Last posted
Total of 1000 posts
ช่วงนี้เรือวาคาบะเรย์กะแล่นฉิวดีจริ๊ง ชอบสาวๆคุยกันจังมันชุ่มชื้นหัวใจจจ
ท่านเรย์กะทำคะแนนนำบากะรากิไปเลยค่าาาาา เอาวาคาบะจังมาครองให้ด้ายยยยย
พวกมึงไม่สงสารท่านเรย์กะหรอวะ 555555
>>276 แหม่สำหรับสาวๆเรื่องอายุนี่ไม่ได้เลยใช่มั๊ย? 555+
---------------------------------------------------------------------------
ป.ล.ไหนๆก็ไหนๆกุเปิดเองก็ได้
"ไม่เอาสลิธีริน ไม่เอาสลิธีริน"
"แน่ใจหรือ เธอจะไปได้ไกลและเป็นใหญ่เป็นโตถ้าได้ไปอยู่บ้านนั้นนะ"
สวัสดีค่ะ ฉันคิโชว์อิน เรย์กะ ทำไมฉันถึงบ่นปนภาวนาว่า ไม่เอาสลิธีรินอยู่น่ะเหรอคะ? เพราะว่าฉันมีความทรงจำจากชาติก่อนนะสิคะว่า คิโชว์อินเรย์กะเป็นตัวร้ายในนิยาย Magi kimi dolce ในนิยายเธอเป็นตัวร้ายระดับน้องๆนายหัวทองในนิยายขายดีติดเบสเซลเลอร์ระดับโลกเรื่องนึง โดยจุดจบของตัวละครตัวนี้นั้นนับว่าโหดร้ายอยู่พอสมควรเลยค่ะ โดนเพื่อนที่คอยช่วยพระเอกหลอกลงไปโดนบาซิลิสก์ในห้องแห่งความลับแช่แข็งเป็นหินเลยค่ะ!!! ตอนนั้นเป็นผู้อ่านก็เป็นตอนที่สะใจกับผลของการกระทำของเธอนะคะ แต่ตอนนี้ฉันดันกลายมาเป็นเธอคนนั้นแล้วค่ะ เป็นได้ยังไงก็ไม่รู้นะคะแต่รู่ตัวอีกทีก็มาอยู่ในพิธีคัดสรรคนเข้าบ้าน โรงเรียนฮอกวอตต์สาขาญี่ปุ่นซะแล้ว เพราะงั้นต้องหาทางหลีกเลี่ยงแฟล็กหายนะโดนแช่แข็งเป็นรูปปั้นโรแดง ก่อนค่ะ ทางเลี่ยงอย่างที่หนึ่งเลยคือต้องหลีกหนีทางไปบ้านสลิธีรินจุดเริ่มต้นของความหายนะทั้งหมดทั้งมวลก่อน
"หืมมมม ไม่เอาสลิธีรินจริงๆรึ......."
"ใช่"ขอเป็นเรเวนคลอก็ดี ไม่ก็ฮัลเฟิลพัฟก็ได้ค่ะ
"อืมมีความกล้าที่จะ ปฎิเสธงั้นก็ไปกริฟฟินดอร์!!!!!!!!!!"
เอ๋.....กริฟฟินดอร์เหรอคะ?
กาวหมด
ทำไมแต่ละอันนี่แบบ มึงงงง ท่านเรย์กะเป็นนางเอกนะเหวยย
>>>/webnovel/3543/496-499
ไม่เข้ามาแค่สองสามวันขึ้นกระทู้ใหม่แล้ว ไวจริงๆ
***********************************
********************************************
คงจะเข้าห้องในสภาพแบบนี้ไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ แวบแรกที่มองตัวเองในกระจกฉันแทบกรีดร้องออกมา เมื่อเห็นต้นคอของตัวเองมีรอยแดงจางๆ สองจุด
ตานั่นเป็นคาสโนวาหรือยังไงกันค้าาาาาา! คิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่คะ!
เมื่อก่อนที่ยังไม่รู้นั้นเคยนึกว่าเป็นรอยแมลงกัด แต่พอรู้แล้วกลับรู้สึกเหมือนมีความร้อนขึ้นมาบนใบหน้า ทำไงดีเล่า จะเอาผ้าพันคอมาพันคงไม่ได้แหงนี่มันหน้าร้อน
ทั้งที่เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ไม่อยากที่จะเป็นจุดเด่นแล้วเชียว ฉันจับคอตัวเองแน่น ควานหาพาสเตอร์จากในกระเป๋าขึ้นมาติดลบรอย
ถึงแม้ตะกี้อยากจะถามตามไปถามเหตุการณ์เมื่อครู่ แต่มันก็พูดไม่ออก จะให้ถามว่าจูบเพราะอะไร มันก็ออกจะโจ่งแจ้งไปไหมคะ แต่ถ้าไม่ถามมันก็คงจะค้างคาใจอยู่อย่างนี้
ประเดี๋ยวเย็นชา ประเดี๋ยวก็ใจดี แล้วยัง…! เฮ้! ทำไมเป็นแบบนี้ได้ล่ะคะ?
หรือว่าเขาจะชอบฉันเหรอคะ? ไม่สิ เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ก็ในความทรงจำของเรย์กะน่ะ แทบไม่มีเรื่องพวกนี้อยู่เลยนี่
เท่าที่นึกๆ ดูในความทรงจำของเรย์กะคิมิดอลนั้น แทบไม่มีอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเอ็นโจ นอกจากตอนที่เขาเริ่มเข้ามาพูดจาไล่ให้เธออย่ามายุ่งกับคาราบุกิเท่านั้นเอง ยิ่งค้นก็ยิ่งไม่เห็นอะไรเลยสักนิด
แต่พอมาเห็นสภาพตัวเองแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรเว้นระยะห่างจากเอ็นโจให้มากที่สุดน่าจะปลอดภัยกว่า
เหมือนตะกี้พูดถึงนายตัวสำรอง พอเลิกเรียนแล้วรีบเอารองเท้าไปคืนให้จบๆ ป่านนี้รองเท้าของฉันก็น่าจะแห้งแล้วล่ะน่า เอากลับบ้านไปซักอีกรอบน่าจะขาวขึ้น แต่พอมองดูมือของตัวเองที่เป็นแผลถลอกแล้วก็ถอนหายใจอีกหน
อันที่จริงแล้ว มือของเรย์กะคิมิดอลนั้นบอบบางกว่าฉันเสียอีกค่ะ แต่ว่าถ้าสังเกตดีๆ เหมือนมีรอยขีดข่วนจางๆ หลายรอย ซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นเพราะเธอผ่านการฝึกฝนมาหลายอย่าง ตอนแรกก็คิดว่าเธอไม่มีดีอะไรเลยสักอย่าง แต่พอยิ่งไล่ดูความทรงจำกลับน่าสงสารกว่าที่คิด
ทั้งที่มีความพยายามในหลายเรื่อง แต่พอใกล้จะจบแล้ว ดันล้มไม่เป็นท่า อีกทั้งยังแบกรับความผิดหลายๆ อย่างของลูกน้องเป็นของตัวเอง พอยิ่งทำแบบนั้นก็ยิ่งมีแต่คนโยนความผิดให้เธอ นี่มันตลกร้ายรึไงกันคะ?
อย่างเรื่องการเล่นไวโอลีนที่ท่านแม่ตั้งความหวัง เรย์กะตั้งใจฝึกซ้อมมาก แต่ว่าดันมาป่วยวันประกวด หลังจากนั้นเธอก็ฝังใจไม่เล่นอีกเลย
และก็อย่างเรื่องเต้นรำ ทั้งที่เต้นได้ดีแล้ว แต่กลับดันมาเจ็บขาเพราะซ้อมมากเกินไป วันสอบเลยได้แค่รางวัลความพยายาม เรย์กะถึงกับปารางวัลทิ้งเพราะความเอาแต่ใจ
เรื่องทำข้อสอบทั้งที่ไม่ได้ฝืนเกินตัว แต่วันนั้นอาหารดันเป็นพิษแค่กับเธอคนเดียว ทำให้ไม่มีกระจิตกระใจสอบ… หลังจากนั้นเลยไม่คิดที่จะอ่านอีก
หรือเรื่องที่อยากจะปลอบใจมาซายะที่อกหัก แต่ว่าเพราะเป็นคนที่มีแต่คนพะนอมพะนอเอาใจเลยคิดได้แต่คำพูดไม่เข้าหูคนอื่นทำให้คาราบุกิเดือดจัด
ซวยซ้ำซวยซ้อนเหลือเกิน นี่มันนางร้ายอะไรกันคะเนี้ย? โหงชีวิตมันน่าสงสารงี้อ่ะ!
เรื่องที่แย่จริงๆ ก็คือไปตอแยมาซายะมากไปนั่นแหละ พอเป็นเรื่องนี้ฉันรู้สึกสงสารเรย์กะนิดๆ ที่ไปหลงรักคนที่ไม่มีทางชอบเรา เหมือนกับว่าเธอไม่รู้ว่าจะเข้าหาคนคนนั้นยังไง เลยใช้อำนาจจนเกินตัวมากไป หลงระเริงในอำนาจ และการวางท่าเป็นราชินี จนดูถูกคนอื่นเสียชิบ
ถอนหายใจไปพลาง พลางเดินไปตามทางที่จะไปสโมสรPivoine เพื่อเอาเสื้อไปคืนเอ็นโจ
แน่นอนว่าฉันที่เป็นสามัญชนไม่มีสิทธิ์เข้าไปได้แท้ๆ แต่ว่าพนักงานที่หน้าประตูกลับเปิดประตูให้ฉันเข้าไป ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะเอ็นโจบอกเอาไว้แล้วล่ะมั้ง ฉันเดินเข้าไปหาเอ็นโจก็เห็นว่าเขานั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องที่มีฉากกั้นไว้เป็นมุมส่วนตัว ที่นั่งประจำของเขา
“ท่านเอ็นโจคะ”
“อื๋อ นั่งสิ คุณคิโชวอิน” เอ็นโจยังคงก้มหน้ามองหนังสือในมือ ไม่สบตากับฉัน แต่ฉันไม่ไดนั่งตามคำสั่งของเขา แต่ยื่นเสื้อสูทที่พับไว้ให้เขา
“ดิฉันเอามาคืนค่ะ”
“วางไว้ได้เลย” เฮ้ๆ ตอนพูดนี่มองตาคนอื่นหน่อยสิคะ แต่ก็วางไว้ตามที่เขาบอก “มีธุระแค่นี้?”
“ค่ะ ขอขอบคุณท่านเอ็นโจที่ให้ยืมเสื้อค่ะ”
“อื้ม ไม่เป็นไร” ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าน้ำเสียงของเอ็นโจดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักล่ะ เพียงแต่ฉันคงจะคิดไปเอง
จังหวะที่หมุนตัวเตรียมจะเดินออกไปจากห้อง มือข้างหนึ่งก็ถูกเอ็นโจดึงเอาไว้ สบตากับฉันแล้วเอ่ยว่า “จะไปไหน?”
“ห้องเรียนค่ะ”
“เลยมาตั้งยี่สิบนาทีแล้ว คุณคิโชวอินอยากเข้าไปเป็นตัวตลกเหรอ?”
ก็ไม่… แต่ที่พูดคืออยากเลี่ยงไม่นั่งอยู่นี่ต่างหากล่ะคะ
“หรือว่าไม่อยากอยู่กับผมกันล่ะ?”
สิ้นคำพูดนั้นก็นั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับเอ็นโจ เก้าอี้ที่เขานั่งนั้นเป็นรูปตัว C ซึ่งพวกเรานั่งอยู่คนละฝั่งและเว้นตรงกลางเอาไว้
“ชาคาโมมายด์ คงทานได้สินะ”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ มองดูเอ็นโจที่กำลังรินชาจากกาแล้วยื่นมาให้ฉันที่รับถ้วยไว้ แต่ยังไม่ยกขึ้นจิบ
“จะว่าไปแล้ว คุณคิโชวอินติดหนี้ผมแล้วนะ”
“เหะ”
“เรื่องพาไปส่งโรงพยาบาล กับตกบันไดไงล่ะครับ” เอ็นโจพูดพลางยิ้มหวาน
“...”
จอมมารล่ะคะ จอมมาร! จอมมารกำลังอวตารลงมาในร่างของเอ็นโจคนนี้ล่ะค่ะ ฮือ
“...จะให้ชดใช้อย่างไรดีนะ?” พร้อมกับยิ้มหวานที่ฉันคิดว่าเหมือนรอยยิ้มของซาตาน มือข้างนึงเคาะโต๊ะ เหมือนกับเจ้าหนี้ตอนทวงเงินจากลูกหนี้
สรุปแล้วเอ็นโจไม่คิดจะปล่อยฉันไปตั้งแต่แรกเลยใช่ไหมคะ อยากจะร้องไห้จังเลยค่ะ ฉันนั่งนิ่งเงียบไม่กล้าแม้แต่จะหยิบน้ำชาที่จอมมารรินให้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่ามือจะกำอยู่ก็ตามที นัยน์ตาคู่นั้นยังมองหน้าฉันอยู่ทำให้ฉันต้องก้มลงหลบ
“จะไม่ถามหน่อยเหรอ ว่าทำไมถึงทำแบบนั้น”
“เรื่องอะไรหรือคะ” ฉันแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่ว่ามองจากนัยน์ตาของเอ็นโจที่มองไปยังต้นคอฉันก็รีบคว้ามือขึ้นมาจับโดยอัตโนมัติ เบือนหน้าไปทางอื่น
“ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าทำไมคุณถึงไปเข้าหาประธาน แต่ถ้าคิดว่าประธานจะเป็นสะพานช่วยคุณไปกลั่นแกล้งคุณทาคามิจิล่ะก็… ผมคิดว่าคุณคงรู้นะว่าผมหมายถึงอะไร?”
“ฉัน…ไม่ได้มีจุดประสงค์แอบแฝงเลยค่ะ ท่านเอ็นโจ กรุณาถอนคำพูดด้วยค่ะ”
“ผมเชื่อคุณที่เปลี่ยนท่าทีไปมาไม่ได้หรอกนะ มีครั้งหนึ่งที่คุณไปตีสนิทกับพวกชมรมฟุตบอลให้มากลั่นแกล้งคุณทาคามิจิ ถ้าวันนั้นมาซายะไปช่วยไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้น คุณคิโชวอิน!”
“อึก…” ใช่ มันเป็นความผิดของเธอเอง ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ลูกน้องของเธอจะเป็นคนทำไปโดยพลการ เพราะอิจฉาวาคาบะจังที่สนิทสนมกับมาซายะ…แต่เพราะทุกคนอยู่ใต้อำนาจการปกครองของเธอ เธอมีหน้าที่ดูแลลูกน้องของเธอ เพราะฉะนั้น กว่าที่เธอจะรู้เรื่องมันก็สายไปแล้ว
แต่เรย์กะเองก็ผิด ทั้งที่รู้แล้ว แต่ก็ไม่ยอมบอกใคร จนเอ็นโจมาเค้นเอาจากเธอ เธอจำได้ดีว่าวันนั้นเอ็นโจเกือบตบหน้าเธอ…
ถึงจะไม่ได้ทำอะไร แต่เท่าที่รู้ในความรู้สึกที่อัดแน่นตอนนึกถึง เรย์กะดูเหมือนจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่ทำ แต่ก็แสร้งทำเป็นจักรพรรดินีที่ไม่แยแส จนเอ็นโจถึงกับสถบถ้อยคำแย่ๆ กับเธอ ครั้งนั้นมันคงเกินขีดจำกัดของเขาไปแล้ว
ฉันไม่รู้หรอกว่าทำไมเอ็นโจถึงทำแบบนั้น แต่อาจจะเป็นเพราะเขาแอบชอบวาคาบะจังรึเปล่า? ในเรย์กะคิมิดอลไม่เคยมีตอนไหนเผยถึงเรื่องในใจของเอ็นโจ อีกทั้งเขายังทำท่าทีเย็นชา แย่ๆ กับเรย์กะอยู่คนเดียวด้วย ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้…
ทั้งที่หล่อแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่เป็นพระรอง กลับกลายเป็น npc คอยช่วยเหลือพระเอกซะงั้น ทั้งที่หน้าตาก็… อื๋อ… น่าสงสัยค่ะ
แต่พอคิดว่าเอ็นโจชอบวาคาบะจังจริงๆ ใจของฉันกลับรู้สึกด้านชา ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวฉัน แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าตัวตนของเรย์กะคิมิดอลกำลังร้องไห้? เฮ้ๆ เธอชอบมาซายะไม่ใช่เรอะ?
“ท่านเอ็นโจชอบคุณทาคามิจิหรือคะ?” พอกลั่นใจถามออกไปกับเอ็นโจที่ที่กำลังจิบชาถึงกับสำลัก
“…คะ คิดได้ยังไง?” เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมากระแอมไอ แล้วตอบฉัน
“เห็นท่านเอ็นโจเป็นห่วงคุณทาคามิจิมาก ก็เลยคิดว่าเป็นเช่นนั้นค่ะ แต่ว่าท่านคาราบุกิก็ชอบคุณทาคามิจิ ท่านเอ็นโจเลยหลีกทางให้ใช่ไหมคะ” ฉันพ่นคำพูดรัวๆ เป็นคำถามที่ติดใจฉันออกมา “ดังนั้น ฉันที่เป็นคนกลั่นแกล้งคุณทาคามิจิ เลยเป็นตัวเกะกะสำหรับท่านเอ็นโจ อาร๊า … ท่านเอ็นโจนี่ช่างเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกินนะคะ ถึงขนาดยกคนที่ชอบให้คนอื่นได้เนี้ย” ฉันยกมือขึ้นมาแตะปาก ส่งเสียงหัวเราะที่เค้นออกมาอย่างเสแสร้ง เอ็นโจมองฉันตาค้าง ขอฉวยโอกาสนี่แหละ
“อาร๊า ใกล้จะหมดคาบแล้ว ฉันคงต้องขอตัวก่อน ลาล่ะค่ะ ท่านเอ็นโจ” ทิ้งระเบิดเอาไปกองใหญ่ รีบเดินออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว
พอหมดคาบเรียนฉันก็รีบไปดักรอนายตัวสำรองที่ห้องคณะกรรมการนักเรียน คืนรองเท้าให้เขา แล้วใช้รองเท้าที่เปื้อนดินจนกลายเป็นสีน้ำตาลหม่นๆ มาใส่แทน ยังดีนะที่ไม่มีกลิ่นแล้ว
หลังจากนั้นก็รอจนกระทั่งทุกคนออกไปกันหมดก่อน ถึงเดินกลับไปเอากระเป๋าที่ห้องเรียน พร้อมๆ กับโทรลาเรื่องงานพิเศษด้วย วันนี้คงทำงานไม่ลงจริงๆ ค่ะ
---------------------------------------------------------------------------
เช้าวันต่อมาฉันมาโรงเรียนแต่เช้า แต่สิ่งที่แปลกไปก็คือเมื่อเปิดตู้รองเท้ากลับพบรองเท้านักเรียนหญิงคู่ใหม่ ขาววับวางอยู่ในตู้เป็นระเบียบเรียบร้อย พอลองปิดล็อกเกอร์มองดูอีกทีมันก็เป็นชื่อของฉันนี่นา?
หรือว่านายตัวสำรองจะเป็นคนเอามาเปลี่ยนให้กันนะ คงไปเอารองเท้าจากในสภานักเรียนมาให้สินะคะ ต้องไปขอบคุณแล้วค่ะ!
แต่ก่อนหน้านั้นเผอิญได้เจอกับหัวหน้าห้องที่ถือเอกสารกองโตมาพอดีค่ะ
“หัวหน้าห้องคะ! สวัสดีค่ะ!” ฉันเอ่ยทักไปด้วยน้ำเสียงสดใส ทว่าหัวหน้าห้องที่หันมาเจอฉันกลับหน้าซีดเผือก หวา ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ! ฉันไม่กัดหรอกนะคะ!
“ช่วยถือไหมคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมใช้คุณคิโชวอินไม่ได้หรอกครับ!” ปฏิเสธได้หนักแน่นดีจังค่ะ ปฏิกิริยาเหมือนกับเจอกันครั้งแรกเปี้ยบเลยอ่ะ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ถือวิสาสะ หยิบเอกสารมาถือนิดนึงค่ะ
“ฉันจะไปที่ห้องอยู่แล้ว ไปทางเดียวกัน ถือว่าช่วยกันประหยัดแรงด้วยไงล่ะคะ!” ฉันแย้มยิ้ม พร้อมกับเดินเคียงข้างหัวหน้าห้อง
“ขอบคุณครับ” หวา หน้าแดงแล้วค่ะ กลายเป็นสาวน้อยแล้วนะคะ หัวหน้าห้อง
“จะว่าไปแล้ว ฉันกับหัวหน้าห้องจะได้เป็นกรรมการห้องด้วยกันใช่ไหมคะ”
“ครับ แต่คุณคิโชวอินไม่ต้องช่วยก็ได้ครับ”
“ได้ยังไงคะ! ที่ผ่านมาฉันทำตัวแย่ๆ โยนงานให้หัวหน้าห้อง ต้องขอโทษด้วยค่ะ ต่อจากนี้ฉันจะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะคะ”
พอพูดจบประโยคหัวหน้าห้องก็ทำปากค้างเหมือนช็อคไปแล้ว
หลังจากนั้นฉันก็ได้ช่วยหัวหน้าห้องทำงานบ่อยๆ ทำให้สมองไม่ว่างมาคิดเรื่องอื่น พอไปบอกขอบคุณเรื่องรองเท้ากับนายตัวสำรอง เหมือนเขาจะงงๆ แต่ก็เออออบอกว่า “ดีแล้วล่ะ” ส่วนพวกเซริกะและคุคิโนะจังก็มาคุยกับฉันบ่อยๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่เปิดเรียนมา ไม่มีใครกล้าเข้ามาแกล้งฉันเลยล่ะค่ะ
และฉันเองก็แวะไปเปอร์ติต์เพื่อคุยกับยูกิโนะคุง มาโอะจังและยูริคุงบ่อยๆ ด้วย ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเอ็นโจกับคาราบุกิ แต่ก็มีข่าวลือหวานชื่นระหว่างคาราบุกิและวาคาบะจังลอยมาเข้าหูบ่อยๆ พอฉันเดินผ่าน พวกนั้นกลับปิดปากเงียบราวกับเห็นผี?
จะว่าไปฉันยังไม่ได้เจอกับริรินะเลยสักหน ถึงแม้ว่าท่านพี่จะบอกว่าเจอบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมริรินะถึงไม่มาเจอฉันเลย พอลองสอบถามจากท่านพี่เหมือนว่าริรินะจะอยู่ชมรมจัดสวนที่เมื่อก่อนนี้ฉันไม่เคยเข้าไปเลยสักครั้ง แต่เขาว่ากันว่าเป็นโรงกระจกโปร่งใสสวยงามมากเลยค่ะ ว่างๆ แวบไปดูสักนิดล่ะกัน!
พอได้สัมผัสกับเรือนกระจกแล้วรู้สึกเหมือนกับว่าอยู่คนละโลกเลยล่ะคะ มีดอกไม้นานาชนิดหลากหลายสายพันธุ์อยู่เต็มไปหมด ไม่เพียงแค่ดอกไม้ยังมีต้นไม้มาประดับ อีกทั้งยังมีโต๊ะไว้ให้พักจิบน้ำชาด้วยค่ะ
แหมๆ เนื้อที่กว้างเหมือนกันนะคะ สรุปแล้วซุยรันมีพื้นที่เท่าไหร่กันคะเนี่ย
ฉันรู้สึกพลาดมากที่ไม่ได้มาชมที่นี่ ไม่งั้นคงจะเข้าชมรมจัดสวน แต่ทว่าพอคิดถึงภาพลักษณ์คิโชวอิน เรย์กะที่เป็นถึงจักรพรรดินีมานั่งเปื้อนดินมันก็ไม่ใช่แระคะ
ระหว่างที่เหม่อๆ ก็มีมือหนึ่งมาแตะที่บ่าของฉัน ทำให้หันไปโดยอัตโนมัติ พอเห็นหน้าเท่านั้นก็สะดุ้งโหยง เผลอกระโดดถอยห่างมาทันที
เหมือนนัยน์ตาเอ็นโจมีประกายขำขัน นายแอบหัวเราะอยู่สินะ!
“มาทำอะไรที่นี่ คุณคิโชวอิน”
“ฉะ...ฉันมา...เอ่อ!...ทานข้าวค่ะ!” ว่าจบก็หยิบข้าวกล่องที่ท่านแม่เตรียมให้ฉันตอนเช้าขึ้นมาชูให้เอ็นโจดู
“เหห” เขาทำหน้าแปลกใจ แต่เพียงแวบเดียวก็กลายเป็นนิ่งเฉย “คงไม่ได้ตามมาเล่นงานคุณทาคามิจิสินะ”
อึก อย่ามาใส่ร้ายกันสิคะ! ฉันยังไม่เจอคุณพระเอกนางเอกเลยนะ จนถึงตอนนี้น่ะ
“ชูสุเกะ นายทำอะไรอยู่น่ะ?”
“ท่านเอ็นโจคะ มาเร…”
พอได้ยินเสียงดังเรียกเอ็นโจ ฉันก็เสมองไป เป็นคาราบุกิกับวาคาบะจัง!!!
สมองของฉันเหมือนกับถูกชัตดาวน์ไปแล้วค่ะ! ในหัวสมองตอนนี้ขาวโพลนไร้สิ้นสิ่งใดทั้งสิ้น ยิ่งเมื่อเห็นคาราบุกิเดินเข้ามาพร้อมกับวาคาบะจังอยู่ด้านหลังเหมือนกับกำลังหวาดกลัวฉัน
“คิโชวอิน?”
“...” สีหน้าที่เยือกเย็น สุขุมนุ่มลึก ทว่าแววตากลับไม่ยิ้ม นี่สินะ จักรพรรดิในมังงะ ช่างผิดกับอีกคนชนิดที่มองไม่เห็นฝุ่นเลยค่ะ บุญตาแท้ๆ ถ้าคาราบุกิเป็นงี้บ้างก็คงจะดี แต่คงไม่ เพราะหมอนั่นมันบ้ากว่าที่คิดไว้…
“จะมาหาเรื่องทาคามิจิอีกรึไง? ฉันจำได้ว่าเคยบอกไว้แล้วว่าอย่ามาให้พวกฉันเห็นหน้า!” นี่มันที่สาธารณะค่ะ!!!!!!! ในรั้วโรงเรียนฉันมีสิทธิ์เดินไปไหนมาไหนก็ได้นะคะ อย่ามาริดรอนเสรีภาพฉันเซ่คะ!
“ถ้าฉันมารบกวนต้องขออภัยด้วยค่ะ ท่านคาราบุกิ ท่านเอ็นโจ” ฉันพูดเรียบๆ พยายามทำให้น้ำเสียงไม่สั่นเต็มที่ ถึงแม้ว่าอยากจะนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศในสวนนี้ก็ตามที
“อะ...เอ่อ… คุณคิโชวอินคะ?” เป็นวาคาบะจังที่พูดออกมา ตอนที่ฉันกำลังจะเดินไป
“คะ?”
“ถ้าไม่รังเกียจมาทานข้าวกับพวกฉันไหมคะ” วาคาบะจังยิ้มแย้มอย่างใสซื่อ ดูน่ารักสมกับเป็นนางเอกเลยค่ะ ถ้าไม่ติดว่ามีสายตาของคาราบุกิกับเอ็นโจ ฉันคงตอบตกลงไปแล้ว เพียงแต่ฉันกลับตอบกลับด้วยอีกท่าทางนึง
“ดิฉันไม่สามารถไปเกลือกกลั้วกับคุณทาคามิจิได้หรอกค่ะ ขอลาล่ะค่ะ” คำตอบที่เย่อหยิ่งสมกับเป็นคิโชวอิน เรย์กะ ถ้าเป็นเธอ ฉันเชื่อว่าเธอจะเลือกพูดประโยคนี้อย่างแน่นอน
เพื่อไม่ให้ทุกอย่างบานปลายไปกว่านี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บปวด เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องมาอ่อนแอจนแทบขาดใจอีก ฉันต้องเป็นนางร้ายเท่านั้นถึงจะอยู่รอดไปได้
ฉันปาดไล้น้ำตาที่ไหลออกมาจากใบหน้า เมื่อเดินออกห่างจากพวกนั้นแล้ว
แต่ว่าไม่ว่าจะเช็ดเท่าไหร่ มันก็ไหลลงมาอีกเรื่อยๆ
ช่างน่าสมเพชเหลือเกิน ฉันยืนอยู่ตรงนั้นสักพักพอเริ่มทำใจสงบ
กลับพบว่ามีผู้หญิงสามคนยืนล้อมรอบฉันอยู่
“อุ้ยตาย ไม่คิดว่าจะหน้าด้านหน้าทนมาโรงเรียนอีกนะคะ”
“แหมๆ อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ คุณคิโชวอินน่ะ เป็นถึงจักรพรรดินีเชียวนะคะ แต่ก็แค่อดีต!”
“จะว่าไปแล้วสามัญชนก็ควรอยู่อย่างสามัญชนนะคะ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเสนอหน้าไปหาท่านเอ็นโจ!”
ฉันมองทุกคนที่พูดคนละประโยคด้วยน้ำเสียงน่ากลัว ตอนนี้คิคุโนะจังก็ไม่อยู่ เซริกะจังก็ด้วย แถมตรงนี้ไม่มีคนผ่านมาอีก แย่แล้วล่ะ ตัวฉัน!
“อาร่าๆ ดูสิคะ เอาข้าวกล่องมาทานด้วย สมแล้วที่เป็นสามัญชน!”
เอ๊ะ? ไม่ทันรู้ตัวฉันก็ถูกผลักล้มลงไป พร้อมกับข้าวกล่องที่ถูกแย่งไปด้วย หนึ่งในนั้นเปิดข้าวกล่องขึ้นมา
“น่าอร่อยจังเลยนะคะ” ใช่ไหมล่ะ ก็ท่านแม่เป็นคนทำสุดฝีมือเลยนี่นา ถึงไข่เจียวจะไหม้ๆ ก็เถอะ…
ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ข้าวกล่องก็ถูกคว่ำลงกับพื้น พร้อมๆ กับนักเรียนหญิงคนนั้นเอารองเท้าของเธอขยี้มันจนเละ
ทำอะไรน่ะ?
ฉันมองพวกเธออย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงต้องมากลั่นแกล้งกันแบบนี้ด้วยล่ะ!
“นี่เป็นแค่การตักเตือนที่มายุ่งกับท่านเอ็นโจ!” อ๋อ… เพราะเอ็นโจหรอกเหรอคะ? เอ็นโจอีกแล้วเหรอคะ?
ฉันไม่ได้ยุ่งเลยสักนิด เขาเข้ามายุ่งกับฉันเอง
ปากฉันกำลังจะโต้ตอบ จังหวะที่ผู้หญิงพวกนั้นกระชากเส้นผมของฉันขึ้นมา และตบลงที่แก้มอย่างแรง
เจ็บ…
“ทำอะไรกันน่ะ!”
พอพวกนั้นได้ยินเสียงปริศนาก็พูดว่าแย่แล้ว และรีบวิ่งหนีไป เหลือเพียงฉันที่ล้มตัวลงนั่งด้วยแววตาว่างเปล่า มองข้าวกล่องที่ถูกเหยีบบจนเละอย่างไม่รู้สึกรู้สา
ได้ยินเหมือนกับเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาทางฉัน
แต่ฉันไม่มีแรงพอที่จะเงยหน้าขึ้นแล้ว
ถึงจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจกลับเป็นนางร้าย แต่สภาพจิตใจฉันยังคงต้องปรับตัวอีกสักพัก คงจะเป็นเรย์กะคิมิดอลในทันทีไม่ได้
================================
ฉับ!!!
>>311 แอร๊ยยยยยยยยย ริรินะแน่ๆกูว่า ริรินะมาช่วยคุณพี่เรย์กะทีค่ะ คุณพี่เรย์กะแย่แล้ววววววววว เอามาดนางพญากลับคืนมาให้เรย์กะเลยค่ะ พัดภูตพรายไปไหน ดอกโบตั๋นอีก เอาให้ถือไว้เลยค่ะจะได้ไม่มีใครกล้าแกล้ง เซอร์บิรุสไปไหน มากัดยัยคนที่มาแกล้งเลยค่ะ
เรย์กะน่าสงสารจัง เป็นนางร้ายที่ดวงซวยจังเลยอ่าาาา พยายามแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็น ฮรืออออออ ปวดร้าวแทน
กรี๊ดดดด มาต่อเดี๋ยวเนนนน้ จะปล่อยให้ค้างแบบนี้ไม่ได้นะโม่งฟิค ฮืออออ
มีคนตอบถูก แต่ยังไม่เฉลยนะ ไปประชุมก่อน บายย //วิ่งหนีออกจากบอร์ด
เราคือ >>268 และ>>275 แหล่ะ ส่งการบ้าน ตอนนี้ได้แค่นี้ ต้องเขียนต่ออีกซักพัก
ปล.นี่มันคือฟิคอุเมวากะxท่านเรย์กะ จริงๆนะ ถึงแม้ผ่านไปเกือบแปดร้อยคำท่านเรย์กะก็ยังไม่โผล่มา55555
------------------------------------------------------------------
อุเมวากะ อาสึกะ
แต่ไหนแต่ไรมา ผมไม่เคยชอบเรียนพิเศษตอนปิดเทอมเลยซักครั้ง
คิดดูสิว่าเวลาที่ผมต้องไปเรียนพิเศษน่ะ หมาที่น่ารักของผมก็ต้องเหงาอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีใครอยู่เฝ้าบ้าน ไม่มีใครเล่นด้วย อ้ะ นี่ผมยังไม่บอกใช่มั้ยว่า หมาของผมเป็นพันธุ์ อเมริกันค็อกเกอร์สแปเนียล ชื่อ เบียทริซล่ะ!
อืม นี่ถ้าพูดแค่ชื่อพันธุ์อย่างเดียวคงไม่เห็นภาพใช่ม้า เบียทัน...ใช่แล้วล่ะ ผมสนิทกับมันถึงขนาดเรียกชื่อเล่นกันได้
คึๆๆ น่าอิจฉาล่ะซี้~
หมานี่เป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีมากๆเลยนะ ทั้งร่าเริง ใจดี ซื่อสัตย์กับเจ้าของ น่ารักมากด้วย!
แต่เบียทันของผมคือที่สุดของที่สุดแล้ว!
ถ้าถามว่าใครน่ารักที่สุดในโลกก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นเบียทัน!
ใครซื่อสัตย์กับผมมากที่สุดในโลกก็เป็นเบียทันอีกเหมือนกัน!!
หมาตัวอื่นน่ะจะน่ารักยังไง...
อ้าว
เบียทั้นนนน
อย่าพึ่งเดินหนีผมสิ!
เดี๋ยวน้า!
ผมไม่ได้นอกใจเธอนะ! ผมแค่ชมว่าหมาตัวอื่นน่ารักเฉยๆ แต่ที่สุดในใจผมคือเบียทันนะ
เดี๋ยวซี่...
“อุ! เม! วา! กะ! นายทำบ้าอะไรอยู่ ไหนบอกเอาของแป๊ปเดียวไงยะ” เสียงโมริยามะดังมาจากหน้าประตู ชิ ยัยนี่คงไม่เข้าใจหรอกว่าเวลาจากหมาที่รักน่ะเป็นยังไง แล้วนี่เบียทันก็งอนผมอยู่ด้วย ถ้าผมไม่ง้อตอนนี้แล้วจะได้ง้อตอนไหน
ถ้าตอนเย็นผมกลับมาแล้วเบียทันเกิดซึมเศร้าไม่กินอาหารจนขนร่วงล่ะ!
ไม่ได้การแล้วผมต้องง้อเธอให้เร็วที่สุด!!!
...แต่เอ ขนมรางวัลเนี่ยแม่เก็บไว้ตรงไหนนะ ใช่ตู้ตรงนั้นรึเปล่า...
“อุเมวากะ เพื่อนรอนายอยู่คนเดียวรู้มะ...” คราวนี้โมริยามะมาอยู่ที่ประตูครัวแล้ว เฮ้ย! ไม่ได้นะ ต้องรีบกันเธอออกไปให้เร็วที่สุด ยัยนี่น่ะชอบใส่น้ำหอมตลอด เบียทันยิ่งแพ้อะไรง่ายอยู่ๆ ถ้าเกิดเบียทันแพ้ยัยนี่จะเป็นยังไง ไม่ได้ๆ
ผมรีบดึงมือเธอออกไปทางประตูบ้าน
“รู้แล้วน่าๆ รีบไปกันเถอะ” ผมรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกันที่ยัยนั่นไม่ได้บ่นอะไรต่อ แต่ช่างเถอะ ต้องรีบดึงยัยนี่ออกไปให้เร็วกว่านี้อีก ผมผูกเชือกรองเท้าอย่างลวกๆ กำลังจะออกจากบ้าน…
“บ๊อกๆๆ”
หวา น่ารักจังเลย~
เบียทันออกมาส่งผมที่หน้าประตูบ้านเหมือนเคยล่ะ เธอมักจะมาบอกว่า อาทัน~ รีบกลับบ้านมาเล่นกันเร็วๆนะ ด้วยดวงตากลมโตใสๆ
ฮื่ออ อย่างร้องไห้นะเบียทัน อาทันจะรีบๆกลับมาหาเบียทันนะ! รออาทันอีกหน่อยนะเบียทัน!
“อะไรกัน อุเมวากะ นายเลี้ยงหมา...” ไม่นะ! โมริยามะกำลังจะแตะเบียทันของผม แต่ที่เล็บเธอน่ะมีสีอยู่...ถ้าสารเคมีเป็นพิษต่อระบบประสาทของเบียทันล่ะ หมาประสาทจมูกดีกว่าคนหลายเท่าเลยนะ!
“โมริยามะ ไปกันเถอะน่า”ผมคว้ามือเธอที่กำลังจะเอื้อมไปแตะเบียทันไว้แล้วดึงออกจากบ้านไป
...อาทันขอโทษนะเบียทันที่ไม่ได้จูบลา
แต่อาทันทำแบบนี้ก็เพื่อเบียทันเองนะ! เบียทันเข้าใจอาทันด้วยเถอะ!!
ผมล็อกประตูบ้านด้วยใจที่แทบจะสลาย
เบียทันจะร้องไห้มั้ยนะ...
ที่ผมเลือกจะออกมาเรียนพิเศษแทนที่จะอยู่เล่นกับเบียทัน
มะ มันเป็นหน้าร้อนครั้งแรกเลยนะที่เบียทันจะไม่ได้อยู่กับผม
ถ้าเกิดว่าเบียทันเกิดไม่สบายขึ้นมาระหว่างวันล่ะ! ไม่ได้การแล้ว ผมว่าผมหยุดอยู่บ้า...
เผียะ!
“อุเมวากะ! ทำบ้าอะไรของนาย” โมริยามะสะบัดมือออก ก่อนจะตบหลังผมเต็มแรง แล้วยืนกุมมืออีกข้างด้วยใบหน้าแดงจัด
...อาเระ?
เมื่อกี้ผมทำอะไรเธองั้นเรอะ! เธอต่างหากที่จะทำร้ายเบียทันของผมน่ะ!
ซากากิหัวเราะหุหุ ส่วนคิตาซาวะก็หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่เบาเลยน้า อุเมวากะ”
อะไรของพวกนาย!
ไม่มีใครเห็นใจผมที่โดนยัยนี่ตบเลยรึไง แหงล่ะว่าโดนตบเมื่อกี้มันก็ไม่ได้เบาอยู่แล้ว เสียงดังขนาดนั้น
...ผมว่าหลังผมต้องเป็นรอยปื้นแดงแน่ๆ อย่างนี้เบียทันก็จะเห็นตอนอาบน้ำแล้วก็เป็นห่วงผมน่ะสิ
บ้าเอ้ย!
ถ้าอย่างนั้นวันหลังเบียทันคงจะร้องไห้หนักกว่าเดิมแน่ๆ ผมจะตัดใจจากเธอมาได้ยังไง...
ผมเดินตามพวกนั้นมาเรื่อยๆ คิดอะไรเพลินๆว่าจะซื้อของอะไรกลับไปง้อเบียทันดี แล้วก็ถึงที่เรียนพิเศษแล้ว
อืม นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเรียนตอนปิดเทอมหน้าร้อนล่ะ ปกติผมจะนอนอยู่กับบ้านแล้วก็เล่นกับเบียทันทั้งวัน พวกเราจะวิ่งไล่จับกัน เล่นน้ำ สายยาง ว่าแล้วก็อยากกลับไปที่บ้านจังเลยน้า...
แต่พอซากากิเลื่อนประตูเปิด
บะ เบียทัน!
-------------------------
เก้าสิบเก้าเปอร์เซนต์ของความคิดอุเมวากะเป็นเบียทันค่ะ*ทรุด* เปลืองอัศเจรีย์ชะมัด รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้นี่แบบว่่า...55555
>>308-311 โอ๊ยยยยยย ค้างงงงงงงงงง
ขอเดาว่าเป็นริรินะแล้วกัน ไหนๆก็มีพูดถึงแล้ว จะไม่โผล่มาเลยก็น่าสงสาร เอ็นโจคงนั่งกินข้าวเป็นกขค.คู่รักปล่อยฮีไป
ว่าไปแล้วเอ็นโจบทนี้ก็ไม่ต่างกะเรย์กะบทตัวร้ายเลยนี่นา ใช้อำนาจขู่เข็ญให้คนรักชัดๆ...น่าหมั้นไส้จังเลยค่าาาา
ขอเชียร์อาริมะด้วยเลย แต่มันยังไม่โดนปักธงเลยนี่นะ... 5555
แต่ท่านเรย์กะก็ช่างอดทนดีจัง หยุดเรียนแล้วไปทำงานมินิมาร์ทปักธงนายบ้าหมาฮาเฮดีกว่ามั้ง?
