Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6

Last posted

Total of 1000 posts

487 Nameless Fanboi Posted ID:wvJCi/2l/

ต่อจาก >>235-236 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
อ่านคอมเม้นต์แต่ละคนบางทีก็ตกใจนะคะ ทำไมเดาเนื้อเรื่องได้ขนาดนั้น 555 อุตส่าห์เขียนแอบๆ
ยินดีด้วยกับคาบุรากิที่มีสารบัญเป็นของตัวเองแล้ว ขอบคุณโม่งผู้จัดทำสารบัญด้วยนะคะ
..............…….....
ฉันพยายามติดต่อคาบุรากิ ทั้งโทรทั้งส่งเมลล์ไปถามไถ่

เกิดอะไรขึ้น... คาบุรากิจะเป็นอะไรไหมนั่นน่ะ...

ขณะที่ฉันช่างใจว่าควรบุกไปถามที่บ้านคาบุรากิเลยดีไหม เมลล์ก็เด้งขึ้นมา พอเห็นว่ามาจากคาบุรากิ ฉันก็รีบเปิดอ่าน

"ตอนนี้รอดแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันพิมพ์เมื่อกี้เผื่อไว้เฉยๆน่ะ"

อ้า... โล่งอกไปทีล่ะมั้งคะ

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สถานการณ์แบบไหนนะที่คาบุรากิต้องถึงขั้นพิมพ์เผื่อไว้เหมือนประโยคลาตายขนาดนั้น… เดาไม่ถูกเลยจริงๆค่ะในกรณีนี้ ฉันพยายามถามว่าเอ็นโจทำอะไรเขา เขาก็ไม่ยอมบอกท่าเดียวจนฉันต้องยอมแพ้ไป... แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะค่ะ

คาบุรากิดูลับลมคมนัยมีความลับบ่อยๆในช่วงนี้ ทั้งๆที่ปกติหมอนั่นเป็นคนเปิดเผยซะจนน่าตกใจแท้ๆ แต่ก็ต่อว่าเขาได้ไม่เต็มปาก ในเมื่อเหมือนเขาจะคล้ายๆทำไปเพราะปกป้องตัวฉันเอง

หลังจากฉันไปนั่งคิดนอนคิดมาแล้ว ฉันก็พอเดาได้ค่ะว่ามันคือเรื่องอะไรที่ทำให้คาบุรากิทะเลาะเอ็นโจ แต่ว่าในเมื่อสัญญากับเขาไว้แล้วแบบนั้น ก็คงต้องทำเป็นไม่รู้ไปก่อนล่ะนะคะ จะยังไงฉันจะพยายามแก้ด้วยวิธีของฉันเช่นกัน

อีกไม่นานจะได้เจอท่านพี่แล้วค่ะ! ฉันทั้งตื่นเต้นและกลัวๆ แค่ผ่านการเรียนวันนี้ไปอีกวันเท่านั้นเอง

ฉันตื่นแต่เช้าอย่างตื่นเต้น เลยมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติอย่างมาก ไปห้องเรียนก็คงไม่มีใครอยู่ ไปห้องสมุดดีกว่าค่ะ ถ้าโชคดีอาจจะเจอนารุคุงในโลกนี้ด้วยนะคะเนี้ย หุหุ

แต่ฉันกลับเห็นใครไม่รู้ทำตัวลับๆล่อๆหน้าตู้เก็บรองเท้า ถ้าจำไม่ผิด นั่นเป็นตู้เก็บรองเท้าของวาคาบะจังนี่คะ

ฉันเดินไปใกล้ๆ แล้วเจอกับคนต้นเหตุ อีกฝ่ายสะดุ้งเมื่อเห็นฉัน

“คุณคิโชวอิน...”

