผิวขาวผ่องและดวงตากลมโตหยาดเยิ้มไหวระริก ผมดำยาวประบ่าร่างอ้อนแอ้น ดูสะดุดตาจนฉันละสายตาไปจากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้
นั่นมัน...ว่าที่คู่หมั้นของเอ็นโจงั้นหรอ
ฉันพยายามไม่สนใจอะไรผู้หญิงคนนั้นมาก แต่ว่ารู้สึกตัวอีกที เธอก็เดินมาอยู่ตรงหน้าร้านฉันแล้ว
“คุณคิโชวอิน คาดไม่ถึงเลยนะคะว่าจะได้เจอกันอีกแล้วในเวลาแบบนี้”
“งั้นหรอคะ...”
ฉันเคยเจอกับผู้หญิงคนนี้มาก่อนงั้นหรอในโลกนี้ โลกที่แล้วฉันเจอวันงานเทศกาลนี่คะ
จะว่าไป เรย์กะโลกนี้น่าจะชอบไปงานสังคมมากกว่าฉันล่ะนะคะ คงมีโอกาสเจอคนชนชั้นสูงตระกูลดังๆมาพอสมควร
ฉันกำลังช่างใจอยู่ว่าจะแสดงท่าทางแบบไหนออกไปดี ไม่รู้ว่าในโลกนี้อีกฝ่ายเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู... และฉันไม่ค่อยอยากบอกเลยว่าเสียความทรงจำ ดูเสียเปรียบยังไงไม่รู้
แต่โชคดีที่เราไม่ได้อยู่คุยอะไรมากกว่านั้น ว่าที่คู่หมั้นของเอ็นโจก็เดินจากไปพร้อมตาไก่โง่
ฉันถอยหายใจอย่างโล่งอก
"ขนาดนั้นเลยหรอครับ"
ฉันสะดุ้ง ก่อนจะเห็นเอ็นโจหลบอยู่ที่มุมอับสายตาในห้อง นายไปทำอะไรตรงนั้นน่ะ!
"ไม่อยากเชื่อเลยนะครับว่าคุณจะกลัว"
“สำหรับคนที่แอบออกมาจากห้องเพื่อหนี ไม่มีสิทธิว่าฉันหรอกนะคะ”
เอ็นโจสะดุ้ง เห็นจอมมารมาดหลุดก็บันเทิงใจไม่เลวนะคะ หุหุ
“นึกว่าคุณจะเสียความทรงจำไปทั้งหมดซะอีกนะครับ”
“ฉันเสียความทรงจำบางส่วนค่ะ จำได้แค่รางๆเท่านั้น”
“งั้นคุณก็จำได้สินะครับว่ายุยโกะเป็นคู่หมั้นผม”
“หะ!? !” ฉันอุทานออกมา “ไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นหรอคะ! ! !”
ในโลกนี้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นของเอ็นโจโดยสมบูรณ์งั้นหรอ
เอ็นโจหัวเราะพรืดออกมา
“คุณคิโชวอินจำได้จริงๆสินะครับ”
เอ๋! หมอนี่หลอกฉันเล่นงั้นหรอ ให้ตายเถอะ โลกที่แล้วก็ทำแบบนี้ สนุกนักหรือไงหะ! ! !
แต่ก็ดูคล้ายๆกับเอ็นโจในโลกก่อนอยู่เหมือนกันนะคะ ถึงจะมีผมสีทอง และก็ตามหลักจะห่างเหินเป็นศัตรูของเรย์กะ คิโชวอิน
“ว่าแต่ทำไมถึงหนีว่าที่คู่หมั้นตัวเองงั้นหรอคะ” แถมยังไร้ความรับผิดชอบสุดๆ ทิ้งสาวๆที่ต่อคิวรอลาเต้นายได้ยังไง ห้องนายจะลำบากรู้ไหม แล้วเวลาคนในห้องนั้นลำบาก วาคาบะจังก็จะถูกรองรับความโกรธไปอีก
“เรื่องนั้นคุณจำไม่ได้สินะ แต่ก็ดีแล้วล่ะ” เอ็นโจตอบยิ้มๆ ถึงไม่น่ากลัวเหมือนตอนแรกๆที่เจอก็เถอะค่ะ แต่น่าหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ อยากจะต่อยท้องแรงๆสักครั้งจริงๆ
ฉันมองเอ็นโจที่มานั่งด้วยข้างๆ ก่อนจะถามต่อ
“ถ้าหนีทั้งที ทำไมมาที่นี่ล่ะคะ ไม่กลัวถูกตามตัวเจอหรอคะ”
“ยุยโกะไม่คิดว่าผมจะอยู่กับคุณหรอกครับ เลยเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดน่ะครับ”