... รู้สึกเป็นฟิคที่เชียร์กะทุกคน ยกเว้นเอ็นโจ 555555555
มา >>297
เสียงปรบมือดังกึกก้องจากโต๊ะของกริฟฟินดอร์เมื่อได้ยินประกาศการคัดสรร ฉันเดินไปที่โต๊ะ นั่งลงบนที่นั่งว่างๆที่มีคนขยับให้
อา ดีจัง อย่างน้อยก็ไม่ใช่สลิธีรีนล่ะน้า
ฉันนึกถึงคำพูดของท่านพ่อและท่านแม่ที่หมายมั่นให้ฉันอยู่สลิธีรีน เพราะคู่ควรกับสถานะเลือดบริสุทธิ์อย่างตระกูลคิโชวอินเป็นที่สุด
ตระกูลคิโชวอินนั้นอยู่สลิธีรีนมาตลอดไม่เคยไปบ้านอื่นเลยสักครั้ง แต่การที่ฉันโดดเด้งมาอยู่กริฟฟินดอร์คนเดียวเช่นนี้จะเป็นอะไรมั้ยนะ
ถึงฉันจะไม่มีความคิดเรื่องเหยียดเลือดก็จริง แต่ท่านแม่ผู้สูงศักดิ์และหยิ่งทระนงในความเป็นเลือดบริสุทธิ์ หากต้องรู้ว่าฉันนั้นถูกรายล้อมไปด้วยพวกเลือดผสมและเลือดสีโคลนเช่นนี้ ต้องไม่สบายใจแน่นอนเลยค่ะ
รู้สึกจะมีเลือดบริสุทธิ์ถูกคัดสรรเข้ามาที่กริฟฟินดอร์ด้วยนี่นา
ตัวฉันแทบจะแข็งเป็นหินเมื่อได้สบตากับคาบุรากิ มาซายะ เลือดบริสุทธิ์คนที่ว่านี่พอดีค่ะ
คาบุรากิมองฉันแว้บหนึ่งแล้วก็หันไปทางอื่น
น่ากลัว น่ากลัวจังเลยค่ะ ถ้าสบตากับบาสิลิสก์ก็คงรู้สึกอย่างนี้มั้งคะ
ตระกูลคาบุรากิเป็นตระกูลเลือดบริสุทธิ์ที่เก่าแก่และยาวนานยิ่งกว่าตระกูลคิโชวอินเสียอีก บรรพบุรุษบางคนสูงส่งเสียจนไม่สามารถเอ่ยนามออกมาแบบห้วนๆได้ แค่อายุสิบเอ็ด คาบุรากิ มาซายะก็คล้ายกับจะปล่อยออร่าที่คล้ายเปลวไฟสีน้ำเงิน สามารถทำให้พวกรากหญ้าสามัญชนคุกเข่าให้ได้แล้ว
และคาบุรากิ มาซายะก็เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำคิโชวอิน เรย์กะไปสู่ความล่มสลายในที่สุด
คิโชวอิน เรย์กะในนิยายนั้นหลงรักคาบุรากิแบบหัวปักหัวปำถอนตัวไม่ขึ้น แต่เมื่อรู้ว่าเขารักทาคามิจิ วาคาบะ สาวน้อยที่มาจากครอบครัวมักเกิ้ลที่เธอเห็นว่าเป็นเลือดสีโคลนไม่คู่ควรกับเลือดบริสุทธิ์ เธอก็ใช้อำนาจและสถานะของตระกูลในการกลั่นแกล้งอยู่เป็นเนืองนิจ แล้วก็ต้องพบจุดจบแย่ๆตามประสาตัวร้าย
ตอนนี้หมวกคัดสรรก็กำลังคัดสรรมาถึงที่ทาคามิจิ วาคาบะพอดี หมวกประกาศลั่นว่าเธอได้ไป "เรเวนคลอ" อันนี้ก็เป็นไปตามนิยายเหมือนกัน ทุกอย่างก็เกือบคล้ายในนิยายที่อ่านมา ยกเว้นแค่สองเรื่องคือ หนึ่ง...ฉันได้มาอยู่กริฟฟินดอร์
และเรื่องที่สอง เอ็นโจ ชูสุเกะที่ควรจะอยู่ฮัฟเฟิลพัฟตามนิยาย กลับเด้งไปอยู่สลิธีรีนแบบหมวกไม่ต้องเสียเวลาคิดด้วยซ้ำ
เอ็นโจ ชูสุเกะก็เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่ออกมาในนิยาย Magi kimi dolce เขาโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา ผมสีน้ำผึ้ง และรอยยิ้มอันอบอุ่นอ่อนโยน ทำให้เขาได้รับการขนานนามว่าเจ้าชายจากบรรดานักเรียนทั้งหลาย เป็นตัวละครเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหลายๆตัวละคร เมื่อพระเอกกับนางเอกมีปัญหาขัดแย้งไม่ลงรอยกัน เอ็นโจก็จะคอยยิ้มนุ่มแล้วไกล่เกลี่ย
แต่เมื่ออยู่กับศัตรู เขาจะร้ายกาจมาก คิโชวอิน เรย์กะที่ถูกตัดสินว่าเป็นศัตรู ก็ถูกปฏิบัติด้วยความไร้เมตตาปราณี
แต่กระนั้น เอ็นโจก็เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมที่สุดในเรื่องเลยล่ะค่ะ
พอมองไปที่โต๊ะสลิธีรีน เอ็นโจเองก็โดดเด่นมากในบรรดานักเรียนสลิธีรีนด้วยกัน เพียงแต่เขามีผมสีดำแทนที่จะเป็นสีน้ำผึ้งอย่างที่เคยถูกบรรยายไว้ ฉันรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยแต่ก็พอจะยอมรับได้ ผมดำก็ดูดีไม่หยอก
การคัดสรรจบลงไปก็ได้เวลาเริ่มงานเลี้ยง ฉันนั่งรับประทานอาหาร ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันจะกินเมื่อได้อ่านนิยายครั้งแรกเลยล่ะค่ะ แล้วก็ได้กินสมใจอยาก อาหารอร่อยทุกอย่างเลย
ฉันทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ นอกจากเซริกะจังแล้วก็มีท่านมินาสึกิ ไอระ สาวรุ่นพี่ที่เป็นพรีเฟ็คอยู่ปี 5
ตระกูลมินาสึกิก็เป็นตระกูลเลือดบริสุทธิ์อีกตระกูลเช่นกัน แต่ท่านไอระกลับพูดคุยกับนักเรียนใหม่ๆอย่างไม่ถือตัวว่าตัวเองเป็นเลือดบริสุทธิ์แม้แต่น้อย อีกทั้งรูปลักษณ์ก็งดงาม แม้ผมจะตัดสั้นดูคล้ายเด็กผู้ชาย แต่คนงามก็คือคนงามอยู่ดี
นอกจากนี้ก็มีพวกเด็กผู้ชายปีเดียวกันกับฉันอย่างซาโตมิ ยูคินาริคุง หรืออิวามุโระ ทาคาชิคุงด้วยล่ะค่ะ รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันนะคะ
ฉันเพิ่งเคยได้คุยกับเด็กผู้ชายเป็นกิจลักษณะเป็นครั้งแรก ตอนอยู่ที่บ้านน่ะ ผู้ชายที่ฉันพูดด้วยมีแต่ท่านพ่อและท่านพี่ก็เท่านั้นล่ะค่ะ
ฉันมองไปที่โต๊ะของอาจารย์ ท่านพี่กำลังพูดคุยกับท่านอิมาริที่เป็นเพื่อนสนิทอยู่
ท่านโมโมโซนะ อิมาริเป็นเพื่อนสนิทของท่านพี่มาตั้งแต่สมัยที่เรียนฮอกวอตส์ เขาเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าคาสโนว่าเลยล่ะค่ะ ตอนมาที่บ้านก็มักจะมีของฝากแปลกๆแต่น่ารักติดไม้ติดมือมาให้ฉันด้วยเสมอ แค่อายุสิบห้าก็เอาใจสาวๆได้เก่งกาจ รู้ใจไปหมดทุกอย่างว่าผู้หญิงต้องการอะไร แบบนี้ไม่ให้รักไม่ให้หลงได้อย่างไรกันล่ะคะ
ตอนนี้งานเลี้ยงก็จบลงแล้ว ท่านอิมาริพอหันมาเห็นฉันในกลุ่มเด็กกริฟฟินดอร์ก็ลุกขึ้นยืน และวิ่งตรงมาหา
"เรย์กะจังงงงงงงงงง"
ท่านอิมาริมาหยุดตรงหน้าฉัน จับไม้จับมือแสดงความยินดียกใหญ่ พูดรัวเร็วแทบไม่พักหายใจ
"ยินดีต้อนรับสู่กริฟฟินดอร์นะเรย์กะจัง ฉันเป็นอาจารย์ประจำบ้าน ดีใจที่เรย์กะจังมาอยู่บ้านของฉันนะ พรุ่งนี้มีเรียนวิชาของฉันวิชาแรกเลยนี่นา ไม่ต้องตื่นเต้นไปน้าาาาา"
"เอามือออกไปซะ อิมาริ" เสียงนิ่งๆเย็นๆดังขึ้นจากด้านหลัง ท่านอิมาริบุ้ยปากอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ยอมปล่อยออก
ท่านพี่ก้าวเข้ามาแทนที่ท่านอิมาริ ส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่นอ่อนโยน
อ๊ะ จริงสิ ฉันได้อยู่กริฟฟินดอร์นี่นา ท่านพี่จะผิดหวังรึเปล่าคะที่ฉันไม่ได้อยู่สลิธีรีนแบบคนอื่นๆในตระกูล แถมท่านพี่ก็เป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรีนอีกต่างหาก
ฉันห่อตัวลีบๆ ไม่กล้าสู้หน้าท่านพี่ แต่ท่านพี่กลับวางมือลงบนหัวฉันปุๆ แล้วส่งยิ้มให้
"แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"
ท่านพี่ไม่ต่อว่าอะไรฉันสักคำ แถมยังคอยให้กำลังใจ ทั้งอ่อนโยนและใจดีอย่างนี้ รักท่านพี่ที่สุดเลยค่า
คืนนั้น ฉันเข้านอนที่หอกริฟฟินดอร์เป็นครั้งแรก แม้จะแปลกที่แปลกทางไปบ้าง แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ฉันผลอยหลับไปได้โดยง่าย และไม่ฝันอะไรเลย
พอเช้ามาฉันก็ลงมารับประทานอาหารเช้าที่ห้องโถงใหญ่ที่ใช้คัดสรรเมื่อคืนนี้ ระหว่างมื้อเช้าก็ถูกรบกวนด้วยไปรษณีย์นกฮูกที่นำจดหมายมาส่ง นกฮูกตัวแล้วตัวเล่าบินไปหาเจ้าของ เด็กใหม่โดยเฉพาะคนที่มาจากครอบครัวมักเกิ้ลดูจะตื่นตาตื่นใจกับเรื่องนี้มาก แต่คนที่มาจากครอบครัวผู้วิเศษกลับรับประทานอาหารกันไปเฉยๆไม่ยินดียินร้าย
มีจดหมายมาถึงฉันเหมือนกันค่ะ
หน้าซองประทับตราตระกูลคิโชวอิน ท้องไส้ฉันบิดมวนไปหมด มือสั่นน้อยๆเมื่อแกะออกอ่าน
จะถูกต่อว่าอะไรบ้างนะ แต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่จดหมายกัมปนาถล่ะน้า
ในจดหมาย ท่านพ่อและท่านแม่เขียนมาชมเชยที่ฉันได้อยู่บ้านเดียวกับคาบุรากิ มาซายะ และขอให้ฉันใช้โอกาสนี้สานความสัมพันธ์ไปด้วย
อุหวา....จะให้สานสัมพันธ์เหรอคะ กับคนที่ทำให้ฉันไปสู่จุดจบหายนะแบบนั้นน่ะ ไม่เอาด้วยหรอกค่ะ
ฉันเก็บจดหมายของท่านแม่เข้าซอง รีบรุดไปเรียนวิชาแปลงร่างอันเป็นวิชาของท่านอิมาริ เหลืออีกห้านาทีจะเข้าเรียน หวังว่าจะไม่ไปสายนะคะ
วันนี้เปิดเรียนวันแรก ฉันจะไม่ยอมทำผิดพลาดแบบคิโชวอิน เรย์กะในนิยายอย่างแน่นอนค่ะ
-----------------------
เชิญต่อตามสบาย 55555555555 กูนึกออกแค่นี้
สมกับเป็นวันจันทร์ที่เป็นวันเริ่มต้นสัปดาห์ของการเรียนและทำงาน
โม่งฟิคแต่งฟิคมากันเพียบเลย ขยันจริงๆ 555555555
>>330 ตอนแรกกุกะให้เรย์กะกรี๊ดที่ผิดคาดที่อยู่ๆคาบุรากิแม่มโดนเด้งมากริฟเหมือนกันเฉยยยยย แต่บทให้อยู่ตั้งกะแรกก็ดี555+ ในมโนกุ เอ็นโจนี่กุกะจะผูกเรื่องเป็นพรีเฟคของสลิธีรินที่ซี้กับกัปตันทีมควิชดิชของกริฟฟินดอร์อย่างคาบุรากิ แบบแหวกม่านประเพณีมาก555+ แต่ฟิคเรามันจะอยู่จนถึงพวกนี้ขึ้นจนเป็นพรีเฟครึเปล่าเพราะกุเปิดมาซะอายุ11ใสๆเลย555+
ไม่ได้มาแปปเดียวพี้กัญชาไปไหนถึงไหนแล้วเนี่ย
ท่านพี่สอนวิชาอะไรดีคะ? การป้องกันตัวจากศาสตร์มืด?จะได้สอนน้องให้เอาตัวรอดจากจอมมาร
ปรุงยาอีกเาียงคิดถึงความเจ้าเล่ห์ของท่านพี่ที่จะใช้น้ำยาสรรพรสไปล้วงความลับชาวบ้านแล้ว
>>297 >>330 ฟิคแนวแฮร์รี่และโลกเวทมนตร์มาแล้วววว ชอบมากอ่ะ เห็นการปรับเปลี่ยนพวกนี้แล้วรู้สึกดี จริงๆการที่คาบุรากิกับเอ็นโจที่อยู่บ้านกริฟกับสลิเป็นเพื่อนกันอาจจะไม่แปลกนะ ในเมื่อท่านพี่กับท่านอิมาริยังเป็นแฟน...แค่กๆ เป็นเพื่อนสนิทกันเลย
>>311 คือเรย์กะ หลังจากโดนเอ็นโจจูบอะไรขนาดนั้น แล้วยังไม่ถามเอ็นโจว่าชอบวาคาบะหรือเปล่านี่นะ 555555555 เอ็นโจงงไหมล่ะ ถถถ อยากให้เป็นริรินะ อยากเข้าทุ่งลิลลี่ //ผิดๆ แต่นายตัวสำรองก็ดีนะ ไหนๆนายก็ผิดหวังจากวาคาบะแล้ว ลองจีบเรย์กะดู รับรองว่าติดแน่ ถ้าไม่ใช่ว่าเรย์กะตั้งป้อมสกิลหักธงไว้ล่ะนะ
>>320 นายบ้าหมานี่มีระบบความคิดงี้นี่เอง บนโลกใบนี้นอกจากเบียทันคงไม่อาจมีใครได้อีกแล้ว แต่ว่านะ ถ้าดันไปชอบเรย์กะขึ้นมา แล้วเบียทันจะยอมหรอ ถถถถ
เออ ถ้าคาบุรากิมันเล่นควิดดิชจะอยู่ตำแหน่งอะไรวะ กูว่าบ้าพลังอย่างนี้ต้องบีตเตอร์ว่ะ เอ็นโจคงเป็นซีกเกอร์ วาคาบะเป็นเซสเซอร์ อาริมะเป็นคีปเปอร์ ส่วนท่านเรย์กะเป็นกองเชียร์ข้างสนามคอยใส่ชุดเชียร์ลีดเดอร์นำเชียร์
>>353 ท่านเรย์กะเย็บหัวสิงโตเองสามหัว แต่เลือกไม่ได้ว่าจะเอาหัวไหนดี คาบุรากิเลยยุให้ติดเข้าไปที่หมวกทั้งสามหัว ผลออกมาคือเซอร์บิรุส เอ็นโจเห็นแล้วมัวแต่ขำไม่ได้หาลูกสนิชซักแอะ คาบุรากิเลยเรียกไปชมเชย เป็นแผนการป่วนสมาธิทีมตรงข้ามที่ดีมากเลยคิโชวอิน //ตบไหล่ป้าบๆ
แก๊งค์ของอุเมวากะน่าจะอยู่เดิร์มสแตรงก์ มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ฮอกวอตส์ตอนปีสูงๆมั้ง
กุนี่ไปเล่นเกมแต่งตัวมาเสริมจินตนาการเลยว่ะ 5555
http://imgur.com/SBARVwo
>>371 สควิบผู้ศึกษาเรื่องสัตว์วิเศษ จนกระทั่งไปเจอหมาพันธ์อเมริกัน ค็อกเกอร์ สเปเนียล หรือก็คือเบียทริช
เกิดหลงมะหมาตัวนี้เข้าที่โลกมนุษย์ทำให้ได้รู้จักกับพวกโมริยามะ(แก๊งเพื่อนอุเมวากะที่เรียนพิเศษ)
เรย์กะที่ได้ยินเรื่องอุเมวากะ อาสึกะว่าเป็สควิบก็นึกสงสาร คาดว่าจะเจอเรื่องดราม่า ที่เป็นลูกของผู้วิเศษแต่ไร้พลังเวทย์มนต์
ปรากฏว่าพอเจอกัน ในหัวอาสึกะมันมีแต่เบียทันนี่หว่า ไม่ได้ดราม่าเตี่ยไรเลย แถมเอาเรย์กะมาเปรียบเทียบกับเบียทันของตัวเองอีก
จากนั้นก็มักจะส่งจดหมายนกฮูกมาให้บ่อยๆเนื้อหาก็เป็นเรื่องของเบียทริชนั่นแหละ มีรูปเคลื่อนไหวของเบียทันด้วยนะเออ
พอละก่อนกุจะกาวไปมากกว่านี้5555555
พลอตAUฮอกวอตส์อลังเวอร์55555 ไหนใครแต่งต่ออยู่คะ*ส่อง*
กุรอเสพนะ แฮร์รี่กุไม่ได้อ่านอะ ไม่มีตังค์ซื้อ 55555 ดูแต่หนังความรู้ไม่พอแต่ง
เห้ยมีใครในเรื่องเป็นเมตามอร์ฟเมกัสเปล่าวะ?
พ่อมดแม่มดประเภทที่เปลี่ยนรูปร่างได้ตามปรารถนาอะ //ไม่ใช่อนิเมจัสนะ
แล้วมีอนิเมจัสด้วยปะ?
งั้นเรามาทำให้ความฝัน(?)อุเมวากะเป็นจริงไหม แบบจริงๆแล้วเบียทริชเป็นอนิเมจัสปลอมตัวมาไรงี้
นายบ้าหมาจะได้อยุ่คู่กับเบียทริชที่รักนานเท่านาน(อายุหมาสั้นกว่าคนไงมึง ทำให้เป็นคนซะเลย 5555)
ต้องสูดกาวแค่ไหนถึงมโนเบลอนี้?
>>385 ถ้าแต่งบารามอสตัวละครกูควรเป็นอะไรดีวะ เฟรินนี่เป็นท่าเรย์กะไม่ได้แน่ๆ ร่าเริงสดใสแบบวาคาบะจังเหรอ ส่วนคาโลเอามาเป็นคาบุรากิไม่ได้สุดๆ แปดเปื้อน!!!!!!!
หรือแต่งแบบเป็นรุ่นใหม่ไปเลย มาเรียนที่โรงเรียนพระราชาเฉยๆ รุ่นคาโลเป็นรุ่นพี่ 5555
กุควรเก็บกาวไปปั่นงาน อะไรคือคึกทุกวันจันทร์ตอนงานท่วมหัว
ถ้าแต่งบารามอส ท่านเรย์กะคงจะอยู่ปราสาทขุนนางไม่ก็ป้อม
วาคาบะจังน่าจะอยู่ปราการปราชญ์ หรือป้อมอัศวินก็ได้
คาบุรากิน่าจะอยู๋ป้อมอัศวิน ไม่ก็ปราสาทขุนนาง
เอ
จริงๆแล้วถ้าเราใช่ระบบเดียวกับฮอกวอตส์
ป้อมอัศวิน=กริฟฟินดอร์
ปราสาทขุนนาง=สลิธีริน
ปราการปราชญ์=เรเวนคลอ
แผ่นดินประชาชน=ฮัฟเฟิลพัฟ
แต่จริงๆสลับยังไงก็ได้แหล่ะ ขนาดโรที่ฉลาดๆยังมาอยู่ป้อมได้เลย
โม่ง kimi dolce after story ท่านเรย์กะจะกลายเป็นเกอิชายังอยู่ดีมั้ยเอย โม่งเสพกาวตัวน้อยๆยังรอนายอยู่น้า
เราริทุกฟิค ชีวิตต้องการกาวล็อตใหญ่
>>392 >>393 จะเอาเซตติ้งเฉยๆก็ได้ หรือถ้าจะใส่ก็จะได้อะไรทำนองนี้อ่ะนะ
คาโล-คาบุรากิจักรพรรดิทรงอำนาจที่เย็นชาในนิยายที่ปัจจุบันวิวัฒนาการ?เป็นบากะรากิ ไซซายะ
เฟริน-วาคาบะจังร่าเริง มัดหัวใจเจ้าชายน้ำแข็ง เอ้ย จักรพรรดิในนิยายก็กลายเป็นวาคาบะจังที่ดูไม่แคร์อะไรใดๆในปัจจุบั
เอฟฟี่-ท่านเรย์กะที่เคยไปแทรกแซงความรัก ถึงแม้ว่าความจริงแล้วนางเป็นตัวประกอบ หรือจะเป็น เรนอนก็ได้ ตอนเล่มแรกก็บอกว่าชอบคาโลอยู่น่ะนะ แต่ว่าดูไม่ค่อยร้ายเท่าท่านเรย์กะเท่าไหร่ 5555 หรือจะมาทิลด้าที่จูบให้เจ้าชายกลายเป็นหินไปซะเฉยๆ//โดนคาบุรากิร่ายเวทมนต์ตายแน่ๆ
โร-ถึงแม้ว่าจะดูมีประเด็นความรักที่ไม่เคลียร์กับเฟริน แต่บทนี้เหมาะกับท่านเอ็นโจแบบสุดๆ
คิล-นายตัวสำรองล่ะมั้ง มีคนมีบทเด่นอยู่ไม่เท่าไหร่ แต่จริงๆคิลชอบแต่เรื่องสนุกแล้วก็ขี้เกียจจะสนใจคนโดนรังแกแหงๆ
อะไรกัน
กลับมาอีกทีจะลามไปบารามอสแล้วเหรอ ต่อไปอะไรดี เพชรพระอุมา? เกมออฟโทรน? 55555555
>>397 ใช่ๆ เรย์กะลุคภายนอกคงต้องมาดเอฟีน่าอ่ะ ไม่ก็มาธิลด้าที่ไม่ห้าว
คาบุรากิ...ไม่เอาคาโลได้ไหม5555 แต่เวอร์ชั่นนิยายของคาบุมันก็มาแนวๆคาโลนี่แหละ
เอ็นโจก็ต้องแนวลูคัส โรเวน โร(แต่รายนี้มันเป็นขอทานกำมะลอนี่สิ555) ใจจริงชอบโรเวนที่สุด รายนี้ร้ายเป็นอันดับต้นๆเลยมั้ง แถมมีคดีไม่ชัดเจนกับวิเวียนคล้ายๆเอ็นโจกับเรย์กะอีก
นายตัวสำรอง ต้องเคร่งๆหน่อย ใครดี? ชิววี่ดีไหม?
มาจนถึงบารามอสแล้วหรอ 5555 ใครจะยังไงไม่เท่าไหร่ แต่ขอคัดแค้นสุดชีวิตถ้าคาบุรากิจะเป็นคาโล ตอนแรกๆก็พอได้นะ แต่หลังจากเห็นความรั่วของบากะรากิมากขึ้นเรื่อยแล้วไม่สามารถมองงั้นได้จริงๆ 5555
คนอื่นไปฮอกวอตส์ บารามอสกัน กุหลงไปทางฝั่งญี่ปุ่นบ้างละกัน ถถถถถถถ
ฟิค หากท่านเรย์กะเข้าเรียนที่โรงเรียนคิโบวกามิเนะ
"แม่ภูมิใจในตัวลูกจริงๆ คุณเรย์กะ"มารดายิ้มปลาบปลื้มพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบน้ำตาออก
"โธ่ ท่านแม่ล่ะก็..."เด็กสาวท่าทางดูสง่างามวัย16-17ปีลูบหลังผู้เป็นแม่ที่เดินมาส่งเธอที่หน้าโรงเรียน
คิโบวกามิเนะ...โรงเรียนแห่งสุดยอดความหวัง ที่รวบรวมนักเรียนผู้เป็นสุดยอดในแต่ละด้านมารวมกัน ซึ่งพวกเขาจะเป็นความหวังของประเทศชาติต่อไป
ท่านพี่ของเธอเองก็จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งด้วยวุฒิการศึกษาจากโรงเรียนคิโบวกามิเนะ ทำให้มีมหาลัยต่างๆยื่นข้อเสนอรับตัวนักเรียนเข้าเป็นโควต้าพิเศษ สำหรับนักเรียนที่จบจากที่นี่ ไม่ใช่เพียงแค่โควต้าพิเศษของมหาลัยเท่านั้น ยังมีองค์กรบริษัทต่างๆเองก็มีตำแหน่งรองรับพวกเขาเหล่านี้
ในที่สุดเธอก็ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ นับได้ว่าเกียรติของตระกูลคิโชวอินเป็นอย่างมาก
เด็กนักเรียนชื่อดังคนอื่นๆเองก็เช่นกัน เช่น คาบุรากิ มาซายะ หรือกระทั่งเอ็นโจว ชูสุเกะ ด้วยความสามารถที่เหนือกว่าคนอื่นๆแล้วจึงถูกทาบทามเข้าโรงเรียนคิโบวกามิเนะแห่งนี้
"ลูกขอตัวก่อนนะคะ ท่านแม่"เรย์กะหันมากล่าวลามารดาและเดินเข้ารั้วโรงเรียนไป
กึก!
ทันทีที่เท้าเธอก้าวข้ามผ่านรั้วโรงเรียน ร่างกายก็รู้สึกราวกับโดนกระแสไฟฟ้าช็อตไปทั่วทั้งตัว ทัศนียภาพต่างๆค่อยพร่าเบลอและมืดมัวลงจนเหลือแต่ความดำมืดในที่สุด...
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
"อ๊ะ..."เด็กสาวผมดัดม้วนลืมตาขึ้นมาใน ห้องเรียนที่ดูไม่คุ้นตา
'ที่นี่ที่ไหน?!'ทันทีที่ภาพต่างๆเริ่มชัดเจน สัญชาตญาณของเธอก็บอกได้ว่าที่แห่งนี้อันตราย หน้าต่างโดยรอบถูกปิดด้วยเหล็กหนาเสริมคอนกรีต ไม่มีแม้แต่แสงใดๆเล็ดลอดเข้ามาถึง มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟเพดานหรูหราในห้อง เท่านั้น ให้บรรยากาศราวกับโคมไฟของคฤหาสน์ผีสิงในหนังสยองขวัญของทางยุโรปและอเมริกาอย่างไรอย่างนั้น
เรย์กะใจแป้วขึ้นมาทันที ในห้องเรียนแห่งนี้มีเพียงเธอคนเดียว เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะถูกลักพาตัวมาจะๆต่อหน้าต่อตาผู้เป็นพ่อแม่เลย? เธอตัดสินใจออกตามหาผู้คนเผื่อว่าจะมีคนอื่นๆอยู่ที่นี่ การที่ต้องอยู่คนเดียวในห้องที่ฟื้นขึ้นมานั้นนานขึ้นแม้แต่วินาทีเดียว ก็สามารถที่จะทำให้เธอประสาทกินเอาได้
ยิ่งเดินมาตามทาง เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้น ด้วยแสงไฟที่เน้นความหรูหรา ทำให้มีบางจุดที่เป็นเงามืด เธอพยายามเดินตามทางมาในขอบแขตของแสงไฟ หน้าต่างทุกบานในอาคารนี้ก็เป็นเช่นเดียวกับเหล่าหน้าต่างแต่ละบานในห้องเรียนแรกนั้น คือพวกมันถูกปิดล็อคผนึกไว้อย่างแน่นด้วยโลหะ ราวกับว่าที่นี่เป็นคุกไว้ขังนักโทษ... แค่คิดเรย์กะก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว อยากกินชิพฟ่อนเค้กกับชาเอิร์ลเกรย์จริงๆ
เธอเดินมาถึงประตูคู่บานหนึ่ง เมื่อเธอตัดสินใจเปิดมันเข้าไปก็พบว่า มีวัยรุ่นชายหญิงอายุราวๆเดียวกับเธอประมาณ14-15คนอยู่ในนั้น สายตาทุกคนรวมมาหนึ่งเดียวที่ตัวเธอ
"หืม...นักเรียนใหม่อีกคนงั้นหรอ?" "ยังมีอีกคนงั้นหรอ?" "เธอเป็นใครน่ะ?"เสียงพูดของเหล่านักเรียนดังขึ้น
"เอ่อ...คือ...ไม่ทราบว่าที่นี่ที่ไหนหรือคะ? พอดีว่าดิฉันตื่นขึ้นมาก็อยู่ห้องเรียนห้องหนึ่งเสียแล้ว..."เธอตัดสินใจพูดออกไปอย่างที่ไม่ใช่ตัวเธอเลย แต่หากไม่ทำอะไรแล้วล่ะก็ เรื่องคงไม่ไปถึงไหนหรืออาจจะบานปลายก็เป็นได้
"คุณเองก็เหมือนกันหรือครับ? พวกเราทุกคนเองก็ 'เล่าว่า' ตื่นขึ้นมาในห้องเรียนห้องหนึ่งเช่นกัน"เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินมาทางหญิงสาวเจ้าของผมม้วนทรงฝรั่งเศส เขาคนนั้นคือ เอ็นโจว ชูสุเกะ เขาเป็นตัวละครในโชโจมังงะที่เรย์กะเคยอ่านเมื่อชาติก่อน แต่เดี๋ยวก่อนสิ! เรื่องมันชักจะผิดเพี้ยนไปจากที่เธอเคยอ่านในมังงะแล้วนะ
"ท่านเอ็นโจ..."เธอเผลอพึมพัมออกมา ดูเหมือนว่าสีผมของเขาจะไม่ใช่สีฮันนี่บลอนด์อย่างในมังงะ แต่เธอก็รู็ได้ทันทีว่าเป็นเขา
"หืม...ทำไมคุณถึงรู้จักชื่อของผมล่ะ?"เท้าของเขาหยุดเดินแล้วจ้องมองใบหน้าของเรย์กะอย่างสงสัย แน่นอนว่าการที่จู่ๆเธอจะมารู้จักชื่อของคนที่ไม่เคยเจอกันนั้นเป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก ผนวกกับการเอ่ยออกมาในสถานการณ์เช่นนี้
"คะ-คือว่า...ดิฉัน.."ขณะที่เรย์กะกำลังหาทางเอ่ยคำแก้ตัวนั้นก็ มีเสียงดังขึ้นจากเวทีในห้องซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นโรงยิมหรือห้องประชุมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง
"เทสๆ เช็ค-คุ-ไมค์... เอาล่ะ! นักเรียนที่น่ารักทุกคนของฉัน"เสียงจากไมค์ผ่านเครื่องกระจายเสียงดังขึ้น พร้อมกับมีตุ๊กตาหมียัดนุ่นสีขาวครึ่งดำครึ่ง กระโดดขึ้นมาบนแท่นประกาศ
"ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนแห่งความหวัง คิโบวกามิเนะ แหม่ๆ~~~ ฉันว่าพวกเธอก็คงรู้จักกันดีอยู่แล้วสินะ เหล่านักเรียนแห่งความหวังผู้ถูกคัดเลือกเข้ามาในโรงเรียนแห่งนี้"เจ้าหมีตัวนั้นเอ่ยคำราวกับพูดในพิธีปฐมนิเทศ
"อะแฮ่มๆ"มันแสร้งทำเป็นกระแอมขึ้นมาก่อนจะพูดต่อ"ฉันคือ 'โมโนคุมะ' ผอ.โรงเรียนคิโบวกามิเนะแห่งนี้นี่เอง~~"
"อะไรกัน เป็นไปไม่ได้!!"มีเสียงของนักเรียนจำนวนหนึ่งขัดแย้งขึ้นมา
"เงียบซะ!! ไม่มีใครสั่งสอนรึไงว่าไม่ให้พูดแทรกครูบาอาจารย์ของตัวเองนะ ช่างไร้มารยาท!!"เจ้าหมีเอามือทุบแท่นประกาศอย่างเดือดดาล
"..."
"ดีมาก! อย่างที่รู้กันก็..ถ้าพวกแกไม่ได้โง่จนไร้สมองน่ะนะ นั่นคือ พวกแกทั้งหมดถูกขังในโรงเรียนแห่งนี้ไงล่ะ!"คำพูดต่อมาของตุ๊กตาหมีที่ชื่อโมโนคุมะทำให้เหล่านักเรียนในห้องหลายคนขวัญเสีย แต่บางคนก็ไม่สะทกสะท้านราวกับมันเป็นเพียงเรื่องตลกอำเล่นเท่านั้น
"หากพวกแกอยากจะออกไปมีวิธีที่ง่ายแสนง่าย คือ พวกแกต้อง 'จบการศึกษา' จากโรงเรียนแห่งนี้ยังไงล่ะ!"
"ซึ่งการจบการศึกษานั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย แค่พวกแกต้องก่อคดีฆาตกรรมขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้โดยไม่มีใครจับได้"
"โดยเพื่อความยุติธรรม ฉันจะเมตตาให้มีช่วงเวลาสำหรับสืบสวน และนำผลไปสรุปที่ระบบชั้นศาล จากนั้นก็โหวตประหารฆาตกรให้ได้ซะ"
"หากไม่มีใครจับฆาตกรได้และโหวตประหารผิดตัว พวกแกทุกคนจะต้องโดนลงโทษด้วยความตาย ผู้ที่จะรอดชีวิตและจบการศึกษามีเพียงฆาตกรเพียงคนเดียวเท่านั้น"
"แต่ถ้าหากว่า พวกแกโหวตฆาตกรถูกตัวแล้วล่ะก็ ฆาตกรก็จะต้องได้รับโทษชดใช้สิ่งที่กระทำด้วยความตาย คนอื่นที่เหลือก็จะรอดและต้องดำเนินเกมต่อไป"
"อุปุปุปุ~~~ เป็นยังไงล่ะ ง่ายใช่ไหมเอ่ย? ณ ตอนนี้เกมก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หวังว่าพวกแกจะสร้างความบันเทิงแก่ฉันได้นะ ตอนนี้ฉันต้องไปดูวีดีโอที่อัดเอาไว้แล้วล่ะ บรัยยยย~~~!!"ยังไม่ทันที่จะมีใครโต้ตอบอะไร เจ้าหมีตัวนั้นก็กระโดดลงจากแท่นแล้วหายลับไปโดยไม่มีแม้แต่เสียงกระทบกับพื้นเวที
"นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!?"
"เจ้าตุ๊กตานั่นพูดเรื่องจริงรึเปล่า?"
"ฉันทั้งสำรวจ ทั้งพยายามงัดแงะดูแล้ว แต่เหล็กที่ติดประตูหน้าต่างไว้ก็ไม่ยอมหลุดเลย"
"ฉันลองพยายามหาทางออกหรือช่องทางหนีก็ไม่เจอเลย แถมพวกเรายังถูกล็อคไว้ที่ชั้นนี้ชั้นเดียวอีกด้วย!"
เสียงนักเรียนสิบกว่าชีวิตในแห่งดังระงมไปทั่ว บ้างก็ดูช็อคสับสนราวกับไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง
เหล่าสุดยอดนักเรียนแห่งความหวังทั้งหลายกำลังเผชิญสถานการณ์ที่เลวร้ายถึงขีดสุด
สิ่งที่รบกวนจิตใจของคิโชวอิน เรย์กะในตอนนี้ก็คือ... เธอเป็นสุดยอดนักเรียนมัธยมปลายในด้านอะไรกันแน่?!?
ใครก็ได้ช่วยด้วย!! ท่านพี่คะ!!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
กุทำอะไรของกุเนี่ย 555555555555555555555555555
จริงๆแต่งไปก็ไม่ได้วางพลอตอะไรเท่าไหร่
นักเรียนทั้ง14-16คนก็ยังไม่ระบุตัวว่าเป็นใครบ้าง เป็นสุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้มีความสามารถด้านอะไร
เขียนบรรทัดก็กะทำเล่นๆเท่านั้นแหละ แต่ดันติดลมแต่งมาได้เท่านี้ พอละ สะใจ 5555555555555555
ปล.เผื่อใครไม่รู้นี่คือฟิค Au Danganronpa นะคะ เป็นเกมญี่ปุ่น(มีภาษาอังกฤษ)ค่ะ ภายหลังก็มีนิยายและอนิเมะด้วย มีชื่อเสียงพอตัวเลยทีเดียว
เชี่ยแล้ว ดันกันเหรอ จะมีใครตายมั่ยเนี่ย 555
เชี่ยยยยยยยย ดันกันเรอะ ใครจะตายมั่งเนี่ย!!
>>406 >>408 กุก็กลัวมีคนตายเลยว่าจะไม่แต่งต่อ คิดว่าคงไม่เข้าถึงผู้คนเท่าฮอกวอตส์ด้วยแหละนะ
แต่ลองคิดเล่นว่า ใครเป็นนักเรียนและมีความสามารถอะไร รายชื่อข้างล่างอาจมีหรือไม่มีก็ได้นะ
หัวหน้าห้อง สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นหัวหน้าห้อง? โคตรทำร้าย 55555
อิวามูโระ ทาคาชิ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นกัปตันชมรมยูโด
มิซึซากิ อาริมะ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นประธานนักเรียน
อุเมวากะ อาสึกะ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นสุดยอดนักอนุรักษ์สัตว์ หรือสุดยอดผู้นำสิทธิสุนัขชนดี 555555
คาบุรากินี่กุคิดเล่นๆว่า อาจจะเป็น สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นสุดยอดทายาทตระกูลดัง หรือสุดยอดนักกีฬาขี่ม้าส่งเมืองดี?
เอ็นโจนี่คิดไม่ออก อาจจะ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นฑูต หรือ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นนักวางแผน (สุดยอดสตอล์กเกอร์ แค่ก---)
เรย์กะ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นนักชิม(แต่ทำเองแล้วแดกไม่ได้)
ท่านพี่เป็น อดีตสุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้เป็นซิสค่อน-----
ทาคามิจิ วาคาบะ สุดยอดนักเรียนม.ปลายผู้โชคดี (ตำแหน่งเดียวกันกับ นาเอกิ และนากิโตะ)
Danganronpa ก็มา มีขบวนการ 5 สีบ้างไหม
สีแดง = บากะรากิ (มันหัวร้อน เป็นผู้นำ? เป็นพระเอก)
สีน้ำเงิน = ตัวรอง = นายตัวสำรอง
สีเขียว = สีธรรมชาติ เอาให้ ไอ้บ้าหมา ดูสวนๆดี
สีเหลือง = บางทีมันก็เป็น ผช บางทีก็เป็น ผญ ให้ท่านเรย์กะที่มีทั้งด้านมุ้งมิ้งและเจ้าแม่กาลี
สีชมพู = วาคาบะ สีดูผู้หญิงๆ
สีขาว/ดำ = เอ็นโจ สีที่เท่ที่สุดในความคิดสมัยเด็กของกู มาๆหายๆ ผีเข้าผีออก บางทีเสือกตาย รู้เรื่องเยอะกว่าพวกพระเอก(สตรอกเกอร์นั่นเอง)
เอ็นโจ : ผู้ยอดนักเรียนมอปลายผู้เป็นยอดนักเสือก อห. กูขำ 55555555555555555555555
ถ้าแต่งดันกันต่อแล้วมีใครตายอาจเป็นเรื่อง 555555
ปล่อยเป็นมโนเรื่องสั้นก็พอละ
>>401 กูเรียกติดปาก555 แต่กูว่าเป็นตัวละครที่เหมาะกับนายตัวสำรองจริงๆนะ
คนเขียนยังเขียนไว้ในไกด์บุ๊คเลยว่าเป็นตัวละครที่จืเจาง ผู้คุมกฎมี4คน ลูคัสลอเรนซ์ก็เด่นอยู่แล้ว โซมาเนียก็ไปๆมาๆ มีตานี่ที่โผล่มาตอนเล่ม1แล้วหายจ้อย ตอนหลังโดนโรแย่งตำแหน่งผู้คุมกฎไปอีกต่างหาก5555
หลังจากอ่านแปลตอนล่าสุดแล้วรู้สึกอยากให้วาคาบะหักอกคาบุรากิจังเลยฟ่ะ... ไม่เคยเข็ดเลยนะหมอนี่
>>416 แอบคิดนะว่าโอกาสแห้วของคาบุรากิมีสูง แต่ไม่ได้สาปแช่งนะ
คิดไม่ออกเลยว่าจะไปลงเอยกับใคร หรือคาบุรากิจะพบประสบคาน?
นิสัยและสไตล์ความรักของคาบุรากินี่...คิดออกยากจริงๆ แต่ก็ไม่อยากให้มันเสียใจเลย //คราวก่อนก็ไปผาโทจิมโบ น้ำตกเคเก็น ป่าจุไก วันที่มีพายุหิมะที่ทะเลในตอนกลางคืนอีก...
มาเปลี่ยนurlสารบัญตามที่โม่งข้างบนแนะนำจ้าาา
คาบุรากิ : https://justpaste.it/kaburagi
เอ็นโจ : https://justpaste.it/enjou
ไม่ทันไรจะ500โพสต์แล้วเหรอ ไวมากเลย
รุ่นลูก ต่อก่ะ >>>/webnovel/3507/342
--------------
ตอนที่ฉันตระหนักได้ถึงสถานะของตัวเองในชาตินี้ ก็เล่นทำเอาป่วยไข้ไป 3 วันเลยล่ะค่ะ คิดอย่างไรก็คิดไม่ตกว่าทำไมเหตุการณ์มันถึงออกมาในรูปแบบนี้
เอ็นโจ ชูสุเกะที่ฉันเคยอ่าน ภาพลักษณ์ของเขาราวกับเจ้าชายผู้อ่อนโยนใจดี เรือนผมสีน้ำผึ้งตอนขึ้นบนหน้าปกนั้นเปล่งประกายสดใส เขาเป็นตัวละครชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งที่เป็นแค่เพื่อนพระเอกแท้ๆ ยิ่งตอนหลังมีกู๊ดส์ของเรื่องนี้ออกมา เขาก็เป็นไอเทมที่ล่อลวงให้เหล่าแฟนๆเปย์กันไม่ยั้ง ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นล่ะนะ...จนกรอบไปหลายเดือนเชียวล่ะ
อา แต่มาชาตินี้ได้เขามาเป็นท่านพ่อเนี่ย ...ไม่เลวเลยล่ะค่ะ อุเฮะเฮะ
ส่วนคิโชวอิน เรย์กะ ยัยนางร้ายที่ตามรังควาญคู่พระนางอย่างไม่ลดละจนน่ารำคาญสุดๆ ตอนที่ยัยคนนี้โผล่มาในเรื่องทีไร ในSNSก็ไม่พ้นการก่นด่ายัยคนร้ายกาจนี้ จนเคยติดแท็กขึ้นเทรนด์โลกเชียวนะ
ฉันหวาดผวาขึ้นมาทันทีตอนที่คิดว่าตัวเองเป็นลูกสาวของนางร้าย ถ้าตามเนื้อเรื่องแล้วล่ะก็เธอควรจะล่มจมไปทั้งตระกูลจนกลายเป็นรากหญ้าไปแล้วนี่นา แล้วทำไมกันล่ะ? เธอคงจะไม่ได้ใช้เล่ห์กลอะไรจนทำให้เพื่อนพระเอกตกหลุมพรางใช่มั้ยนะ? แบบใช้มารยาบังคับแต่งงาน? หรือยาเสน่ห์น้ำมันพรายอะไรเถือกนี้น่ะ? ไม่นะ! ถ้าแบบนั้นล่ะก็ต่อให้เป็นท่านแม่ ฉันก็ไม่คิดว่านี่เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรอกนะคะ!
ฉันใช้เวลาตอนที่นอนพักไข้ในการคิดและรวบรวมข้อมูลต่างๆในหัวเข้าด้วยกัน คิดๆดูแล้วที่ผ่านมาตั้งแต่จำความได้ ท่านแม่เรย์กะก็ไม่เคยแสดงท่าทางเย่อหยิ่ง กรี๊ดกร๊าด ยั่วยวนอะไรอย่างที่นางร้ายควรจะเป็นกันนี่นา ท่านออกจะใจดีและรักฉันกับท่านพี่มากเสียด้วยซ้ำไป ขนาดที่ฉันกำลังนอนป่วยอยู่นี้ ก็เป็นท่านแม่เองที่มาดูแลเช็ดตัว ป้อนข้าวต้มให้ ทั้งที่จะให้สาวใช้ทำให้ก็ได้น่ะ
...แต่อย่างน้อยท่านแม่ก็น่าจะให้สาวใช้ทำข้าวต้มให้นะคะ นี่มันจะเค็มเกินไปแล้วนะ! เดี๋ยวหนูก็ไตวายตั้งแต่ห้าขวบกันพอดีหรอกค่ะ!
ทางด้านท่านพ่อเอง นอกจากผมสีดำที่แตกต่างจากในมังงะแล้ว นิสัยก็ดูเหมือนจะแตกต่างกันอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีออร่าสีเทาจางๆโผล่ออกมาเวลาง้องอนกับท่านแม่เลยแฮะ แต่กับฉันแล้วท่านพ่อก็ใจดีเสมอล่ะนะ เป็นอาหารตาที่ชุ่มชื่นใจดีมากเลยล่ะค่ะ~
แถมไม่ได้มีท่าทางว่าถูกบังคับขู่เข็ญให้มาแต่งงานด้วยแต่อย่างใด ออกจะตรงข้ามเสียด้วยซ้ำ ความรักความสวีทหวานแหววที่ท่านพ่อมีต่อท่านแม่นั้นมากจนหลายครั้งที่ท่านแม่พยายามหาทางหนีซะด้วยซ้ำ
อื้อ บางทีก็ออกจะสวีทมากจนฉันเขินอายแทนท่านแม่เลยนะ แล้วก็ต้องเอามือปิดตาท่านพี่เลยนะ กรี๊ดดดด! ตรงนี้มีเด็กๆอยู่นะคะท่านพ่อ~!
อืม ตอนนี้ฉันคงตัดสินได้แต่เพียงว่า เหตุการณ์ในโลกKimiDolce กับโลกนี้มันเป็นคนละโลกกันล่ะนะ เป็นโลกที่เพื่อนพระเอกลงเอยกับนางร้ายที่ไม่ได้ร้าย จนกระทั่งมีลูกออกมาเป็นฉัน! และท่านพี่
ชาติก่อนฉันเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง พอคิดว่าตอนนี้มีพี่ชายแล้วก็ดีใจมากเลยค่ะ
ท่านพี่ยูตะ เป็นฝาแฝดชายกับฉันเอง คลอดก่อนฉันเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หน้าตาเป็นเด็กน่ารักสุดๆไปเลย! ท่าทางท่านพี่จะไม่มีความทรงจำจากชาติก่อนเหมือนกับฉัน ท่านพี่น่ะชอบกินขนมมากจนหน้ากลมเป็นซาลาเปาแล้ว แถมยังขี้แยอีกต่างหาก
ตอนแรกฉันก็คิดว่าน่าเอ็นดูนะคะ แต่ ไม่ได้ซิ! เราจะเข้าเรียนที่โรงเรียนซุยรันกันแล้วนะ ฉันไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาบอกว่าทายาทตระกูลเอ็นโจขี้แยหรอกนะ! ขายหน้ากันพอดีน่ะซิ!
โรงเรียนซุยรันน่ะเป็นโรงเรียนของชนชั้นสูงวงการไฮโซและนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของประเทศ ตระกูลเอ็นโจเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นตระกูลที่มีเอกสิทธิ์ในสโมสร Pivoine ที่มีอำนาจที่สุดในโรงเรียนซุยรัน เข็มกลัดอัญมณีรูปดอกโบตั๋นจะประดับไว้บนชุดเครื่องแบบ เป็นเครื่องรับรองเอกสิทธิ์ในการได้รับการปล่อยผ่านจากความผิดใดๆก็ตามในโรงเรียนนี้
แต่ความขี้แยและความเปิ่นของท่านพี่นั่นน่ะ ต่อให้มีเข็มกลัดกี่อัน ฉันก็ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้หรอกนะ
ใช่แล้ว หลังจากนี้ฉันจะคอยกระชับและตรวจตราท่านพี่ให้ทำตัวให้เหมาะสมเวลาอยู่ข้างนอก ส่วนฉันก็จะเป็นเจ้าหญิงน้อยน่ารักผู้อ่อนหวานและบอบบาง ฉันจะพยายามอย่างยิ่งไม่ให้ใครมาว่าได้ทั้งนั้นล่ะว่าพวกเราทั้งคู่มีแม่เป็นนางร้ายในมังงะน่ะ
อื้อๆ ตามนั้นล่ะ! อย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องกังวลว่าตระกูลเอ็นโจจะล่มจม หรือว่าจะโดนใครในโรงเรียนรังแก หรือเป็นที่รังเกียจของสังคม อย่างนิยายแนวนี้เรื่องอื่นๆที่เคยอ่านในชาติก่อนล่ะนะ
ฉันจะใช้ชีวิตในซุยรันอย่างสงบสุขค่ะ!
เอ ดูเป็นเป้าหมายที่เลื่อนลอยจังเลยแฮะ...
งั้นเอาเป็นฉันจะมีเพื่อนในโรงเรียนในเยอะๆดีมั้ยนะ? อ๊ะ หรือว่าเก็บฮาเร็มส่วนตัวให้ได้มากที่สุดล่ะคะ?
อุเฮะเฮะ ว่าไปนั้น ฉันไม่สามารถขนาดนั้นหรอกน่า~
>>426 ท่านแม่อ่า จะหนีท่านพ่อทำไม จนป่านนี้ยังจะเขินอีกเหรอ รึว่านี่คือท่านแม่ตอนความจำเสื่อม เอ๊ะ หรือว่าปกติก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว จะยังไงก็ช่างเหอะ สวีทกันเยอะๆ เลยเจ้าค่าาาาา
ว่าแต่ชักสงสัยแล้วว่ามีคนอ่านคิมิดอลกี่คนเนี่ยที่หลุดเข้ามาเกิดใหม่ในโลกนี้ 555555 อย่าบอกนะว่าเอ็นโจนี่ก็ใช่ แต่ไม่หรอกเนอะ ผู้ชายคงไม่อ่านโชโจ.... รึป่าววะ
จริงๆแล้วท่านเรย์กะเป็นนางเอกโชโจยุคใหม่โว้ย นกแล้วนกอีก และสุดท้ายก็สามารถอยู่คนเดียวอย่างแข็งแกร่งได้ เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าไม่จำเป็นต้องมีพระเอกก็ด้ายยยย แค่กๆ
กุว่ามันถึงเวลาที่ต้องคิดชื่อกระทู้หน้าแล้วล่ะ...
ชื่อโรงเรียนก็บอกไว้แล้วนี่ มาจากคอมเม้นนึงในมู้ ก่อน"นกในตำนาน"
>>460 หลักๆก็มาจากความนึกคิดที่มีความสุขที่สุดของเจ้าตัวอะ ผู้พิทักษ์เปลี่ยนรูปได้ อย่างตอนทองก์ที่เคยมีผู้พิทักษ์อีกแบบนึง แต่พอรักลูปินก็เปลี่ยนผู้พิทักษ์มาเป็นหมาป่า สเนปที่รักลิลี่ก็ใช้กวางตัวเมียตามลิลี่ที่ใช้กวางตัวเมียเหมือนกัน แฮร์รี่ที่โหยหาพ่อก็ใช้กวางตัวผู้แบบพ่อ
พวกมึงลองเล่าวีรกรรมของอ.ฮิโยโกะมาหน่อยดิ หลายๆคนบอกอ.ไม่ธรรมดาเลยเดาทางยาก ยังไงวะ กุงง
ต่อจาก >>235-236 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
อ่านคอมเม้นต์แต่ละคนบางทีก็ตกใจนะคะ ทำไมเดาเนื้อเรื่องได้ขนาดนั้น 555 อุตส่าห์เขียนแอบๆ
ยินดีด้วยกับคาบุรากิที่มีสารบัญเป็นของตัวเองแล้ว ขอบคุณโม่งผู้จัดทำสารบัญด้วยนะคะ
..............…….....
