ไหนๆก็มีฟิคเรย์กะxยูกิโนะ สลับเพศแล้ว เอ้อะะะ กูช็อคเพราะกูกำลังแต่งอยู่55555555555
งั้นรอบนี้เป็นมุมของยูกิโนะจังบ้างละกันเนาะ น่าจะเจ๊าๆกันได้อยู่
เมื่อฉันเปิดประตูออกไป ก็พบพี่ชายไม่คุ้นหน้า ไว้ผมหยักศก ท่าทางดูดีในเครื่องแบบของม.ปลาย ติดเข็มกลัดดอกโบตั๋นสีแดงเหมือนของท่านพี่
ใครกันน่ะ?
“สวัสดีค่ะ คุณพี่ม.ปลาย มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อฉันเอ่ยปากถาม สิ่งที่กลับมามีแต่ความเงียบ พี่ชายคนเดิมยังคงไม่ตอบคำถาม สายตาจ้องฉันนิ่ง ทำเอารู้สึกเริ่มอึดอัดคนแปลกหน้าขึ้นมา
“คุณพี่คะ?”
มีอะไรก็พูดสิคะ ชักเริ่มกลัวแล้วนะ
ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามายืนจ้องหน้าทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันทำเอารู้สึกอึดอัดจนบอกไม่ถูก
“อ๊ะ ขอโทษครับ พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อยก็เลยเหม่อๆ พี่นัดเจอกับซาวาราบิ มาโอะคุงที่อยู่ที่นี่ครับ พี่อยู่ม. 5 เป็นสมาชิก Pivoine ชื่อคิโชวอิน เรย์ครับ”
อ๋อ มาหามาโอะคุงนี่เอง ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วยิ้ม เริ่มผ่อนคลายความรู้สึกอึดอัดเมื่อกี้
“เชิญเลยค่ะ” ว่าพลางดึงมือของคุณพี่ชายเข้ามาในห้องเปอร์ติต์ มาโอะคุงที่ยืนอยู่ไม่ไกล พอเห็นคุณพี่คนนี้ก็ร้องเสียงดังใหญ่
“ท่านพี่เรย์!”
“มาโอะคุง”
ท่าทางสองคนนี้คงจะสนิทกันน่าดู พอพี่ชายคนนี้เข้ามา ซาวาราบิคุงก็ท่าทางดีใจและมีความสุขมาก รีบวิ่งเข้าหาทันที
เหมือนเห็นภาพสุนัขตัวเล็กๆวิ่งหาเจ้าของเลย เป็นภาพที่เห็นแล้วชื่นใจแปลกๆดีเหมือนกัน
พอทั้งคู่เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน ฉันก็ได้ทีผละตัวออกมาเพื่อไปเอาขนมหวานที่ห้องครัว ยังไงฝ่ายที่เข้ามาเยี่ยมคือแขกนี่นา ฉันหยิบเค้กมาไม่กี่ชิ้นและวางถ้วยชา กาน้ำชาวางบนถาด อื้ม น่าจะโอเคแล้วล่ะค่ะ
อุ๊ ทำไมมันหนักกว่าที่คิดล่ะคะ ดูไม่หนักขนาดนั้นแท้ๆ
พยายามจ้ำอ้าวเดินไปวางบนโต๊ะ มือที่ถือถาดเริ่มรู้สึกเจ็บเพราะความหนักของถาด ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของพวกมาโอะคุง คุณพี่ม.ปลายก็หันมาเห็นพอดี
“ขอบคุณนะครับ ถือมาคนเดียวคงหนักแย่เลย”
“ไม่หรอกค่ะ แค่นี้สบายมาก เอ้า เชิญเลยค่ะ” ฉันพูดพลางซ่อนมือที่ดูเหมือนจะแดงเถือกเอาไว้ไปด้านหลัง
“อุตส่าห์ยกน้ำชามาให้ท่านพี่เรย์เหรอ ขอบใจมากนะ ยูกิโนะจัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เรื่องแค่นี้ ใครๆก็ทำได้ค่ะ
“ยูกิโนะจัง? ชื่อยูกิโนะจังเหรอครับ?”
