ต่อจาก >>235-236 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
อ่านคอมเม้นต์แต่ละคนบางทีก็ตกใจนะคะ ทำไมเดาเนื้อเรื่องได้ขนาดนั้น 555 อุตส่าห์เขียนแอบๆ
ยินดีด้วยกับคาบุรากิที่มีสารบัญเป็นของตัวเองแล้ว ขอบคุณโม่งผู้จัดทำสารบัญด้วยนะคะ
..............…….....
ฉันพยายามติดต่อคาบุรากิ ทั้งโทรทั้งส่งเมลล์ไปถามไถ่
เกิดอะไรขึ้น... คาบุรากิจะเป็นอะไรไหมนั่นน่ะ...
ขณะที่ฉันช่างใจว่าควรบุกไปถามที่บ้านคาบุรากิเลยดีไหม เมลล์ก็เด้งขึ้นมา พอเห็นว่ามาจากคาบุรากิ ฉันก็รีบเปิดอ่าน
"ตอนนี้รอดแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันพิมพ์เมื่อกี้เผื่อไว้เฉยๆน่ะ"
อ้า... โล่งอกไปทีล่ะมั้งคะ
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สถานการณ์แบบไหนนะที่คาบุรากิต้องถึงขั้นพิมพ์เผื่อไว้เหมือนประโยคลาตายขนาดนั้น… เดาไม่ถูกเลยจริงๆค่ะในกรณีนี้ ฉันพยายามถามว่าเอ็นโจทำอะไรเขา เขาก็ไม่ยอมบอกท่าเดียวจนฉันต้องยอมแพ้ไป... แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะค่ะ
คาบุรากิดูลับลมคมนัยมีความลับบ่อยๆในช่วงนี้ ทั้งๆที่ปกติหมอนั่นเป็นคนเปิดเผยซะจนน่าตกใจแท้ๆ แต่ก็ต่อว่าเขาได้ไม่เต็มปาก ในเมื่อเหมือนเขาจะคล้ายๆทำไปเพราะปกป้องตัวฉันเอง
หลังจากฉันไปนั่งคิดนอนคิดมาแล้ว ฉันก็พอเดาได้ค่ะว่ามันคือเรื่องอะไรที่ทำให้คาบุรากิทะเลาะเอ็นโจ แต่ว่าในเมื่อสัญญากับเขาไว้แล้วแบบนั้น ก็คงต้องทำเป็นไม่รู้ไปก่อนล่ะนะคะ จะยังไงฉันจะพยายามแก้ด้วยวิธีของฉันเช่นกัน
อีกไม่นานจะได้เจอท่านพี่แล้วค่ะ! ฉันทั้งตื่นเต้นและกลัวๆ แค่ผ่านการเรียนวันนี้ไปอีกวันเท่านั้นเอง
ฉันตื่นแต่เช้าอย่างตื่นเต้น เลยมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติอย่างมาก ไปห้องเรียนก็คงไม่มีใครอยู่ ไปห้องสมุดดีกว่าค่ะ ถ้าโชคดีอาจจะเจอนารุคุงในโลกนี้ด้วยนะคะเนี้ย หุหุ
แต่ฉันกลับเห็นใครไม่รู้ทำตัวลับๆล่อๆหน้าตู้เก็บรองเท้า ถ้าจำไม่ผิด นั่นเป็นตู้เก็บรองเท้าของวาคาบะจังนี่คะ
ฉันเดินไปใกล้ๆ แล้วเจอกับคนต้นเหตุ อีกฝ่ายสะดุ้งเมื่อเห็นฉัน
“คุณคิโชวอิน...”