ฉันพยายามติดต่อคาบุรากิ ทั้งโทรทั้งส่งเมลล์ไปถามไถ่
เกิดอะไรขึ้น... คาบุรากิจะเป็นอะไรไหมนั่นน่ะ...
ขณะที่ฉันช่างใจว่าควรบุกไปถามที่บ้านคาบุรากิเลยดีไหม เมลล์ก็เด้งขึ้นมา พอเห็นว่ามาจากคาบุรากิ ฉันก็รีบเปิดอ่าน
"ตอนนี้รอดแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันพิมพ์เมื่อกี้เผื่อไว้เฉยๆน่ะ"
อ้า... โล่งอกไปทีล่ะมั้งคะ
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สถานการณ์แบบไหนนะที่คาบุรากิต้องถึงขั้นพิมพ์เผื่อไว้เหมือนประโยคลาตายขนาดนั้น… เดาไม่ถูกเลยจริงๆค่ะในกรณีนี้ ฉันพยายามถามว่าเอ็นโจทำอะไรเขา เขาก็ไม่ยอมบอกท่าเดียวจนฉันต้องยอมแพ้ไป... แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะค่ะ
คาบุรากิดูลับลมคมนัยมีความลับบ่อยๆในช่วงนี้ ทั้งๆที่ปกติหมอนั่นเป็นคนเปิดเผยซะจนน่าตกใจแท้ๆ แต่ก็ต่อว่าเขาได้ไม่เต็มปาก ในเมื่อเหมือนเขาจะคล้ายๆทำไปเพราะปกป้องตัวฉันเอง
หลังจากฉันไปนั่งคิดนอนคิดมาแล้ว ฉันก็พอเดาได้ค่ะว่ามันคือเรื่องอะไรที่ทำให้คาบุรากิทะเลาะเอ็นโจ แต่ว่าในเมื่อสัญญากับเขาไว้แล้วแบบนั้น ก็คงต้องทำเป็นไม่รู้ไปก่อนล่ะนะคะ จะยังไงฉันจะพยายามแก้ด้วยวิธีของฉันเช่นกัน
อีกไม่นานจะได้เจอท่านพี่แล้วค่ะ! ฉันทั้งตื่นเต้นและกลัวๆ แค่ผ่านการเรียนวันนี้ไปอีกวันเท่านั้นเอง
ฉันตื่นแต่เช้าอย่างตื่นเต้น เลยมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติอย่างมาก ไปห้องเรียนก็คงไม่มีใครอยู่ ไปห้องสมุดดีกว่าค่ะ ถ้าโชคดีอาจจะเจอนารุคุงในโลกนี้ด้วยนะคะเนี้ย หุหุ
แต่ฉันกลับเห็นใครไม่รู้ทำตัวลับๆล่อๆหน้าตู้เก็บรองเท้า ถ้าจำไม่ผิด นั่นเป็นตู้เก็บรองเท้าของวาคาบะจังนี่คะ
ฉันเดินไปใกล้ๆ แล้วเจอกับคนต้นเหตุ อีกฝ่ายสะดุ้งเมื่อเห็นฉัน
“คุณคิโชวอิน...”
นี่มันผู้ชายคนเดียวกับที่มาตามตื้ออาโออิจังในโลกก่อนนี่คะ หมอนี่เองก็อิจฉาวาคาบะจังที่เก่งกว่า จนเคยพูดว่า “สมน้ำหน้า” ตอนที่วาคาบะจังโดนคนอื่นๆแกล้ง
“ทำอะไรอยู่หรอคะ” ฉันถามนิ่งๆ
ผู้ชายคนนั้นหยิบเปิดกล่องรองเท้าให้ดู ในนั้นมีรองเท้าที่ใส่ในอาคารเปื้อนหมึกดำเลอะเทอะไปหมด
ในโลกก่อนก็เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันแบบนี้ แต่ว่าตอนนั้นฉันมาเช้าไม่พอเห็นว่าใครเป็นคนทำ แต่ถ้ามันเป็นโลกคู่ขนานกันจริงๆล่ะก็ แสดงว่าว่าหมอนี่เป็นคนทำสินะคะ
ฉันเผลอยิ้มเย็นไม่รู้ตัว
"แหม อุตส่าห์มาแต่เช้าทั้งที แทนที่จะไปอ่านหนังสืออยู่ห้องสมุด กลับมาทำเรื่องแบบนี้งั้นหรอคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงสู้ทาคามิจิไม่ได้"
หมอนั่นอ้าปากค้าง ท่าทางสั่นกลัว แต่ก็ยังพยายามพูดออกมา
“คุณคิโชวอินไม่ได้ไม่ถูกกับคุณทาคามิจิหรอครับ...”
“นั่นเป็นข้ออ้างของคุณหรอคะ”
“...”
ฉันยิ้มให้ใบหน้าที่ตื่นกลัวหวาดหวั่นนั่น
“ฉันไม่ยอมให้ใครแกล้งคุณทาคามิจิหรอกนะคะ”
ฉันแกล้งแหย่ให้อีกฝ่ายทั้งสับสนทั้งหวาดกลัว ยังไงก็แค่ช่วงเช้า ยังไม่มีใครมา จะช่วยวาคาบะจังตรงๆน่าจะไม่มีปัญหาล่ะนะคะ
“อื้ม สหกรณ์ก็ยังไม่เปิดล่ะนะคะ ช่วยไปยืมรองเท้าแตะมาให้ทีค่ะ อย่าให้ฉันรอนานนะคะ”
หมอนั่นวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ฉันอยากให้หมอนั่นรับผิดชอบโดยการซื้อรองเท้าใหม่อยู่ล่ะนะคะ แต่ว่าสหกรณ์ก็ยังไม่เปิด และถ้าทำแบบนั้นวาคาบะจังต้องรู้แน่ๆว่าถูกแกล้ง
แปบเดียวเจ้าผู้ชายขี้อิจฉานั่นก็กลับมา ฉันถอดรองเท้าตัวเองออกแล้วใส่รองเท้าแตะแทน ก่อนจะเอารองเท้าตัวเองใส่ให้วาคาบะจัง เราใส่เบอร์ใกล้เคียงกัน หวังว่าวาคาบะจังจะไม่ได้สังเกตนะ...
ฉันรีบหนีความจริงไปที่อื่น และตอนที่สหกรณ์เปิดก็บังคับให้ผู้ชายที่แกล้งวาคาบะไปซื้อรองเท้ามาให้ฉันใหม่ ถึงฉันมีเงินมากพอจะซื้อทิ้งขว้างได้เต็มที่ แต่ต้องขุดรีดให้รู้สำนึกบ้างล่ะนะคะ ให้รู้ซะบ้างว่าการแกล้งแบบนั้น คนที่เดือดร้อนมาเสียเงินก็คือวาคาบะจังนะ
หลังข่มขู่ให้เขาไปซื้อรองเท้าใหม่จากสหกรณ์มาให้เรียบร้อย ฉันก็บอกผู้ชายขี้อิจฉาคนนั้นว่าถ้าจับได้ว่าเล่นตุกติกอะไรวาคาบะจังอีก ฉันจะ "ทำลาย" ชีวิตของเขา หมอนั่นรับคำตัวสั่นแล้วก็รีบวิ่งจากไป ขี้ขลาดชะมัดเลยนะคะ~
แต่หลังจากนั้นสักพัก ฉันก็เริ่มเครียดหน่อยๆ ช่วงนี้เหมือนฉันจะใช้อำนาจมากเกินไปหรือเปล่านะคะ... ถ้าตระกูลฉันล้มละลายเข้าจริงๆต้องแย่แน่ๆ
ถ้าฉันตกต่ำเข้าจริงๆ ฉันจำได้ว่าเรื่องแกล้งผ่านรองเท้ามีวิธีแก้คือเอารองเท้ากลับบ้านค่ะ ถึงในซุยรันจะไม่ยอมรับให้ทำแบบนั้นก็ตาม ถ้าแอบๆก็พอไหว พยายามเดินในบริเวณที่อยู่ท่ามกลางสายตาคน อย่างน้อยก็ให้มั่นใจว่าครูอาจารย์อยู่แถวนั้นน่ะค่ะ แล้วก็บางทีอาจจะฝึกใช้แรงบ้างแล้วล่ะมั้งคะ กรณีที่โดนทำร้ายร่างกายจะได้ตอบโต้ได้ ถ้าเป็นไปได้ก็มาโรงเรียนเร็วๆ ตัดปัญหาเรื่องมารถไฟฟ้าไม่ทัน ปกติถ้าคนจะดักทำร้ายช่วงเช้าอาจจะเป็นเป้าได้ก็จริง แต่ว่าถ้าเรามาเร็วกว่าน่าจะหลบหลีกทัน ฉันว่าจะไปอยู่ที่ห้องสมุดค่ะ นั่งใกล้ๆกับอาจารย์หน่อยน่าจะไหว
เอ๊ะ...อ้า ฉันไม่ควรคิดเรื่องพวกนี้ล่วงหน้าสินะคะ ฉันควรจะพยายามรอดพ้นเรื่องนี้ไปให้ได้สิ…
ตอนกลางวันฉันเห็นวาคาบะจังคุยเล่นกับเพื่อนปกติ ท่าทางคงไม่สังเกตสินะคะ ดีจริงๆ
คาบุรากิลากฉันมากินข้าวด้วยตอนกลางวัน ทั้งๆที่ฉันอยากจะนั่งกินกับเพื่อนๆผู้หญิงในห้องเพื่อสานความสัมพันธ์แท้ๆ แต่ว่านะคะ ฉันเพิ่งทำให้หมอนั่นเสียเพื่อนไป จะยอมไปด้วยก็ได้ค่ะ
พอฉันแอบๆถามเรื่องเอ็นโจ เขาก็บอกว่าตอนนี้คืนดีกันแล้ว แต่คืนดีของนายนี่มานั่งกินข้าวอะไรกับฉันคะ ทำไมไม่กินกับเพื่อนสนิทของนาย แล้วไอเมลล์ล่าสุดที่นายส่งมาราวกับสั่งเสียนั่นมันน่าสงสัยนะคะ
“ชูสุเกะไม่สบายน่ะ เลยไม่มาโรงเรียนวันนี้”
เอ๊ะ? ฉันเองก็เพิ่งสังเกตว่าหมอนั่นไม่มาโรงเรียนค่ะ แต่ลางสังหรณ์ของฉันไม่คิดว่าเอ็นโจจะไม่สบาย... หวังว่าคงไม่วางแผนฆาตกรรมฉันอยู่อ้อมๆอยู่นะคะ
“นี่ คิโชวอิน... เธอคิดว่าชูสุเกะในโลกนี้จะชอบทาคามิจิหรือเปล่า...”
“หะ! ไม่มีทางหรอกค่ะ อะไรที่ทำให้คิดอย่างนั้นหรอคะ”
“ก็หมอนั่นดูปกป้องทาคามิจิอยู่ตลอดแบบลับหลัง แล้วก็ตอนหลังๆ บางครั้งก็ห้ามฉันเวลาคุยกับทาคามิจิด้วย”
จะว่าไปในนิยาย เอ็นโจก็ชอบแอบช่วยเหลืออยู่ลับๆแบบตัวรองที่ดี ส่วนคาบุรากิออกตัวปกป้องเบื้องหน้าล่ะนะคะ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าจำไม่ผิด คนเขียนนิยายเรื่องนั้น เหมือนจะยืนยันนะคะว่าเอ็นโจไม่ได้ชอบวาคาบะจัง มีแต่นายตัวสำรองผู้น่าเศร้าที่ต้องมาสู้กับคาบุรากิเท่านั้นแหละค่ะ
แต่ว่าที่ห้ามนายคุยกับทาคามิจิน่าจะเป็นเพราะนายไม่รู้กาลเทศะ อยู่ๆก็พุ่งเข้าไปคุยด้วย สร้างศัตรูให้วาคาบะจังนะ... ! เวลาที่นายไม่ได้เป็นกรณีคล้ายๆกันนั้น ฉันก็ไม่เคยเห็นเอ็นโจห้ามนายนี่
ฉันพยายามอธิบายให้คาบุรากิฟัง
“หมายความว่า ถ้าฉันจะคุยกับทาคามิจิต้องแอบไปคุยตอนที่ไม่มีใครเห็นเท่านั้นหรอ ทำไมกันน่ะ”
“คือ...จะมีคนอิจฉาไงคะ”
“หะ? ทำไมล่ะ”
ฉันแทบจะจนปัญญากับคาบุรากิ นายไม่เคยรู้หรือไงว่าตัวเองมีคนชื่นชอบเป็นแฟนคลับมากแค่ไหน แล้วพอเห็นนายไปสนิทกับใครเข้า คนนั้นก็จะโดนขเม่นเป็นเรื่องธรรมดาของสาวๆขี้อิจฉา
ฉันอธิบายเรื่องทั่วไปของสาวๆในซุยรันให้ฟัง และอธิบายว่าทำไมวาคาบะจังถึงซวย คาบุรากิขมวดคิ้วคิดตาม
“ถ้างั้นแสดงว่า การที่ฉันมาคุยกับเธอ ก็ทำให้เธอโดนแกล้งหรอ...”
“ไม่หรอกค่ะ ถ้ามีชาติตระกูลคอยสนับสนุนจะไม่ค่อยมีใครกล้ามาแกล้งน่ะค่ะ”
ฉันบอก รู้สึกเหมือนกำลังสอนเด็กน้อยให้รู้จักโลกเลยค่ะ ฉันปล่อยให้คาบุรากิครุ่นคิดสภาพปัจจุบันของตัวเอง แล้วรีบกินข้าวที่เหลืออยู่อย่างรวดเร็ว อาหารของโรงเรียนอร่อยเหมือนเคยเลยนะคะ สมกับเป็นเซฟชั้นหนึ่งจริงๆ
เมื่อกินข้าวเสร็จก็รีบเก็บของเตรียมตัวเข้าเรียนบ่าย ก็บังเอิญสบตากับวาคาบะจังที่เดินผ่านมาพอดี
วาคาบะจังเห็นฉันก็ก้มหัวให้ไวๆแล้วรีบเดินจากไป
“ทาคามิจิหน้าแดงด้วยแหะ ไม่สบายหรือเปล่าน่ะ...”
คาบุรากิที่ยืนอยู่ข้างๆฉันพูดขึ้น แย่แล้วค่ะ ฉันลืมไปเลยว่าตอนนี้อยู่กับหมอนี่ หวังว่าวาคาบะจังคงไม่ได้รู้สึกแย่อยู่หรอกนะคะ...
ลืมไปเลยค่ะว่าจะหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กับคาบุรากิในที่สาธารณะ...
ฉันพยายามตั้งสติ วางแผนว่าจะจัดการเรื่องนี้ทีหลังสักวัน แต่ว่าตอนนี้ฉันต้องสนใจเรื่องไปหาท่านพี่ก่อนล่ะนะคะ
เมื่อเลิกเรียนฉันก็กลับบ้านไปเปลี่ยนเป็นชุดที่ท่านพี่ในโลกก่อนเคยชมว่าน่ารัก ก่อนเตรียมตัวออกจากบ้าน
หวังว่าทุกอย่างจะโอเคนะ...
ป.ล. ขอโทษนะคะที่ตอนนี้อาจจะเขียนเรื่อยเปื่อยเล็กน้อย... กะจะให้ท่านพี่ออกตอนนี้ แต่ดันเขียนเพลินไปหน่อย เริ่มจะเยอะล่ะ เดี๋ยวไม่ได้นอนกันพอดี 55555 ไม่ได้นอนเร็วๆมาหลายวันแล้ว
>>487-488 ผิดไหมที่กูมโนว่าวาคาบะรู้ว่าเรย์กะช่วยเลยหน้าแดง....
เรื่องนี้กูทีมฮาเร็มค่ะ //ขึ้นเรืออย่างสง่างาม
ท่านเรย์กะเท่ชิบหายยย ยกรี้ดดด เรย์กะอ้ปป้า กรี้ดดดดด//โบกป้าย
ท่านเอ็นโจวไม่สบายเกิดอัลไรขึ้นคะเนี่ย คาบุรากินายทำอะไรรึเปล่ายะ มาโลกนี้นายดูนิ่งขึ้น ดูฟังขึ้นนะ 5555
ท่านเรย์กะจะได้เจอท่านพี่แล้ว กรี้ดด วู้ววววววว ปูเสื่อรอพรุ่งนี้
#ทีมฮาเร็ม
เราจะไม่ยอมให้ท่านเรย์กะขึ้นคาน!!
พวกมึงไม่หลับไม่นอนกันหรอ อำนาจกาวซุยรันแม่งน่ากลัว 555
อ่านอีกรอบกูว่าวาคาบะจังเห็นแน่ๆอ่ะฉากเรย์กะอ้ปป้า เปิดอัลติ เพราะปกติวาคาบะมาเช้านี่มึง
เชียร์ฮาเร็ม555 เป็นกี่ฟิคที่ดูมีหวัง(หันไปมองอฟช. ...เฮ้อ) แต่เอ็นโจยังไม่มีใครขึ้นเรือเท่าไหร่เห็นแต่เชียร์คาบุ
หลังงานโรงเรียน นายตัวสำรองก็ดูจะเลิกอคติกับฉันมากขึ้นค่ะ น่าดีใจจังเลย
โอ๊ะ นั่นนายตัวสำรองกับวาคาบะจังนิ ฉันยิ้มให้วาคาบะจัง ส่วนวาคาบะจังก็ยิ้มกว้างคอบกลับมา สดใสจังเลยน้า
"คิโชอิน"
"มีอะไรหรอคะ มิซึซากิคุง"
ฉันหันไปหานายตัวสำรองแบบงงๆ ส่วนวาคาบะจังโบกมือลานายตัวสำรองกับฉันแล้วเดินตรงไปที่ห้องเรียน
"ช่วงนี้ ทาคามิจิน่ะโดนแกล้งสินะ"
เอ๋ๆ หรือว่าตานี่จะสงสัยฉันหรอคะ ฉันไม่ได้เป็นคนทำนะ พวกคุณซึรุฮานะต่างหากค่ะ
"...ไม่ต้องทำหน้าปฏิเสธขนาดนั้นก็ได้ ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำอยู่แล้ว"
นี่นายอ่านใจได้ด้วยหรอเนี่ย ร้ายกาจจริงๆ
"มันเขียนติดอยู่ที่หน้าเธอน่ะ คิโชวอิน"
"แหม"
"ฉันอยากให้เธอช่วยดูกลุ่มซึรุฮานะให้ที ไม่ได้จะรบกวนให้ไปจัดการหรอกนะ แต่ถ้าเห็นว่ากำลังแกล้งทาคามิจิก็ช่วยห้ามทีน่ะ"
"ก็ได้อยู่หรอกนะคะ แต่ส่วนใหญ่กลุ่มคุณซึรุฮานะไม่ได้แกล้งให้เห็นชัดๆขนาดนั้นน่ะสิคะ"
"ใช่ และไม่มีหลักฐานด้วยล่ะนะ"
นายตัวทำรองทำหน้าลำบากใจแล้วถอนหายใจเฮือก ฉันก็เข้าใจน่ะนะ ถึงจะรู้ตัวคนทำแต่ไม่มีหลักฐานมันก็ไม่ได้สินะคะ
"ถ้าอย่างนั้นฉันจะช่วยหาหลักฐานอีกแรงดีไหมคะ"
"แบบนั้นจะรบกวนคิโชวอินเกินไปรึเปล่า"
"แหม ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณทาคามิจิก็เพื่อนคนหนึ่งของฉันนะคะ"
"แล้วพวกซิรุฮานะ"
ฉันยกมือขึ้นปิดปาก ยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยก่อนทำท่าถอนหายใจ
"จริงๆก็อยากเป็นเพื่อนกับพวกคุณซึรุฮานะนะคะ แต่ดูท่าทางนั้นจะไม่คิดอย่างนั้น"
นายตัวสำรองเลิกคิ้วขึ้นแล้วส่ายหน้ากับท่าทางของฉัน แหม อย่าทำท่าแบบนั้นสิคะ
"อ้อ แล้วก็ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ไปพูดกับคาบุรากิให้ทีน่ะ ว่าจะทำอะไรก็อย่าให้ทาคามิจิเดือดร้อนไปด้วย"
นั่นสินะ วาคาบะจังเดือดร้อนก็เพราะความบ้าของจักรพรรดิ์โง่เง่านั้นแท้ๆ แต่จะให้ไปพูดนี่...
"ถ้าไม่อยากไปพูดก็ไม่เป็นไรนะ"
เอ๊ะ อ่านใจได้อีกแล้วหรอ
ฉันมองหน้านายตัวสำรองงงๆ แล้วอยู่ๆนายตัวสำรองก็อมยิ้มแล้วหัวเราะขึ้นๆมาเฉยๆ
"คิโชวอินเนี่ยตลกดีนะ"
เอ๋~
"อ้อ คิโชวอิน ขอเมล์หน่อยสิ"
เมล์หรอ ทำไมล่ะ
นายตัวสำรองทำท่ากลั้นขำก่อนจะแบมือมาตรงหน้าฉัน
"ขอโทรศัพท์หน่อย"
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมางงๆ นายตัวสำรองหยิบไปแล้วกดอะไรอยู่สักพักก่อนยื่นคืน
"อ๊ะ นี่"
"อ่า ขอบคุณค่ะ"
"แล้วจะติดต่อไปนะ"
"คะ?"
นายตัวสำรองอมยิ้มให้ฉันแล้วเดินไปที่ห้องของตัวเอง
ฉันดูโทรศัพท์ในมืองงๆ
มิซึซากิ อาริมะ
xxxxxxxxxxx@kimidolce.com
xxx-xxxxxxxx
เอ๋!?
กูคิดออกแค่นี้5555555555
กุควรจะเสียใจหรือดีใจดีเนี้ยที่มีคนเกลียดเอ็นโจซะงั้น ทุกอย่างมันมีเหตุผลน้าาา!!
คิดอยู่ลงตอนความคิดของเอ็นโจดีไหม แต่เอาไว้ก่อนดีกว่า เกลียดเยอะๆ ก็สนุกดี ก็พี่แกเล่นไม่บอกอะไรให้ชัดเจนนี่หวา แค่การกระทำสาวเจ้างี่เง่าไม่รู้เรื่องหรอก…
สั้นๆ แต่ไม่ค้างนะ วันนี้
**********************************
>>308-311
“คิโชวอิน”
เป็นเสียงของนายตัวสำรองที่นั่งลงยองๆ ตรงหน้าของฉัน น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำฟังดูอบอุ่นเหลือเกินค่ะ ในตอนนี้ อบอุ่นเสียจนฉันถึงกับร้องไห้โฮออกมาระรอกใหญ่
นายตัวสำรองทำสีหน้าลำบากใจทันที ดูเหมือนจะลังเลทำอะไรไม่ถูกแล้ว อยู่ๆ เขาก็ลูบหัวฉันไปพลางพูดปลอบใจไปพลางอย่างเกๆ กังๆ
“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง” ฉันไม่ได้ร้องสักหน่อยค่ะ แค่เจ็บใจจนน้ำตาทะลักเท่านั้น!
สุดท้ายเป็นนายตัวสำรองที่พาฉันมาที่ห้องพยาบาล เขาทำแผลที่ขาให้ฉันที่นั่งนิ่งๆ เป็นหุ่นไม่ขยับไปไหน ทำแผลได้เนี้ยบเหมือนกันนี่
“พอเธอเป็นแบบนี้ ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย” เหมือนนายตัวสำรองจะหาเรื่องคุยขณะที่กำลังชุบสำลีลงในแองกอฮอล์
“...” ฉันมองหน้านายตัวสำรองที่กำลังยิ้มแปลกๆ “...แล้วอย่างไหนถึงจะเป็นฉันกันคะ?” เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าเพราะในห้องมีอยู่กันแค่สองคน ทำให้ได้ยินเสียงฉันชัดเจน เหมือนนายตัวสำรองกำลังจะพูดอะไรออกมา แต่ฉันพูดสวนออกมาก่อน
“ฉะ...ฉันน่ะ ฉันผิดด้วยหรือคะที่หลงรักเขา ผิดด้วยหรือคะที่อยากจะอยู่เคียงข้างเขา ฉันแค่รักเขา ฉัน...ฉันอยากจะเข้าใจเขาเท่านั้นเองค่ะ แต่ว่าทำไมทุกสิ่งทุกอย่างมันถึงได้ผิดเพี้ยนไปหมด! …บ้านล่มละลาย ทุกคนเปลี่ยนท่าทีไปจนแทบไม่เหลือใคร แต่ฉัน...”
“...คิโชวอิน”
“ฉันพยายามที่จะแก้ไขตัวเอง ไม่เอาแต่ใจ ไม่ยุ่งกับใคร ถึงจะเจ็บปวดยังไง ก็ห้ามไม่ให้ไปยุ่งแล้วแท้ๆ แต่ทำไมพวกเขาถึงกับต้องเข้ามายุ่งกับฉันอีกด้วยล่ะคะ ทั้งที่หลีกเลี่ยงแล้ว ทั้งๆ ที่ ไม่เข้าไปยุ่งแล้วแท้ๆ ทำไมถึงมีแต่คนระแวง ทำไมถึงต้องมีคนมาด่าทอฉันด้วย ทำไมกัน?”
“...”
“ก็ใช่สิคะ ฉันมันเลวร้าย ใช้อำนาจกดขี่คนอื่น ไม่มีดีอะไรสักอย่าง ทำอะไรก็แย่ไปหมด คุณเองก็เหมือนกัน กับคนที่คุณรักฉันก็ไปกลั่นแกล้งเขา แม้แต่คุณเองก็ยังระแวงฉันอยู่ใช่ไหมคะ ประธานนักเรียน?” เหมือนกับว่านายตัวสำรองจะชะงักคำเรียกในตอนท้าย แต่ฉันดันเผลอพลั้งปากพูดออกไปด้วยอารมณ์คุกครุ่นไปแล้ว
“ใช่” คำตอบหนักแน่นและมั่นคงของนายตัวสำรองทำให้ฉันเค้นยิ้มเย็นออกมา
“เช่นนั้นแล้ว มาทำดีกับฉันอีกทำไมคะ? ทำไมไม่ปล่อยให้คนอื่นรังเกียจฉัน เพราะหน้าที่ใช่ไหมคะ? ถ้าแค่หน้าที่ แค่สมเพช ถ้าแค่นั้นคุณก็ปล่อยฉันไปเถอะค่ะ!”
“งี่เง่าแล้ว คิโชวอิน” นายตัวสำรองถอนหายใจ แล้วเอาสำลีที่ชุบแองกอฮอลล์แล้วมาแตะหน้า อ๋า เจ็บนะ!
“...”
“ตอนแรกอาจจะเป็นแบบนั้น แต่เธอก็ไม่ได้เลวร้ายเกินที่จะเยียวยาไม่ได้ แค่เอาแต่ใจแบบลูกคุณหนูเท่านั้น…ไม่สิเกินไปหน่อย”
“...”
“ฉันตกใจนะ ตอนที่รู้คุณหนูที่ถูกเลี้ยงมาอย่างไข่ในหินทำงานพิเศษได้ด้วย พอสังเกตก็เห็นว่าเธอเข้าไปช่วยคนอื่น ก็อดคิดว่าดูดีนี่นา แล้วก็มีอีกหลายคนไม่ใช่เหรอ ที่จะอยู่ข้างเธอน่ะ หัดคิดถึงพวกเขาบ้างสิ”
“...ข้างฉัน” ทำไมนายตัวสำรองพูดเป็นผู้ใหญ่แบบนี้ล่ะ ไม่สิ ในอีกโลกนึงก็มักจะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เขามักจะสังเกตคนอื่นเสมอ และก็ช่วยเหลือคนเดือดร้อนอย่างจริงจังเสมอ
“อื้อ หลายคนที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงของเธอไง” นายตัวสำรองพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยเอื่อยเหมือนกับสายน้ำ “มองดูรอบตัวดีๆสิ”
“...ฉัน…?”
“หืม?”
“ฉันยังเป็นฉันที่เป็นฉันตอนนี้ได้ใช่ไหมคะ?”
“อ่า...”
“คุณจะไม่มองฉันเป็นศัตรูใช่ไหมคะ”
“อ่า…” นายตัวสำรองพยักหน้าก่อนพูดอีกประโยคต่อท้าย “ถ้าเธอประพฤติตัวดีนะ”
“แหม” ฉันหัวเราะคิกออกมา เพราะก้มหน้า ทำให้ไม่ได้เห็นว่าสีหน้าของนายตัวสำรองเป็นแบบไหน แต่แค่ตอนนี้ฉันรู้สึกโล่งใจแล้วล่ะค่ะ โชคดีจังเลยที่ได้คุยกับนายตัวสำรอง เพราะในโลกก่อนฉันก็เคยปรึกษาเขาเรื่องของท่านเอ็นโจบ่อยๆ ด้วยล่ะมั้ง ถึงระบายออกมาได้เต็มที่
แต่รอยยิ้มก็หยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงประตูดังลั่น นายตัวสำรองและฉันหันหน้าไปพร้อมกัน
“คุณเรย์กะ!”
“ริรินะ?” ฉันอุทาน ยังไม่ทันที่จะทักทาย ริรินะก็ตรงปรี่เข้ามาจับหน้าของฉันหันซ้ายหันขวา เดี๋ยวๆ ทำไมบ้าระห่ำอย่างงี้ล่ะ!?
“ใครรังแกคุณเรย์กะกันคะ? หมอนี่เหรอ ตาประธานงี่เง่านี่เป็นคนทำให้คุณเรย์กะร้องไห้ใช่ไหม ห้ะ?”
“เดี๋ยวก่อนริรินะ!”
“จะห้ามทำไมล่ะ! หน้าคุณเรย์กะแดงไปหมดแล้วนะ!”
“ใจเย็นๆ ก่อนริรินะ มิซึซากิคุงเป็นคนฉันไว้น่ะ”
“อ๋อ เหรอ” ริรินะ หัวเราะหึใส่นายตัวสำรอง “งั้นก็ขอบคุณที่ช่วยคุณเรย์กะไว้ค่ะ!” แล้วเปลี่ยนท่าทีเป็นนอบน้อมแทน ไม่รู้นายตัวสำรองจะยิ้มทำไม มีอะไรน่าขันกันคะ คนกำลังว่าตัวเองอยู่มันเป็นเรื่องสนุกดีเหรอ?
“งั้นฉันไปก่อนนะ คิโชวอิน ให้ลูกพี่ลูกน้องเธอทำแผลให้แทนแล้วกัน”
“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ มิซึซากิคุง”
หลังจากที่นายตัวสำรองออกจากห้องไป ริรินะ ก็จ้องฉันเขม็ง นัยน์ตาปริมๆ จะร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นคะ โหงเป็นงี้อ่ะ
“ทำไมตาประธานนั่นถึงมาช่วยได้ล่ะ ก็ตั้งแง่กับคุณเรย์กะมาตลอดไม่ใช่เรอะ แต่ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเถอะค่ะ”
“อะ...อื้อ” ฉันพยักหน้า
“ไหนคุณเรย์กะบอกว่าเรื่องจะจบด้วยดียังไงล่ะ! ทำไมกลายเป็นเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะ!”
“...”
“เชื่อคำพูดของฉันได้เสียทีสินะ คุณเรย์กะ ว่าวิธีที่คุณกำลังทำอยู่มันไม่เหมาะสมเลยสักนิด วางตัวให้เค้ากลั่นแกล้งอยู่ได้ งี่เง่าชะมัดค่ะ”
ฉันขมวดคิ้วมองริรินะที่ว่าง่ายขึ้น แถมยังพูดจาดีกว่าในโลกของฉันเยอะ ดูติดจะขี้อ้อนด้วยซ้ำ ถึงจะพูดจาดูเอาแต่ใจ แต่ก็ดูห่วงใยชัดเจน
แล้วเชื่อ? เชื่ออะไรกันคะ? เรย์กะไปสัญญาอะไรไว้กับริรินะด้วยเหรอ
“ถึงครั้งก่อนจะห้ามไม่ให้ยุ่ง ครั้งนี้ยังไงฉันก็คงต้องเข้าไปยุ่งแล้วล่ะค่ะ ร้ายก็ร้ายสิ มารังแกกันก่อนทำไมเล่า!”
“อ...อ้อ…” ถึงริรินะจะเป็นริรินะ แต่ทำไมดูโผ่งผางนักล่ะ ร้ายเลยเหรอ “อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่นักเลย” ฉันปรามๆ ถึงก่อนหน้านี้จะเผลอคิดเอาไว้แล้ว ว่าจะกลับไปทำตัวเป็นเรย์กะคิมิดอล แต่ถ้าเกิดมีริรินะเข้ามาพ่วงด้วย ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดหายนะขนาดไหน
“อย่ามาทำตัวงี่เง่าสิคะ คุณเรย์กะ! ครั้งนี้ฉันจะใช้อำนาจของฉันช่วยคุณเรย์กะเอง! รับรองว่าไม่มีใครกล้ามายุ่มย่ามแน่นอน!”
อา… จริงอย่างที่นายตัวสำรองบอกจริงๆ เสียด้วย ฉันยิ้มออกมาอย่างดีใจ จ้องมองริรินะต่อ
“อย่ามาทำเป็นยิ้มนะ คุณเรย์กะ!”
“ขอบคุณนะ ริรินะ” ว่าพร้อมกับยกมือลูบหัวริรินะไปพลาง แต่ก็โดนปัดมือทิ้ง ซึนเดเระจังเลยน้าา
จากนั้นก็ได้คุยเรื่องต่างๆ กับริรินะสักพักนึง ทำให้ฉันเข้าใจว่าเรย์กะคิมิดอลนั้นถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจยังไง เรื่องที่เธอโดนโยนความผิดให้ทั้งหมดนั้นเธอไม่เคยเอาไปลงกับใคร และกันไม่ให้ใครเข้ามายุ่มย่ามทั้งนั้น กันแม้แต่ริรินะที่ตอนแรกก็เข้ามาไถ่ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ด้วยคำพูดที่ทำเอาริรินะสติขาดผึงบอกตัดขาดเรย์กะทันที
บางทีถ้าเรย์กะคิมิดอลยังอยู่ล่ะก็ ฉันก็อยากให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอทำอยู่มันได้ผลตรงกันข้ามกันเลย ทั้งที่มีคนห่วงแต่เธอกลับมองข้ามพวกเขาไปหมด สุดท้ายก็จมอยู่กับความผิดที่ไม่ได้ก่อเพียงคนเดียว ถ้าอย่างน้อยตอนนั้นเธอตอบรับมือที่ยื่นเข้ามาล่ะก็… ฉันคิดว่าผลลัพท์คงต่างไปจากนี้อย่างแน่นอน
เย็นวันนั้นริรินะกับเพื่อนๆ ของเธอตามไปที่คาเฟ่ด้วย พร้อมกับฝากตัวว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันในที่ทำงาน ทำเอาทุกคนถึงกับปั่นป่วนไปหมด
รู้สึกเหมือนคิดผิดยังไงก็ไม่รู้
สรุปมาช่วยหรือมาป่วนกันแน่ยะ!
---------------------------------------------------
>>506 กูยังเข้าข้างเอ็นโจอยู่นะเว้ย 555555555555555555555 กูเชื่อว่ามันต้องมีสิ่งพลิกสถานการณ์
ริรินะมาแย้ววววววววววว เป็นน้องสาวซึนเดเระ แต่ก็พร้อมปะฉะดะศัตรูของเรย์กะแบบไม่กลัวเกรงไม่เปลี่ยนเลยน้าาาาาาาา น่าย๊ากกกกก //กอดๆริรินะ
นายตัวสำรองนี่ดูดีจังเลยค่ะ ดูพระรองมากๆ 5555555555555555555 เป็นคนดีเกินไปมักได้เป็นพระรองนะคะ เรย์กะพลิกสถานการณ์แม่งเลยค่ะ คว้านายตัวสำรองมาทำนายสนมในฮาเร็มแบบสวยๆเลย ไม่ต้องง้ออีตาหัวสีน้ำผึ้งนั่นหรอก ถ้าอีตาหัวสีน้ำผึ้งจะเข้าฮาเร็มให้ไปเป็นคนรับใช้ปลายแถวก่อน ปรนนิบัติถูกใจค่อยให้เลื่อนขั้นก็แล้วกัน
>>506 กูเชียร์นายตัวสำรอง!
ไม่สิ กูต้องเรียกอย่างให้เกียรติเขาหน่อย... กูเชียร์มิซึซากิคุงค่ะ!
ถึงจะบอกว่าท่านเอ็นโจมีเหตุผลก็เถอะ แต่ ณ จุดๆ นี้ กูรู้สึกว่าประธานนักเรียนหล่อมากค่ะ อรั้ย \(//∇//)\
ตอน 'โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง' กูโดขิมาก เฮื่ออ ทำไมต้องหล่อกันขนาดนี้คะ ฮว้าก *ม้วน* อฟช.ควรมีแบบนี้บ้าง กูไม่เกี่ยงหรอกนะว่าใครจะเป็นคนพูดอ่ะ ฮือ5555555
ตัใสำรองของวาคาบะ แต่ตัวจริงของท่านเรย์กะสินะ//ซดกาว
ต่อเรือเพิ่มเลยตู.....
เรือเอ็นโจดูร่อแร่อยู่หลายวัน เลยเอากำลังเสริมมาช่วย(มั้งนะ)
เมื่อฉันกับเขา xxx >>>/webnovel/3507/118-121
--------------------------------
ก่อนหน้านี้ ฉันทำตัวเป็นคนดีมีมารยาทไม่รื้อค้นข้าวของคนอื่นโดยเคารพความเป็นส่วนตัว แต่เมื่อเอ็นโจมารุกล้ำพื้นที่ฉันโดยพละการเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องมีความเกรงใจกันอีกต่อไป จะค้นให้ทั่วเลยล่ะค่า
ทีแรกฉันก็เปิดโทรศัพท์มือถือของเอ็นโจขึ้นมา ลองเข้าทุกโฟลเดอร์ทุกแอพที่สามารถเข้าถึง เพื่อจะดูความลับของหมอนี่บ้าง มีนิยายแต่งเองบ้างมั้ย ละเมอเพ้อพกอะไรในไดอารี่รึเปล่า
แต่นอกจากเรื่องงาน ตารางนัดหมาย ก็แทบไม่มีอะไรเลย เกมมือถือก็เกมทั่วๆไปที่กำลังนิยมเล่นฆ่าเวลา เมล์ส่วนใหญ่ก็คุยกับท่านไอระ คาบุรากิ ท่านยูริเอะ แล้วก็….คุณยุยโกะ
ฉันวางมือถือกลับคืนที่ ไม่ได้กดเข้าไปดูว่าคุยอะไรกัน รู้สึกหดหู่ขึ้นมาเมื่อเห็นชื่อนั้นปรากฎขึ้นบนหน้าจอ
ลองไปดูตามชั้นวาง หยิบอัลบั้มรูปถ่ายออกมา ไม่ว่าใครก็คงจะมีภาพถ่ายตอนเผลอหรือทำหน้าเหวอ ตลกๆอยู่แน่ ถ้าหาเจอล่ะก็ เอามาใช้แบล็คเมล์ซะเลยดีกว่า หนุ่มหล่อมาดเนี้ยบอย่างนายคงไม่อยากให้ภาพเหวอๆเผยแพร่ไปทั่วจนเสียความนิยมหรอกใช่มั้ยล่ะ
ในอัลบั้มมีรูปถ่ายของเอ็นโจตั้งแต่วัยทารกจนถึงปัจจุบัน หลายรูปน่ารักจนอดยิ้มตามไม่ได้ ทารกที่หลับปุ๋ยในชุดหมีสีน้ำตาลแก้มยุ้ยจนอยากลองดึงดูเลยล่ะค่ะ คงจะนุ่มมากแน่ๆ
ตอนนี้ฉันดูภาพเอ็นโจตอนอายุสี่ขวบพอดี เริ่มมีคนอื่นนอกจากพ่อกับแม่ปรากฎในภาพบ้างแล้ว อย่างคาบุรากิ ท่านไอระ ท่านยูริเอะ ที่กำลังเล่นกองทรายด้วยกัน หรือนั่งทานไอศกรีมตามประสาเด็กๆ
ในรูปท่านยูริเอะป้อนขนมให้คาบุรากิที่อ้าปากกว้างรอ ท่านไอระใส่หมวกปาร์ตี้ด้วย ส่วนเอ็นโจก็กำลังทานเค้ก ตากลมโตมองกล้องแบบไร้เดียงสาดูคล้ายๆกับยูกิโนะคุง
เอ็นโจตอนเด็กนี่น่ารักชะมัดเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะโตมาเป็นคนแบบนี้ได้ พระเจ้าคะ โปรดหยุดเวลาของหมอนั่นเอาไว้ที่สี่ขวบตลอดไปไม่ได้เหรอคะ
หกขวบ มีภาพถ่ายของเอ็นโจในเครื่องแบบซุยรันและแบบไปรเวทให้เต็มไปหมด คาบุรากิ ท่านไอระ ท่านยูริเอะโผล่มาแจมในรูปด้วยเป็นครั้งเป็นคราว แล้วก็มีรูปถ่ายตอนงานเลี้ยงช่วงหน้าร้อนของ Pivoine เป็นครั้งแรก
คาบุรากิในชุดสูทขาสั้นทำหน้าบึ้ง ข้างๆเป็นเอ็นโจที่หันหน้ามองไปทางอื่นไม่ได้มองกล้อง ฉันได้แต่สงสัยว่าในรูปหมอนี่หันมองอะไรอยู่นะ
ด้านล่างเป็นรูปต่อมาจากรูปที่แล้วคือเอ็นโจเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังถูกถ่ายรูปอยู่ ก็หันมายิ้มน้อยๆให้ แหม ถ่ายตอนเผลอก็ยังดูดีเลยงั้นเหรอคะ น่าหมั่นไส้จัง ฉันอยากเห็นรูปตอนนายตาเบลอๆหรือทำหน้าแปลกๆเพราะถูกถ่ายทีเผลอมากกว่าอะ
แต่อัลบั้มรูปของฉันก็ถูกคัดแต่ภาพน่ารักๆไปใส่เหมือนกันนี่คะ คงว่ากันไม่ได้หรอกมั้ง
มีรูปฉันติดมาด้วยล่ะค่ะ
เหมือนเป็นรูปถ่ายบรรยากาศงานทั่วๆไป แต่เป็นตอนที่ฉันกำลังเต้นรำอยู่กับท่านพี่พอดี ใครถ่ายกันคะเนี่ย ท่านไอระงั้นเหรอ
ฉันพลิกหน้าต่อๆไป ก็เป็นภาพตอนงานกีฬาบ้าง งานนิทรรศการบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปเอ็นโจกับคาบุรากิแล้วก็เพื่อนๆในห้องนั่นล่ะค่ะ มีแต่รูปที่ดูดีกันทั้งนั้นเลยน้า
แต่ผมม้วนๆที่อยู่ข้างหลังนั่น อ๊ะ ฉันนี่คะ ถูกถ่ายติดไว้ด้วยเหรอเนี่ย ไม่เห็นรู้ตัวเลย
ฉันพลิกมาถึงหน้าไปทัศนศึกษาพอดี อ๊ะ รูปนี้ในเรียวกังนี่คะ แหม คิดถึงตอนนั้นจัง ฉันถูกขอร้องให้ไปตักเตือนเหล่าสาวน้อยที่กำลังวุ่นวายรบกวนห้องอื่น ดีจังที่คำพูดของฉันพอจะได้ผลบ้าง
แต่รูปในหน้าถัดไปทำให้ฉันที่กำลังยิ้มๆอยู่ต้องตาเหลือกค้าง เผลอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะดูให้ชัดๆ
นี่มันฉันตอนที่ถูกกวางเตะนี่ค้าาาา!!!!!
แม้จะไม่ได้อยู่ต่อหน้ากระจก แต่ก็มั่นใจว่าฉันในรูปถ่ายกำลังทำหน้าแบบเดียวกับฉันตอนนี้เลยค่ะ
อะไรกันคะ!! แล้วทำไมรูปนี้ถึงอยู่เดี่ยวๆแยกมาไม่ปะปนกับรูปอื่นล่ะค้า อ๊ะ!! ไม่สิ ทำไมเอ็นโจมีรูปนี้ได้ล่ะ หรือว่าจะเป็นคาบุรากิส่งมาให้กันนะ
แล้วหน้าเหวอๆของฉันก็ติดอยู่ในอัลบั้มนี้มาเป็นปีเป็นชาติโดยที่ฉันไม่รู้ตัวงั้นเหรอคะ มันจะเกินไปแล้วน้า เอ็นโจ!!!!
ฉันหยิบข้าวปั้นออกมาแกะเป็นห่อที่สี่ของคืนนี้ ส่งเข้าปากตัวเอง เคี้ยวหยับๆด้วยความโกรธแค้น พอหมดแล้วก็แกะขนมออกมากินจนแทบจะเกลี้ยงถุง ระหว่างทานฉันก็สาปแช่งเอ็นโจไปด้วย จงอ้วนอืดพุงย้อยเป็นทานุกิไปซะ
ไม่ยกโทษให้แน่นอนค่ะ อุกี้!!!!
วันรุ่งขึ้น ฉันไปโรงเรียนด้วยความเคืองขุ่น กะจะต่อว่าเอ็นโจสักหน่อยเรื่องรูปถ่าย แต่พอเหยียบพื้นโรงเรียนปุ๊บ นักเรียนหญิงที่วนเวียนอยู่แถวๆนี้ก็เข้ามารุมล้อมทันที
“ท่านเอ็นโจคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ”
“ท่านเอ็นโจคะ ให้ฉันประคองไปที่ห้องเรียนเถอะค่ะ”
“ท่านเอ็นโจคะ”
ฉันบาดเจ็บอยู่นะ ช่วยถอยออกไปได้จะได้รึเปล่า อย่ามารุมล้อมกันแบบนี้ จะขาดอากาศหายใจแล้ว
แต่เสียงที่เซ็งแซ่อยู่เมื่อครู่นี้ก็เงียบโดยพลันเพราะคิโชวอิน เรย์กะได้ปรากฎกายขึ้น ความเงียบทำให้ได้ยินเสียงฝีเท้าได้แจ่มชัด แทบไม่มีใครขยับตัวเลยสักคน
อ๊ะ มาช่วยฉันสินะ ฉันร้องเรียกอย่างดีอกดีใจ
“คุณคิโชวอิน”
เอ็นโจในร่างฉันทำเพียงแค่ปรายตามองมาทางนี้ แล้วก็เดินจากไป เมินสายตาขอความช่วยเหลือจากฉันโดยสิ้นเชิง
พอคล้อยหลังเอ็นโจ เหล่านักเรียนหญิงก็เริ่มส่งเสียงขึ้นมาอีก คราวนี้ดูจะดังกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่ละคนสีหน้ามุ่งมั่น ทอแววฆ่าฟันจนฉันขวัญผวา
“ท่านเอ็นโจคะ เรื่องราวกับท่านเรย์กะเป็นมายังไงกันแน่คะ”
“ท่านเอ็นโจคะ เมื่อวานนี้หมายความว่ายังไงคะ”
โอ๊ย!! พอซักทีเถอะค่ะ!!!