“ค่ะ หนูชื่อเอ็นโจ ยูกิโนะ ฝากตัวด้วยนะคะ คุณพี่เรย์” ฉันกล่าวแนะนำตัวพร้อมด้วยรอยยิ้ม น่าแปลก คุณพี่เรย์จู่ๆก็ดูนิ่งแข็งไปชั่วขณะ
“เอ่อ.. ยูกิโนะจัง เป็นอะไรกับท่านเอ็นโจ ชูสุกิหรือเปล่าครับ?” หมายถึงท่านพี่ชูสุกิน่ะเหรอคะ? ท่าทางคนคนนี้รู้จักท่านพี่ด้วย
“เอ็นโจ ชูสุกิเป็นพี่สาวของหนูเองค่ะ”
เอ๊ะ เมื่อกี้พูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ ทำไมคุณพี่ที่ตอนแรกยังยิ้มแย้มอยู่ดีๆ พอพูดถึงเรื่องท่านพี่ก็หน้าซีดเซียวขึ้นมา มันเลยทำให้ฉันยิ่งกังวลว่าคนคนนี้มีอะไรกับท่านพี่หรือเปล่า..?
“เอ่อ.. พี่สาวทำไมเหรอคะ?”
เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าฉันเริ่มซักไซ้ คุณพี่เลยเริ่มเปลี่ยนสีหน้าแล้วรีบเล่าต่อทันที
“เปล่าครับ พอดีผมอยู่ชั้นเดียวกับพี่สาวของยูกิโนะจัง เลยตกใจนิดหน่อย ไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านนเอ็นโจมีน้องสาวน่ารักแบบนี้ด้วย”
“จริงเหรอคะ?”
แล้วทำไมเมื่อกี้ตอนที่ฉันบอกว่าเป็นน้องสาวท่านพี่ชิสุกุ คุณพี่ถึงดูหวาดๆยังไงก็ไม่รู้
ท่านพี่ไปทำอะไรให้กับคุณพี่เรย์ลำบากใจหรือเปล่านะ
“พี่ยังเคยพูดคุยกับท่านพี่ในห้องสโมสรของ Pivoine อยู่บ่อยๆเลย จริงด้วย! ตอนเปิดเทอมฤดูหนาวยังเคยได้ถุงของฝากเป็นขนมจากท่านเอ็นโจเลยนะ”
“ของฝากจากท่านพี่?”
“ครับ รู้สึกว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกับป่าที่มีชื่อเสียงมา อร่อยมากเลยล่ะ”
“งั้นเหรอคะ”
ค่อยยังชั่วหน่อย แสดงว่าคนคนนี้สนิทกับท่านพี่พอดูเลยนี่นา
นอกจากท่านพี่มาซามิที่คบหาอย่างสนิทใจ ก็พึ่งรู้ว่ามีคนที่สนิทขนาดเอาของฝากไปให้ด้วย แทบไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
แสดงว่าคุณพี่คนนี้น่าจะเชื่อใจได้
“เอ่อ ขอหนูนั่งข้างๆได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ” ฉันเข้าไปนั่งพื้นที่ว่างข้างๆ มองคุณพี่เรย์ทานเค้กที่เตรียมมาอย่างชื่นใจ อื้ม ถ้าทานอย่างอร่อยก็ดีแล้วล่ะค่ะ ค่อยคุ้มกับที่ถือมาอย่างลำบากหน่อย
“อร่อยมากเลยครับ ขอบใจนะ ยูกิโนะจัง”
ไม่รู้ว่าเพราะคุณพี่ชายเขามีประสบการณ์อยู่กับเด็กบ่อยหรือเปล่า แต่อยู่ด้วยแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย.. เพราะงี้พวกมาโอะคุงกับยูริจังถึงได้ตามติดแจสินะ
“ค่ะ”
หลังจากนั้นพอฉันกลับบ้าน ก็เล่าเรื่องที่ได้เจอคุณพี่เรย์ให้ท่านพี่ฟัง ท่าทางท่านพี่ชูสุกิดูสนใจเหมือนกันที่คุณพี่เรย์ไปโผล่ที่เปอติต์
อ้าว ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนสนิทกันหรอกเหรอคะ?