คืบคลานมาลงฟิคจากในเงามืด
KimiDolce ~after story >>>/webnovel/3364/831-834
------------
ผมคือเอ็นโจ ชูสุเกะ
ตั้งแต่จำความได้ ผมก็ได้รับการพร่ำสอนจากทางบ้านถึงภาระหน้าที่ที่ควรกระทำในฐานะผู้สืบทอดตระกูลเอ็นโจอันทรงเกียรติ เรียนรู้ทักษะทุกอย่างเพื่อการเข้าสังคม ถูกฝึกสอนให้เป็นผู้นำและควบคุมสถานการณ์มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
ผมรู้ดีว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย รู้จักการเจรจาต่อรองแต่ก็ต้องทำให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามข่มขู่เกินไป เพราะจะทำให้เขาระแวดระวังตัว รู้จักการประณีประนอมและคลี่คลายจนสามารถควบคุมบงการให้เป็นไปตามต้องการได้
แต่ว่าคิโชวอิน เรย์กะนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของผมเสมอ
พอมีเธอเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมก็ไม่เคยบังคับสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างใจต้องการได้เลยซักครั้งเดียว
.
.
.
อีกสามเดือนต่อมา ผมพบเธออีกครั้งในร้านของเกอิชาชั้นสูงตามที่บอกว่าไปสมัครงาน
สถานที่พวกนั้นเป็นที่ที่ผมไม่คิดจะเหยียบย่างไป แต่เมื่อลูกค้าชาวต่างชาติรายสำคัญมีรีเควสต์มาว่าอยากลองไปเที่ยวดูสักครั้ง ท่านพ่อเลยมอบหมายให้ผมที่กำลังเรียนรู้งานบริหารเป็นผู้รับรองแขก
โอก้าซังพาเกอิชารุ่นพี่ออกมาต้อนรับพวกเรา แล้วก็แนะนำให้รู้จักไมโกะคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน แนะนำสรรพคุณว่าสวยอย่างนั้น อ่อนหวานอย่างนี้ รำก็งดงาม แถมเล่นดนตรีไพเราะอีกต่างหาก
คุณคิโชวอินคือไมโกะคนที่ว่านั่น หมอบคำนับอยู่ตรงประตูอย่างนอบน้อม สวมใส่ชุดกิโมโนเขียวอมฟ้าที่ดูหรูหรา เกล้าผมปักปิ่น ทาหน้าสีขาว แต่งหน้าฉูดฉาด แย้มรอยยิ้มอ่อนหวาน ไม่เหมือนคุณคิโชวอินในความทรงจำของผมเลยสักนิด
เธอไม่เหลือบมองผมสักครั้ง เอาแต่ดีดซามิเซ็ง ร้องเพลง หรือไม่ก็รำนาฎศิลป์ ทำเป็นไม่รู้จักกันได้อย่างแนบเนียน
คุณคิโชวอินหัวเราะคิกคักเมื่อถูกจับเนื้อต้องตัวโดยคนเมา และปัดมือออกอย่างมีจริตมารยา ผมมองแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย คุณคิโชวอินที่ควรจะหยิ่งทระนง ใช้หางตามองดูผู้คน กลับกลายมาเป็นผู้หญิงที่ทำตามความต้องการของผู้ชาย ท่าทีอ่อนหวานฉอเลาะพวกนั้นมันไม่ใช่ตัวเธอเลยสักนิด
ไม่รู้สึกขยะแขยงตัวเองบ้างรึยังไงนะ
เธอเองก็ถูกลูกค้าคะยั้นคะยอให้ดื่มเพื่อเป็นรางวัลของการแสดงที่จบไป สีหน้าดูลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อรู้ว่าผมมองอยู่ ก็ยกจอกดื่มเลย
เดี๋ยวก็เมาเละแบบวันนั้นอีกหรอก
ผมหงุดหงิด แต่ก็ต้องทำหน้ายิ้มแย้ม พูดคุยไปตามแต่จะมีใครเปิดหัวข้อสนทนา ตายังคงเหลือบมองคุณคิโชวอินอยู่เป็นระยะ ถ้าเมาแล้วไม่อาละวาดแบบวันนั้นก็ดีสิ
กว่าจะทำให้เธอสงบได้ ผมก็เกือบแย่
คุณคิโชวอินที่เมาจนหมดสภาพ แหกปากโวยวายบ้าง ร้องเพลงบ้าง แล้วก็หัวเราะบ้าง สลับไปสลับมาจนผมอยากหาอะไรอุดปากไม่ให้ส่งเสียง ดีที่แมนชั่นของผมนั้นครอบครองอยู่คนเดียวทั้งชั้น ไม่อย่างนั้นคงไปรบกวนเพื่อนบ้านจนถูกร้องเรียน
นั่งที่โซฟาได้สักพัก เธอก็เริ่มร้องไห้ ยกมือขึ้นเหมือนไขว่คว้าอะไรสักอย่าง แล้วก็พูดแค่คำว่าขอโทษค่ะซ้ำไปซ้ำมา แต่พอผมลูบหัวเธอเป็นการปลอบ คุณคิโชวอินก็มีสีหน้าที่ดูมีความสุขขึ้น เอาตัวเข้ามาซุก ใช้ผมเป็นหลักยึด นอนหลับไปอย่างง่ายดาย
ผมเกลี่ยน้ำตาเธอออกจากแก้ม จิ้มหว่างคิ้วที่กำลังขมวดเข้าหากันให้คลายตัวออก ไม่กล้าขยับมากเพราะกลัวเธอจะตื่นขึ้นมาก่อปัญหาอีกรอบ
ได้เห็นเธอในมุมอ่อนแอเช่นนี้ค่อนข้างให้ความรู้สึกแปลกๆ บอกไม่ถูกเช่นกันว่าอย่างไร แต่ก็คิดว่าน่ารักน่าเอ็นดูกว่าตอนทำท่าหยิ่งผยองนางพญาใส่ ใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาทำให้ดูเปราะบางยิ่งขึ้นไปอีก
ก็ฟังดูดีหรอก ถ้าเธอจะไม่ลุกขึ้นมาอีกครั้งในสิบนาทีให้หลังแล้วเริ่มต้นอาเจียนใส่ผม
ถ้าฆ่าคนไม่ผิดกฏหมาย ผมคงทำไปแล้ว
ตอนนั้นเป็นเวลาตีสอง เวลาที่ใครต่อใครควรจะหลับไป แต่ผมต้องมาอยู่ในห้องน้ำ ลูบหลังช่วยคนที่กำลังอาเจียน และในตอนที่เธอสิ้นฤทธิ์ไปในที่สุด ผมก็ต้องมาเก็บกวาดในสิ่งที่เธอก่อเอาไว้ ดึกขนาดนี้ เรียกบริษัททำความสะอาดไม่ได้ จะทิ้งเอาไว้ยันเช้าเพื่อรอให้เจ้าตัวมาเก็บเองก็ไม่ได้
คิโชวอิน เรย์กะก็ยังเป็นคิโชวอิน เรย์กะอยู่วันยังค่ำ
ทำให้ใครต่อใครเขาลำบากไปทั่ว ส่วนตัวเองลอยหน้าลอยตาอยู่เหนือปัญหาไม่รับรู้