ฉันเดินมาถึงห้องเรียนอย่างยากลำบาก หน้าฉันก็ยังยิ้มอยู่ แต่ในใจแทบจะพ่นไฟออกมาได้อยู่แล้ว
เมื่อกี้นี้มันอะไรกันน่ะ หา!! นายสบตาฉันแล้วชัดๆ แต่ทำเป็นเมินกันงั้นเรอะ!!! ถ้าไม่ติดว่าฉันอยู่ในร่างนี้ ฉันก็จะเมินนายตลอดปีตลอดชาติเหมือนกันนั่นล่ะย่ะ
วันนั้นทั้งวัน พอฉันเดินผ่านเอ็นโจทีไร อีกฝ่ายก็จะมองผ่านฉันไปเหมือนเป็นธาตุอากาศเสียอย่างนั้นค่ะ
ความโกรธของฉันพุ่งสูงถึงขีดสุดจนอยากจะคว้าพัดแล้วเข้าไปตีสั่งสอนให้รู้แล้วรู้รอด แต่อยู่ในร่างเอ็นโจฉันจะทำอย่างนั้นก็ไม่ได้ ลงท้ายฉันก็ตัดสินใจที่จะเมินใส่บ้าง
ไม่ง้อหรอกย่ะ ถึงแม้นั่นจะเป็นร่างกายของฉันเองก็เถอะ
ฉันมีอะไรที่ต้องทำเต็มไปหมด ไม่ว่างที่จะมาสนใจคนงี่เง่าแบบนี้หรอกนะคะ
ตกเย็น ถึงฉันจะไม่มีซ้อมกีฬาเพราะเจ็บขาอยู่ก็จริง แต่คาบุรากิก็มาลากไปดูการฝึกม้าที่บ้าน ฉันกินขนม นั่งดูพวกม้าที่เริ่มจะเข้าขากันได้ดี รู้สึกว่าพวกนั้นจะล่ำขึ้นมานิดหน่อยแฮะ สงสัยการฝึกหนักจะได้ผล
คาบุรากิไม่ใช่แค่ฝึกหนัก แต่ก็ทนุบำรุงขวัญและกำลังใจของเหล่าม้าเป็นอย่างดี ไม่แปลกเลยที่จะมีคนมาสวามิภักดิ์ต่อคาบุรากิมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่คิดว่าเป็นแค่เจ้าบ้าแท้ๆ แต่ก็มีมุมเท่ๆเหมือนกันนี่นา
จบการฝึกประจำวัน เหล่าม้าร้องโอ้ววว เสียงดังลั่น ปฏิญาณตัวว่าจะขอสู้ตายในศึกครั้งนี้ไม่ยอมถอย นำชัยชนะมามอบแด่จักรพรรดิให้จงได้
แหม คึกคักกันจังเลยค่ะ แล้วฝั่งนายตัวสำรองจะฝึกหนักขนาดนี้รึเปล่านะ
-------------------
ฉันที่ตั้งใจว่าจะเมินเอ็นโจ ทำได้แค่สองวันก็ได้ยินข่าวที่น่าตื่นตระหนกมากเรื่องหนึ่ง
คิโชวอิน เรย์กะ ถูกผู้ชายมาสารภาพรักล่ะค่ะ!!
ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทางยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง ทุกหนทุกแห่งคุยกันถึงเรื่องนี้ ทึ่งในวีรกรรมความกล้าหาญแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน กลบข่าวที่เอ็นโจประคองหน้าฉันในการซ้อมวิ่งเสียจนมิด
ฝ่ายชายเป็นนักเรียนชั้นม.4 ที่เพิ่งเข้าในปีนี้ ดูเหมือนจะแอบชอบฉันอยู่ เมื่อได้ลูกยุจากสมาชิกชมรมบาสเก็ตบอลหนักๆเข้าก็เกิดความฮึกเหิม ตรงดิ่งมาสารภาพรักทันที โดยมีเหล่ารุ่นพี่เป็นแบ็คอัพคอยมองให้กำลังใจอยู่ห่างๆ
รู้สึกว่าเรย์กะจะยังไม่ได้ให้คำตอบอะไร แต่ฉันก็ร้อนใจจนนั่งไม่แทบติด
ฉันไปแอบมองหนุ่มผู้กล้าที่ว่า ถึงความหล่อจะสู้เจ้าสองคนนั้นไม่ได้ แต่ก็เป็นคนเท่และสูง ดูคล้ายๆรุ่นพี่โทโมเอะ แข็งแรงร่าเริงสดใสตรงไปตรงมาตามสไตล์หนุ่มเลือดร้อนชมรมกีฬา ดูท่าจะได้รับความนิยมจากสาวๆพอสมควร
มีคนแบบนี้มาสารภาพรักมันก็น่ายินดีอยู่นะคะ แต่ว่าคนที่อยู่ในร่างของฉันน่ะมันคือเอ็นโจน่ะสิ
เกิดหมอนั่นเอาร่างฉันไปตอบรับมั่วซั่วขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะ นายยิ่งเป็นหญิงได้แนบเนียนอยู่ ไม่ใช่ว่าติดใจการเป็นผู้หญิงแล้วคิดจะใช้โอกาสนี้หาแฟนผู้ชายซักคนมาคบดูหรอกนะ
ม่ายยยย นายจะไปคบกับใครก็ไป แต่ต้องไม่ใช่ร่างของฉันเป็นอันขาด
คิดจะหาจังหวะไปพูดกับเอ็นโจเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที พวกนักเรียนหญิงเกาะติดฉันแน่นหนึบยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ปลีกตัวไปเดี่ยวๆยากมาก และฉันก็เห็นว่ามีสายตามองไปที่เอ็นโจในร่างฉันแบบไม่เป็นมิตรด้วย
ให้มันน้อยๆหน่อยพวกเธอ นั่นมันร่างของฉันนะ
ฉันหนีไปที่ห้องสโมสรอันเป็นสถานที่เดียวที่ฉันจะสามารถอยู่ได้อย่างสงบสุขในโรงเรียนแห่งนี้แล้ว ข้างนอกวุ่นวายชะมัด อยากกลับร่างเดิมจังเลย
เรื่องที่ฉันถูกสารภาพรักก็เป็นประเด็นร้อนในสโมสรด้วยเช่นกัน ฉันจิบชา เงี่ยหูฟังว่าใครจะนินทาฉันบ้าง แล้วก็ได้ข้อมูลเพิ่มมามากมายเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้น ประวัติดีเลิศเลอเสียจนถ้าเข้าเรียนตั้งแต่ประถมล่ะก็ คงได้เป็นหนึ่งใน Piovine เป็นแน่แท้
อุ๊ยตาย ขนาดนั้นเลยเหรอคะ
พอได้ยินแบบนี้ ทุกคนก็เลยค่อนข้างจะปล่อยผ่าน ทำเป็นมองไม่เห็นว่ามีนักเรียนธรรมดาที่อาจหาญปีนขึ้นมาเด็ดดอกฟ้า แต่ระหว่างพูดก็มองฉันและคาบุรากิที่ตกเป็นข่าวรักๆใคร่ๆกับเรย์กะไปด้วย ทำเหมือนเกรงใจกันมาก
แหม จะนินทาก็นินทามาเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก
คิโชวอิน เรย์กะที่เป็นประเด็นอยู่ก็ไม่เข้ามาที่สโมสร ฉันเองก็ถูกลากไปดูการฝึกซ้อมม้าของคาบุรากิบ้าง ซ้อมปาบอลบ้าง มีเรียนพิเศษบ้าง ยุ่งทุกวันแทบไม่ได้พบหน้าเอ็นโจ เวลาล่วงเลยมาก็จะถึงงานกีฬาสีแล้ว
ตอนนี้ข่าวลือเริ่มลุกลามเมื่อเจ้าหนุ่มใจกล้านั่นสัญญาว่าจะคว้าชัยชนะในการแข่งขี่ม้าส่งเมืองมาให้จงได้ และจะรอฟังคำตอบในตอนนั้นเลย ฉันยิ่งเครียดหนักขึ้นไปอีก นานขนาดนี้แล้วยังไม่ปฏิเสธ อย่าคิดจะทำบ้าๆในร่างฉันเป็นอันขาดนะ
วันก่อนที่จะถึงวันงานกีฬา ฉันเดินสวนกับเอ็นโจที่ระเบียงทางเดินพอดี แม้จะมีนักเรียนหญิงมากมายรายล้อมอยู่ แต่ฉันไม่สนใจแล้ว
“คุณคิโชวอิน”
เอ็นโจเดินไปไม่หันมามองฉัน เสียงจอแจขนาดนี้ หรือจะไม่ได้ยินกันนะ ลองเรียกอีกทีก็ได้
“คุณคิโชวอิน”
ร่างนั้นก็ยังเดินดุ่มๆไม่เหลียวหลังกลับมา เอ๊ะ!! มันอะไรกันคะเนี่ย โมโหแล้วน้าา
ฉันเดินฝ่าวงล้อมสาวๆพวกนี้ออกไป คว้าแขนเอาไว้ ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงมากเพราะยังไงก็ร่างของฉัน
เอ็นโจเหลียวกลับมา เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ แล้วก็ยิ้มให้ แต่ดูเป็นรอยยิ้มที่ฝืดเฝื่อนชอบกล
“มีอะไรรึคะ”
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิครับ”
ฉันไม่รอให้ใครพูดอะไรขัดขึ้นมา ลากแขนร่างฉันเองเดินลิ่วๆไปยังมุมสงบๆในโรงเรียน ข้างหลังคงจะมีเสียงกรีดร้องหรือเสียงซุบซิบอะไรแต่ฉันไม่สนใจทั้งนั้น
“ท่านเอ็นโจคะ เรื่องสารภาพรักนั่น มันเป็นมายังไงกันแน่” หามุมสงบๆได้ฉันก็เปิดประเด็นทันทีไม่มีอ้อมค้อม “แล้วคุณทำบ้าอะไรของคุณคะเนี่ย หลบหน้าฉันทำไมกันน่ะ หา”
เอ็นโจยิ้มน้อยๆ “สนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ”
“ก็ต้องสนอยู่แล้วสิคะ นี่มันร่างของฉันนะ”
“เป็นห่วงว่าผมจะเอาร่างคุณไปใช้มั่วซั่วแบบนั้นสินะครับ”
“ก็ประมาณนั้นนั่นล่ะค่ะ”
“งั้นเหรอครับ” เอ็นโจแค่นยิ้มใส่ฉัน
อะไรกันคะ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงดูเย็นชาขึ้นมาได้ล่ะ
“เอ ว่าไปผมก็ชักติดใจที่จะอยู่ในร่างนี้ซะแล้วสิ ถ้าได้คบกับผู้ชายซักคนก็คงถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เลวนะครับ”
“ท่านเอ็นโจ” ฉันถลึงตามอง เอ็นโจนี่ยังไงกันนะ เอาแต่ตีรวนฉันอยู่ได้ “ล้อเล่นแบบนี้ไม่ตลกนะคะ”
“แล้วใครว่าผมล้อเล่นล่ะครับ” เอ็นโจแค่นยิ้ม “ผู้ชายคนนั้นก็ดูคล้ายๆกับประธานนักเรียนโทโมเอะด้วยนี่นา ถ้าเป็นคุณคิโชวอินคงจะตอบตกลงไปแล้ว แค่เขาอายุน้อยกว่าก็คงจะไม่มีปัญหา อย่างคนชื่ออุเมะวากะอะไรนั่นก็ด้วย คุณคิโชวอินก็ยัง….”
ทนไม่ไหวแล้วน้า!!!
ความโกรธที่กักเก็บไว้มาเป็นสัปดาห์เหมือนจะระเบิดออก ฉันยันร่างของตัวเองไปติดผนัง ก้มตัวลงไปใกล้ๆ ใช้มือหนึ่งยันกำแพงไว้เป็นหลัก อีกมือก็บีบคางนั้นเพื่อให้หยุดพูดสักที
“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้วค่ะ”
เอ็นโจดูจะตกใจมากที่ฉันทำแบบนี้ แต่ฉันไม่ใส่ใจ
“อย่ามาคิดแทนฉันจะได้รึเปล่าคะ ว่าฉันจะคบหรือไม่คบกับใคร และบอกไว้เลยว่ารุ่นพี่โทโมเอะน่ะเป็นอดีตไปแล้วค่ะ ไม่ได้อาลัยอาวรณ์อะไรเลยด้วย”
เอ็นโจกระพริบตาปริบๆเหมือนกำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ฉันพูด
“เลิกคิดได้แล้วว่าฉันจะเลือกผู้ชายคนนั้นเพราะเหมือนรุ่นพี่น่ะ”
“เจ็บ”
เอ็นโจทำหน้าเหยเก ฉันเลยสะดุ้ง รีบปล่อยมือออกทันควัน เท่านั้นยังไม่พอ ฉันเพิ่งรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในท่าแบบไหน
นี่มันท่าคาเบะด้งในตำนานของการ์ตูนโชโจนี่ค้า!!!
แล้วฉันใช้ร่างเอ็นโจมาทำคาเบะด้งใส่เอ็นโจที่อยู่ในร่างฉันเองเนี่ยนะ นี่มันจะพิลึกพิลั่นเกินไปแล้ว!!
“ขอโทษค่ะ” ฉันถอยกรูดออกไปสามสี่ก้าวพอให้มีพื้นที่ยืน
เห็นรอยแดงจางๆบนหน้าที่เกิดจากฝีมือฉันก็พลันรู้สึกผิดขึ้นมา ฉันว่าฉันก็ไม่ได้ใส่แรงอะไรมากมายเลยนะ
หวา ผิวฉันบอบบางขนาดนี้เลยงั้นเหรอ โดนนิดๆหน่อยๆก็เป็นรอยแดงแล้ว ทั้งๆที่ฉันน่ะรู้สึกว่าตัวเองถึกทนแท้ๆ
“ผมเองก็ต้องขอโทษด้วยเหมือนกัน” เอ็นโจยิ้มฝืดๆให้ฉัน “ที่พูดจาไม่ดีออกไป”
“ฉันเข้าใจค่ะว่าท่านเอ็นโจก็กดดันเหมือนกันที่ต้องมาอยู่ในร่างนี้” ฉันถอนหายใจ ใช้ปลายนิ้วแตะรอยแดงนั่น “จนกว่าจะหาทางกลับร่างได้ก็ช่วยอดทนไว้สักหน่อยนะคะ ฉันเองก็จะพยายามเหมือนกัน”
“ผมไม่ได้กดดัน...ก็แค่...เอ่อ ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”
“พูดแบบนี้มีชัดๆเลยค่ะ” ฉันถลึงตาจ้อง “แล้วเมื่อกี้นี้พูดถึงอุเมะวากะคุงด้วยไม่ใช่เหรอคะ นี่มันหมายความว่ายังไงคะ”
“เมื่อคืน หลังจากแยกกับคุณคิโชวอินที่บ้านของผม เขาก็ส่งเมล์มา” เอ็นโจพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่น้ำเสียงนั้นเย็นเยือก “อุเมะวากะนี่ใครเหรอ”
สายตาของเอ็นโจที่มองมาทำให้ต้องสะดุ้งเฮือก สถานการณ์แบบนี้มันอะไรกันคะ!! ทำไมมันเหมือนแฟนสาวที่จับได้ว่าแฟนหนุ่มกำลังนอกใจเลยมาสอบสวนเอาความจริงไปได้ล่ะ
“อุเมะวากะคุงเป็นเพื่อนที่โรงเรียนกวดวิชาค่ะ” ฉันรีบตอบ “เราก็แค่ส่งเมล์คุยกันด้วยเรื่องเบียทริช สุนัขของอุเมะวากะคุงก็เท่านั้นเอง”
“งั้นเหรอ แต่ว่าเขาอยากเจอเรย์กะทันด้วยนี่นา”
นี่อ่านเมล์ฉันหมดทุกฉบับแล้วใช่มั้ย!!! เอ็นโจ!!!!! ฉันยังไม่ละลาบละล้วงถึงขนาดนั้นเลยน้า!!!!!
“ปีที่แล้วก็ให้ตุ๊กตานีดเดิลเฟลท์ด้วยสินะ” เอ็นโจยังคงยิ้ม “เป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทกันดีจังเลยเนอะ”
เอ๊ะ!! ฉันควรจะโมโหที่นายมาแอบอ่านเมล์ของฉันไม่ใช่เหรอ แล้วท่าทางแบบนั้นของนายนี่มันอะไร ทำไมอยู่ๆฉันถึงกลายเป็นคนผิดขึ้นมาได้ล่ะคะ
“อุเมะวากะคุงคนนี้ก็ส่งเมล์มาถามว่าอยากมาเที่ยวงานโรงเรียนอีกครั้งน่ะ” ฉันรู้สึกถึงเหงื่อที่ซึมผ่านเสื้อเชิ้ต บรรยากาศกดดันแบบนี้มันอะไรกันคะ “ผมมัวแต่คิดว่าจะตอบอะไรกลับไปดี ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาให้คุณคิโชวอินเท่าไหร่ ขอโทษด้วยนะ”
หา! มัวแต่คิดว่าจะตอบอะไรกลับไปดีเนี่ยนะ!! ข้ออ้างแบบนี้บอกเด็กอนุบาลเขายังไม่เชื่อเลยย่ะ!!!
“ปฏิเสธไปเถอะค่ะ ตอนนี้ฉันกับท่านเอ็นโจก็ไม่สะดวกรับแขกกันเท่าไหร่”
“เอ แต่ผมเพิ่งจะส่งเมล์ไปบอกว่าเชิญมาได้เมื่อเช้านี้เอง” เอ็นโจหัวเราะ “ถ้าบอกปฏิเสธไป อุเมะวากะคุงที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยงานโรงเรียนซุยรันคงผิดหวังแย่ เราไม่ควรจะทำลายความหวังใครเขานะ”
คำพูดฟังดูดี แต่ทำไมฉันมีความรู้สึกว่านายกำลังตั้งใจจะทำอะไรชั่วๆอยู่เต็มที่เลยล่ะคะ
“ท่านเอ็นโจคะ แล้วเรื่องคนที่มาสารภาพรัก”
“คุณคิโชวอินไม่ตกลง ผมก็ไม่ตกลงครับ” รอยยิ้มแบบนั้นมันอะไรกันคะ เรย์กะไม่มีวันยิ้มแบบนี้หรอกน้า!!!! “อย่าห่วงไปเลย”
นั่นล่ะค่ะ ที่ฉันเป็นห่วง
“เลิกสนใจเรื่องไร้สาระแล้วมองตรงหน้าดีกว่า” เอ็นโจยิ้มน้อยๆให้ฉัน “พรุ่งนี้คุณคิโชวอินก็ลงแข่งปาบอลด้วยสินะครับ มาพยายามให้เต็มที่กันเถอะ”
จริงด้วยสิ พรุ่งนี้ก็งานกีฬาแล้วนี่นา
ฉันพยักหน้าให้ เอ็นโจก็เดินจากไปด้วยรอยยิ้ม
แต่เอ๊ะ เหมือนฉันจะลืมเรื่องอะไรไปนะ
------------
นั่นสิ ลืมอะไรนะ ลืมว่าจะมีตอนต่อไปเมื่อไหร่กันหนออออออ
กาวมาเพียบเลย ซู๊ดดดดดดดดดด
//รักโม่งกาวที่สุดเลยย
โอ้ย หมั่นไส้เอ็นโจในฟิคมากกกกกกกกกกกกกกก คือกูเรือเอ็นโจนะ แต่แม่ง... ทำตัวแบบนี้แล้วน่าจับมาตีให้เข็ด มีอะไรก็ไม่พูดไปละเว้ย /กลอกตาเป็นเลขแปดไทย ทำไมยิ่งอ่านฟิคเอ็นโจยิ่ฃน่าหมั่นไส้วะ.... (....) ฮือออ แต่ขอบคุณสำหรับกาวนะมึงงง ซู้ดดดดด ถึงบ่นก็อ่านอยู่ดี (....)
ผ่านมาแค่กี่วันเอง ปาไป500กว่าแล้ว
>>523-526 โอ๊ยๆๆๆๆๆๆ ดีใจ กูคิดถึงฟิคเน้~!!! ในที่สุดก็มีตอนต่อ นี่มันคือหึงชัดๆ หึงชัดๆๆๆ เอ็นโจหึงนี่เว้ยยยยย แต่ว่านะท่านเรย์กะ ไม่ใช่ว่าจงใจทำคาเบะด้งเค้าแน่นะ.... ทำไปแบบไม่รู้ตัวจริงอะ หืม? หืมมมมม???? //เอามือปิดหน้าแล้วม้วนหน้าสามตลบต่อด้วยม้วนหลังอีกสามตลบ
อ่านไปปลื้มปริ่มไป ว้อยยยยยย น่ารักอ่าาาา ถึงจะปันใจใหัใครไปบ้าง แต่ถึงยังไงเรือเอ็นโจนี่มันดีต่อใจจริงจังเลยน้าาาา ฮ้าาาาาา!!!
มะหมาจ้ะ
>>>/webnovel/3543/140
----------------
พอที่นอนของเรย์ทันโดนไซซายะฟัดพังไป ปัจจุบันเรย์ทันเลยนอนที่เดียวกันกับผม เรย์ทันตัวเล็กนิดเดียวไม่ได้กินที่อะไรนักหรอก
เจ้านายเห็นก็ไม่ได้ว่าอะไร แอบได้ยินตอนเจ้านายไปคุยกับภรรยาด้วยว่าประหยัดตังค์ค่าที่นอนไปอีกหนึ่ง เพราะช่วงนี้หมาที่บ้านเยอะขึ้น แว่วๆว่าอีกไม่นานก็จะมีลูกหมาเข้ามาอาศัยเพิ่มซะด้วยซิ
ตอนกลางคืนเรย์ทันมักจะนอนกระสับกระส่าย คงจะเป็นเพราะว่าไม่คุ้นชินกับที่นอน ผมก็คอยลูบๆปลอบๆจนเธอจะสงบลง
เป็นช่วงเวลาที่สงบสุขดี
ยกเว้นก็แต่ไซซายะที่นอนอยู่ถัดไป บางทีก็ละเมอเห่าหอนอย่างคึกบ้าง อย่างหวาดกลัวบ้าง ทำเอาต้องตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ ไม่รู้ว่าหมอนั่นฝันอะไรกันนะ?
แต่พอตอนเช้า ตื่นขึ้นมาเขาก็กลับมาคึกคักอย่างทุกที ลุกขึ้นมาได้ก็วิ่งไล่กลั่นแกล้งเรย์ทันอีกแล้ว
ทั้งคู่วิ่งไปวนทั่วทั้งห้อง เรย์ทันอาศัยความที่ตัวเล็กมุดเข้าใต้นั่น แทรกช่องนี้มั่ง ส่วนไซซายะก็อาศัยความร่างกายกำยำแข็งแรงพุ่งชนสิ่งกรีดขวางเหล่านั้นจนกระจัดกระจาด...
วันนี้คงไม่พ้นโดนดุอีกแน่นอนไซซายะ เจ้านายสอนไม่เคยจะจำเลยนะ
ตอนที่ไซซายะเกือบจะเข้าถึงตัวเรย์ทันได้แล้ว ผมลุกขึ้นจะเข้าไปขวาง แต่พี่เลี้ยงก็เอาอาหารเข้ามาในห้องพอดี ไซซายะนิ่งชะงักงันแล้วรีบหมุนตัววิ่งไปหาอาหารก่อนใครเพื่อน ส่วนเรย์ทันก็หอบแฮ่กๆก่อนล้มตัวแหมะลงบนที่นอนเราอย่างอ่อนล้า
จะทำตัววุ่นวายมากเกินไปแล้วนะไซซายะ
ผมเดินตามหมอนั่นไปและกดหัวเขาลงกับพื้นแล้วกระโดดทับ พี่เลี้ยงลูบหัวผมสองสามที บ่นเรื่องไซซายะทำห้องเละเทะอีกแล้ว ก่อนจะมอบอาหารแท่งให้กับผม ส่วนไซซายะที่โดนผมทับก็ร้องโหยหวนไม่หยุด
"อย่ามาแซงคิวกันเซ่ ชูสุมอย!"
แต่ผมก็ไม่สนใจหรอก ทีตอนเรย์ทันร้องขนาดนั้น นายยังไม่สนใจเลยนี่นา สมควรแล้วล่ะ
เนอะเรย์ทัน
ผมหันไปทางที่นอน คาดหวังว่าจะเห็นเรย์ทันเฝ้ามองเหตุการณ์ที่ผมสั่งสอนไซซายะอยู่ แต่กลับพบว่าเธอออกไปวิ่งเล่นกับกลุ่มหมาเล็กข้างนอกซะแล้ว
... อะไรกันน่ะ น่าน้อยใจชะมัด
ราวกับไซซายะรับรู้ความคิดผม ร่างที่ถูกผมทับหัวเราะเยาะอย่างสะใจ ขึ้นมา ทำไมทีกับเรื่องแบบนี้ถึงฉลาดขึ้นมาได้นะ? ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ผมเลยกระโดดกระแทกตัวทับหมอนั่นอีกทีจนเขาร้องเอ๋งดังลั่นออกมา
*****
อีกไม่นานก็มีงานแข่ง-ประกวดหมาประจำปีของพื้นที่เขตนี้ มีทั้งประกวดความสวยงามและแข่งขันสมรรถภาพทางกายหลากหลายประเภท เหล่าหมาๆต่างคึกคักกันสุดๆ ที่คึกหนักมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นไซซายะนั่นล่ะ
วันนี้ช่วงบ่าย ไซซายะก็เรียกเหล่าหมาทั้งบ้านไปประชุมกันที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระบัว
"อย่างที่พวกนายก็รู้กันดี ว่าอีกไม่นานก็จะถึงช่วงเวลาสำคัญประจำปีของพวกเราอีกครั้งแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเราจะครองแชมป์มาสองสมัยแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะวางใจได้! เจ้าพวกศัตรูบ้านอื่นเองก็คงจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่นอน! ดังนั้นพวกเราจะต้องฝึกฝนกันให้มากยิ่งขึ้นไป! เกียรติภูมิแห่งแชมเปี้ยนสองสมัยอย่างเราจะไม่มีใครหน้าไหนโค่นล้มไปได้ทั้งนั้น!!"
ไซซายะพูดด้วยท่าทางจริงจัง จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นตัวเดียวกับเจ้าหมางี่เง่าที่เพิ่งเอารองเท้าหนังของเจ้านายน้อยไปเคี้ยวเล่นจนโดนทำโทษก่อนหน้านี้
เหล่าหมาเลือดร้อนได้ยินคำพูดปลุกใจของไซซายะก็เดือดพล่านไปด้วยพลังใจเต็มเปี่ยม ส่งเสียงเห่าดังลั่นไปทั้งสนาม
ผมเดินอยู่ที่ขอบสนามห่างออกมาเงียบๆ เห็นเรย์ทันนั่งอยู่ที่มุมรั้วเลยเดินเข้าไปนั่งด้วยใกล้ๆ เธอสะดุ้งเล็กน้อย
"ไม่เข้าประชุมด้วยเหรอ?"
"ม ไม่ดีกว่าค่ะ.... คุณชูสุมอยล่ะคะ?"
"ปีนี้เจ้านายส่งผมลงประกวดสุนัขขนสวยสุขภาพดีน่ะ"
"...งั้นเหรอ"
พวกเรานั่งลงเงียบๆแล้วมองไปทางไซซายะที่กำลังคัดเลือกสุนัขที่จะร่วมลงแข่งสุนัขลากเลื่อน ซึ่งเป็นไฮไลต์ของการแข่งขัน จริงๆแล้วสุนัขลากเลื่อนต้องเป็นพันธุ์ไซบีเรี่ยนฮัสกี้อย่างไซซายะ หรืออลาสกัน หรือไม่ก็ซามอยด์อย่างผม แต่เพราะว่าเป็นการแข่งขันแบบสนุกๆในเมืองก็เลยมีสุนัขหลายพันธุ์ร่วมลงแข่งได้ด้วย
ไซซายะมองไปยังเหล่าหมาที่เฝ้ารอด้วยความหวังว่าจะได้รับคัดเลือก ก่อนจะเรียกชื่อหมาออกมาทีละตัว บางตัวก็เป็นผู้ร่วมทีมของปีก่อนอยู่แล้ว สีหน้าของทั้งห้าตัวที่ถูกเรียกออกมาดูจะดีใจมาก ส่วนพวกที่ผิดหวังก็หูลู่หางตกไปตามๆกัน
"พวกที่ได้รับการคัดเลือก อย่าเพิ่งเหลิงดีใจไปนัก ตอนนี้พวกนายได้เป็นตัวแทนของหมาทั้งบ้านแล้ว ภาระหน้าที่อันทรงเกียรติและยิ่งใหญ่ในการแข่งขันวางอยู่บนหลังของนาย! พวกนายจะต้องตั้งใจทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่เต็มกำลังที่สุด! ไม่ให้เพื่อนหมาที่บ้านต้องผิดหวัง!
"สำหรับตัวอื่นๆที่ไม่ได้รับเลือกก็ไม่เป็นไร การแข่งลากเลื่อนนี้ไม่ใช่การแข่งขันอย่างเดียวเท่านั้น ทุกตัวต่างก็มีหน้าที่ในการแข่งประกวดของตัวเองกันอยู่แล้ว จงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด! เพราะทุกๆคะแนนของทุกตัวย่อมส่งผลต่อคะแนนแชมเปี้ยนของพวกเรา!"
"โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!"
เหล่าฝูงหมาส่งเสียงเห่าดังระงมอย่างคึกคะนอง หมาตัวเมียบางตัวก็กรี๊ดกร๊าดกับความเท่ของไซซายะ พี่เลี้ยงและคนใช้หลายคนที่อยู่ใกล้ๆต่างหันมาชะโงกดู คงจะกังวลว่าจะมีเหตุจราจลขึ้นมา
จบการประชุม เหล่าหมาก็แยกย้ายกันไป หลายตัวคงได้กำลังใจสูงมากจนวิ่งไปทางสนามซ้อมทันที ส่วนไซซายะก็เดินมาทางพวกเราพร้อมกับเหล่าหมาที่ร่วมทีมลากเลื่อนเดินตามมาอยู่ข้างหลัง
"ช่วงนี้พวกฉันคงต้องเข้าฝึกพิเศษเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน คงจะไปเดินเล่นกันพวกนายไม่ได้อีกแล้ว ขอโทษนะ อย่าเสียใจไปเลย พอการแข่งขันจบเมื่อไหร่ ฉันจะกลับมาหาพวกนายอย่างแน่นอน!"
ก็ไม่ได้เสียใจอะไรเลยสักนิดล่ะนะ
"การแข่งขันครั้งนี้มันสำคัญกับบ้านเรามาก ฉันจะไม่ยอมให้ใครเอาถ้วยรางวัลไปแน่ๆ โดยเฉพาะหมาบ้านตำรวจนั่น!"
"หมาบ้านตำรวจ?" เรย์ทันถามขึ้น
"อื้อ เรย์ทันเพิ่งย้ายมาเลยไม่รู้นี่เนอะ เป็นหมาของบ้านตำรวจที่อยู่หมู่บ้านอื่นน่ะ เป็นอดีตแชมเปี้ยนและเป็นคู่แข่งกับบ้านเราเลย ปีที่แล้วแข่งกับไซซายะเชือดเฉือนกันสุดๆเลยล่ะ"
"ใช่แล้ว! เพราะเป็นหมาตำรวจดังนั้นคงจะต้องมีฝึกพิเศษอย่างหนักหน่วงมากแน่ๆ เรียกว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งและคู่ควรมากทีเดียวล่ะ โดยเฉพาะเจ้าโดเซ็นจุนั่นล่ะ!"
ผมเห็นเรย์ทันสะดุ้งเล็กน้อย ส่วนไซซายะก็บ่นว่าเดี๋ยวคงจะต้องวางแผนกลยุทธ์ของปีนี้ให้ดี ก่อนจะจากไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีม
เรย์ทันนิ่งใจลอยไปไหนก็ไม่รู้ หางกวัดแกว่งไปมาอย่างดีใจ จนผมทัก เธอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร ก่อนจะรีบวิ่งออกไป
ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยอะไรกับการแข่งขันสักเท่าไหร่หรอกนะ
แต่ว่าปีนี้...
ผม...รู้สึกไม่ค่อยดีเลยแฮะ
------------------
นี่กูแต่งอะไรอยู่วะเนี่ย 55555555555
https://twitter.com/samoyedsbot/status/838170388727222275 ชูสุมอยกับเรย์ทัน
เทพนิยายอลเวง ต่อจาก >>>/webnovel/3543/259
เรื่องเดิมที่ผ่านมา เพื่อถอนคำสาปแม่มดร้ายแต่กำเนิด องค์หญิงเรย์กะก้าต้องมีความรักที่แท้จริงกับชายหนุ่มแสนวิเศษก่อนจะครบรอบวันเกิด 18 ปี มิฉะนั้นเธอจะต้องครองตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านคานทองไปจนชั่วชีวิต สหายสนิท (?) อดีตเจ้าชายมาซาย่าจึงแนะนำให้เธอเดินทางมาขอคำแนะนำจากพ่อมดแห่งเอ็นโจวิน่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แม้แต่คนเขียนเองก็ไม่รู้
(แต่งแบบเดิมแล้วเรื่องมันขัดๆ ตันๆ กูเลยลองเปลี่ยนวิธีเล่าเรื่องจากสายตาบุรุษที่สามมาเป็นองค์หญิงเรย์กะก้าเล่าเองดูนะ อย่าแปลกใจ)
ในอีกสามวันให้หลัง ฉันก็มายืนอยู่ตรงหน้าหอคอยที่อดีตเจ้าชายมาซาย่าเล่าให้ฟังว่าเป็นที่อยู่ของพ่อมดแห่งเอ็นโจวิน่า กับหมาตัวหนึ่ง
เฮ้อเฮือก กว่าจะฝ่าฟันมาถึงนี่ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะยะ พอได้รู้เรื่องนี้จากมาซาย่า ฉันก็ตั้งใจจะยกขบวนนางสนมนางกำนัลเดินทางไปทันที แต่โดนมาซาย่าห้ามไว้เสียก่อน เขาว่าพ่อมดคนนั้นเป็นคนที่รักความสันโดษมาก ถ้าเห็นคนแห่กันไปเยอะๆ จะไม่ชอบใจ และที่สำคัญกว่านั้น...
"รักแท้คือสิ่งที่ต้องฝ่าฟันช่วงชิงมาด้วยกำลังของตัวเองเพียงลำพังยังไงล่ะ เหมือนฉันนี่ไง พยายามเข้านะ เรย์กะก้า!"
ว่าแล้วหมอนั่นก็ตบบ่าฉันป้าบๆ โอ๊ย เบาแรงหน่อยสิยะ ตาบ้านี่ แต่ยังไม่ทันได้ร้องอุทธรณ์ หมอนั่นก็ลากตัวฉันออกจากห้องจับโยนขึ้นหลังม้าแล้วตบก้นม้าเต็มแรงจนมันร้องฮี้~ วิ่งเตลิดออกไปจากปราสาททันที ได้ยินเสียงหมอนั่นแว่วๆ ตามหลังมาว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องข้างหลัง เดี๋ยวจะอธิบายให้ทุกคนเข้าใจเองว่าฉันออกเดินทางตามหารักแท้ ไม่ต้องตามหา กรี๊ดดดดดดดดดดดดด นี่ให้เวลาชั้นเตรียมใจกันบ้างสิยะ!
โชคยังดีที่ฉันติดเข็มกลัดบ่งบอกความเป็นราชวงศ์ แค่แสดงเข็มกลัดนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็จะถูกนำไปเบิกกับทางการคลังทั้งหมด ระหว่างทางฉันก็เลยไม่ลำบากอะไรนัก พอจะหาโรงเตี๊ยมใหญ่ๆ พักได้โดยไม่ยาก แต่ที่ลำบากคือจ้างคนนำทางนี่แหละ ตอนลงจากหลังม้าฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่ามาซาย่าแอบเหน็บแผนที่ไปยังหอคอยของพ่อมดไว้ที่อานม้าด้วย แต่แผนที่นายนี่มันอีรุงตุงนังอ่านยากสุดๆ เต็มไปด้วยตัวย่อชนิดเข้าใจคนเดียวเต็มไปหมด ฉันก็เลยอยากหาคนนำทางไปเป็นเพื่อน แต่แค่บอกว่าไปหอคอยของพ่อมดแห่งเอ็นโจวิน่า ทุกคนก็ทำท่าผวากันไปหมด ทำไมล่ะคะ!? มาซาย่า นี่นายส่งฉันไปหาคนน่ากลัวขนาดนั้นเลยเรอะ!?
ช่วยไม่ได้ ไปคนเดียวก็ได้ เชอะ ทั้งที่คิดแบบนั้น แต่เมื่อเดินทางมาถึงชายป่าที่หนทางระเกะระกะเกินกว่าจะขี่ม้า ต้องเดินเท้าต่อเข้าไปคนเดียว ฉันก็อดจะกลัวๆ ไม่ได้ แต่นี่มีเดิมพันเป็นอนาคตทั้งชีวิตของฉันเชียวนะ พยายามเข้าหน่อยซี่ เรย์กะก้า!
ฉันตบแก้มตัวเองปั่บๆ ฮึดเข้าไว้ แล้วลุยมุ่งไปข้างหน้า!
.
.
.
เหนื่อยจังค่ะ ขาล้าไปหมดแล้ว แมลงก็เยอะไปหมด ฮือ ส่งเสียงวิ้งๆ อยู่ข้างหูฉันไม่ขาดเลยอ่ะ แง นี่ฉันเดินมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย แล้วเมื่อไหร่จะถึงล่ะคะ ทำไมตาพ่อมดบ้านั่นต้องมาสร้างหอคอยอยู่ในที่รกร้างกันดารขนาดนี้ด้วยล่ะ บ้าจังเลย ผมฉันโดนกิ่งไม้เกี่ยวจนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ผิวก็โดนแมลงกัดจนคันยุบยิบไปหมด ฮือ นี่มันคุ้มแล้วเหรอคะ ถอยกลับตอนนี้ทันไหมเนี่ย
ฉันชักจะเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองขึ้นมาครันๆ พอเท้าเจ้ากรรมสะดุดก้อนหินล้มลง ฉันเลยหมดอาลัยตายอยากลุกไม่ขึ้นอีกเลย ไม่ไหวแล้วค่ะ ขอนอนเอาแรงพักหนึ่งก่อน ตื่นเมื่อไหร่ค่อยเดินย้อนกลับออกไปดีกว่า ฉานไม่ไหวแล้ว...
ทั้งที่คิดแบบนั้น พอหลับตาเงียบๆ ได้ครู่หนึ่ง กลับมีจมูกเย็นๆ ของตัวอะไรบางอย่างจิ้มแก้มฉัน พร้อมด้วยลิ้นสากๆ เลียแผลบๆ ระ..หรือว่า...หมาป่า!? นี่ฉันต้องตกเป็นเหยื่อหมาป่าตายอย่างอนาถาระหว่างทางเหรอ?! เดี๋ยวนะคุณหมาป่า นี่ไม่ใช่เทพนิยายเรื่องหนูน้อยหมวกแดงนะคะ คุณมาผิดเรื่องแล้ว อย่ากินฉันน้าาาาาาา!
ฉันเฝ้าภาวนาในใจขณะรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย ตัดสินใจเด้งพรวดถอยหลังกรูดๆ ให้ห่างจากสิ่งที่คิดว่าเป็นหมาป่ามากที่สุด แต่สิ่งที่ปรากฎแก่สายตาของฉันที่ก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นดิน กลับเป็นหมาตัวโตสีขาวบริสุทธิ์ส่งยิ้มท่าทางเป็นมิตรมาให้
น่ารักจังเลยยยยยยยยยยย! มาจากไหนคะ ขนขาวสะอาดแบบนี้คงไม่ใช่หมาป่าหรือหมาจรจัดหรอกใช่มั้ย เป็นหมาเลี้ยงใช่มั้ยคะ งั้นแถวๆ นี้ก็คงมีบ้านคนอยู่ล่ะสิ ไชโย รอดไปที ไม่ต้องเป็นผีเฝ้าป่าแล้วค่า!
เจ้าหมาสีขาวเดินเข้ามาคลอเคลียเลียหน้าเลียตาฉันใหญ่ อื้ออื้อ เชื่องจังเลยนะ ขนก็นุ่มจังเลยค่ะ เยียวยาดีจังเลย
ฉันเริ่มมีกำลังใจยันตัวลุกขึ้นยืน ราวกับอ่านใจฉันออก หมาน้อยออกเดินนำหน้าฉันไปทันที อย่างกับจะช่วยนำทางฉันอย่างนั้นแหละ แสนรู้ขนาดนี้ ใครเป็นเจ้าของกันน้า ขอเอากลับบ้านได้ไหมคะ
ฉันเดินกับเจ้าหมาน้อยสองคนไปเรื่อยๆ แปลกจังเลย ไม่รู้เพราะอุ่นใจที่ได้เจอหมาน้อยหรือเปล่า รู้สึกว่าหนทางเดินง่ายกว่าตะกี้ตั้งเยอะ เรี่ยวแรงก็เพิ่มขึ้น ฝีเท้าก็เบาสบาย คงเพราะใกล้จะเจอทางออกแล้วแน่ๆ เลยน้า
เดินไปแป๊บนึงก็ได้ยินเสียงน้ำไหลริน อื๋อ... หรือว่า... ลำธารจริงๆ ด้วย! ไชโย!
ฉันเรียกหมาน้อยที่ทำท่าจะเดินข้ามสะพานเล็กๆ ไปก่อน มันเหลียวกลับมา เอียงคอหน่อยนึงทำหน้างงๆ แต่ก็วิ่งกลับมาอย่างว่าง่าย อื้อ อุตส่าห์เจอน้ำใสสะอาด ขอพักซักแป๊บนะคะ ฉันเกล้าผมขึ้นแล้ววักน้ำมาล้างหน้าตาที่มอมแมม ฮ้า เย็นสดชื่นจัง เหลียวซ้ายแลขวา นอกจากฉันกับหมาน้อยแล้วก็ดูไม่มีใครอื่นอีก คงไม่เป็นไรมั้งน้า
ฉันถอดเสื้อนอกแล้ว ปลดกระดุมเสื้อตัวใน ดึงออกข้ามหัวไป เหลือแต่เสื้อบังทรงตัวบางๆ ติดกาย หยิบผ้าขนหนูที่ติดกระเป๋ามาชุบๆ น้ำเช็ดผมเช็ดตัว ฮ้า~ ค่อยยังชั่วหน่อยหน่อย ...ไม่อยากพูดไปเลยอ่ะค่ะ... คือฉันโดนอึนกแหมะใส่ตัวอีกแล้ว ถ้าไม่ล้างออกก่อนนี่คงทนไม่ไหวแน่ๆ เผ่าพันธ์นกนี่มีความแค้นอะไรกับฉันนักหนาน่ะหา~
หูแว่วๆ เหมือนได้ยินเสียงหมาน้อยร้องงี้ดง้าด อื๋อ? มีอะไรหรือเปล่านะ? ฉันเหลียวกลับไปมอง แต่เห็นแต่หมาน้อยหันหลังให้ฉันแน่วนิ่งไม่ยอมกระดุกกระดิก หูชี้ตั้งเชียว คอยระวังภัยให้ฉันเหรอคะ? เป็นเด็กดีจังเลยน้า~
พอรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้น ฉันก็เก็บของเดินต่อ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า ดูเหมือนขนตรงหน้าหมาน้อยจะแดงๆ ยังไงชอบกล ไปเปื้อนดินลูกรังมาหรือเปล่าคะ ?
เดินไปอีกซักพัก พวกเราก็หลุดจากป่าออกมายังทุ่งหญ้าโล่งกว้าง ตรงหน้าเป็นหอคอยสูงลิบลิ่วจนฉันต้องแหงนคอตั้งบ่าขึ้นมอง นี่น่ะเหรอคะหอคอยของพ่อมด?! แล้วไหงถึงต้องถ่อไปอยู่ซะสูงขนาดนั้นด้วยล่ะ ที่เขาว่าคนชอบที่สูงๆ มีแต่คนบ้ากับลิงนี่ท่าจะจริงสินะคะ
ฉันมัวแต่ชะเง้อชะแง้มอง พอก้มลงมาอีกก็หาหมาน้อยข้างตัวไม่เจอเสียแล้ว หมาน้อยคะ!? หมาน้อย! หมาน้อยไปไหน! ฉันใจหายวูบ ถึงจะเจอกันแค่แป๊บเดียว แต่ขนนุ่มๆ กับหน้าตายิ้มแย้มของหมาน้อยช่วยทำให้ฉันอุ่นใจเหมือนมีเพื่อนคู่ใจจริงๆ นะ หายไปไหนแล้วล่ะ...
สุดท้ายฉันเลยตัดสินใจเดินดูทั่วๆ ให้รอบหอคอย เผื่อเจ้าหมาน้อยจะแอบไปซุกซ่อนอยู่ตรงส่วนไหน แต่เดินวนจนรอบแล้วก็ไม่ยักกะเจอ แต่ดันไปเจอประตูเข้าสู่ด้านในของหอคอยเสียนี่ นี่ถ้าฉันละลาบละล้วงเดินเข้าไป คุณพ่อมดจะโกรธแล้วสาปฉันให้เป็นตัวประหลาดหรือเปล่าคะ คงไม่น่า... ถ้าไม่อยากให้คนเดินเข้ามาเอง ก็หัดติดระฆังหรือวางยามไว้ที่หน้าประตูเสียหน่อยสิคะ ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะเสียมารยาทหรอกนะ แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา
ว่าแล้วฉันก็ปลุกปลอบใจให้กล้า ดึงประตูหนาหนักออก ก้าวเข้าไปข้างใน...
------------ (อยากเขียนฉากเดินป่าขนาดนั้น ไม่ไปเขียนแฟนฟิคเพชรพระอุมาเลยล่ะเฮ้ย) -----------
เพชรพระอุมาบ่งบอกอายุ-------------//โดนตบ
ยังดีไม่ลงไปอาบน้ำแล้วมีช้างโผล่พรวดมาวิ่งไล่
>>559 โอ้ว ชูสุมอ....เอ้ย ท่านพ่อมดเอ็นโจวิน่า แค่เห็นร่างเกือบเปลือยของเรย์กะก้า ถึงกับกระอักเลือดเลยเรอะ //โดนกัดอย่างทารุน
ตื่นเต้นๆ อยากเจอพ่อมดไวๆ เจ้าหญิงจะปีนหอคอยขึ้นไปชั้นบนสุดได้มั้ย หรือเป็นลมตายกลางทางก่อน พอนางเอกตายก็อวสาน ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด //ไม่ใช่แล้วโว้ยยยยยยยยยยย
จันทร์อังคาร วันแห่งแฟนฟิคจริงๆ พวกมึงเก็บกบมาจากการเรียนกับที่ทำงานชิมิ
KY ว่าด้วยเรื่องดอกไม้อีกครั้ง จาก >>138
คือเพิ่งค้นไปค้นและพบว่ามันมีสายพันธุ์ลิลี่พันธุ์นึงที่มีชื่อว่า "ลอลลี่ป๊อป"
ที่เรย์กะเอาให้ริรินะน่าจะเป็นตัวนี้มากกว่าแฮะ อย่างน้อยหน้าตาก็ยังคล้ายๆมาดอนน่าลิลี่นะ ริรินะ!
