เช้าวันต่อมาฉันมาโรงเรียนแต่เช้า แต่สิ่งที่แปลกไปก็คือเมื่อเปิดตู้รองเท้ากลับพบรองเท้านักเรียนหญิงคู่ใหม่ ขาววับวางอยู่ในตู้เป็นระเบียบเรียบร้อย พอลองปิดล็อกเกอร์มองดูอีกทีมันก็เป็นชื่อของฉันนี่นา?
หรือว่านายตัวสำรองจะเป็นคนเอามาเปลี่ยนให้กันนะ คงไปเอารองเท้าจากในสภานักเรียนมาให้สินะคะ ต้องไปขอบคุณแล้วค่ะ!
แต่ก่อนหน้านั้นเผอิญได้เจอกับหัวหน้าห้องที่ถือเอกสารกองโตมาพอดีค่ะ
“หัวหน้าห้องคะ! สวัสดีค่ะ!” ฉันเอ่ยทักไปด้วยน้ำเสียงสดใส ทว่าหัวหน้าห้องที่หันมาเจอฉันกลับหน้าซีดเผือก หวา ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ! ฉันไม่กัดหรอกนะคะ!
“ช่วยถือไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมใช้คุณคิโชวอินไม่ได้หรอกครับ!” ปฏิเสธได้หนักแน่นดีจังค่ะ ปฏิกิริยาเหมือนกับเจอกันครั้งแรกเปี้ยบเลยอ่ะ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ถือวิสาสะ หยิบเอกสารมาถือนิดนึงค่ะ
“ฉันจะไปที่ห้องอยู่แล้ว ไปทางเดียวกัน ถือว่าช่วยกันประหยัดแรงด้วยไงล่ะคะ!” ฉันแย้มยิ้ม พร้อมกับเดินเคียงข้างหัวหน้าห้อง
“ขอบคุณครับ” หวา หน้าแดงแล้วค่ะ กลายเป็นสาวน้อยแล้วนะคะ หัวหน้าห้อง
“จะว่าไปแล้ว ฉันกับหัวหน้าห้องจะได้เป็นกรรมการห้องด้วยกันใช่ไหมคะ”
“ครับ แต่คุณคิโชวอินไม่ต้องช่วยก็ได้ครับ”
“ได้ยังไงคะ! ที่ผ่านมาฉันทำตัวแย่ๆ โยนงานให้หัวหน้าห้อง ต้องขอโทษด้วยค่ะ ต่อจากนี้ฉันจะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะคะ”
พอพูดจบประโยคหัวหน้าห้องก็ทำปากค้างเหมือนช็อคไปแล้ว
หลังจากนั้นฉันก็ได้ช่วยหัวหน้าห้องทำงานบ่อยๆ ทำให้สมองไม่ว่างมาคิดเรื่องอื่น พอไปบอกขอบคุณเรื่องรองเท้ากับนายตัวสำรอง เหมือนเขาจะงงๆ แต่ก็เออออบอกว่า “ดีแล้วล่ะ” ส่วนพวกเซริกะและคุคิโนะจังก็มาคุยกับฉันบ่อยๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่เปิดเรียนมา ไม่มีใครกล้าเข้ามาแกล้งฉันเลยล่ะค่ะ
และฉันเองก็แวะไปเปอร์ติต์เพื่อคุยกับยูกิโนะคุง มาโอะจังและยูริคุงบ่อยๆ ด้วย ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเอ็นโจกับคาราบุกิ แต่ก็มีข่าวลือหวานชื่นระหว่างคาราบุกิและวาคาบะจังลอยมาเข้าหูบ่อยๆ พอฉันเดินผ่าน พวกนั้นกลับปิดปากเงียบราวกับเห็นผี?
จะว่าไปฉันยังไม่ได้เจอกับริรินะเลยสักหน ถึงแม้ว่าท่านพี่จะบอกว่าเจอบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมริรินะถึงไม่มาเจอฉันเลย พอลองสอบถามจากท่านพี่เหมือนว่าริรินะจะอยู่ชมรมจัดสวนที่เมื่อก่อนนี้ฉันไม่เคยเข้าไปเลยสักครั้ง แต่เขาว่ากันว่าเป็นโรงกระจกโปร่งใสสวยงามมากเลยค่ะ ว่างๆ แวบไปดูสักนิดล่ะกัน!
พอได้สัมผัสกับเรือนกระจกแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่คนละโลกเลยล่ะคะ มีดอกไม้นานาชนิดหลากหลายสายพันธุ์อยู่เต็มไปหมด ไม่เพียงแค่ดอกไม้ยังมีต้นไม้มาประดับ อีกทั้งยังมีโต๊ะไว้ให้พักจิบน้ำชาด้วยค่ะ
แหมๆ เนื้อที่กว้างเหมือนกันนะคะ สรุปแล้วซุยรันมีพื้นที่เท่าไหร่กันคะเนี่ย
ฉันรู้สึกพลาดมากที่ไม่ได้มาชมที่นี่ ไม่งั้นคงจะเข้าชมรมจัดสวน แต่ทว่าพอคิดถึงภาพลักษณ์คิโชวอิน เรย์กะที่เป็นถึงจักรพรรดินีมานั่งเปื้อนดินมันก็ไม่ใช่แระคะ
ระหว่างที่เหม่อๆ ก็มีมือหนึ่งมาแตะที่บ่าของฉัน ทำให้หันไปโดยอัตโนมัติ พอเห็นหน้าเท่านั้นก็สะดุ้งโหยง เผลอกระโดดถอยห่างมาทันที
เหมือนนัยน์ตาเอ็นโจมีประกายขำขัน นายแอบหัวเราะอยู่สินะ!
“มาทำอะไรที่นี่ คุณคิโชวอิน”
“ฉะ...ฉันมา...เอ่อ!...ทานข้าวค่ะ!” ว่าจบก็หยิบข้าวกล่องที่ท่านแม่เตรียมให้ฉันตอนเช้าขึ้นมาชูให้เอ็นโจดู
“เหห” เขาทำหน้าแปลกใจ แต่เพียงแวบเดียวก็กลายเป็นนิ่งเฉย “คงไม่ได้ตามมาเล่นงานคุณทาคามิจิสินะ”
อึก อย่ามาใส่ร้ายกันสิคะ! ฉันยังไม่เจอคุณพระเอกนางเอกเลยนะ จนถึงตอนนี้น่ะ
“ชูสุเกะ นายทำอะไรอยู่น่ะ?”
“ท่านเอ็นโจคะ มาเร…”
พอได้ยินเสียงดังเรียกเอ็นโจ ฉันก็เสมองไป เป็นคาราบุกิกับวาคาบะจัง!!!