สมองของฉันเหมือนกับถูกชัตดาวน์ไปแล้วค่ะ! ในหัวสมองตอนนี้ขาวโพลนไร้สิ้นสิ่งใดทั้งสิ้น ยิ่งเมื่อเห็นคาราบุกิเดินเข้ามาพร้อมกับวาคาบะจังอยู่ด้านหลังเหมือนกับกำลังหวาดกลัวฉัน
“คิโชวอิน?”
“...” สีหน้าที่เยือกเย็น สุขุมนุ่มลึก ทว่าแววตากลับไม่ยิ้ม นี่สินะ จักรพรรดิในมังงะ ช่างผิดกับอีกคนชนิดที่มองไม่เห็นฝุ่นเลยค่ะ บุญตาแท้ๆ ถ้าคาราบุกิเป็นงี้บ้างก็คงจะดี แต่คงไม่ เพราะหมอนั่นมันบ้ากว่าที่คิดไว้…
“จะมาหาเรื่องทาคามิจิอีกรึไง? ฉันจำได้ว่าเคยบอกไว้แล้วว่าอย่ามาให้พวกฉันเห็นหน้า!” นี่มันที่สาธารณะค่ะ!!!!!!! ในรั้วโรงเรียนฉันมีสิทธิ์เดินไปไหนมาไหนก็ได้นะคะ อย่ามาริดรอนเสรีภาพฉันเซ่คะ!
“ถ้าฉันมารบกวนต้องขออภัยด้วยค่ะ ท่านคาราบุกิ ท่านเอ็นโจ” ฉันพูดเรียบๆ พยายามทำให้น้ำเสียงไม่สั่นเต็มที่ ถึงแม้ว่าอยากจะนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศในสวนนี้ก็ตามที
“อะ...เอ่อ… คุณคิโชวอินคะ?” เป็นวาคาบะจังที่พูดออกมา ตอนที่ฉันกำลังจะเดินไป
“คะ?”
“ถ้าไม่รังเกียจมาทานข้าวกับพวกฉันไหมคะ” วาคาบะจังยิ้มแย้มอย่างใสซื่อ ดูน่ารักสมกับเป็นนางเอกเลยค่ะ ถ้าไม่ติดว่ามีสายตาของคาราบุกิกับเอ็นโจ ฉันคงตอบตกลงไปแล้ว เพียงแต่ฉันกลับตอบกลับด้วยอีกท่าทางนึง
“ดิฉันไม่สามารถไปเกลือกกลั้วกับคุณทาคามิจิได้หรอกค่ะ ขอลาล่ะค่ะ” คำตอบที่เย่อหยิ่งสมกับเป็นคิโชวอิน เรย์กะ ถ้าเป็นเธอ ฉันเชื่อว่าเธอจะเลือกพูดประโยคนี้อย่างแน่นอน
เพื่อไม่ให้ทุกอย่างบานปลายไปกว่านี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บปวด เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องมาอ่อนแอจนแทบขาดใจอีก ฉันต้องเป็นนางร้ายเท่านั้นถึงจะอยู่รอดไปได้
ฉันปาดไล้น้ำตาที่ไหลออกมาจากใบหน้า เมื่อเดินออกห่างจากพวกนั้นแล้ว
แต่ว่าไม่ว่าจะเช็ดเท่าไหร่ มันก็ไหลลงมาอีกเรื่อยๆ
ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน ฉันยืนอยู่ตรงนั้นสักพักพอเริ่มทำใจสงบ
กลับพบว่ามีผู้หญิงสามคนยืนล้อมรอบฉันอยู่
“อุ้ยตาย ไม่คิดว่าจะหน้าด้านหน้าทนมาโรงเรียนอีกนะคะ”
“แหมๆ อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ คุณคิโชวอินน่ะ เป็นถึงจักรพรรดินีเชียวนะคะ แต่ก็แค่อดีต!”
“จะว่าไปแล้วสามัญชนก็ควรอยู่อย่างสามัญชนนะคะ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเสนอหน้าไปหาท่านเอ็นโจ!”
ฉันมองทุกคนที่พูดคนละประโยคด้วยน้ำเสียงน่ากลัว ตอนนี้คิคุโนะจังก็ไม่อยู่ เซริกะจังก็ด้วย แถมตรงนี้ไม่มีคนผ่านมาอีก แย่แล้วล่ะ ตัวฉัน!
“อาร่าๆ ดูสิคะ เอาข้าวกล่องมาทานด้วย สมแล้วที่เป็นสามัญชน!”
เอ๊ะ? ไม่ทันรู้ตัวฉันก็ถูกผลักล้มลงไป พร้อมกับข้าวกล่องที่ถูกแย่งไปด้วย หนึ่งในนั้นเปิดข้าวกล่องขึ้นมา
“น่าอร่อยจังเลยนะคะ” ใช่ไหมล่ะ ก็ท่านแม่เป็นคนทำสุดฝีมือเลยนี่นา ถึงไข่เจียวจะไหม้ๆ ก็เถอะ…
ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ข้าวกล่องก็ถูกคว่ำลงกับพื้น พร้อมๆ กับนักเรียนหญิงคนนั้นเอารองเท้าของเธอขยี้มันจนเละ
ทำอะไรน่ะ?
ฉันมองพวกเธออย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงต้องมากลั่นแกล้งกันแบบนี้ด้วยล่ะ!
“นี่เป็นแค่การตักเตือนที่มายุ่งกับท่านเอ็นโจ!” อ๋อ… เพราะเอ็นโจหรอกเหรอคะ? เอ็นโจอีกแล้วเหรอคะ?
ฉันไม่ได้ยุ่งเลยสักนิด เขาเข้ามายุ่งกับฉันเอง
ปากฉันกำลังจะโต้ตอบ จังหวะที่ผู้หญิงพวกนั้นกระชากเส้นผมของฉันขึ้นมา และตบลงที่แก้มอย่างแรง
เจ็บ…
“ทำอะไรกันน่ะ!”
พอพวกนั้นได้ยินเสียงปริศนาก็พูดว่าแย่แล้ว และรีบวิ่งหนีไป เหลือเพียงฉันที่ล้มตัวลงนั่งด้วยแววตาว่างเปล่า มองข้าวกล่องที่ถูกเหยีบบจนเละอย่างไม่รู้สึกรู้สา
ได้ยินเหมือนกับเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาทางฉัน
แต่ฉันไม่มีแรงพอที่จะเงยหน้าขึ้นแล้ว
ถึงจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจกลับเป็นนางร้าย แต่สภาพจิตใจฉันยังคงต้องปรับตัวอีกสักพัก คงจะเป็นเรย์กะคิมิดอลในทันทีไม่ได้
================================
ฉับ!!!