• Lilium ‘Lollypop’
เป็นลิลี่พันธุ์พื้นเมืองของญี่ปุ่น มีกลีบดอกสีขาว ย้อมแดงที่ปลายกลีบ
( http://imgur.com/io7nCOY )
ต่อจาก >>487-488 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
..............…….....
ฉันเดินทางไปร้านภัตตาคารหรูที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง จากกำหนดการที่คาบุรากิให้มา ดูเหมือนว่าท่านพี่จะมากินข้าวกับลูกค้าที่นี่ล่ะนะคะ
ทั้งที่ทำงาน ที่อยู่ ล้วนห่างจากบริเวณบ้านของฉันทั้งนั้นเลยค่ะ อาจเป็นเพราะไม่อยากเจอคนในตระกูลคิโชวอินโดยบังเอิญก็ได้ ร้านอาหารครั้งนี้ถือว่าเป็นที่ที่ใกล้ที่สุดแล้วล่ะมั้งคะ
ท่านพี่ในโลกนี้ไม่พอใจการบริหารงานของท่านพ่ออย่างมาก และคัดค้านหลายหน แต่ท่านพ่อและท่านแม่ก็ไม่สนใจ ทั้งยังมองท่านพี่ว่าเป็นลูกนอกคอก ปฏิบัติตนอย่างเย็นชาด้วยเสมอ เรย์กะเองที่เชื่อใจและทำตามท่านแม่สุดชีวิต ก็มองท่านพี่เป็นคนทรยศต่อตระกูลที่เกินเยียวยาแล้ว และต่อว่าเสียๆหายๆอยู่หลายครั้ง
วันหนึ่ง ท่านพี่ก็หนีออกจากบ้าน ไปทำงานพิเศษจนเรียนจบ และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะข้องเกี่ยวกับตระกูลคิโชวอิน
จะยังไงท่านพี่กับท่านอิมาริก็ดูเหมือนเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิมนะคะ อย่างตอนหนีออกจากบ้านใหม่ๆ ท่านอิมาริเองก็ให้ความช่วยเหลือ
แต่นะคะ ที่ฉันสงสัยมากที่สุด ทำไมคาบุรากิถึงหาข้อมูลได้ละเอียดขนาดนี้คะเนี้ย... สงสัยว่าความสโตรกเกอร์ตั้งแต่โลกก่อนทำให้มีทักษะติดตัวล่ะมั้งคะ...
ฉันเข้าไปนั่งในร้าน ฉันเคยมาสำรวจก่อนหน้านี้พอสมควรแล้วค่ะ เลยจองที่นั่งที่สามารถมองเห็นท่านพี่ได้ และจองเวลาเร็วกว่าเวลาที่ท่านพี่นัดลูกค้าเล็กน้อย เพื่อที่จะได้ไม่บังเอิญเจอกันตั้งแต่ก่อนเข้าร้าน
ที่นั่งและเวลาที่ท่านพี่จองก็มาจากคาบุรากินั่นแหละค่ะ หมอนั่นหาข้อมูลทุกอย่างละเอียดเอามากๆ แต่กลับไร้ตรรกะในการคิดแบบคนทั่วไปซะได้... บางทีฉันก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่เลยค่ะ
ฉันเข้ามาในร้านและสั่งฟัวกราส์มากิน ครั้งที่แล้วฉันก็อยากลองกินของร้านนี้นะคะ แต่ว่าถ้าสั่งเพิ่มอีกจานคงไม่ไหว แต่ถึงไหว แค่คิดถึงตอนลดน้ำหนักก็เหนื่อยใจแล้ว เลยพยายามตัดใจมากินวันนี้แทนค่ะ
ไม่ช้านัก ท่านพี่ก็มาถึงแล้ว ดูเหมือนท่านพี่เองก็จองก่อนเวลานัดอีกทีนิดหน่อยนะคะ สมกับเป็นท่านพี่ผู้รอบคอบเลยค่ะ ใบหน้าที่อ่อนโยนยังมีให้เห็นชัดเจน ท่าก้าวเดินดูสง่างาม รอยยิ้มที่ประดับก็ดูมีเสน่ห์มากเลยค่ะ ดูดีเหมือนท่านพี่ในโลกก่อนของฉันเลยค่ะ
ฉันแอบสังเกตท่านพี่ด้วยความรู้สึกใจหายเล็กน้อย แม้โลกก่อนฉันจะสนิทกับท่านพี่เอามากๆ จนถูกเรียกไปทั่วว่าเป็นบราค่อน แต่ว่าในโลกนี้ ฉันกับท่านพี่มีความสัมพันธ์ไม่ต่างจากศัตรู
น้ำตาฉันไหลออกมานิดหน่อย อาหารร้านนี้อร่อยมากจริงๆค่ะ... นุ่มลิ้นมากๆ
ฉันมองท่านพี่พูดคุยยิ้มแย้มกับคนอื่น แบบที่โลกนี้ฉันอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มเช่นนั้นกับตัวเอง ไม่รู้ว่าเรย์กะทำร้ายจิตใจท่านพี่ผู้แสนดีไปมากแค่ไหน ความรู้สึกสับสนแทรกเข้ามา ฉันหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ฉันจะเริ่มพูดอะไรกับท่านพี่ดี มันดูเหมือนเห็นแก่ตัวหรือเปล่าที่อยู่ๆก็ไปขอให้ท่านพี่ช่วย ทั้งๆที่ตลอดชีวิตของเรย์กะไม่เคยทำอะไรให้ท่านพี่ในโลกนี้เลยสักครั้ง...
หลังจากฉันกินของหวานคลายความเครียดเสร็จ ก็สังเกตว่าท่านพี่กินใกล้หมดแล้ว ฉันจึงรีบขอคิดเงิน และเป็นอย่างที่คิด โต๊ะท่านพี่เองก็คิดเงินในเวลาใกล้เคียงกัน ความสามารถของฉันในการประเมินเวลากินของคนอื่นก็ถือว่ามีประโยชน์เหมือนกันนะคะ
เมื่อท่านพี่ไปส่งลูกค้าที่หน้าร้านแล้ว ฉันก็แอบเดินตามไป ท่านพี่ดูเหมือนจะรอใครสักคนอยู่ยังไม่ได้กลับทันที ฉันจึงใช้โอกาสนี้เดินเข้าไปใกล้ๆท่านพี่มากขึ้นทีละนิด
ฉันรวบรวมความกล้าที่จะเอ่ยปากทัก แต่ท่านพี่กลับหันควับกะทันหันมาหาก่อนเลยชะงักจนพูดไม่ออก
“คุณต้องการอะไร ทำไมถึงแอบตามผมมา” ท่านพี่ถามด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ ใบหน้าอ่อนโยนถูกลบทิ้งทั้งหมดราวกับว่ามันไม่เคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน น้ำเสียงและคำพูดดูห่างเหิน จนหัวใจของฉันสั่น
“ท่านพี่...”
ฉันเอ่ยออกมาได้เพียงแค่นั้น ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้อีก ไม่กล้าขอความช่วยเหลือตระกูลคิโชวอิน ไม่กล้าขอคืนดี ไม่กล้าที่จะร้องขออะไรจากเขา
ทำไมมันถึงเจ็บขนาดนี้นะ...
น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้ ทำไมฉันต้องทะลุมิติมาที่นี่ ทำไมต้องอยู่ในมิติที่เป็นศัตรูกับท่านพี่ เป็นศัตรูกับวาคาบะ เป็นคนที่ทำเรื่องชั่วร้ายมากมาย และได้แต่รอวันถูกลงโทษ
ถ้าจะทะลุมิติทั้งที ขอที่ที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรือไง...
“ขะ...ขอโทษค่ะ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง...” ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น ไม่รักษามาดลูกสาวตระกูลคิโชวอินอีกต่อไป ปล่อยโฮกกลางถนนอย่างไม่สนใจใครอีกแล้ว
“งั้นหรอ” ฉันได้ยินเสียงท่านพี่พูดอย่างปราศจากอารมณ์ความรู้สึก ฉันได้แต่เช็ดน้ำตาไม่กล้ามองหน้าท่านพี่ “มาเพื่อจะมาเสแสร้งร้องไห้ให้ดูงั้นหรอ”
ฉันไม่ตอบ หัวใจฉันเหมือนถูกกรีดด้วยมีดเป็นชิ้นๆ ไม่อาจปฏิเสธคำพูดนั้นได้เลย ก็เรย์กะน่ะเคยแกล้งร้องไห้เพื่อให้คนเอาใจหรือทำตามสิ่งที่ปรารถนา...
ท่านพี่ไม่พูดอะไรอีก และเดินออกห่างจากฉันไป ราวกับไม่สนใจอีกแล้ว ฉันไม่กล้าแม้แต่จะห้ามอีกฝ่ายได้เลย...
ฉันเงยหน้ามองแผ่นหลังที่ค่อยๆข้ามถนนจากไปเรื่อยๆ ก่อนจะชะงัก
“ท่านพี่ ระวังค่ะ!!!”
ไหวกว่าความคิดใดๆ ฉันพุ่งตัว ผลักท่านพี่ไปริมถนนแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ท่านพี่หันกลับมาอย่างตกใจ
“เรย์กะ!!!”
เสียงเบรกรถดังสนั่น ฉันได้แต่ยืนตัวค้างปล่อยให้รถชนอีกครั้ง
ทุกอย่างก็มืดดับไปอีกครั้ง...
..............…….....
เจ็บจังเลยค่ะ แต่ว่าก็ไม่ได้เจ็บมากอย่างที่คาดไว้...
ฉันพยายามลืมตา แต่ก็รู้สึกมึนๆ จนหลับตาไปอีกครั้งสักพัก ตอนนี้ฉันอยู่บนที่อะไรนุ่มๆค่ะ น่าจะเป็นเตียง
เมื่อสติฉันค่อยๆกลับมาทีละนิด ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะหันไปรอบๆ และเห็นท่านพี่นั่งอยู่ข้างเตียง
“เอ๊ะ...”
“ฟื้นแล้วหรอ...ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม” ท่านพี่พูดอย่างแผ่วเบา ท่าทางกังวลเอามากๆเลยค่ะ
“ค่ะ...” ฉันตอบพลางสำรวจร่างกาย ดูเหมือนฉันมีแค่แผลถลอก ไม่ได้มีร่องรอยรุนแรงแบบคนผ่านการถูกรถชนมาก่อนเลยค่ะ
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ...”
ฉันมองท่านพี่ที่อ่อนโยนกว่าเมื่อกี้หลายพันเท่า ก่อนจะหัวใจหล่นวูบอย่างอดไม่ได้
อย่าบอกนะว่า... เมื่อกี้ที่ถูกรถชนฉันทะลุมิติมาอีกครั้ง!?!
เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะยังมีชีวิตรอด และมีแค่แผลเล็กน้อย และท่านพี่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างนี้
ที่นี่คือที่ไหนกันน่ะ โลกใหม่อีกโลก? หรือว่ากลับมาโลกเก่า?
แล้วคาบุรากิล่ะ...
ในหัวของฉันสับสนจนเรียบเรียงอะไรไม่ถูก นี่ฉันทิ้งคาบุรากิไว้ในโลกนั้นคนเดียวงั้นหรอคะ แล้วแบบนี้จะเป็นยังไงกันหลังจากนั้น
ขณะที่ฉันลังเลว่าควรทำยังไงดีที่จะพิสูจน์ว่าฉันอยู่โลกไหนกันแน่ อยู่ๆก็มีบุคคลไม่ต้องประสงค์เปิดประตูห้องเข้ามา ฉันชะงัก ขยับตัวออกห่างให้มากที่สุดโดยอัตโนมัติ
“ครั้งนี้เป็นความผิดของฝ่ายผมเอง ขอให้ผมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเถอะนะครับ...”
จอมมารเอ็นโจก้มหัวเล็กน้อย ฉันตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เกิดอะไรขึ้น...
อยู่ก็มีเมลล์เด้งขึ้นมา ฉันแอบมองแวบๆ เหมือนมาจากคาบุรากิ โลกก่อนหน้านี้ฉันคงไม่มีเมลล์คาบุรากิ ถ้างั้นอาจจะเป็นโลกเดิมก็ได้ แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ...
หลังจากคุยๆกันสักพัก ฉันก็สรุปเรื่องราวได้ว่า ตอนที่ฉันผลักท่านพี่หลบไป และเตรียมพร้อมโดนรถชน ดูเหมือนคนขับจะเบรกและหักหลบได้ทัน เลยไม่ชน และฉันจึงไม่เป็นไร แต่ที่มาที่โรงพยาบาล คือ ฉันแค่ตกใจจนเป็นลม...
ตกใจจนเป็นลมนี่นะคะ! น่าอายเกินไปแล้ว... แต่ว่าจะโดนรถชนเลยกลัวตายนิดๆหน่อยๆคงเป็นเรื่องปกติใช่ไหมคะ...
ฉันพยายามปลอบใจตัวเองที่กำลังเสียขวัญ
“ทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนั้น” ท่านพี่ถามขึ้น น้ำเสียงกลับมาไร้อารมณ์อีกแล้วค่ะ น่ากลัวจังเลยค่ะ...
“ผมต้องรีบมาส่งน้องชายที่อาการกำเริบที่โรงพยาบาลน่ะครับ”
“เอ๋! แล้วยูกิโนะคุงเป็นอะไรหรือเปล่าคะ!!!”
ฉันถามอย่างตกใจ เทวดาน้อยอาการกำเริบงั้นหรอ!?! คงไม่ได้เสียเวลากับฉันจนอาการหนักกว่าเดิมใช่ไหม ไม่นะ ฉันทำอะไรกับยูกิโนะคุง...
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มาทันพอดี” เอ็นโจพูดแบบกึ่งๆยิ้ม “ไม่ยักรู้ว่าคุณคิโชวอินจะรู้จักน้องชายของผมนะครับ”
ฉันชะงัก แย่แล้วค่ะ ลืมไปเลยว่าในโลกนี้ ฉันยังไม่เคยเจอยูกิโนะคุงมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
“เคยได้ยินในคนในสโมสรพูดๆกันน่ะค่ะ...”
หวังว่าคงไม่ได้ดูมีพิรุธเกินไปนะคะ ต่อให้เอ็นโจฉลาดระดับจอมมารแค่ไหนก็เดาไม่ได้หรอกค่ะว่าฉันทะลุมิติมา แต่ว่าเขาอาจจะคิดว่าฉันเป็นพวกสโตรกเกอร์ รู้ความเป็นไปชาวบ้านก็ได้ค่ะ แบบนี้เอ็นโจจะหมายหัวฉันหรือเปล่านะคะที่แอบมองน้องชายสุดที่รักของเขา...
เอ็นโจไม่เค้นถามอะไรฉันต่อ แต่หันไปคุยกับท่านพี่สองสามคำ ก่อนจะบอกลาฉันตามมารยาท
ดีจังค่ะ รอดแล้ว... อย่างน้อยก็สำหรับตอนนี้ล่ะนะคะ...
ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ฉันกับท่านพี่แค่สองคน
ฉันรวบรวมความกล้าอีกครั้ง
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหมคะ...”
ป.ล. รู้สึกผิดนิดหน่อยนะคะที่พาให้นอนดึก 5555 แต่เขียนเสร็จไม่ทันก่อนหน้านี้จริงๆค่ะ... นี่คือเขียนฟิคก่อนทำการบ้านแล้วนะคะ 555555
>>583-585 กรี้ดด ท่านเพ่ววววว โหดร้ายยยยย กูใจแป้วตามเรย์กะเลย ดีมมีอีเว้นท์ รถชนเลยสานสัมพันธ์พี่น้อง ขอบคุณจอมมารเอ็นโจวจริงๆ //กราบ
ตื่นเต้นขึ้นทุกตอน กูชอบฟิคหรือนิยายแนวนี้สุดๆ คือมันเรื่อยๆแต่ความเรื่อยๆมีความน่าติ่นเต้นน่าค้นหา
ว่าแต่มึงเพิ่งเริ่มทำการบ้าน??? ไม่ไหวก็มาบอกก่อนก็ได้นะมึง ไม่ต้องแต่งก่อนก็ได้ การบ้านสำคัญกว่าเน้อ กลัวพวกเรานอนดึก แค่มาบอกว่าวันนี้งดก็พอ เป็นห่วง
>>583 โอ้วววววว เจอท่านพี่แล้ว แม้จะปวดใจกับตอนต้นๆไปบ้าง แต่ก็เชื่อนะว่าสายสัมพันธ์พี่น้องจะกลับมาเหมือนเดิม เรย์กะสู้เขาน้าาาาาา
ปล.ไปทำการบ้านก่อนเถอะ ฟิคน่ะลงเมื่อไหร่เขียนเมื่อไหร่ก็ได้ ว่างๆเขียนก็ได้มึง กูรอได้เสมอ ฟิคในนี้ก็ลงตามใจฉัน ตามความสะดวกกันหมดนั่นล่ะ ไม่ต้องหักโหมลงทุกวันหรอก
>>583-585 กุปวดใจกับท่านพี่ แต่กุเชื่อว่าพลังบราค่อนของเรย์กะต้องปลุกความซิสค่อนที่หลับใหลอยู่ในใจของท่านพี่ขึ้นมาได้แน่ สู้เขานะท่านเรย์กะะะ
มึงไปทำการบ้านให้เสร็จก่อนก็ได้ กุรู้สึกผิดเลยที่กดดันด้วยการมารอ 555555555555
แต่ปกติกุนอนตีสองตีสามอยุ่แล้ว อ่านฟิคมึงก่อนนอนแล้วหลับฝันดีมากนะ
มึงงงงกูขอแทรกนิด
คือกูไปลองคิดๆดูแล้วถ้าพวกท่านเรย์กะไปอยู่ในนิยายกำลังภายในจะเป็นไงวะเลยได้ออกมางี้อ่ะ
ท่านเอ็นโจ>>>ประมุขพรรคมาร จอมมารของยุทธภพ
บากะรากิ>>>จอมยุทธ์เพจรบ้าๆบวมๆแต่มากฝรมือ เป็นเพื่อนกับจอมมาร
ส่วนท่านเรย์กะกูคิดภาพร่างอาวุธออกก่อนอันอื่นเลยเว้ยยยย >>>> จอมยุทธหญิงใช้พัด!!!
ทั้งหมดทั้งมวลคือกูกำลังดมกาวไปอ่านนิยายจีนไปแล้วเห็นคนในเรื่องใช้พัดกูแบบวู่ววววสู้ท่านเรย์กะไม่ได้หรอก
ปล.จะว่าไปเหมือนมีคนเคยบอกไว้ว่าท่านเรย์กะฝึกถึงขั้นดาบไร้รูปไว้ด้วยนี่นาาา (จากเหตุการณ์แม้แต่ดอกไม่ในมือก็เป็นอาวุธได้ของอฟช.)
>>583-585 โอ๊ยยย ค้างคาค่าาา ท่านเรย์กะต้องลากท่านพี่เข้าฮาเร็ม(?)ให้ได้นะคะ!
อ่านไปถึงยูกิโนะแล้วกูชักจะสับสนเอาไปปนกะเ่องสามัญชนเรย์กะละ ว่าอ้าวก็มีบทแล้วนี่ 55555
>>590 ถ้าตามkimidolce น่าจะเป็น
คบรก. เจ้าสำนักพรรคคุณธรรม สืบทอดจากบรรพบุรุษ เก่งกาจปานเทพเซียน (แต่ใจจริงแล้วอยากออกเดินทางเป็นจอมยุทธพเนจร แต่พอได้ไปจริงๆกับพบรักกับหญิงร้านขายหมั่นโถวหน้าโรงเตี้ยม ไม่ไกลจากสำนักเลยสักนิด เลยไม่ได้ไปไหนสักที)
เรย์กะ นังปืศาจฝ่ายอธรรมที่พยายามยั่วยวนเจ้าสำนัก (ปจบ.วิญญาณอื่นทะลุมิติเข้ามาแทรกร่าง เลิกสนใจคบรก.ออกเดินทางเพื่อหาของอร่อยให้ทั่วยุทธภพ)
เอ็นโจ สหายร่วมพรรคกะเจ้าสำนัก(แต่จริงๆแล้วเป็นหัวหน้าพรรคมาร ที่แทรกซึมเข้ามา แล้วมารเรย์กะที่ไม่ได้อยู่ในแผนเจือกโผล่เข้ามา เลยไม่ได้ทำลายพรรคคุณธรรมสักที ถถถ)
>>592 สุดท้ายเรน์กะก็มาตายรังที่ร้านหมั่นโถวหน้าโรงเตี้ยมแถวๆพรรคธรรมะใช่ไหมมึง สึกท้ายก็ได้เจอคบรก จอมมารเอ็นโจวจะลอบสังหานเจ้าสำนักก็ตามบ๊ะเรย์กะ แล้วระแวงนู่นนั่นนี่ไม่รู้ว่าสาวเจ้าทะลุมิติมา เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ยุทธจักรเป็นร้านหมั่นโถวกับโรงเตี๊ยมหรรษา เย่!!!
อะ ตอนใหม่มาแล้วน้า~ อุตส่าห์ได้มีบทซะทีก็ดันขู่จนเค้ากลัวลนลาน จอมมารเอ๊ย~
ปล. มีเรื่องแจ้งให้ทราบ เสาร์อาทิตย์นี้กูติดภารกิจ สงสัยจะไม่สะดวกมาลง เลยจะลงชดเชยล่วงหน้าให้ก่อน 3 ตอนรวดไปถึงวันศุกร์นะ ส.อา.จะหาย
แล้วโผล่มาอีกทีวันจันทร์ อ่านถนอมๆ หน่อย แล้วเจอกันน้า //กอด
รักโม่งแปลที่สุดเลย
มาให้จุ๊บทีนึงมา
อยากอ่านร้านหมั่นโถวกับโรงเตี๊ยมหรรษา เสนอกาวให้กูมโนแล้วต้องผลิตออกขายด้วย
กูรอเสพย์กาวอยู่ โฮะโฮะโฮะ
เฮ!!! ดีใจโฮก มาสามตอนรวด กูปริ่มมมม รักนะโม่งแปลลลล//กระโดดกอด
ตอนนี้คือท่านเอ็นโจต้องการไรง่ะ ทำคะเเนนเซ่ ท่านเรย์กะไม่หวั่นไหวหน่อยหรอ ฮือ ดันกลัวซะงั้น พอยูกิโนะออกมาทีไรเอาใจแม่ยกไปเลยค่าาา
รักโม่งแปล จุ๊บ
เอ็นโจในนิยายตอนนี้อารมณ์เหมือนพยายามมาบอกให้เรย์กะรู้ว่าคาบุรากิชอบวาคาบะ บวกกับ หาเรื่องคุยกัยเรย์กะดีนะ เหมือนเอาน้องชายมาบังหน้าส่วนตัวเองก็นั่งเนียนคุยกับสาว แต่สาวเจ้าดันระแวงสุดฎทธิ์ น่าสงสาร 5555
>>583 >>584 ขอบคุณสำหรับฟิค ตอนท่านพี่เย็นชาใส่นี่ใจหล่นลงมาตาตุ่มเบย สงสารเรย์กะ แต่ตอนรถจะชนอีกทีนี่ก็ตกใจเหมือนกัน นึกว่านางจะได้กลับบ้านซะละ
อยากอ่านฟิคกาวที่ท่านเรย์กะความจำเสื่อมตื่นมาแล้วกลายเป็นคุณว่าตัวเองแต่งงานกับเอ็นโจแถมมีลูกสองแล้วอ่ะ พอดีไปหาแล้วหาไม่เจอ มีใครมีลิ้งหรือจำได้ว่าฟิคชื่ออะไรบ้างมั้ย?
สาระ(ที่ไม่ต้องรู้ก็ได้..)เสริมให้จากท้ายตอนล่าสุด
Charlotte Aux Pomme
Charlotte เป็นขนมเค้กแบบโบราณของอังกฤษ มีตั้งแต่ศตวรรษที่15 มีรากศัพท์มาจาก charlyt หมายถึง คัสตาร์ดชามใหญ่
aux pomme : เป็นภาษาฝรั่งเศส aux คือคำคุณศัพท์แบบพหูพจน์ของ à + les
ส่วน pomme คือแอปเปิ้ล
การทำเริ่มจากการทำฐานและขอบเค้กจากสปอนจ์เค้กหรือบิสกิตที่เรียกว่า Ladyfinger จนเหมือนภาชนะ จากนั้นจึงใส่มูสครีมทีละเลเยอร์ข้างใน
อย่างงี้ > http://imgur.com/ecIzN5B
เอนโจ๊ นายรู้จักเรย์กะมากี่ปี สาวเจ้าอารมณ์เย็นจะตายหยั่งเชิงไงก็ไม่ชนะหรอก อยากเมาท์ก็เมาท์สิ ทำแบบนี้สาวยิ่งระแวงนะโว้ย
>>605 https://justpaste.it/reika
สารบัญของโม้งสารบัญจ้า เปิดดูเลย
>>583>>584 กุจะรอมึงนะโม้งฟิคกุก๊าวววกาวมึงมากกก อุวะฮาฮา~
กุยังคิดถึง ฟิดเล่นใหญ่ซุยรันอยู่น้าาาาา มาต่อหน่อยยยยยยT^T
โม่งแปลกูรักมึงงงงง มาม่ะกอดที//โดดกอด
ตอนนี่ท่านจอมมารมีบทแค่ตัวคั่นเวลาให้น้องชาย แหม! น่าเห็นใจ 5555 ยูกิโนะคุงน่าร้ากกก เยียวยาหัวพี่สาวดีจริง ๆ แต่.. ซีรี่ย์นักษัตรคือไรค่ะ บากะรากิ!! อย่าไปเป่าหูเทวดาน้อยมั่วซั่วซี่
พวก pivoine นี่กูนึกภาพเป็นตระกูลใหญ่ๆอ่ะ แบบปกติในยุทธภพมันต้องแบบ 5 ตระกูล 8 สำนักอะไรงี้ นายตัวสำรองนี่อาจเป็นพรรคคุณธรรม เฮ้ย... กูว่านายตัวสำรองแม่วต้องแบบ... พวกองครักษเสื้อทอง/มือปราบอะไรงี้มากกว่าว่ะ
ตอนล่าสุดนี่เอาน้องมาสังเวยชัดๆเลยนะเอ็นโจ บอกน้องอยากมาหาเรย์กะแต่พอโดนจับไปเล่นตัวเองกลับมานั่งคุยกะเรย์กะเองซะงั้น
ก่อนท่านเรย์กะระลึกชาติได้มันก็เป็นการห้ำหั่นกันในยุทธภพระหว่างสำนักต่างๆ แต่พอท่านเรย์กะระลึกชาติได้ กลายเป็นทัวร์ชวนชิมของกินในแผ่นดินนี้แบบ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ นางมารน้อยชุดแดงออกเดินทางไปเรื่อยเพื่อเสาะหาอาหารเลิศรส มีพักฝึกวิชา(เพื่อไดเอท) มีทำอาหาร ลืมจุดประสงค์เดิมของสำนักไปสิ้น
ตอนล่าสุด ยูกิโนะนี้สละตัวเองน่าดูเลย 555 เอ็นโจ คนขายน้องชัดๆ แต่ถ้าถามว่ามาขายจะซื้อมั้ย ตอบเลยว่า ซื้อ 5555555
ขึ้นเรือกัปตันแทนได้ไหมมมม ที่ทำลาเต้อาร์ตนี่ทำให้ท่านพี่เรย์กะหรอกเหรอ ไซซายะนายไปพูดอะไรให้ยูกิโนะฟังน่ะ หรือจริงๆแล้วเอ็นโจแกล้งท่านเรย์กะวะ
>>586-589 ขอบคุณมากเลยค่ะ 5555 ไม่ต้องคิดมากนะคะ เมื่อวานเป็นตอนที่อยากเขียนมานานมากแล้ว ไม่อาจไปทำการบ้านก่อนได้อยู่ดี 5555 แต่อนาคตอาจมีวันที่ไม่ได้ลงเหมือนกันนะคะ
>>596 รักโม่งแปล //กระโดดกอด
ขอบคุณนะคะที่มีการมาลงล่วงหน้าไว้ให้ วันพฤหัสศุกร์จะได้เรียนอย่างสดใส
อฟช.ตอนนี้ เอ็นโจอุตส่าห์มีบททั้งที ทำไมรู้สึกว่าโดนน้องชายกลบหมด มีการทำเป็นลับคมนัย อยากคุยกับเขาก็บอกตรงๆสิ มีการทำแอบๆพูดเรื่องวาคาบะ แต่เรย์กะรู้หมดแล้ว 5555 เรย์กะนี่รู้ตั้งแต่ 6 ขวบล่ะ แถมโลกนี้ยังคุยกับวาคาบะใกล้ชิด ท่ากลิ้งหลบรถเรย์กะยังได้เห็นวาคาบะสาธิตเลย 5555555
มีใครเคยคิดมั้ยว่าจริงๆยูกิโนะกะจะเก็บเรย์กะไว้เอง แล้วทำทีช่วยเอ็นโจไป
ดูยังไงก็เอาน้องมาขายหาทางเข้าใกล้สาวชัดๆ!! มาถึงก็โยนน้องไปเป็นเหยื่อล่อคนอื่นๆ แล้วตัวเองรีบไปนั่งข้างๆ เรย์กะทันทีเลยอะ
แต่เอ๊ะ!! เดี๋ยวนี้สนิทกันจนมานั่งข้างๆ กันได้แล้วนี่หว่า! ความสัมพันธ์คืบหน้าไปตั้งเยอะแล้ว ยินดีด้วยนะเอ็นโจ ตั้งแต่ประถมมาถึงม.ปลาย ในที่สุดเค้าก็เลิกหนีแล้วยอมนั่งด้วยซะที ดูทรงแล้วอีกไม่เกิน 10 ปี คงจะได้จับมือกันแน่ๆ ความหวังอยู่แค่เอื้อมนี่เอง เกือบละอีกนิดเดียว สู้ต่อปายยยยย!
>> 637 เออจริงด้วย555 ทำไมเราชอบลืมว่ายูกิโนะเป็นเด็ก ป.1จัง เด็กขนาดนั้ยคงไม่คิดเรื่องจีบสาวหรอกมั้ง(ยกเว้น คบรก ไว้เป็นกรณีพิเศษ)
ตอนล่าสุดบอกว่าคาบุรากิเย็นชา แต่เร่าร้อนกับวาคาบะจัง กูพยายามมานึกภาพแม่งนึกไม่ออกเลยว่ะ
ลองคิดว่าถ้าเรย์กะยอมต่อปากต่อคำด้วยจะไปถึงไหน.....
S: ระยะนี้มาซายะดูระรื่นยังไงไม่รู้นะ
R: งั้นเหรอคะ
S: อื้อ ไม่รู้ทำไมถึงแวะมาที่ห้องผมเรื่อยเลย แต่เหมือนเป้าหมายจะไม่ได้อยู่ที่ผมหรอกนะ
R: เอ...ได้ยินมาเกี่ยวกับคุณทาคามิจินะคะ...
S: คุณคิโชวอินก็สนใจด้วยเหรอ? //ยิ้ม
R: ก ก็แค่ได้ยินผ่านหูมาเท่านั้นเองล่ะค่ะ
S: นั่นซินะ ข่าวลือไปกันไวซะด้วยซิ ...แต่อย่างมาซายะเนี่ยก็ดีจังเลยน้า //ถอนหายใจ
R: หื้ม?
S: ก็ได้ใกล้ชิดคนที่สนใจบ่อยๆเลยนี่นา ทีอย่างผมน่ะลำบากเหลือเกินกว่าได้อยู่ด้วยใกล้ๆน่ะ
R: ...เอ๋ ไม่ได้พบกันที่บ้านบ่อยๆหรอกเหรอคะ?
S: หือ? หมายถึงใครกันน่ะครับ? หรือว่ายังคาใจเรื่องนั้นน่ะ... ก็บอกแล้วไงว่าเขาเป็นแค่"ว่าที่"น่ะ คนที่ผมสนใจไม่ใช่คนคนนั้นสักหน่อย...
R: เห งั้นเหรอคะ (แล้วใครกันน่ะ?)
S: สนใจเหรอครับ? //ยิ้ม
R: (โดนอ่านใจอีกแล้ว!?) แหม.. ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะคะ~
S: ถ้าคุณคิโชวอินอยากรู้ ผมจะกระซิบให้ฟังก็ได้นะ //ขยับตัวเข้าใกล้กว่าเดิม
R: เอ๋... ไม่ค่ะ! ไม่เป็นไร!
S: หืม ไม่สักนิดเลยเหรอ?
R: เอ่อ...คือ...
S: น่า เดี๋ยวผมบอกให้ฟัง //หัวเราะ
R: เดี๋ยวซิคะ... (ทำไมต้องบังคับให้ฟังกันด้วยเล่า!? นี่ใกล้เกินไปแล้ว! ทุกคนอยู่ในห้องกันนะ!)
Y: คุณพี่เรย์กะ! คิดถึงจังเลยครับ!
R: ยูกิโนะคุง!!!!
S: (ชิ!)
กูว่าเอ็นโจพยายามล่อให้ท่านเรย์กะถามเรื่องมาซายะ ตั้งแต่คราวที่แล้วล่ะ เรื่องมาซายะกับวาคาบะจัง(มั้ง) หรือตอนที่ให้ช่วยตอนอกหักด้วย (หรืออันนี้อาจจะแค่ตอนประถมไอเดียง้อท่านยูริเอะสำเร็จก็เลยลองถามดู) ไม่รู้คิดว่าท่านเรย์กะชอบคาบุรากิรึเปล่าหรือแค่อยากชวนคุย แบบพยายามพูดให้ท่านเรย์กะถามมากๆแต่ท่านเรย์กะก็พูดแค่ ...งั้นเหรอคะ แค่นี้ตลอดเลย55555 โคตรนกเลยอ่ะเอ็นโจ555555 หรืออย่างตอนที่เอาเรื่องตัวเองกับ"ว่าที่"คู่หมั้นมาเล่าก็ฟีลเดียวกัน คือพยายามให้ท่านเรย์กะถามอ่ะ
>>649 ที่ทำตัวมีลับลมคมในเพราะไม่รู้จะเริ่มยังไงรึเปล่าวะ ปกติมีแต่คนเข้าหาไม่เคยเข้าหาใคร จีบสาวไม่เป็นเลยต้องทำตัวแบบนั้นให้เขาเข้าหาตัวเอง จะพูดตรงๆมันก็เสียฟอร์ม เสียเชิงแถมเขาไม่ไว้ใจว่ามันจะมาไม้ไหน วางกับดักไว้แต่เขาก็ไม่เข้ามาติดกับซักที แผนที่คิดไว้ก็เลยต้องแป้กแล้วแป้กอีก
แต่ตอน"ว่าที่"คู่หมั้น ท่านเรย์กะจากเฉื่อยๆเฉยๆนี่....."ค๊าาาาาาาาา"เลยนะ ตกอกตกใจมาก กูว่าณ เวลานั้นฮีคงฟินแล้ว บรรลุแล้วอะ มักน้อยชิบหาย
>>653 มึงก็ดูการกระทำแต่ละอย่างของเรย์กะดิ ทำร้ายจิตใจขนาดไหน ทั้งเย็นชา ทั้งเมิน ทั้งหนี แต่กลับมาตกอกตกใจที่ฮีมีคู่หมั้น ก่อนจะเฉลยว่าเป็นแค่ "ว่าที่" มันเหมือนได้น้ำมารดหัวใจอันแห้งผากต่อนะมึงงงงงงงงงง ประมาณว่าได้แค่นี้ก็เอา เหมือนเหล่าโม่งที่พยายามสร้างโอเอซิสกาวในทะเลทรายเพราะออฟฟิศเชียลไม่มีให้ 55555555555555555555
หรือว่าธีมของเรื่องนี้คืออย่าดูคนที่ภายนอกวะ ทั้งจักรพรรดิที่หล่อขรึมแต่บ้าๆ บอๆ ท่านเรย์กะที่เป็นเจ้าหญิงสมบูรณ์พร้อมแต่เนื้อในเฟอะฟะ อุเมวากะที่ดูกุ๊ยๆ แต่เนื้อในคือคนบ้าหมา และเอ็นโจที่ดูเป็นหนุ่มป๊อบๆ คือจีบหญิงไม่เป็น ถถถถถถถถถถ
>>656 ซากุระที่เรียบร้อยอ่อนหวานก็เป็นแมวปีศาจ อิวามุโระที่บึกบึนห้าวหาญเนื้อในเป็นสาวสวย หัวหน้าห้องที่เอาจริงเอาจังหัวใจเป็นสาวน้อยแก้มแดง ท่านพี่ที่สุภาพอ่อนโยนจริงๆเป็นจอมมารนิสัยดำมืดแถมเป็นซิสค่อน เรื่องนี้คนปกติน่าจะมีแค่อิมาริที่มีบทอยู่ "ซักพักหนึ่ง" แล้วก็หายไป
>>652 >>656 พูดถึงเอ็นโจจีบสาวไม่เป็น กูล่ะนึกถึงฟิคกาวที่ชูสุเกะในคิมิดอลมาเกิดเป็นยูกิโนะ แล้วคอยชงให้น้องชาย(??)คือชูสุเกะผมดำไปจีบเรย์กะ แต่ชูสุเกะก็ดันทำเสียเรื่องซะเองไม่ยอมจีบ มัวแต่อ้ำๆอึ้งๆ
กูรู้สึกว่าจะมีคนเขียนฟิคบราค่อนบ้านเอ็นโจนี่หว่า ใครวะ เขียนออกมาให้อ่านหน่อยยยยย พลีสสสสส อยากเห็นพี่ชายคอยตามซัพพอร์ทน้องที่มัวแต่ทำตัวมีลับลมคมในจวนจะแห้วอยู่รอมร่อ
เอ็นโจของกูวววว ฮือ เอาน้องมาโยนเป็นเหยื่อแล้วตัวเองไปนั่งเต๊าะสาว ตั้ลล้ากกกกกก
>>659 พวกตัวประกอบ เรย์รู้จักแค่ผิวเผินอะ จริงๆอาจจะตรงข้ามกะภาพลักษณ์หมดเลยก็ได้...
อาโออิ อาจจะแอบเป็นจักรพรรดินีในโรงเรียนสาธิต
อาคิสะวะในชมรมกรีฑาอาจจะเป็นแบดบอย(เหรอวะ...)
ซึรุฮานะจริงๆแล้วอาจจะเป็นสาวน้อยขี้อายและเฟอะฟะแบบเรย์กะ...
ประธานชมรมฟุตบอลก็เป็นเอ็ม...
//พอเหอะ 555555
พูดถึงคู่เรย์กะกับยูกิโนะแล้วกูอยากอ่านคู่นี้ในAUสลับเพศอะมึงมันต้องน่ารักมากแน่ๆ/////
แบบท่านเรย์กะจักรพรรดิที่แสนเย็นชากับยูกิโนะที่ได้ฉายาว่าองค์หญิงน้อย อยากให้มีฉากท่านเรย์กะมอบดอกไม้ให้ยูกิโนะที่ป่วย
หัวใจที่แสนเย็นชาได้โดนองค์หญิงน้อยท่านนี้ช่วยเยียวยาถึงจริงแล้วท่านเรย์กะจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็เถอะ ใครก็ได้แต่งให้กูอ่านที่กูไม่สามารถ
ยูกิโนะกับเรย์กะสลับร่างกันก็น่าสนนะ จอมมารจะทำยังไงน้าาาาา ตัวจะติดกันตลาดเวลาเลยไหมนะโหมดเรย์กะเด็กร้อยเนี่ยยยย
กุกร๊าวววววว เรย์กะเวอร์ชั่นโลลิกับจอมมารรรร กุฮอนนนน
กุลืม เรื่องเจ้าชายน้อยต่างภพ เรื่องในตำนานเลย555
เออ จะว่าไปก็มีคนเขียนฟิคสลับเพศแล้วนี่นา กาวจากโม่งๆมาแล้วมึง เขียนต่อเร็ว ถถถ
>>688 จุ๊ๆ กุยังใสๆ 5555
กุนึกอีกเรื่องไม่ออกแต่มันเข้ากะยูกิโนะมากเลย มันมังงะของบงกช เรื่องย่อๆคือนางเอกเคยแต่งงานกับพี่ชายพระเอก แต่ก้อเลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้ แต่มีเหตุให้นางเอกต้องมาแต่งงานกับพระเอกที่ยังเป็นแค่นักเรียนม.ปลายอยู่ พระเอกแอบรักนางเอกมาตั้งแต่เด็ก เรื่องนี้เรทหน่อยๆด้วย5555
เอาไปฟิคได้นะกุอยากอ่าน
คาบุรากิแก เอาเรื่องอะไรไปเป่าหูยูกิโนะช้านนนนนนนน ท่านเรย์กะก็อย่าเห็นดีเห็นงามด้วยเซ่!!
จริงๆเรื่องลาเต้นักษัตรน้องยุกกี้อาจจะพูดหยอกๆรึเปล่า(แต่เห็นฝึกจริงจังเลยวุ้ย...)
กูไปอ่านใหม่อีกรอบ ตอนล่าสุดกูว่าเอ็นโจแฝงความหมายอ้อมๆอีกอย่างด้วยว่า ผมกับมาซายะไม่ได้เป็นอะไรกันนะ อย่าเข้าใจผิดเหมือนช่วงที่ผมรับส่งเขามาโรงเรียน(ช่วงฆ่าตัวตาย) 555555555555555555555555555555555555555 แล้วก็พยายามพูดเรื่อวาคาบะจังเพื่อยิงความเซอไพรซ์ อยากเห็นคำว่าค๊าาาาา อีกแน่ๆ 555
>>691 กูก็เคยอ่านเรื่องนึง ประมาณแบบนางเอกโสดสนิท ทำงานแล้ว แล้วไปโกหกเพื่อนว่ามีแฟนแล้ว ตอนกำลังเครียดก็เจอรุ่นน้องข้างบ้านที่เรียนมอปลายอยู่ซึ่งคือพระเอก พระเอกพอรู้ก็บอกว่า"มาคบกับผมก็ได้นะ"
เห่ยย พล็อตโคตใช่ เข้ากับเรย์กะกับยูกิโนะสุดๆ มีใครสนใจจะเอาไปแต่มั้ยย
มีกาวอีกมั้ย กูอยากได้ฟิค ดิ้นๆดิ้นๆ กรุณาแต่งฟิคเพิ่มที
วันนี้ไม่มีฟิคยามบ่าย โควตาอู้งานหมดกันแล้วซินะโม่งฟิค 5555
ฟิคไม่มี แต่ material กระจายเต็มกระทู้ รอผู้มีจิตศรัทธานำไปปั้นแต่งต่อนะ~
พวกมึงงง กูอ่านมู้วันนี้ทำไมดูคึกกันจังวะ55555 เสนอพล็อตมาเยอะมาก เออดี กูรอออออ แปปเดียวปาไปเจ็ดร้อยอ่าเมิง
ตอนนี้มีพลอตอะไรที่คนเสนอแล้วยังไม่แต่งบ้างวะ น่าจับมารวมกันมากว่ะ เผื่อโม่งฟิคที่ว่าง(?) ดินผ่านมา อาจถูกมอมเมาจนแต่ง แค่กๆๆๆ
ถ้าแค่วันนี้ก็
- กำลังภายใน (ที่เสนอจนกลายเป็นโรงเตี้ยมหรรษาไปละ ถถถ)
- เด็กหญิงเรย์กะกับเอ็นโจโลลิค่อน....
- เด็กหญิงยูกิโนะกับเรย์กะCโลลิค่อน...
- คุณพี่เรย์กะกับเด็กชายยูกิโนะ
กูมีฟิคใหม่มานำเสนอให้พวกมึง เชิญอ่าน ใครจะต่อก็เชิญนะ
.
.
.
"ฮึ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงสินะคะ"
ฉันปักไม้เท้าลงกับพื้นแน่นก่อนก้าวลงจากรถ สะบัดผมทรงโรโคโค่สีเทาเงินขณะขยับแว่นจ้องมองประตูที่ติดป้ายโลหะสีน้ำตาลโก้หรูตรงหน้า
"สถานดูแลคนชราซุยรัน"
หลังจากได้รับบัตรเชิญให้มาตรวจดูสถานที่จริงเมื่อวันก่อน ฉันก็ตัดสินใจจะมาอยู่ที่นี่อย่างง่ายดาย ก็ที่นี่น่ะเพียบพร้อมไปด้วยความอำนวยสบายครบครันยิ่งกว่าที่คฤหาสน์เสียอีก เพื่อนฝูงที่จะชวนคุยเรื่องราวสมัยเก่าๆ กันก็อยู่กันพร้อมหน้าเลยล่ะค่ะ
"มาแล้วเหรอ คุณคิโชวอิน ยินดีต้อนรับ"
ชายร่างสูงผมสีดอกเลา ดูเท่ห์แบบสุภาพบุรุษอังกฤษเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีสบายๆ เอ็นโจ ชูสุเกะ ถึงจะอายุขนาดนี้แล้วก็ยังรักษาหุ่นได้ดีไม่เปลี่ยนเลยนะคะ น่าอิจฉาจัง
"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ ไม่ได้อยู่กับท่านคาบุรากิหรอกหรือคะ"
"คาบุรากิมัวแต่ไปบัญชาการพวกหนุ่มๆ แข่งขี่ม้าส่งเมืองอยู่ที่สนามน่ะ อายุขนาดนี้ยังฟิตไม่เลิกเลยนะ"
"แหม แข็งแรงดีจริงๆ นะคะ"
ฉันส่งยิ้มให้ท่านเอ็นโจ ใช่แล้ว หลังจากประสบกับความสำเร็จจากธุรกิจการศึกษา เครือโรงเรียนซุยรันก็ศึกษาความเป็นไปได้ของตลาดผู้สูงอายุ และตัดสินใจเปิดสถานดูแลผู้สูงอายุที่หรูหราออกมาในที่สุด คนที่จะเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ก็มีแต่อดีตนักเรียนซุยรันเท่านั้นล่ะนะคะ โฮะโฮะโฮะ ~ อ๊ะ ไม่ได้การล่ะ เดี๋ยวต้องไปเยี่ยมท่านพี่และท่านอิมาริที่อีกตึกก่อน จะเป็นไงกันบ้างน้า คิดถึงจังเลยค่ะ~
Happy End or To be continued //อย่าตีกูววววววววววว์
คำว่ารันของซุยรันก็เป็นคำเรียกนกในตำนานของจีนไงมึงงงงง 55555
โรงเรียนแห่งความนก 555555
ปล. ตะกี๊ตกใจจนลืมพูด อย่าได้มีโม่งหน้าไหนมาทำให้มัน To be continued เชียวนะ กูแช่งจริงๆ ด้วย
กำลังจะเข้ามาถามว่าไม่มีฟิคยามบ่ายยามเย็นยามค่ำหน่อยหรอ...แล้วก็เจอฟิควัยชรา พวืดดดด มึงจะทำให้เหลือแต่เรือคานอย่างนี้ไม่ด้ายยยย โม่งฟิคเรือผีทุกท่านคะ เรือคานก็มีฟิคแล้วนะคะ อย่าไปยอมค่ะ!! เรือเล็กแค่ไหนเราก็อย่ายอมแพ้คาน ไหนมีใครจะแต่งฟิครักต้องแกล้งขี้ นกxท่านเรย์กะมั้ย55555
พวกมึงหยุดเลยนะเว้ย อย่าต่อฟิคเด็ดขาด ใครต่อนอกจากจะแช่งแล้วกูจะยืมไม้เท้าท่านเรย์กะต่อจากพวกมึงมาหวดมาฟาดให้เจ็บหลังเหมือนที่ปู่รากิปวดเอวเลย
มึงแบบนี้ต้องสวดมนต์ไล่สิ่งอัปมงคล(คาน)ออกไปป่ะว่ะ เอาเกลือโรยมุมห้องด้วย
รักกันตอนชราก็ยังไม่สายนะมึง..... //ผัวะะะะะะ!! กูตายแล้ว
สวด Eloim, Essaim! อัญเชิญจอมมารเอ็นโจมาทลายคานออกไป
โว้ยยยย เค้านั่งข้างกันด้วยอะะะะะะะะะะะะะะะะะ กูเพิ่งได้อ่านตอนใหม่ ขอกูสครีมแบบเลทๆนะ 555555
ปล. มีใครอยากรับสารบัญคาบุรากิกับเอ็นโจไปทำมั้ย หลังจากนี้กูจะยุ่งมากๆเลย ;___; มีเวลาอย่างมากก็คงแค่อ่าน ไม่ได้ว่างมากเหมือนเมื่อก่อนที่คอยนั่งรีเฟรชบอร์ดโม่งทุก10นาทีเพื่อคุยกับพวกมึง ฮือออ เหมือนกรรมตามทันกูอะ แงงงงงง
นี่วันนี้จะมีแต่ฟิควัยชราภาพจริงๆเหรอวะ 555555555
ใกล้ได้เวลาตั้งชื่อห้องแล้วนะพวกมึง
สัก800 ก่อนค่อยตั้งขึ้นมาก็ยังไม่สายนา........