นี่มันผู้ชายคนเดียวกับที่มาตามตื้ออาโออิจังในโลกก่อนนี่คะ หมอนี่เองก็อิจฉาวาคาบะจังที่เก่งกว่า จนเคยพูดว่า “สมน้ำหน้า” ตอนที่วาคาบะจังโดนคนอื่นๆแกล้ง
“ทำอะไรอยู่หรอคะ” ฉันถามนิ่งๆ
ผู้ชายคนนั้นหยิบเปิดกล่องรองเท้าให้ดู ในนั้นมีรองเท้าที่ใส่ในอาคารเปื้อนหมึกดำเลอะเทอะไปหมด
ในโลกก่อนก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันแบบนี้ แต่ว่าตอนนั้นฉันมาเช้าไม่พอเห็นว่าใครเป็นคนทำ แต่ถ้ามันเป็นโลกคู่ขนานกันจริงๆล่ะก็ แสดงว่าว่าหมอนี่เป็นคนทำสินะคะ
ฉันเผลอยิ้มเย็นไม่รู้ตัว
"แหม อุตส่าห์มาแต่เช้าทั้งที แทนที่จะไปอ่านหนังสืออยู่ห้องสมุด กลับมาทำเรื่องแบบนี้งั้นหรอคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงสู้ทาคามิจิไม่ได้"
หมอนั่นอ้าปากค้าง ท่าทางสั่นกลัว แต่ก็ยังพยายามพูดออกมา
“คุณคิโชวอินไม่ได้ไม่ถูกกับคุณทาคามิจิหรอครับ...”
“นั่นเป็นข้ออ้างของคุณหรอคะ”
“...”
ฉันยิ้มให้ใบหน้าที่ตื่นกลัวหวาดหวั่นนั่น
“ฉันไม่ยอมให้ใครแกล้งคุณทาคามิจิหรอกนะคะ”
ฉันแกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายทั้งสับสนทั้งหวาดกลัว ยังไงก็แค่ช่วงเช้า ยังไม่มีใครมา จะช่วยวาคาบะจังตรงๆน่าจะไม่มีปัญหาล่ะนะคะ
“อื้ม สหกรณ์ก็ยังไม่เปิดล่ะนะคะ ช่วยไปยืมรองเท้าแตะมาให้ทีค่ะ อย่าให้ฉันรอนานนะคะ”
หมอนั่นวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ฉันอยากให้หมอนั่นรับผิดชอบโดยการซื้อรองเท้าใหม่อยู่ล่ะนะคะ แต่ว่าสหกรณ์ก็ยังไม่เปิด และถ้าทำแบบนั้นวาคาบะจังต้องรู้แน่ๆว่าถูกแกล้ง
แปบเดียวเจ้าผู้ชายขี้อิจฉานั่นก็กลับมา ฉันถอดรองเท้าตัวเองออกแล้วใส่รองเท้าแตะแทน ก่อนจะเอารองเท้าตัวเองใส่ให้วาคาบะจัง เราใส่เบอร์ใกล้เคียงกัน หวังว่าวาคาบะจังจะไม่ได้สังเกตนะ...
ฉันรีบหนีความจริงไปที่อื่น และตอนที่สหกรณ์เปิดก็บังคับให้ผู้ชายที่แกล้งวาคาบะไปซื้อรองเท้ามาให้ฉันใหม่ ถึงฉันมีเงินมากพอจะซื้อทิ้งขว้างได้เต็มที่ แต่ต้องขุดรีดให้รู้สำนึกบ้างล่ะนะคะ ให้รู้ซะบ้างว่าการแกล้งแบบนั้น คนที่เดือดร้อนมาเสียเงินก็คือวาคาบะจังนะ
หลังข่มขู่ให้เขาไปซื้อรองเท้าใหม่จากสหกรณ์มาให้เรียบร้อย ฉันก็บอกผู้ชายขี้อิจฉาคนนั้นว่าถ้าจับได้ว่าเล่นตุกติกอะไรวาคาบะจังอีก ฉันจะ "ทำลาย" ชีวิตของเขา หมอนั่นรับคำตัวสั่นแล้วก็รีบวิ่งจากไป ขี้ขลาดชะมัดเลยนะคะ~