นี่มันผู้ชายคนเดียวกับที่มาตามตื้ออาโออิจังในโลกก่อนนี่คะ หมอนี่เองก็อิจฉาวาคาบะจังที่เก่งกว่า จนเคยพูดว่า “สมน้ำหน้า” ตอนที่วาคาบะจังโดนคนอื่นๆแกล้ง

“ทำอะไรอยู่หรอคะ” ฉันถามนิ่งๆ

ผู้ชายคนนั้นหยิบเปิดกล่องรองเท้าให้ดู ในนั้นมีรองเท้าที่ใส่ในอาคารเปื้อนหมึกดำเลอะเทอะไปหมด

ในโลกก่อนก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันแบบนี้ แต่ว่าตอนนั้นฉันมาเช้าไม่พอเห็นว่าใครเป็นคนทำ แต่ถ้ามันเป็นโลกคู่ขนานกันจริงๆล่ะก็ แสดงว่าว่าหมอนี่เป็นคนทำสินะคะ

ฉันเผลอยิ้มเย็นไม่รู้ตัว

"แหม อุตส่าห์มาแต่เช้าทั้งที แทนที่จะไปอ่านหนังสืออยู่ห้องสมุด กลับมาทำเรื่องแบบนี้งั้นหรอคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงสู้ทาคามิจิไม่ได้"

หมอนั่นอ้าปากค้าง ท่าทางสั่นกลัว แต่ก็ยังพยายามพูดออกมา

“คุณคิโชวอินไม่ได้ไม่ถูกกับคุณทาคามิจิหรอครับ...”

“นั่นเป็นข้ออ้างของคุณหรอคะ”

“...”

ฉันยิ้มให้ใบหน้าที่ตื่นกลัวหวาดหวั่นนั่น

“ฉันไม่ยอมให้ใครแกล้งคุณทาคามิจิหรอกนะคะ”

ฉันแกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายทั้งสับสนทั้งหวาดกลัว ยังไงก็แค่ช่วงเช้า ยังไม่มีใครมา จะช่วยวาคาบะจังตรงๆน่าจะไม่มีปัญหาล่ะนะคะ

“อื้ม สหกรณ์ก็ยังไม่เปิดล่ะนะคะ ช่วยไปยืมรองเท้าแตะมาให้ทีค่ะ อย่าให้ฉันรอนานนะคะ”

หมอนั่นวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ฉันอยากให้หมอนั่นรับผิดชอบโดยการซื้อรองเท้าใหม่อยู่ล่ะนะคะ แต่ว่าสหกรณ์ก็ยังไม่เปิด และถ้าทำแบบนั้นวาคาบะจังต้องรู้แน่ๆว่าถูกแกล้ง

แปบเดียวเจ้าผู้ชายขี้อิจฉานั่นก็กลับมา ฉันถอดรองเท้าตัวเองออกแล้วใส่รองเท้าแตะแทน ก่อนจะเอารองเท้าตัวเองใส่ให้วาคาบะจัง เราใส่เบอร์ใกล้เคียงกัน หวังว่าวาคาบะจังจะไม่ได้สังเกตนะ...

ฉันรีบหนีความจริงไปที่อื่น และตอนที่สหกรณ์เปิดก็บังคับให้ผู้ชายที่แกล้งวาคาบะไปซื้อรองเท้ามาให้ฉันใหม่ ถึงฉันมีเงินมากพอจะซื้อทิ้งขว้างได้เต็มที่ แต่ต้องขุดรีดให้รู้สำนึกบ้างล่ะนะคะ ให้รู้ซะบ้างว่าการแกล้งแบบนั้น คนที่เดือดร้อนมาเสียเงินก็คือวาคาบะจังนะ

หลังข่มขู่ให้เขาไปซื้อรองเท้าใหม่จากสหกรณ์มาให้เรียบร้อย ฉันก็บอกผู้ชายขี้อิจฉาคนนั้นว่าถ้าจับได้ว่าเล่นตุกติกอะไรวาคาบะจังอีก ฉันจะ "ทำลาย" ชีวิตของเขา หมอนั่นรับคำตัวสั่นแล้วก็รีบวิ่งจากไป ขี้ขลาดชะมัดเลยนะคะ~

488 Nameless Fanboi Posted ID:wvJCi/2l/

แต่หลังจากนั้นสักพัก ฉันก็เริ่มเครียดหน่อยๆ ช่วงนี้เหมือนฉันจะใช้อำนาจมากเกินไปหรือเปล่านะคะ... ถ้าตระกูลฉันล้มละลายเข้าจริงๆต้องแย่แน่ๆ