ไวจังนะ ความรู้สึกเหมือนเพิ่งโหวตชื่อห้องไม่นาน กาวนี่ขายดีจริงๆ 555
สลับเพศเรย์กะต้อยยูกิโนะจัง
วันนี้ผมคิโชวอิน เรย์ จะมาเยี่ยมมาโอะคุงกับยูริจังแฟนสาว เพื่อเอารูปคู่รักของทั้งคู่ไปฝาก อืม ไม่ได้มาสโมสรของเปอติต์นานแล้วนี่นะ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมาก ถึงจะไม่เท่าของม.ปลายแต่ก็หรูหราเหมือนเคย
ในขณะที่ผมยืนพิจารณาที่หน้าประตูสโมสรนั้น ผมก็ได้พบกับเด็กผู้หญิงที่น่ารักราวกับนางฟ้า
เทพธิดาองค์น้อยที่เปิดประตูห้องเปอร์ติต์ให้ผมนั้นมีเส้นผมสีอำพันที่ถูกส่องแสงมาจากทางด้านหลังเป็นประกายระยิบระยับ
สาวน้อยยืนยิ้มหวานให้ผมด้วยดวงตากลมโตดูไร้เดียงสา นะ… น่ารักเป็นบ้า!!!
โลกเรามีเด็กน่ารักได้ขนาดนี้ด้วยเหรอ!? คนจริงๆหรือเปล่าเนี่ย!? ไม่ใช่ตุ๊กตาพูดได้งั้นเหรอ? หระ… หรือว่าเธอคือนางฟ้าตัวจริงกัน!?
ในขณะที่ผมกำลังคิดฟุ้งซ่าน นางฟ้าตัวน้อยก็เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วราวกับระฆังแก้ว
“สวัสดีค่ะ คุณพี่ม.ปลาย มีธุระอะไรเหรอคะ?”
สมกับเป็นเทพธิดาจริงๆ ขนาดเสียงยังไพเราะน่ารักน่าเอ็นดู! ตอนเอียงคอทำหน้างงน้อยๆก็น่ารัก!! อยากให้ท่านแม่ที่ชอบตุ๊กตาได้มาเห็นจริงๆ ลักพาตัวกลับบ้านได้มั้ยเนี่ย--!?
“เอ่อ… คุณพี่คะ?”
นางฟ้าน้อยทำหน้าลำบากใจแล้ว
ไม่ได้การล่ะสิ ผมทำให้เทพธิดาน้อยน่ารักคิดว่าเป็นบุคคลต้องสงสัยไปแล้วเหรอ!? คงคิดว่าผู้ชายที่มาเบิกตาโพลงจ้องเอาๆ ไม่พูดไม่จานี่เป็นคนแปลกประหลาดสินะ
เปล่าสักหน่อย ผมก็แค่อยากจะเอานางฟ้าน้อยมาฟัดๆๆๆ เท่านั้นเอง(?) เป็นนายหัวหยองที่ไม่มีพิษภัยอะไรนะคร้าบ
“อา ขอโทษทีนะ พอดีคิดอะไรเพลินก็เลยเหม่อๆไปหน่อย พี่นัดเจอกับซาวาราบิ มาโอะคุงที่นี่น่ะ พี่เป็น Pivoine ชั้นม.5 ชื่อคิโชวอิน เรย์ครับ”
เทพธิดาองค์น้อยพยักหน้ารับคำพูดของผมด้วยรอยยิ้มแสนบริสุทธิ์ แล้วดึงมือผมเข้าไปข้างใน กล่าวว่า “เชิญเลยค่ะ” มือเล็กๆ ของเทพธิดาน้อย นิ่มชะมัด อย่างกับมาร์ชเมลโล่ว์แน่ะ! อึก… เอากลับบ้านไม่ได้จริงๆเหรอ?
พอก้าวเข้าไปในห้องสโมสรตามคำเชิญของน้องนางฟ้า มาโอะคุงก็สังเกตเห็นผมและส่งยิ้มกว้างทันที
“ท่านพี่เรย์!”
“โอ้ มาโอะคุง”
มาโอะคุงวิ่งซอยเท้ามาหาผมแล้วคล้องแขนด้านตรงข้ามกับที่นางฟ้าน้อยจับไว้ ระหว่างที่คุยกับมาโอะคุง พอรู้สึกตัวอีกทีเทพธิดาน้อยก็ปล่อยมือผมเดินเตาะแตะหายไปข้างในแล้ว เดี๋ยวสิน้องนางฟ้า! รอพี่ด้วย!
“ท่านพี่เรย์?”
“…อื๋อ ไม่มีอะไรหรอกมาโอะคุง”
อยากลูบเส้นผมสลวยๆนั่นจังน้า…
“วันนี้แวะมาหาผมเหรอครับ อ๊ะ! เชิญนั่งก่อนครับท่านพี่เรย์”
มาโอะคุงพาผมมานั่งที่โซฟา ที่มียูริจังนั่งอยู่ด้วย บนโต๊ะมีเค้กและน้ำชาวางค้างไว้ คงกินอะไรกันอยู่สินะ
“สวัสดีค่ะ คุณพี่…เรย์”
ดูเหมือนยูริจังจะอายๆ ที่ต้องเรียกผมว่า “คุณพี่” พอพูดไปก็ทำท่าเขินๆ น่ารักชะมัด! เยียวยาจิตใจดีจริงๆ
“สวัสดีครับ วันนี้เอารูปถ่ายงานปาร์ตี้วันนั้นมาให้แน่ะ”
ผมส่งสมุดอัลบั้มที่เขียนหน้าปกว่า “Happy Birthday!” ให้มาโอะคุง
“ว้าว!”
“มีรูปถ่ายคู่กับยูริจังเยอะแยะเลยนะ”
“อ๊ะ จริงด้วย”
“มาโอะคุง ขอฉันดูด้วยสิ”
มาโอะคุงกับยูริจังดูรูปถ่ายด้วยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ ระหว่างที่ผมนั่งมองเด็กๆ เพลินๆ เทพธิดาน้อยก็ถือถาดสีเงินใส่ขนมเค้กและน้ำชาเข้ามา มือทั้งสองจับแน่นระวังไม่ให้ตก
อ่า… นางฟ้าน้อย ท่าทางเอาจริงเอาจังก็ยังน่ารัก!
“คุณพี่ เชิญค่ะ”
“หืม!?”
น้ำชาและเค้กนี่ยกมาให้ผมหรอกเหรอ!? ที่ปล่อยมือผมเดินจากไปเพื่อไปเตรียมนี่มาให้เหรอ? อา เทพธิดาน้อยทำไมเป็นเด็กดีขนาดนี้นะ! My angel!
“ขอบใจมากนะ ถือมาคนเดียวคงหนักน่าดู”
ว่าแล้วก็เดินไปช่วยถือถาดมาไว้ในมือ ผมจะปล่อยให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักแบบนี้ยกของหนักคนเดียวได้ยังไงล่ะ
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้สบายมาก อ๊ะ ขอบคุณค่ะ”
เทพธิดาน้อยอมยิ้มขอบคุณแก้มแดง ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ผมเห็นนะว่าจับแน่นเลย ฝ่ามือเล็กน่ารักนั่นแดงหมดแล้ว
“เชิญเลยค่ะ” เทพธิดาน้อยยิ้มแย้ม น่ารักสุดๆ! นางฟ้าน้อย สนใจมาเป็นลูกบ้านคิโชวอินไหม?
“อุตส่าห์ยกน้ำชามาให้ท่านพี่เรย์เหรอ? ขอบใจมากนะ ยูกิโนะจัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“ยูกิโนะ ชื่อยูกิโนะจังเหรอ?”
เป็นชื่อที่เหมาะกับนางฟ้าน้อยตัวขาวผ่องเลย!
“ค่ะ หนูชื่อเอ็นโจ ยูกิโนะ ฝากตัวด้วยนะคะ คุณพี่เรย์”
นางฟ้าน้อยยิ้มแย้มอย่างน่ารัก ทำเอาผมพลอยยิ้มไปด้วย
…อื๋อ?
เอ็นโจ…?
“เอ่อ… ยูกิโนะจัง เป็นอะไรกับท่านเอ็นโจ ชูสุกิหรือเปล่าน่ะ?”
ผมถามอย่างหวาดๆ ช่วยตอบว่าไม่เกี่ยวทีเถอะ! บอกว่าเป็นญาติห่างๆก็ยังดี ขอแค่อย่างเดียว อย่าเลยนา…
“เอ็นโจ ชูสุกิเป็นพี่สาวของหนูเองค่ะ”
แกว๊ก------!!!!!!!
ตัดจบ555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555
มาโอะกับยูรินี่เปลี่ยนเพศก็เหมือนไม่เปลี่ยนอ่ะ เวรกรรม
ละสรุปกูจะเอาเทพธิดาน้อยรึนางฟ้าน้อยกันแน่วะเนี่ย สับสนตัวเอง
เอ๊ะงั้น ตอนงานกีฬาโรงเรียน จากท่านเรย์กะ(หญิง)แต่งชุดพ่อบ้านแกะ
ท่านเรย์(ชาย)ก็ต้องแต่งเมดหูแกะอะดิ
อิวามูโระ(หัวหน้าชมรมยูโดชอบแต่งหญิงนับถือเรย์กะเป็นอาจารย์) ก็ต้องเป็นผู้หญิงร่างบึกชอบแต่งตัวครอสเดสเป็นผู้ชาย?
น่าสนใจโฮกๆ
ขอลงเรือนี้ทันไหม 555555
มาลงเรือท่านหมีเรย์กันเพื่อนโม่ง555555555555 โลลิค่อนครองโลก ในเมื่อจักรพรรดิไม่มีสาวคนไหนกล้าเข้ามา ก็คงต้องหาสาวน้อยป.1มาเยียวยาจิตใจ5555555555555 เดี๋ยวตอนต่อมาเร็วๆเน้ แมวดุ้นแม่งก๊อบวางไม่ได้ พิมพ์ลำบาก แง้
>>779 รอนะเพื่อนโม่ง ท่านเรย์เป็นสาวดุ้น แฮ่กๆ
เออ ไม่แน่ตอนกีฬาสีท่านเรย์อาจจะใส่ชุดหนูเหมือนเดิมก็ได้ เพราะเห็นว่าสาวถึกอิวามุโระจังดูท่าจะแอบอยากใส่ชุดเจ้าหญิงเหมาะกัน "เธอเป็นเด็กผู้หญิงก็ต้องเหมาะกับเสื้อผ้าสวยๆอยู่แล้วล่ะ" ว่าแล้วก็ปักธงแถมแต่งสวยให้555555555555 (แต่สุดท้ายสาวเจ้าก็ไปชอบหนุ่มอื่นอยู่ดี กรรม)
แล้วพอตอนกีฬาสี ทุกคนก็จะช็อกตาค้าง ว่าทำไมท่านจักรพรรดิผู้สูงส่งถึงคาดหูหนูบนหัวแบบนั้น! เสื่อมเสียเกียรติสิ้นดี คาบุรากิก็โมโหว่า"อีตานั่นไม่ได้เรื่องเลย จมูกหนูหายไปไหน!" ส่วนเอ็นโจก็หัวเราะก๊าก
แต่จริงๆ กูอยากเห็นชุดซินเดอเรลล่ามากกว่า ก๊าก
ขอฟิคคั่นเล็กน้อยนะคะ ต่อจาก >>583-584 ฟิคคู่หูทะลุมิติ
เมากาวจากฟิคบน บทยูกิโนะโผล่มาทันที 555555
ป.ล. สิ่งเดียวกัน ถ้าท่านพี่ทำจะดูดี แต่ถ้าเอ็นโจทำจะกลายเป็นจอมมาร 55555
.................................
ฉันบอกท่านพี่ว่าตอนนี้รู้แล้วว่าท่านพ่อท่านแม่ฉ้อโกง และสิ่งที่ทำมันไม่ถูกต้อง
ท่านพี่ยิ้มนิ่งๆ เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
"เสียความทรงจำงั้นหรอ"
"เอ๋?"
ท่านพี่เดาได้ยังไงน่ะ... ฉันสารภาพไปว่าเสียความทรงจำบางส่วน แต่จะเรียกสารภาพก็ไม่ถูก เพราะถ้าจะสารภาพ ฉันคงต้องบอกว่าทะลุมิติมา และสุดท้ายคงจบลงที่อาศัยอยู่ในโรง'บาลบ้าตลอดชีวิต เจอคนคล้ายๆคาบุรากิทุกๆวัน...
"น้องเคยบอกว่าต่อให้โกงก็ไม่เป็นไร คนอ่อนแอพวกนั้นที่รับมือไม่ได้ต่างหากล่ะที่ผิด"
ฉันชะงัก เอาจริงสิ! เรย์กะรู้เรื่องนี้มานานแล้วหรอ แล้วยังสนับสนุนนี่นะ!!! แนวคิดแบบนั้น นี่ฉันโดนล้างสมองมาตั้งแต่เด็กงั้นหรอ!?! ฉันทำร้ายท่านพี่ไปมากแค่ไหนกันนะ...
แต่ว่าท่านพี่เรียกฉันว่า "น้อง" แล้วงั้นหรอ ไม่ได้เหินห่างเหมือนตอนแรกสินะคะ ดีจังเลย แค่เกือบโดนรถชนถือว่าคุ้มมากๆเลยค่ะ
"เขาว่ากันว่าเวลาคนเสียความทรงจำ สิ่งที่ทำมักจะมาจากใจจริงๆล่ะนะ" ท่านพี่พูดอย่างอ่อนโยน "ขอโทษทีที่ไม่รู้มาก่อน แล้วทำท่าทางเย็นชาแบบนั้นให้เจ็บปวดนะ"
ท่านพี่น่ารักที่สุดเลยค่ะ!
"ขอโทษเหมือนกันนะคะที่ทำเรื่องร้ายๆก่อนหน้านี้..."
"ลืมมันไป แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยกันเถอะนะ"
ท่านพี่พูดพลางลูบหัว ฉันโผกอดท่านพี่แน่นเลยค่ะ
มีความสุขที่สุดเลยค่ะ
..................................
ผ่านไปสักพัก ท่านพี่อยู่ๆก็มองมือถือ และก็ขอออกไปอย่างเร่งรีบ
"อย่าบอกว่าเจอพี่นะ"
"เอ๋ะ?"
ฉันยังไม่หายงงดี ท่านพี่ก็รีบออกไป ไม่กี่นาทีต่อมา ท่านพ่อกับท่านแม่ก็มาเยี่ยมค่ะ ท่านพี่รู้ได้ไงคะ สุดยอดไปเลย!
"เป็นยังไงบ้างคะคุณเรย์กะ" ท่านแม่ถาม
"ก็ดีมั้งคะ..."
อยู่ๆท่านแม่ก็ยิ้ม
"เป็นแผนที่ดีมากเลยค่ะ"
"เอ๋?"
"ความจริง ถ้าเป็นตระกูลเอ็นโจ พ่อก็พอรับได้นะ แต่ถ้าเป็นตระกูลคาบุรากิจะดีกับเราที่สุด"
"หะ!?! พูดถึงเรื่องอะไรกันคะ!!!"
ท่านพ่อและท่านแม่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
"อย่างน้อย ถ้าสร้างสัมพันธ์กับคุณเอ็นโจไว้ น่าจะช่วยสนับสนุนความรักของลูกกับคุณคาบุรากิได้นะคะ"
"หนูไม่ได้..."
สมองฉันเริ่มหมุนคิดทันแล้วค่ะ อย่าบอกนะว่าการที่ฉันเกือบโดนรถชน พวกท่านคิดว่าเป็นแผนการเข้าหาเอ็นโจ?
หัวใจฉันเย็นเหยียบ นี่เป็นสิ่งที่พ่อแม่คนคิดเวลาที่ลูกเกือบโดนรถชนงั้นหรอ... หรือว่าเรย์กะทำตัวแบบนี้บ่อยจนไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องจริงแล้ว
เอ็นโจเดินเข้ามาในห้อง พูดคุยอะไรกับท่านพ่อท่านแม่อยู่สักพัก แต่ฉันกลับไม่รู้สึกสนใจเท่าไหร่ ครอบครัวของเรย์กะในโลกนิยายจริงๆเป็นแบบนี้งั้นหรอ บางทีอาจจะไม่แปลกที่เรย์กะกลายเป็นตัวร้ายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนา
ฉันจำได้ว่าในโลกก่อน ท่านพ่อท่านแม่ต่างพยายามจับคู่ฉันกับคาบุรากิตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ใช่เพราะฉันปฏิเสธเด็ดขาดมาโดยตลอดเพราะรู้เรื่องราวอยู่ก่อนแล้ว คงไม่ได้เป็นแบบนั้น นอกจากนี้ ฉันยังมองเห็นความดีของท่านพี่ และเข้าข้างท่านพี่มาโดยตลอด เพราะงั้นท่านพี่คงช่วยเปลี่ยนแปลงเรื่องการฉ้อโกงได้
แต่ในโลกนี้ ทุกอย่างล้วนแตกต่างไปหมด...
ฉันพยายามสะกดอารมณ์ไว้ในใจ ตอนนี้ท่านพี่รู้สถานการณ์ของฉันแล้ว บางทีอะไรๆอาจจะดีขึ้น...
ไม่นานนักก็มีเสียงประตูเปิดออกโดยไม่ได้คาดหมาย ร่างเล็กๆของเด็กตัวน้อยเดินเข้ามา เทวดาองค์น้อยผิวขาวน่ารักมองฉันด้วยตากลมแป๋วไร้เดียงสา อย่างรู้สึกผิดหน่อยๆ
นะ...น่ารัก น่ารักจังค่ะ!
ความทุกข์ระทมชีวิตครอบครัวคิโชวอินถูกโยนทิ้งไปทั้งหมดเมื่อได้เห็นหน้าของเทวดาน้อยอีกครั้ง ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะยูกิโนะคุง ถึงแม้จะมีผมสีดำแทนที่สีทองก็เถอะค่ะ แต่ว่าออร่าเทวดาเปล่งประกายเหมือนเดิมจนฉันใจละลายเลยค่ะ
“ยูกิโนะคุง...”
เอ็นโจเรียกชื่อน้องชายตัวเอง เหมือนคาดไม่ถึงว่ายูกิโนะจะเข้ามาที่นี่
“ขอโทษมากจริงๆนะฮะที่ผมต้องทำให้เดือดร้อน”
เทวดาน้อยพูดกับฉัน พร้อมก้มหัวลงน้อยๆ อ่อนน้อมอ่อนโยนน่ารักเกินไปแล้ว ทำไมเอ็นโจไม่มีด้านดีๆจากน้องชายไปบ้างเลยนะ เอ๊ะ แต่ว่าสำหรับคนที่เป็นเพื่อนคงจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าล่ะนะคะ สำหรับฉันที่เป็นศัตรูคงไม่ได้เห็นด้านดีๆพวกนั้นหรอกค่ะ...
“พี่เองก็ขอโทษเหมือนกันที่ทำให้เดินทางมาโรงพยาบาลล่าช้านะ... ยูกิโนะคุงไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรฮะ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะฮะ” ยูกิโนะรับคำอย่างน่ารัก
พลังเทวดานี่เยียวยาหัวใจดีจังเลยค่ะ น่ารักจังเลย
“เอ่อ ขอผมนั่งข้างๆได้ไหมฮะ”
“ได้สิจ้ะ”
ในวินาทีนั้นฉันลืมท่านพ่อท่านแม่หรือเอ็นโจที่อยู่ห้องเลยค่ะ และคุยกับยูกิโนะไปเรื่อยๆ เทวดาน้อยยังคล้ายกับโลกเก่ามากๆเลยค่ะ
ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ เอ็นโจก็พายูกิโนะไปตรวจอะไรสักอย่างตามคำสั่งหมอ ท่านพ่อก็กลับไปทำงานต่อ ส่วนท่านแม่ยังคงอยู่ในห้องกับฉัน
การอยู่ในห้องกับท่านแม่แค่สองคนรู้สึกน่ากลัวยังไงไม่รู้ค่ะ...
“ดูเหมือนคุณชูสุเกะ เอ็นโจก็สนใจลูกไม่น้อยเลยนะคะจากการพูดคุยเมื่อกี้”
“เอ๊ะ... เขาคงพูดตามมารยาทล่ะค่ะ”
แน่สิคะ เรย์กะ คิโชวอินเป็นศัตรูของเขานี่นา... ความสามารถระดับจอมมารคงรู้เรื่องของศัตรูมากพอที่จะรับมือล่ะนะคะ ที่ว่าสนใจนี่คงไม่น่าจะใช่ในความหมายที่ดีมั้งคะ...
“ถ้าพลาดจากคุณคาบุรากิ ก็เอาเอ็นโจเป็นตัวสำรองได้นะคะ”
จะตัวสำรองหรือตัวเลือกสุดท้ายก็ไม่เอาค่ะ! และก็...ท่านแม่อย่าพูดราวกับคนเป็นสิ่งของสิคะ ถ้าซื้ออันนี้ไม่ทัน ก็ซื้ออีกอันแทน อีกอย่างทั้งสองตัวเลือกไม่น่าเลือกทั้งนั้นเลยค่ะ...
“หนูไม่สนใจพวกเขาหรอกค่ะ” ฉันยืนยันอย่างจริงจัง แต่ท่านแม่ดูไม่สนใจคำประท้วงของฉันเลยค่ะ
ฉันได้แต่ปลงๆ พยายามเชื่อมั่นว่าท่านแม่และท่านพ่อยังรักฉันในแบบของพวกเขา จะยังไงฉันจะพยายามค่อยๆเปลี่ยนแนวคิดเรื่องการฉ้อโกงให้ได้ค่ะ
จะว่าไป ฉันจะนั่งบนเตียงแบบนี้ไปอีกทำไมคะ ในเมื่อฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรตั้งแต่แรกแล้ว สงสัยคงมึนกับอะไรหลายๆอย่างมากไปหน่อยจนลืมคิดไปนะคะ...
ฉันชวนท่านแม่กลับบ้านอย่างรักษาระยะห่าง ก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วพบกับใครสักคนที่ทำมือเหมือนกำลังจะเปิดประตูนี้เหมือนกัน
“ท่านคาบุรากิ!”
คาบุรากิดูชะงัก มองฉันอย่างประเมิน ดูเย็นชาอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ...
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม พอมีเวลาหรือเปล่า”
เขาพูดแบบเคร่งขรึมจริงจังแบบจักรพรรดิแห่งซุยรัน ฉันอึ้งจนพูดไม่ออก นายเอาหัวโขกกำแพงมาจนสติกับเข้าที่เข้าทางงั้นหรอ?
ท่านแม่เห็นอย่างนั้นก็ดีใจใหญ่ บอกจะไปห้องน้ำ ปล่อยให้ฉันคุยกับคาบุรากิ
นี่แค่เพื่อนร่วมชะตากรรมทะลุมิติเฉยๆค่ะ... ท่านแม่อย่าคิดอะไรไปเองสิคะ
“มีอะไรหรอคะ?” ฉันถาม หลังจากท่านแม่เดินจากไปแล้ว
คาบุรากิไม่ตอบ ยังจ้องมองฉันไปเรื่อยๆ นี่จะร่ายคาถามนต์ดำสาปแช่งอะไรฉันหรือเปล่าคะ
“นักษัตรตัวแรกที่เธอแต่งคืออะไร”
“หะ!?!”
คาบุรากิ นายเป็นบ้าอะไรคะ! มาโรงพยาบาลเพื่อมาถามเรื่องนี้กับฉันหรอคะ!? !
“ตอบมาสิ” เขาเร่ง
“เป็นหนูค่ะ...” ฉันลองบ้าจี้ตอบตาม หมอนั่นทำหน้าตายถามเรื่องแบบนี้ลงได้ไงคะ
ฉันเห็นคาบุรากิทำท่าทางโล่งอกอย่างที่สุด เอ๋?
“โชคดีไปนะ” เขาพูดแล้วตบไหล่ฉันอย่างอารมณ์ดี
“ทำไมหรอคะ?” ฉันนึกไม่ออกว่าสมองคาบุรากิคิดอะไรอยู่ ฉันโชคดีเพราะเริ่มแต่งตัวจากปีแรกของนักษัตร คือ ปีชวดงั้นหรอ?
“ไม่เข้าใจงั้นหรอ” หมอนั่นทำสีหน้าแบบฉันเป็นแค่เด็กน้อยที่ต้องอธิบายทุกอย่าง อย่ามาทำหน้าอย่างนั้นนะ ใครจะไปเข้าใจความคิดล้ำโลกของนายกันล่ะ!
“ฉันได้ยินว่าเธอถูกรถชน ฉันคิดว่าเธอทะลุมิติไปโลกอื่นแล้วซะอีก”
อ้อ ลืมเรื่องนั้นไปเลยค่ะ
คุยไปๆมาๆ ก็ได้รู้ว่าเขามาเยี่ยมยูกิโนะคุง แล้วยูกิโนะคุงบอกว่ารถของเขามาชนฉันน่ะค่ะ ฉันเดาว่ายูกิโนะยังไม่ได้อธิบายให้จบ หมอนี่ก็รีบวิ่งออกมาแล้ว เลยไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริงล่ะนะคะ
ฉันขอบคุณเรื่องข้อมูลท่านพี่กับเขาอีกครั้ง เขาหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อยแล้วรับคำ
พอฉันเตรียมจะบอกลา เขาก็พูดขึ้นมาว่า “คิโชวอิน คราวหน้าข้ามถนนหัดระมัดระวังบ้างนะ เธอไม่มีทักษะกลิ้งตัวหลบระดับทาคามิจิ ถ้าโดนชนจริงๆคงหนีไม่ทัน”
ควรบอกคนที่ขับฝ่าไฟแดงเกือบชนฉันมากกว่านะคะ...
“ค่ะ” ฉันตอบ ปกติก็ไม่ค่อยได้ข้ามถนนอยู่แล้วเท่าไหร่หรอกค่ะ มีรถรับส่งทุกที่ถ้าต้องการขนาดนั้น
“แล้วก็...ฉันดีใจนะที่เธอยังอยู่โลกนี้กับฉัน”
“เอ๊ะ...”
ทำไมเมื่อกี้นี่มันอะไรกัน ทำไมหัวใจฉันเต้นแรงขึ้นมา รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
ความรู้สึกนี้...อย่าบอกนะว่าฉัน...
ไหนๆก็มีฟิคเรย์กะxยูกิโนะ สลับเพศแล้ว เอ้อะะะ กูช็อคเพราะกูกำลังแต่งอยู่55555555555
งั้นรอบนี้เป็นมุมของยูกิโนะจังบ้างละกันเนาะ น่าจะเจ๊าๆกันได้อยู่
เมื่อฉันเปิดประตูออกไป ก็พบพี่ชายไม่คุ้นหน้า ไว้ผมหยักศก ท่าทางดูดีในเครื่องแบบของม.ปลาย ติดเข็มกลัดดอกโบตั๋นสีแดงเหมือนของท่านพี่
ใครกันน่ะ?
“สวัสดีค่ะ คุณพี่ม.ปลาย มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อฉันเอ่ยปากถาม สิ่งที่กลับมามีแต่ความเงียบ พี่ชายคนเดิมยังคงไม่ตอบคำถาม สายตาจ้องฉันนิ่ง ทำเอารู้สึกเริ่มอึดอัดคนแปลกหน้าขึ้นมา
“คุณพี่คะ?”
มีอะไรก็พูดสิคะ ชักเริ่มกลัวแล้วนะ
ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามายืนจ้องหน้าทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันทำเอารู้สึกอึดอัดจนบอกไม่ถูก
“อ๊ะ ขอโทษครับ พอดีคิดอะไรเพลินไปหน่อยก็เลยเหม่อๆ พี่นัดเจอกับซาวาราบิ มาโอะคุงที่อยู่ที่นี่ครับ พี่อยู่ม. 5 เป็นสมาชิก Pivoine ชื่อคิโชวอิน เรย์ครับ”
อ๋อ มาหามาโอะคุงนี่เอง ฉันพยักหน้าเข้าใจแล้วยิ้ม เริ่มผ่อนคลายความรู้สึกอึดอัดเมื่อกี้
“เชิญเลยค่ะ” ว่าพลางดึงมือของคุณพี่ชายเข้ามาในห้องเปอร์ติต์ มาโอะคุงที่ยืนอยู่ไม่ไกล พอเห็นคุณพี่คนนี้ก็ร้องเสียงดังใหญ่
“ท่านพี่เรย์!”
“มาโอะคุง”
ท่าทางสองคนนี้คงจะสนิทกันน่าดู พอพี่ชายคนนี้เข้ามา ซาวาราบิคุงก็ท่าทางดีใจและมีความสุขมาก รีบวิ่งเข้าหาทันที
เหมือนเห็นภาพสุนัขตัวเล็กๆวิ่งหาเจ้าของเลย เป็นภาพที่เห็นแล้วชื่นใจแปลกๆดีเหมือนกัน
พอทั้งคู่เริ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน ฉันก็ได้ทีผละตัวออกมาเพื่อไปเอาขนมหวานที่ห้องครัว ยังไงฝ่ายที่เข้ามาเยี่ยมคือแขกนี่นา ฉันหยิบเค้กมาไม่กี่ชิ้นและวางถ้วยชา กาน้ำชาวางบนถาด อื้ม น่าจะโอเคแล้วล่ะค่ะ
อุ๊ ทำไมมันหนักกว่าที่คิดล่ะคะ ดูไม่หนักขนาดนั้นแท้ๆ
พยายามจ้ำอ้าวเดินไปวางบนโต๊ะ มือที่ถือถาดเริ่มรู้สึกเจ็บเพราะความหนักของถาด ท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของพวกมาโอะคุง คุณพี่ม.ปลายก็หันมาเห็นพอดี
“ขอบคุณนะครับ ถือมาคนเดียวคงหนักแย่เลย”
“ไม่หรอกค่ะ แค่นี้สบายมาก เอ้า เชิญเลยค่ะ” ฉันพูดพลางซ่อนมือที่ดูเหมือนจะแดงเถือกเอาไว้ไปด้านหลัง
“อุตส่าห์ยกน้ำชามาให้ท่านพี่เรย์เหรอ ขอบใจมากนะ ยูกิโนะจัง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เรื่องแค่นี้ ใครๆก็ทำได้ค่ะ
“ยูกิโนะจัง? ชื่อยูกิโนะจังเหรอครับ?”
“ค่ะ หนูชื่อเอ็นโจ ยูกิโนะ ฝากตัวด้วยนะคะ คุณพี่เรย์” ฉันกล่าวแนะนำตัวพร้อมด้วยรอยยิ้ม น่าแปลก คุณพี่เรย์จู่ๆก็ดูนิ่งแข็งไปชั่วขณะ
“เอ่อ.. ยูกิโนะจัง เป็นอะไรกับท่านเอ็นโจ ชูสุกิหรือเปล่าครับ?” หมายถึงท่านพี่ชูสุกิน่ะเหรอคะ? ท่าทางคนคนนี้รู้จักท่านพี่ด้วย
“เอ็นโจ ชูสุกิเป็นพี่สาวของหนูเองค่ะ”
เอ๊ะ เมื่อกี้พูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ ทำไมคุณพี่ที่ตอนแรกยังยิ้มแย้มอยู่ดีๆ พอพูดถึงเรื่องท่านพี่ก็หน้าซีดเซียวขึ้นมา มันเลยทำให้ฉันยิ่งกังวลว่าคนคนนี้มีอะไรกับท่านพี่หรือเปล่า..?
“เอ่อ.. พี่สาวทำไมเหรอคะ?”
เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าฉันเริ่มซักไซ้ คุณพี่เลยเริ่มเปลี่ยนสีหน้าแล้วรีบเล่าต่อทันที
“เปล่าครับ พอดีผมอยู่ชั้นเดียวกับพี่สาวของยูกิโนะจัง เลยตกใจนิดหน่อย ไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านนเอ็นโจมีน้องสาวน่ารักแบบนี้ด้วย”
“จริงเหรอคะ?”
แล้วทำไมเมื่อกี้ตอนที่ฉันบอกว่าเป็นน้องสาวท่านพี่ชิสุกุ คุณพี่ถึงดูหวาดๆยังไงก็ไม่รู้
ท่านพี่ไปทำอะไรให้กับคุณพี่เรย์ลำบากใจหรือเปล่านะ
“พี่ยังเคยพูดคุยกับท่านพี่ในห้องสโมสรของ Pivoine อยู่บ่อยๆเลย จริงด้วย! ตอนเปิดเทอมฤดูหนาวยังเคยได้ถุงของฝากเป็นขนมจากท่านเอ็นโจเลยนะ”
“ของฝากจากท่านพี่?”
“ครับ รู้สึกว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกับป่าที่มีชื่อเสียงมา อร่อยมากเลยล่ะ”
“งั้นเหรอคะ”
ค่อยยังชั่วหน่อย แสดงว่าคนคนนี้สนิทกับท่านพี่พอดูเลยนี่นา
นอกจากท่านพี่มาซามิที่คบหาอย่างสนิทใจ ก็พึ่งรู้ว่ามีคนที่สนิทขนาดเอาของฝากไปให้ด้วย แทบไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
แสดงว่าคุณพี่คนนี้น่าจะเชื่อใจได้
“เอ่อ ขอหนูนั่งข้างๆได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ” ฉันเข้าไปนั่งพื้นที่ว่างข้างๆ มองคุณพี่เรย์ทานเค้กที่เตรียมมาอย่างชื่นใจ อื้ม ถ้าทานอย่างอร่อยก็ดีแล้วล่ะค่ะ ค่อยคุ้มกับที่ถือมาอย่างลำบากหน่อย
“อร่อยมากเลยครับ ขอบใจนะ ยูกิโนะจัง”
ไม่รู้ว่าเพราะคุณพี่ชายเขามีประสบการณ์อยู่กับเด็กบ่อยหรือเปล่า แต่อยู่ด้วยแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย.. เพราะงี้พวกมาโอะคุงกับยูริจังถึงได้ตามติดแจสินะ
“ค่ะ”
หลังจากนั้นพอฉันกลับบ้าน ก็เล่าเรื่องที่ได้เจอคุณพี่เรย์ให้ท่านพี่ฟัง ท่าทางท่านพี่ชูสุกิดูสนใจเหมือนกันที่คุณพี่เรย์ไปโผล่ที่เปอติต์
อ้าว ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนสนิทกันหรอกเหรอคะ?
ฟิคซ้อน 5555555
>>783-784 กรี้ดดดด ท่านพี่เลิฟค่ะปาหัวใจจจจจจจ กรี้ดดดด ยูกิโนะคุงโคตรน่ารักกูวกำลังสำลักความโชตะตาย โฮกกกก เอ็นโจวตอนนี้ไม่มีบทพูโเลย จ๋งจ๋านนนนนนนนนนนนนน
ส่วนท่านเรย์กะ ใจเต้นอะไรคะ มันเป็นอาการของคนเพิ่งพ้นจากความเป็นความตายค่ะ //โดนคาบุรากิกับเรย์กะตบ ว้าย ตอนนี้บากะรากิละมุนอีกแล้ว ทำแต้มเลยโว้ยยยยย เรย์กะใจเต้นตึกตักเลย แถมไม่มีอีเว้นท์ดับฝันตามมาแบบปกติด้วยก๊ากกกก
ฟิคนี้กูเชียร์คาบุรากินะ แต่ที่เชียร์มากกว่าคือฮาเร็ม !!!!!!!! เหมาาาา เอาให้หมด คาบุรากิ เอ็นโจว วาคาบะจัง ยูกิโนะคุงงงงง กรี้ดดด
เจอฟิคซ้อนต่อเนื่องกันรู้สึกสะดุดเบาๆ 5555
>>783-784 กรี๊ดดดดด คาบุรากี๊๊๊ ฟิคนี้ดีงาม พอรู้ว่ารถชนก็รีบวิ่งมาหาเลย ว้ายยยย //จะเบลอเรื่องมาถึงก็ทักเรื่องนักษัตรไปนะ ไม่มีเรื่องอื่นวิธีให้เช็คได้แล้วเรอะ!!?
>>785 ยูกิโนะจางงงงงงง "เหมือนเห็นภาพสุนัขตัวเล็กๆวิ่งหาเจ้าของเลย"<< นี่คือไร อย่าแอบเอสแบบพี่สาวซิจ้ะ 5555555
>>783-784 ดาเมจท่านพี่ดีต่อใจกุมาก และแล้วท่านพี่ก็จะกลับมาเป็นซิสค่อน 5555555555555555555
กุขำที่บอกว่าไปโรงบาลบ้าแล้วเจอแต่คนแบบคาบุรากิมาก นี่หลอกด่าได้เลวร้ายจริงๆท่านเรย์กะ คาบุรากิรู้นี่จะทำไงนะ
>>785 ยูกิโนะจังน่าร้ากกกก ฟิคนี้เป็นนางฟ้าสินะ ตอนแรกกุนึกว่าจะเป็นนางมารซะอีก แบบปีศาจน้อยวางแผนให้เรย์เข้าใกล้พี่สาวตัวเอง แต่แบบนี้ก็กิ๊บก๊าวน่ารักดี
แรงบันดาลใจจาก >>760
กุเองที่คิดพลอตไว้ใน >>764
เห็น >>769 อยากอ่านกุจัดให้
ปล.มีการสลับคำอ่านชื่อของแต่ละคนให้เข้ากับเพศ บางคนเลือกชื่อไม่ได้ ช่วยเลือกที
ฟิคสลับเพศเฉพาะกิจ
Ch. 100
งานออกร้านในงานเทศกาลโรงเรียนของห้องเราคือคาเฟ่สลับชายหญิง
ตอนแรกก็จะเอาเป็นคาเฟ่ธรรมดา แต่เจ้าชายชาร์มมิ่งของอิวามูโระจังเกิดเป็นที่ชื่นชอบกันขึ้นมาก็เลยกลายเป็นคาเฟ่แต่งหนุ่มไปอีกจนได้
แล้วก็กลายเป็นว่าพวกผู้ชายก็ต้องแต่งหญิง พวกผู้หญิงเลยต้องแต่งชุดพ่อบ้าน ผู้ชายแต่งชุดเมดกันไป
ชุดพ่อบ้านเหรอ... ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ถ้าจะแต่งทั้งทีก็อย่าเอาเป็นชุดพ่อบ้านธรรมดาเลย เอาเป็นแฟชั่นแบบสุภาพบุรุษผู้ดีอังกฤษดีกว่า พอผมเสนอไปทุกคนก็เห็นด้วยทันที อิวามูโระจังตาเป็นประกายเลย ไว้จะคำปรึกษาเรื่องชุดพ่อบ้านทีหลังนะ
ผมตั้งใจว่าจะทำงานเป็นคนเตรียมเมนูอยู่เบื้องหลัง แต่ซาโตมิจังประกาศว่า "ท่านคิโชวอินต้องทำงานข้างหน้านะคะ !" เลยต้องพลอยแต่งชุดเมดกับเขาด้วย
แต่ผมหน้าแมนๆออกอย่างนี้ ผมหยักโศกเป็นลอนมัดโลว์โพนี่เทลด้วย คงแต่งหญิงไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่หรอกมั้ง
*ทรงผมเรย์กะที่ว่า http://imgur.com/a/GfB3H ถ้าเป็นผู้ชายฝรั่งเศสสมัยก่อนแล้วดูดีๆหน่อยเราว่าทรงนี้อะ*
พอลองดูตัวเองที่แต่งชุดเมดในกระจก ก็ดูไม่ค่อยสมหญิงเท่าไหร่จริงๆ ด้วย จะลองใส่วิกผมดีไหมน้า หืม แต่ถ้าเข้าไปยืนในหมู่พวกหญิงสาวแต่งหล่อที่ดูเกย์ๆ หน่อยก็คงไม่มีใครมาสนชุดเมดของผมแล้วล่ะ ช่างมันเถอะ
ระหว่างที่ครุ่นคิดแบบนั้น ซาโตมิจังก็ยื่นที่คาดผมติดหูสัตว์มาให้ผม
"นี่อะไรครับ"
"หูแกะไงล่ะคะ เมดหูแกะ น่ารักดีออกนะคะ ท่านคิโชวอินต้องลองใส่ให้ได้เลยนะ อ๊ะ ไม่ต้องใส่วิกผมหรอก นั่นมันเอกลักษณ์ของท่านคิโชวอินเลยนะคะ ผมหยักลอนนุ่มนิ่ม แบบนี้ก็ดูเป็นน้องแกะดีออกค่ะ"
คร้าบ ผมลองสวมหูแกะลงบนหัว สัตว์อีกแล้วเหรอ... แต่ว่า
"แค่หูอย่างเดียวหรอครับ"
"ค่ะ ทำไมเหรอคะ"
"ตอนวิ่งแข่งแฟนซี คุณคาบุรากิตำหนิผมว่าทำไมใส่แต่หูหนูไม่ยอมติดจมูกมาด้วยล่ะ น่ะครับ"
"เอ๋... ต่อให้เป็นดิฉันก็ไม่กล้าขอให้ท่านคิโชวอินติดจมูกแกะหรอกนะคะ"
"ผมก็ว่าคงหายใจลำบาก ไม่อยากติดหรอกครับ"
"...งั้นครั้งนี้เอาเป็นหูอย่างเดียวละกันค่ะ"
"ตกลงตามนั้นครับ"
"ค่ะ !"
ซาโตมิจังทำให้ผมเป็นแกะด้วยรอยยิ้มแสนสดใส
"ก็ท่านคิโชวอินเป็นแกะที่สวมหนังหมาป่านี่นะ เหมาะเลยล่ะค่ะ" เธอว่างั้น นี่ ซาโตมิจัง รูปลักษณ์ผมนี่น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ
ผมจ้องเงาตัวเองในชุดเมดติดหูแกะในกระจกเขม็ง
จะไหวแน่หรือเปล่านะเนี่ย ตัวผม หรือว่าผมกำลังจะถลำลึกลงไปในทิศทางที่แปลกประหลาดแซงหน้าอิวามูโระจังไปแล้ว ผมควรเป็นคุณชายฝรั่งเศสแท้ๆ ไหงพลิกมาอยู่บนเส้นทางขายหัวเราะได้ล่ะ หรือว่าผมแค่คิดมากไปเองนะ
อิวามูโระจังมาปรึกษาผมเรื่องชุดพ่อบ้านสไตล์สุภาพบุรุษอังกฤษเรียบร้อยแล้ว หลายเรื่องเลยล่ะ จะใส่วิกผมสั้นหรือมัดผมดี เป็นกางเกงเอี๊ยมขาสั้นแบบคุณหนูหรือว่าใส่เสื้อสูทหางยาวกับโบว์หูกระต่ายดี แล้วต้องใส่สายรัดหน้าอกให้แบน หรือเปล่า
ความร้อนแรงที่อิวามูโระจังมีให้ชุดพ่อบ้านน่ะไม่ธรรมดาเลยล่ะ ไม่ยอมทำแบบขอไปทีเด็ดขาด
สุดท้ายก็เลยเอาเป็นใส่สูทหางยาว ส่วนที่เป็นผมก็มัดโลว์โพนี่เทลเอา(มัดรวบต่ำแบบทรงเรย์กะ) รู้สึกว่าผมทรงนั้นดูคุ้นๆชอบกลนะ... เหมือนทรงผมของผมหรือเปล่า? แต่ผมของผมก็ไม่ได้เป็นลอนขนาดนั้นหรอกนะ
"หลงไหลในทรงผมแบบชายหนุ่มฝรั่งเศสของอาจารย์มานานแล้วฮะ...."
อิวามูโระจังเกาต้นคอหนาอย่างเอียงอาย รู้สึกว่าอิวามูโระจังจะไปไกลเกินกว่าจะกลับมาแล้วนะ ต้องขอโทษทางคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ
แล้วผมก็จำไม่เคยได้เลยนะว่าไปเป็นอาจารย์หรือไปรับลูกศิษย์ไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่าเข้าใจผิดเชียวนะ อาจารย์ของเธออยู่ที่ชมรมยูโดโน่น
แต่ผมก็ช่วยแต่งผมให้อิวามูโระจัง จะได้เป็นพ่อบ้านหล่อๆ
ครั้งนี้พอมีเวลาผิดกับตอนวิ่งแข่ง ผมก็เลยติดเคราอ่อนๆให้ด้วย จะลองใส่หนวดด้วยดีไหมนะ
อื้ออื้อ อิวามูโระจัง หล่อมากเลยล่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ต่อ
---------------------------------------------------------------------------------------------
คาเฟ่ในห้องผมคนแน่นแต่เช้า
พวกผู้หญิงที่ตอนแรกโวยวายว่าไม่อยากทำ-- พอได้แต่งตัวชุดพ่อบ้านเข้าก็เริ่มค้นหาความหล่อเหลาในเส้นทางของตัวเองกันใหญ่ สุดท้ายแล้วก็ได้ผลงานที่ ไฮควอลิตี้สุดๆ หรือว่ามีสาวน้อยอยากแต่งหล่อมากกว่าที่คิดกันนะ
พวกเราเหล่าเมดก็เลยกลายเป็นผู้ช่วยพวกพ่อบ้านไป "คาเฟ่แกะดอลลี่" ของพวกเรามีให้เลือกระบุตัวหนุ่มเสิร์ฟได้ด้วย คุณพ่อบ้านที่ขายดีก็เลยยุ่งมากๆ เลยล่ะ
รู้สึกว่าชื่อร้านนี่จะมาจากเมดหูแกะกับพ่อบ้านรูปแกะสลักเทพบุตร แต่ไหงคนที่ติดหูแกะมีแค่ผมคนเดียวล่ะ
แล้วคาเฟ่แกะดอลลี่ก็ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตัดต่อยีนด้วยนะครับ
มีคนระบุชื่อผมด้วยล่ะ
คนที่เรียกผมไปเป็นคนแรกก็คือรุ่นพี่โทโมเอะ
"รุ่นพี่โทโมเอะ ! ยินดีต้อนรับครับ !"
"มาแล้วนะ ท่านคิโชวอิน หูน่ารักจังเลยนะคะ เป็นเมดเลยต้องเป็นแกะเหรอ"
"รู้สึกจะอย่างงั้นนะครับ..."
