ท่านพี่ไม่พูดอะไรอีก และเดินออกห่างจากฉันไป ราวกับไม่สนใจอีกแล้ว ฉันไม่กล้าแม้แต่จะห้ามอีกฝ่ายได้เลย...
ฉันเงยหน้ามองแผ่นหลังที่ค่อยๆข้ามถนนจากไปเรื่อยๆ ก่อนจะชะงัก
“ท่านพี่ ระวังค่ะ!!!”
ไหวกว่าความคิดใดๆ ฉันพุ่งตัว ผลักท่านพี่ไปริมถนนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่านพี่หันกลับมาอย่างตกใจ
“เรย์กะ!!!”
เสียงเบรกรถดังสนั่น ฉันได้แต่ยืนตัวค้างปล่อยให้รถชนอีกครั้ง
ทุกอย่างก็มืดดับไปอีกครั้ง...
..............…….....
เจ็บจังเลยค่ะ แต่ว่าก็ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คาดไว้...
ฉันพยายามลืมตา แต่ก็รู้สึกมึนๆ จนหลับตาไปอีกครั้งสักพัก ตอนนี้ฉันอยู่บนที่อะไรนุ่มๆค่ะ น่าจะเป็นเตียง
เมื่อสติฉันค่อยๆกลับมาทีละนิด ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะหันไปรอบๆ และเห็นท่านพี่นั่งอยู่ข้างเตียง
“เอ๊ะ...”
“ฟื้นแล้วหรอ...ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม” ท่านพี่พูดอย่างแผ่วเบา ท่าทางกังวลเอามากๆเลยค่ะ
“ค่ะ...” ฉันตอบพลางสำรวจร่างกาย ดูเหมือนฉันมีแค่แผลถลอก ไม่ได้มีร่องรอยรุนแรงแบบคนผ่านการถูกรถชนมาก่อนเลยค่ะ
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ...”
ฉันมองท่านพี่ที่อ่อนโยนกว่าเมื่อกี้หลายพันเท่า ก่อนจะหัวใจหล่นวูบอย่างอดไม่ได้
อย่าบอกนะว่า... เมื่อกี้ที่ถูกรถชนฉันทะลุมิติมาอีกครั้ง!?!
เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะยังมีชีวิตรอด และมีแค่แผลเล็กน้อย และท่านพี่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างนี้
ที่นี่คือที่ไหนกันน่ะ โลกใหม่อีกโลก? หรือว่ากลับมาโลกเก่า?
แล้วคาบุรากิล่ะ...
ในหัวของฉันสับสนจนเรียบเรียงอะไรไม่ถูก นี่ฉันทิ้งคาบุรากิไว้ในโลกนั้นคนเดียวงั้นหรอคะ แล้วแบบนี้จะเป็นยังไงกันหลังจากนั้น
ขณะที่ฉันลังเลว่าควรทำยังไงดีที่จะพิสูจน์ว่าฉันอยู่โลกไหนกันแน่ อยู่ๆก็มีบุคคลไม่ต้องประสงค์เปิดประตูห้องเข้ามา ฉันชะงัก ขยับตัวออกห่างให้มากที่สุดโดยอัตโนมัติ
“ครั้งนี้เป็นความผิดของฝ่ายผมเอง ขอให้ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเถอะนะครับ...”
จอมมารเอ็นโจก้มหัวเล็กน้อย ฉันตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เกิดอะไรขึ้น...
อยู่ก็มีเมลล์เด้งขึ้นมา ฉันแอบมองแวบๆ เหมือนมาจากคาบุรากิ โลกก่อนหน้านี้ฉันคงไม่มีเมลล์คาบุรากิ ถ้างั้นอาจจะเป็นโลกเดิมก็ได้ แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ...
หลังจากคุยๆกันสักพัก ฉันก็สรุปเรื่องราวได้ว่า ตอนที่ฉันผลักท่านพี่หลบไป และเตรียมพร้อมโดนรถชน ดูเหมือนคนขับจะเบรกและหักหลบได้ทัน เลยไม่ชน และฉันจึงไม่เป็นไร แต่ที่มาที่โรงพยาบาล คือ ฉันแค่ตกใจจนเป็นลม...
ตกใจจนเป็นลมนี่นะคะ! น่าอายเกินไปแล้ว... แต่ว่าจะโดนรถชนเลยกลัวตายนิดๆหน่อยๆคงเป็นเรื่องปกติใช่ไหมคะ...
ฉันพยายามปลอบใจตัวเองที่กำลังเสียขวัญ
“ทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนั้น” ท่านพี่ถามขึ้น น้ำเสียงกลับมาไร้อารมณ์อีกแล้วค่ะ น่ากลัวจังเลยค่ะ...
“ผมต้องรีบมาส่งน้องชายที่อาการกำเริบที่โรงพยาบาลน่ะครับ”
“เอ๋! แล้วยูกิโนะคุงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ!!!”
ฉันถามอย่างตกใจ เทวดาน้อยอาการกำเริบงั้นหรอ!?! คงไม่ได้เสียเวลากับฉันจนอาการหนักกว่าเดิมใช่ไหม ไม่นะ ฉันทำอะไรกับยูกิโนะคุง...
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มาทันพอดี” เอ็นโจพูดแบบกึ่งๆยิ้ม “ไม่ยักรู้ว่าคุณคิโชวอินจะรู้จักน้องชายของผมนะครับ”
ฉันชะงัก แย่แล้วค่ะ ลืมไปเลยว่าในโลกนี้ ฉันยังไม่เคยเจอยูกิโนะคุงมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
“เคยได้ยินในคนในสโมสรพูดๆกันน่ะค่ะ...”
หวังว่าคงไม่ได้ดูมีพิรุธเกินไปนะคะ ต่อให้เอ็นโจฉลาดระดับจอมมารแค่ไหนก็เดาไม่ได้หรอกค่ะว่าฉันทะลุมิติมา แต่ว่าเขาอาจจะคิดว่าฉันเป็นพวกสโตรกเกอร์ รู้ความเป็นไปชาวบ้านก็ได้ค่ะ แบบนี้เอ็นโจจะหมายหัวฉันหรือเปล่านะคะที่แอบมองน้องชายสุดที่รักของเขา...
เอ็นโจไม่เค้นถามอะไรฉันต่อ แต่หันไปคุยกับท่านพี่สองสามคำ ก่อนจะบอกลาฉันตามมารยาท
ดีจังค่ะ รอดแล้ว... อย่างน้อยก็สำหรับตอนนี้ล่ะนะคะ...
ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ฉันกับท่านพี่แค่สองคน
ฉันรวบรวมความกล้าอีกครั้ง
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมคะ...”