ถ้าฉันตกต่ำเข้าจริงๆ ฉันจำได้ว่าเรื่องแกล้งผ่านรองเท้ามีวิธีแก้คือเอารองเท้ากลับบ้านค่ะ ถึงในซุยรันจะไม่ยอมรับให้ทำแบบนั้นก็ตาม ถ้าแอบๆก็พอไหว พยายามเดินในบริเวณที่อยู่ท่ามกลางสายตาคน อย่างน้อยก็ให้มั่นใจว่าครูอาจารย์อยู่แถวนั้นน่ะค่ะ แล้วก็บางทีอาจจะฝึกใช้แรงบ้างแล้วล่ะมั้งคะ กรณีที่โดนทำร้ายร่างกายจะได้ตอบโต้ได้ ถ้าเป็นไปได้ก็มาโรงเรียนเร็วๆ ตัดปัญหาเรื่องมารถไฟฟ้าไม่ทัน ปกติถ้าคนจะดักทำร้ายช่วงเช้าอาจจะเป็นเป้าได้ก็จริง แต่ว่าถ้าเรามาเร็วกว่าน่าจะหลบหลีกทัน ฉันว่าจะไปอยู่ที่ห้องสมุดค่ะ นั่งใกล้ๆกับอาจารย์หน่อยน่าจะไหว

เอ๊ะ...อ้า ฉันไม่ควรคิดเรื่องพวกนี้ล่วงหน้าสินะคะ ฉันควรจะพยายามรอดพ้นเรื่องนี้ไปให้ได้สิ…

ตอนกลางวันฉันเห็นวาคาบะจังคุยเล่นกับเพื่อนปกติ ท่าทางคงไม่สังเกตสินะคะ ดีจริงๆ

คาบุรากิลากฉันมากินข้าวด้วยตอนกลางวัน ทั้งๆที่ฉันอยากจะนั่งกินกับเพื่อนๆผู้หญิงในห้องเพื่อสานความสัมพันธ์แท้ๆ แต่ว่านะคะ ฉันเพิ่งทำให้หมอนั่นเสียเพื่อนไป จะยอมไปด้วยก็ได้ค่ะ

พอฉันแอบๆถามเรื่องเอ็นโจ เขาก็บอกว่าตอนนี้คืนดีกันแล้ว แต่คืนดีของนายนี่มานั่งกินข้าวอะไรกับฉันคะ ทำไมไม่กินกับเพื่อนสนิทของนาย แล้วไอเมลล์ล่าสุดที่นายส่งมาราวกับสั่งเสียนั่นมันน่าสงสัยนะคะ

“ชูสุเกะไม่สบายน่ะ เลยไม่มาโรงเรียนวันนี้”

เอ๊ะ? ฉันเองก็เพิ่งสังเกตว่าหมอนั่นไม่มาโรงเรียนค่ะ แต่ลางสังหรณ์ของฉันไม่คิดว่าเอ็นโจจะไม่สบาย... หวังว่าคงไม่วางแผนฆาตกรรมฉันอยู่อ้อมๆอยู่นะคะ

“นี่ คิโชวอิน... เธอคิดว่าชูสุเกะในโลกนี้จะชอบทาคามิจิหรือเปล่า...”

“หะ! ไม่มีทางหรอกค่ะ อะไรที่ทำให้คิดอย่างนั้นหรอคะ”

“ก็หมอนั่นดูปกป้องทาคามิจิอยู่ตลอดแบบลับหลัง แล้วก็ตอนหลังๆ บางครั้งก็ห้ามฉันเวลาคุยกับทาคามิจิด้วย”

จะว่าไปในนิยาย เอ็นโจก็ชอบแอบช่วยเหลืออยู่ลับๆแบบตัวรองที่ดี ส่วนคาบุรากิออกตัวปกป้องเบื้องหน้าล่ะนะคะ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าจำไม่ผิด คนเขียนนิยายเรื่องนั้น เหมือนจะยืนยันนะคะว่าเอ็นโจไม่ได้ชอบวาคาบะจัง มีแต่นายตัวสำรองผู้น่าเศร้าที่ต้องมาสู้กับคาบุรากิเท่านั้นแหละค่ะ