หูแกะนี่แปลกหรือเปล่านะ แต่ก็ป่านนี้แล้ว
"งั้นคุณแกะ ขอเซ็ทเค้กรัมเรซิ่นหน่อยสิคะ"
"ครับ รอสักครู่นะครับ"
ผมรีบไปบอกออเดอร์ของรุ่นพี่โทโมเอะให้ทางด้านหลัง
รุ่นพี่โทโมเอะอุตส่าห์มาหาด้วยเหรอเนี่ย ดีใจจัง ! หึหึ ได้รับคำว่าหูแกะน่ารักด้วยล่ะ !
รู้สึกเหมือนจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยล่ะ !
จากนั้นเพื่อนห้องอื่นก็แวะมาเที่ยวบ้าง โดนอากิดะ/อากิคารานาชิ/ริริอิคัน/ริริดะ/ริริได/ริริไน(ชื่อริรินะดัดแปลงคำอ่านเลือกเอาสักชื่อละกันนะ)จิกหัวใช้งาน "เมดพิลึกคนนั้นน่ะ รีบๆ ไปยกชามาซิ !" บ้าง ผมก็ยุ่งพอตัวเหมือนกันนะ แต่ก็ยังแพ้อิวามูโระจังสุภาพบุรุษผู้ดีที่ฮ็อตสุดๆ
ซาโตมิจังยังอุตส่าห์ชมว่า "สมเป็นท่านคิโชวอิน ! ตัวเรียกแขกเลยล่ะค่ะ !" (เป็นเราจะนั่งร้านนี้ทั้งวันเลย...)
พรุ่งนี้จะเป็นวันที่แขกภายนอกมาเยี่ยมชมได้ด้วย สู้เขา!
ตอนว่างๆ ผมก็แวะไปส่องชมรมงานฝีมือ (ชมรมงานฝีมือที่ผู้ชายเต็มชมรมและมีหญิงเพียงหนึ่งเดียว)
ชมรมงานฝีมือจะทำชุดแต่งงานทุกปี ปีนี้ก็เริ่มปรึกษาเรื่องดีไซน์กันตั้งแต่เดือนเมษา ผลงานจากความอุทิศตนของทุกคนถูกประดับไว้กลางห้อง
ชุดได้รับการเย็บปักอย่างปราณีตจนถึงชายกระโปรง เป็นผลงานที่ออกมาเลิศเลอจนไม่คิดว่าเป็นฝีมือนักเรียนม.ปลายเลย (ผู้ชายชมรมนี้แม่ศรีเรือนกันจริงๆ ถถถถถ)
ผมเองก็เป็นสมาชิก (ปลอม) ของชมรมคนหนึ่ง ได้ช่วยทำดอกกุหลายสำหรับบูเก้ดอกหนึ่งด้วยล่ะ ผมแค่จ้องมองคนเขาเย็บชุดเดรสกันเขม็งเงียบๆ แค่นั้นเองนะ เขาก็มาขอให้ช่วยแล้ว ไม่ใช่ว่าผมไปกดดันอะไรเขาหรอกนะ
มีแขกแวะมาดูผลงานหลายคน หัวหน้าห้องยืนอยู่ตรงหน้าชุดเจ้าบ่าวข้างๆชุดเจ้าสาว ทำตัวเป็นหนุ่มน้อยที่กำลังเคลิบเคลิ้ม
"หัวหน้าห้องก็อยากใส่ด้วยหรอครับ"
"หวา ! ท่านคิโชวอิน !"
พอผมส่งเสียงทักจากข้างหลัง หัวหน้าห้องก็สะดุ้งเฮือกหันขวับมา
"ดิฉันไม่ได้มีรสแบบนั้นนะคะ แค่คิดว่าเท่จังเลย แค่นั้นเอง"
"หืม แสดงว่าจินตนาการถึงคนใส่อยู่สินะครับ"
"พูดอะไรเนี่ยคะ แหม แย่จังเลย~"
หัวหน้าห้องหนุ่มน้อย(แต่เป็นหญิง)ยิ่งหน้าแดงขึ้นทุกที งั้นเหรอๆ ขอให้สมปรารถนาในเร็ววันนะ
แล้วอิวามูโระก็เข้ามาด้วย มาเคลิ้มอยู่ต่อหน้าชุดเจ้าบ่าวเหมือนกันเลย
หัวหน้าห้องหนุ่มน้อยกับชมรมยูโดหนุ่มหล่อ เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์สายบิโชโจด้วยกันได้นะ (บิโจโชเกม แปลว่าเกมสาวน้อยน่ารักสามารถเป็นคำเรียกเกมจีบสาวได้)
---------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ต่อ 2
---------------------------------------------------------------------------------------------
วันรุ่งขึ้น "คาเฟ่แกะดอลลี่" ก็คนแน่นอีกเช่นกัน
วันที่เปิดสาธารณะเป็นระบบตั๋ว จึงมีแต่ผู้เกี่ยวข้องกับนักเรียนเท่านั้นที่จะเข้ามาได้ ยัยบ้าหมาขอว่า "ต้องเชิญไปด้วยนะ !" แต่ผมเกรงโดนยัยนั่นมาเรียกเป็นหมาถึงในโรงเรียนเลยปฏิเสธไปอย่างสุภาพ
แล้วถ้าเห็นผมติดหูแกะ เธออาจจะตีขลุมเอาว่า งั้นหูหมาก็โอเคสินะ ! ก็เป็นได้ แค่นี้ตอนอยู่โรงเรียนผมก็ต้องทำเหมือนหมาเฝ้าฝูงแกะจะแย่แล้ว ไม่เอาด้วยหรอกนะ
ส่วนโรงเรียนของอาโออิคุงก็จัดงานโรงเรียนซ้อนกันพอดี เลยชวนมาไม่ได้ น่าเสียดายจัง ในตอนนั้น ก็มีคนเรียกผมออกไปเสิร์ฟ
"โยวคุง !" (เอาคำอ่านชื่อซากุระมาเปลี่ยนตัดโกะออก)
โยวคุงมากับอาคิสะวะจังด้วยล่ะ
"สวัสดีครับ ท่านไรเกะ" (ชื่อท่านเรย์กะเปลี่ยนคำอ่าน)
"สวัสดีค่ะ ท่านคิโชวอิน โยวบอกว่าอยากมาก็เลยพามาน่ะค่ะ"
อาคิสะวะจังพาหนุ่มมาด้วย พวกหญิงแต่งพ่อบ้านเลยพากันซุบซิบกันใหญ่
"ท่านไรเกะ แต่งชุดเมดเหมาะมากเลยนะครับ หูนั่นก็เป็นเอกลักษณ์ดีจัง"
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ตาโยวคุงกำลังหัวเราะอยู่ชัดๆ ชิ
ซาโตมิจังแว้บออกมาจากด้านหลัง
"ท่านฟุคิโอกะ ยินดีต้อนรับค่ะ วันนี้มาเที่ยวงานกับอาคิสะวะจังเหรอคะ"
"ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ซาโตมิจัง มาเพราะอยากเห็นท่านไรเกะแต่งชุดเมดน่ะครับ"
"งั้นเหรอคะ สนิทกับท่านคิโชวอินเหรอคะเนี่ย"
"ครับ เป็นเพื่อนกับท่านไรเกะมาตั้งแต่สมัยประถมน่ะครับ"
ผมตะหงิดๆ มาซักพักแล้วนะ โยวคุง ไหงไม่เรียกชื่อผมห้วนๆ เหมือนเดิมล่ะ แล้วรอยยิ้มแบบผู้ดีนั่นมันอะไรกันน่ะ
ได้ยินเสียงกระซิบจากหมู่สาวพ่อบ้านมาว่า "สุภาพบุรุษ" "โชกุนผู้เพียบพร้อม" ยอดไปเลยนะโยวคุง หนังจิ้งจอกนายเนี่ยมันระดับจิ้งจอกเก้าหางเลยนะ
จากนี้ไปพวกโยวคุงจะไปเดินดูงานโรงเรียนต่อ ยังไงซะเป้าหมายของโยวคุงคือให้คนในซุยรันรุ้ถึงตัวตนของตัวเอง จะได้เป็นการปรามพวกผู้ชายที่จะเข้าใกล้อาคิสะวะจังไว้ ใช่ไหมล่ะ อาคิสะวะจังที่ไม่ได้ตระหนักถึงกงเล็บจิ้งจอกเก้าหางเลยนี่ก็ช่างมีความสุขจริงๆ นะ
---------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง สั้นหน่อยนะ ข้างล่างยาวหั่นไม่ได้
ต่อ 3
---------------------------------------------------------------------------------------------
พอเข้าช่วงบ่ายได้ซํกพัก จู่ๆ ที่ทางเดินก็เกิดเอะอะกันขึ้นมา กำลังนึกสงสัยอยู่ จักรพรรดินีกับเอ็นโจก็เดินเข้ามาใน "คาเฟ่แกะดอลลี่" ! ตามมาด้วยท่านยูริไค(เปลี่ยนคำอ่านชื่อยูริเอะ)และท่านมานาระ/โอชิมูระ/อิโตวชิมูระ/อาชิระ/เอระ/เมกุระ/โยชิระ !(เปลี่ยนคำอ่านชื่อท่านไอระ เลือกเอาสักชื่อละกัน) แล้วก็ท่านไมฮามะที่เจอกันเมื่อฤดูร้อน
คนทั้งหมดอึ้งกับแขก VIP ที่ปรากฏตัวโดยไม่คาดหมาย ดูเหมือนจะไม่ได้ระบุตัวใครเป็นพิเศษ ผมเลยออกไปรับออเดอร์
"ไรเกะคุง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน"
ท่านมานาระ/โอชิมูระ/อิโตวชิมูระ/อาชิระ/เอระ/เมกุระ/โยชิระ(เลือกเอานะมึง)ร้องทัก ผมเองก็ทักทายทุกท่าน
"ท่านคิโชวอิน ต่อจากหนูก็เป็นแกะเหรอคะ ทุกคนฮือฮากันใหญ่เลยนะคะ"
เอ็นโจพูดแล้วก็หัวเราะพร้อมเอามือป้องปาก
"แล้วจมูกแกะล่ะไปไหน"
ยัยคาบุรากิยังจะย้ำอยู่นั่นแหละ
พอตอบไปว่า "เอามาติดจมูกแล้วมันหายใจไม่ออกครับ" ยัยนั่นก็ว่า "หาทางพัฒนาหน่อยซี่" พัฒนาอะไรล่ะฮึ
"ท่านไรเกะเนี่ยเป็นถึงคุณชายตระกูลคิโชวอินแท้ๆ แต่ช่างแต่งตัวประหลาดดีจังเลยนะครับ"
สงสัยจะเคืองที่คาบุรากิมาคุยกับผม ท่านไมฮามะเสยผมพลางแซะผมแรงๆ
"เอมะ ขอโทษนะ ท่านไรเกะ"
ท่านยูริไคปรามท่านไมฮามะ ส่วนท่านไมฮามะก็ค้องว่า "หืม ~ท่านพี่ยูริไคนี่ล่ะก็~"
"ทั้งแต่งแฟนซีทั้งอดอาหาร ท่านไรเกะเนี่ยทำอะไรแปลกๆ เรื่อยเลย"
ท่านไมฮามะหัวเราะหึหึ อย่าเอาเรื่องอดหารมาประจานตรงนี้เซ่ !
"นี่เป็นการวิจารณ์ท่านพ่ออายะ/อากานะ(ชื่อมาซายะเปลี่ยนคำอ่าน)คนต้นคิดโปรเจคต์นี้หรือเปล่าคะ ไว้ดิฉันไปบอกคุณอาให้เอาไหมคะ"
เอ็นโจพูดอย่างยิ้มแย้ม ท่านไมฮามะรีบลนลานกลบเกลื่อน ไอ้บ้าเอ๊ย แล้วก็เอ็นโจยัยคนเจ้าเล่ห์ พูดได้ดีมาก
รับออเดอร์เสร็จแล้วกลับเข้าไปข้างหลัง โต๊ะนั้นก็ยังเป็นที่จับตามองจากทุกมุมในคาเฟ่
ท่านไมฮามะนั่งข้างคาบุรากิ ชวนคุยโน่นนี่ ส่วนคาบุรากิก็ตอบแบบขอไปที ส่วนท่านยูริไคกับท่านมานาระ/โอชิมูระ/อิโตวชิมูระ/อาชิระ/เอระ/เมกุระ/โยชิระ(เลือกเอานะมึง)วิจารณ์สาวพ่อบ้านกันอย่างสนุกสนาน
ที่ซุยรัน การมาเต๊าะกับคาบุรากิอย่างออกหน้าออกตาหมายถึงการประกาศตัวเป็นศัตรูกับหนุ่มๆ ค่อนโรงเรียน บรรยากาศในคาเฟ่เริ่มทวีความมาคุขึ้นทุกที รู้สึกถึงสายตาฆ่าฟันจากบรรดาหนุ่มๆ ข้างนอกคาเฟ่ด้วย ท่านไมฮามะยังส่งรอยยิ้มผยองชัยชนะกลับไปให้ได้ด้วยนะ น่ากลัวชะมัด ! (นายมันใจป๊อดไรเกะ!)
"ท่านคิโชวอิน เอ้านี่"
ซาโตมิจังส่งชามาให้พร้อมกับคุกกี้รูปแกะที่เป็นบริการพิเศษเฉพาะลูกค้าผู้ชาย
ผมวางชาลงตรงหน้าแต่ละคน สำหรับท่านยูริไคและท่านมานาระ/โอชิมูระ/อิโตวชิมูระ/อาชิระ/เอระ/เมกุระ/โยชิระ(เลือกเอานะมึง) เป็นบัตเตอร์คุกกี้แกะสีเหลืองทอง ส่วนท่านไมฮามะเป็นคุกกี้แกะดำ
คุกกี้แกะดำเป็นของที่มีไว้เสิร์ฟลูกค้าพิเศษเท่านั้น รีบๆ กลับไปซะ ไอ้ตัวอัปมงคล !
ก่อนกลับ ท่านมานาระ/โอชิมูระ/อิโตวชิมูระ/อาชิระ/เอระ/เมกุระ/โยชิระ(เลือกเอานะมึง)ทำหน้าลำบากใจขอโทษว่า "ทำให้เสียอารมณ์กันไปหมด ขอโทษนะ ไรเกะคุง" ทั้งที่ท่านท่านมานาระ/โอชิมูระ/อิโตวชิมูระ/อาชิระ/เอระ/เมกุระ/โยชิระ(เลือกเอานะมึงกุใส่ครบทุกชื่อแบบนี้บ่อยๆชักเริ่มตะหงิด+ฮาแล้ว)ไม่เห็นจะต้องมารับผิดชอบเลย ส่วนคาบุรากินั้นโดนท่านไมฮามะพันพันแทบจะสิงร่างกลับออกไปด้วยใบหน้าเซ็งๆ แล้ว
อิวามูโระจังมายินข้างๆ ผมที่เหนื่อยแฮ่ก
"ผมยังดัดลอนรวบได้ครึ่งๆ กลางๆ อยู่เลย ไม่ได้เศษเสี้ยวของอาจารย์หรอกฮะ"
....อื้อ ขอบใจนะ อิวามูโระจัง
---------------------------------------------------------------------------------------------
หมดละ อาจจะมีคนไม่ชอบนะ แต่กุทำเองสนุกเองว่ะ 555555
กุขอโทษที่ไม่ได้ให้อิวามูโระจังหรือท่านเรย์กะชายใส่ชุดซินเดอเรลล่า กุแค่สลับเพศเฉยๆ บทคงเดิม
ขอโทษเพื่อนโม่งที่รอด้วย กุไม่นึกว่ามันจะนานขนาดนี้
เพิ่งมาอ่านตอนเช้า ชอบฟิคสลับเพศจังน้าาาา สนุกมาก ให้ภาพลักษณ์ใหม่ๆเลย ฮ่าฮ่า ขอบคุณเหล่าโม่ง
แปลไทยตอนใหม่อ่านกันยังงงง กูคิดถึงท่านอิมาริ หลังจาก'ซักพัก'แม่งน่ากลัวยังไงไม่รู้ คิดว่าท่านเรย์กะต้องแต่งตัวในงานเลี้ยงจัดเต็มแน่ๆ อีกอย่างคือ เจอคาบุกับเอ็นโจตอนท้ายด้วย ดีที่พรุ่งนี้จะได้อ่านต่ออีกวัน
ตอนล่าสุดอ่านแล้วก็คิดถึงที่คุยยกันก่อนหน้านี้ว่าอิมาริปกติสุดในเรื่อง... นี่ไม่ใช่ว่าจริงๆแล้วพี่ปกเอ็มสุดในเรื่องใช่มั้ย 555555555 เป็นคาสโนวาที่อันตรายจริงๆ เส้นชีวิตยังยาวอยู่ใช่มั้ย
ท่านอืมารินานๆจะมีบททีก็สาวๆล้อมกาย พูดแต่ละอย่างทำเอาสาวน้อยเคลิ้มไปไกล ไม่แผลกที่เรย์กะจะมีภูมิคุ้มกันคนจีบจนหักธงสนุกสนานเนี่ย
ชื่อแต่ล่ะคนแบบสลับเพศนี่ เคยมีคนแต่งฟิคก่อนหน้าไว้ล่ะ
เรย์กะ - เรย์ หรือจะ เรย์กิ ดีกว่า?
มาซายะ - มาซาโยะ
ชูสึเกะ - ชูกะ
ทาคาเทรุ - ทาคาโกะ
ริรินะ - ริน
วาคาบะ - วาคากิ
กูอ่านแปลไทยตอนล่าสุดมาแล้ว สงสัยว่าที่มุมปากริรินะกระตุกนี่ใช่เพราะความดีใจแน่เหรอวะ ปรกติคนเราจะมุมปากกระตุกด้วยความเหวอไม่ใช่เรอะ แถมตอนก่อนๆ ริรินะยังระแวงท่านอิมาริอยู่เลย เรย์กะ misleading รึเปล่าวะ
>>800 นับถือความจริงจังในการแปลงคำอ่านชื่อของมึงจริงๆ สนุกดี แต่ไม่รู้ทำไมพอแปลงเพศแล้วดันอวยซาโตมิจังแทนล่ะวะเนี่ย5555555 เอ็นโจหญิงน่ากลัวเกิน...
แต่งมาอีกนะะ เนียตะนี่ของโปรดกุเลย555
>>806 ที่เคยคิดไว้
เรย์กะ - เรย์โตะ
มาซายะ - มาซายุกิ
ชูสึเกะ - ชูสึกะ
วาคาบะก็วาคาบะต่อไป กุว่ามันใช้กับผชได้อยู่แล้วแฮะ ส่วนคนอื่นไม่ได้คิดไว้อะ
ยูริเอะ ก็ยูริโอะ
ไอระ แค่ไอเฉยๆก็ยังได้
ไม่ต้องเปลี่ยนรูปคำหรอก เอาจำง่ายๆอะ ไม่งั้นเวลาอ่านจะงงนะ ไอ้นี่ใครวะงี้...
800เม้นท์แล้ว เสนอชื่อกระทู้หน้ากันด้วยยย
แหม อิมาริชมว่าแต่งตัวสวย ดันบอกศรรักปักอก ทีเอ็นโจชมดันไม่มีปฏิกริยาซะงั้น หรือเอ็นโจต้องไปติวกับหัวหน้าหมู่บ้านคาสโนว่าก่อน ถึงจะทำเรย์กะวี้ดว้ายได้
ขำสปอยท้ายตอนชิบหาย อิมาริระวังเส้นชีวิตเอาไว้ล่ะ อย่าหาว่าท่านพี่ไม่เตือน ถถถถถถถถถถถถถถถ
อิมารินี้เดี๋ยวได้ห่ายไปสักพักเพราะโดนแทงจริงๆหรอก โดนท่านพี่แทงแน่ๆถ้ารู้ว่าชมเรย์กะแบบนี้5555
เอ็นโจรีบเข้ามาเพราะทนเห็นเรย์กะอยู่กับอิมาริไม่ได้ใช่มั้ย ว้ายยยยย
อยู่กับอาคิมิที่ท้วมแล้วสบายใจ 55555 ท่านเรย์กะ V๊oice-----(ว๊อย)
ท่านเรย์กะหาเพื่อนที่อ้วนๆเหมือนกันใช่ไหม แต่จริงๆเรย์กะไม่น่าอ้วนขนาดนั้นนะ
ลดแล้วไม่ใช่หรอ? แฟนอาร์ตก็หุ่นดีทุกภาพ กินไปเลยท่านเรย์กะ เอาให้สะใจ----
ท่านอิมาริต่อไปคนแทงคงจะไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นท่านพี่แล้วค่ะ "ยุ่งกับน้องตรูหรอ?!"
ท่านพี่นี่แหละจะเป็นคนตัดเส้นชีวิตท่านอิมาริ
หลายครั้งเวลาเห็นท่านอิมาริมีบทหรืออยู่ในฟิค คนจะเม้นสื่อความหมายราวๆว่า อิมาริตายแน่มึงงงง ซึ่งไม่ใช่การแช่งแต่ทุกคนคิดว่าท่านพี่จัดการแน่ๆ 55555
#ว่าจะแต่งฟิคสลับเพศตอนไหนสักตอนอีกหรือจะดำนำชื่อต่อดี #พวกมึงอยากให้ทำอะไรไหมในสองอย่างที่กุพูดมา
#อยากให้แต่งสลับเพศChไหนเสนอมาก็ได้นะ #หรืออยากให้ดำนำชื่อใคร
#จริงกุเก็บข้อมูลตัวละครอยู่แต่เก็บได้ถึงตอนCh3ก็อู้ละมันเยอะ 5555
อ่านตอนล่าสุดกูสะดุดมาก เส้นลายมือเปลี่ยน ทำไมต้องเปลี่ยนประเด็นนี้สำคัญมาก เปลี่ยนเพราะผู้หญิงทำด้วยหรือมันเป็นลางบอกเหตุว่าจะไม่มีวันได้คู่สาวๆ และตกบ่วงท่านพี่ แค่กๆๆๆๆ
กลับไปอ่านอีกรอบ อิมาริชมสาวอีกคนไปหยกๆ ผละไปชมน้ำหอมสาวอีกคนได้ไหลลื่นไม่มีติดขัด แล้วก็ชมชื่อสาวอีกคน บทจีบแพรวพราวจริงๆว่ะ
เรย์กะยังไม่รู้ตัวสินะ ว่าเอ็นโจเขาชมเธอคนเดียว ไม่ได้หว่านไปทั่วแบบเนรรรรรรรร้
เออ จะว่าไปฟิคสลับเพศ
ไม่ใช่เข้าคอร์สลดน้ำหนักซิ! ท่านพ่อ(แม่)น่าจะชวนไปเข้าคอร์สฟิตกล้ามสร้างซิกซ์แพคไรงี้มากกว่าเปล่า 5555555
ชมรมงานฝีมือที่มีสาวน้อยคนเดียว แล้วเย็บชุดแต่งงานกันนี่โคตรทะแม่งๆเลย...
โหมดเจ้าแม่กาลีนี่จะกลายเป็นดีอิศวรเทพ? อาชูรา? มาร์ส?
(แต่ตอนที่ประชุมงานโรงเรียนแล้วฟาดฟัดหัวหน้าชมรมทั้ง3นี่ จะโดนว่ารังแกผู้หญิงมั้ยเนี่ย 5555)
จริงๆ ถ้าเป็นเกมจีบสาวนี่เรย์กะน่าจะเป็นคาแรคเตอร์จีบง่ายนะ เวลาอยู่กับคนอื่นดูใจอ่อนง่ายชิบ แค่ให้ของกินหรือพูดหวานๆ แบบ บอบบางเหมือนจะปลิว นางก็ใจสั่นแล้ว ทำไมพอเป็นท่านจอมมารแล้วใจแข็งละเกินโว้ยยยยยยยย
ถ้าเป็นฟิคมะหมา กุว่าท่านอิมาริต้องเป็นโกลเด้น รีทีฟเวอร์ อิมาเด้น? โกลมาริ?
พวกมึงว่าท่านอิมาริควรเป็นหมาพันธุ์วะ
อิมาริเป็นโกลเด้นรีทีฟเวอร์
ท่านพี่เป็นเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก?
ลืมบอกไป โม่งแปลลงต่อกัน2วัน กุฟินมาก รักมึงงงงง ขอบคุณนะมึง จูบที
>>843 อือ เหมือนกันน ชอบมาก เด็กๆป้าเลี้ยงไว้ก็ชอบพามาบ้านเรา เราชอบขี่หลังแล้วมู่ตู้ก็พาวิ่งรอบบ้านเลย ตอนนั้นรักมากๆ แต่มันก็ตาย เหมิอนไม่สบายเพราะหมาจรจัดแมวจรจัดแถวบ้านกัดมันอ่ะ โตมาเลยกลายเป็นคนไม่ค่อยชอบพวกหมาแมวไปเลย แต่ถ้าน่ารักๆก็ยอมนะ
ไซซายะนี่เอ็นดู55555555
ชื่อกระทู้หน้าเอาไง ดูทรงแล้วไม่น่าจะเกินวันนี้
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรวาลกาวแห่งความเวิ้งว้าง มิติที่7
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจรวดทะลุมิติพิศวง ลำที่ 7
ฮาเร็มของเจ้าเเม่เรย์กะวงนํ้า(กัญชา)ซุยรันกับแลนมาร์คที่ชื่อว่าคานทอง คานเจ้าแม่ที่7 โทษๆๆ5555555555
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโรงเรียนแห่งนก นกครั้งที่7
>>861 เราว่าของ >>853 กับ >>855 ก็ฮาดีนะ 5555555555555
(เราคนเสนอชื่อ2.เองขอบคุณที่แก้ตัวเลขให้ 5555)
กุมีข้อสงสัยจากCh.4
'เพราะว่าท่านแม่ดั้งเดิมมาจากเกียวโตและไม่ได้เข้าเรียนที่ซุยรัน เธอถึงได้แสดงออกเป็นกรณีพิเศษกับเรื่องของโรงเรียนซุยรันและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกลุ่มPivoine'
มีความเป็นไปได้ไหมว่าซุยรันจะไม่ได้อยู่เกียวโต เราตัดออกไปได้1จังหวัดใช่ไหม? แล้วซุยรันนี่ดังไปถึงเกียวโตเลยหรอ ท่านแม่ถึงปลื้มนักหรือปลื้มหลังย้ายมาจากจังหวัดบ้านเกิด
ทุกคนคิดว่าซุยรันนี่อยู่จังหวัดอะไรในญี่ปุ่น? เราว่าอาจจะเมืองหลวงโตเกียว หรือมันมีเฉลยแล้ว?(เราเพิ่งย้อนกลับมาอ่านให้ละเอียดถึงตอนแรกๆเอง)
'เธอบอกว่าภูมิใจเป็นที่สุดที่ลูกสาวของเธอได้เป็นนักเรียนของซุยรันและที่ยิ่งกว่านั้นคือได้เป็นสมาชิกของPivoine'
'เมื่อไหร่ก็ตามที่มีเรื่องของPivoineขึ้นมาเธอจะดูมีความสุขเหมือนอย่างในตอนนี้'
ท่านพี่ทาคาเทรุก็เป็นนักเรียนซุยรันแถมอยู่Pivoineไม่ใช่หรอ ทำไมพูดถึงแต่ลูกสาว เป็นไปได้ไหมว่าความสัมพันธ์ระหว่างท่านพ่อท่านแม่กับท่านพี่จะไม่ค่อยสนิทหรือใกล้ชิดกันเท่าไหร่?
>>863 ซุยรันนี่น่าจะอยู่โตเกียวป่ะ เห็นบทที่สองก็บรรยายไว้ว่าอยู่เมืองหลวง ถ้าเป็นโรงเรียนเอกชนที่หรูไฮโซมีระดับมหาลัยด้วยก็น่าจะดังไปทั่วประเทศนะ
ส่วนท่านพ่อท่านแม่ก็ดูภาคภูมิกับท่านพี่ทาคาเทรุดีอยู่นะ ตอนท่านพี่หอบช่อดอกไม้มางานจบการศึกษาของเรย์กะ ท่านแม่ยังทำท่าปลื้มๆ เลย
ท่านพี่ก็แลดูเป็นห่วงท่านพ่อที่โดนลูกสาวสุดที่รักรังแกด้วย 5555555 ก็น่าจะสนิทกันดี แค่ไม่ค่อยพูดถึงเพราะโตแล้ว ไม่ต้องน่าห่วงมากเหมือนเรย์กะมั้ง
>>863 น่าจะเพราะว่าเป็นลูกสาวได้เข้าเรียน ก็คิดว่าเป็นตัวแทนตัวเองไรงี้มั้ง?
ซุยรัน ได้ผลโหวตจากนักเรียนหญิงทั่วประเทศเป็นอันดับหนึ่งนะ ว่าเป็นโรงเรียนที่มีเครื่องแบบที่คุณอยากสวมใส่ที่สุด (วาคาบะเข้าที่นี่ก็เพราะเครื่องแบบ) (อิงจากตอนที่ 2)
ในตอนที่ 2 ไม่ได้บอกว่าอยู่เมืองหลวง บอกแค่ว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ใจกลางเมืองเท่านั้น
แต่ในตอนที่ 47 ที่เรย์กะหาบ้านในชาติก่อนมีบอกว่า
"...ครอบครัวของฉันในชาติก่อนอาศัยอยู่ในเมืองไกลจากโตเกียวไปเล็กน้อย..."
ก็น่าจะอยู่ในโตเกียวนั่นละ ไม่งั้นคงไม่เปรียบเทียบแบบนั้น
>>866 ถ ถ้าพวกมึงอยากโหวตกันก็ลองดูก็ได้ //ซับน้ำตา
1. >>849 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรวาลกาวแห่งความเวิ้งว้าง มิติที่ 7
2. >>850 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
3. >>852 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจรวดทะลุมิติพิศวง ลำที่ 7
4. >>853 ฮาเร็มของเจ้าเเม่เรย์กะวงนํ้า(กัญชา)ซุยรันกับแลนมาร์คที่ชื่อว่าคานทอง คานเจ้าแม่ที่ 7
5. >>855 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโรงเรียนแห่งนก นกครั้งที่ 7
นับแต้มจามเม้นที่บอกว่า "โหวต" แล้วนะ
1.
2. / (>>860)
3.
4.
5.
มีการสลับคำอ่านชื่อของแต่ละคนให้เข้ากับเพศ
ฟิคสลับเพศเฉพาะกิจดัดแปลงตอนCh. 145ของต้นฉบับ
------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่ผ่านมา คาบุรากิไม่เคยแสดงท่าทีสนใจผู้ชายคนอื่นนอกจากท่านยูริไค(ยูริเอะ)มาก่อน ถ้าไม่มีธุระใหญ่หลวงจริงๆ ก็จะแทบไม่เคยเป็นฝ่ายพูดคุยกับผู้ชายก่อนเลย ทว่า
"โย่ ทาคามิจิ"
"อ๊ะ สวัสดีครับ"
เมื่อสวนกันตามทางเดิน คาบุรากิก็จะร้องทักวาคาบะคุงราวกับเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกัน
หนำซ้ำวาคาบะคุงอยู่ห้องเดียวกับเอ็นโจ เท่าที่ได้ยินมา เมื่อคาบุรากิไปหาเอ็นโจที่ห้องช่วงเวลาพัก ก็จะพูดคุยกับวาคาบะคุงด้วยบ่อยๆ
แบบนี้ก็กลบเกลื่อนด้วยคำว่า "บังเอิญเจอกัน" แบบตอนเช้าของพิธีเปิดภาคเรียนไม่ได้แล้วล่ะ เพราะต่อให้เจอกันโดยบังเอิญ อย่างคาบุรากิก็ไม่คิดจะทักใครหรอก
หนำซ้ำ ความเชื่อมโยงนั่นทำให้ช่วงนี้วาคาบะพลอยได้พูดคุยอย่างสนิทสนมกับเอ็นโจไปด้วย กลุ่มซึรุฮานะ No.2 ที่อยู่ห้องเดียวกันเลยพลอยรังแกวาคาบะคุงหนักมือขึ้นไปอีก
พวกเพื่อนๆ กลุ่มเดียวกันกับผมเอาแต่จับกลุ่มเม้าท์ข่าวลือระหว่างคาบุรากิกับวาคาบะคุง โดยเฉพาะคาโอรุคุง(ชื่อเซริกะจังเปลี่ยนคำอ่าน)กับคิคุโนะน่ะย้ำแล้วย้ำอีกว่า "ท่านเรย์ กรุณาถามคุณคาบุรากิที่ห้องสโมสรด้วยนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น" เอ๋~
แต่จริงๆ นะ วาคาบะคุง ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนั่นมันเกิดอะไรกันขึ้นน่ะ...
ที่ลี้ภัยของผมจากบรรยากาศทะแม่งๆ ที่ลอยอวลอยู่ในชั้นม.ปลาย คือชมรมงานฝีมือกับห้องสโมสรเปอติต์ของชั้นประถม วันนี้ผมสัญญากับมาโอะคุงไว้ว่าจะโผล่หน้าไปเจอที่ห้องเปอติต์หลังเลิกเรียน
รู้สึกท้องฟ้าชักมีเมฆหนาก่อตัวตามที่พยากรณ์อากาศที่ว่าไว้ว่าพายุกำลังใกล้เข้ามาจริงๆ... ผมมองผ่านหน้าต่างทางเดินพลางมุ่งหน้าไปยังห้องเปอติต์ แต่ก็บังเอิญไปเจอเงาเล็กๆ คุดคู้เข้าเสียก่อน
"เอ๋ ยูกิโนะจัง!?"
ดูดีๆ ก็เห็นว่าเป็นยูกิโนะจังที่กำลังนั่งพับเพียบลงบนทางเดินพลางกุมหน้าอกอย่างอึดอัด ผมรีบวิ่งเข้าไปใกล้ทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่า ยูกิโนะจัง!"
ดูเหมือนยูกิโนะจังจะพูดไม่ออก ได้แต่หายใจหอบๆ สั้นๆ ด้วยใบหน้าซีดขาวกว่าปกติ มีเสียงฮิ้วฮิ้วดังลอดออกมาจากลำคอด้วย
"โรคหอบกำเริบเหรอ!?"
ยูกิโนะจังหยักหน้าให้คำพูดของผม แย่แล้ว!
ยูกิโนะจังหายใจเข้าออกอย่างลำบากพลางควานหาอะไรในกระเป๋าตัวเอง อะไรน่ะ หาอะไรอยู่เหรอ
ที่ออกมาเป็นเครื่องพ่นยาสำหรับโรคหอบ ยูกิโนะจังทำท่าจะเขย่าเครื่องด้วยมือสั่นเทา ผมเลยรับมาเขย่าๆ ให้แทนแล้วส่งคืนให้ ใช้นี่แล้วจะหายเหรอ ยูกิโนะจังกดปุ่มพ่นยา แต่สงสัยจะไม่ออกฤทธิ์ทันทีละมั้ง เสียงหายใจฮิ้วฮิ้วอย่างทรมานยังไม่หายไป
"นี่ ยูกิโนะจัง ไปห้องพยาบาลกันก่อนไหม นะ"
ยูกิโนะจังตอบรับเบาๆ ว่า "ค่ะ...." ผมยื่นมือไปประคองตั้งใจจะพยุงเดินไปด้วยกัน แต่อาจเพราะอาการขาดอากาศ ยูกิโนะจังกลับทำท่าจะทรุดวูบลงกับพื้นอีกครั้ง
"ยูกิโนะจัง!"
ผมผวาเข้าไปประคองไว้ แต่แบบนี้กว่าจะพยุงกันไปถึงห้องพยาบาล อาการคงทรุดหนัก ทำไงดีล่ะ ผมคิดหัวหมุนติ้ว จริงด้วย!
"ยูกิโนะจัง! ขึ้นหลังพี่นี่มา!"
"...เอ๋...."
ผมคุกเข่าลงเปิดหลังให้ยูกิโนะจัง ถ้าเป็นแบบนี้ผมแบกยูกิโนะจังขึ้นหลังไปเองก็ได้!
"แต่ว่า...."
ยูกิโนะจังทำท่าเกรงอกเกรงใจ แต่นี่ไม่ใช่เวลามาเกรงใจกันแล้วนะ หน้ายังซีดขาวอยู่เลย อาจเพราะใช้เครื่องพ่นยา เลยดูสบายขึ้นกว่าเมื่อกี้นิดนึง แต่ยังดูห่างไกลจากคำว่าหายดีอีกมาก!
"เอาเถอะน่า เร็วเข้า!"
พอผมเร่ง ยูกิโนะจังเลยมาเกาะหลังผมอย่างเก้ๆ กังๆ จู่ๆ น้ำหนักที่กดทับก็ไม่ได้หนักอะไร ยูกิโนะจังดูตัวเล็กๆ ผอมๆ ถึงจะเป็นเด็กป.1ก็เถอะ แต่อาจเพราะเป็นเด็กผู็หญิงก็เลยไม่หนักมาก นี่ผมน่าจะแบกไหวนะ!?
แต่เสียงหายใจหอบอย่างทรมานของยูกิโนะจังก็ยังดังอยู่ข้างหู มือที่วางบนบ่าผมก็เย็นเฉียบ
อาววววล่ะ! ลูกผู้ชายวัดกันที่พลัง! จงตื่นขึ้นมา! พลังแห่งกล้ามเนื้อขาที่ฝึกมาจากการจ๊อกกิ๊งในช่วงหน้าร้อนนี้!
โอ้วววววววววววววว!
ผมแบกยูกิโนะจังลุกขึ้นยืนจังก้า ดีล่ะ สบายมาก!
"ยูกิโนะจัง จับให้แน่นๆ นะ!"
โชคดีที่มีเด็กชั้นประถมเดินผ่านมาพอดี ผมเลยฝากกระเป๋ายูกิโนะจังให้มาโอะคุงด้วย ส่วนตัวผมเตรียมมุ่งหน้าไปห้องพยาบาล
ไปเล้ยยยยยย! โชว์พลังหน่อย! มุ่งหน้าสู่โฮโนลูลู-----!! โอ้วววววววววววววว!!
ผมแบกยูกิโนะจังวิ่งไปห้องพยาบาลพลางส่งเสียงฝีเท้าทั่กทั่กทั่กทั่งดังกึกก้องไปตามทางเดินของชั้นประถม
------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่อข้างล่าง
ต่อ
------------------------------------------------------------------------------------------------
พอไปถึงห้องพยาบาล อาจารย์ก็ให้ยูกิโนะจังนอนลงบนเตียงทันที
"ไหวหรือเปล่า ยูกิโนะจัง อาจารย์ติดต่อท่านพี่ของยูกิโนะจังกับทางบ้านให้แล้วนะ เดี๋ยวก็มีคนมารับแล้วนะ"
"ค่ะ.... ขอบคุณมากนะคะ....ท่านพี่เรย์...."
พอนอนลงแล้วดูท่าจะหายใจลำบาก ยูกิโนะจังเลยยันตัวครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนเตียง
"อาการกำเริบแบบนี้บ่อยๆ เหรอ..."
"วันนี้...เป็นเพราะเดี๋ยวไต้ฝุ่นจะเข้า...."
ดูเหมือนอาการหอบจะกำเริบได้ง่ายเมื่อไต้ฝุ่นเข้า อะไรกันเนี่ย! ปีนึงๆ มีไต้ฝุ่นเข้าตั้งหลายรอบ! แล้วยูกิโนะจังก็ต้องทรมานแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?!
ยูกิโนะจังจิบชาฝรั่งอุ่นๆ พลางยิ้มอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า "สบายมากค่ะ..." ไม่สบายหรอก ไม่สบายเลยนะ ยูกิโนะจัง!
แล้วเอ็นโจที่ได้รับการติดต่อไปก็เข้าห้องพยาบาลมา
"ยูกิโนะ!"
เอ็นโจปรี่เข้ามาที่ข้างเตียงยูกิโนะจัง ตรวจดูอาการน้องสาวทันที
"พ่นยาหรือยัง"
"อื้อ...."
"ตอนนี้เรียกรถมาแล้วนะ เดี๋ยวไปโรงพยาบาลกัน พี่ติดต่อโรงพยาบาลไว้แล้ว"
"อื้อ...."
เอ็นโจช่วยพยุงยูกิโนะจังลงจากเตียง
"เดินเองไหวหรือเปล่า"
"อื้อ...."
มาโอะคุงกับยูริจังช่วยเอากระเป๋าที่ผมฝากเด็กชั้นประถมที่ผ่านไปมาให้ พวกเราเลยถือกระเป๋าไปส่งพี่น้องเอ็นโจด้วยกันถึงที่จอดรถ
"ท่านคิโชวอิน ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยน้องชายดิฉัน บุญคุณนี้ต้องตอบแทนให้ได้แน่นอนค่ะ"
"สำหรับผมแล้วยูกิโนะจังก็เป็นรุ่นน้องคนสำคัญที่น่ารัก อย่าไปคิดเป็นบุญคุณอะไรกันเลยครับ รีบไปโรงพยาบาลเถอะ อาการเป็นไงพรุ่งนี้ช่วยมาบอกด้วยนะครับ"
"ขอโทษด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ"
พวกเราโบกมือให้รถของบ้านเอ็นโจที่วิ่งห่างออกไป
"ยูกิโนะจัง ท่าทางทรมานจังเลยนะครับ"
"นั่นสิ"
ขอให้ยูกิโนะจังอาการดีขึ้นไวๆ นะครับ...
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมโดนเอ็นโจเรียกไปที่ทางเดิน
"คุณเอ็นโจ อาการยูกิโนะจังเป็นไงบ้างครับ!?"
ผมทักทายยามเช้าพอเป็นพิธี แล้วตัดเข้าเรื่องยูกิโนะจังเมื่อวานทันที
"ก็เข้าโรงพยาบาลเผื่อไว้ก่อนน่ะค่ะ แต่ครั้งนี้อาการไม่หนักมาก คิดว่าพรุ่งนี้หรือมะรืนก็คงออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะค่ะ"
"งั้นเหรอครับ..."
ยูกิโนะจัง เข้าโรงพยาบาลอีกแล้วเหรอ น่าสงสารจัง...
"ท่านคิโชวอิน ให้ยูกิโนะจังขี่หลังพาไปส่งถึงห้องพยาบาลเลยเหรอ ขอบคุณมากนะคะ คงหนักใช่ไหม ยูกิโนะเล่าให้ฟัง เล่นเอาตกใจเลยล่ะค่ะ"
"ไม่หรอกครับ เธอตัวเบามาก"
โชคดีที่ไม่เพิกเฉยต่อคำสั่งคุณมิฮาระโค้ชใจยักษ์ออกวิ่งทุกวัน กล้ามเนื้ออ่อนแอปวกเปียกของผมก็พัฒนาขึ้นบ้างแล้ว ส่วนแขนที่ไม่ได้ผ่านการฝึกมาก็ปวดกล้ามเนื้อหน่อยๆ มาตั้งแต่เช้าแล้ว คงเพราะฝืนใช้แรงปุปปัปอะนะ
"แต่โดนท่านคิโชวอินอุ้มขึ้นหลังไปเนี่ย ยูกิโนะเขินแย่เลยล่ะ"
"หืม..."
ไปล่วงเกินยูกิโนะจังเข้าแล้วหรือเปล่าเนี่ย จะว่าไปแล้วที่ซัมเม่อร์ปาร์ตี้ก็แอบๆ บ่นเรื่องน้ำหนักของตัวเองด้วยนี่นา
"งั้นฝากขอโทษยูกิโนะจังด้วยนะครับ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ต้องขอบคุณมากเลยนะคะ ที่อุตส่าห์ทำเพื่อยูกิโนะขนาดนี้ ดิฉันซาบซึ้งจริงๆ"
เอ็นโจก้มหัวให้ผม พอรู้สึกถึงสายตาของผู้คนรอบข้างที่เดินไปมาในทางเดิน ผมเลยรีบเข้าไปห้ามเอ็นโจไว้ ขอทีเหอะน่า
มองเห็นคาบุรากิกับวาคาบะคุงเดินมาด้วยกันจากด้านตรงข้ามของทางเดิน สองคนนั้นมาโรงเรียนด้วยกันอีกแล้วเหรอ
ทำไมอยู่ดีๆ เกิดสนิทกันขึ้นมาได้น้า-- สงสัยจัง สงสัยจัง สงสัยจัง...
"สงสัยเรื่องสองคนนั้นเหรอคะ"
"อุเหวอ!"
โดนเอ็นโจอ่านใจเข้าแล้ว!
"บอกให้เอาไหมคะ ว่าทำไมจู่ๆ อายะ(มาซายะ)ถึงเกิดสนิทกับคุณทาคามิจิขึ้นมา..."
"เอ๋..."
ดวงตาเอ็นโจเป็นประกายอย่างนึกสนุก ...รู้สึกว่านะ
"ไม่ครับ! ไม่เป็นไร!"
ผู้มีปัญญาย่อมไม่นำตนเข้าสู่กับดัก
อันตราย อันตราย ผมอำลาเอ็นโจว่า "งั้นขอตัวก่อนนะครับ!" แล้วเร่งฝีเท้ากลับไปห้องเรียนของตัวเอง
เอาล่ะ วันนี้ต้องกำหนดรายชื่อนักกีฬาที่ลงแข่งในงานกีฬาด้วย! ไม่มีเวลามายุ่งกับเส้นทางรักของคนอื่นหรอกครับ!
เมื่อวานอุ้มยูกิโนะจังขึ้นหลังวิ่งอย่างสบายๆ ค่อยรู้สึกมั่นใจหน่อย ปีนี้ลงแข่งวิ่งผลัดด้วยดีไหมนะ
"ท่านเรย์ ปีนี้จะลงแข่งแต่งแฟนซีวิ่งผลัดด้วยหรือเปล่าครับ"
อืม ไม่ใช่วิ่งผลัดทางนั้นอะ
------------------------------------------------------------------------------------------------
หมดแล้ว
เปลี่ยนบทที่ยูกิโนะหนักสำหรับเรย์กะเป็นเบานะคะ
ว่าแต่ถ้าสลับเพศแล้วบทเรย์กะตุ๋ยท้องเอ็นโจล่ะ?
โดดจากเรือเอ็นโจมาเกาะเรือยูกิโนะอย่างก้าวร้าว
กูโครตรักโม่งฟิคเลยนึกว่าแนวสลับเพศจะไม่ค่อยมีคนสนใจซักอีกมาให้จุ๊บทีดิ
การโหวตชื่อกระทู้ที่ 7
1. >>849 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจักรวาลกาวแห่งความเวิ้งว้าง มิติที่ 7
ผลโหวต
ผู้โหวต
2. >>850 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
ผลโหวต ////////
ผู้โหวต >>860 >>873 >>876 >>877 >>879 >>880 >>882 >>894
3. >>852 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับจรวดทะลุมิติพิศวง ลำที่ 7
ผลโหวต
ผู้โหวต
4. >>853 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแลนมาร์คที่ชื่อว่าคานทอง คานเจ้าแม่ที่7
ผลโหวต ////
ผู้โหวต >>874 >>878 >>881 >>883
5. >>855 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโรงเรียนแห่งนก นกครั้งที่7
ผลโหวต
ผู้โหวต
ปิดโหวตเม้นที่เท่าไหร่ดี กระทู้ก่อนๆ 900นะ
แล้วตอนหิ่งห้อยที่เรย์กะได้หิ่งห้อยมาจากเอ็นโจ พอสลับเพศควรเปลี่ยนเป็นอะไรดี เรย์คุงส่งหิ่งห้อยไปให้ชูจังเหรอ
ต่อจาก >>760
ยูกิโนะจังเป็นน้องสาวเอ็นโจ เอาจริงดิ!? ไม่เห็นเหมือนกันสักนิด น้องสาวยัยเจ้าเล่ห์นั่นไหงออกมาเป็นเทพธิดาน้อยไร้เดียงสาแบบนี้!
จะว่าไปถ้าดูแต่หน้าก็มีเค้าเหมือนกัน ถึงจะสีผมผิดกันก็เถอะ… เดี๋ยวสิ สีผมแบบนี้คล้ายๆกับเอ็นโจในการ์ตูน Kimi Dolce เลยนี่นา ทางโน้นผมสีน้ำผึ้ง ส่วนยูกิโนะจังผมสีอำพัน เอ หรือว่าความดีงามในส่วนของการ์ตูนจะมาตกอยู่กับน้องสาวพร้อมสีผมกันนะ อื้ม อื้ม เป็นไปได้ แต่ไม่อยากให้เป็นน้องสาวร่วมสายเลือดกันเลยจริงๆ พับผ่า…
“เอ่อ… พี่สาวทำไมเหรอคะ?”
สงสัยผมจะเผลอตัวทำหน้าเครียดไปโดยไม่รู้ตัว ยูกิโนะจังจ้องหน้าผมอย่างห่วงๆ ผมเลยรีบยิ้มกลบเกลื่อน
“เปล่าครับ พอดีพี่อยู่ชั้นเดียวกับพี่สาวของยูกิโนะจัง เลยตกใจนิดหน่อย ไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านเอ็นโจมีน้องสาวน่ารักแบบนี้ด้วย”
“จริงเหรอคะ?”
อ๊า! อย่าทำหน้ากังวลแบบนั้นสิ!
“พี่ยังเคยพูดคุยกับท่านพี่ของยูกิโนะจังในห้องสโมสรของ Pivoine อยู่บ่อยๆ จริงด้วย! ตอนเปิดเทอมฤดูหนาวยังเคยได้ถุงของฝากเป็นขนมจากท่านเอ็นโจเลยนะ!”
“ของฝากจากท่านพี่?”
“ครับ รู้สึกว่าจะไปเที่ยวน้ำตกกับป่าที่มีชื่อเสียงมา อร่อยมากเลยล่ะ” ด้านการฆ่าตัวตายน่ะนะ
“งั้นเหรอคะ”
พอได้ฟังเรื่องของผม ยูกิโนะจังก็ค่อยๆ กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง
“เอ่อ… ขอหนูนั่งข้างๆ ได้ไหม”
“ได้สิครับ” เต็มใจเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะ! หรือจะบอกว่า รอคำนี้มานานแล้วดี?
ยูกิโนะจังนั่งจุ้มปุ๊กข้างๆ ผม แล้วส่งยิ้มมาให้ อุก… นางฟ้าแท้ๆ
ก็รู้อยู่หรอกนะว่าไม่ควรจะไปเกี่ยวข้องกับน้องสาวของยัยเอ็นโจจอมเจ้าเล่ห์นั่น แต่ผมขัดขืนรอยยิ้มนางฟ้าแบบนี้ไมได้จริงๆ!
ผมทานเค้กที่เทพธิดาน้อยเอามาให้ อร่อยสุดๆ!
“อร่อยมากเลย ขอบใจนะ ยูกิโนะจัง”
“ค่ะ”
พอผมเอ่ยขอบคุณ ยูกิโนะจังก็ยิ้มแย้มอย่างดีใจ
ยูกิโนะจังเล่าว่าเป็นเด็กป.หนึ่งที่เพิ่งเข้าเรียนชั้นประถมในปีนี้ ดูแล้วยังตื่นๆ อยู่เลย ตัวเล็กนิดเดียวน่าทะนุถนอมอีกด้วย
ยูกิโนะจังคอยเป็นห่วงผม ถามว่าจะรับชาเพิ่มไหมคะด้วยนะ น่ารักสุดๆ! ผมไม่เคยเห็นพี่สาวยูกิโนะจังรินชาให้ใครเลยนะ
“ท่านพี่เรย์ อุตส่าห์มาหาถึงนี่ ช่วยพูดคุยกับพวกผมบ้างสิครับ!”
มาโอะคุงดึงแขนผมอย่างงอนๆ มียูกิโนะจังกับมาโอะคุงล้อมรอบทั้งซ้ายและขวา แถมยังมียูริจังใกล้ๆอีก ที่นี่คือสวรรค์เหรอเนี่ย!? ฮาเร็มเด็กน่ารัก!
“ขอโทษทีนะ มาโอะคุง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ผมมุ้งมิ้งไปกับพวกเด็กๆ ทานขนมเค้กแสนอร่อย จนอำลาจากเปอติต์มาในที่สุด
มาโอะคุง ยูริจัง และยูกิโนะจังอุตส่าห์มาส่งถึงหน้าประตูด้วยล่ะ! เด็กๆ พวกนี้น่ารักกันจริงๆ
ต่อ
ข่าวลือเรื่องน้องสาวเอ็นโจเข้าเรียนในชั้นประถมแพร่สะบัดไปอย่างรวดเร็ว หลังผมเจอกับยูกิโนะจังไม่นาน
เล่าลือกันว่าน้องสาวก็งดงามไม่แพ้พี่สาว ทำให้หนุ่มๆ(หมี)มากมายแห่กันไปดูหน้ายูกิโนะจังที่ภาคเรียนชั้นประถม แล้วยังเอามาเล่าต่อกันว่าน่ารักกว่าที่คิดไว้ ทำให้กระแสน้องสาวเอ็นโจยิ่งเตลิดเพริดไปกว่าเก่า แต่เอ็นโจปรามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนว่า “น้องสาวของดิฉันร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ช่วยอย่าเอะอะกันให้มากได้ไหมคะ” อาจด้วยเกรงความพิโรธของนางมารเอ็นโจ กระแสเรื่องยูกิโนะจังเป็นอันเงียบกริบไปในเวลาอันรวดเร็ว
ในห้องสโมสรก็มีข่าวเรื่องยูกิโนะจังด้วยเหมือนกัน แต่ต่อให้เป็นเอ็นโจก็ใช่ว่าจะออกปากพูดแรงๆ กับสมาชิก Pivoine ได้ง่ายๆ จึงได้แต่เออออไปตามเรื่อง
“พวกผมไม่เห็นรู้เลยว่าท่านเอ็นโจมีน้องสาวด้วย พามาเที่ยวที่ห้องสโมสรสักครั้งสิครับ”
“นั่นสินะคะ ถ้ามีโอกาส”
“ได้ยินว่ามีนักเรียนหลายคนแอบไปดูท่านยูกิโนะถึงห้องเรียนชั้นประถมเลยนี่ครับ ท่าทางน้องสาวจะน่ารักเหมือนท่านพี่”
“เรื่องนั้นแหละค่ะ น้องสาวดิฉันเป็นโรคหอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ ดิฉันเกรงว่าถ้าไปเอะอะกันมากๆ เข้า อาการจะกำเริบอีก อยากให้น้องสาวได้อยู่ในสภาพแวดล้อมเงียบๆ สงบสุขน่ะค่ะ”
“โอ้! ลำบากแย่เลย งั้นทาง Pivoine จะกำชับไปทางเปอติต์ให้ช่วยกันดูแลให้ท่านยูกิโนะได้อยู่โรงเรียนอย่างสงบเองนะครับ ต้องระวังไม่ให้พวกคนชั้นต่ำมาเกะกะวุ่นวายรอบตัวท่านยูกิโนะ”
“รบกวนด้วยนะคะ”
พอเอ็นโจส่งยิ้มให้ หนุ่มๆรอบตัวเอ็นโจและคาบุรากิต่างก็พากันหน้าแดง
ด้วยเหตุนี้เอง เอ็นโจจึงสามารถยึดเอาประธาน Pivoine เป็นพวก สร้างฐานกำลังป้องกันยูกิโนะจังขึ้นมาได้
แต่ยูกิโนะจังร่างกายอ่อนแอเหรอเนี่ย… มิน่าล่ะผิวถึงได้ขาวจัง แต่เอ็นโจนี่ถึงจะเป็นจิ้งจอกสาวจอมเจ้าเล่ห์ แต่ก็รู้จักเป็นห่วงน้องสาว เกินคาดเหมือนกันนะ
ระหว่างที่จิบมิลค์ทีหวานๆ อยู่ สายตาก็ไปสบกับเอ็นโจเข้า หยึย
“คุณคิโชวอิน ได้เจอน้องสาวฉันแล้วเหรอคะ”
“หืม…”
เห็นรอยยิ้มของเอ็นโจแล้วเหงื่อกาฬไหลพราก นี่คิดว่าผมไปแอบส่องยูกิโนะจังกับคนอื่นเขาด้วยหรือเปล่าเนี่ย ถึงจะมีความเป็นไปได้ แต่ก็แย่ล่ะสิ…
“เอ่อ ผมบังเอิญไปเจอตอนไปเที่ยวห้องสโมสรเปอติต์น่ะครับ พอดีมีของจะให้พวกเด็กๆ ทางโน้น บังเอิญน้องสาวของท่านเอ็นโจเป็นคนที่เปิดประตูให้เท่านั้นเอง บังเอิญจริงๆครับ”
ผมย้ำคำว่า “บังเอิญ” หลายๆรอบ อย่าได้เห็นผมเป็นศัตรูของน้องรักหล่อนเชียวนะ! (แต่เป็นโลลิค่อน)
“อื้อ น้องฉันเล่าให้ฟังแล้วล่ะ ช่วยอยู่คุยกับน้องให้ด้วยใช่ไหม ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไรครับ…”
นี่ขอบคุณจากใจหรือเปล่าน่ะ? ทางพี่สาวนี่ไม่น่าเชื่อใจผิดกับยูกิโนะจังเลย
“คิโชวอิน ไปเจอยูกิโนะมาแล้วเหรอ?”
คาบุรากิเข้าร่วมวงสนทนา คาบุรากิก็รู้จักยูกิโนะจังด้วยเหรอ อ้อ แต่เป็นเพื่อนสนิทกัน ก็เป็นธรรมดานี่นะ
“ทำนองนั้นครับ”
“หืม…”
“เอ่อ… เป็นน้องสาวที่น่ารักแล้วก็อ่อนโยนมากเลยครับ”
“หืม…?”
ไม่รู้ทำไมคาบุรากิถึงขมวดคิ้ว เอ็นโจยังมีรอยยิ้มปริศนาบนใบหน้าตอบรับว่า “เหรอ ขอบคุณนะ”
รู้สึกบรรยากาศมันทะแม่งๆ ชอบกล ผมเลยเผ่นจากสโมสรเป็นการด่วน
น่ากลัว! พวกผู้หญิงเนี่ยน่ากลัวชะมัด!
ทำไมพอท่านเรย์อยู่กับเอ็นโจแล้วออร่าพ่อบ้านใจกล้ามันชัดแบบเน้55555555555555555555 สู้นะนายหัวหยอย
ชักอยากอ่านฟิคท่านเอ็นโจหมีกับเรย์กะโลลิบ้าง อุฮิ้ววววววววววววววววววว
>>910 เรย์คุงก็โดนคุณอิชิโนะคุระบอกบ่อยๆว่าผู้ชายยิ่งอ้วนยิ่งมีเสน่ห์ แต่พอรู้ว่าแฟนตัวจริงเป็นนายแบบ คงช็อคตาตั้งไปเลยสินะเรย์คุง555555
พออ่านฟิคแปลงเพศแล้วก็นึกถึงพวกสงครามกองอวยในพันติ๊ปว่ะ กุว่าถ้าเรื่องนี้(แบบแปลงเพศ)เป็นมังงะคงได้มีการตั้งกระทู้อวยเหมือนnisekoiแหง แล้วกองอวยก็ตีกัน555555555555
>>911 ก็นี่มันฮาเร็มชัดๆ สาวคูลเดเระ สาวอ่อนหวานแต่จริงๆเป็นนางมาร สาวน้อยโลลิ สาวประธานผู้เอาจริงเอาจัง มีวายแพลมๆมาให้ชุ่มชื้นหัวใจ หนุ่มร่าเริงสายสไมล์อย่างวาคาบะคุง สายซึนเดเระอย่างรินคุง หนุ่มหล่อปากร้ายใจดีอย่างซากุระคุง ถ้าเรย์กะเป็นผู้ชายกูว่ากวาดเข้าฮาเร็มเรียบ ยิ่งกว่าร่างหญิงของตัวเองซะอีก 55555555555555555
กูขอคั่นฟิคสลับเพศหน่อยนะ
ยังไงตอนนี้กูก็เรือนายตัวสำรองค่ะ!
ต่อจาก >>501 นะ
---------------------------------------------
พอตอนกลางคืนก็มีเมล์จากนายตัวสำรองส่งมาบอกว่า "พรุ่งนี้จะไปคุยกับคาบุรากิ ช่วยไปด้วยกันทีนะ" อ่านจบก็ฉันก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมาเลยค่ะ ไม่ไปไม่ได้หรอคะ หรือเลื่อนเป็นวันอื่นได้ไหมนะ ขอเตรียมตัวเตรียมใจก่อนได้ไหมคะ
แล้วอยู่ๆก็มีสายเข้า พอฉันอ่านชื่อก็สะดุ้ง นายตัวสำรองน่ะค่ะ...
ฉันกลั้นใจก่อนจะกดรับ
"สวัสดีค่ะ คิโชวอินค่ะ"
"เห็นเมล์แล้วสินะ"
"...ค่ะ"
ต้องย้ำกันขนาดนี้มั้ย จะว่าไปเสียงนายตัวสำรองผ่านโทรศัพท์ก็แปลกๆดีนะ ดูแหบๆยังไงไม่รู้น่ะค่ะ
"ตอนที่คุยกับคาบุรากิ ฉันจะให้ทาคามิจิอยู่ด้วยนะ เพราะเรื่องนี้ยังไงก็เกี่ยวกับทาคามิจิโดยตรง"
"ได้ค่ะ ว่าแต่จะคุยกับท่านคาบุรากิตอนไหนหรอคะ"
และไม่คิดจะถามความสมัครใจของฉันเลยใช่มั้ยคะ...?
"ตอนหลังเลิกเรียนดีไหม ยังไงหมอนั่นก็คงไปสโมสรของ pivoine อยู่แล้วสินะ"
งั้นก็หมายความว่า...
"คงต้องรบกวนให้คิโชวอินพาคาบุรากิมาล่ะนะ"
...ชัดเลยค่ะ ไม่ทำได้ไหมนะ คิดถึงตอนพาคาบุรากิมาก็ปวดท้องขึ้นมาเลยค่ะ
"ไม่อยากทำงั้นหรอ"
รู้ได้ยังไงคะเนี่ย แต่ถ้ารู้แล้วก็ช่วยอย่าโยนงานมาให้ทางนี้ได้มั้ยคะ
"ขอโทษจริงๆนะคิโชวอิน แต่มันจำเป็นต้องเป็นเธอน่ะ ถ้าฉันเข้าไปในห้องนั้นได้ก็ไม่อยากรบกวนให้ไม่สบายใจหรอก"
...พูดแบบนี้ถ้าปฏิเสธก็คงเป็นคนใจร้ายใจดำมากเลยสินะคะ มีแต่ต้องทำสินะ ปวดท้องอีกแล้วล่ะค่ะ
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจความจำเป็นนั้นดีค่ะ"
"ขอบคุณนะคิโชวอิน ขอบคุณแทนทาคามิจิด้วย"
จะว่าไปที่นายตัวสำรองพยายามขนาดนี้ก็เพราะวาคาบะจังสินะ น่าอิจฉาจังวาคาบะจังจังน้า แต่แบบนี้จะเหมือนช่วยให้ความสัมพันธ์ของคาบุรากิกับวาคาวะจังดียิ่งขึ้นไม่ใช่หรอ
"มีอะไรหรือเปล่า คิโชวอิน?"
"อา คือ มิซึซากิคุงชอบคุณทาคามิจิสินะคะ แต่มาช่วยท่านคาบุรากิแบบนี้จะดีหรอคะ หรือว่าขอแค่คุณทาคามิจิไม่โดนแกล้งก็พอสินะคะ"
นายตัวสำรองเงียบไปเลย อา แย่จริงตัวฉันมันอดใจไม่ไหว เลยหลุดปากถามไปน่ะ
"ขอโทษนะคะ เรื่องส่วนตัวสินะคะ คือ..."
"เปล่าหรอก แค่สงสัยอยู่น่ะ ทำไมถึงคิดว่าฉันชอบทาคามิจิล่ะ"
"เอ๋ ก็เห็นอยู่ชัดๆไม่ใช่หรอคะ หรือว่าไม่ได้ชอบหรอคะ"
"ก็ไม่ได้ชอบนะสิ"
เอ๋
"ถ้าหมายถึงชอบแบบอยากให้เป็นแฟนล่ะก็ไม่ได้ชอบนะ แค่เป็นห่วงในฐานะที่เป็นนักเรียนเท่านั้นเอง"
"เพราะเป็นประธานนักเรียนน่ะหรอคะ"
เหมือนกับตอนที่เข้าใจผิดเรื่องฉันกับนายหมาบ้าอย่างนั้นหรอคะ
"อืม แล้วก็เพราะเป็นเพื่อนด้วยน่ะ"
จะแค่เพราะเป็นเพื่อนจริงๆน่ะหรอคะ
"พรุ่งนี้รบกวนด้วยนะคิโชวอิน แล้วเจอกัน"
"ค่ะ"
"อ้อ แล้วก็...ฝันดีนะ"
วางสายไปแล้วล่ะค่ะ นายตัวสำรองบอกว่าไม่ได้ชอบวาคาบะจัง จะเชื่อได้มั้ยนะ อาจจะโกหกก็ได้นะ แต่ว่าจะโกหกฉันไปทำไมล่ะคะ
แต่ถ้าไม่ได้ชอบจริงๆก็แสดงว่าไม่เหมือนใน kimi dolce แล้วสินะ โอกาสที่บ้านของฉันจะไม่ล้มละลายก็ยิ่งมากขึ้นสินะคะ! ดีใจจังเลย
เอาล่ะ ตอนนี้มามาส์กหน้าเตรียมพอสำหรับวันพรุ่งนี้ดีกว่าค่า~
จะว่าไปตอนที่เรย์กะไปบ้านวาคาบะจัง แล้ววาคาบะจังถามว่ากินแกงกะหรี่มั้ย ส่วนเรย์กะบอกขอคำเดียวน่ะ กูนึกว่าวาคาบะจังจะยกช้อนมาป้อนแล้วบอก "อ้ามมมม" ซะอีก สรุปได้เป็นจานแทน รู้ใจเรย์กะดีจริงๆ555555555555 แต่ถ้าป้อนจริงๆก็ยูริไปนี่เนอะ
ตอนแต่งตาม 114 ฉากนี้ "ระหว่างที่จิบมิลค์ทีหวานๆ อยู่ สายตาก็ไปสบกับเอ็นโจเข้า แหวะ" ทำไมต้องแหวะล่ะท่านเรย์กะ T___T เสียใจแทนเอ็นโจจริงๆ กูเลยเปลี่ยนจากแหวะเป็นหยึยแทน จะได้ดูพ่อบ้านใจกล้า555555555555
นายตัวสำรองนี้มันดีต่อใจจริงๆ ไม่เสี่ยงคุก ไม่มีหักธงตั้งแต่ยังไม่อ้าปากแบบเอ็นโจ ไม่เข้าใจยากแบบบากะรากิ
ไม่มีคนโหวตแล้วก็สรุปผลโหวตจาก >>895 เลยนะ
กระทู้หน้า
-------------------------------
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"
รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้
.
謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015
♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
แม่วววววว ฟิคนี้มิซึซากิคุงนี่โคตรดียยย ฝันดงฝันดีอะไร๊ ไม่เขินเลย ไม่เขิ้นนนนนน โฮรววว แทบจะละลาย
กูว่าเสียงแหบๆนี่ต้องดูเท่โคตรๆ
ตอนเรียนจบนางจะต้องเล่นใหญ่ประกาศแบบท่านโรมิโอได้ใจท่านเรย์กะเต็มๆแน่ คนนั้นน่ะรอฤดูใบไม้ผลิมาสิบแปดปีเชียวนะ55555555
>>933 ลืมสารบัญ
สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต-รายชื่อตัวละคร
https://justpaste.it/reika
อาจจะสารภาพรักแลวแอบคบกันเงียบๆ จากนั้นก็ค่อยเปิดตัวตอนพิธีจบแบบรุ่นพี่โทโมะเอะกับรุ่นพี่คาซึมิ พร้อมขอแต่งงานด้วย โอ๊ย ทำไมประธานดี๊ดีจัง จักรพรรดินีกับรัชทายาท Pivoineกับประธานสภานักเรียน แง้ โรมีโอจูเลียตมากๆ
>>937 ช่วงแอบคบกันเงียบๆ เพราะเกรงสายตาคนใน pivoine นี่น่าจะเป็นอะไรที่มุ้งมิ้งชุ่มชื่นหัวใจน่าดู นางคงอยากลักขนมไปนั่งกินกับมิซึซากิ แต่โดนเอ็นโจที่คอยสังเกตการณ์เหล่เอาแล้วตามแบล็กเมล์อีก ...เฮ้ย นี่กลายเป็นตัวร้ายเต็มที่ไปแล้วนี่หว่า!? แต่เอ็นโจมืดดำแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ อุฮิ
แล้วเอ็นโจ คาบุรากิ วาคาบะจังก็กลายเป็นสามเซียน
>>943 โถ นาย ชีวิตอะไรจะน่าสงสารขนาดนี้ รูทตัวเองเป็นพระเอกก็ยังต้องใช้ความพยายามมหาศาลจีบหญิงที่เขาไม่แลตัวเอง โดนหักธงทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า รูทคนอื่นก็เป็นได้แค่ตัวร้ายให้คนเกลียด แถมตอนนี้ก็โดนเจาะเรือบ่อยๆซะด้วยสิ เข้มแข็งไว้นะ เราเชื่อว่าซักวันอ.ฮิโยโกะจะเมตตาปราณีนายบ้าง
ได้อ่านเรื่องคนมะรุมมะตุ้มรักท่านเรย์กะนี่มันดีต่อใจจริงๆ ซู้ดดดดดดดดดด //ทำเป็นมองไม่เห็นอฟช.
อยากจจะช้าไปหน่อยแต่ในฐานะโม่งแต่งฟิคสลับเพศคนแรก กุโคตรดีใจที่โม่งฟิคช่วยแต่งต่อ เรย์กะภาคผู้ชายช่างดีต่อใจ ยูกิโนะจังนางฟ้าตัวน้อยๆก็ดีต่อใจ ถึงเเม้คนจะไม่ค่อยพูดถึงฟิคกุเพราะกุดันลงฟิคในช่วงฟิคซัมเมอร์เซลฟ์ แต่ช่างมันเถอะ กุทำใจได้แล้ว แค่มีคนหยิบมาสานต่อ กุก็ซูดกาวตายตาหลับ ลาก่อย
ไหนๆก็จะไวท์เดย์แล้ว ท่านเรย์จะให้ของตอบแทนนางมารชูสิกิยังไงดี โปรดติดตาม 5555 //กุกำลังคิดพล็อต ยังเพิ่งเร่งกุ
อะ สลับเพศ ตอน งานชมหิ่งห้อย
--------
วันนี้เป็นงานชมหิ่งห้อยที่บ้านคาบุรากิเป็นเจ้าภาพ สถานที่คือสวนญี่ปุ่นในโรงแรมในเครือคาบุรากิ ผมโดนท่านแม่ที่คึกคักสุดๆบอกว่าเป็นทายาทคิโชวอินต้องจัดเต็มสักหน่อย เลยโดนจับใส่ชุดฮากามะสีกรมท่า ลายคลื่นเหมาะกับฤดูร้อน
พอเข้าไปในสถานที่จัดงาน หลังแสดงความเคารพคู่สามีภรรยาคาบุรากิแล้ว พวกเราก็แวะเวียนทักทายท่านๆ ทั้งหลายที่คบหาอยู่กับบ้านคิโชวอิน เดินทั่วทั้งงานจนผมชักเหนื่อยเลยกะจะขอนั่งพักซะหน่อย ตอนนั้นเองที่มีมือยื่นเครื่องดื่มมาให้ บอกว่า "เชิญค่ะ"
"ท่านเอ็นโจ"
"สวัสดีค่ะ ท่านคิโชวอิน"
ยัยนี่มาด้วยเรอะ...
เอ็นโจสวมชุดกิโมโนฤดูร้อนสีฟ้าอ่อน เกล้าผมขึ้นดูแปลกตาไปจากปกติในชุดนักเรียน
"วันนี้ใส่กิโมโนเหรอ เหมาะมากเลยนะ"
"ขอบคุณค่ะ ท่านคิโชวอินสวมชุดฮากามะก็ดูดีมากเลยล่ะค่ะ"
เฮ้ เป็นสาวเป็นแซ่อย่าพูดชมผู้ชายอย่างงี้เซ่
ผมสอดส่ายสายตาค้นหาว่ามีใครอยู่อีกบ้าง แล้วเอ็นโจก็ว่า "ถ้าหามาซาโยะล่ะก็อยู่ทางโน้นแน่ะ" ผิดเป้าหมายแล้วน่า
"ผมไม่ได้มองหาท่านคาบุรากินะครับ"
"อ้าวเหรอคะ ยังไงก็ลูกสาวเจ้าภาพนะ นึกว่าอยากไปทักทายก่อนซะอีก"
อะไรฮะ จะหาว่าผมไร้มารยาทหรือไง
งานชมหิ่งห้อยเริ่มขึ้นแล้ว ในสวนมีหิ่งห้อยจำนวนมากบินว่อน
"ไม่ไปดูเหรอคะ"
"นั่นสินะ"
ไหนๆ ก็มาแล้วก็อยากไปดูอ่ะนะ แต่ก่อนหน้านั้นมีโดนแซวมาว่าเป็นเฮียวบุเคียวโนะมิยะเลยขัดเขินชอบกล ใส่ฮากามะมาซะด้วย ถ้าไม่เกิดอะไรแปลกๆ ขึ้นก็จะดีหรอก
พอออกไปที่สวนก็มีหิ่งห้อยมากมายบินอยู่ หิ่งห้อยที่โบยบินอยู่รอบตัวแขกที่มาในงานดูงดงามราวกับภาพมายา ว้าว!
ถึงผมจะเป็นผู้ชายที่ไม่ได้นิยมความงามธรรมชาติอะไรพวกนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นตาตื่นใจ เอ็นโจก็เดินตามมาข้างๆ สาวๆก็คงอยากจะดูหิ่งห้อยเต็มๆตาล่ะนะ ผมเลยพาเดินเข้าใกล้หิ่งห้อย
พอเข้าไป หิ่งห้อยก็บินหนีไป อ้าว?
ผมเข้าไปใกล้หิ่งห้อยแตกกระเจิงเป็นฝูง เขยิบเข้าไปใหม่ แตกกระจายอย่างกับฝูงลูกแมงมุมแน่ะ
...แปลกแฮะ กลิ่นหอมที่ใส่มาไม่น่าใช่กลิ่นยาฆ่าแมลงนี่ ทำไมกันล่ะ
"แหม คุณเอยะ เป็นที่รักใหญ่เลยนะคะ!"
พอลองดูก็เห็นว่าคุณไมฮามะโดนหิ่งห้อยล้อมรอบจนกลายเป็นเฮียวบุเคียวโนะมิยะไปแล้ว พอเห็นฉันที่รอบข้างไม่มีหิ่งห้อยซักตัว คุณไมฮามะก็หัวเราะหึหึ
แพ้แล้ว...
ตอนนี้โดนคุณไมฮามะแย่งบทเฮียวบุเคียวโนะมิยะไปเต็มๆ เลย
อย่ามาหัวเราะนะ เอ็นโจ! คนที่โดนหิ่งห้อยเกลียดน่ะมันเธอที่มาอยู่ข้างๆฉันมากกว่ามั้ง?!
ในตอนนั้นเองที่ท่านโยชิ ประธาน Pivoine ผุดรอยยิ้มสง่างามเดินมาพร้อมกับสมาชิก Pivoine คนอื่นๆ
อา ชักสังหรณ์ใจไม่ดีชอบกล....
*****
"สวัสดีครับ ท่านเอ็นโจ ท่านเรย์ เป็นหิ่งห้อยที่งดงามจริงๆนะครับ ทำให้หลงลืมความเป็นจริงในแต่ละวันไปเลย"
ประธานมองหิ่งห้อยที่โบยบินไปมาในสวนอย่างเคลิบเคลิ้ม
"แต่สำหรับผู้ชายอย่างเราแล้ว การดื่มเครื่องดื่มพร้อมเชยชมบรรยากาศไปด้วยเนี่ย ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอะไรไปเลยนะครับ"
เครื่องดื่มนั่นคงไม่ได้ผสมแอลกอฮอล์ใช่มั้ยครับประธาน?
"แต่ถ้าได้ชมหิ่งห้อยใกล้ๆ กว่านี้คงดูดีกว่านี้นะครับ"
ได้ยินเสียงเอ็นโจหัวเราะคิกอยู่ข้างๆ ก็บอกแล้วไงว่าเธออาจเป็นคนร้ายตัวจริงที่ทำให้หิ่งห้อยแตกกระเจิงก็ได้น่ะ!
"นั่นสินะ แต่การรับชมหิ่งห้อยให้สวยงามที่สุด ระยะขนาดนี้อาจจะเหมาะสมแล้วก็ได้นะครับ"
สมเป็นท่านประธาน พูดได้ดีจริงๆ!
"คุณคิโชวอิน ถ้าอยากดูหิ่งห้อยใกล้ๆ ขนาดนั้น ไว้ฉันให้คนไปจับมาให้สักตัวดีมั้ยคะ?"
"...ไม่เป็นไรครับ ท่านเอ็นโจ"
ดวงตานี่ขำก๊ากเลยนะ เอ็นโจ
ผมไม่ได้อยากจะดูสักหน่อย ที่พยายามจะเข้าใกล้หิ่งห้อยก็เพราะว่าเธอเดินตามผมมาต่างหากเล่า! ผู้หญิงชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ มางานชมหิ่งห้อย จะไม่ชมหิ่งห้อยใกล้ๆได้ยังไงกันล่ะ!
เสียงหัวเราะสดใสจากตำแหน่งที่พวกคุณไมฮามะยืนอยู่ลอยมาแต่ไกล ตรงนั้นมีฝูงหิ่งห้อยลอยวนอยู่รอบๆ คาบุรากิกับคุณไมฮามะผู้จับจองพื้นที่ข้างๆ
"ท่านมาซาโยะ ดูสิครับ! รอบๆพวกเรามีหิ่งห้อยเต็มไปหมดเลย!"
คุณไมฮามะทำท่าราวกับจะอวดคนรอบข้างว่าหิ่งห้อยกำลังอวยพรให้ความสัมพันธ์ของทั้งสอง ส่งเสียงดังขนาดนั้นทำไมหิ่งห้อยยังบินเข้าหาอีกล่ะ นี่นายคงไม่ได้ใช้น้ำหอมล่อแมลงหรอกใช่มั้ย
คุณไมฮามะร้องเฮฮา ในขณะที่คาบุรากิปัดป่ายมือไม้ของคุณไมฮามะไปมาอย่างเซ็งๆ
นั่นมันล่วงละเมิดทางเพศแล้วนะไมฮามะ
"ที่อยู่กับท่านคาบุรากินั่น... ใช่คุณไมฮามะหรือเปล่าครับ จากโรงเรียนยูกิยามะ..."
ดวงตาของท่านประธานคมกล้าขึ้นทันที
"ครับ ท่านโยชิ ท่านผู้นั้นเคยบุกมาที่ซุยรันหลายรอบแล้วครับ"
"ได้ยินว่าที่ยูกิยามะ มีนักเรียนส่วนหนึ่งเรียกขานเขาคนนั้นว่าเป็นจักรพรรดิแห่งยูกิยามะ"
จักรพรรดิแห่งยูกิยามะ!?
ผมตกตะลึงกับคำพูดของสมาชิก Pivoine ผมนึกว่าคุณไมฮามะนี่เป็นพวกปลาซิวปลาสร้อยแท้ๆ แต่ที่ยูกิยามะนี่เขาได้ดิบได้ดีถึงขั้นเป็นจักรพรรดิเลยเหรอ!?
"หึ..."
ดวงตาของท่านประธานที่ยิ้มเยื้อนอยู่ไม่ได้หัวเราะไปด้วยเลย ตรงนี้มีเอ็นโจอยู่ด้วย ทุกคนก็เลยไม่ได้พูดอะไรโจ่งแจ้ง แต่พอสัมผัสบรรยากาศทะแม่งๆ ผมต้องเริ่มหาทางหนีแล้วล่ะ ว่าแล้วคาบุรากิที่โดนคุณไมฮามะพัวพันอยู่ก็เจอเพื่อน ตรงดิ่งเข้ามาทันที
"ชูสุกิ อยู่ที่นี่เองเรอะ"
"อ้าว หาฉันอยู่เหรอ"
"ท่านคาบุรากิ วันนี้ต้องขอขอบคุณนะครับที่เชิญมา"
ประธานเป็นตัวแทนกล่าวทักทายแล้ว พวกเราจึงเอ่ยขอบคุณตามมา คาบุรากิแลกเปลี่ยนคำพูดกับพวกเราสองสามคำ แล้วจึงชวนเอ็นโจออกไปบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย
"งั้นไปคุยกันข้างในไหม"
เอ็นโจตอบ ทำท่าจะปลีกตัวไปกันสองคน แต่คุณไมฮามะไม่ยอมแพ้ ทำท่าจะตามไปด้วย จนในที่สุดก็โดนเอ็นโจปฎิเสธแบบไร้เยื่อใย เอ็นโจกับคาบุรากิเดินกลับเข้าไปในห้อง หนีเอาตัวรอดไปจนได้
เมื่อไม่มีใครให้ต้องเกรงใจ บรรยากาศของพวกเราจึงทวีความฆ่าฟันขึ้นอย่างรุนแรงในอึดใจเดียว คุณไมฮามะเป็นฝ่ายโจมตีมายังผมก่อน
"โธ่ คุณเรย์ เมื่อกี้เห็นอยู่ไกลๆ ขนาดหิ่งห้อยยังไม่เอาคุณเลยซินะ น่าสงสารจังเลยนะครับ~ น่าเสียดายจังที่อดเป็นเฮียวบุเคียวโนะมิยะ"
ตกลงแอบฟังบทสนทนาของประธานคาบุรากิในตอนนั้นอยู่ด้วยจริงๆ สินะ...มิน่าล่ะถึงทำหน้าถมึงทึงใส่ผมใหญ่
"หึ! ผู้ชายเขาไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นกันหรอก เนอะท่านเรย์ ผิดกับใครบางคนที่มีแต่แมลงมาตอม แถมยังส่งเสียงหนวกหูทำตัวอย่างกับผู้หญิงอย่างงั้นล่ะ"
"อย่างกับผู้หญิง!? พูดจาเสียมารยาทเหลือเกินนะครับ"
คุณไมฮามะเขม็งตาจ้องประธาน แต่ประธานกลับยิ้มรับ ไม่มีทีท่าจะถอย
"นั่นสินะ แทนที่จะเป็นผู้หญิง ก็ดูจะเป็นแมงที่ตามตื้อตามเกาะผู้หญิงมากกว่าล่ะมั้ง พอเห็นคุณแล้วชวนให้นึกถึงอะไรพรรค์นั้นจริงๆ"
"นี่..! หึ! ถ้าผมเป็นแมลง พวกคุณก็คงเป็นพืชกินแมลงที่จ้องจะจับผมกินน่ะแหละ! หวาา น่ากลัวจัง! ท่านมาซาโยะคงจะไม่ชอบใจแน่ๆ"
"ฮะฮะฮะ แต่ดูท่าท่านคาบุรากิไม่ได้สนใจคุณเลยนะ"
"นี่พูดถึงตัวเองอยู่เหรอครับ เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งหลายปี แต่คุณๆยังได้รับการปฏิบัติแบบคนอื่นคนไกลอยู่เลยนี่"
คุณไมฮามะใจกล้าสุดๆ ขนาดกับประธานนะ... ถ้ามองจากภายนอกที่ไม่ได้ยินบทสนทนาแล้ว คงดูเหมือนพวกคุณชายคุยเรื่องเบาๆ หยอกเย้ากันอย่างครึกครื้น แต่เนื้อในนี่มันคือการฟาดฟันอย่างเอาเป็นเอาตายชัดๆ
"น่าเสียดายนะครับ แต่ท่านเรย์คนนี้สนิทสนมกับท่านคาบุรากิขนาดได้รับการบรรเลงบทเพลงเป็นของกำนัล โชแปงที่บรรเลงในตอนนั้นน่ะยอดเยี่ยมมากเลยนะครับ ท่านเรย์"
"เอ๋ อ๊ะ ครับ!"
เฮ้ย นี่ผมจะโดนลากลงสมรภูมิไปด้วยเหรอ!? แต่วันนี้ผมเซ็ตผมจนเรียบแปล้ให้เรียบร้อยเข้ากับชุดฮากามะน่ะ พลังต่อสู้ลดจากปกติไป20%เลยนะ
"เพลงที่ท่านคาบุรากิดีดให้ท่านเรย์ ก็อย่างเช่น Fantasie Impromptu, วอลท์ซ์ลูกสุนัข แล้วก็มีเพลงมาร์ชตุรกีของโมซาร์ทด้วยนี่ วิเศษไปเลยนะครับ"
อ๊ะ! ประธานแอบเอาเพลงที่คาบุรากิดีดให้มาโอะคุงใส่เข้าไปด้วยแบบเนียนๆเลย!
"อ้อ...เหรอ งั้นครั้งหน้าผมจะขอให้ท่านมาซาโยะดีดเปียโนให้บ้างดีไหมนะ"
"ก็ลองดูสิครับ แต่ท่านคาบุรากิจะยินดีดีดให้หรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนะครับ"
นะ น่ากลัว... ทางหนี! ทางหนีอยู่ไหน!
คนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่คือประธานและคุณไมฮามะแท้ๆ แต่ทำไมผมที่อยู่เงียบๆต้องโดนคุณไมฮามะจ้องมองอย่างอาฆาตแค้นด้วยล่ะ!
สงครามปากยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะจนคุณไมฮามะเป็นฝ่ายล่าถอยไปในที่สุด
"รู้สึกว่าท่านผู้นั้นจะแผลงฤทธิ์ไว้ไม่น้อยที่ยูกิยามะ วางท่าเป็นจักรพรรดิ ไม่ถูกใจใครก็จัดการออกคำสั่งให้ลูกน้องคว่ำบาตรเสียอย่างนั้น"
ประธานพึมพำเช่นนั้นระหว่างจับจ้องแผ่นหลังของคุณไมฮามะ
"ท่านๆ ที่ยูกิยามะก็คงลำบากนะครับ โดนคนนิสัยแบบนั้นกุมอำนาจในโรงเรียน"
เอ๋... นี่เป็นคำพูดที่ควรจะออกมาจากปากประธานเหรอครับ มองคนอื่นแล้วเหลียวมองตนเอง คนโบราณนี่ก็พูดอะไรดีๆ เหมือนกันนะ
"การปกป้องสมาชิก Pivoine คือหน้าที่ของประธานอย่างผม คุณเรย์ ถ้ามีเรื่องอะไรกับคุณไมฮามะ ก็ให้รีบมาบอกผมได้เลยนะครับ ยินดีจะเป็นกำลังให้ทุกเมื่อครับ"
"ขอบพระคุณมากครับ..."
ต่อให้มีอะไรก็ไม่ยอมบอกเด็ดขาดล่ะครับ สงครามเต็มรูปแบบระหว่างซุยรันกับยูกิยามะเนี่ย แค่คิดก็สยองแล้ว
เสียงหัวเราะหึหึ ฮ่าฮ่าฮ่าของพวกเราดังก้องไปทั่วทั้งสวนหิ่งห้อย
พอคิดว่าวันนี้เอ็นโจเองก็ไม่มีโอกาสได้ชมหิ่งห้อยเพราะโดนหิ่งห้อยเกลียด ก็รู้สึกสงสารขึ้นมา วันรุ่งขึ้นผมเลยให้คนเอากรงไม้สานใส่หิ่งห้อยตัวหนึ่งส่งไปยังคฤหาสน์เอ็นโจ
ตอนกลางวันนี่ หิ่งห้อยก็เป็นแค่แมลงดำๆ ธรรมดาตัวหนึ่งเท่านั้นเอง
(จบ)
---------------
มีชื่อหลายเวอร์ชั่นกันเหลือเกิน ขอหยิบเอาชื่อจากฟิคแรกสุดแล้วกันนะ ถถถ
>>960 ว้ายยยย เรย์คุง ไม่คิดอะไรก็อย่าทำแบบนี้ เขาน่าจะหลงรักเธอไปเต็มๆแล้วนะ ทั้งพูดชม ทั้งส่งของไปให้ นี่จีบแล้วชัดๆ ไปทำให้สาวเขาหวั่นไหวต้องรับผิดชอบด้วยนะ
กูนึกภาพชูจังเอากรงหิ่งห้อยแนบแก้มด้วยความดีใจออกเลยว่ะ ถึงหิ่งห้อยจะไม่อยู่แต่ก็เก็บกรงไว้ เป็นของสำคัญในชีวิต ฮึ่ยยย โชโจโมเมนต์มากกกกกกก
ไม่ว่าจะอยู่ฟิคไหน ไมฮามะก็น่ารำคาญเหมือนเดิม ทั้งแบบชายและหญิง..
พอสลับเพศแล้ว รัศมีนางมารเอ็นโจนี่พุ่งทะลุเพดานพอๆกับมิเตอร์วัดความพ่อบ้านใจกล้าของท่านเรย์กะเลยค่ะ...ส่วนไปตอนที่บอกว่านองยูกิโนะน่ารักนิสัยดี ภาคเรย์กะผู้หญิงอารมณ์เหมือน เฮ้ย หรือว่าน้องแอบร้ายวะ แต่พอเป็นภาคเรย์กะผู้ชาย คาบุรากิดูเป็นห่วงน้อง ส่วนนางมารเอ็นโจก็เหมือนเตรียมเอาเจ้าหญิงไปขังบนหอคอยล่อให้เจ้าชายเรย์มาช่วยแล้วลักพาตัวเจ้าชายไป
พวกเมิง กุคนแต่งฟิคสลับเพศ คนแรกนะ กุขอถามความเห็นหน่อยเกี่ยวกับฟิคสลับเพศหน่อย
คือถ้าอิงตาม อฟช และ ฟิคปกติ เรย์กะ จะเรียก คาบุรากิ เอ็นโจ และสมาชิก Pivoine คนอื่นๆด้วยคำว่า ท่าน ส่วนนักเรียนธรรมดา คือ คุณ ไม่ก็ตามด้วย คุง หรือจัง
ส่วนคาบุรากิ มักจะเรียกคนอื่น ด้วยนามสกุล(หรือชื่อ) เฉยๆ เอ็นโจ เรียกคนอื่นด้วยคำว่าคุณ
ซึ่งจุดนี้ กุไม่แน่ใจว่า เป็นเฉพาะนักเรียนหญิงรึเปล่า ที่มักเรียก สมาชิกPivoine ด้วยคำว่า ท่าน
ดังนั้น ตอนกุแต่ง กุจะอิงจากเอ็นโจ คือ เรียกคนอื่นๆด้วยคำว่าคุณ แม้แต่ คาบุรากิ หรือเอ็นโจ ก็จะใช้คำว่าคุณ อย่างคุณคาบุรากิ หรือคุณเอ็นโจ
ส่วนเอ็นโจ กุอิงตามเรย์กะ คือเรียกท่าน เช่น ท่านคิโชวอิน อะไรแบบนี้ คาบุรากิ ก็ตามสไตล์ เรียกนามสกุลเพียวๆ
เพราะงั้น กุเลยอยากหาข้อสรุปที่ลงตัวเกี่ยวกับ สรรพนามดังกล่าว //ขอโทษที่กุคิดจุกจิกนะ
ถ้าเอาท่านเรย์กับวาคาบะสลับเพศ ตอนที่ให้ยืมรองเท้ากัน....
นี้มันฉากyaoiน่ารักมุ้งมิ้งชัดๆ!! //ซินเดอเลร่าเวอร์ชายที่องค์จักรพรรดิให้ยืมรองเท้าโดยไม่คิดไรมาก ส่วนนายซินก็ดันโดนปักธงเก็บรองเท้าเอาไว้....//มีความยันนิดๆ
โอ๊ยฟินตั้งแต่ตอนผลัดกันชมชุด แถมยังเอาหิ่งห้อยไปปักธงอีก ตลกที่เข้าใจผิดไม่เลิกว่าหิ่งห้อยเกลียดเอ็นโจ5555555555 แต่ส่งไปให้สาวเจ้านี่ก็ทำคะแนนได้ดีมาก! ท่านเรย์สุดยอด
>>962 นึกภาพตอนเอ็นโจเอากรงแนบแก้มแล้วอมยิ้มมีความสุขนี่น่าร้ากกกก
>>967 น่าจะผชด้วยนะมึง ที่เรียก Pivoine ว่าท่าน นอกจากจะสนิทกันจริงๆ
กูนึกถึงตอนแรกอะที่บอกว่า ตระกูลคาบุรากิสูงส่งมากจนเรียกชื่อห้วนๆไม่ได้ ก็น่าระดับท่านๆอะ..
กาวแรงขั้นไหนเนี่ย วันนี้ฟิคกี่เรื่องแล้ว ตอบ!
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
https://fanboi.ch/webnovel/3588/
น่าทำสถิติในการตั้งกระทู้นะ กูรู้สึกแม่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ แรงกาว+กัญชา พวกมึงนี้มันน่ากลัวขึ้นทุกวันนะ
กูแอบสงสัย ฟิคทุกเรื่องทุกตอนในจาก1-6กระทู้รวมกันนี่ถึง100ตอนยังวะ ถถถถถ
กระทู้ 1 เต็มใน 25 วัน
กระทู้ 2 เต็มใน 17 วัน
กระทู้ 3 เต็มใน 13 วัน
กระทู้ 4 เต็มใน 9 วัน (กูเข้ามาช่วงกระทู้ที่ 4)
กระทู้ 5 เต็มใน 5 วัน
กระทู้ 6 จะเต็มใน 5 วัน ถ้า1000เม้นในก่อนเที่ยงคืน
กระทู้ 7 TBC.
กูว่าให้อย่างน้อย 20 นาทีจะเต็มกระทู้ ถถถถถถถถถถถถ
กระทู้ต่อไปเอากี่วันดีพวกมึง 5555555
มึงอีกสิบอันเองไม่ถึงสองทุ่มหรอกแหม555555555555
อีกประมาณ 5 นาทีหรือน้อยกว่านั้น? 5555555555
กูว่าน้อยกว่า5556655
กระทู้ที่แล้วจบด้วย Eton คราวนี้จะจบด้วยอะไร ขอสวยๆหน่อย ถถถ
กูแปลเรื่องนี้เพราะอยากหาคนกรี๊ดเป็นเพื่ิอน วันนี้นับว่าสมประสงค์แบ้ว...
ขอเม้นช่วงส่งท้ายกระทู้ด้วยคู่รัก
อาทันLOVE LOVEเบียทัน
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.