แต่ว่าที่ห้ามนายคุยกับทาคามิจิน่าจะเป็นเพราะนายไม่รู้กาลเทศะ อยู่ๆก็พุ่งเข้าไปคุยด้วย สร้างศัตรูให้วาคาบะจังนะ... ! เวลาที่นายไม่ได้เป็นกรณีคล้ายๆกันนั้น ฉันก็ไม่เคยเห็นเอ็นโจห้ามนายนี่

ฉันพยายามอธิบายให้คาบุรากิฟัง

“หมายความว่า ถ้าฉันจะคุยกับทาคามิจิต้องแอบไปคุยตอนที่ไม่มีใครเห็นเท่านั้นหรอ ทำไมกันน่ะ”

“คือ...จะมีคนอิจฉาไงคะ”

“หะ? ทำไมล่ะ”

ฉันแทบจะจนปัญญากับคาบุรากิ นายไม่เคยรู้หรือไงว่าตัวเองมีคนชื่นชอบเป็นแฟนคลับมากแค่ไหน แล้วพอเห็นนายไปสนิทกับใครเข้า คนนั้นก็จะโดนขเม่นเป็นเรื่องธรรมดาของสาวๆขี้อิจฉา

ฉันอธิบายเรื่องทั่วไปของสาวๆในซุยรันให้ฟัง และอธิบายว่าทำไมวาคาบะจังถึงซวย คาบุรากิขมวดคิ้วคิดตาม

“ถ้างั้นแสดงว่า การที่ฉันมาคุยกับเธอ ก็ทำให้เธอโดนแกล้งหรอ...”

“ไม่หรอกค่ะ ถ้ามีชาติตระกูลคอยสนับสนุนจะไม่ค่อยมีใครกล้ามาแกล้งน่ะค่ะ”

ฉันบอก รู้สึกเหมือนกำลังสอนเด็กน้อยให้รู้จักโลกเลยค่ะ ฉันปล่อยให้คาบุรากิครุ่นคิดสภาพปัจจุบันของตัวเอง แล้วรีบกินข้าวที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว อาหารของโรงเรียนอร่อยเหมือนเคยเลยนะคะ สมกับเป็นเซฟชั้นหนึ่งจริงๆ

เมื่อกินข้าวเสร็จก็รีบเก็บของเตรียมตัวเข้าเรียนบ่าย ก็บังเอิญสบตากับวาคาบะจังที่เดินผ่านมาพอดี

วาคาบะจังเห็นฉันก็ก้มหัวให้ไวๆแล้วรีบเดินจากไป

“ทาคามิจิหน้าแดงด้วยแหะ ไม่สบายหรือเปล่าน่ะ...”

คาบุรากิที่ยืนอยู่ข้างๆฉันพูดขึ้น แย่แล้วค่ะ ฉันลืมไปเลยว่าตอนนี้อยู่กับหมอนี่ หวังว่าวาคาบะจังคงไม่ได้รู้สึกแย่อยู่หรอกนะคะ...

ลืมไปเลยค่ะว่าจะหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กับคาบุรากิในที่สาธารณะ...

ฉันพยายามตั้งสติ วางแผนว่าจะจัดการเรื่องนี้ทีหลังสักวัน แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องสนใจเรื่องไปหาท่านพี่ก่อนล่ะนะคะ

เมื่อเลิกเรียนฉันก็กลับบ้านไปเปลี่ยนเป็นชุดที่ท่านพี่ในโลกก่อนเคยชมว่าน่ารัก ก่อนเตรียมตัวออกจากบ้าน

หวังว่าทุกอย่างจะโอเคนะ...

489 Nameless Fanboi Posted ID:wvJCi/2l/

ป.ล. ขอโทษนะคะที่ตอนนี้อาจจะเขียนเรื่อยเปื่อยเล็กน้อย... กะจะให้ท่านพี่ออกตอนนี้ แต่ดันเขียนเพลินไปหน่อย เริ่มจะเยอะล่ะ เดี๋ยวไม่ได้นอนกันพอดี 55555 ไม่ได้นอนเร็วๆมาหลายวันแล้ว

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.